10 อันดับ รถยนต์คันแรก ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ขับง่าย นั่งสบาย ราคาประหยัด

HONDA City เป็นรถยนต์คันแรกที่ใครหลายคนหมายปอง ซึ่งสำหรับรุ่นนี้มีความพิเศษคือ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV SV 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 2 ตัว ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้รุ่นนี้มีกำลังสูงถึง 122 แรงม้า และแรงบิด 173 นิวตันเมตร สามารถประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.8 กม./ลิตร เลยทีเดียวครับ

มาพร้อม Honda SENSING เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ดีไซน์โฉบเฉี่ยว โดยเฉพาะกระจังและไฟหน้าที่ดูพรีเมียมเป็นเอกลักษณ์ ส่วนภายในก็ดูกว้างขวางหรูหรา ปลอดภัยด้วยระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง อีกทั้งยังมาพร้อมระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมพอร์ตชาร์จ Type-C ทันสมัยครับ

สำหรับคนที่ไม่ชอบรถเก๋ง Sedan หรือ Hatchback เราขอแนะนำ Corolla Cross 1.8 Sport Plus คันนี้เลย เพราะเป็น Compact SUV ที่มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ต โดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์ไฟและกระจังหน้าที่ดูหล่อเหลา โดยไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ LED ให้ความสว่างสูงทั้งตอนกลางคืนและกลางวัน ส่วนไฟท้ายก็เป็น LED แบบ Light Guiding มองเห็นชัดเจนครับ

ในส่วนของรุ่นย่อย 1.8 Sport Plus นี้ จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 2ZR-FBE เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังสูง 140 แรงม้า แรงบิด 177 นิวตันเมตร ขับสนุกรถไม่อืด ตอบโจทย์ทั้งขับขี่ในเมืองและข้ามจังหวัด รองรับทั้ง E85 และ E20 ส่วนภายในมีระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสและแอร์แถวกลาง พร้อมพอร์ตชาร์จ USB มาให้ครับ

สำหรับรถ SUV อเนกประสงค์จาก MITSUBISHI รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ตอบโจทย์กับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทาง เพราะสามารถพาคุณไปได้ทุกที่ และยังมีกล้อง 360 องศาสำหรับมองภาพรอบคัน แม้เป็นมือใหม่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะจอดรถลำบากเลย นอกจากนี้ ประตูท้ายรถยังเปิด-ปิดด้วยระบบแฮนด์ฟรี ซึ่งเป็นระบบไฟฟ้าที่คุณสามารถเปิดและปิดประตูได้โดยไม่ต้องใช้มือเปิดเอง 

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.4D GT-Premium 2WD 4 สูบ 16 วาล์ว เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ปลอดภัยด้วยกล้องมองภาพรอบคัน พร้อมระบบแจ้งเตือนรอบตัวรถ เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 8 ระดับ และมีระบบปรับอากาศ nanoe™ X จาก Panasonic ช่วยกรองอากาศบริสุทธิ์ด้วยประจุไอออนลบ ให้คุณหายใจได้เต็มปอดเมื่ออยู่ภายในรถครับ

YARIS ATIV Smart เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในหมู่วัยเรียนมหาลัย ไปจนนักศึกษาจบใหม่และผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงาน เนื่องจากมีดีไซน์ทันสมัย ไฟหน้าโฉบเฉี่่ยว และมีหลายสีสันให้เลือก เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ที่สำคัญคือมีราคาไม่สูงมากเพียง 594,000 บาท รวมไปถึงมีฟีเจอร์และเทคโนโลยีพื้นฐานที่จำเป็นต่อการขับขี่มาครบครัน

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 3NR-VE 4 สูบ 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-iE 1,197 cc 94 แรงม้า ใช้เชื้อเพลง E20 เป็นแหล่งพลังงาน โดยสามารถประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 ลิตร/กม. พร้อมถังน้ำมันความจุ 40 ลิตร ขับขี่ได้ไกล ในส่วนของภายในมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว เชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ครับ

หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับรถเก๋งกันไปหลายอันดับแล้ว คราวนี้เรามาดูรถกระบะคันแรกกันบ้างดีกว่า ซึ่ง D-MAX Hi-Lander รุ่นนี้ มีจุดเด่นคือ เป็นกระบะยกสูงแบบ 2 ประตู ดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัย แข็งแกร่ง ลุยได้ทุกที่ด้วยเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power Gen.2 กำลังสูง 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แถมยังขับง่ายขึ้นเพราะเป็นเกียร์ออโต้ 6 สปีด

มีโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic ที่ช่วยให้คุณเปลี่ยนเกียร์ได้แบบเกียร์ธรรมดา มีความแม่นยำสูงและตอบสนองดี โครงสร้างช่วงล่างมีความแข็งแรงทนทาน สมดุล บรรทุกน้ำหนักสิ่งของได้เยอะ พร้อมลุยได้ทุกสภาพพื้นถนน เหมาะกับธุรกิจทุกประเภทไม่ว่าจะเล็กใหญ่ ด้านในกว้างขวางนั่งสบาย พร้อมเบาะ COOLMAX ลดการสะสมความร้อนครับ

All-New Nissan Almera เป็นรุ่นปรับใหม่จาก Nissan Almera รุ่นเดิม โดยแปลงโฉมทั้งรูปลักษณ์ให้ดูโฉบเฉี่ยว สปอร์ตมากขึ้นและมีการเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยมากมาย เช่น เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา BSW อีกทั้งยังมีกล้องรอบคันและระบบตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนไหวรอบตัวกล้อง รวมถึงระบบเบรกฉุกเฉินเมื่อมีโอกาสเสี่ยงในการกับชนรถด้านหน้า

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน HRA0 1.0 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่อง Turbo ช่วยให้รถมีกำลังดี วิ่งได้เต็มกำลัง พร้อมระบบเกียร์แบบ Xtronoc CVT With D-Step Logic ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล เพลิดเพลินกับการขับขี่มากยิ่งขึ้น ส่วนภายในมาพร้อมหน้าจอระบบสัมผัส 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทางด้วย Google Map รวมไปถึงมีพอร์ตชาร์จ USB-A และแท่นชาร์จไร้สายครับ

MAZDA2 กลับมาอีกครั้งกับเวอร์ชั่น Minorchange ที่มีการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าให้ดูทันสมัยขึ้น รวมไปถึงรุ่นพิเศษอย่าง Rookie Drive โดดเด่นด้วยสีสันของตัวรถและฝาครอบล้อให้มีความเป็นสปอร์ตเพิ่มความโดดเด่นขึ้น ส่วนภายในก็มีการปรับโฉมคอนโซลใหม่ และยังมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto

มีแท่นชาร์จไร้สายมาให้พร้อมใช้งาน ส่วนเบาะนั่งคนขับเป็นระบบไฟฟ้าปรับได้ 6 ทิศทาง มาพร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวกมาลัย ขับขี่ได้สะดวกขึ้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 Skyactiv-G เกียร์ออโต้ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า และรองรับน้ำมัน E20 ปลอดภัยด้วยระบบเบรก EDB และระบบช่วยเบรก BA  และเบรก ABS แบบ 4 ล้อ หรือ 4W-ABS

ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าได้รับความสนใจมากขึ้น ไม่เฉพาะต่างประเทศ แต่รวมถึงประเทศไทย เนื่องจากนโยบายใหม่ของรัฐบาลที่ช่วยสนับสนุนค่ารถยนต์ส่วนหนึ่ง ทำให้รถไฟฟ้ามีราคาถูกลง เช่นเดียวกันกับน้องเล็กอย่าง NETA V ที่โดดเด่นด้วยรูปทรงแบบ Compact Crossover SUV ขนาดกำลังดี ที่เปิดตัวด้วยราคารวมส่วนลดจากรัฐบาลเพียง 549,000 บาท เท่านั้น

ในส่วนของเครื่องยนต์ไฟฟ้ามีกำลัง 95 แรงม้า ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 40.7 kWh ขับขี่ได้ไกลสูงสุด 384 กิโลเมตร พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ABS และ EBD รวมถึงเบรกมือไฟฟ้า EPB อีกทังยังมี Cruise Control ขับขี่ระยะทางไกลได้ไม่เมื่อย ที่สำคัญคือมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 14.6" รองรับทั้ง iOS และ Android ครับ

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่กำลังมองหารถยนต์คันแรกสำหรับครอบครัวขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง SUZUKI ERTIGA Smart Hybrid คันนี้ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นรถยนต์สไตล์ Mini MPV 7 ที่นั่ง ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย มีช่องปรับอากาศตอนกลาง กระจายความเย็นทั่วถึง และมี ISOFIX จุดยึดเบาะ Car Seat สำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ K15B และมอเตอร์ ISG ผสานเทคโนโลยี SMART HYBRID ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในการเสริมกำลังการทำงานเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และประหยัดน้ำมันได้ถึง 17.9 กม./ลิตร ในส่วนของระบบความปลอดภัยก็มีทั้งเบรก ABS, EBD รวมถึง ESP ช่วยในการทรงตัว และ Hill Hold Control ช่วยออกตัวเมื่อขึ้นทางลาดชัน

มาดูรถยนต์ Mini MPV 7 ที่นั่งแนวครอบครัวจาก HYUNDAI กันบ้าง ซึ่งจุดเด่นแรกของรุ่นนี้ก็คือดีไซน์ของตัวรถ ที่มีความ Futuristic ดูล้ำสมัย ใครเห็นเป็นต้องเหลียวมอง อีกทั้งยังมาพร้อมไฟหน้า LED เต็มระบบ ให้แสงสว่างได้ดีทั้งตอนกลางวันและกลางคืน ส่วนไฟท้ายก็เป็นดีไซน์แบบ H-shape LED รูปตัว H ทอดยาว เพื่อสื่อถึงสัญลักษณ์ของแบรนด์

ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทคโนโลยี Smartstream ขนาด 1.5 ลิตร 115 แรงม้า พร้อมโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีที่ครบครัน ทั้งหน้าจอ 8 นิ้ว พร้อมแท่นชาร์จไร้สาย รวมถึงระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน กล้องมองหลังสำหรับถอยรถ พร้อมระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อต้องจอดรถในที่อับสายตา