10 อันดับ อาหารหมาปอม ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 สารอาหารครบ บำรุงขน

ปอมเมอเรเนียนเป็นสุนัขสายพันธุ์เล็กที่มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 4 กิโลกรัม และมีขากรรขนาดไกรเล็ก รวมทั้งมักมีปัญหาสุขภาพประจำสายพันธุ์ที่อาจเกิดขึ้นบ่อยด้วย เช่น โรคข้อต่อหรือสะบ้าเคลื่อน โรคขนร่วง โรคเกี่ยวกับช่องปาก หรือโรคเกี่ยวกับดวงตา เป็นต้น 

ดังนั้น เพื่อให้สุนัขปอมได้โภชนาการที่เหมาะสมในการบำรุงสุขภาพตามสายพันธุ์ของตนเอง แนะนำให้ผู้เลี้ยงเลือกอาหารสูตรที่ออกแบบมาสำหรับสุนัขพันธุ์เล็กโดยเฉพาะ หรือถ้าเป็นไปได้ให้เลือกสูตรเฉพาะสำหรับสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนเลยจะเหมาะสมที่สุด เพราะจะมีสารอาหารที่จำเป็นมาให้ครบถ้วนตามสายพันธุ์ มีขนาดเม็ดและรูปทรงที่เล็กพอดี เหมาะกับขากรรไกรของสุนัขขนาดเล็ก เคี้ยวง่ายและยังช่วยให้ย่อยง่ายด้วย

นอกจากนี้ สุนัขพันธุ์เล็กจะมีทางเดินอาหารที่มีขนาดเล็ก การย่อยเนื้อสัตว์หรืออาหารชิ้นใหญ่อาจจะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักและเกิดปัญหาเรื่องการบีบตัวของลำไส้ได้ ซึ่งจะพบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์ปอมที่ติดการกินอาหารเร็วและไม่เคี้ยวอาหาร ดังนั้น หากให้อาหารที่ตรงตามสายพันธุ์ก็จะมีการคัดเลือกเนื้อสัตว์และชิ้นอาหารมาให้อย่างเหมาะสมแล้ว เพื่อช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานง่ายขึ้นและยังช่วยให้ลำไส้สามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้นอีกด้วย 

แม้จะเลือกอาหารสูตรสำหรับสายพันธุ์เล็กหรือสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนโดยเฉพาะแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาร่วมด้วยคือ ปริมาณสารอาหารและพลังงานที่เหมาะสม เนื่องจากสุนัขปอมเป็นสายพันธุ์ที่ใช้พลังงานสูงและตื่นตัวอยู่ตลอด จึงขอแนะนำให้เลือกสูตรที่เหมาะสมกับช่วงวัยด้วย โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้

・สำหรับสุนัขโตเต็มวัย 10 เดือนขึ้นไป ควรเลือกอาหารที่มีสัดส่วนโปรตีนประมาณ 23 - 26% เพราะเป็นสารอาหารสำคัญที่สุดในการสร้างพลังงานของสุนัขทุกสายพันธุ์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ซ่อมแซมและฟื้นฟูระบบภายในร่างกาย และควรมีสัดส่วนไขมันอยู่ที่ประมาณ 10 - 14%

・สำหรับลูกสุนัขในช่วง 2 - 10 เดือน ถือเป็นช่วงที่ต้องการพลังงานและโปรตีนเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตและเสริมสร้างพัฒนาการของระบบในร่างกายมากเป็นพิเศษ จึงควรเลือกอาหารที่มีสัดส่วนโปรตีนประมาณ 28 - 30% และมีสัดส่วนไขมันอยู่ที่ประมาณ 20%

・สำหรับสุนัขสูงวัย 7 ปีขึ้นไป มักจะมีกิจกรมในชีวิตประจำวันน้อยลง จึงต้องควบคุมพลังงานที่ควรได้รับในแต่ละวันให้เหมาะสมเพื่อป้องกันภาวะโรคอ้วน ดังนั้น ควรเลือกอาหารที่มีสัดส่วนโปรตีนน้อยลงประมาณ 20 - 23% โดยมีไขมันอยู่ที่ประมาณ 10 - 14% ได้แต่ต้องลดแหล่งวัตถุดิบคาร์โบไฮเดรต เพื่อควบคุมพลังงานโดยรวมให้ต่ำลง

กรณีที่สุนัขมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินอาหารหรือการขับถ่าย แนะนำให้มองหาสูตรที่มีการเสริมไฟเบอร์และไซเลียม เพื่อช่วยในการลำเลียงอาหารและเพิ่มการบีบตัวของลำไส้ ทำให้สุนัขขับถ่ายได้ดีขึ้น รวมถึงโพรไบโอติกส์ พรีไบโอติกส์หรือสารสกัดจากยีสต์ที่มีส่วนช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันและการทำงานของลำไส้

ปัจจุบันพบว่าสุนัขพันธุ์เล็กมักมีแนวโน้มในการแพ้อาหารได้หลากหลายชนิด โดยอาการเด่นที่มักแสดงออกมาเมื่อเกิดการแพ้อาหาร คือผิวหนังมีผื่นแดง บวมหรือคัน มีขนร่วง และอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย เช่น อาเจียนหรือท้องเสีย ซึ่งหากพบว่าสุนัขมีอาการเหล่านี้ควรพาไปตรวจหาสารที่ทำให้เกิดการแพ้ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกสัตว์

ปกติแล้วการแพ้อาหารที่พบกันบ่อยครั้ง คือ การแพ้โปรตีนจากไก่และธัญพืชบางชนิดในอาหาร จึงขอแนะนำให้ปรับเปลี่ยนเป็นอาหารทางเลือกจำพวกอาหารเกรด Holistic และ อาหาร Super Premium เนื่องจากอาหารเกรดนี้จะไม่มีส่วนผสมของธัญพืช (Grain-free) มีการใช้สารปรุงแต่งน้อยที่สุด รวมถึงมีการใช้วัตถุดิบอาหารเกรดเดียวกับที่คนทาน (Human Grade) ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย ไม่มีปัญหาการย่อยอาหาร จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และยังส่งผลต่อสุขภาพที่ดีของสุนัขในระยะยาวด้วย

โดยปกติแล้วอาหารสำหรับสุนัขมักจะผลิตออกมา 2 รูปแบบ ได้แก่ อาหารเม็ดและอาหารเปียก ซึ่งแต่ละรูปแบบนั้นจะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

・อาหารหมาปอมแบบเม็ด เป็นรูปแบบอาหารสุนัขที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากเก็บรักษาง่าย มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสารอาหารครบถ้วน อีกทั้งยังช่วยขัดฟันสุนัขได้อีกด้วย แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของความชื้นในอาหารที่มีต่ำกว่าอาหารเปียก และมีความน่ากิน (Palatability) น้อยกว่า

・อาหารหมาปอมแบบเปียก เป็นอาหารที่มีความน่ากินสูง รวมทั้งยังมีความชื้น 60 - 85% จึงเหมาะกับสุนัขที่กินน้ำน้อยหรือไม่ค่อยอยากอาหาร อย่างเช่น สุนัขแก่หรือสุนัขป่วย แต่อาหารเปียกนั้นจะมีสารอาหารน้อยกว่าอาหารเม็ดเมื่อเทียบในปริมาณที่เท่ากัน และมีราคาที่สูงกว่า จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นรางวัลหรือให้ควบคู่กับอาหารเม็ด