10 อันดับ รองพื้น Laura Mercier รุ่นไหนดี ปี 2024 รุ่นยอดนิยม Flawless, Tinted Moisture

ถือเป็นไลน์สินค้าที่สะท้อนความเป็นแบรนด์ Laura Mercier ได้ดีที่สุด โดยแบรนด์ได้คิดค้นและพัฒนาคุณสมบัติให้เป็นรองพื้นในอุดมคติของผู้หญิง มีเนื้อที่บางเบา ให้การปกปิดระดับปานกลางถึงขั้นสุด ช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนสม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติ มาพร้อมเทคโนโลยีสกินฟิวชั่นช่วยมอบความติดทนที่เบาสบายผิวโดยที่ระหว่างวันไม่เป็นคราบ 

ปัจจุบัน Laura Mercier ได้พัฒนารองพื้นในไลน์ Flawless ให้มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ของสาว ๆ ทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Ultra-Long Wearing ที่ติดทนนานที่สุด หรือรุ่น Lumiere Radiance-Perfecting ที่มอบความชุ่มชื้นให้ผิวดูเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเราจะอธิบายว่ารุ่นไหนเหมาะกับสภาพผิวแบบใดกันในหัวข้อถัดไป

ไลน์นี้จะเน้นผิวสวยแบบ No Makeup ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าไลน์ Flawless ค่ะ ตัวรองพื้นจะอุดมไปด้วยสารบำรุงต่าง ๆ ทำให้ผิวมีชีวิตชีวามากขึ้น พร้อมช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ด้วย SPF และ PA สาว ๆ คนไหนที่ไม่ชอบแต่งหน้าแต่ก็อยากได้ผิวที่สวยสมบูรณ์แบบ หรือที่ผิวหน้าไม่มีจุดบกพร่องมากนัก แนะนำให้ใช้ไลน์นี้เลยค่ะ

ปัจจุบันมีให้เลือกซื้อกันมากถึง 3 สูตร ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ได้แก่ Illuminating ให้ฟินิชลุคที่เปล่งประกาย ดูมีสุขภาพดี, Oil-free ปราศจากน้ำมัน ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน เหมาะสำหรับสาวผิวมัน และ Original ที่สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว 

ไลน์รองพื้นเนื้อครีมหนึ่งเดียวของ Laura Mercier ซึ่งพอพูดถึงเนื้อครีม หลายคนมักจะมีภาพจำว่าเนื้อจะต้องหนัก ทาแล้วไม่สบายผิว ผิวดูหนาไม่เป็นธรรมชาติ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับแบรนด์นี้เลยค่ะ ไลน์ Silk Crème มีเนื้อที่เข้มข้นมากกว่ารุ่นอื่น แต่เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นถือว่าค่อนข้างบางเบา ทาแล้วจึงไม่หนักผิวมากนัก แต่ยังคงให้การปกปิดสูง ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย

ปัจจุบันมี 2 สูตรให้เลือกซื้อ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของสาว ๆ ได้แก่ สูตร Oil-free เป็นสูตรปราศจากน้ำมัน ไม่อุดตันรูขุมขน ช่วยควบคุมความมัน และสูตร Moisturizing มอบความชุ่มชื้นให้กับผิว ผิวดูเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ

Candle แปลว่าเทียน Glow แปลว่า เปล่งประกาย เมื่อรวมกันจึงหมายถึงเปลวเทียนที่เปล่งประกาย รองพื้นไลน์นี้จึงเน้นเพิ่มความเปล่งปลั่งให้กับผิวด้วยส่วนผสมของ Radiant Pearl Mica ผงไข่มุกที่ผ่านกระบวนการและเทคโนโลยีพิเศษช่วยปรับสีผิวให้สวยในทุกแสง เหมาะกับการถ่ายรูปมากเลยค่ะ สาว ๆ หลายคนที่ใช้บอกว่าแม้จะถ่ายรูปตอนกลางคืนที่แสงน้อย แต่ผิวหน้าก็โกลว์สวยมาก อย่างไรก็ตาม เนื้อของไลน์นี้จะค่อนข้างบางเบา ให้การปกปิดระดับปานกลาง ไม่เหมาะกับสาวผิวผสมและผิวมัน

เรียกได้ว่าเป็นเนื้อรองพื้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีหลายสูตรให้เลือกซื้อ ลักษณะของเนื้อลิควิดจะเหลวคล้ายน้ำ ช่วยให้เกลี่ยง่าย เรียบเนียนไปกับผิว ให้สัมผัสที่เบาสบาย สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวขึ้นอยู่กับสูตรและส่วนผสม โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 สูตรหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่

• สูตร Oil-free : ไม่ผสมน้ำมัน เนื้อรองพื้นทึบด้าน ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ เหมาะกับสาวผิวมันและผิวผสม

• สูตร Oil-based : มีส่วนผสมของน้ำมันในอัตราส่วนที่มากกว่าน้ำ มอบความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยปกป้องริ้วรอย ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำมากขึ้น เหมาะกับสาวผิวแห้งและผิวธรรมดา

• สูตร Moisturizing : มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก มีสารบำรุง (คุณสมบัตินี้เฉพาะ Laura Mercier เท่านั้น) ทาแล้วจึงรู้สึกชุ่มชื้น เบาสบาย ให้ฟินิชลุคเป็นธรรมชาติเหมือนไม่แต่งหน้า เหมาะสำหรับสาวผิวมันและผิวธรรมดา อย่างไรก็ตาม สูตรนี้ให้การปกปิดน้อย ใครที่ต้องการอำพรางข้อบกพร่องต่าง ๆ แนะนำให้หันไปใช้สูตร Oil-free จะดีกว่า

ลักษณะของเนื้อรองพื้นแบบนี้จะค่อนข้างแน่นค่ะ เพราะมีส่วนผสมหลักเป็นแว็กซ์ ทำให้เกลี่ยยากที่สุดในบรรดาเนื้อรองพื้นทั้งหมด แต่มีข้อดี คือ ให้ความชุ่มชื้นสูง ช่วยกักเก็บน้ำใต้ชั้นผิวได้ดี และเน้นการปกปิดขั้นสุด จึงเหมาะกับสาวผิวแห้ง

อย่างไรก็ตาม แบรนด์ Laura Mercier เข้าใจความต้องการของผู้หญิงว่า ในบางครั้งสาวผิวมันหรือผิวผสมก็ต้องการการปกปิดระดับสูงเช่นเดียวกัน ซึ่งเนื้อลิควิดไม่สามารถทำได้ นักวิจัยของแบรนด์จึงพัฒนารองพื้นเนื้อครีมออกมาหลายสูตร เพื่อให้สาว ๆ ที่มีสภาพผิวประเภทอื่นนอกเหนือไปจากผิวแห้งสามารถใช้ได้ด้วย และถ้าใครต้องการให้รองพื้นติดทนนานขึ้น แนะนำให้ใช้คู่กับไพรเมอร์ของแบรนด์นะคะ 

เนื้อรองพื้นประเภทนี้มีลักษณะเป็นแป้งฝุ่นอัดแข็ง มีคุณสมบัติช่วยดูดซับความมัน จึงเหมาะกับสาวที่มีสภาพผิวมันและผิวผสม นอกจากนี้ยังมีข้อดีอีกมากมาย ได้แก่ พกพาสะดวก ใช้งานง่ายและรวดเร็ว ทำให้สาว ๆ สามารถพกไปเติมระหว่างวันได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของลักษณะเนื้อแป้งอัดแข็ง คือ ให้การปกปิดน้อยเมื่อเทียบกับเนื้อครีมและเนื้อลิควิด อีกทั้งยังหลุดออกระหว่างวันได้ง่าย สาว ๆ คนไหนที่ต้องออกกลางแจ้งบ่อย ๆ แนะนำให้ใช้เนื้อลิควิดจะดีกว่าค่ะ

สาวผิวผสมและผิวมันเป็นสาวที่มีปัญหาเรื่องความมันส่วนเกิน จึงควรเลือกรองพื้นที่ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ เพื่อช่วยให้ผิวดูไม่มันเยิ้มจนเกินไป และห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็แล้วแต่ที่มีส่วนผสมของชิมเมอร์ กลิตเตอร์หรือมีความชุ่มชื้นสูงเกินจำเป็น เพราะจะยิ่งเน้นปัญหาผิวให้ชัดเจนมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่หน้ามันมาก ก่อนแต่งหน้าควรจะทาไพรเมอร์ควบคุมความมันเพื่อช่วยให้ผิวดูแมตต์และช่วยให้รองพื้นติดทนนานขึ้นด้วยนะคะ 

ปัญหาของสาวที่มีสภาพผิวแห้ง คือ ผิวหน้าดูไม่มีชีวิตชีวา เพราะมีน้ำมัน (Sebum) เคลือบผิวน้อยเกินไปค่ะ แถมบางคนยังเจอปัญหาผิวแห้งลอกในบางจุดด้วย ถ้ายิ่งใช้รองพื้นสูตรคุมมันหรือให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ก็จะยิ่งเน้นปัญหาผิวให้ชัดขึ้น แนะนำว่าให้เลือกรองพื้นเนื้อครีมหรือลิควิดที่มีความชุ่มชื้นสูงและให้ฟินิชลุคผิวโกลว์หรือเพิ่มความเปล่งประกาย เพื่อช่วยให้ผิวของคุณดูอิ่มน้ำแลดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

เกร็ดน่ารู้ : สาว ๆ คนไหนที่อยากให้ผิวดูสวยสมบูรณ์แบบมากขึ้น แนะนำให้ทาไพรเมอร์สูตรเพิ่มความชุ่มชื้นหรือสูตรที่ผสมชิมเมอร์เพื่อช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งมากขึ้นค่ะ เมื่อทารองพื้นผิวก็จะยิ่งสวยมากขึ้น