ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
นาฬิกา G-Shock เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่ผลิตโดย Casio แบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตนาฬิกาและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่น และถือเป็นแบรนด์ระดับโลกเลยทีเดียว นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1983 G-Shock ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์และฟังก์ชันการใช้งานครบครัน จึงครองใจคนที่ชื่นชอบนาฬิกาทรงสปอร์ตได้ไม่ยาก ซึ่งโดยปกติแล้วหลายคนอาจเคยชินกับนาฬิกาดิจิตอล แต่ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำนาฬิกา G-Shock แบบอนาล็อก ที่มีกลไกสุดคลาสสิกให้ทุกคนได้รู้จักกัน เช่น MR-G, MT-G, G-Steel และ Big Case ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก
ก่อนอื่นเราจะพาไปดูวิธีการเลือกเล็ก ๆ น้อย ๆ ถัดไปจะเป็นการจัด 10 อันดับ นาฬิกา G-Shock อนาล็อก รุ่นยอดนิยม ทั้งรุ่นกลไกอนาล็อกทั่วไป รุ่นที่มีฟังก์ชัน Radio Wave หรือฟังก์ชัน Tough Solar หากพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยค่ะ !
มายเบสท์ผลิตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ทุกวันตั้งแต่ "เครื่องสำอางและสกินแคร์" "เครื่องใช้ไฟฟ้า" "สินค้าในชีวิตประจำวัน" ไปจนถึง "บริการ" เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีสุดตามสโลแกน "ให้ทุกการเลือกเป็นเรื่องง่าย" ผ่านผู้ใช้งานเว็บไซต์มากกว่า 3 ล้านคนต่อเดือน
สารบัญ
นาฬิกา G-Shock อนาล็อกมีหลากหลายรุ่นให้ทุกคนได้เลือกนาฬิกาที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ดังนั้น เรามาดูหลักการเลือกนาฬิกา G-Shock อนาล็อก เพื่อให้ได้รุ่นที่ตอบโจทย์มากที่สุดกันก่อน
ถึงแม้ว่า "G-Shock" จะเป็นหนึ่งในสินค้าของ Casio แต่ G-Shock ก็ยังสามารถแบ่งออกเป็นซีรีส์ต่าง ๆ ได้อีก ซึ่งเรากำลังจะพาคุณไปทำความรู้จักกับแต่ละซีรีส์ ดังต่อไปนี้
ซีรีส์ MR-G ถือเป็นความสุดยอดของ G-Shock มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสุดของแบรนด์ มีจุดเด่นที่การผลิตชิ้นงานโดยเน้นงานฝีมือ (Carftmanship) แบบญี่ปุ่น ที่พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียดขั้นตอนการผลิต บริเวณหน้าปัดมีลวดลายสวยงามที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ใส่ดีเทลเข็มนาฬิกาด้วยการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายดาบ อีกทั้งยังใช้วัสดุที่มีความทนทานสูงอย่างไทเทเนียม รวมถึงการเลือกใช้สีที่ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่งและหรูหราโดดเด่น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัสดุและการผลิตที่ต่างออกไปจึงทำให้ซีรีส์นี้มีราคาค่อนข้างสูงอยู่ที่ประมาณ 40,800 - 88,000 บาท หรือมากกว่านั้น ซึ่งถือว่าสูงกว่าราคา G-Shock รุ่นทั่วไปที่เรามักจะคุ้นเคยกันอย่างมากเลยทีเดียว ทำให้ซีรีส์นี้เหมาะกับวัยทำงาน คนที่ชื่นชอบญี่ปุ่น หรือนักสะสมค่ะ
สำหรับซีรีส์ MT-G หรือ "Metal Twisted G-Shock" มีโครงสร้างป้องกันแกนกลางที่ผสมผสานระหว่างแกนโลหะแบบดั้งเดิมและแกนเรซินเสริมคาร์บอน พร้อมกับครอบด้วยกรอบโลหะ จึงมีความทนทานสูง อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Triple G Resist ที่ทนต่อแรงสั่นสะเทือน แรงกระแทก และแรงเหวี่ยง ทำให้เหมาะกับการใช้งานในสภาวะสมบุกสมบันหรือกิจกรรม Adventure ต่าง ๆ รวมถึงยังมีเทคโนโลยีการรับสัญญาณวิทยุจากดาวเทียม GPS หรือสัญญาณวิทยุภาคพื้นดิน ช่วยให้แสดงผลเวลาได้อย่างแม่นยำในทุกพื้นที่ทั่วโลก
สำหรับรุ่นที่ได้รับความนิยมคือ MTG-B2000 ที่โดดเด่นด้วยกรอบเคลือบเงาแบบเมทัลลิก ให้ความรู้สึกแข็งแรงและหรูหรา นอกจากนี้ ยังมีรุ่นที่มาพร้อมสายยางที่ผลิตจากยูรีเทน ที่สัมผัสนิ่มสวมใส่สบายให้เลือกตามความชื่นชอบด้วยค่ะ
G-Steel คือซีรีส์ที่ผสมผสานระหว่างดีไซน์สุดล้ำและความทนทานเข้าด้วยกัน โดยได้นำเทคโนโลยียุคใหม่มาใช้กับรุ่นนี้ ที่เรียกว่าโครงสร้างป้องกันเป็นชั้นแบบใหม่ หรือ Layer Guard Structure โดยภายในตัวเรือนจะมีเรซินคอยรองรับแรงกระแทก พร้อมกับมีโครงสร้างป้องกันแกนกลางที่ทำจากคาร์บอน ช่วยเสริมความแข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญยังใช้พลังงาน Tough Solar และสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ รวมถึงมีช่องบอกเวลาแบบดิจิทัล ที่หากเข็มนาทีเดินวนไปปิดบริเวณดังกล่าว จะมีฟังก์ชันหมุนเข็มนาฬิกาชั่วคราวเพื่อให้มองเห็นเวลาได้ชัดเจน
สำหรับรุ่นที่ได้รับความนิยมในซีรีส์นี้คือ GST-B100 รุ่นคลาสสิกในตำนาน และ GST-B400 รุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังมาแรงไม่แพ้กัน โดยรุ่นใหม่นี้ได้พัฒนาให้มีความบางและเบากว่ารุ่นก่อน จึงสวมใส่สบายและใช้งานได้หลายโอกาสยิ่งขึ้นค่ะ
ซีรีส์ MASTER OF G ออกแบบภายใต้แนวคิด "ที่สุดแห่งแผ่นดิน ท้องทะเล และอากาศ" โดยเริ่มจากรุ่น "Gravitymaster" ที่ผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของนักบิน มีความเที่ยงตรงสูง หน้าจออ่านง่าย พร้อมมีฟังก์ชันวัดความสูง ต่อมาเป็นรุ่น "Mudmaster" ซึ่งในตอนแรกออกแบบมาเพื่อใช้ในการทหารที่ต้องฝึกบนพื้นดิน จีงมีความสามารถป้องกันฝุ่น และโคลนไม่ให้เข้าไปในตัวเรือนได้
สุดท้ายคือรุ่น "Gulfmaster" ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ "นาฬิกาแห่งท้องทะเล" ออกแบบมาเพื่อคนที่จะต้องทำกิจกรรมทางน้ำอยู่ตลอด เช่น ชาวประมงหรือทหารเรือ โดยมีฟังก์ชันที่สำคัญคือ "Quad Sensor" สำหรับวัดความดันน้ำ แรงแม่เหล็ก ความกดอากาศ และอุณหภูมิ โดยซีรีส์นี้เหมาะกับคนที่ต้องการนาฬิกาทนทาน เที่ยงตรง และมีคุณภาพสูงค่ะ
Big Case เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยดีไซน์ที่ดูมีมิติและแข็งแกร่ง อัดแน่นไปด้วย DNA ของ G-Shock จึงเป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คน นอกจากนี้ ยังใช้กลไกกึ่งอนาล็อกกึ่งดิจิทัล มีฟังก์ชันหลากหลาย เช่น การจับเวลาได้แบบ 1/100 ถึง 1/1000 วินาที มาพร้อมกับไฟ LED ช่วยให้อ่านเวลาได้แม้อยู่ในที่มืด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้รูปทรงของซีรีส์นี้จะดูทรงพลังและซับซ้อนตามสไตล์ของ G-Shock แต่สำหรับการใช้งานนั้นไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด ในซีรีส์เดียวกันก็มีหลายดีไซน์ และมีหลายสีให้เลือกสรร เหมาะกับคนที่กำลังมองหานาฬิกาที่ทั้งทนทานและมีความเป็นแฟชั่นในตัวด้วยค่ะ
หนึ่งในข้อเสียของนาฬิกาแบบอนาล็อกคือ หน้าปัดที่ซับซ้อนทำให้อ่านเวลายาก จนกลายเป็นว่าการสวมใส่นาฬิกาเป็นเสมือนการเครื่องประดับไปโดยปริยาย โดยหากใครที่กำลังลังเลใจว่าจะซื้อ G-Shock ดีหรือไม่เพราะกลัวปัญหานี้จะตามมา เราขอแนะนำให้คุณเลือกรุ่นที่มีการผสมผสานระหว่างกลไกอนาล็อกและดิจิทัลเข้าด้วยกัน
อีกทั้งยังสามารถเลือกโมเดลที่เน้นในเรื่องของการอ่านเวลา ยกตัวอย่างเช่น ซีรีส์ GA-2000, GA-2100, AW-590 หรือ G'MIX เป็นต้น อย่างไรก็ตาม นอกจากดีไซน์จะสำคัญต่อการเลือกนาฬิกาแล้ว แต่ทุกคนต้องไม่ลืมในเรื่องของประสิทธิภาพ และความเหมาะสมในการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะคะ เพราะถือว่าสำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ
หนึ่งในซีรีส์ Frogman ตัวท็อป ๆ ของ G-Shock ที่ผ่านการรับรองของ ISO6425 ในเรื่องการทดสอบการดำน้ำ จึงเหมาะสมกับผู้ที่ชื่นชอบทำกิจกรรมทางน้ำอย่างมาก เพราะมีการแสดงข้อมูลน้ำขึ้นน้ำลง วัดเวลาการดำน้ำในรูปแบบอนาล็อก เข็มนาฬิกาเรืองแสงที่สามารถมองเห็นในที่มืด มี Multi band 6 ช่วยเรื่องปรับเวลา รวมถึงการแสดงผลของหน้าปัดที่ทำให้อ่านค่าได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ตัวเรือนยังใช้วัสดุประเภทคาร์บอนและสเตนเลสสตีลที่ทนทานต่อแรงกระแทกและคลื่นแม่เหล็ก ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งจ่ายพลังงาน ทั้งยังเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้
นาฬิกา G-Shock รุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคลื่นเสียงและมีการออกแบบของสเตอรีโอโฟนิกส์วงร็อคชื่อดัง ทำให้หน้าปัดมีความโค้งหยักไปมาเหมือนคลื่น ตัวเรือนแข็งแรงทนทานด้วยหน้าปัดกระจกมิเนอรัล พร้อมคุณสมบัติดำน้ำลึก 200 เมตร มีโครงสร้างป้องกันแกนกลางทำให้ทนรับต่อแรงกระแทกได้สูง มองเห็นได้ในที่มืด หน้าจอมีทั้งเข็มอนาล็อกและนาฬิกาดิจิตอล ตัวจับเวลาแม่นยำด้วยความละเอียด 1/100 วินาที อีกทั้งยังมีดีไซน์ทรงสปอร์ตแบบเรียบ ๆ ที่สำคัญคือราคาไม่แพง เหมาะกับวัยเรียนอย่างมากค่ะ
จุดเด่นของนาฬิกา G-Shock รุ่นนี้คือตัวเรือนแบบชิ้นเดียวที่มีการผสานด้วยโลหะและคาร์บอนเสริมเรซิน พ่วงด้วยกรรมวิธีเฉพาะที่ทำให้มีน้ำหนักเบาในขณะที่มีขนาดหน้าปัดถึง 55.1 มิลลิเมตร ทั้งยังมีแผ่นคาร์บอนล้อมรอบตำแหน่ง 3, 6, 9 และ 12 นาฬิกาที่ทำให้ตัวเรือนทนต่อแรงกระแทกมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟนผ่านระบบบลูทูธ สามารถชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ได้ มีระบบ Multi band 6 ที่ทำให้บอกเวลาแม่นยำอยู่เสมอ รวมถึงยังมีคุณสมบัติเลื่อนเข็มนาฬิกาซึ่งช่วยให้มองหน้าปัดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมในซีรีส์ Metal Covered ที่ได้รับความนิยมจากคนวัยทำงานที่ต้องการภาพลักษณ์เรียบหรูดูสะอาดตาที่มาพร้อมความแข็งแรงใช้ได้ยาวนาน โดยรุ่น GM-S2100 ที่ยังคงมีกลิ่นอายของรุ่นดั้งเดิม ได้มีการใช้วัสดุสเตนเลสสตีลพร้อมกรอบผิวขนแมว ทำให้มีความแข็งแกร่งอย่างมาก พ่วงด้วยคุณสมบัติที่จำเป็นอย่างการกันน้ำ กันกระแทก มีไฟในตัว และด้วยดีไซน์กรอบทรงแปดเหลี่ยมทำให้ใช้ได้กับทุกลุคที่ต้องการ เรียกว่ามีทั้งแนวสปอร์ตและความเรียบง่ายอยู่ในเรือนเดียวกันอย่างลงตัวเลยทีเดียวค่ะ
G-Shock มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เรื่อย ๆ จนเกิดเป็นรุ่น รุ่น GA-2100-1A ที่หยิบยกรูปทรงหน้าปัดแปดเหลี่ยมจากรุ่นก่อน ๆ มาพัฒนาจนกลายเป็นนาฬิกาอนาล็อคกึ่งดิจิตอลที่มีตัวเรือนบางเพียง 11.8 มิลลิเมตร โดยใช้คาร์บอนไฟเบอร์และเรซินเนื้อแข็งเป็นวัสดุหลักของตัวเรือน ทำให้คงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งทนทานอันเป็นเอกลักษณ์ของ G-Shock นอกจากคุณสมบัติที่จำเป็นอย่างครบถ้วนแล้ว จุดเด่นของเรือนนี้คือมีไฟ LED ที่สว่างมาก มาพร้อมกับดีไซน์ทรงสปอร์ตกึ่งเรียบที่เหมาะกับทั้งวัยเรียนและวัยทำงานเลยค่ะ
อีกหนึ่งรุ่นจากซีรีส์ G-Steel ที่ทางแบรนด์พัฒนามาจากรุ่นยอดนิยมอย่าง GST-B100 ซึ่งรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กกว่า บางกว่า แต่ยังไม่ทิ้งกลิ่นอายเดิมและคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งทนทานอันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีโครงสร้างป้องกันแกนกลางแบบคาร์บอน จึงช่วยให้ดูดซับแรงกระแทกได้ดี ตัวเรือนและสายเป็นสเตนเลสสตีล พ่วงด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่เสถียรกว่าเดิม หน้าจอแสดงระดับแบตเตอรี่มีไฟ LED สีขาวสบายตา กันน้ำลึก 200 เมตร ใช้งานได้ง่ายด้วยการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รวมถึงยังมีระบบแสดงเวลาที่แม่นยำอย่างมาก
สำหรับใครที่มองหานาฬิกาเรียบหรูแต่แข็งแกร่งทนทาน ซีรีส์ G-Steel ของ G-Shock ที่มีโครงสร้างเสริมเพื่อการป้องกันนับว่าตอบโจทย์เลยค่ะ โดยรุ่น GTS-B100D-1A เป็นโครงสร้างแบบ 2 ชั้นที่มีสเตนเลสสตีลและเรซิ่นช่วยรองรับแรงกระแทก แสดงข้อมูลทั้งแบบอนาล็อกและดิจิตอล สามารถกดปุ่มเพื่อเลื่อนเข็มนาฬิกาเพื่อไม่ให้บดบังหน้าจอดิจิตอลได้ มีไฟ LED ส่องหน้าปัดที่ช่วยให้อ่านข้อมูลง่ายขึ้น มีตัวแสดงระดับแบตเตอรี่ และจ่ายพลังงานด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งยังกันน้ำอีกด้วยค่ะ
สำหรับ G-Shock รุ่น GG-B100-1A3 เป็นรุ่นที่อยู่ในซีรีส์ Mudmaster เหมาะสำหรับชายหนุ่มที่ชื่นชอบนาฬิกาอนาล็อกแบบสมบุกสมบัน และมีไลฟ์สไตล์ชอบผจญภัย เพราะรุ่นนี้ใช้วัสดุคาร์บอนที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับสูงมาก ป้องกันการเสียหายของตัวเรือนได้ดี ทนแรงกระแทกหนัก ๆ ได้ อีกทั้งยังป้องกันโคลนและฝุ่นเล็ก ๆ นอกจากจะกันแรงดันน้ำได้ถึง 20 บาร์ ยังมีระบบเนวิเกเตอร์ที่ช่วยนำทาง และสามารถบอกอุณหภูมิและระดับความสูงของพื้นที่ ที่สำคัญคือมีระบบ Mission log ที่จะแสดงบันทึกข้อมูลผ่านทางสมาร์ทโฟนให้เราตรวจสอบได้อีกด้วยค่ะ
นาฬิกา G-Shock รุ่น MTG-B1000TJ-1A ออกแบบโดย Chen Yingjie ศิลปินชาวจีนผู้รังสรรค์ผลงานด้วยหมึกสไตล์ตะวันออก โดยมีธีมเป็นปรัชญาไท่จี้ของจีน ใช้วัสดุผสมระหว่างโลหะกับเรซินและใช้เทคนิคการชุบเคลือบสีดำกับภาพดั้งเดิม ประทับแนวคิดระบบจักรวาลเวลาลงไปบนตัวเรือน พ่วงด้วยเทคโนโลยี TRIPLE G RESIST ที่ป้องกันทั้งการเหวี่ยง การกระแทก และการสั่นสะเทือน คุณสมบัติพิเศษคือสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ มีแหล่งจ่ายพลังงานด้วยระบบพลังงานแสงอาทิตย์ และมีระบบ Multi band 6 ควบคุมการปรับเวลาค่ะ
เรือนนี้อยู่ในไลน์ MRG ที่ถือเป็นตัวท็อปของนาฬิกา G-Shock กันเลยทีเดียว ด้วยการออกแบบอันพิถีพิถันอันคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของความเป็นญี่ปุ่น ทั้งตัวเข็มนาฬิกาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากดาบ และเส้นรอบวงหน้าปัดคล้ายกับพัด พร้อมด้วยตัวเรือนไทเทเนียมที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งทนทานต่อการกระแทก มีระบบบลูทูธเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ชาร์จแบตด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ กันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร และแม่นยำเรื่องเวลาด้วยฟังก์ชั่น Multi band 6 ที่สำคัญคือมีดีไซน์เรียบหรูดูภูมิฐาน
ก่อนจากไปในวันนี้เราขอทิ้งท้ายไว้กับข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ Multi Band 6 หรือการรับสัญญาณอัตโนมัติที่ทำหน้าที่รองรับสัญญาณวิทยุ (Radio Wave) จากเสาสัญญาณ 6 แห่งทั่วโลก ซึ่งระบบจะทำการปรับเวลาให้อัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องปรับเวลาด้วยตนเอง จึงเหมาะกับคนที่ต้องเดินทางบ่อยครั้ง โดยเฉพาะหากจุดหมายปลายทางของคุณอยู่ภายใต้พื้นที่เสาสัญญาณนั้น ดังนั้น หากใครสนใจอยากใช้งานระบบนี้อย่าลืมตรวจสอบว่ารุ่นที่สนใจมีระบบนี้หรือเปล่าด้วยนะคะ
mybest อาจได้รับค่าคอมมิชชั่นบางส่วนเมื่อกดซื้อสินค้าในเว็บไซต์
ข้อมูลสินค้าหรือบริการแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาของผู้ผลิตและเว็บไซต์ e-commerce
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ