ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
แต่เด็กยังมีชั้นผิวหนังที่บางมากกว่าผู้ใหญ่ จึงทำให้ถูกกระตุ้นและเกิดการระคายเคืองจากสารเคมีหรือสารสำคัญที่อยู่ในครีมกันแดดได้ง่าย ในบทความนี้ เรามีวิธีการเลือกครีมกันแดดที่ถูกต้อง ที่ช่วยป้องกันแดดและลดโอกาสในการเกิดอาการผิดปกติทางผิวหนังให้น้อยที่สุด พร้อมคำแนะนำจากกุมารแพทย์ และ 10 อันดับ ครีมกันแดดเด็กที่น่าสนใจและเหมาะกับผิวหนังและการใช้ในแต่ะละช่วงวัย
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านแพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากมหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี พ.ศ. 2557 และได้รับวุฒิบัตรสาขากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากมหาวิทยาลัยมหิดลเมื่อปี พ.ศ. 2563 มีประสบการณ์ในเขียนบทความและให้ความรู้ผ่านคลิปวีดีโอในเพจด้านสุขภาพ และประสบการณ์การทำงานด้านกุมารเวชศาสตร์ ทั้งการตรวจคนไข้ เป็นวิทยากรด้านกุมารฯ ที่ให้คำปรึกษาด้านการเลี้ยงดูแลโรคแก่แม่และเด็กในโรงพยาบาลเอกชนอีกหลายแห่ง ได้รับรางวัลตั้งแต่สมัยเรียน คือ รางวัลนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 ดีเด่นภาควิชากุมารฯ เมื่อปี พ.ศ. 2557 อีกทั้งยังมีประสบการณ์ใช้ทุนแผนกกุมารฯ (แพทย์พี่เลี้ยงกุมาร) ณ โรงพยาบาลสระบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2559 - 2560 และได้รับรางวัลแพทย์ประจำบ้านกุมารฯ ดีเด่นอันดับ 1 ถึง 2 ปีซ้อน เมื่อปี พ.ศ. 2561 และ 2562 นอกจากนี้ มีผลงานทางวิชาการมากมาย ดังนี้ - Tanaanunmongkol P, Phunsujaritthai P. ความแม่นยำของการใช้ Chest x-ray ในการดูตำแหน่งสายสวนสะดือ เปรียบเทียบการใช้สูตร ของ Shukla และ Dunn-method โดย Ultrasound (The Accuracy of Chest x-ray to Assess Umbilical Venous Catheter Position Compare between Shukla Formula and Dunn-method by Ultrasound). Thai Journal of Pediatrics. 2017;56(3):195-9. - Phuakpet K, Sanpakit K, Tanaanunmongkol P, Veerakul G, Vathana N, Narkbunnam N, Laohapansang M, Chuangsuwanich T. Survival and Treatment Outcome in Pediatric Hepatoblastoma: The Firstreport from Thailand. The Southeast Asian Journal of Tropical Medicine and Public Health.2017;48(2):161-172. - รางวัลผลงานวิจัยชมเชย ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล Tanaanunmongkol P. การศึกษาชนิดของนมที่ทารกน้ำหนักตัวน้อยมากได้รับภายหลังจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล (Type of Post-Discharge Infant Feeding in Very-Low Birthweight Infants), Department of Pediatrics, Faculty of Medicine Siriraj Hospital, Mahidol University, Bangkok, Thailand นอกเหนือไปจากผลงานทางด้านวิชาการและการประกอบวิชาชีพในปัจจุบันแล้ว ยังอธิบายและให้ความรู้และความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ รวมไปถึงบุคคลที่สนใและบุคคลทั่วไปเกี่ยวกับการดูแลและเลี้ยงเด็กในทุก ๆ ด้านเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและช่วยให้เด็กมีการเจริญเติบโตรอบด้าน ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม : t.pongwut@gmail.com
คุณกิ๊ฟเรียนจบ MBA จาก Colorado Technical University, USA และมีประสบการณ์การทำงานในสายงาน Marketing หลากหลายธุรกิจ รวมไปถึงงาน Product Manager ของธุรกิจไม้ปาติเคิล MDF บอร์ดที่ผลิตงานเฟอร์นิเจอร์ให้กับบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศ เช่น Index living Mall, Modernform, SB Furniture และ Maica ทำให้คุณกิ๊ฟมีประสบการณ์และความรู้ในด้านเฟอร์นิเจอร์เป็นพิเศษ ปัจจุบันคุณกิ๊ฟเป็นคุณแม่ลูก 1 จึงมีความสนใจในเรื่องราวของแม่และเด็กเป็นพิเศษ และด้วยสายงานที่เคยทำจึงชอบศึกษาเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคและบริโภคทั่วไป รวมทั้งอ่านรีวิวสินค้าของแม่และเด็กในเวลาว่างอยู่ตลอด นอกจากนี้ คุณกิ๊ฟยังผ่านประสบการณ์ในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพประเภทต่าง ๆ ให้กับลูกอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
เราควรเริ่มทากันแดดให้เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป เพราะเด็กอ่อนในช่วงวัยแรกเกิดจนถึง 6 เดือนมีโครงสร้างผิวหนังที่บอบบางมาก อีกทั้งยังมีภูมิคุ้มกันทางผิวหนังน้อยจึงทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ง่ายมากกว่าผิวหนังของเด็กโตหรือผู้ใหญ่ นอกจากนี้ เด็กอ่อนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เจอแสงแดดนอกบ้านมากนักและมักใส่เสื้อผ้าที่มีแขนยาวขายาวอยู่แล้วซึ่งเพียงพอกับการป้องกันแสงยูวีภายในห้อง อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องทาครีมกันแดดให้เด็กอ่อนที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน ควรสังเกตอาการของเด็กหลังจากทาครีมกันแดดด้วยค่ะ
เราสามารถแบ่งครีมกันแดดเด็กออกได้เป็น 2 ประเภทตามช่วงอายุ คือ เด็กเล็กวัย 6 เดือน - 3 ปี และเด็กโตที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป เพราะมีโครสร้างผิวหนังที่แตกต่างกัน
เด็กเล็กอายุ 6 เดือน - 3 ปีควรใช้ครีมกันแดดเด็กสูตร Physical เนื้อครีม, เจล หรือสเปรย์ และมีระดับการกันแดด SPF 10 - 20 PA++ โดยมีรายละเอียดดังนี้
สำหรับเด็กเล็กอายุ 6 เดือน - 3 ปี ยังมีโครงสร้างผิวหนังที่บอบบาง เราจึงควรเลือกครีมกันแดดแบบ Physical หรือบางยี่ห้ออาจเรียกว่า Mineral Sunscreen ซึ่งครีมกันแดดประเภทนี้ทำหน้าที่เป็นเสมือนเกราะป้องกันแสงแดด สารไม่ถูกดูดซึมลงไปในผิว ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้น้อยกว่า โดยสารสำคัญสำหรับครีมกันแดดแบบ Physical คือแร่ธาตุ Titanium Doxide และ Zinc Oxide มีคุณสมบัติในการสะท้อนรังสียูวี หากไม่สามารถหาซื้อครีมกันแดดแบบ Physical ได้ เราอาจเลือกครีมกันแดดที่แบบ Chemical ผสม Physical แต่ควรสังเกตอาการของเด็กหลังใช้เสมอ
ส่วนเนื้อครีมกันแดดสามารถใช้ได้ทั้งเนื้อครีม, เจล หรือแบบสเปรย์ โดยเน้นเนื้อสัมผัสที่บางเบา เพราะจะช่วยระบายอากาศบนผิวได้มากกว่า ยกเว้นในกรณีที่ต้องออกนอกบ้านหรือมีกิจกรรมกลางแจ้งที่มีเหงื่อออก อาจเลือกใช้แบบครีมที่ติดผิวได้ยาวนานมากกว่าแต่ไม่ควรทาเป็นชั้นหนาหรือตามซอกข้อพับแขนหรือขาเพราะอาจเกิดการอับชื้นหรือหมักหมมได้ง่าย อย่างไรก็ตาม หากเลือกใช้แบบสเปรย์ควรระวังไม่ให้เข้าตาเด็กด้วยค่ะ
เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีส่วนใหญ่มักอยู่ในห้องหรือในที่ร่มเสมอ ดังนั้น ระดับการป้องกันแสงแดดที่เหมาะสมจึงอยู่ที่ประมาณ SPF 10 - 20 และ PA++ ซึ่งเพียงพอกับการใช้ป้องกันแสงยูวีรวมไปถึงแสงไฟในห้อง หากต้องออกนอกบ้านหรือกลางแจ้ง เน้นการป้องกันแดดอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ใช้ร่มกันแดด ใช้หลังคากันแดดของรถเข็นเด็ก ใส่หมวก คลุมผ้า หรือใส่ชุดขายาวแขนยาวที่เป็นเนื้อผ้าระบายอากาศ หากเราใช้ระดับการกันแดดสูง โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีเนื้อครีมที่เหนียว จะทำให้ผิวหนังระบายอากาศได้ไม่ดี ทำให้เกิดผดผื่นหรืออับชื้นและทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย
เด็กโตอายุ 3 ปีขึ้นไป ควรใช้ครีมกันแดดเด็กสูตร Physical หรือ Chemical เนื้อครีมหรือเจล และมีระดับการกันแดด SPF 30 PA+++ ที่ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองง่าย
ส่วนเนื้อครีมกันแดดที่เหมาะกับเด็กวัยนี้มากที่สุดคือเนื้อครีมหรือเจล เพราะเกาะผิวได้ดีกว่าแม้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ลื่นหลุดง่าย แต่ถึงแม้เนื้อครีมหรือเกาะติดผิวได้ยาวนาน เราควรหมั่นทาครีมกันแดดให้เด็กอยู่เสมอเพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดที่มากยิ่งขึ้น
ประเทศไทยมีความเข้มข้นของแสงแดดที่แรงมาก ถึงแม้จะอยู่ในห้อง ในตึกหรืออาคารก็ตาม ระดับการกันแดดที่เหมาะกับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป คือ SPF 30 และมี PA+++ ซึ่งจะช่วยป้องกันผิวหนังของเด็กที่บอบบางกว่าผู้ใหญ่จากรังสี UVA และ UVB โดยหมั่นเน้นทาอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ 2 ชม. ผู้ปกครองอาจฝึกให้เด็กทาครีมกันแดดได้ในกรณีที่ต้องไปโรงเรียน โดยเน้นทาทั้งใบหน้าและลำตัวอย่าง แขน ขา ที่เจอแดดบ่อยค่ะ
ครีมกันแดดแบบ Chemical มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดดโดยการดูดซับแสง แต่จากการศึกษาพบว่า ส่วนประกอบที่ทำหน้าที่ดูดซับแสงอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองง่าย ยกตัวอย่างเช่น PABA, Salicylate, Octocrylene, Oxybenzone โดยสารสำคัญพบเจอการระคายเคืองได้บ่อยมากที่สุด คือ Octocrylene, Oxybenzone ดังนั้น เราควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนประกอบเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง หรือทดสอบและลองใช้ก่อนใช้จริงเสมอ
นอกจากนี้แล้ว ครีมกันแดดไม่ควรมีน้ำหอม สี และพาราเบน ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้ยังไม่จำเป็นสำหรับเด็กมากนัก และอาจกระตุ้นผิวของเด็ก ส่งผลให้เกิดอาการแพ้หรือการระคายเคืองได้ง่ายค่ะ
สำหรับเด็กโตในวัยอายุ 3 ปีขึ้นไป ผู้ปกครองอาจให้เด็กเริ่มทำกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น หนึ่งในนั้นอาจเป็นกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำ เช่น ฟุตบอล บาส ว่ายน้ำ หากเด็กต้องทำกิจกรรมเป็นระยะเวลานานไม่ว่าจะเป็นทั้งกลางแจ้งหรือในร่ม เราควรเลือกครีมกันแดดแบบกันน้ำที่ระบุว่า Waterproof เพราะมีเนื้อที่เหนียวเกาะผิวหนังได้ดีกว่า และมีประสิทธิภาพในการกันแดดได้ดีกว่าแม้จะมีเหงื่อและเจอน้ำเมื่อเทียบครีมกันแดดทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม เราควรทาครีมกันแดดซ้ำด้วยหากมีเหงื่อหรือขึ้นมาจากสระหรือกิจกรรมทางน้ำ เพื่อให้ป้องกันแดดได้สมบูรณ์มากที่สุด
ครีมกันแดดเด็กส่วนใหญ่มักใส่สารบำรุงผิวมาด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินอีหรือสารสกัดจากธรรมชาติอย่างมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น หรือสารสกัดจากว่านหางจระเข้หรือ Aloe Vera ที่ช่วยปลอบประโลมผิวและอ่อนโยนกับผิวที่บอบบาง เป็นต้น หากเราเลือกครีมกันแดดเด็กที่มีสารบำรุงต่าง ๆ เหล่านี้ ควรเลือกสารบำรุงที่เป็นออร์แกนิก เพราะช่วยลดโอกาสในการเกิดอาการแพ้และการระคายเคืองทางผิวหนังได้มากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเลือกเป็นแบบออร์แกนิกแล้ว เราควรสังเกตอาการของเด็กหลังจากการใช้ด้วย
ครีมกันแดดรูปแบบสเปรย์ที่ปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างทั่วถึง และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยนด้วยสารสกัดจากน้ำมันธรรมชาติ 3 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นอโลเวร่า อาร์แกน และคาโมมายล์ ซึ่งช่วยปลอบประโลมผิวจากแสงแดดและมลภาวะภายนอก อีกทั้งยังช่วยให้มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทำให้รู้สึกผิวชุ่มชื้นและสบายตัวทุกครั้งที่ทา
นอกจากนี้ ยังใช้สารกันแดดธรรมชาติอย่าง Titanium Dioxide และ Zinc Oxide เพื่อให้ปกป้องได้ทั้ง UVA และ UVB ได้มากถึง SPF 50+++ จึงมั่นใจได้ว่าไม่แสบผิวแม้ในวันที่เจอแดดแรง ๆ เนื้อโลชั่นเป็นสูตรน้ำ จึงมีความบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ที่สำคัญยังกันน้ำโดยที่ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ
โลชั่นกันแดดที่ให้ทั้งการปกป้องและความอ่อนโยนต่อผิวที่บอบบาง โดยสูตรนี้มีจุดเด่นที่เนื้อโลชั่นเข้มข้น แต่มีความบางเบา ซึมเข้าผิวได้เร็วจึงไม่ทำให้เหนอะหนะ และไม่ทิ้งคราบขาว พร้อมมีส่วนผสมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ของเชียบัตเตอร์และอโลเวร่าที่ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นได้ตลอดวัน รวมถึงรักษาสมดุลของน้ำในชั้นผิวเพราะมีค่า pH 5.5
ปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB และมลภาวะฝุ่นควันต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ได้มากถึง 50 เท่า นอกจากนี้ ยังปราศจากสารเคมีอันตราย 7 ชนิด ผ่านการทดสอบจากสถาบันระดับเอเชียแล้วว่าปลอดภัยต่อผิวและเด็ก จึงสามารถใช้กลางแจ้งได้บ่อยครั้งตามต้องการ อีกทั้งยังให้กลิ่นหอมเหมือนแป้งเด็กได้ตลอดวันอีกด้วยค่ะ
หากพูดถึงครีมกันแดด หลาย ๆ คนจะรู้จัก BANANA BOAT สำหรับสูตรเด็ก จะเป็นสูตรที่ปราศจาก Oxybenzone, พาราเบน, น้ำมัน และน้ำหอม เพื่อให้ปลอดภัยต่อผิวอันบอบบางของเด็ก ที่สำคัญยังเป็นสูตร Tear Free ไม่ระคายเคืองตา จึงสามารถใช้ทาได้ทั้งหน้าและตัวของเด็ก เนื้อโลชั่นมีความบางเบา เกลี่ยง่าย และซึมสู่ผิวได้เร็ว
มีประสิทธิภาพในการกันน้ำและเหงื่อสูง ดังนั้น เมื่อต้องเล่นน้ำหรือกิจกรรมที่มีเหงื่อออกจะสามารถป้องกันได้ยาวนานถึง 80 นาที มีส่วนประกอบของ Mineral Zinc ธรรมชาติที่ปกป้องทั้งรังสี UVA และ UVB แบบวงกว้างได้ ผ่านการทดสอบโดยกุมารแพทย์และแนะนำโดยสถาบันมะเร็งผิวหนังระดับนานาชาติแล้วว่าสามารถปกป้องรังสีได้จริงค่ะ
ครีมกันแดดเด็กออร์แกนิคที่ช่วยปกป้องผิวบอบบางของทารกจากรังสี UVA และ UVB ด้วยการสะท้อนแสง โดยมีค่า SPF 46 PA++++ พร้อมบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นด้วยวิตามิน E และเซราไมด์จากธรรมชาติ รวมถึงส่วนผสมของอโลเวร่า ปราศจากสารเคมีซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการทำลายปะการัง จึงสามารถทาแล้วลงเล่นน้ำทะเลได้อย่างสบายใจ
นอกจากนี้ ยังมีน้ำมันสกัดจากดอกทานตะวันออร์แกนิค เพิ่มการปกป้องและความเนียนนุ่มให้กับผิว ครีมกันแดดสูตรนี้เป็นสูตร Mineral Based 100% จึงมีเนื้อโลชั่นที่บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว และไม่ทิ้งคราบขาวบนชั้นผิว ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ พาราเบน และสีสังเคราะห์ ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าไม่ระคายเคืองค่ะ
อีกหนึ่งแบรนด์ของครีมกันแดดที่น่าสนใจ ด้วยส่วนผสมที่อ่อนโยนอย่างเป็นธรรมชาติแบบออร์แกนิค โดยใช้สูตร Mineral Based ทำให้มีเนื้อบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว และไม่เหนียวเหนอะหนะ อีกทั้งยังเป็นสูตรกันน้ำจึงเหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมฟื้นฟูผิวเสียและแห้งกร้านจากแสงแดดด้วยสารสกัดจากอโลเวร่า
อีกทั้งยังช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ด้วยสารกันแดดธรรมชาติ โดยปราศจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและอาการแพ้อย่างสาร PABA, พาราเบน และน้ำหอม แถมยังเป็นสูตรที่ไม่ทำลายปะการังในทะเล และยังให้กลิ่น Lavender หอมอ่อน ๆ จาก Essential Oil ผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าปลอดภัยอย่างแท้จริงเลยค่ะ
ครีมกันแดดสำหรับบเด็กสูตร Pure Milk เนื้อน้ำนม ที่ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ แต่ให้ความชุ่มชื้นจากเชียร์บัตเตอร์ จึงทำให้รู้สึกได้ว่าผิวนุ่มหลังจาการทา นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาสมดุลให้ผิวด้วยค่า pH - Balanced จึงเหมาะกับผิวที่มีความบอบบางและผิวแพ้ง่ายอย่างยิ่ง
ปกป้องผิวจากแสงแดดได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ได้มากถึง SPF50+ PA+++ ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำและอาการไหม้จากแดด โดยปราศจากแอลกอฮอล์, น้ำหอม พาราเบน และสีสังเคราะห์ สูตรนี้เป็นสูตรกันน้ำและเหงื่อ ใช้ได้ตั้งแต่ทารก 6 เดือนขึ้นไป ปกป้องได้ยาวนาน ทาแล้วออกแดดได้ทันที ไม่จำเป็นต้องรอถึงครึ่งชั่วโมงค่ะ
ครีมกันแดดที่สามารถทาได้แม้บนผิวที่เปียกน้ำ เพราะเนื้อโลชั่นเป็นแบบ Hydrophobic Film ซึ่งจะเคลือบผิวไว้ โดยยังคงประสิทธิภาพของค่า SPF เพื่อปกป้องรังสี UVA และ UVB จากแสงแดดในขณะทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีเนื้อที่เบาบาง จึงซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ รวมถึงไม่ทิ้งคราบขาวบนผิว ให้เลอะเทอะ
นอกจากช่วยปกป้องแล้วยังบำรุง เสริมเกราะป้องกัน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยส่วนผสมของเชียร์บัตเตอร์ อีกทั้งยังปราศจากสารพาราเบนและน้ำหอม เหมาะกับผิวทารกที่อ่อนโยน ปกป้องผิวได้อย่างเต็มที่เพราะเป็นสูตรกันน้ำ ผ่านการทดสอบจากกุมารแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ จึงเป็นครีมกันแดดที่แพทย์ผิวหนังนานาชาติแนะนำค่ะ
ครีมกันแดดในรูปแบบสเปรย์ที่ทำให้เนื้อครีมกระจายตัวได้ทั่วผิว ช่วยป้องกันผิวจากทั้งรังสี UVB และ UVA พร้อมทั้งลดการทำร้ายผิวจากรังสี UV 85% ได้อย่างอ่อนโยน อีกทั้งยังลดผลกระทบจากแสงสีฟ้าที่อาจก่อให้เกิดผิวหมองคล้ำและแห้งเสีย โดยปราศจากน้ำหอม, สี และพาราเบน ซึ่งได้รับการวิจัยแล้วว่าช่วยลดการทำร้ายได้ถึงระดับเซลล์
พร้อมคงความชุ่มชื้นอย่างพอเหมาะ เนื้อโลชั่นมีสัมผัสที่บางเบา กระจายตัวได้ทั่วถึง และซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถกันน้ำได้จึงเหมาะกับการทาก่อนการเล่นกิจกรรมกลางแจ้ง ใช้ได้ทั้งกับผิวหน้าและผิวกาย มั่นใจได้ว่าปลอดภัยเพราะผ่านการทดสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังโดยเฉพาะ ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ
ครีมกันแดดจากแบรนด์ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี สำหรับสูตรนี้เป็นสูตรอ่อนโยนและสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เด็กก็สามารถใช้ได้โดยไม่ระคายเคือง เพราะใช้เทคโนโลยีพิเศษที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะในแบรนด์ ซึ่งจะช่วยเคลือบชั้นผิวและปกป้องผิวจาก UVA และ UVB ไว้ได้อย่างทั่วถึง ทำให้ผิวไม่เกิดอาการไหม้หรือแห้งเสียจากแดด
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี WetForce™ ที่เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ยิ่งผิวเปียกน้ำหรือเหงื่อออกก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันโดยค่า SPF จะค่อยสูงขึ้นหลังจากโดนน้ำ 15 นาที สูตรนี้ยังเป็นสูตร Hypoallergenic ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวด้วยว่านหางจระเข้ ปราศจากสารอันตรายจึงใช้ได้ปลอดภัยไม่อุดตันรูขุมขนเลยค่ะ
ครีมกันแดดแบบสเปรย์ที่มีเนื้อบางเบา มาในรูปแบบสเปรย์ที่กระจายตัวได้อย่างทั่วถึง จึงปกป้องรังสี UVA และ UVB ได้อย่างเต็มที่ทันทีที่ทา นอกจากนี้ ครีมกันแดดสูตรนี้ยังเป็นสูตรที่ช่วยลดการระคายเคืองผิวจากแสงแดดได้ พร้อมทั้งให้ความชุ่มชื้นต่อผิว ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มได้หลังจากทา เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันอัลมอนด์ธรรมชาติ
ที่สำคัญยังเป็นสูตรที่อ่อนโยนต่อผิวจึงสามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ที่มีผิวบอบบาง เป็นสูตรที่กันน้ำเป็นพิเศษให้เด็ก ๆ ได้สนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างยาวนานเมื่อใช้โลชั่นกันแดดสูตรนี้ อีกทั้งยังปราศจากสารเคมีอันตรายและสารต่าง ๆ ที่อาจทำลายปะการัง เรียกได้ว่าเป็นสูตรที่ปกป้องทั้งคนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเลยทีเดียวค่ะ
1. ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 15 - 20 นาที เพื่อให้สารสำคัญออกฤทธิ์กันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. สำหรับเด็กโต หากเป็นเนื้อครีมให้บีบปริมาณ 2 ข้อนิ้วมือ แต่เนื้ออ่อนอย่างเจลหรือโลชั่นให้บีบประมาณ 2 เหรียญสิบ ส่วนเด็กเล็กให้กะปริมาณให้ทั่วพื้นที่ให้ทั่ว แต่ไม่ควรหนาหรือทาบริเวณซอกแขนหรือขาการเลือกใช้ครีมกันแดดสำหรับเด็กก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีในการช่วยปกป้องผิวของเด็กได้เป็นอย่างดี นอกจากจะเป็นตัวเด็กแล้วผู้ปกครองหรือคุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ครีมกันแดดของเด็กได้เช่นกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยกันแดดไปพร้อม ๆ กันแล้ว ยังช่วยสังเกตอาการผิดปกติได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย โดยเราสามารถสังเกตส่วนผสมหรือสารสำคัญไปพร้อม ๆ กับอาการแพ้หรือระคายเคือง แต่เราควรใช้อย่างระมัดระวังโดยคำนึงถึงความสะอาดเป็นหลักด้วยค่ะ
อันดับที่ 1: ENFANT|ครีมกันแดดเด็ก Organic Plus Face & Body Sunscreen Milky Lotion SPF 50 PA+++
อันดับที่ 2: Dmp|ครีมกันแดดเด็ก Intensive Daily Lotion
อันดับที่ 3: Banana Boat|ครีมกันแดดเด็ก KIDS MINERAL LOTION SPF 50+
อันดับที่ 4: D-nee|ครีมกันแดดเด็ก Organic Baby Sunscreen Lotion
อันดับที่ 5: Kindee|ครีมกันแดด Sunscreen Lotion
mybest อาจได้รับค่าคอมมิชชั่นบางส่วนเมื่อกดซื้อสินค้าในเว็บไซต์
ข้อมูลสินค้าหรือบริการแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาของผู้ผลิตและเว็บไซต์ e-commerce
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ