10 อันดับ สมาร์ทวอทช์ ราคาไม่เกิน 5000 บาท ปี 2024 เก็บข้อมูลสุขภาพได้

สมาร์ทวอทช์ ราคาไม่เกิน 5,000 บาท รุ่นนี้ ออกแบบมาเพื่อสายแอดเวนเจอร์ขาลุยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นแคมป์ปิ้ง เดินป่า ปีนเขา หรือแม้แต่ออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ และมีให้เลือก 3 สีสัน ที่สำคัญคือผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษและผ่านการทดสอบความทนทานระดับมาตรฐานทางการทหารสหรัฐระดับ 15 Military Certified ค่ะ

มาพร้อมหน้าจอชนิด AMOLED ขนาด 1.3" สู้แสงได้สบาย จอไม่มืด และความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของรุ่นนี้ก็คือ มีระบบนำทางถึง 4 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น GPS, GLONASS, Beidou, Galileo มีความแม่นยำสูง ระบุตำแหน่งได้อย่างชัดเจน มีโหมดกีฬาให้เลือกใช้ถึง 100 รูปแบบ แถมยังกันน้ำได้ถึงระดับ 10 ATM หรือความลึกประมาณ 100 M พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 วันค่ะ

• มีคุณสมบัติกันน้ำระดับ 5ATM ทนความดันน้ำสถิตที่ความลึก 50 เมตร ในอุณหภูมิปกติได้นาน 10 นาที 
• ตัวเรือนทำจากสเตนเลสสตีลที่มีความทนทาน พร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.32 นิ้ว คมชัดสีสดใส
• มี HUAWEI TruSleep ติดตามการนอนหลับ มีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและระดับความเครียด
• โหมดกีฬาให้เลือกกว่า 100 โหมด แบตเตอรี่ใช้ได้สูงสุด 7 วันต่อรอบชาร์จ ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน

แม้ดีไซน์จะดูธรรมดาไม่สมราคา แต่ความจริงแล้วสมาร์ทวอทช์ ราคาไม่เกิน 5000 บาท รุ่นนี้ เป็นรุ่นที่วัดค่าต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำเป็นอันดับต้น ๆ ของสมาร์ทวอทช์ในเรทราคานี้ ซึ่งดีไซน์ลักษณะนี้ก็มีข้อดีที่สวมใส่สบาย ไม่อึดอัด เพราะมีความกะทัดรัด ขนาดไม่เทอะทะ และน้ำหนักเบา อีกทั้งยังเหมาะกับทั้งผู้หญิงผู้ชาย โดยมีให้เลือก 3 สีสัน คือสีดำ สีส้ม และสีชมพู

รุ่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการใช้ติดตามกิจกรรมในชีวิตประจำวันเป็นหลัก เพราะใช้เซนเซอร์คุณภาพที่วัดค่าได้แม่นยำสูง โดยเฉพาะฟีเจอร์เด่นอย่างการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่มาพร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อหัวใจเต้นผิดจังหวะ (AFib) อีกทั้งยังมีฟีเจอร์วัดค่าความเครียดด้วยการตรวจสอบการหายใจ ส่วนประสิทธิภาพการกันน้ำอยู่ที่ระดับ 5ATM สามารถใส่ว่ายน้ำได้ค่ะ

เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์สุดคุ้มอีกหนึ่งรุ่นเมื่อเทียบกับราคา โดดเด่นด้วยระบบติดตามตำแหน่งที่มีถึง 5 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Beidou, GPS, GLONASS, Galileo, QZSS เหมาะสำหรับสายออกกำลังกายที่ต้องการวิเคราะห์ บันทึกสถิติ และปรับปรุงรูปแบบการออกกำลังกายของตนเองได้อย่างเจาะลึก แถมยังกันน้ำได้ถึงระดับ 5ATM ใส่ว่ายน้ำลึกได้ถึง 5 M เลยทีเดียวค่ะ

จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของรุ่นนี้ก็คือหน้าจอดีไซน์สี่เหลี่ยมที่มีขนาดใหญ๋ถึง 1.75" ที่สำคัญคือเป็นจอชนิด AMOLED สีสันสดใสและมีความสว่างสูง ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย มองเห็นชัดทุกตัวอักษร มีดีไซน์หน้าปัดให้เลือกใช้งานถึง 200 รูปแบบ นอกจากนี้ ยังมีไมโครโฟนและลำโพงในตัว สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนและคุยโทรศัพท์ผ่านสมาร์ทวอทช์ได้ทันทีค่ะ

• เชื่อมต่อการทำงานผ่านระบบ Bluetooth สามารถรับสายโทรศัพท์และโทรออกได้โดยตรงจากนาฬิกา
• กะทัดรัดน้ำหนักเบา ตัวเรือนทำจากโพลีเมอร์ ส่วนสายเป็นซิลิโคน หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.74 นิ้ว
• ใช้งานทั่วไปได้นาน 10 วัน มาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM สวมใส่ขณะว่ายน้ำหรือทำกิจกรรมทางน้ำได้
• วัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) ได้อัตโนมัติทั้งวัน พร้อมวัดความเครียดและติดตามรอบประจำเดือน

ใครที่มีงบประมาณไม่เกิน 2,000 บาท และกำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ที่มีความคุ้มค่า รุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีค่ะ เพราะมาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 1.6" ความละเอียด 320 x 360p 301ppi สีสันคมชัด สู้แสงได้ดี ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย โดยหน้าปัดมีดีไซน์แบบสี่เหลี่ยมที่เพิ่มความหรูหราด้วยการเคลือบทับด้วยกระจกโค้ง เสริมด้วยตัวเรือนแบบโลหะ เพิ่มความน่าใช้งานได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

ที่สำคัญคือรุ่นนี้รองรับระบบ Bluetooth Calling ที่จะทำให้คุณสามารถคุยโทรศัพท์ผ่านนาฬิกาได้โดยตรงเมื่อเชื่อมต่อ Bluetooth กับสมาร์ตโฟน ในส่วนของโหมดติดตามการออกกำลังกายก็มีให้เลือกถึง 20 รูปแบบ และมีประสิทธิภาพป้องกันน้ำที่ระดับ 2ATM หรือลึกระดับ 20 M มีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด และติดตามการนอนหลับ แบตฯสามารถใช้งานได้สูงสุด 7 วันค่ะ

สมาร์ทวอทช์ ราคาไม่เกิน 5000 บาทรุ่นนี้ มีจุดเด่นคือหน้าปัดหน้าฬิกาที่ออกแบบมาให้มีความโค้งมนกำลังดีตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยให้สวมใส่ได้สบายยิ่งขึ้น แถมยังมีน้ำหนักเบาเพียง 29.4 g และบางเพียง 10.8 mm อีกทั้งหน้าปัดส่วนบนยังเป็นสเตนเลสเงางาม เพิ่มความหรูหราน่าใช้งาน ที่สำคัญคือมีให้เลือกด้วยกัน 3 สีสัน ไม่ว่าจะเป็นดำ น้ำเงิน และทอง ใส่ได้ทั้งหญิงและชายเลยค่ะ

ในส่วนของฟังก์ชันการทำงานก็มีครบ โดยเฉพาะโหมดออกกำลังกายที่มีให้เลือกถึง 116 รูปแบบ รวมไปถึงการวัดความเข้นข้นของออกซิเจนภายในเลือดหรือ SpO2 ที่สำคัญคือมีฟีเจอร์พิเศษอย่าง MaiDay ซึ่งจะเป็น AI ที่จะเรียนรู้นิสัยการใช้งานสมาร์ทวอทช์ของคุณและจัดลำดับฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังวัดคุณภาพการนอนหลับและความเครียดได้อีกด้วยค่ะ

เชื่อว่าหลายคนที่กำลังอ่านบทความนี้กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ ราคาไม่เกิน 5000 บาท ให้กับบุตรหลานอยู่ ซึ่งอันดับนี้เราขอนำเสนอสมาร์ทวอทช์สำหรับเด็กจากแบรนด์ยอดฮิตอย่าง imoo ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันความปลอดภัยที่น่าสนใจครบครัน ขนาดกำลังดีไม่ใหญ่เกินไป โดยมีให้เลือก 2 สีสันด้วยกัน คือสีแดงและสีเขียว เหมาะกับทั้งเด็กผู้ชายและผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 4 - 12 ปี ค่ะ 

มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 2MP และมีระบบติดตามตำแหน่งถึง 7 รูปแบบ เช่น GPS, GLONASS, LBS และอื่น ๆ ซึ่งสามารถติดตามตำแหน่งได้อย่างแม่นยำและแจ้งให้เข้าใจง่ายผ่าน Google Map แถมยังโทรเข้า-ออกและแชทข้อความได้อีกด้วย โดยใช้งานได้ทั้งซิมจาก DTAC, True และ AIS ที่สำคัญคือกันน้ำได้ถึงระดับ IPX8 เด็ก ๆ ใส่ล้างมือได้โดยไม่ต้องถอดค่ะ

Kieslect เป็นสมาร์ทวอทช์แบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาตีตลาดในไทยได้ไม่นาน โดยรุ่น Kr Pro มาพร้อมกับหน้าปัดนาฬิกาแบบวงกลม ซึ่งหน้าจอมีขนาด 1.43" ชนิด AMOLED สีสันคมชัดสวยงาม มีความสว่างสูงสุดที่ 400 nits ใช้งานกลางแจ้งได้ดีในระดับหนึ่ง หน้าจอครอบทับด้วยกระจกนิรภัย 2.5D อีกทั้งตัวเรือนยังเป็นวัสดุโลหะ เพิ่มความทนทานและหรูหราน่าใช้งานค่ะ

ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นด้วยปุ่มเม็ดมะยมด้านข้างตัวเรือน ส่วนประสิทธิภาพกันฝุ่นและน้ำอยู่ที่ระดับ IP68 ทนทาน แต่ไม่แนะนำให้ใส่ว่ายน้ำ มีฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ 24 ชั่วโมง และออกซิเจนในเลือด SpO2 อีกทั้งยังรองรับการโทรศัพท์ผ่านนาฬิกา สำหรับข้อพิจารณาของรุ่นนี้คือไม่มี GPS ในตัว อาจจะไม่เหมาะสำหรับนักกีฬาที่ต้องการติดตามสถิติอย่างละเอียดค่ะ

ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ ราคาไม่เกิน 5,000 ให้เด็ก ๆ หรือบุตรหลานใช้งาน และมีงบประมาณจำกัด เราขอแนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ โดยมาพร้อมกับขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับเด็ก 6 - 10 ปี มีมาตรฐานกันฝุ่นและน้ำระดับ IP67 ปลอดภัยแม้นำไปจุ่มน้ำ อีกทั้งยังมีสายนาฬิกาให้เลือกเปลี่ยนถึง 4 สีสัน ทั้งสีแดง ชมพู ฟ้า และขาว ไม่ว่าจะเด็กผู้หญิงหรือผู้ชายก็ใช้งานได้ค่ะ

หน้าจอมีขนาด 1.4" ระบบสัมผัส พร้อม UI แบบการ์ตูนใช้งานง่าย ที่สำคัญคือ มี GPS ติดตามตำแหน่งภายในตัว และสามารถใช้โทรออก-รับสายได้ แต่ต้องเป็นเบอร์ที่ผูกกับนาฬิกาไว้เท่านั้น รวมถึงมีปุ่ม SOS ที่เมื่อกดใช้งานแล้วจะระบุตำแหน่งและโทรหาเบอร์ผู้ดูแลระบบทันที ซึ่งรุ่นนี้มีข้อพิจารณาคือรองรับแค่ซิมโทรศัพท์ค่าย True เท่านั้น แต่ถ้าคุณเป็นผู้ใช้งาน True อยู่แล้วก็หายห่วงค่ะ