ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
คุณดรีมเรียนจบด้านทันตแพทยศาสตร์บัณทิต และได้รับทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาเอก สาขารังสีวิทยาช่องปากและใบหน้าขากรรไกรที่ Tokyo Medical and Dental University ประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังมีประสบการณ์การสอนในโรงเรียนทันตแพทย์ทั้งที่ประเทศไทยและญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังเคยร่วมจัดทำโครงการอาสาเพื่อเผยแพร่ความรู้ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและส่งเสริมให้คนหันมาสนใจดูแลสุขภาพช่องปาก โดยเน้นให้เกิดความเข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ปัจจุบันคุณดรีมกำลังทำงานวิจัยเกี่ยวกับการวินิจฉัยมะเร็งช่องปากและใบหน้าขากรรไกรด้วย CT, PET/CT และ MRI โดยมีความตั้งใจที่จะหาวิธีที่จะช่วยวินิจฉัยโรคได้ตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อที่ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาได้ทันท่วงที ซึ่งคุณดรีมเชื่อว่าความรู้มีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ สิ่งที่เราเรียนรู้ว่าจริงในวันนี้ อีก 10 ปีข้างหน้าอาจถูกพิสูจน์ว่าไม่จริง ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นศึกษาอัพเดตความรู้ใหม่อยู่ตลอดเพื่อการเติบโต
คุณกิ๊ฟเรียนจบ MBA จาก Colorado Technical University, USA และมีประสบการณ์การทำงานในสายงาน Marketing หลากหลายธุรกิจ รวมไปถึงงาน Product Manager ของธุรกิจไม้ปาติเคิล MDF บอร์ดที่ผลิตงานเฟอร์นิเจอร์ให้กับบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศ เช่น Index living Mall, Modernform, SB Furniture และ Maica ทำให้คุณกิ๊ฟมีประสบการณ์และความรู้ในด้านเฟอร์นิเจอร์เป็นพิเศษ ปัจจุบันคุณกิ๊ฟเป็นคุณแม่ลูก 1 จึงมีความสนใจในเรื่องราวของแม่และเด็กเป็นพิเศษ และด้วยสายงานที่เคยทำจึงชอบศึกษาเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคและบริโภคทั่วไป รวมทั้งอ่านรีวิวสินค้าของแม่และเด็กในเวลาว่างอยู่ตลอด นอกจากนี้ คุณกิ๊ฟยังผ่านประสบการณ์ในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพประเภทต่าง ๆ ให้กับลูกอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
คุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่าเราควรเริ่มแปรงฟันให้กับลูกน้อยเมื่อไร ซึ่งการรักษาสุขภาพฟันของเด็กอย่างถูกต้องนั้นควรเริ่มทันทีที่ฟันขึ้นค่ะ โดยฟันน้ำนมของเด็กเริ่มขึ้นจะอยู่ที่ราว ๆ อายุ 6 เดือน - 1 ขวบ และจะทยอยหลุดไปตามธรรมชาติตั้งแต่อายุ 6 - 12 ปี ซึ่งคุณแม่ควรเริ่มรักษาความสะอาดฟันของลูก ๆ ตั้งแต่ซี่แรก เนื่องจากการที่ฟันน้ำนมที่ผุนั้นจะส่งผลต่อฟันแท้ที่จะขึ้นมาในอนาคต
นอกจากนี้ การสอนให้ลูกรู้จักแปรงฟันตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะเป็นการสร้างนิสัยที่ดี และสร้างความเคยชินในการใช้แปรงสีฟันกับยาสีฟันให้กับเด็กไปในตัว อีกสิ่งหนึ่งคือ ช่วงฟันที่เพิ่งขึ้นใหม่ ๆ มักจะเกิดฟันผุได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็จะเป็นระยะที่ตัวฟันสามารถซึมซับฟลูออไรด์ได้ดี ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับฟันของลูกน้อยได้ไปในตัว
การเลือกซื้อยาสีฟันสำหรับเด็กต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง วันนี้เราได้แบ่งเป็นหัวข้อมาให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่แล้วค่ะ มีอะไรบ้างนั้นเลื่อนลงไปอ่านได้เลยค่ะ
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจก่อนเลือกซื้อยาสีฟันให้กับลูกน้อย คือ ฟันของเด็กเป็นฟันน้ำนมมีชั้นผิวเคลือบฟัน (Enamel) เพียงครึ่งหนึ่งของฟันแท้เท่านั้น ทำให้มีความเปราะบางและยากที่จะฟื้นฟูมากกว่า ดังนั้น การดูแลทำความสะอาดฟันจึงต้องทำให้ตรงกับวัยของเด็กค่ะ
วัยแรกเกิด - 1 ปี แนะนำให้ใช้ผ้าก๊อซหรือแปรงซิลิโคนเช็ดฟัน โดยคุณแม่อาจจะให้ลูกน้อยนั่งบนตัก คุยกับหนูน้อยไปด้วยและค่อย ๆ เช็ดฟันไปด้วย และเนื่องจากเด็กในวัยนี้ยังไม่มีฟันขึ้นให้เห็น โดยอาจเลือกใช้ยาสีฟันสำหรับเด็กในปริมาณน้อยควบคู่กันไปด้วยก็ได้ หรือใช้ผ้าบาง ๆ ชุบน้ำเช็ดเหงือกทั้งบนและล่าง รวมถึงลิ้นและกระพุ้งแก้มให้สะอาดหลังจากดื่มนมหรือทานอาหารเสร็จ เพื่อลดเชื้อแบคทีเรียในช่องปากค่ะ
คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะสงสัยว่าควรเริ่มแปรงฟันให้ลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งคำตอบก็คือตั้งแต่ฟันซี่แรกเริ่มขึ้นในช่องปากค่ะ โดยแนะนำให้ใช้แปรงสีฟันขนอ่อนที่มีขนาดพอดีกับช่องปากของเด็กกับยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1,000 ppm โดยบีบป้ายเล็ก ๆ เท่าเมล็ดข้าวก็พอค่ะ สำหรับเด็กแรกเกิดที่ฟันยังไม่ขึ้น แนะนำให้ทำความสะอาดเหงือกโดยใช้ผ้าเปียกหรือผ้าก๊อซหรือแปรงซิลิโคน/ยางสวมนิ้วแทนการใช้แปรงสีฟัน เพราะจะให้สัมผัสที่อ่อนโยนต่อเหงือกของลูกได้มากกว่าค่ะ
ในวัยที่เด็กยังไม่สามารถควบคุมการกลืนได้ดีหรือยังไม่ได้เรียนรู้วิธีการบ้วนปากนั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกซื้อยาสีฟันสำหรับเด็กที่ระบุว่ากลืนได้ เพื่อความปลอดภัยของเด็กหากเกิดการกลืนยาสีฟันขึ้นมาค่ะ
เมื่อลูกของคุณอายุประมาณ 1 - 3 ปีและเริ่มเคยชินกับการแปรงฟันแล้ว ขั้นต่อไปให้เริ่มใช้ยาสีฟันเด็กชนิดเจลดูค่ะ ยาสีฟันเด็กประเภทนี้จะมีขนาดของผงขัดที่ละเอียดกว่าแบบครีม รวมถึงมีเนื้อสัมผัสนิ่มและใส จึงสามารถเข้าถึงทุกซอกทุกมุมของซี่ฟันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีฟองน้อย ซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบการแปรงฟันของลูกได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นยาสีฟันที่ทำความสะอาดง่าย แม้เด็กที่ยังบ้วนปากไม่ค่อยเป็นก็สามารถใช้ได้ค่ะ
สำหรับเด็กในช่วงอายุ 1 - 3 ปี ยังคงแนะนำให้ใช้แปรงสีฟันขนอ่อนที่ขนาดพอดีกับช่องปากของเด็กกับยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ปริมาณ 1,000 ppm โดยบีบป้ายเล็ก ๆ เท่าเมล็ดข้าวค่ะ และเมื่อเด็กอายุ 2 ขวบ เราสามารถเริ่มสอนให้เขาเริ่มบ้วนปากเองได้เลย สำหรับยาสีฟัน อาจพิจารณาเลือกเป็นแบบเนื้อเจลดูก่อนก็ได้ เพราะเนื้อเจลจะมีเนื้อที่ละเอียดกว่าแบบครีมและมีสารขัดฟันน้อยกว่า ทำให้ก่อฟองได้น้อยกว่าและอ่อนโยนต่อฟันเด็กค่ะ
เมื่อลูกน้อยของคุณเริ่มโตขึ้นเกิน 3 ปีขึ้นไป และเริ่มชินกับการแปรงฟันและสามารถบ้วนน้ำทำความสะอาดได้แล้ว ขั้นต่อไปก็สามารถให้ลูกใช้ยาสีฟันเด็กแบบเนื้อครีมได้แล้วค่ะ ซึ่งยาสีฟันประเภทนี้เป็นประเภทที่แพร่หลายมากที่สุด ประกอบไปด้วยฟลูออไรด์ที่เป็นส่วนผสมที่ประโยชน์ต่อการเสริมสร้างฟันที่แข็งแรง โดยแนะนำให้ใช้ยาสีฟันปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียวในการแปรงฟันก็เพียงพอ นอกจากนี้ ยาสีฟันแบบเนื้อครีมยังถูกผลิตให้มีรสชาติชัดเจนขึ้นกว่าแบบเจลด้วย ซึ่งเป็นข้อดี เพราะถ้าลูกน้อยของคุณเจอรสชาติที่ถูกใจ ก็จะเป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมลูกให้แปรงฟันด้วยค่ะ
สำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป แนะนำให้ใช้แปรงสีฟันขนอ่อนขนาดพอดีกับช่องปากของเด็กกับยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1,000 ppm โดยบีบยาสีฟันขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียวค่ะ ซึ่งหากพิจารณาเลือกแบบเนื้อครีมก็ควรเลือกที่มีสารขัดฟันน้อยหรือไม่มีสารขัดฟันสำหรับเด็กนะคะ เพราะยาสีฟันแบบเนื้อครีมสำหรับผู้ใหญ่มักมีสารขัดฟันที่อาจจะรุนแรงเกินไปสำหรับเคลือบฟันของเด็ก ทำให้เกิดการสึกกร่อนของเคลือบฟันเด็กได้ ส่วนแปรงสีฟันก็ควรเปลี่ยนทุก ๆ 2 - 4 เดือนหรือเมื่อขนแปรงเริ่มแข็งเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียบนแปรงสีฟันค่ะ
โดยข้อกำหนดเกี่ยวกับความเข้มข้นของสารฟลูออไรด์ที่ควรใช้ในยาสีฟันเด็กนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ อย่างในประเทศญี่ปุ่นจะแนะนำให้เด็กวัย 3 - 5 ขวบใช้ยาสีฟันที่มีความเข้มข้นของฟลูออไรด์ที่ 500 ppm แต่ในบ้านเรานั้นอ้างอิงจากทันตยแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เด็กสามารถใช้ยาสีฟันที่มีความเข้มข้นของฟลูออไรด์ 1,000 ppm ได้โดยให้ปรับเปลี่ยนที่ปริมาณยาสีฟันตามอายุ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันในบ้านเราก็มีทั้งยาสีฟันที่ฟลูออไรด์เข้มข้นระดับ 500 และ 1,000 ppm ให้เลือก คุณพ่อคุณแม่สามารถตัดสินใจได้ว่าต้องการใช้แบบไหน แต่หากอ้างอิงตามองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อความเข้มข้นของสารฟลูออไรด์เพิ่มขึ้นทุก ๆ 500 ppm จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันฟันผุได้ 6% ค่ะ
โดยทั่วไปการเลือกยาสีฟันสำหรับเด็กควรเลือกยาสีฟันที่มีส่วนประกอบของฟลูออไรด์ปริมาณ 1,000 ppm โดยปริมาณยาสีฟันที่ใช้ในแต่ละช่วงวัยก็จะแตกต่างกันไปอย่างที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ คือ เด็กวัยแรกเกิดถึง 3 ขวบ จะใช้ยาสีฟันปริมาณไม่เกินเมล็ดข้าว ซึ่งจะเป็นการป้ายบาง ๆ บนขนแปรงสีฟันเท่านั้นค่ะ
ส่วนเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปจะใช้ปริมาณยาสีฟันขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียว สำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงฟันผุสูงอาจจะต้องเพิ่มปริมาณฟลูออไรด์ในยาสีฟันเป็น 1,500 ppm อย่างไรก็ตามควรได้รับการตรวจประเมินความเสี่ยงฟันผุและคำแนะนำจากทันตแพทย์โดยตรงค่ะ
เด็กที่ยังไม่ชินกับการแปรงฟันมีโอกาสสูงมากที่จะกลืนยาสีฟันเข้าไปโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เพื่อความปลอดภัยเราควรเลือกยาสีฟันที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่อ่อนโยนต่อเหงือกและฟัน นอกจากนี้ ควรสังเกตให้ดีว่ายาสีฟันเด็กที่เลือกไม่มีสารเคมีอันตรายอย่าง SLS, SLES, กลิ่น, สีสังเคราะห์ หรือวัตถุกันเสีย เพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีเหล่านี้ให้ช่องปากของเด็ก ๆ ระคายเคืองและเกิดการแพ้ นอกจากนี้ ควรเลือกยาสีฟันสูตรที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาฟันผุ โดยอาจเลือกใช้ยาสีฟันเด็กที่ใช้สารให้ความหวานทดแทน เช่น หญ้าหวาน หรือ Sorbitol เป็นต้นค่ะ
เพื่อความอุ่นใจและความปลอดภัยของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่ควรมองหายาสีฟันเด็กที่ระบุว่า ไม่มีส่วนผสมของสารขัดฟันอย่าง Calcium Carbonate, Silicon หรือ Sodium Carbonate หรือสารฟอกสีฟัน (Hydrogen Peroxide) และสารทำให้เกิดฟอง เช่น Sodium Dodecyl Sulfate หรือ Sodium Lauryl Sulfate หรือถ้ามี ควรมีผสมอยู่ในปริมาณน้อย เพราะสารขัดฟันจะขูดผิวฟัน และสารก่อฟองมีโอกาสทำให้เกิดการระคายเคืองในช่องปากได้ โดยแนะนำให้ลองตรวจสอบฉลากยาสีฟันให้ดีก่อนเลือกซื้อค่ะ
ยาสีฟันออร์แกนิคสำหรับเด็ก คือ ยาสีฟันที่ทำจากส่วนประกอบของธรรมชาติ โดยไม่มีส่วนผสมของสารเคมี สารกันเสีย และสารปรุงแต่งกลิ่น/รส ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนมีความกังวลเรื่องการควบคุมการกลืนของลูกหรือสำหรับเด็ก ๆ ที่ยังบ้วนปากไม่เก่ง อาจจะพิจารณาเลือกยาสีฟันธรรมชาติแทนได้ค่ะ ยาสีฟันเหล่านี้มักไม่มีส่วนประกอบของสารก่อฟองหรือ SLS ซึ่งสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองของช่องปากได้ค่ะ ดังนั้นจึงปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ แน่นอนค่ะ
ส่วนสารเคมีที่มักพบได้บ่อยในยาสีฟันคือ สารขัดฟันและสารก่อฟองค่ะ โดยสารขัดฟันหรือ Abrasive จะทำหน้าที่ขัดผิวเคลือบฟัน โดยหวังผลในการขจัดคราบจุลินทรีย์บนผิวฟัน แต่สำหรับเคลือบฟันเด็กจะไม่แข็งแรงเท่าเคลือบฟันผู้ใหญ่ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงยาสีฟันที่มีสารขัดฟันเพราะอาจทำให้เคลือบฟันของเด็กสึกกร่อนได้ค่ะ ส่วนสารก่อฟองหรือ SLS คือ สารที่ทำให้เกิดฟอง ซึ่งสารตัวนี้สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปากได้ จึงควรหลีกเลี่ยงเช่นกันค่ะ
การเลือกซื้อยาสีฟันนั้น นอกจากจะพิจารณาคุณสมบัติในการป้องกันฟันผุและโรคเหงือกอักเสบแล้ว ควรพิจารณาเลือกรสชาติและกลิ่นที่เด็กชอบด้วยนะคะ โดยเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เลือกเองตามใจชอบ ซึ่งหากพวกเขาได้ใช้ยาสีฟันที่มีรสชาติหรือกลิ่นที่ชอบก็จะทำให้เขาตื่นเต้นและตั้งตารอการแปรงฟัน นับเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมให้เด็กรักการแปรงฟันและการดูแลช่องปากอย่างเป็นกิจวัตรทุกวันค่ะ อย่างไรก็ตาม หลังการแปรงฟันทุกครั้ง คุณพ่อคุณแม่ก็ควรที่จะตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งด้วยนะคะ
ยาสีฟันเด็กที่หลายบ้านคุ้นเคยและมีกลิ่นผลไม้หอม ๆ ให้เลือกหลากหลายช่วยดึงดูดให้เด็กอยากแปรงฟันมากขึ้น โดยปราศจากส่วนผสมของน้ำตาลและใช้สารให้ความหวานตามธรรมชาติทดแทนจึงสามารถป้องกันฟันผุได้ พร้อมมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ปริมาณ 1,000 ppm ซึ่งเป็นปริมาณฟลูออไรด์ที่เหมาะสมในการเสริมสร้างฟันของเด็กให้แข็งแรงและมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญยังมีสูตรพิเศษที่อยู่ยาสีฟันที่ช่วยปกป้องฟันน้ำนมของเด็ก ๆ ให้แข็งแรง
ยาสีฟัน KODOMO รุ่นนี้เป็นแบบเนื้อครีมสีขาวจึงไม่ทำให้เด็กอยากกลืนหรือกินยาสีฟันเล่น ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันตกกระในอนาคตได้ นอกจากนี้ ตัวยาสีฟันมีฟองเยอะจึงทำให้รู้สึกสะอาด ให้ความสดชื่นหลังแปรงฟัน และยังเป็นยาสีฟันที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกไปจนถึงเด็กโตเลยค่ะ
ยาสีฟันเด็กชนิดเจลที่ให้ฟองน้อย มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1000 ppm ที่จะช่วยเคลือบฟันให้แข็งแรง รวมถึงใช้สารให้ความหวานตามธรรมชาติเพื่อป้องกันฟันผุ นอกจากนี้ ยังปราศจากสารทำความสะอาดอย่างพาราเบน SLS และ SLES ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองช่องปาก และยังใช้ส่วนผสม Food Grade จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเด็กหากเด็กเผลอกลืนหรือกินเข้าไป
ยาสีฟันสูตรนี้เป็นสูตรเฉพาะที่พัฒนาร่วมกับทันตแพทย์เด็กจากประเทศสิงคโปร์ที่ทำความสะอาดได้ถึง 2 ขั้นตอนคือช่วยเสริมสร้างโครงสร้างภายนอกให้แข็งแรงและยังช่วยเคลือบภายนอกฟันอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นยาสีฟันสูตรฟองน้อยทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเด็กกลืนหรือทำความสะอาดได้หมดหรือไม่ค่ะ
ยาสีฟันเด็กที่ใช้สารสกัดอโลเวร่าออร์แกนิคมาตรฐาน ECOCERT รวมถึงใช้ส่วนผสม Food Grade มากถึง 90% เพื่อช่วยในการบำรุงเหงือกและฟันอย่างปลอดภัย และยังมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับเด็กและ Calcium Lactate เพื่อช่วยในการเสริมสร้างฟันให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญไม่มีสารเติมแต่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคือง ปราศจากน้ำตาลจึงทำให้ป้องกันฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวยาสีฟันเป็นเนื้อเจล สีแดง มาพร้อมกลิ่นหอมเบอร์รี่ช่วยดึงดูดให้เด็ก ๆ รู้สึกอยากแปรงฟันมากขึ้น มีขนาดหลอดกะทัดรัดและเป็นยาสีฟันออร์แกนิคที่ราคาสบายกระเป๋า พร้อมทั้งมั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้เพราะผลิตภัณฑ์ของเบบี้มายด์ผ่านมาตรฐานการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการทดสอบต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยต่อเด็กค่ะ
ยาสีฟันเด็กรุ่นนี้คิดค้นขึ้นเพื่อเอาใจเด็ก ๆ โดยเฉพาะ ด้วยการใช้ตัวการ์ตูนอย่าง Minions และเนื้อยาสีฟันแบบเจลประกาย จูงใจอยากให้เด็กแปรงฟันและทำให้การแปรงฟันเป็นเรื่องสนุกขึ้น พร้อมกลิ่นหอมมิ้นท์เพิ่มความสดชื่น อีกทั้งยังประกอบด้วยส่วนผสมสำคัญอย่างฟลูออไรด์ที่ช่วยป้องกันฟันผุและเคลือบผิวฟันให้แข็งแรง ทำความสะอาดช่องปากอย่างอ่อนโยน และยังปราศจากส่วนผสมของกลูเตนทำให้ไม่ระคายเคืองต่อเหงือก ฟัน และสุขภาพของเด็ก
อย่างไรก็ตาม ยาสีฟันรุ่นนี้เหมาะสำหรับเด็ก 6 ปีขึ้นไป เพราะมีส่วนผสมและรสชาติที่อาจไม่เหมาะกับเด็กเล็ก แต่หากใครเป็นสายรักษาสิ่งแวดล้อมน่าจะถูกใจเพราะทางแบรนด์อ้างอิงว่าหลอดยาสีฟันและฝาปิดทำจากวัสดุชนิดพิเศษและผ่านกระบวนการการผลิตที่ทำให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ค่ะ
นอกจากนี้ รูบีบยาสีฟันยังถูกออกแบบมาเฉพาะเพื่อให้เนื้อยาสีฟันออกมาในปริมาณที่พอดีสำหรับเด็กวัย 2 - 6 ปี และยังใช้เทคโนโลยีในการผลิตจากประเทศฝรั่งเศสที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย ช่วยให้ฟันแข็งแรงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทันตแพทย์หลายท่านจึงแนะนำให้ใช้ได้ค่ะ
สำหรับบ้านไหนที่เดินทางบ่อย ยาสีฟันรุ่นนี้เหมาะเลยทีเดียวค่ะ เพราะเป็นยาสีฟันเด็กแบบแปรงแห้งได้โดยหลังจากแปรงแล้วไม่ต้องบ้วนน้ำหรือสามารถใช้น้ำน้อยได้ เพื่อให้สารฟลูออไรด์เคลือบผิวฟันได้มากที่สุด พร้อมผสานคุณค่าจากสมุนไพรหลากหลายชนิดเพื่อสร้างคุณสมบัติแบบโพสต์ไบโอติกส์ รวมถึงช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปากได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสูตรเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์
นอกจากนี้ ยังมีฟลูออไรด์ผสมอยู่มากถึง 1,500 ppm โดยเป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับเด็กโตในการป้องกันฟันผุ โดยปราศจากสารที่ก่อให้เกิดอันตรายหรือสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองช่องปาก แต่ใช้ส่วนผสม Food Grade และมีฟองน้อยเพื่อความปลอดภัยหากเผลอกลืนหรือกินยาสีฟันเข้าไปค่ะ
ยาสีฟันเด็กที่ให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ด้วยส่วนผสมฟลูออไรด์ที่เหมาะสมเพียง 500 ppm ซึ่งเหมาะสมสำหรับเด็กเล็กในการทำให้ฟันแข็งแรงตั้งแต่ฟันน้ำนม นอกจากนี้ ยังปราศจากน้ำตาลจึงช่วยป้อกันฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมให้กลิ่นสตรอเบอร์รี่และมีรสชาติที่อ่อนโยนช่วยดึงดูดให้เด็ก ๆ อยากแปรงฟัน และยังไร้สาร Sulfate ที่ทำให้เกิดฟองปริมาณมากในยาสีฟันจึงช่วยให้ทำความสะอาดช่องปากของเด็กได้อย่างอ่อนโยน
ยาสีฟัน Jordan ผลิตโดยผ่านมาตรฐานคุณภาพสแกนดิเนเวียให้คุณมั่นใจว่าปลอดภัยสำหรับเด็ก อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล Reddot Design ที่ใช้นวัตกรรมในการผลิตบรรจุภัณฑ์ให้มีความน่าใช้และยังรักษาสิ่งแวดล้อม ตัวยาสีฟันบรรจุมาในปริมาณถึง 75 กรัมใช้งานกันได้อย่างคุ้มค่าเลยค่ะ
อีกหนึ่งยาสีฟันเด็กที่ผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติ ด้วยสารสกัดจากคาโมมายล์และชาเขียวออร์แกนิคที่จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก นอกจากนี้ ยังปราศจากน้ำตาลจึงช่วยป้องกันฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงไม่เป็นอันตรายต่อช่องปากและฟันเพราะได้รับการรับรองมาตรฐาน Food Grade ปราศจากฟลูออไรด์จึงปลอดภัยจากภาวะฟันตกกระหากเด็กเผลอกลืนหรือกินยาสีฟันเข้าไป
แปรงฟันให้ทารกได้อย่างมั่นใจ เนื่องจาก ไม่มีส่วนผสมของสารอันตรายต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองช่องปาก เนื้อยาสีฟันมาในรูปแบบเจลพร้อมกลิ่นหอมแอปเปิลอ่อน เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี จากผู้ใช้จริงหลายรายรีวิวว่าถูกใจเด็ก ๆ ค่ะ
ยาสีฟันที่เหมาะกับการแปรงฟันทารกในช่วงเริ่มต้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นยาสีฟันที่ไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์จึงปลอดภัยและช่วยลดภาวะสุขภาพฟันในอนาคตหากเด็กเผลอกลืนลงไป แต่จะช่วยให้ฟันแข็งแรง รวมถึงช่วยเคลือบผิวฟัน ป้องกันฟันผุได้ด้วยแคลเซียมมากถึง 3 ชนิดและฟอสเฟตที่ผสมอยู่ในยาสีฟัน นอกจากนี้ ยังเป็นยาสีฟันที่ไม่มีการเติมแต่งสารอันตรายอย่าง SLS, Paraben และน้ำตาล ทำให้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือการระคายเคืองช่องปากอันบอบบางของเด็ก
เนื้อยาสีฟันเป็นเนื้อครีมขาว แต่มีกลิ่นหอมผลไม้ ช่วยดึงดูดให้เด็ก ๆ รู้สึกอยากแปรงฟัน อีกทั้งยังมีรสชาติที่อ่อนโยนโดยใช้ไซลิทอลหรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลจึงช่วยให้ฟันแข็งแรงได้อย่างเป็นธรรมชาติ จากหลายรีวิวยืนยันว่าถูกใจเด็กและคุณพ่อคุณแม่หลายบ้าน โดยเฉพาะหากเด็กยังไม่สามารถบ้วนน้ำได้ค่ะ
ยาสีฟันเด็กที่ปลอดภัยต่อฟันน้ำนมเพราะเป็นสูตรที่ผสมสารขัดถูต่ำ จึงเหมาะสำหรับเด็กช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไปหรือช่วงที่เด็กกำลังหย่านม นอกจากนี้ ยังปราศจากสารกันเสียและสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง จึงอ่อนโยนต่อช่องปากอันบอบบางของลูกน้อย รวมถึงไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์จึงสามารถหลีกเลี่ยงภาวะฟันตกกระในอนาคตได้ อีกทั้งยังใช้สารไซลิทอลแทนน้ำตาลทำให้ช่วยป้องกันฟันผุอย่างแท้จริง
มีให้เลือกหลากหลายกลิ่นและรสชาติถูกใจเด็ก ๆ และช่วยให้เด็กรู้สึกอยากแปรงฟันมากขึ้น หลายครอบครัวที่ใช้กับลูกน้อยยืนยันว่าสามารถทำความสะอาดคราบนมหรือเศษอาหารเสริมต่าง ๆ บนเหงือกและฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
สุขภาพฟันของลูกน้อยนั้นถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก ผู้ปกครองจึงต้องใส่ใจในการดูแล แต่สำหรับพ่อแม่มือใหม่บางคนอาจจะมีข้อกังวลอยู่บ้าง ในวันนี้ เราจึงมีคำแนะนำและคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันค่ะ
ปริมาณยาสีฟันสำหรับเด็กในช่วงอายุ 0 - 3 ปี ควรบีบใช้ขนาดไม่เกินเมล็ดข้าวป้ายบาง ๆ บนแปรงสีฟันค่ะ ส่วนเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป ควรใช้ปริมาณยาสีฟันขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียวค่ะ
สำหรับเด็กแรกเกิดที่ฟันยังไม่ขึ้น ทุกครั้งหลังป้อนนมหรืออาหารให้ เราสามารถทำความสะอาดช่องปากให้เขาได้โดยการเช็ดทำความสะอาดเหงือก ลิ้น และกระพุ้งแก้มด้วยผ้าเปียกหรือผ้าก๊อซค่ะ ส่วนเด็กที่ฟันซี่แรกเริ่มขึ้นมาในช่องปากแล้ว เราสามารถแปรงฟันให้เขาทุกครั้งหลังป้อนนมหรืออาหารค่ะ โดยใช้แปรงสีฟันขนอ่อนกับยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1,000 ppm ขนาดไม่เกินเมล็ดข้าว โดยป้ายบาง ๆ เท่านั้นค่ะ สำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป แนะนำให้เพิ่มปริมาณยาสีฟันให้เท่าเมล็ดถั่วเขียวในการแปรงฟันแต่ละครั้งค่ะ
ก่อนอื่นต้องขออธิบายเหตุผลที่แนะนำให้เด็ก ๆ ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1,000 ppm ก่อนว่าเป็นเพราะเด็ก ๆ อาจยังไม่สามารถควบคุมการกลืนได้ดี จึงอาจทำให้เผลอกลืนยาสีฟันในขณะแปรงฟันทำให้ได้รับฟลูอออไรด์มากเกินความจำเป็น และอาจก่อให้เกิดฟันตกกระหรือ Fluorosis ได้ค่ะ ดังนั้นเพื่อป้องกันการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป เราจึงแนะนำให้เด็ก ๆ ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1,000 ppm อย่างไรก็ตาม หากเขาสามารถควบคุมการกลืนได้ดีการใช้ยาสีฟันผู้ใหญ่หรือยาสีฟันที่มีฟลูอออไรด์มากกว่า 1,000 ppm ก็ไม่ก่อให้เกิดปัญหาอะไรค่ะ
พ่อคุณแม่มือใหม่คงมีไกด์ไลน์ในการเลือกซื้อยาสีฟันที่เหมาะสมกับลูกน้อยของคุณแล้วใช่ไหมคะ ยาสีฟันเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เด็กมีโอกาสตัดสินใจด้วยตัวเองว่าชอบหรือไม่ชอบ หากลูกชอบลูกก็จะรู้สึกอยากแปรงฟันมากขึ้น ซึ่งจะช่วยปกป้องฟันจากอาการฟันผุหรือปัญหาในช่องปากอื่น ๆ ได้ ดังนั้น นอกจากด้านคุณภาพแล้วควรเลือกซื้อยาสีฟันที่ถูกใจลูกเพื่อที่เขาจะได้แปรงฟันอย่างต่อเนื่องกันเถอะค่ะ
อันดับที่ 1: KODOMO|ยาสีฟันเด็ก อัลตร้า ชิลด์ ผสมอัลตร้า แอคทีฟ ฟลูออไรด์
อันดับที่ 2: Pigeon|ยาสีฟันเด็ก ยาสีฟันชนิดเจลสำหรับเด็ก
อันดับที่ 3: Babi Mild|ยาสีฟันเด็ก มายด์คิดส์ สูตรเจนเทิล โปรเทคชั่น เรด เบอร์รี่
อันดับที่ 4: Colgate|ยาสีฟันเด็ก มินเนี่ยน
อันดับที่ 5: Fluocaril|ยาสีฟันเด็ก คิดส์ (เกิร์ล)
mybest อาจได้รับค่าคอมมิชชั่นบางส่วนเมื่อกดซื้อสินค้าในเว็บไซต์
ข้อมูลสินค้าหรือบริการแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาของผู้ผลิตและเว็บไซต์ e-commerce
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ