ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านดนตรีได้ถูกพัฒนาไปอย่างก้าวไกล โดยเฉพาะเครื่องดนตรีทั่วไปที่ได้การพัฒนาให้กลายเป็นครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Instruments) ไปแล้วแทบจะทุกชนิด หรือที่เราเรียกกันว่า "เครื่องดนตรีไฟฟ้า" นั่นเอง และหนึ่งในเครื่องดนตรีไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งจากเหล่านักเล่นดนตรีก็คือ "กลองไฟฟ้า" ซึ่งมีวางจำหน่ายอยู่หลายรูปแบบจากหลากหลายผู้ผลิต รวมทั้งยังมีฟังก์ชันต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาเพื่อให้ตอบโจทนย์สไตล์ผู้เล่นและแนวเพลงได้หลากหลายขึ้น
วันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีการเลือกกลองไฟฟ้าโดยมาพร้อมคำแนะนำเบื้องต้นจากเจ้าของโรงเรียนสอนดนตรี และยังมี 10 อันดับ กลองไฟฟ้า รุ่นที่ได้รับความนิยมจากหลายแบรนด์ดัง โดยมีทั้งกลองแป้นและกลองชุดให้เลือก รวมทั้งยังมีรุ่นที่ปรับแต่งเสียงกลองได้และบันทึกเสียงได้อีกด้วยค่ะ
คุณวุ้นได้เข้าสู่วงการดนตรีตั้งแต่วัยเด็ก โดยเริ่มต้นจากการเรียนอิเล็กโทนและเปียโนตอนอายุ 8 ขวบ และฝึกฝนมาเรื่อย ๆ จนพัฒนามาเป็นครูสอนที่โรงเรียนดนตรียามาฮ่าในช่วงมหาวิทยาลัย ด้วยใจรักในด้านดนตรีและเสียงเพลง หลังจบปริญญาโทด้านการตลาดจากประเทศออสเตรเลียแล้ว จึงหาประสบการณ์ด้วยการทำงานในบริษัทค่ายเพลงมาประมาณ 3 ปีด้วย ปัจจุบันคุณวุ้นเป็นเจ้าของโรงเรียนดนตรี Yamaha Music School สาขา Regent’s International School ซึ่งถือเป็นความสุขของการทำงานในแต่ละวันที่ได้สนับสนุนด้านดนตรีให้แก่เด็ก ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของบริษัท Perfect Fifth ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของยามาฮ่า (Yamaha Music Authorized Dealer) ไม่ว่าจะเป็นเปียโน กลอง กีต้าร์ เครื่องดุริยางค์และเครื่องเสียงยามาฮ่า จึงมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ เป็นอย่างดี
มายเบสท์ผลิตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ทุกวันตั้งแต่ "เครื่องสำอางและสกินแคร์" "เครื่องใช้ไฟฟ้า" "สินค้าในชีวิตประจำวัน" ไปจนถึง "บริการ" เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีสุดตามสโลแกน "ให้ทุกการเลือกเป็นเรื่องง่าย" ผ่านผู้ใช้งานเว็บไซต์มากกว่า 3 ล้านคนต่อเดือน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากความสะดวกสบายในการเคลื่อนย้ายและการฝึกซ้อมในพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวแล้ว กลองไฟฟ้ายังมีประโยชน์ในมุมอื่น ๆ อีกด้วย โดยในการใช้งานกลองไฟฟ้านั้นผู้เล่นสามารถเลือกปรับเสียงฟังก์ชันตามความต้องการได้หลากหลาย เช่น ถ้าต้องการเล่นแนวเพลงที่ต้องใช้สแนร์ 2 เสียง กลองไฟฟ้าก็สามารถปรับเสียงได้ทั้ง 2 เสียง ในขณะที่หากใช้เป็นกลองจริงผู้เล่นจะต้องต้องซื้อกลอง 2 ลูกเพื่อตั้งเสียงให้ต่างกัน
อีกทั้งกลองไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังสามารถอัดเสียงผู้เล่นได้เลยโดยตรงไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมจำนวนมาก ที่สำคัญ ยังสามารถแก้ไขเสียงและปรับแต่งเสียงกลองผสมเสียงเข้ากับเครื่องดนตรีอื่น ๆ ผ่านทางคอมพิวเตอร์ได้ด้วย ด้วยข้อดีข้างต้นนี้ก็ยังทำให้กลองไฟฟ้าช่วยผู้เล่นประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า หากผู้เล่นรู้จักใช้ฟังชันของกลองไฟฟ้าอย่างคุ้มค่าค่ะ
หลังจากที่ได้ทราบประโยชน์ของกลองไฟฟ้ากันไปบ้างแล้ว ต่อไปเราไปดูกันว่าเคล็ดลับและวิธีการเลือกกลองไฟฟ้าเบื้องต้นนั้นจะมีอะไรบ้าง
กลองไฟฟ้าถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ กลองไฟฟ้าตั้งโต๊ะ (Table-top Electronic Drum) หรือที่มักจะเรียกกันว่า กลองไฟฟ้าแบบแป้น (Drum Pad) และกลองไฟฟ้าแบบชุด (Electronic Drum Kits) ค่ะ
ดรัมแพดไฟฟ้า (Electronic Drum Pad) หรือดรัมแพดเป็นอุปกรณ์ดนตรียอดนิยมของกลุ่มนักดนตรีอาชีพที่เล่นตามร้านอาหารหรืองานอีเว้นท์ต่าง ๆ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่พกพาสะดวก เหมาะกับพื้นที่ที่มีการจำกัดพื้นที่เล่น โดยเสียงของดรัมแพดนั้นจะมีความหลากหลายแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น บางรุ่นสามารถตั้งเสียงแยกแต่ละแป้นได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถสร้างสรรค์การเล่นได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ผู้เล่นควรไปทดลองเล่นด้วยตัวเองก่อนซื้อจึงจะตอบโจทย์ที่สุด
ข้อดีอีกประการหนึ่งของดรัมแพด คือ ดรัมแพดมีช่องเสียบสาย Output และ Input โดยช่อง Input ของบางรุ่นสามารถเสียบสมาร์ทโฟนเพื่อเปิดเพลงและเล่นตามได้ ส่วนช่อง Output มีไว้เพื่อการต่อเข้าแอมป์และผู้เล่นสามารถเสียบหูฟังขณะที่ซ้อมในบ้านได้เช่นเดียวกับกลองชุดไฟฟ้า นอกจากนี้ เนื่องจากดรัมแพดไฟฟ้าเป็นการจำลองเสียงลงมาไว้ใน Pad คล้าย ๆ กับ Synthesizer เลยทำให้ผู้เล่นไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มคนที่เล่นกลองเป็นเท่านั้น ทุกคนสามารถเล่นเครื่องนี้ได้ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง DJ มือคีย์บอร์ด หรือใครก็ตามที่ต้องการสร้างเสียงโดยวิธีการตีค่ะ
กลองไฟฟ้าแม้ว่าจะไม่สามารถทดแทนกลองอะคูสติกได้ 100% แต่ สำหรับผู้เล่นมือใหม่กลองไฟฟ้าแบบชุดเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุด เมื่อผู้เล่นซื้อกลองอะคูสติกไปไว้ซ้อมที่บ้านแล้วผู้เล่นจะต้องทำห้องเก็บเสียงหรือห้องซ้อม ซึ่งวัสดุในการสร้าง ราคาค่อนข้างจะใช้ทุนสูง ดังนั้นสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นที่ยังไม่แน่ใจว่าจะจริงจังในการเล่นหรือไม่ การเลือกใช้กลองไฟฟ้าน่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่าค่ะ
กลองไฟฟ้าถือว่าเป็นเครื่องดนตรีที่นักดนตรีตั้งแต่ระดับฝึกหัดไปจนถึงระดับมืออาชีพเลือกใช้ในการฝึกซ้อม โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ต้องการสร้างเสียงรบกวนกับผู้อื่นหรือการซ้อมในพื้นที่ที่จำกัด เพราะกลองไฟฟ้าสามารถจำลองตำแหน่งของกลองอะคูสติกมาได้ในตำแหน่งเดียวกัน หากผู้เล่นตีกลองอะคูสติกอย่างไร กลองไฟฟ้าก็สามารถตีในตำแหน่งเดิมได้โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ อีกทั้งยังไม่ส่งเสียงรบกวนผู้อื่นในการฝึกซ้อม เพียงแค่ทำการเสียบสายหูฟังมอนิเตอร์เข้ากับแผงโมดูล ไม่ว่าจะตีแรงมากเพียงใดเสียงกลองเหล่านั้นก็จะอยู่ภายในหูฟังมอนิเตอร์ของผู้เล่นเท่านั้นค่ะ
นอกจากนี้ ผู้ผลิตบางยี่ห้อยังสร้างสรรค์คุณภาพกลองไฟฟ้าแบบชุดออกมาในรุ่นที่เหมาะสมในการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ หรือการแสดงสดได้อย่างดีเยี่ยม ตัวอย่างเช่น Yamaha DTX10 Series ที่เป็นซีรีย์ Flagship รุ่นใหม่ในไลน์สินค้ารุ่น DTX ด้วยนวัตกรรมผสมผสานกับการอัดเสียงกลองจริง ๆ ที่ยอดเยี่ยมในสตูดิโอที่มีชื่อเสียงระดับโลกให้มือกลองรับรู้ถึงความสนุก อารมร์ในการเล่นอย่างมืออาชีพ เรียกได้ว่าเทียบเท่าหรือทำได้ดีกว่ากลองชุดแบบปกติเลยค่ะ
วัสดุของหน้ากลองไฟฟ้าส่งผลอย่างมากต่อความรู้สึกและอารมณ์ร่วมในการตีกลอง ซึ่งวัสดุของหน้ากลองไฟฟ้านั้นจะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ หน้ากลองแป้นยางและหน้ากลองหนังมุ้ง
กลองไฟฟ้าแบบชุดที่มีหน้ากลองแบบแป้นหนังยางจะมีราคาที่ประหยัดกว่าหน้ากลองหนังมุ้ง เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกตีกลองชุดเพื่อฝึกความคุ้นเคยในการตีกลองชุด เนื่องจากมีการวางตำแหน่งของชิ้นกลองต่าง ๆ คล้ายกับกลองชุดแบบปกติ แต่ข้อเสียของแป้นยางก็คือ ให้อารมณ์ สัมผัสในการตีและน้ำหนักของการลงไม้กลองได้ไม่สมจริงเหมือนกับกลองชุดแบบปกติ ดังนั้นหนังกลองแป้นยางจึงไม่เหมาะสมกับผู้เล่นมืออาชีพที่ต้องแสดงสดหรือใช้ในคอนเสิร์ต และเนื่องจากราคาที่ไม่แพง ทำให้ฟังก์ชันของการปรับแต่งเอฟเฟกต่าง ๆ ของแผงโมดูลก็มักจะถูกจำกัดไปด้วย โดยส่วนมากจะปรับได้แค่ชนิดของกลองชุด ระดับเสียงของกลองและลักษณะของเสียงกลองเพียงบางส่วนเท่านั้น
กลองไฟฟ้าแบบชุดที่มีหน้ากลองชนิดหนังมุ้งมักจะถูกใช้งานสำหรับมือกลองระดับอาชีพ หรือผู้เล่นที่มีงบประมาณที่เพียงพอ เนื่องจากกลองไฟฟ้าชนิดนี้จะมีราคาที่สูงกว่าหน้ากลองแป้นยาง เพราะวัสดุที่ใช้ผลิตมีความซับซ้อน ปรับจูนเสียงของแป้นหนังมุ้งได้ น้ำหนักของการลงไม้และความรู้สึกที่สมจริงเหมือนกับการตีกลองชุดปกติมากกว่านั่นเองค่ะ
กลองไฟฟ้าหน้ากลองหนังมุ้งมักจะมาพร้อมกับฟังก์ชันที่จัดเต็ม ปรับแต่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งไดนามิกของหน้ากลองให้สามารถลงไม้ได้อย่างสมจริงและชินมือตามต้องการ หรือการปรับเสียงเคาะบริเวณขอบของหน้ากลองให้มีเสียงที่เหมือนกันกับกลองชุดแบบปกติ ทั้งยังปรับเป็นเสียงอื่น ๆ ตามใจผู้เล่นได้อีกด้วย
นอกจากนี้ แผงควบคุมหรือโมดูลยังปรับแต่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสียงก้อง เสียงสะท้อน ความแน่นของเสียง การแยกลักษณะของเสียงกลองตามแต่ละประเภทดนตรีได้แบบใบต่อใบ รวมไปถึงชิ้นกลองอื่น ๆ เช่น กระเดื่อง แฉ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกลองชุดแบบปกติเลยทีเดียวค่ะ
แผงควบคุมกลองไฟฟ้า หรือ "โมดูล (Module)" คือหัวใจหลักของกลองไฟฟ้า เพราะถ้าไม่มีอุปกรณ์ชนิดนี้ กลองไฟฟ้าของคุณก็จะไม่สามารถทำงานได้ โดยหน้าที่หลักของโมดูลก็คือ การรวบรวมสัญญาณกลองผ่านพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ และนำมาประมวลผลหรือควบคุมผ่านการตั้งค่าตามที่คุณต้องการ
การสังเกตปุ่มตั้งค่าต่าง ๆ บนโมดูลของกลองไฟฟ้าจะช่วยให้ทราบถึงฟังก์ชันหรือฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่กลองไฟฟ้าแต่ละรุ่นนั้นมีได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น การปรับแต่งรูปแบบของกลองชุด การปรับเสียงกลองแยกแต่ละใบ การปรับเอฟเฟกต์ การปรับโทนเสียง เมโทรนอม เดโม การบันทึกเสียง เป็นต้น ดังนั้น ยิ่งมีปุ่มต่าง ๆ บนโมดูลมากเท่าไร กลองไฟฟ้ารุ่นนั้นก็จะมีฟังก์ชันหรือฟีเจอร์ต่าง ๆ มากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ จำนวนปุ่มบนโมดูลที่มีมากก็จะทำให้ปรับหรือตั้งค่าต่าง ๆ ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
คุณสมบัติหรือพอร์ตการเชื่อมต่อของกลองไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการบันทึกเสียงกลองไฟฟ้าตรงไปยังคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานกับซอฟต์แวร์บันทึกเสียงหรือแต่งเพลง (DAW) พอร์ตการเชื่อมต่อที่ต้องมีก็คือ "พอร์ต MIDI USB" ส่วนพอร์ตอื่น ๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาจะทำให้กลองไฟฟ้าของคุณมีฟังก์ชันพิเศษที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นค่ะ
หากโมดูลมีพอร์ต AUX IN ก็จะทำให้กลองไฟฟ้าสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือหรือไมโครโฟนได้ เพื่อทำการบันทึก เปิดเพลงพื้นหลังหรือปรับแต่งเสียงพิเศษเพิ่มเติมให้มีความหลากหลายมากขึ้น และในกลองไฟฟ้าบางรุ่นยังมีพอร์ตพิเศษอย่าง SD Card และ USB ซึ่งช่วยให้กลองไฟฟ้านำเพลงหรือชุดเสียงต่าง ๆ ที่บันทึกไว้ภายนอก มาปรับแต่ง ผสมผสาน ใช้งานกับกลองไฟฟ้ารุ่นนั้น ๆ ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้เล่นจะไม่สามารถฟังเสียงของกลองไฟฟ้าได้ทันที หากไม่มีหูฟังหรือแอมป์มอนิเตอร์ ดังนั้นพอร์ต Headphones (AUX 3.5mm) ใช้สำหรับเชื่อมต่อหูฟังมอนิเตอร์ และพอร์ต Output สำหรับเชื่อมต่อกับแอมป์หรือลำโพงมอนิเตอร์ค่ะ
นี่คือหนึ่งในกลองชุดไฟฟ้าที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง ในบรรดากลองชุดไฟฟ้าตัวท็อปอีกหลาย ๆ รุ่น เริ่มตั้งแต่กลองหนังมุ้งทุกใบ และแฉที่ตีได้ครบทั้ง 3 โซน มีไดนามิกส์และให้เสียงที่สมจริง ชนิดที่ว่าใกล้เคียงหรือทำได้ดีกว่ากลองชุดปกติในอีกหลาย ๆ รุ่นเป็นอย่างมาก พร้อมชุดเสียงกลองที่มีให้ปรับแต่งถึง 1,300 เสียง และโมดูลที่มาพร้อมกับปุ่มฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ครบครัน ช่วยให้ตั้งค่าได้ง่าย ไม่สับสน นอกจากนี้ ยังพิเศษยิ่งขึ้นไปอีกด้วยฟังก์ชันผสมเสียงกลอง ซึ่งทำให้คุณสามารถตั้งค่าหน้ากลองของคุณให้ออกมาสองเสียง โดยการตีเพียงแค่ครั้งเดียวนั่นเอง
เรียกได้ว่าเป็นกลองไฟฟ้าประเภท Drum Pad ที่ใคร ๆ ก็อยากได้มาครอบครอง โดยเริ่มตั้งแต่ดีไซน์ที่ออกแบบส่วนต่าง ๆ ของกลองได้อย่างลงตัว เริ่มต้นที่แป้นขนาดเล็กและยกสูงกว่าแป้นกลองขนาดใหญ่อื่น ๆ เพื่อมีไว้สำหรับตั้งค่าให้เป็นแฉหรือ Ride โดยเฉพาะ และใต้แป้นกลองทุกใบยังมีไฟ LED สุดล้ำ ที่ปรับสีได้ตามใจชอบ ช่วยสร้างบรรยากาศในระหว่างการตีกลองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีชุดเสียงตัวอย่างให้ปรับใช้ถึง 8,000 เสียง ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการตัดแต่งเสียงได้ตามต้องการภายในบริเวณโมดูลได้ครบเสร็จสรรพ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เลย
ถือว่าเป็นกลองไฟฟ้าระดับมืออาชีพรุ่งรองท็อปของซีรีส์ DTX ที่นำไปเล่นคอนเสิร์ตหรืองานแสดงสดได้อย่างดีเยี่ยม เพราะหน้ากลองเป็นหนังมุ้งทุกใบ แม้กระทั่งแป้น Bass Drum ทำให้ได้ไดนามิกส์ในการลงน้ำหนักที่สมจริงบนกลองทุกชิ้น รวมถึงสัมผัสที่เหมือนกลองชุดแบบปกติอย่างเต็มที่ เนื่องจากทั้ง สแนร์, ทอม และแฉ ที่ตีได้ถึง 3 โซน นอกจากนี้ ยังมีชุดตัวอย่างเสียงกลองให้ปรับแต่งถึง 500 เสียง ตอบโจทย์ทุกสไตล์การตี และเล่นได้ทุกแนวเพลง
นี่คืออีกหนึ่งกลองชุดไฟฟ้าระดับมืออาชีพในราคาที่จับต้องได้ ที่ใครก็ต่างหมายปอง เนื่องจากให้จำนวนชิ้นกลองมาครบครันตามมาตรฐานถึง 9 ใบ และกลองหลักที่เป็นหนังมุ้งทุกใบ มีไดนามิกส์ เสียงดังเบาตามน้ำหนักของไม้กลองที่ลง และยังสมจริงมากขึ้นด้วยสแนร์, ทอม และแฉ ที่ตีได้ถึง 2 โซน ส่วน Ride ตีได้ถึง 3 โซนและยังรองรับการใช้งานกระเดื่องคู่ นอกจากนี้ยังปรับแต่งได้ง่ายด้วยโมดูลที่มีปุ่มหมุนปรับเอฟเฟกต์แยกแต่ละปุ่ม เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยาก ใช้เล่นดนตรีสดได้จริง
ถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะตีได้อย่างสมจริงมากยิ่งขึ้นเพราะกลองหลักทุกชิ้นเป็นหนังมุ้ง ช่วยให้ปรับความตึงและหย่อนของหน้ากลองได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังปรับแต่งเอฟเฟกต์และโทนเสียงของหน้ากลองแต่ละใบได้ง่าย ด้วยปุ่มหมุนปรับการตั้งค่าต่าง ๆ ที่หลากหลาย และยังพิเศษด้วยช่องเชื่อมต่อ USB Drive ที่มีไว้เพื่อไฟล์นำเข้าเสียงหรือเพลงจากภายนอก เพื่อสร้างการฝึกซ้อมหรือการตีกลองของคุณเพลิดเพลินได้มากยิ่งขึ้น
ขยับขึ้นมาอีกหนึ่งรุ่นก่อนหน้านี้ สำหรับกลองในซีรีส์ DTX ที่คราวนี้เพิ่มเติมสแนร์หนังมุ้งเข้ามา พร้อมกับแป้นกลองทุกชิ้นที่สามารถตีได้ถึง 3 โซน ราวกับตีกลองชุดแบบปกติ แม้จะเป็นแป้นยางก็ตาม นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเมโทรนอม ที่ใช้งานร่วมกับฟังก์ชันฝึกซ้อมได้ ซึ่งโมดูลมีความพิเศษที่การจัดเรียงปุ่มที่ช่วยให้เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับมือใหม่ และยังแต่งเสียงกลองแบบแยกใบได้ พร้อมชุดกลองที่มีมาให้ถึง 50 ชุดเลยทีเดียว
ถือได้ว่าเป็นกลองชุดไฟฟ้าในระดับมาตรฐานเหมือนกลองชุดปกติ เนื่องจากมีจำนวนแป้นกลองให้มาครบครันถึง 9 ชิ้น โดยทำการเพิ่ม Ride เข้ามานั่นเอง และยังพิเศษด้วยสแนร์หนังมุ้งที่สามารถตีได้ถึง 3 โซน และแฉ 2 โซนด้วยกัน ทำให้สร้างความรู้สึกของการตีกลองได้อย่างสมจริงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีชุดเสียงกลองให้ปรับแต่งถึง 25 ชุด และปรับชุดเสียงพร้อมกับเอฟเฟกต์และโทนต่าง ๆ แยกใบได้ และพิเศษด้วยช่องใส่ SD Card เพื่อนำเข้าไฟล์ดนตรีจากภายนอกได้อีกด้วย
ถือได้ว่าเป็นรุ่นประหยัดสำหรับกลองไฟฟ้าซีรีส์ DTX ที่คุ้มค่าตัวเป็นอย่างมาก แม้ว่าแป้นกลองทุกใบจะเป็นยาง แต่ก็ทดแทนด้วยฟังก์ชันพิเศษต่าง ๆ ที่หาไม่ได้จากกลองรุ่นอื่น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน DTX402 Touch เพื่อปรับแต่งเสียงกลอง และตั้งโปรแกรมฝึกซ้อม หรือแอปพลิเคชัน Rec'n'Share สำหรับการบันทึกเสียงกลองที่คุณได้ตีไป และแชร์ลงโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสแนร์ 3 โซน ที่แม้จะเป็นแป้นยางแต่ช่วยให้ตีได้อย่างสมจริงมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
นี่คือกลองชุดไฟฟ้ารุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มฝึกหัด หรือแม้แต่มือกลองระดับอาชีพหลาย ๆ คน ก็เลือกที่จะใช้กลองชุดไฟฟ้ารุ่นนี้ในการฝึกซ้อมที่บ้านด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีขนาดที่เล็ก มีราคาเข้าถึงได้ง่าย และยังมาพร้อมกับสแนร์หนังมุ้งที่ให้สัมผัสที่คล้ายสแนร์จริง พร้อมแป้นกล้องอื่น ๆ รวมถึง 8 ชิ้น ซึ่งถือได้ว่าเพียงพอแล้วสำหรับการฝึกหัดหรือฝึกซ้อม นอกจากนี้ ยังมีสไตล์กลองของแต่ละแนวดนตรีให้เลือกถึง 12 แนว
ถึงแม้ว่าจะให้ความรู้สึกได้ไม่เท่ากับกลองแบบปกติ หรือกลองไฟฟ้าที่มีราคาสูง แต่ก็ถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลองสัมผัสถึงลักษณะการทำงาน และรูปแบบเสียงของกลองไฟฟ้าเบื้องต้น ว่ามีการทำงานอย่างไร โดยมีจำนวนแป้นกลองถึง 9 ชิ้น พร้อมกับ Sustain Pedal อีก 2 ชิ้น ที่ตั้งค่าให้เป็นกระเดื่องได้ โดยมีสไตล์กลองของแนวดนตรีให้เลือกถึง 3 แนวเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังเชื่อมต่อได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เสียบสาย Micro USB เข้ากับหม้อแปลงจ่ายไฟ และเชื่อมต่อหูฟังมอนิเตอร์หรือแอมป์ ก็สามารถทำงานได้ทันที
กลองไฟฟ้าแต่ละชนิด และแต่ละวัสดุ ก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของคุณ ซึ่งเราขอรับรองได้เลยว่า กลองไฟฟ้าที่เราได้นำมาเสนอในบทความนี้มีคุณภาพและการใช้งานที่ดีเยี่ยม คุ้มค่า คุ้มราคา ไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพก็สามารถศึกษารุ่นที่เรานำมาเสนอได้อย่างแน่นอนค่ะ
mybest อาจได้รับค่าคอมมิชชั่นบางส่วนเมื่อกดซื้อสินค้าในเว็บไซต์
ข้อมูลสินค้าหรือบริการแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาของผู้ผลิตและเว็บไซต์ e-commerce
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ