10 อันดับ หูฟังไร้สาย JBL รุ่นไหนดี ปี 2023 รวม In-Ear, Earbuds, Headphone

กลับมาอีกครั้งกับหูฟังไร้สาย JBL รุ่นอัปเกรดระดับเรือธงอย่าง Live Pro 2 คู่นี้ ที่ได้พัฒนาคุณภาพหลายด้านให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ของหูฟังที่กะทัดรัดและสวมใส่สบาย รวมไปถึงการใช้ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 11 mm พร้อมระบบเสียง JBL Signature Sound เบสแน่นจัดเต็ม เอาอยู่ทุกแนวเพลง แถมยังมีแบตเตอรี่อึด ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 10 ชั่วโมง และชาร์จกับเคสได้ถึง 40 ชั่วโมงค่ะ

มีระบบตัดเสียงรบกวน Adaptive Noise Cancelling ที่ผสานกับดีไซน์หูฟังแบบ Oval Tubes™ ลิขสิทธิ์เฉพาะ ช่วยตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น รวมถึงมีฟังก์ชัน Ambient Aware สำหรับรับฟังเสียงรอบข้างอีกด้วย ที่สำคัญคือมีไมโครโฟนถึง 6 ตัว คุยสายได้ชัดแจ๋วไม่ว่าจะจากโทรศัพท์หรือแอปฯ อีกทั้งยังกันน้ำที่ระดับ IPX5 และปรับแต่ง EQ ผ่านแอปได้ค่ะ

สำหรับคนที่ไม่ชอบหูฟังดีไซน์แบบ In-Ear เพราะรู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายหู เราขอแนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ เพราะเป็นหูฟังไร้สาย JBL แบบ TWS ที่มาพร้อมกับดีไซน์แบบแปะหูหรือ Earbuds ไม่ได้สอดเข้าไปในรูหูโดยตรง ทำให้สวมใส่สบายขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Canceling และ Ambient Aware จะตัดเสียงรบกวนหรือรับฟังเสียงรอบข้างก็ทำได้ค่ะ

มาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาดใหญ่ถึง 12 mm ระบบเสียง JBL Pure Bass Sound เสียงเบสชัดเจนแต่ไม่หนักจนเกินไป เหมาะสำหรับฟังเพลงสบาย ๆ หรือพอดแคสต์ ที่สำคัญคือสามารถเชื่อมต่อกับแอปฯ JBL Headphones เพื่อปรับแต่งรูปแบบเสียงหรือ EQ ได้ตามใจ รวมถึงปรับ Gestures ในการควบคุมหูฟังได้ นอกจากนี้ ยังกันน้ำที่ระดับ IPX4 โดนละอองเหงื่อหรือฝนได้ค่ะ

นอกจากซีรีส์ Endurance Run แล้ว หูฟังไร้สาย JBL ก็ยังมีซีรีส์ Reflect ที่ออกแบบมาเพื่อสายออกกำลังกายเช่นเดียวกัน ซึ่ง Reflect Flow Pro รุ่นนี้ มีความพิเศษที่ชิ้นส่วนเสริมพิเศษบนหูฟังอย่าง POWERFINS ที่ใช้สำหรับล็อกกับใบหูด้านใน เพื่อให้สวมใส่ได้อย่างแน่นหนาไม่มีหลุด ไม่ว่าจะเคลื่อนที่ด้วยท่วงท่าไหนก็ตาม จึงเหมาะสำหรับการออกกกำลังกายทุกชนิด ไม่ใช่แค่การวิ่งเพียงอย่างเดียว

ระบบเสียงก็ไม่ธรรมดา ด้วยไดรเวอร์ 6.8 mm และ JBL Signature Sound เบสแน่น อีกทั้งยังมีระบบตัดเสียงรบกวน Adaptive Noise Cancelling เพื่อเพิ่มสมาธิในการออกกำลังกาย รวมถึง Ambient Aware ก็มีมาให้เช่นเดียวกัน ที่สำคัญคือกันฝุ่นและน้ำระดับ IP68 ลุยได้ทุกสภาพอากาศ แม้ว่าฝนตกหนัก แถมเคสยังมีสายคล้องมาให้ พกพาสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ

หากคุณรู้สึกว่าหูฟัง JBL ซีรีส์ Quantum แบบคาดหัวนั้นมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะสำหรับพกพา และมักจะเล่นเกมบนสมาร์ตโฟนเป็นส่วนใหญ่ รุ่นนี้มาเพื่อตอบโจทย์การพกพาที่สะดวกยิ่งขึ้น เพราะเห็นหูฟังเกมมิ่งแบบ TWS ที่มีหมัดเด็ดคืออุปกรณ์เสริมอย่าง Type-C Dongle 2.4GHz ไว้ใช้สำหรับเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ที่มีอินเทอร์เฟซ Type-C 

ซึ่งเจ้า Dongle นี้ จะช่วยลด Latency หรือความหน่วงระหว่างอุปกรณ์ให้ต่ำลง ทำให้ได้ยินเสียงภายในเกมแบบทันทีโดยไม่รู้สึกถึงความหน่วง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเกมเดินยิงที่ต้องอาศัยการฟังเสียงฝีเท้าของฝ่ายตรงข้าม โดยดีเลย์จะต่ำกว่าการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีระบบเสียงรอบทิศทาง JBL QuantumSURROUND แต่จะใช้งานได้เฉพาะกับ PC เท่านั้นค่ะ

เมื่อเทียบกับราคาแล้ว หูฟังไร้สาย JBL แบบครอบหู Full Sized รุ่นนี้ ถือได้ว่าคุ้มค่าอย่างมาก เพราะมาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน Adaptive Noise Cancelling ที่จะช่วยให้คุณฟังเพลงหรือคอนเทนต์เสียงได้เต็มอรรถรสโดยไม่มีเสียงรบกวนรอบข้าง อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Ambient Aware ที่จะรับเสียงจากรอบข้างเข้ามาในหูฟัง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในขณะใช้หูฟังตอนอยู่ข้างนอกนั่นเอง

สำหรับดีไซน์ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งรุ่นนี้จะเน้นความเรียบง่ายแต่เสริมดีเทลจากสายคาดด้านนอกที่หุ้มด้วยผ่าถักลายตาข่าย อีกทั้งยังมีให้เลือก 2 สีสัน คือสีน้ำเงินและสีดำ ที่สำคัญคือ Earcups สามารถพับเข้าหาสายคาดได้ พร้อมน้ำหนักเบาเพียง 265 g ช่วยให้พกพาสะดวกยิ่งขึ้น ไดรเวอร์มีขนาด 40 mm ระบบเสียง JBL Signature Sound เหมาะกับการฟังเพลงทุกแนวค่ะ

นี่คือหูฟังไร้สาย JBL แบบ TWS ที่มาพร้อมกับระบบ Active Noise Cancelling ในราคาย่อมเยา ฟังเพลงหรือคอนเทนต์เสียงได้อย่างมีสมาธิ ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนรอบข้าง อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Ambient Aware รับเสียงรอบข้างในขณะฟังเพลง เพื่อให้คุณรับรู้ถึงสถานการณ์โดยรอบ เหมาะอย่างยิ่งเมื่อต้องใช้หูฟังในสถานที่กลางแจ้งที่มีคนเยอะหรือรถสัญจรไปมาค่ะ

มาพร้อมไมโครโฟน 4 ตัว คุยโทรศัพท์กับปลายสายได้อย่างชัดเจน ส่วนไดรเวอร์หูฟังมีขนาด 6.0 mm ระบบเสียง JBL Pure Bass ให้เสียงเบสที่เด่นชัด รวมไปถึงย่านเสียงอื่น ๆ ด้วย ที่สำคัญคือสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน JBL Headphones App เพื่อปรับแต่งรูปแบบเสียงหรือ EQ ได้ตามใจ นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังสามารถกันน้ำได้ที่ระดับ IPX4 โดนละอองฝนหรือเหงื่อได้ค่ะ

สำหรับเหล่าเกมเมอร์ที่กำลังมองหาหูฟังไร้สาย JBL ไว้ใช้สำหรับเล่นเกมอยู่ เราขอแนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหูฟังเกมมิ่งไร้สายรุ่นท็อปของทางแบรนด์ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัย แถมยังมีเอฟเฟกต์ไฟ RGB ด้านข้างหูฟัง ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี โดยหูฟังจะเป็นแบบ Full-sized คาดหัว ใส่สบายด้วยวัสดุเมมโมรี่โฟมนุ่มหุ้มด้วยหนังขนาดใหญ่ ไม่เมื่อยหูแน่นอน

ขับเคลื่อนด้วยไดรเวอร์ JBL QuantumSound ขนาดใหญ่ 50 mm เก็บรายละเอียดเสียงได้ดี รวมถึงฟังก์ชัน QuantumSURROUND จำลองเสียงรอบทิศทาง ช่วยระบุตำแหน่งการเคลื่อนไหวภายในเกมได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีระบบตัดเสียงรบกวน ANC เพื่อให้คุณมีสมาธิในการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ ส่วนแบตเตอรี่ก็อึด ใช้งานได้นานสูงสุด 43 ชั่วโมงค่ะ

จากกระแส Y2K ที่กำลังกลับมาฮิตในปัจจุบัน ทำให้หูฟังแนวครอบหูกลับมาได้รับความสนใจตามไปด้วย และถ้าหากคุณมีงบประมาณที่จำกัด เราขอแนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ เพราะมาพร้อมกับราคาเบา ๆ หลัก 3,000 บาท แถมยังมีให้เลือก 3 สีสัน ไม่ว่าจะเป็นสีดำ สีน้ำเงิน และสีขาว ที่สำคัญคือพกพาสะดวก เพราะมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และ Earcups สามารถพับเข้าหาสายคาดได้ค่ะ

ไดรเวอร์มีขนาดใหญ่ 40 mm ระบบเสียง JBL Pure Bass Sound เสียงเบสชัดเจนทรงพลังตามแบบฉบับของแบรนด์ ฟังได้ทุกแนวเพลงตามที่คุณต้องการ รองรับ Bluetooth 5.0 มีความเสถียร สัญญาณไม่ขาดหายง่าย มีไมโครโฟนในตัว สามารถคุยสายได้ทันทีโดยไม่ต้องยกโทรศัพท์ นอกจากนี้ ยังมีระบบ Multi-Point สลับการเชื่อมต่อหูฟังระหว่างหลายอุปกรณ์ได้รวดเร็วค่ะ 

ดูจากภายนอกอาจจะไม่ต่างจากหูฟังไร้สาย JBL แบบคาดหัวทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้รุ่นนี้โดดเด่นก็คือฟังก์ชัน Ambient Aware ที่จะช่วยให้คุณได้ยินเสียงรอบข้างอย่างชัดเจนแม้กำลังฟังเพลงที่ชื่นชอบอยู่ รวมถึงมีฟีเจอร์ TalkThru ที่จะลดระดับเสียงเพลงลงในขณะที่คุณคุยกับเพื่อนที่อยู่ตรงหน้า นอกจากนี้ ยังรองรับฟีเจอร์ผู้ช่วยเสียงอย่าง Google Assistant และ Amazon Alexa ค่ะ

รุ่นนี้มีให้เลือกด้วยกันถึง 5 สีสัน ไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีดำ และสีขาว จึงเหมาะกับทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังมาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 50 mm ระบบเสียง JBL Signature Sound ที่เด่นเรื่องเบสแบบพุ่งตรงตามสไตล์ของ JBL และสามารถเชื่อมต่อกับแอปฯ JBL Headphones เพื่อปรับแต่ง EQ ตามที่คุณชอบได้ ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 30 ชั่วโมงค่ะ

หลายคนคงรู้กันดีว่า JBL ก็เป็นอีกหนึ่งในแบรนด์ที่ผลิตหูฟังสำหรับผู้ที่รักสุขภาพหรือชื่นชอบออกกำลังกายออกมาวางจำหน่ายหลายรุ่น เช่นเดียวกับ Endurance Run 2 Wireless รุ่นนี้ ซึ่งเป็นหูฟังไร้สาย JBL รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับดีไซน์มินิมอลเรียบง่ายและมีน้ำหนักเบา ช่วยให้สวมใส่สะดวก ไม่รู้สึกอึดอัด อีกทั้งยังมีห่วงรัดปรับระดับได้ เพื่อเพิ่มความแน่นหนาในการสวมใส่ค่ะ

รุ่นนี้กันน้ำได้ที่ระดับ IPX5 เพียงพอต่อการป้องกันเหงื่อและฝนตก สามารถสวมใส่เพื่อใช้งานกลางแจ้งได้อย่างสบายใจ สำหรับดีไซน์ของหูฟังจะเป็น FlipHook™ ที่ปรับการสวมใส่ให้เป็นได้ทั้งแบบ In-Ear และแบบแปะหู ไดรเวอร์มีขนาด 8 mm จูนเสียงแบบ JBL Pure Bass Sound เสียงเบสชัดเจน สร้างแรงจูงใจในการออกกำลังกายได้ดี ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมงค่ะ