10 อันดับ บิ๊กไบค์ 650cc รุ่นไหนดี ปี 2023 เครื่องแรง ทรงสวย

นอกจาก Yamaha จะผลิตรถจักรยานยนต์ทั่วไปสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว ทางแบรนด์ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของรถบิ๊กไบค์อีกด้วย โดยรุ่นที่เราเลือกมานำเสนอในวันนี้ได้แก่ MT07 ซึ่งเป็นรุ่นในซีรีส์ Master of Torque ที่มีจุดเด่นด้านการขับเคลื่อนที่ทรงพลังแต่นุ่มนวล มาพร้อมกับคอนเซปต์ The Dark Side of Japan ที่แฝงด้วยความดุดันน่าค้นหา จึงทำให้รุ่นนี้กลายเป็นบิ๊กไบค์ที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของ Yamaha

เครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 689cc ถูกจัดวางตามหลัก Crossplane Philosophy ที่จะเสริมให้ระบบส่งพลังงานและตอบสนองได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดคันเร่ง ประกอบกับกำลังแรงม้าที่ 8,750 รอบ/นาที จึงทำให้บิ๊กไบค์รุ่นนี้มีประสิทธิภาพสูง สามารถเป็นเพื่อนคู่ใจนักเดินทางไม่ว่าจะไกลหรือใกล้

Honda เป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมากที่สุดในประเทศไทย เพราะอะไหล่หาซื้อง่าย และมีศูนย์ซ่อมกระจายอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำให้สะดวกสบาย สามารถส่งให้ช่างตรวจเช็คได้เลยหากรถมีปัญหา โดยรุ่น CBR650R เป็นบิ๊กไบค์ประเภท Sport ที่มีเครื่องยนต์ 4 สูบ ซึ่งถือเป็นรุ่นคลาสสิก ขายดีของทางแบรนด์ และยังคงได้รับการพัฒนาเครื่องยนต์มาอย่างต่อเนื่อง 

ด้วยกำลังเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง จึงทำให้ตัวรถเหมาะกับคนที่ชื่นชอบการขับขี่แบบดุดัน เร้าใจ พร้อมทั้งยังมีโช๊คอัพหน้าหัวกลับขนาดใหญ่ที่สามารถซับแรงสะเทือนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมี Selectable Torque Control ที่พัฒนามาจากรถแข่ง สามารถช่วยปรับสมดุลรถให้เข้ากับสภาพพื้นถนนแต่ละแบบได้ดีขึ้น

Aprilia อาจเป็นชื่อที่ไม่ค่อยคุ้นหูนักสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้รถบิ๊กไบค์หรือพึ่งเริ่มสนใจรถประเภทนี้ แต่ที่จริงแล้ว Aprilia ถือเป็นแบรนด์บิ๊กไบค์คุณภาพดีติดระดับโลกและเป็นที่นิยมมากในทวีปยุโรป โดยรุ่น RS660 เป็นรถทรง Sport ที่มีความดุดันและมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครตามแบบฉบับอิตาเลียน อีกทั้งเมื่อเทียบกับราคาแล้ว รุ่นนี้จัดเป็นรถสมรรถนะสูง เหมาะสำหรับคนที่ชอบเครื่องยนต์แรง ๆ อย่างแน่นอน

ขนาดเครื่องยนต์ของรุ่นนี้อยู่ที่ 659cc ซึ่งเทียบเท่ากับรุ่นอื่น ๆ แต่มีกำลังแรงม้าและแรงบิดที่ตัวรถทำได้สูงถึง 10,500 รอบ/นาที และ 8,500 รอบ/นาที ตามลำดับ อีกทั้งยังมีระบบ Multimap Conering ABS ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพขณะเข้าโค้ง ทำให้ตัวรถเหมาะกับการขับท่องเที่ยวในระยะทางไกล ๆ เป็นอย่างมาก

ถ้าหากใครกำลังมองหาบิ๊กไบค์ที่เหมาะกับทั้งขับท่องเที่ยวทางไกลและสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน Triumph Tiger Sport 660 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีค่ะ เพราะเป็นบิ๊กไบค์ประเภท Touring ขนาดเครื่องยนต์ 3 สูบที่สามารถส่งกำลังได้อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพตลอดรอบเครื่องของเครื่องยนต์ ซึ่งถือเป็นลักษณะที่เหมาะกับการขับขี่ทางไกลโดยไม่เป็นการใช้งานเครื่องยนต์ที่หนักเกินไป

นอกจากเครื่องยนต์พละกำลังสูงแล้ว ทางแบรนด์ยังเพิ่มลูกเล่นต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การทำงานของรถรุ่นนี้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบรับแรงสั่นสะเทือนของ Showa ที่สามารถปรับได้ด้วยรีโมท ระบบเบรก Nissin และยาง Michelin Road 5 ซึ่งล้วนช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลตลอดการเดินทาง

ด้วยดีไซน์ที่แทบจะถอดแบบมาจากรถแข่ง รูปทรงโฉบเฉี่ยว เมื่อขับขี่ทำให้ดูเท่ไม่เหมือนใคร บิ๊กไบค์ Sport จึงเป็นรถอีกหนึ่งประเภทที่หลายคนชื่นชอบ ซึ่ง Yamaha R7 ถือเป็นบิ๊กไบค์ที่ได้ผสมผสานดีไซน์ทันสมัยเข้ากับสมรรถนะเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพเอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยทางแบรนด์ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบ กำลังสูงถึง 689cc พร้อมด้วยแรงบิดอีกกว่า 6,500 รอบ/นาที ที่ทำให้ระบบส่งกำลังของรุ่นนี้ลื่นไหลสม่ำเสมอ

ระบบเบรกและคลัทช์แบบ A&S ที่มีผลต่อการควบคุมแรง Torque ขณะขับขี่ช่วยให้รถสามารถปรับสมดุลให้เข้ากับสภาพถนนได้ทั้งถนนดินและถนนพื้นเรียบ อีกทั้งทางแบรนด์ยังออกแบบตัวรถตามหลัก Aerodynamic ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเข้าโค้งและเบรกได้สนุกและมั่นใจมากยิ่งขึ้น

หนึ่งสิ่งที่คนพึ่งเริ่มขี่บิ๊กไบค์บางคนรู้สึกกังวลก็คือ อาการปวดเมื่อยหากต้องขับขี่เป็นระยะทางไกล ๆ เพราะสรีระของบิ๊กไบค์ส่วนมากออกแบบมาให้ผู้ขับบี่อยู่ในท่ากึ่งหมอบ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังได้ง่าย แต่ Kawasaki ได้ออกแบบรุ่น Ninja 650 ให้มีแฮนด์จับที่ยกสูงเล็กน้อย เพื่อแก้ไขปัญหาจุดนี้ โดยเป็นการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่จะช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปกับรถคู่ใจได้นานขึ้น

ระบบภายในของรุ่นนี้ประกอบด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบ พร้อมกับ Assist & Slipper Clutch ที่จะช่วยให้การส่งกำลังของเครื่องยนต์นุ่มนวลตั้งแต่เริ่มบิดคันเร่ง อีกทั้งทางแบรนด์ยังใช้ยาง Dunlop Sportmax Roadsport 2 ที่มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นอื่น ๆ ทำให้การขับขี่คล่องตัวและควบคุมง่ายขึ้น

Suzuki SV650X เป็นรุ่นที่ผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยของทางแบรนด์ให้เข้ากับดีไซน์ Cafe Racer สุดวินเทจ โดยในส่วนของเครื่องยนต์ รถคันนี้ใช้เครื่องยนต์ V-Twin ขนาด 645cc แบบเฉพาะของ Suzuki ที่สามารถให้กำลังแรงม้าได้ถึง 8,500 รอบ/นาที และสามารถส่งพลังได้อย่างคงงที่ต่อเนื่องตลอดการขับขี่ ทำให้รถรุ่นนี้สามารถใช้งานในเมืองและนำออกไปขับขี่ทางไกลได้

ดีไซน์ของรุ่นนี้เน้นการนำลักษณะเด่นของรถจาก 2 ยุค นั่นคือ รถสมัยใหม่ และรถ Cafe Racer เข้าด้วยกัน จึงทำให้โดยรวมตัวรถมีลักษณะโฉบเฉี่ยว คล่องตัว ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้สามารถควบคุมง่าย เหมาะกับผู้ขับขี่ทั้งชายและหญิง นอกจากนี้ยังมีถังน้ำมันด้านหน้า ทำให้ได้ลุคที่ดุดันมากขึ้นด้วย

บิ๊กไบค์หลายรุ่นมักมีน้ำหนักมากและขนาดใหญ่ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับสรีระของคนไทยหลายคน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวเบากว่ารถมาก Triumph จึงออกแบบบิ๊กไบค์รุ่น Trident 660 ขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงพละกำลังเครื่องยนต์เอาไว้ได้อย่างดี โดยรุ่นนี้เป็นรถประเภท Naked เครื่องยนต์ 3 สูบ ซึ่งทำให้สามารถส่งกำลังได้ดีแม้ในจำนวนรอบเครื่องยนต์ต่ำ และคงสมดุลระหว่างรอบได้ดี จึงเหมาะกับการขับขี่ในเมือง

ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 3 สูบ ผนวกกับการออกแบบของทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจึงทำให้เสียงของเครื่องยนต์ที่ออกมามีเอกลักษณ์แหบทุ้มตามสไตล์ของ Triumph แตกต่างจากแบรนด์อื่น ซึ่งเมื่อพิจารณาควบคู่กับประสิทธิภาพของรถแล้ว รุ่นนี้ถือว่าเหมาะกับมือใหม่หัดขับหรือคนที่กำลังมองหาบิ๊กไบค์คันแรกเป็นอย่างมาก

หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าอีกหนึ่งแบรนด์บิ๊กไบค์ที่ได้รับความนิยมในแถบยุโรปจะมาจากประเทศอินเดีย Royal Enfield เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เด่นชัดในแง่ของดีไซน์ที่มักแฝงไปด้วยความคลาสสิก ดูโดดเด่นขณะขับขี่ โดยรุ่น Interceptor 650 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถมอเตอร์ไซค์ที่เป็นที่นิยมในแถบชายฝั่งแคลิฟอเนียร์ในยุค 60s ที่มีถังน้ำมันด้านหน้าขนาดใหญ่และไฟกลมโตดูดุดัน

ระบบเครื่องยนต์ของแบรนด์นี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเทียบเท่ากับรถสเปคเดียวกัน โดยใช้เครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 648cc ที่มาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ช่วยให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนจนเกินไปขณะขับขี่ จึงเหมาะกับทั้งการใช้งานระยะทางสั้น ๆ ในเมืองและขับท่องเที่ยวทางไกลนั่นเอง

ถ้าหากคุณชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว Suzuki V-Strom 650XT เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ควรเก็บไว้พิจารณานะคะ เพราะตัวเครื่องยนต์ V-Twin สูตรเฉพาะของทางแบรนด์ถือว่ามีพละกำลังสูงมากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ในคลาสเดียวกัน อีกทั้งยังมีระบบ Traction Control ที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมรถ ส่งผลให้คุณขับขี่ได้มั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น

นอกจากนี้ระบบภายในยังมี Low RPM Assist เพื่อช่วยเร่งรอบเครื่องยนต์ขณะออกตัว จึงทำให้รถไม่อืด ช่วยเสริมการขับขี่ให้ลื่นไหลตั้งแต่เปิดคันเร่ง อีกทั้งดีไซน์ภายนอกยังได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่น DR-BIG ซึ่งเป็นรถแนว Adventure รุ่นแรกของทางแบรนด์ ตัวรถจึงมีกลิ่นอายความคลาสสิกควบคู่ความทันสมัยอย่างลงตัว