ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
แบดมินตันเป็นกีฬาที่เล่นไม่ยากและใช้อุปกรณ์น้อยโดยใช้ผู้เล่นเพียง 2 คน อีกทั้งยังเล่นได้เกือบทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้าน สนามหญ้าหรือไปเช่าคอร์ทในโรงยิม และอีกเหตุผลที่คนส่วนใหญ่ชอบเล่นแบดมินตันก็เพราะอุปกรณ์ราคาไม่แพงมาก โดยลูกขนไก่มักจะขายเป็นแพ็กเน้นปริมาณ ส่วนไม้แบดมินตันก็มีราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยเท่านั้น
ทั้งนี้ การเลือกไม้แบดที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญทั้งสำหรับคนเล่นแบดมินตันเพื่อคลายเครียดทั่วไปหรือกลุ่มนักกีฬา เพราะจะได้ไม้ที่มีคุณภาพ มีอายุใช้งานยาวนานและไม่ทำให้บาดเจ็บขณะเล่น บทความนี้เราจึงนำวิธีการเลือกไม้แบดมินตันมาฝากกัน พร้อมคำแนะนำจากครูสอนแบดมินตัน และยังมี 10 อันดับ ไม้แบดมินตัน ยี่ห้อดัง ไม่ว่าจะเป็น YONEX, Kawasaki, VICTOR หรือ Wilson มาแนะนำเพิ่มเติมด้วย
คุณมิกเป็นอดีตนักกีฬาแบดมินตันที่มีประสบการณ์ในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 25 ปี โดยเริ่มเรียนแบดมินตันที่สโมสรบ้านทองหยอดมาตั้งแต่ 10 ขวบ ซึ่งเริ่มจากการเรียนเพื่อออกกำลังกายจนกลายมาเป็นกีฬาที่ชื่นชอบ จึงเริ่มฝึกฝนอย่างจริงจังเพื่อเป็นนักกีฬาเต็มตัว คุณมิกมีโอกาสได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการระดับประเทศทั้งในนามสโมสรและตัวแทนสถาบันการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย ซึ่งได้คว้าแชมป์ประเภทชายเดี่ยวหลายรายการทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นตัวแทนนักกีฬาของกรุงเทพมหานครโดยคว้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติมาอีกด้วย ถึงแม้จะจบทางด้านวิศวกรรมศาสตร์มา แต่ยังมีความรักและชื่นชอบในกีฬาแบดมินตันอยู่จึงผันตัวไปเป็นครูสอน ปัจจุบันคุณมิกเปิดสอนอยู่ที่สนามแบดมินตัน Powerbatt โดยสอนตั้งแต่เด็กอายุ 4 ปีขึ้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ และสอนในระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับแข่งขัน ซึ่งจะมีทั้งการสอนเพื่อออกกำลังกายและเพื่อแข่งขัน โดยครูมิกได้สร้างนักกีฬาขึ้นมาหลายรุ่นและได้คว้ารางวัลในระดับประเทศมามากมายจนไปถึงได้เป็นตัวแทนเยาวชนทีมชาติอีกด้วย
มายเบสท์ผลิตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ทุกวันตั้งแต่ "เครื่องสำอางและสกินแคร์" "เครื่องใช้ไฟฟ้า" "สินค้าในชีวิตประจำวัน" ไปจนถึง "บริการ" เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีสุดตามสโลแกน "ให้ทุกการเลือกเป็นเรื่องง่าย" ผ่านผู้ใช้งานเว็บไซต์มากกว่า 3 ล้านคนต่อเดือน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
ไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นหรือคนที่เล่นกีฬาเป็นอาชีพ การเลือกซื้ออุปกรณ์ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะอุปกรณ์ที่มีคุณภาพจะทำให้เราเล่นได้ดีและปลอดภัย แบดมินตันเองก็เป็นกีฬาที่ต้องใช้อุปกรณ์ในการเล่นเช่นกัน
สำหรับมือใหม่หรือคนที่มีประสบการณ์น้อย จะมีจุดที่ต้องพิจารณาอยู่หลายจุดด้วยกัน เช่น น้ำหนักของหัวไม้ ความตึงของเอ็น รวมไปถึงสายการตีของแต่ละคน ดังนั้นควรเลือกไม้แบดให้ตอบโจทย์การเล่นของตนเองให้ได้มากสุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดีและลดการบาดเจ็บด้วย
การเลือกใช้ไม้แบดมินจุดแรกที่ควรพิจารณาก็คือ จุดศูนย์ถ่วงของไม้ ไม่ว่าจะเป็นแบบไม้หัวหนัก หัวหนักปานกลางและแบบบาลานซ์ก็จะเหมาะกับผู้เล่นที่แตกต่างกันไป เพราะจุดศูนย์ถ่วงของไม้จะส่งผลโดยตรงต่อการเล่น สายบุก สายรับ การเล่นลูกหน้า รวมไปถึงความไวของหน้าไม้ด้วย หากเลือกไม้แบดแบบไม้หัวหนักจะเหมาะสำหรับคนที่เล่นสายบรุก เน้นลูกตบ ตีไว ออกลูกไว ใช้แรงตีเยอะ และต้องมีทักษะการเล่นและกล้ามเนื้อแล้วระดับหนึ่ง ดังนั้น สำหรับผู้เล่นมือใหม่จึงแนะนำให้เลือกแบบไม้หัวหนักปานกลาง (แบบบาลานซ์) ที่จะให้การควบคุมทิศทางของลูกง่ายกว่า ทำให้ตีง่ายกว่า ไม่ต้องใช้แรงในการตีเยอะ
การเลือกไม้ที่แข็งเกินไปอาจจะทำให้กล้ามเนื้อล้าได้ง่าย และควบคุมลูกได้ยากขึ้นด้วย แต่หากผู้เล่นมือใหม่ต้องการการควบคุมลูกที่ดีขึ้นก็สามารถเลือกไม้แบบก้านปานกลางหรือระดับ Middle ได้เช่นกัน แต่อาจต้องแลกมาด้วยการใช้แรงในการตีมากกว่าไม้ก้านอ่อนเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความชอบและการถนัดของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ วัสดุของไม้แบดที่เหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่ควรทำจากกราไฟต์ (Graphite) ที่จะให้ความยืดหยุ่นและทนทานต่อการใช้งานได้ดี
การเลือกระดับความตึงของเอ็น ก็ส่งผลในการเล่นสำหรับมือใหม่ค่อนข้างเยอะด้วยเช่นกัน เพราะหากเอ็นตึงไปแต่แรงตีไม่ถึงก็จะทำให้ตีลูกไม่ไป หรือหากเอ็นหย่อนไปก็ต้องใช้พละกำลังในการตีลูกที่เยอะขึ้นด้วย ดังนั้นควรเลือกความตึงของเอ็นให้เหมาะสมกับพละกำลังการตีของผู้เล่น เพื่อไม่ให้เกิดการล้าของกล้ามเนื้อหรือตีลูกไม่ไป โดยความตึงเอ็นที่เหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่จะแนะนำให้อยู่ที่ประมาณ 20 - 23 ปอนด์ ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด
สำหรับคนที่เริ่มมีทักษะที่มากขึ้นหรือมีกล้ามเนื้อแขนในระดับหนึ่งแล้วก็สามารถที่จะปรับความตึงเอ็นไปที่ 24 - 26 ปอนด์ได้ เพราะยิ่งมีความตึงเอ็นมากเท่าไหร่ ก็จะให้สปีดลูกที่เร็วและแรงมากขึ้นด้วย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการใช้พละกำลังในการตีลูกที่มากขึ้นตามไปด้วย
อีกปัจจัยคือน้ำหนักของไม้แบดที่จะส่งผลต่อการเล่นด้วยเช่นกัน เพราะหากเลือกไม้แบดที่มีน้ำหนักมากเกินไป ผู้เล่นต้องออกแรงในการถึอไม้มากขึ้นด้วย จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับแรงและกล้ามเนื้อของตนเอง เพื่อให้เล่นได้คล่องตัวและยืนในสนามได้นานขึ้น ซึ่งน้ำหนักของไม้แบดที่เหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่จะแนะนำอยู่ที่ 4U (80 - 84 กรัม) - 5U (75 – 79 กรัม) ที่จะให้ความคล่องตัว ตีง่าย ไม่ต้องออกแรงตีเยอะ สามารถเล่นได้ทุกรูปแบบและลดโอกาสบาดเจ็บจากการเล่นได้
สำหรับผู้เล่นที่มีทักษะและเริ่มมีประสบการณ์การเล่นในระดับหนึ่งแล้ว สามารถเลือกน้ำหนักไม้ได้ตามความถนัดเลย หากต้องการความคล่องตัวเป็นหลักขอแนะนำให้เลือกไม้แบดน้ำหนัก 4U หรือหากต้องการลูกที่แรงขึ้นก็ให้เลือกไม้ที่มีน้ำหนัก 3U (85 - 89 กรัม) ได้ โดยยิ่งค่า U น้อยเท่าไหร่ ไม้แบดจะยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้นและต้องใช้แรงถือไม้มากขึ้น แต่ก็จะได้ความแรงของลูกมากขึ้นด้วย
ผู้เล่นมืออาชีพจะมีทักษะและสไตล์การเล่นที่ชอบเฉพาะตัวอยู่แล้ว แต่การเลือกไม้แบดให้เหมาะกับการเล่นก็ยังถือเป็นเรื่องสำคัญอยู่ เพราะไม้แบดที่เหมาะสมก็จะส่งเสริมการเล่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
การเลือกไม้แบดของมืออาชีพจะแตกต่างจากผู้เล่นมือใหม่ เพราะจะเลือกไม้โดยใช้สไตล์การตีเป็นตัวตัดสินใจในการพิจารณาเลือกไม้ โดยส่วนใหญ่แล้วสำหรับผู้เล่นสายเกมรับจะเน้นเลือกไม้ที่มีจุดศูนย์ถ่วงของไม้แบบบาลานซ์ หรือหัวหนักปานกลาง ก้านอ่อนหรือระดับ Soft วัสดุเป็นกราไฟต์ ที่จะให้ความคล่องตัว ใช้พละกำลังในการตีไม่มาก สามารถยืนในสนามได้นาน มีความแม่นยำในการควบคุมทิศทาง ซึ่งสำหรับมืออาชีพนั้นจะไม่ค่อยนิยมเลือกแบบก้านอ่อนมากหรือระดับ Super Flex สักเท่าไหร่ เพราะจะทำให้การควบคุมทิศทางของลูกทำได้ยากกว่าแบบอ่อน
สำหรับสายรุกที่เน้นการตบเป็นหลักนั้นความแรงของลูกตบอาจเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะในเกมได้เลย ดังนั้นการเลือกไม้แบดที่สามารถส่งเสริมความแรงของลูกตบได้จึงเหมาะสมสำหรับผู้เล่นสายเกมรุกเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ผู้เล่นเกมสายรุกจะนิยมเลือกไม้แบดแบบหัวหนัก ก้านแข็ง (Stiff) หรือแข็งพิเศษ (Extra Stiff) และมีวัสดุที่เป็นกราไฟต์ ที่จะให้ความแรงของลูกตบสูง แต่อาจจะต้องใช้ทักษะและพละกำลังในการตีที่มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งไม้ที่มีคุณสมบัตินี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่มีทักษะและกล้ามเนื้อแขนไม่เพียงพอ เพราะอาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บจากการเล่นได้
การเลือกวัสดุของด้ามไม้แบดทั้งสำหรับผู้เล่นทั่วไปและมืออาชีพจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและความถนัดในการใช้ เพราะวัสดุของด้ามไม้แบดจะไม่ค่อยส่งผลต่อการเล่นสักเท่าไหร่ ซึ่งด้ามไม้แบดในปัจจุบันจะมีด้วยกันอยู่ 2 แบบ คือ
1. ด้ามไม้ จะเป็นด้ามที่พบมากที่สุด มีความทนทานระดับหนึ่ง มีความยืดหยุ่นและแข็งแรง แต่จะมีความสะสมความชื้นจากเหงื่อและหักได้ง่าย
2. ด้ามพลาสติกผสมเรซิ่น (Free Core) ซึ่งยังถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ในปัจจุบัน จะให้ความทนทานที่มากขึ้นกว่าแบบไม้ ไม่สะสมความชื้นจากเหงื่อ แต่อาจจะไม่ยืดหยุ่นเท่าแบบไม้
วัสดุของไม้แบดนั้นมีให้เลือกหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นอะลูมิเนียม ไทเทเนียมและคาร์บอน ซึ่งในอดีตจะนิยมใช้วัสดุเป็นไทเทเนียมกับคาร์บอนเป็นหลักในการผลิตไม้แบดที่ให้น้ำหนักเบา แต่อาจจะไม่ได้มีความทนทานเท่าที่ควร ในปัจจุบันจึงได้มีการพัฒนาและเลือกใช้วัสดุประเภทนาโนคาร์บอนและกราไฟต์ (Graphite) มาผลิตไม้แบดเป็นหลัก ซึ่งจะให้ความทนทาน แข็งแรงกว่า ยืดหยุ่นกว่า และยังมีราคาถูกกว่าวัสดุไทเทเนียมด้วย จึงเหมาะสำหรับทั้งผู้เล่นมือใหม่และมืออาชีพ
ในส่วนของขนาดไม้หรือก็คือความยาวของไม้แบดมินตันจะวัดจากหัวไม้จนมาถึงสุดปลายด้าม ซึ่งไม้แบดมินตันทั่วไปจะมีความยาวประมาณ 66.5 เซนติเมตร หรือ 26 นิ้ว แต่ไม้แบดมินตันสำหรับเล่นคู่จะยาวกว่า โดยยาวประมาณ 67.5 เซนติเมตร หรือ 26.5 นิ้ว ทั้งนี้ ความยาวของไม้ก็มีผลต่อการหวดตีลูก การสวิง รวมถึงการรับลูกด้วย โดยไม้ที่ยาวกว่าทำให้เราไปถึงลูกขนไก่ได้ไว เหมาะกับการเล่นคู่ซึ่งเป็นเกมที่ใช้ความเร็ว
YONEX NANOFLARE-001 เป็นไม้แบดที่ได้รับความนิยมมากรุ่นหนึ่งจากทาง YONEX เนื่องจากเป็นไม้ที่เหมาะกับกลุ่มมือใหม่หรือคนที่ชอบเล่นแบดมินตันเป็นงานอดิเรก ตัวไม้แบดมีน้ำหนักเพียง 78 กรัม หรือ 5U ตัวก้านเป็นแบบอ่อน สามารถส่งแรงให้ลูกแบดได้มากโดยไม่จำเป็นต้องออกแรงเยอะ ตัวไม้แบดตัดผ่านอากาศได้ดี ส่วนของเฟรมผลิตมาจาก Graphite มีการออกแบบมาเพื่อลดแรงต้านอากาศ เวลานำมาใช้งานแขนและหัวไหล่จะไม่ต้องรับภาระมากจนเกินไป อีกทั้งไม้แบดรุ่นนี้ยังมีการเสริมด้วย SONIC FLARE SYSTEM ที่จะช่วยเพิ่มแรงดีดเมื่อลูกแบดสัมผัสกับหน้าตาข่ายได้มากขึ้นอีกด้วย
ไม้แบดรุ่นนี้มีการออกแบบมาให้เหล่ามือใหม่สามารถนำมาใช้งานกันได้อย่างไม่ติดขัด ตัวไม้แบดมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา มีน้ำหนักเพียง 5U เท่านั้น ส่วนของตัวก้านเป็นแบบอ่อน มีความยืดหยุ่นสูงมาก เหมาะกับผู้เล่นสายควบคุม ตัวไม้จะมีคุณสมบัติที่ช่วยลดแรงดูดซับเมื่อลูกมากระทบไม้ได้เป็นอย่างดี สามารถตีโต้ลูกได้โดยไม่ต้องออกแรงมากจนเกินไป ตัวเฟรมผลิตมาจาก Graphite และ Resin ตัวไม้มีสีสันและลวดลายที่ดูสวยงาม ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการออกกำลังกายหรือฝึกทักษะการเล่นแบดมินตันได้ แต่เนื่องจากเป็นไม้แบดน้ำหนักเบาจึงอาจจะตบลูกแรงหรือเน้นเล่นเกมสายบุกได้ไม่ดีมากนัก
สำหรับไม้แบดรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมามากกว่า 10 ปี และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยในการพัฒนามาเป็นรุ่น 11 TOUR นี้ จะมีการช่วยให้ผู้เล่นมือโปรสายควบคุมสามารถนำมาใช้ในการเล่นแบดได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวเฟรมผลิตมาจาก HM Graphite มีความมั่นคงมาก ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อลูกกระทบกับเอ็นได้เป็นอย่างดี นอกจากจะทนทานแล้วยังมีความยืดหยุ่นมากด้วย แม้ว่าจะเหมาะกับผู้เล่นสายควบคุม แต่ด้วยน้ำหนักของตัวไม้จึงช่วยให้คุณตบลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเอ็นเป็น BG65 นอกจากประสิทธิภาพในการโต้ลูกแล้ว ส่วนของดีไซน์ยังมีความสวยงามเป็นอย่างมากอีกด้วย
Kawasaki เป็นแบรนด์ที่เพิ่งมีกระแสตอบรับในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่แบรนด์นี้ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีการผลิตไม้แบดมินตันคุณภาพสูง มีมาตรฐาน ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เหมาะกับนักแบดมือโปรหรือผู้ที่เล่นแบดมินตันแบบจริงจัง ดีไซน์ภายนอกใช้สีที่แตกต่างผสมผสานกันดึงดูดสายตา มอบความรู้สึกสดใส เสริมลุคสายสปอร์ตให้แก่ผู้ใช้งานได้ แถมเป็นไม้กลุ่มที่ใช้งานได้ทั้งเกมรุกและเกมรับด้วย
โดยน้ำหนักของไม้รุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 4U คือหนักระดับปานกลาง และเป็นก้านแข็งระดับกลางทำให้สามารถตบส่งแรงได้ดุดัน ขณะที่รับลูกสะท้อนได้มั่นคง วัสดุกราไฟท์คุณภาพสูงเน้นความยืดหยุ่นและทนทาน ด้ามจับออกแบบได้ถนัดมือไม่ยาวหรือสั้นเกินไป ทำให้จับได้แน่นพร้อมเหวี่ยงไม้ รูตาไก่หรือบริเวณสอดเส้นเอ็นมีความแข็งแรงไม่หลุดง่าย สามารถขึ้นเอ็นได้ตั้งแต่ 18 - 35 lbs เลยค่ะ
GRAND SPORT เป็นแบรนด์อุปกรณ์กีฬายอดนิยมของชาวไทย เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและยังเป็นสินค้าที่มีราคาไม่สูงมากอีกด้วย สำหรับไม้แบดรุ่นนี้มีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา สำหรับผู้เล่นมือใหม่หรือเล่นแบดเป็นงานอดิเรกก็สามารถนำไม้แบดรุ่นนี้มาใช้งานได้ โดยไม้แบดรุ่นนี้มีมาให้ใช้งานกันถึง 2 อัน นำมาใช้เล่นกันได้ทันที ตัวเฟรมมีการขึ้นรูปด้วยเหล็กทั้งชิ้น แต่ก็ไม่ได้มีน้ำหนักมากจนเกินไป อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากเป็นเฟรมที่เป็นโลหะจึงทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี ด้ามจับสามารถจับได้อย่างกระชับมือ นอกจากจะมีไม้แบดมาให้ใช้แล้วยังมีซองสำหรับจัดเก็บไม้แบดมาให้คุณได้ใช้งานกันอีกด้วย
LI-NING เป็นแบรนด์หนึ่งที่เหล่าผู้เล่นแบดมินตันมันจะนำไม้แบดจากแบรนด์นี้มาใช้งาน เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่มีการผลิตไม้แบดตามมาตรฐาน มีการเลือกใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ในการผลิต ทางแบรนด์มีไม้แบดให้เลือกใช้งาน 2 น้ำหนัก คือแบบ 4U และ 5U ตัวไม้มีความยืดหยุ่นสูง ความแข็งของไม้อยู่ในระดับปานกลาง เหมาะกับผู้เล่นกลุ่ม ALL Around ที่เล่นได้ทั้งเกมรุกและเกมรับ ส่วนของเอ็นสามารถขึ้นได้ 28 lbs เมื่อนำมาใช้จะต้องออกแรงเหวี่ยงในระดับหนึ่ง ดีไซน์ภายนอกเป็นลายกราฟิกดูสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นสไตล์ไหนก็สามารถนำมาใช้ประกอบการเล่นแบดมินตันได้อย่างไม่มีปัญหา
สำหรับมือโปรที่กำลังมองหาไม้แบดมาใช้งานน่าจะสนใจไม้แบดรุ่นนี้กันอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเป็นไม้แบดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนการเล่นแบดมินตันได้เป็นอย่างดี เริ่มต้นจากดีไซน์ภายนอกที่ดูสวยงามโดดเด่นด้วยลวดลายมังกรที่ดูเท่เป็นอย่างมาก เพิ่มความโดดเด่นให้กับผู้ใช้ได้ทันทีเมื่อหยิบไม้แบดออกมา นอกจากนี้ยังมีการป้องกันไม้ให้ลวดลายเหล่านี้ถลอก ในส่วนของตัวเฟรมผลิตมาจากวัสดุพิเศษอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ผสมโมดูลัสที่มีความยืดหยุ่นสูง ไม้แบดรุ่นนี้เหมาะกับผู้เล่นสาย Power หรือผู้เล่นสายบุกหนัก เนื่องจากตัวก้านมีความแข็งและต้องใช้แรงในการเหวี่ยงไม้ค่อนข้างมาก เพิ่มความแม่นยำในการส่งลูกได้มากยิ่งขึ้น
VENSON BLADE 7000 Series เป็นไม้แบดมินตันยอดนิยมสำหรับมือใหม่ แม้จะไม่ได้มีจุดเด่นในเรื่องของน้ำหนักเพราะมีน้ำหนัก 3U และ 4U ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ต้องใช้แรงในการตี แต่วัสดุที่ใช้ในการผลิตทางแบรนด์เลือกใช้กราไฟท์จากญีปุ่นที่มีความทนทานสูง ก้านแข็งระดับกลางซึ่งทำให้เป็นไม้แบบ All-Around ที่มือใหม่ควบคุมง่ายไม่ว่าจะรุกหรือรับนั่นเอง
นอกจากนี้มีการออกแบบเฟรมใหม่เป็นเฟรมหกเหลี่ยมซึ่งช่วยตัดอากาศจากการเหวี่ยงเฉียบขาดขึ้น ลดแรงต้านทำให้ใช้แรงในการตีน้อยลง มีการหยิบเอาระบบตาไก่ 76 รูมาใช้เสริมความแข็งแรงของรูร้อยเอ็น ทำให้ขึ้นได้สูงสุด 30 lbs มีซองป้องกันและเอ็นแถมมาให้ไม่ต้องซื้อเพิ่ม เรียกว่าหากฝึกฝนจนถึงระดับแข่งขันก็ยังสามารถใช้ไม้แบดรุ่นนี้ต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนค่ะ
ความน่าสนใจของไม้แบดรุ่นนี้คือผลิตมาจากวัสดุ High Modulus Graphite เป็นไม้ที่มีความแข็งแรง ทนทาน แต่มีน้ำหนักเบา อย่างไรก็ตามเป็นไม้แบดที่เหมาะกับเกมรุกเป็นอย่างมาก รองรับการขึ้นเอ็นได้สูงสุด 32 lbs เป็นไม้สายรุกที่มือใหม่หรือคนที่เล่นแบดเป็นประจำสามารถนำมาใช้งานได้ ส่วนของไม้มีการออกแบบมาให้สามารถควบคุมทิศทางของลูกแบดได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ช่วยลดการใช้แรงจากกล้ามเนื้อได้มากกว่าปกติ สีสันของไม้แบดดูสวยงาม น่าใช้ ช่วยเพิ่มแรงตบหรือกำลังส่งลูกได้เป็นอย่างดี บริเวณด้ามจับมีการออกแบบมาให้จับได้กระชับมือ ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหญิงหรือผู้เล่นชายก็สามารถนำมาใช้ประกอบการเล่นแบดมินตันได้
ALPSPORT อาจเป็นแบรนด์ไม้แบดมินตันที่ไม่คุ้นหูมาก แต่ด้วยราคาและคุณภาพก็ถือว่าเป็นไอเทมที่เหมาะสำหรับมือใหม่ทีเดียวค่ะ โดยจุดเด่นของไม้แบดมินตันรุ่นนี้ก็คือดีไซน์ที่ถูกเอาใจใส่เป็นพิเศษ สวย ใช้โทนสีม่วงเป็นหลัก ที่สำคัญมาพร้อมกล่องสุดพรีเมียมและกระเป๋าเก็บรักษาไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม เป็นไม้คาร์บอนไฟเบอร์ 100% น้ำหนักเบาไม่เหมือนรุ่นไหน ๆ
ซึ่งน้ำหนักในรุ่นนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในรุ่นที่เบาที่สุดก็ว่าได้เพราะหนักเพียง 52 กรัม หรือ 10U เท่านั้น ผู้หญิงที่มีแรงน้อยใช้งานได้ไม่ต้องกังวลว่าจะปวดกล้ามเนื้อหลังตีต่อเนื่อง มีระบบไคเนติกเสริมความดีดยืดหยุ่นของก้าน เหมาะเป็นไม้ที่ใช้ตีสำหรับลูกหน้าเน็ต ลูกดาดหรือลูกโฉบ แต่มีข้อแนะนำคือด้วยน้ำหนักที่เบามาก ดังนั้นไม้รุ่นนี้จะมีจุดอ่อนเรื่องพลังของแรงตีค่ะ
เมื่อซื้อไม้แบดมินตันมาแล้วมีการขึ้นเอ็นมาให้ด้วย ควรจะตรวจสอบความตึงของเอ็นทุกครั้ง เพราะปกติเอ็นที่มากับไม้มักจะหย่อนมาก หากเป็นผู้เล่นมือใหม่หรือเล่นเป็นครั้งคราวอาจไม่มีปัญหา แต่ถ้าต้องการเล่นเพื่อออกกำลังกายจริงจัง หรือคนที่ต้องการเล่นในระดับชำนาญก็ควรไปขึ้นเอ็นใหม่ โดยเลือกขนาดและความตึงของเอ็นให้เหมาะกับการเล่นของตนเองมากที่สุด
mybest อาจได้รับค่าคอมมิชชั่นบางส่วนเมื่อกดซื้อสินค้าในเว็บไซต์
ข้อมูลสินค้าหรือบริการแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาของผู้ผลิตและเว็บไซต์ e-commerce
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ