ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้ทราบเช่นนี้แล้ว หลายคนก็คงจะเริ่มสนใจหาซื้อคาร์ซีทมาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยกันแล้วใช่ไหมคะ ดังนั้น เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติและวิธีการเลือกคาร์ซีทที่ดีและเหมาะสมมานำเสนอพร้อมคำแนะนำจากกุมารแพทย์โดยเฉพาะ และเรายังมี 10 อันดับ คาร์ซีทยอดฮิตจากแบรนด์ชั้นนำมาเป็นทางเลือกให้กับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านแพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากมหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี พ.ศ. 2557 และได้รับวุฒิบัตรสาขากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากมหาวิทยาลัยมหิดลเมื่อปี พ.ศ. 2563 มีประสบการณ์ในเขียนบทความและให้ความรู้ผ่านคลิปวีดีโอในเพจด้านสุขภาพ และประสบการณ์การทำงานด้านกุมารเวชศาสตร์ ทั้งการตรวจคนไข้ เป็นวิทยากรด้านกุมารฯ ที่ให้คำปรึกษาด้านการเลี้ยงดูแลโรคแก่แม่และเด็กในโรงพยาบาลเอกชนอีกหลายแห่ง ได้รับรางวัลตั้งแต่สมัยเรียน คือ รางวัลนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 ดีเด่นภาควิชากุมารฯ เมื่อปี พ.ศ. 2557 อีกทั้งยังมีประสบการณ์ใช้ทุนแผนกกุมารฯ (แพทย์พี่เลี้ยงกุมาร) ณ โรงพยาบาลสระบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2559 - 2560 และได้รับรางวัลแพทย์ประจำบ้านกุมารฯ ดีเด่นอันดับ 1 ถึง 2 ปีซ้อน เมื่อปี พ.ศ. 2561 และ 2562 นอกจากนี้ มีผลงานทางวิชาการมากมาย ดังนี้ - Tanaanunmongkol P, Phunsujaritthai P. ความแม่นยำของการใช้ Chest x-ray ในการดูตำแหน่งสายสวนสะดือ เปรียบเทียบการใช้สูตร ของ Shukla และ Dunn-method โดย Ultrasound (The Accuracy of Chest x-ray to Assess Umbilical Venous Catheter Position Compare between Shukla Formula and Dunn-method by Ultrasound). Thai Journal of Pediatrics. 2017;56(3):195-9. - Phuakpet K, Sanpakit K, Tanaanunmongkol P, Veerakul G, Vathana N, Narkbunnam N, Laohapansang M, Chuangsuwanich T. Survival and Treatment Outcome in Pediatric Hepatoblastoma: The Firstreport from Thailand. The Southeast Asian Journal of Tropical Medicine and Public Health.2017;48(2):161-172. - รางวัลผลงานวิจัยชมเชย ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล Tanaanunmongkol P. การศึกษาชนิดของนมที่ทารกน้ำหนักตัวน้อยมากได้รับภายหลังจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล (Type of Post-Discharge Infant Feeding in Very-Low Birthweight Infants), Department of Pediatrics, Faculty of Medicine Siriraj Hospital, Mahidol University, Bangkok, Thailand นอกเหนือไปจากผลงานทางด้านวิชาการและการประกอบวิชาชีพในปัจจุบันแล้ว ยังอธิบายและให้ความรู้และความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ รวมไปถึงบุคคลที่สนใและบุคคลทั่วไปเกี่ยวกับการดูแลและเลี้ยงเด็กในทุก ๆ ด้านเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและช่วยให้เด็กมีการเจริญเติบโตรอบด้าน ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม : t.pongwut@gmail.com
คุณกิ๊ฟเรียนจบ MBA จาก Colorado Technical University, USA และมีประสบการณ์การทำงานในสายงาน Marketing หลากหลายธุรกิจ รวมไปถึงงาน Product Manager ของธุรกิจไม้ปาติเคิล MDF บอร์ดที่ผลิตงานเฟอร์นิเจอร์ให้กับบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศ เช่น Index living Mall, Modernform, SB Furniture และ Maica ทำให้คุณกิ๊ฟมีประสบการณ์และความรู้ในด้านเฟอร์นิเจอร์เป็นพิเศษ ปัจจุบันคุณกิ๊ฟเป็นคุณแม่ลูก 1 จึงมีความสนใจในเรื่องราวของแม่และเด็กเป็นพิเศษ และด้วยสายงานที่เคยทำจึงชอบศึกษาเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคและบริโภคทั่วไป รวมทั้งอ่านรีวิวสินค้าของแม่และเด็กในเวลาว่างอยู่ตลอด นอกจากนี้ คุณกิ๊ฟยังผ่านประสบการณ์ในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพประเภทต่าง ๆ ให้กับลูกอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
คาร์ซีท (Car Seat) คือ ที่นั่งติดรถยนต์สำหรับเด็ก ซึ่งถูกออกแบบมาตามลักษณะทางสรีรวิทยาเพื่อรองรับขนาดตัวของเด็กแต่ละช่วงวัยโดยเฉพาะ ถึงแม้หลายคนอาจคิดว่าการใช้เข็มขัดนิรภัยที่ติดมากับรถก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่เข็มขัดนิรภัยทั่วไปในรถยนต์นั้น ถูกออกแบบมาสำหรับเด็กที่มีส่วนสูงมากกว่า 140 cm ขึ้นไป ซึ่งอาจไม่พอดีกับร่างกายของเด็กเล็กและสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อเด็กได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีอุปกรณ์พิเศษที่มาทดแทนการใช้เข็มขัดรถยนต์ทั่วไป เพื่อช่วยป้องกันและลดแรงกระแทกหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันค่ะ
คาร์ซีท คือ ที่นั่งเสริมสำหรับเด็กในรถเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เนื่องจาก ขนาดตัวและสรีระของเด็กในแต่ละช่วงอายุมีความแตกต่างกัน เข็มขัดนิรภัยจึงไม่อาจสามารถปกป้องได้อย่างเต็มที่ ซึ่งคาร์ซีทนั้นมีคุณสมบัติช่วยลดแรงเหวี่ยงกระแทกต่อศีรษะบริเวณท้ายทอยและกระดูกสันหลังเมื่อเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งยังสามารถช่วยจัดท่านั่งที่เหมาะสมให้แก่ทารกที่ยังไม่สามารถพยุงคอและหลังให้ตรงเองได้อีกด้วย
คาร์ซีทจะเหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 8 ปีที่สามารถนั่งตัวตรงหรือหลังพิงพนักพิงได้ตรง ด้วยการออกแบบที่มีความสูงที่เหมาะสม ทำให้เด็กสามารถนั่งห้อยขาได้พอดีและคาดเข็มขัดนิรภัยได้ตำแหน่งที่เหมาะสม เพิ่มความปลอดภัยให้กับทุก ๆ การเดินทางได้มากขึ้นครับ
ถึงแม้กฏหมายการใช้คาร์ซีทในประเทศไทยอาจยังไม่เข้มงวดเท่าต่างประเทศ แต่ก็มีกฎหมายในลักษณะใกล้เคียงกันที่บัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า "ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านข้างคนขับต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัย" อยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม เข็มขัดนิรภัยในรถยนต์นั้น จะเหมาะกับผู้มีส่วนสูงตั้งแต่ 140 cm ซึ่งสูงกว่าความสูงเฉลี่ยของเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ทำให้ไม่พอดีกับร่างกายเด็กเล็ก หากคาดเข็มขัดแบบธรรมดาเพียงอย่างเดียว ก็อาจทำให้เด็กหลุดออกจากเข็มขัดนิรภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้
ด้วยเหตุนี้ การเลือกใช้คาร์ซีทที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสรีระร่างกายเด็ก ๆ โดยเฉพาะ จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยได้ดีที่สุด เนื่องจาก ช่วยปกป้องลูกน้อยระหว่างการเดินทางได้ดีกว่าเข็มขัดนิรภัยแบบธรรมดา แถมยังช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถขับรถได้อย่างมีสมาธิ โดยไม่ต้องคอยกังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกตลอดเวลาอีกด้วยค่ะ
คาร์ซีทนับว่ามีความจำเป็นมาก เพราะนอกจากช่วยลดความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังสามารถพยุงตัวทารกให้นั่งในท่าที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทารกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือนนั้น จะยังไม่สามารถนั่งพยุงเอวและหลังให้ตรงได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ขณะที่เด็กนอนหลับหรือในทารกที่อายุน้อยกว่า 4 เดือน จะมีความตึงของกล้ามเนื้อบริเวณคอต่ำ ซึ่งอาจทำให้ทางเดินหายใจส่วนต้นตีบแคบได้ ดังนั้น คาร์ซีทจะช่วยจัดท่านั่งที่ถูกต้องแก่เด็ก และลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุและลดโอกาสทางเดินหายใจถูกบีบหรือกดรัดได้ครับ
ครอบครัวไหนที่กำลังเลือกซื้อคาร์ซีทจากดีไซน์และขนาดที่ชอบเพียงอย่างเดียว อาจจะต้องเปลี่ยนความคิดกันสักเล็กน้อยนะคะ เพราะแท้จริงแล้วคาร์ซีทมีรายละเอียดให้คำนึงมากกว่านั้น ไปดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้างที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อคาร์ซีท
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับประเภทของคาร์ซีทที่แบ่งตามระดับการใช้งานกันก่อนค่ะว่า เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่มีช่วงอายุเท่าไรบ้าง โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
เบาะนั่งเสริม (Booster) เป็นประเภทแรกที่ติดตั้งและใช้งานง่ายที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่มักมีน้ำหนักเบาและราคาถูก เนื่องจาก เป็นเพียงเบาะนั่งชิ้นเดียว ออกแบบมาเพื่อเสริมระดับการนั่งของเด็ก ๆ ให้สูงพอที่จะคาดเข็มขัดนิรภัยภายในรถได้โดยที่เข็มขัดไม่รั้งคอ ซึ่งใช้ได้กับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักไม่เกิน 36 kg อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์ของการใช้งาน จึงมีคำแนะนำว่าควรใช้กับเด็กโตหรือที่มีส่วนสูง 100 cm ขึ้นไปค่ะ
คาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมบางรุ่นอาจไม่ได้มีการปกป้องที่หนาแน่นรอบด้านหรือมีคุณสมบัติลดแรงกระแทกเวลาเกิดอุบัติเหตุ จึงให้ความปลอดภัยได้น้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคาร์ซีทประเภทอื่น ๆ แต่ก็มีบางรุ่นที่เสริมตัวกันกระแทกขึ้นมาบริเวณด้านข้างด้วยเช่นกัน ดังนั้น สำหรับครอบครัวที่ไม่ค่อยได้เดินทางหรือมีเด็กวัยกำลังโต คาร์ซีทประเภทนี้ก็ถือว่ายังมีประโยชน์คุ้มค่ามากกว่าการให้เด็กนั่งรถโดยไม่มีเบาะเสริมใด ๆ เลยค่ะ
เด็กแรกเกิดหรือเด็กเล็กเป็นวัยที่ไม่สามารถคาดเข็มขัดนิรภัยแบบธรรมดาและนั่งเบาะรถคนเดียวได้ คาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยของเด็กเป็นหลักจึงได้รับความนิยมสูงมาก โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Infant Carrier Seats หรือคาร์ซีทแบบกระเช้า สำหรับเด็กแรกเกิดถึง 1 ปีที่มีน้ำหนักไม่เกิน 10 kg และแบบ Rear-Facing Convertible Seats ซึ่งสามารถปรับให้หันหน้าเข้าหาเบาะได้ สำหรับเด็กเล็กอายุ 9 เดือนถึง 4 ปีที่มีน้ำหนักประมาณ 9 - 18 kg
สำหรับคาร์ซีทที่เหมาะกับเด็กแรกเกิดหรือเด็กเล็ก ขอบเบาะจะต้องพอดีหรือสูงกว่าศีรษะของเด็กเล็กน้อยขณะนั่ง ส่วนเข็มขัดนิรภัยจะต้องเชื่อมติดกับพนักพิง สามารถล็อกตัวเด็กได้อย่างแน่นหนาและควรปรับระดับให้พอดีกับร่างกายได้ รวมถึงบางแบรนด์ยังมีการออกแบบคาร์ซีทให้สามารถถอดพนักพิงออกได้ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับเด็กที่มีอายุระหว่าง 10 - 12 ปีได้อีกด้วยค่ะ
คาร์ซีทแบบเบาะพร้อมพนักพิงหลังแบบสูง (High Back Booster) เป็นคาร์ซีทอีกรูปแบบหนึ่งที่พบเห็นบ่อย ๆ เนื่องจากสามารถปรับให้รองรับได้หลายช่วงอายุและมีความปลอดภัยอย่างยิ่ง โดยมักจะมีระบบเข็มขัดนิรภัยในเบาะตั้งแต่ 3 จุดขึ้นไป พนักพิงมีขนาดใหญ่และมีด้านข้างยื่นออกมา เพื่อปกป้องศีรษะและลำตัวได้อย่างแน่นหนา ทั้งยังมีโครงสร้างที่มีความแข็งแรงพิเศษอีกด้วยค่ะ
คาร์ซีทรูปแบบนี้ เหมาะสำหรับเด็กโตหรือเด็กที่มีอายุระหว่าง 4 - 12 ปี มีความสูงไม่เกิน 140 cm และมีน้ำหนักระหว่าง 22 - 36 kg ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่มีความผิดปกติทางร่างกาย ถึงแม้ว่าคาร์ซีทประเภทนี้มีราคาค่อนข้างสูงกว่ารูปแบบอื่น แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ต้องการคาร์ซีทที่ใช้งานได้อย่างครอบคลุมและมีความปลอดภัยสูงสุด ก็ถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียวค่ะ
เราควรเลือกประเภทของคาร์ซีทให้เหมาะสำหรับเด็กโดยพิจารณาตามช่วงอายุและน้ำหนัก ซี่งสามารถจำแนกได้ดังต่อไปนี้
1. Rear-Facing มีลักษณะหันเข้าหาเบาะด้านหลัง เหมาะสำหรับเด็กอายุ 0 - 2 ปี และน้ำหนักไม่เกิน 10 กก.
2. Forward-Facing เหมาะสำหรับเด็กอายุ 2 - 7 ปี และน้ำหนักมากกว่า 9 กก.
3. Booster เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4 - 12 ปี และมีน้ำหนักตัวประมาณ 15 - 18 กก.
4. Seat Belt เหมาะสำหรับเด็กอายุ 8 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวมากกว่า 20 กก. ขึ้นไป
คาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กในปัจจุบันมีชนิดที่สามารถพกพา เคลื่อนย้าย หรือเปลี่ยนฟังก์ชั่นเป็นรถเข็นได้ด้วย ซึ่งชนิดพกพาจะมีข้อดีคือ สามารถย้ายไปติดตั้งในรถคันอื่นได้ อีกทั้งยังใช้เป็นเบาะฝึกนั่งและพยุงตัวเด็กให้อยู่กับที่ในท่าที่ปลอดภัยได้ในกรณีที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่ใกล้เด็ก
ส่วนคาร์ซีทแบบมีพนักพิงด้านหลังจะเหมาะสำหรับเด็กโตสำหรับเด็กที่มีช่วงอายุที่โตขึ้น เพราะนอกจากจะสามารถพยุงตัวให้ตรงได้เองแล้ว ยังมีความยาวตัวที่มากกว่า อีกทั้งอัตราส่วนของขนาดศีรษะ รวมถึงความยาวช่วงตัวและขาจะเปลี่ยนไป ดังนั้น ผู้ปกครองจึงควรเลือกคาร์ซีทที่มีขนาดของพนักพิงและความยาวที่เหมาะสมแก่ช่วงอายุเด็กโตเสมอ หากเลือกคาร์ซีทที่มีพนักพิงขนาดไม่เหมาะสมต่ออายุ อาจทำให้ประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุต่ำลงได้ครับ
คาร์ซีทจะมีระบบการติดตั้ง 2 แบบคือ
1. ISOFIX คือ ระบบติดตั้งโดยต่อ ISOFIX Connector กับแถบเหล็ก (Metal Bar) บริเวณเบาะด้านหลังของรถยนต์ ข้อดีของระบบนี้ คือ ใช้เวลาติดตั้งน้อยและติดตั้งได้ง่ายจึงทำให้ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดจากขั้นตอนที่ยุ่งยาก มีความปลอดภัยสูง แต่ก็ต้องแลกกับราคาที่สูงขึ้นและรองรับเฉพาะในรถยนต์บางรุ่นเท่านั้น
2. Car’s Own Seatbelt เป็นระบบติดตั้งแบบเข็มขัดนิรภัย โดยจะเชื่อมกับเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ มีข้อดีคือ ประหยัดทั้งเงินและเวลา แถมใช้ได้กับรถยนต์ทุกรุ่นเพราะสามารถใช้กับเข็มขัดนิรภัยที่มีในรถยนต์ แต่มีข้อเสียคือ ใช้เวลาติดตั้งและมีขั้นตอนมากกว่าซึ่งอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย
ดังนั้น ในการเลือกระบบนิรภัยนอกจากคำนึงถึงความปลอดภัยแล้ว ยังควรพิจารณาเรื่องความสะดวกในการติดตั้ง, รุ่นรถยนต์ที่รองรับ และราคาด้วยครับ
เนื่องจาก ในปัจจุบันมีคาร์ซีทวางจำหน่ายอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งสินค้าที่ผลิตทั้งในและต่างประเทศ ทำให้มีราคาถูกและราคาแพงแตกต่างกัน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงต้องตรวจสอบความปลอดภัยของสินค้าแต่ละชิ้นเป็นพิเศษ โดยวิธีการตรวจสอบที่เราแนะนำ คือ มองหาข้อความ “ECE R44/04” ที่ระบุไว้บนฉลาก เพราะข้อความดังกล่าวถือเป็นเครื่องยืนยันว่า สินค้าชิ้นนั้นผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยของสหภาพของยุโรปมาแล้ว
นอกจากตรา “ECE R44/04” แล้ว คาร์ซีทบางยี่ห้อยังผ่านการทดสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดโดย ADAC หรือสมาคมรถยนต์เยอรมันอีกด้วย ดังนั้น ถ้าเห็นข้อความหรือสัญลักษณ์ดังกล่าวบนสินค้า ก็มั่นใจได้ในระดับหนึ่งเลยค่ะว่าคาร์ซีทรุ่นนั้นจะช่วยป้องกันอันตรายให้กับเจ้าตัวน้อยขณะเดินทางได้ รวมถึงควรตรวจสอบการทำงานของเข็มขัดนิรภัยให้ดีว่าหนาแน่นเพียงพอจะปกป้องร่างกายของเด็กได้หากเกิดอุบัติเหตุ และสิ่งสำคัญที่สุดคือตรวจสอบความถูกต้องหลังจากติดตั้งให้แน่ใจก่อนเริ่มออกเดินทางค่ะ
เวลาเลือกคาร์ซีทนั้น แนะนำให้เลือกคาร์ซีทที่มีรหัสแสดงถึงมาตรฐานความปลอดภัยสากล ซึ่งในปัจจุบันมีมาตรฐานสากล ดังนี้
1. ECE R44/04 เป็นมาตรฐานของสหภาพยุโรป
2. ECE R129 (i-Size) เป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยคาร์ซีท ปัจจุบันใช้ควบคู่กันกับ ECE R44/04 โดยมีการเพิ่มเติมในเรื่องของตำแหน่งที่ติดตั้งในรถยนต์, มีการใช้ ISOFIX ที่ช่วยให้ติดตั้งได้ง่ายและลดความเสี่ยงจากการติดตั้งผิดวิธี, คาร์ซีทหันหน้าไปทางด้านหลังของรถในเด็กแรกเกิด - 15 เดือน, มีเกณฑ์จำแนกตามส่วนสูงต่าง ๆ และมีการป้องกันแรงกระแทกด้านข้างได้ดียิ่งขึ้น
3. FMVSS 213 (Federal Motor Vehicle Safety Standard 213) เป็นมาตรฐานประเทศสหรัฐอเมริกา
ในปัจจุบันทั้ง 3 มาตรฐานนี้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งในอนาคตอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ เราจึงควรศึกษาข้อมูลเรื่องมาตรฐานทุกครั้งก่อนเลือกซื้อ ที่สำคัญควรทดลองสินค้าก่อนซื้อและตรวจสอบให้มั่นใจว่าไม่มีการชำรุด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกน้อยครับ
โดยทั่วไปคาร์ซีทมักมีขนาดใหญ่และแข็งแรงมากเพื่อเพิ่มความปลอดภัย อีกทั้งมีน้ำหนักค่อนข้างมากจึงอาจทำให้เคลื่อนย้ายไม่สะดวก แถมยังใช้เวลานานในการถอดและติดตั้ง นอกจากนี้ ความสูงของคาร์ซีทบางรุ่นก็ไม่สามารถใช้ในรถยนต์ประเภทซีดานได้ ดังนั้น คุณจึงควรตรวจสอบในแน่ใจก่อนว่าคาร์ซีทที่เลือกมามีน้ำหนักเท่าไร สะดวกต่อการพกพาแค่ไหน และสามารถพับเก็บหรือแยกชิ้นส่วนได้หรือไม่ ถ้าหากคาร์ซีทสามารถพับหรือแยกชิ้นส่วนพนักพิงกับเบาะออกจากกันได้ก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนย้ายได้มากขึ้นเยอะเลยค่ะ
ปัจจุบัน คาร์ซีทมีฟังก์ชันอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บมากขึ้น พูดง่าย ๆ คือหลาย ๆ รุ่นสามารถพับเก็บและแยกชิ้นส่วนได้ ทำให้ประหยัดเนื้อที่ในรถ สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย อีกทั้งไม่ต้องติดตั้งกับเบาะนั่งอย่างถาวรทำให้สามารถนำไปใช้ในรถคันอื่นได้และไม่เสียเนื้อที่เบาะนั่งในรถไป แต่ก็มีข้อควรระวังคือเวลานำมาใช้ต้องประกอบให้ถูกทุกขั้นตอนและครบถ้วนทุกข้อต่อ มิเช่นนั้นอาจเกิดอันตรายแก่เด็กขณะเดินทางได้ และควรตรวจสอบจำนวนชิ้นส่วนหลังถอดทุกครั้งเพื่อป้องกันการหล่นหายครับ
เมื่อคุณใช้คาร์ซีทไประยะหนึ่งแล้วตัวเบาะจะเต็มไปด้วยคราบเหงื่อไคล หรือเศษอาหารที่เด็ก ๆ ทำตกไว้ ซึ่งเมื่อปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานคราบเหล่านี้ก็อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกซื้อเบาะที่ทำจากวัสดุซึ่งช่วยในเรื่องของการระบายอากาศ เช่น ผ้าตาข่าย (Fabric Mesh) ที่สามารถระบายอากาศได้ดีและไม่สะสมความชื้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเด็ก ๆ มีอาการเมารถเป็นประจำด้วยแล้ว แนะนำให้เลือกซื้อคาร์ซีทแบบที่ถอดซักทำความสะอาดได้ เพราะแม้เด็กทำเบาะเลอะหรือเปื้อนคุณก็สามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายค่ะ
นอกจากคุณสมบัติด้านความปลอดภัยแล้ว ฟังก์ชันเสริมเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อคาร์ซีทเช่นกัน ส่วนฟังก์ชันเสริมดังกล่าวจะมีอะไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่ะ
นอกจากนี้ หากซื้อคาร์ซีทรุ่นที่สามารถปรับความสูง-ต่ำ หรือความกระชับได้หลายระดับตามสรีระของตัวเด็ก รวมถึงสามารถถอดพนักพิงแยกจากตัวเบาะนั่งได้ ก็จะยิ่งใช้งานได้ยาวนานคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นไปด้วย และสำหรับผู้ปกครองที่เลี้ยงลูกด้วยตนเองโดยไม่มีผู้ช่วยหรือพี่เลี้ยงการใช้งานคาร์ซีทของคุณจะเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้น หากเลือกรุ่นที่มีการปรับระดับความสูงของศีรษะและความกระชับของสายคาดได้เพียงแค่กดปุ่มเดียวค่ะ
บางครั้งเด็กอาจต้องการดื่มน้ำหรือนมในขณะโดยสารรถ ดังนั้น หากคาร์ซีทมีช่องใส่ขวดน้ำหรือช่องเก็บของติดมาด้วย ก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องเอื้อมไปหยิบขวดน้ำหรือขวดนมในกระเป๋าหรือตะกร้า ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ปกครองได้มากเลยทีเดียว ทั้งยังเป็นการฝึกให้เด็กรู้จักช่วยเหลือตัวเองในการหยิบหรือถือสิ่งของ นับได้ว่าเป็นการลดภาระให้กับคุณไปได้อีกหนึ่งอย่างเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ คาร์ซีทบางรุ่นฟังก์ชันนี้ก็สามารถถอดออกได้เพื่อไม่ให้เกะกะในขณะที่เด็กขึ้น - ลงจากคาร์ซีทค่ะ
ผู้ปกครองสามารถเลือกคาร์ซีทที่มีฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้ดังนี้
- ปรับระดับและความกระชับได้เพียงแค่กดปุ่มเดียว เนื่องจากสรีระเด็กแต่ละคนแตกต่างกันแม้อายุจะเท่ากันก็ตาม การที่คาร์ซีทสามารถปรับระดับและความกระชับของที่นั่งได้ จะช่วยทำให้เด็กนั่งได้สบาย กระชับ และเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
- มีช่องใส่ขวดน้ำ ฟังก์ชันนี้เหมาะสำหรับทารกที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้ขวดนมหรือกระติกน้ำร้อนชงนม เพราะจะช่วยลดภาระการหิ้วของและป้องกันน้ำนมหกเปื้อนตัวทารกหรือคาร์ซีทได้ และสำรหับเด็กที่โตมากพอ ก็สามารถเอื้อมหยิบขวดนมทานเองได้โดยไม่ต้องรบกวนผู้ปกครองที่ขับรถอยู่อีกด้วย
- ควรเลือกคาร์ซีทที่ระบายอากาศได้ดีและถอดซักทำความสะอาดได้ เพื่อลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย เนื่องจากขณะนั่งคาร์ซีท เด็กอาจมีแหวะนม, อาเจียน, น้ำลายไหล หรือปัสสาวะรดที่นั่งได้ ซึ่งความอับชื้นเหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค อีกทั้งยังทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และสร้างความไม่สบายตัวแก่เด็กขณะนั่งได้
- คุชชั่นหนานุ่มสำหรับการเดินทางที่ยาวนาน เบาะรองนั่งที่หนานุ่มจะช่วยลดการปวดเมื่อยแก่เด็กในกรณีที่ต้องนั่งท่าเดิมนาน ๆ แต่ก็ไม่ควรเลือกวัสดุที่นุ่มมากเกินเพราะจะทำให้การกระจายน้ำหนักไม่ทั่วถึง โดยน้ำหนักจะไปรวมตัวกันที่ก้นหรือหลังช่วงล่างทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ และอาจทำให้ช่วงคองอหรือพับ ส่งผลให้เกิดการกดเบียดทางเดินหายใจได้
- มีฟังก์ชันในการปรับเอนนอนในขณะที่เด็กนอนหลับ กล้ามเนื้อจะคลายตัวและคออาจพับไปทางด้านหน้าหรือด้านข้าง ทำให้ทางเดินหายใจถูกบีบหรือกดทับได้ ซึ่งคาร์ซีทที่ปรับเอนไปทางด้านหลังได้ จะช่วยทำให้สรีระของเด็กขณะนอนหลับมีท่าทางที่เหมาะสมแม้ในเวลาที่ผู้ปกครองอาจไม่ทันสังเกต นั่นคือ หน้าของเด็กตรง ท่อหลอดลมเปิดโล่ง ไม่มีอาการปวดเมื่อยคอตามมาครับ
คาร์ซีทแบบบูสเตอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเด็กเล็กจนถึงโต ตัวเบาะนั่งด้านในทำจากโฟม ErgoBoost® สองชั้นซึ่งเป็นโฟมที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีและดีไซน์เฉพาะแบรนด์เพื่อรองรับสรีระของเด็กได้เป็นอย่างดี หุ้มด้วยผ้าทอที่ระบายอากาศได้ดีและสามารถถอดซักได้อย่างง่ายดาย สำหรับการติดตั้งสามารถติดตั้งได้ 2 แบบโดยมีตัวล็อกสำหรับติดกับรถที่มีระบบ ISOFIX และติดตั้งแบบเข็มขัดนิรภัย สามารถถอดออกได้ออกได้ง่ายเพียงดึงปุ่มด้านหน้า มีคลิปสำหรับล็อกสายเข็มขัดนิรภัยเพื่อให้กระชับกับช่วงไหล่ของเด็กและช่วยให้สายไม่บาดคอของเด็ก
ด้านล่างของที่นั่งมีความเรียบจึงไม่ทำให้เบาะรถเป็นรอย และหากต้องการพกพาตัวคาร์ซีทสำหรับเดินทางก็ไม่ยากค่ะเพราะมีส่วนหูหิ้วมาให้ในตัวเบาะ มาพร้อมกับที่วางแก้วซิลิโคนที่สามารถพับเก็บเข้าได้เมื่อต้องการใช้งาน อีกทั้งยังดึงออกสำหรับล้างทำความสะอาดกับเครื่องล้างจานได้ มั่นใจได้ในความปลอดภัยด้วยมาตรฐานความปลอดภัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมรับประกันความเสียหายโครงสร้างจากอุบัติเหตุให้นานถึง 5 ปีเลยค่ะ
เป็นอีกหนึ่งคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 15 - 36 กิโลกรัม ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระเด็กโดยเฉพาะ สามารถปรับระดับพนักพิงศีรษะได้สูงถึง 7 ระดับและทำได้ด้วยเพียงแค่มือเดียว ตัวเบาะดีไซน์ให้รองรับแรงกระแทกรอบตัวเด็กไม่ว่าจะเป็นศีรษะ ลำตัว และสะโพก ผ้าเบาะทำจากผ้าทออย่างดีจึงมีความหนานุ่มแต่ระบายอากาศได้ดี และยังสามารถถอดซักทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย ติดตั้งได้อย่างปลอดภัยด้วยระบบ ISOSAFE ที่เป็นตัวเชื่อมตัวและล็อกเข้ากับ ISOFIX ของรถได้ทันทีโดยที่ไม่เลื่อนหรือหลุดออกง่าย
ด้านข้างของพนักพิงศีรษะมีตัวช่วยบอกระดับของสายเข็มขัดนิรภัยที่เหมาะสม มาพร้อมกับที่วางแก้วสองข้างที่สามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ต้องการใช้งาน และที่พักแขนบุด้วยผ้านิ่มเพิ่อการนั่งที่สบาย ที่สำคัญได้รับมาตรฐานความปลอดภัย ECE R44/04 ของยุโรปด้วยค่ะ
คาร์ซีทที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่นพร้อมให้ความปลอดภัยต่อเด็ก ด้วยระบบ ISOFIX ซึ่งนอกจากจะติดตั้งง่ายแล้วยังไม่ทำให้ตัวเก้าอี้เลื่อนหลุดง่าย เพราะตัวล็อกจะติดอยู่กับที่เมื่อติดตั้งได้อย่างถูกต้อง ส่วนรองศีรษะมีความหนา 3 ชั้นทำให้สามารถรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ตัวเบาะหุ้มด้วยผ้าตาข่ายแบบพิเศษทำให้อ่อนโยนต่อผิวบอบบาง และถักทอให้มีรูระบายอากาศมากกว่า 800 รู อีกทั้งยังสามารถทำความสะอาดได้ง่าย มีความหนานุ่ม และไม่ยุบตัวง่าย ตัวเบาะสามารถปรับเอนได้ช่วยให้เด็กสามารถนอนได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น
มีเข็มขัดนิรภัยแบบล็อก 5 จุดสำหรับเด็กที่ยังไม่สามารถใช้เข็มขัดนิรภัยได้ สำหรับคาร์ซีทรุ่นนี้ใช้ได้จนถึงโตเพราะสามารถปรับเป็นบูสเตอร์ได้และถอดส่วนพนักพิงออกได้อีกด้วย แต่อาจมีข้อจำกัดบ้างเล็กน้อยในการติดตั้งสำหรับเด็กที่สูงเกิน 125 เซนติเมตรขึ้นไปจะต้องติดตั้งโดยการใช้สายเบลท์ของรถแทนค่ะ
โดยปกติแล้วคาร์ซีทแบบ Booster มักจะเป็นเพียงเบาะเสริมความสูงธรรมดา แต่คาร์ซีทรุ่นนี้มีพนักพิงมาให้ในตัวเพื่อลดช่องว่างระหว่างหลังของเด็กและเบาะรถ ทำให้เด็กนั่งได้สบายและไม่รู้สึกเมื่อยเมื่อต้องนั่งเป็นระยะเวลานาน แต่สามารถถอดออกได้เมื่อไม่ต้องการ เบาะนั่งมีขนาดใหญ่บุด้วยฟองน้ำอ่อนนุ่ม หุ้มด้วยผ้าระบายอากาศได้ดีและถอดซักทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย โครงสร้างแข็งแรง สามารถติดตั้งได้ง่ายด้วยระบบ ISOFIX เพิ่มความมั่นคงด้วยเข็มขัดนิรภัย 3 จุด และยังมีปุ่มสำหรับบอกว่าการติดตั้งคาร์ซีทถูกต้องหรือไม่ มาพร้อมตัวล็อกสายเข็มขัดนิรภรัยเพื่อไม่ให้บาดคอหรือหน้าของเด็ก
มีที่วางแขน และที่วางแก้วสองข้างที่สามารถพับเข้าได้เพื่อให้สะดวกต่อการขึ้น - ลง ส่วนเรื่องความปลอดภัยมั่นใจได้เพราะผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากประเทศเยอรมนี เกาหลีใต้ และไต้หวัน พร้อมรับประกันโครงสร้าง 3 ปีจากทางแบรนด์ทำให้ใช้ได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นค่ะ
ตัวเบาะออกแบบให้เข้ากับสรีระของทารกโดยเฉพาะ โดยมีส่วนสำหรับป้องกันตัวเด็กรอบด้าน อีกทั้งยังมีเข็มขัดนิรภัย 3 จุดเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับทารกมากขึ้น และยังมาพร้อมกับหลังคาบังแดดที่สามารถถอดออกได้ ทั้งหมดนี้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรปมากมายเลยค่ะ
คาร์ซีทที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณ ด้วยตัวเก้าอี้ที่หมุนได้ 360 องศาและล็อกได้ 4 ด้าน ตัวเก้าอี้มีระบบเตือนเมื่อรัดเข็มขัดนิรภัยไม่แน่นหรือหลุดออกเพื่อเพิ่มความปลอดภัย สำหรับทารกและเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถใช้สายคาดเข็มขัดนิรภัยรถได้ก็มีเข็มขัดนิรภัยแบบล็อก 5 จุดแบบปกป้องรอบด้านและไม่เก็บกักไรฝุ่นมาให้ โดยหุ้มผ้าแบบพิเศษที่มีความนุ่มนวลและไม่บาดผิวบอบบางของเด็กซึ่งเป็นผ้าชนิดเดียวกับเบาะนั่ง มาพร้อมกับระบบติดตั้ง ISOFIX ที่เพียงแค่เสียบให้ตรงเข้ากับตรงจุดล็อกบนเบาะรถยนต์ก็สามารถวางได้แนบสนิท ส่วนพนักพิงศีรษะสามารถปรับความสูงได้ 16 ระดับ และเบาะเอนได้ 4 ระดับ
นอกจากนี้ โครงสร้างภายในของคาร์ซีทยังทำจากโลหะและ EPS Foam ซึ่งให้ความหนา นุ่ม แข็งแรง และทนทาน รวมถึงเพิ่มความหนาของโฟมเป็นพิเศษตรงส่วนพนักพิงศีรษะ ที่สำคัญคาร์ซีทของแบรนด์นี้ยังได้รับมาตรฐานความปลอดภัยระดับยุโรปเลยค่ะ
ถือเป็นคาร์ซีทแบรนด์เยอรมันที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน แถมได้รับรางวัล German Design Award 2017 ติดตั้งและถอดออกได้ง่ายโดยใช้ระบบ Universal Installation ไม่ว่าคุณจะติดตั้งกับรถคันไหนก็ทำได้ เบาะปรับเอนนอนได้ 2 ระดับเพื่อการนอนที่สบายของเด็ก มีโฟมเสริมที่ศีรษะ หัวไหล่ และสะโพกช่วยเพิ่มความปลอดภัย รวมถึงลดแรงกระแทกได้ดี พร้อมด้วยการดีไซน์เบาะนั่งให้รองรับแรงกระแทกได้อย่างรอบด้านด้วยระบบ ADVANCED SIDE PROTECTION (ASP) และยังมีเข็มขัดนิรภัย 5 จุดที่หุ้มด้วยผ้านุ่มอย่างดีเพื่อให้เด็กรู้สึกสบายเมื่ออยู่ภายใต้เข็มขัดและไม่อยากดึงออก
ลิ้นของตัวล็อกเข็มขัดนิรภัยเคลือบด้วยวัสดุพิเศษเพื่อป้องกันความร้อนจากภายนอกป้องกันการเกิดการบาดเจ็บจากความร้อน ส่วนที่นั่งภายในทำจากโฟมที่ออกแบบมาให้เข้ากับสรีระของเด็กได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ตัวที่นั่งยังสามารถปรับความกว้างได้ตามขนาดตัวของเด็ก พนักพิงศีรษะก็ยังปรับได้อีกหลายระดับด้วยนะคะ
อีกหนึ่งคาร์ซีทหมุนได้ทำให้คุณสามารถหันหลังหรือหน้า รวมถึงขึ้น - ลงได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ตัวที่นั่งใช้โครงสร้างหนารับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 36 กิโลกรัม และป้องกันทุกส่วนของร่างกาย หุ้มด้วยผ้าที่พัฒนาขึ้นมาจากรุ่นแรกทำให้ระบายอากาศและมีความหนานุ่มมากยิ่งขึ้น รวมถึงผ้าหุ้มเบาะสามารถถอดซักทำความสะอาดได้ทั้งชุดโดยซักแบบมือหรือเครื่องซักผ้าก็ได้ เบาะปรับเอนได้ 3 ระดับ ปรับความสูงได้ถึง 7 ระดับ พร้อมตัวล็อกสายเข็มขัดนิรภัยป้องกันการบาดหน้าและคอของเด็ก ส่วนเข็มขัดนิรภัยของคาร์ซีทก็มีการหุ้มด้วยผ้าเพื่อไม่ให้เสียดสีกับคอ หน้า และขาของเด็ก
สำหรับการติดตั้งใช้ระบบ ISOFIX ที่มีตัวล็อกให้ถึง 2 ชั้นทำให้ไม่เลื่อนหลุดออกง่าย และติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัย แม้ว่าจะไม่มีที่วางแก้วมาให้แต่ก็มีที่วางแขนหุ้มด้วยผ้านุ่มมาให้ และยังมาพร้อมกับการรับประกันโครงสร้างของทางแบรนด์ 3 ปีค่ะ
คาร์ซีทแบรนด์ไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป ECE R44/04 เสริมความแข็งแรงด้วยสายรัดกันกระแทกถึง 5 จุด พนักพิงสามารถปรับระดับความสูงได้เพื่อรองรับความสูงของเด็กที่เพิ่มขึ้น หุ้มด้วยผ้าที่นุ่มและหนาเพื่อปกป้องร่างกายของเด็กได้รอบด้าน อีกทั้งยัง เป็นผ้าที่ไม่ระคายเคืองต่อผิวบอบบางและถอดซักทำความสะอาดได้ ใช้ได้ทั้งแบบหันหน้าเข้าและหันหน้าออก โครงสร้างแน่นและแข็งแรงจึงทำให้สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 18 กิโลกรัม
ตัวเบาะสามารถปรับได้ 4 ระดับเพื่อการนอนที่สบายยิ่งขึ้นของเด็ก สีของเบาะมีให้เลือกหลากหลายสี มาพร้อมกับการรับประกันคาร์ซีท 1 ปี เมื่อคาร์ซีทมีปัญหาใด ๆ ทางแบรนด์จะเปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันทีเลยค่ะ
คาร์ซีทสัญชาติเกาหลีที่นอกจากจะมีดีไซน์ที่ดูดีแล้ว ยังแฝงไว้ด้วยความปลอดภัย เริ่มตั้งแต่โครงสร้างบุด้วยโฟมหนาและแน่นเพื่อไม่ให้ยุบตัวง่าย พร้อมด้วยผ้าหุ้มหนาที่ช่วยปกป้องส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเด็กได้อย่างรอบด้าน รวมถึงส่วนหลังของเด็ก นอกจากนี้ ผ้าก็มีให้เลือกทั้งแบบผ้าออร์แกนิคและผ้าต้านเชื้อแบคทีเรีย ที่ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าสามารถปกป้องเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.99% และเบาะยังถอดชิ้นส่วนได้เมื่อเด็กโตขึ้น ส่วนพนักพิงศีรษะปรับได้ตามความสูงของเด็กได้ถึง 11 ระดับ เข็มขัดนิรภัยผลิตจากบริษัทหัวเข็มขัดให้รถ Ferrari F1 จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย
หากเด็กสูงขึ้นก็ปรับเข็มขัดนิรภัยได้ตามช่องที่อยู่บนตัวเบาะ ที่สำคัญยังมีที่สำหรับเก็บเข็มขัดนิรภัยเพื่อให้สะดวกต่อการขึ้น - ลงรถโดยที่ไม่ต้องนั่งทับเข็มขัด เบาะคาร์ซีทสามารถปรับเอนได้หลายระดับเพียงแค่ดึงปุ่มสีแดงที่อยู่ด้านหน้าเบาะ หากคุณต้องการหลังคาบังแดดสามารถซื้อเพิ่มและติดตั้งได้ทันทีค่ะ
อย่างที่ทราบกันดีค่ะว่า การเลือกคาร์ซีทที่ได้มาตรฐานและได้รับการออกแบบมาให้ปกป้องร่างกายของเด็กได้อย่างเหมาะสมเป็นที่สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด แต่ต่อให้คุณสมบัติของคาร์ซีทนั้นจะดีเยี่ยมเพียงใด หากติดตั้งหรือใช้งานไม่ถูกวิธีก็จะทำให้เด็กเป็นอันตรายในเวลาเกิดอุบัติเหตุได้อยู่ดี ดังนั้น เราจะมาแนะนำข้อควรระวังในการใช้คาร์ซีทให้ปลอดภัยแก่คุณพ่อคุณแม่ทุก ๆ คน จะมีอะไรอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
สำหรับคำแนะนำในการใช้คาร์ซีทนั้น สามารถแบ่งออกเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
1. เลือกประเภทให้เหมาะกับอายุและน้ำหนัก
2. เลือกชนิดให้เหมาะกับรถยนต์
3. ตรวจสอบสัญลักษณ์มาตรฐานสากล
4. ตรวจสอบความแข็งแรงและส่วนที่อาจเกิดการชำรุดก่อนซื้อ
5. ติดตั้งตามขั้นตอนที่ถูกต้อง
6. ในระยะแรกที่เพิ่งเริ่มใช้ ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตเด็กเป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่านั่งในสรีระที่ถูกต้องและไม่มีการกดเบียดทางเดินหายใจ
7. ทำความสะอาดเป็นประจำ
8. หมั่นตรวจสอบคาร์ซีททุกครั้งหลังการใช้งาน
9. เปลี่ยนประเภทคาร์ซีทให้เหมาะกับเด็กเมื่ออายุและน้ำหนักมากขึ้น
หลังจากทราบวิธีการเลือกคาร์ซีทกันไปพอสมควรแล้ว สำหรับผู้ปกครองคนใดที่ต้องการคาร์ซีทที่เจาะจงช่วงวัยมากขึ้นกว่าเดิม ก็สามารถลองมาดูบทความคาร์ซีทอื่น ๆ ที่ทางมายเบสท์รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้แล้วด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
ในการเลือกซื้อคาร์ซีทนั้น หากเป็นไปได้ก็ควรไปเดินดูสินค้าของจริงกันก่อนจะดีที่สุด เพื่อที่จะได้สัมผัสวัสดุจริง และได้เห็นส่วนประกอบต่าง ๆ ของคาร์ซีทมากขึ้น นอกจากนี้ คาร์ซีทก็มีอายุการใช้งานนับจากวันที่ผลิตประมาณ 6 ปี เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต้องใส่ไว้ในรถ เมื่อโดนความร้อนเป็นเวลานานก็ทำให้วัสดุเสื่อมสภาพได้ง่าย จึงไม่ควรซื้อคาร์ซีทมือสอง หรือสินค้ามือหนึ่งที่ผลิตออกมานานแล้วค่ะ
mybest อาจได้รับค่าคอมมิชชั่นบางส่วนเมื่อกดซื้อสินค้าในเว็บไซต์
ข้อมูลสินค้าหรือบริการแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาของผู้ผลิตและเว็บไซต์ e-commerce
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ