ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
การลงทุนใน Cryptocurrency ไม่ว่าจะเป็นการขุดเหรียญด้วยตัวเอง หรือซื้อขายผ่านตลาดกลางอย่าง Binance หรือตลาดมาแรงในไทย Bitkub ต่างก็ต้องการความมั่นใจว่าทุกเหรียญที่มีอยู่นั้นไม่สูญหายและถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัย ด้วยเหตุนี้ Crypto Wallet จึงมีบทบาทสำคัญในการรักษาทุกเหรียญที่มีอยู่ รวมถึงอำนวยความสะดวกสำหรับการโอน ถอน หรือทำธุรกรรมอื่น ๆ นั่นเองครับ
การเลือก Crypto Wallet มีส่วนสำคัญอย่างมากกับไลฟ์สไตล์การลงทุนและการออมใน Cryptocurrency ของแต่ละคน บางคนอาจจะเน้นการเก็บที่มั่นคง ปลอดภัย เป็นอุปกรณ์ที่จับต้องได้ แต่อีกหลายคนอาจจะเน้นความสะดวกสบายในการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 ปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือก Crypto Wallet ซึ่งได้แก่ ระบบรักษาความปลอดภัยและสกุลเหรียญ Crypto ที่รองรับ เราจึงได้รวบรวมวิธีการเลือก Crypto Wallet และยังมี 10 Crypto Wallet ที่น่าสนใจมาให้คุณพิจารณากันด้วยครับ
มายเบสท์ผลิตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ทุกวันตั้งแต่ "เครื่องสำอางและสกินแคร์" "เครื่องใช้ไฟฟ้า" "สินค้าในชีวิตประจำวัน" ไปจนถึง "บริการ" เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีสุดตามสโลแกน "ให้ทุกการเลือกเป็นเรื่องง่าย" ผ่านผู้ใช้งานเว็บไซต์มากกว่า 3 ล้านคนต่อเดือน
Crypto Wallet เปรียบเสมือนกุญแจมากกว่าเป็นกระเป๋าสตางค์ตามตัวอักษร เพราะปกติ Cryptocurrency ของเรานั้นจะถูกเก็บในระบบผ่านเทคโนโลยี Blockchain อยู่แล้ว แต่การเข้าถึงเหรียญเหล่านี้จำเป็นจะต้องมีกุญแจ ซึ่ง Crypto Wallet จะทำหน้าที่เป็นกุญแจของเราที่ช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้าถึงเหรียญของเราได้ ปกติการเข้าถึงจะต้องใช้ Public Key ที่เป็นเสมือนเลขบัญชี กับ Private Key ที่เหมือนกับรหัสตู้เซฟ ตัว Wallet จะเก็บทั้งสองอย่างไว้ให้กับเรา เพื่อให้เหรียญนั้นมีเพียงเราเท่านั้นที่นำออกมาใช้งานได้นั่นเองครับ
การเลือก Crypto Wallet ที่ดีและตอบโจทย์การรักษาความปลอดภัยให้กับเหรียญของคุณนั้นมี 3 ปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาครับ ได้แก่ ประเภทของ Crypto Wallet, ระบบรักษาความปลอดภัย และเหรียญ Crypto ที่รองรับ ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
การใช้งาน Crypto Wallet มีเป้าหมายหลักเพื่อเป็นตัวกลางที่ปลอดภัยสำหรับการเข้าถึงเหรียญ Crypto ได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ซึ่ง Crypto Wallet จะมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ๆ ตามลักษณะการใช้งานดังนี้ครับ
Crypto Wallet แบบแรกที่ขอแนะนำคือ Software Wallet หรืออีกชื่อที่เป็นที่รู้จักมากกว่าก็คือ Hot Wallet ซึ่งเป็น Wallet ที่เก็บทั้ง Private Key และ Public Key ไว้ในแอปพลิเคชัน โดยจะใช้ Hot Wallet เป็นตัวกลางและจดจำรหัสของ Private Key แทนเราครับ ข้อดีหลัก ๆ ของ Hot Wallet คือความสะดวกในการทำธุรกรรมกับเหรียญ Crypto เพราะสามารถใช้ทำธุรกรรมได้อย่างสะดวกรวดเร็ว แต่ข้อสังเกตที่สำคัญคือ เรื่องของความปลอดภัย เพราะมีโอกาสถูกแฮกและนำเหรียญเราไปใช้ได้หากเลือก Wallet ที่ไม่ดีครับ
Crypto Wallet อีกแบบที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันก็คือ Hardware Wallet ซึ่งมีลักษณะการใช้งานที่เป็นอุปกรณ์คล้ายคลึงกับ Flash Drive ซึ่งสร้างข้อได้เปรียบมากที่สุดในด้านความปลอดภัย เพราะตัว Private Key และ Public Key นั้นถูกฝังเข้ากับอุปกรณ์ ระบบ Wallet จะทำงานก็ต่อเมื่อเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน ทำให้มีความปลอดภัยที่สูงมาก แต่ก็ต้องแลกกับความไม่สะดวกในการทำธุรกรรม เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั่นเองครับ
ปัญหาใหญ่ของการถือครองเหรียญ Crypto คือการเสีย Private Key ในการเข้าถึงเหรียญของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการหลงลืม Private Key หรือที่ร้ายแรงที่สุดคือการโดนแฮกเอา Private Key ทั้งจากคอมพิวเตอร์ที่ระบบรักษาความปลอดภัยต่ำ หรือการโจมตีไปยัง Crypto Wallet โดยตรง ดังนั้น คุณจึงควรตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยของ Crypto Wallet โดย Wallet ที่ดีควรเปิดเผย Source Code หรือ Protocol ในการรักษาความปลอดภัยในกรณี Hot Wallet หรือสามารถตั้ง PIN และสแกนลายนิ้วมือได้ในกรณีของ Hardware Wallet ครับ
แม้ว่า Cryptocurrency ที่ดังที่สุดในขณะนี้จะเป็น Bitcoin แต่ก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันการเทรด ขุด ลงทุน และถือครองเหรียญ Crypto ประเภทอื่น ๆ ก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น Ethereum หรือแม้แต่เหรียญเกิดใหม่อย่าง USDT ที่เป็นกระแสมากขึ้น ตลอดจนเหรียญประเภทต่าง ๆ ที่อยู่ในกระแสทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น Binance Coin หรือ BNB และยังมีอีกหลายร้อยสกุลเหรียญ ดังนั้น คุณจึงควรตรวจสอบว่า Crypto Wallet ที่คุณจะซื้อหรือใช้บริการ รองรับการเก็บ Key สำหรับเหรียญ Crypto ที่คุณถือครองหรือไม่ด้วยนะครับ
Trezor Model T เป็น Hardware Wallet ที่โดดเด่นที่สุดในตลาด Cryptocurrency ณ ตอนนี้ มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม อย่างการเชื่อมต่อผ่าน USB Type C ที่ทำให้รองรับทั้งคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน อีกทั้งวัสดุแบบ Tamper-proof ป้องกันการงัดแงะ อีกทั้งความปลอดภัยของ Trezor ยังเหนือกว่าหลายเจ้า ระบบประมวลผลและคำสั่งเป็นแบบ Open Source ที่สามารถตรวจสอบความปลอดภัยได้ทุกบรรทัด พร้อมกับ PIN ที่ทำงานบนหน้าจอสัมผัส รวมถึงเวลาทำธุรกรรมที่ต้องกดหน้าจอค้างเพื่อการันตีอีกด้วยครับ
ใครที่เข้าสู่วงการ Cryptocurrency มานานย่อมรู้จัก Blockchain.com เป็นอย่างดี เพราะถือว่าเป็นตัวเทรดที่มีมานานตั้งแต่ 2011 และเป็นตลาดซื้อขายแรก ๆ ก็ว่าได้ ตัว Wallet จาก Blockchain เองก็มีความน่าเชื่อถือสูง รองรับทรัพย์สินดิจิทัลหลากหลายรูปแบบ รองรับหลายสกุลเหรียญ และมีระบบ Rewards ที่นำไปใช้เพื่อกระบวนการชำระเงินกลางแล้วนำมาคืนในรูปแบบดอกเบี้ย พร้อมความสะดวกในการทำธุรกรรม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน เชื่อมต่อกับแอปเทรดได้อย่างไร้รอยต่อ
หากพูดถึง Hardware Wallet ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกในขณะนี้ ก็ต้องมี Ledger Nano S เป็นหนึ่งในตัวเลือกดังกล่าว เพราะขนาดที่เล็ก รูปทรงคล้าย Flash Drive พกพาสะดวก อีกทั้งยังมีระบบความปลอดภัยสูง ผ่านมาตรฐาน CC EAL 5+ ระดับอุตสาหกรรม พร้อมระบบตั้งรหัสผ่าน PIN 8 หลัก และยังมี Recovery Phase ถึง 24 คำ มั่นใจในความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี พร้อมอีกจุดเด่นสำคัญคือรองรับแทบทุกเหรียญ Crypto ที่นิยมในตลาด จึงเหมาะอย่างมากสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการถือครองหลายสกุลเหรียญครับ
Electrum เป็น Software Wallet ตัวแรก ๆ ในวงการ Cryptocurrency ที่พัฒนาเมื่อปี 2011 ซึ่งมุ่งเน้นการสร้าง Private Key สำหรับการรักษา Bitcoin โดยเฉพาะ เป็นที่น่าชื่อถือมานับสิบปี และยังมีชื่อเสียงที่ดีด้วย ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดที่ไม่รองรับ Key สำหรับสกุลเหรียญตัวอื่น ๆ แต่ก็ได้ระบบความปลอดภัยขั้นสูงมาใช้ สามารถรักษา Private Key ได้อย่างอุ่นใจโดยไม่อัปโหลด Private Key ของเราเข้าเซิร์ฟเวอร์แต่อย่างใด จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดของวงการในปัจจุบัน
ราคาคุ้มค่าและมาพร้อมดีไซน์แบบบัตรเครดิต ต้องนึกถึง SafePal S1 แม้ว่าจะมีขนาดเพียงบัตรเครดิต แต่ว่ามาตรฐานการทำธุรกรรม รวมถึงความสะดวกสบายก็ไม่น้อยหน้าใคร เพราะสามารถเชื่อมต่อผ่าน QR Code ร่วมกับโทรศัพท์บนระบบ Android และ iOS ได้เป็นอย่างดี มีหน้าจอสีที่แสดง QR Code และปุ่มกดสำหรับสั่งการ อีกทั้งยังรองรับเหรียญแต่ละสกุลได้มากกว่า 20,000 เหรียญ ที่สำคัญยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ EAL 5+ จากทั้งหมด 7 ระดับ ซึ่งถือว่าสูงมากครับ
เพียงแค่ดาวน์โหลด Private Key ก็สามารถอยู่ในมือได้อย่างปลอดภัย รองรับการใช้งานบนหน้าเว็บเดสก์ท็อป และหากคุณมีบัญชีเทรดของ Coinbase อยู่แล้ว ก็สามารถนำมาเชื่อมต่อกับ Coinbase Wallet เพื่อเชื่อมโยงในการทำธุรกรรมของเหรียญ Crypto ได้ โดยที่ตัว Wallet นั้นใช้การเข้ารหัสและการเขียนโค้ดโปรแกรมที่มีความปลอดภัยในระดับอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถตรวจสอบผ่าน GitHub ได้สำหรับนักพัฒนา นอกจากนี้ ยังรองรับการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ NFT ด้วยเช่นกันครับ
คุณสมบัติการปกป้องแบบ 360 องศา ทั้งชิปประมวลผลของ Wallet ที่ออกแบบมาเพื่อต่อต้านการแฮกคุณภาพระดับทางทหาร อีกทั้งยังมีการเข้ารหัส การป้องกันการทำลาย การป้องกันการทำรายการด้วยการยืนยันตัวตนแบบคู่กับอุปกรณ์เทรด ภายนอกเป็นวัสดุที่แข็งแรงทนทาน ด้วยฟีเจอร์ตัวอย่างเหล่านี้ ทำให้เพียงพอที่จะทำให้เชื่อได้ว่า SecuX W20 นั้นปกป้องทุกส่วน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอแบบสัมผัสที่ทำให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวก รองรับ ERC20 และ BEP20 รวมถึงอีกหลายสกุลเหรียญอีกด้วย
หากพูดถึงแพลตฟอร์ม Wallet ที่ได้รับความนิยมมากตัวหนึ่งก็คงหนีไม่พ้น Exodus ที่อยู่คู่เหล่านักขุดมานานพอสมควร เนื่องจากมีหน้าตาของแอปและโปรแกรมที่ใช้งานง่ายมาก เหมาะสำหรับผู้ใช้และนักลงทุนทุกระดับ รองรับหลายแพลตฟอร์มทั้งบนสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ ทั้งยังเป็นพาร์ทเนอร์ของ Trezor แบรนด์ Hardware Wallet ชื่อดัง และยังสะดวกสบาย ด้วยความสามารถในการทำธุรกรรมหลากหลายรูปแบบได้ เช่น การซื้อขาย Cryptocurrency การรับและส่ง Digital Assets ต่าง ๆ เป็นต้นครับ
CoolWallet Pro ชูจุดเด่นในด้านความบางเบาและกะทัดรัด ด้วยไซซ์ที่มีมิติกว้างยาวเท่าบัตรเครดิต ทำให้สามารถใช้งานควบคุมดูแลความปลอดภัยของเหรียญ Crypto ที่คุณถือครองได้ตลอดเวลา อุ่นใจ ด้วยระบบยืนยันตัวตน 2 + 1 ขั้นตอน ที่มีทั้งการสร้าง PIN และการแสกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือบนสมาร์ทโฟน รวมถึงมีการยืนยันด้วยการกดปุ่มบน Wallet ทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรม พร้อมหน้าจอบอกสถานะที่ช่วยให้ทำงานได้ราบรื่น รองรับสกุลเหรียญต่าง ๆ มากมาย เช่น BTC, XRP เป็นต้น
จุดเด่นสำคัญที่สุดของ Mycelium คือการเป็น Crypto Wallet ที่ออกแบบมาเพื่อเก็บ Bitcoin โดยเฉพาะ ทำให้ระบบนั้นเสถียร รวดเร็ว และสะดวกในการจัดเก็บ มาพร้อมหน้าตา User Interface ที่สวยงามแบบไม่ซับซ้อน เน้นความคล่องตัว ให้รายละเอียดและความปลอดภัยที่ครบครัน โอนถอนทำธุรกรรมรวดเร็ว สามารถเลือกความเร็วในการทำธุรกรรมได้โดยแลกกับค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม พร้อมรองรับการใช้งานร่วมกับ Hardware Wallet อย่าง Trezor หรือ Ledger ได้อีกด้วยครับ
แม้ว่า Crypto Wallet จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความอุ่นใจว่าเหรียญ Crypto ที่เราถือครองจะไม่หายไปไหน แต่หากละเลยการตรวจสอบความปลอดภัยของตัว Crypto Wallet เอง อาจจะทำให้ทุกอย่างสูญเปล่าได้ ดังนั้น คุณจึงควรหมั่นตรวจสอบการทำงานของ Crypto Wallet รวมถึงเปลี่ยนรหัสผ่าน หรือ PIN ที่ใช้ปลดล็อก Crypto Wallet อยู่เสมอ เพื่อป้องกันการจดจำรหัสผ่านโดยผู้ไม่หวังดีด้วยนะครับ
mybest อาจได้รับค่าคอมมิชชั่นบางส่วนเมื่อกดซื้อสินค้าในเว็บไซต์
ข้อมูลสินค้าหรือบริการแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาของผู้ผลิตและเว็บไซต์ e-commerce
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ