10 ตู้เย็น SHARP รุ่นไหนดี ปี 2025 ฟังก์ชันครบครัน ทนทานใช้ได้นาน

ขนาดของตู้เย็นจะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ในบ้าน ปริมาณอาหารที่จัดเก็บ และพื้นที่ว่างในครัวของคุณ หากคุณมีครอบครัวขนาดใหญ่หรือมักจะเก็บอาหารจำนวนมาก ควรพิจารณาตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีความจุมากขึ้น ในทางกลับกัน หากคุณมีพื้นที่จำกัดในครัว ตู้เย็นขนาดเล็กหรือรุ่นกะทัดรัด น่าจะเหมาะสมมากกว่า 

การเลือกความจุของตู้เย็นนั้น ควรพิจารณาจากจำนวนสมาชิกในครอบครัว ร่วมกับไลฟ์สไตล์การใช้งานไปพร้อมกัน ซึ่งตู้เย็น SHARP ก็มีวางจำหน่ายอยู่หลากหลายความจุ ตั้งแต่มินิบาร์ที่มีความจุน้อยสุด คือ 1.6 คิว ไปจนถึงมัลติดอร์ที่มีความจุมากสุดถึง 24.4 คิวค่ะ โดยสามารถเลือกความจุของตู้เย็นจากจำนวนสมาชิกในครอบครัวได้ ดังต่อไปนี้

● ตู้เย็นขนาดเล็กขนาดความจุ 1.6 – 6 คิวหรือตู้เย็นมินิบาร์ เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียวหรือครอบครัวที่ไม่ได้ทำอาหารที่บ้านบ่อย ๆ

● ตู้เย็นขนาดความจุ 6 – 9 คิว เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิก 2 – 3 คน

● ตู้เย็นขนาดความจุ 12 – 15 คิว เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกประมาณ 4 – 5 คน

● ตู้เย็นขนาดใหญ่ที่มีความจุ 15 คิวขึ้นไป เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกมากกว่า 6 คน

เมื่อตัดสินใจเลือกจำนวนประตูตู้เย็น สิ่งสำคัญคือต้องคำนึง คือ ขนาดของห้องครัว และลักษณะการใช้งานส่วนตัว
สำหรับตู้เย็นมินิบาร์และตู้เย็น 1 ประตูนั้น เหมาะสำหรับบ้านหรือห้องที่มีพื้นที่จำกัด ส่วนตู้เย็น 2 ประตู เหมาะกับผู้ที่ใช้งานช่องแช่แข็งบ่อย ๆ และตู้เย็นมัลติดอร์ที่มีประตูเปิดทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแยกช่องแช่อาหาร และต้องการความสะดวกในการหยิบใช้ เนื่องจากตู้เย็นจะแบ่งเป็นหลายช่อง ช่วยให้หยิบง่ายและรักษาความสดได้ดีค่ะ

วัสดุและการออกแบบเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เนื่องจากส่งผลต่อความทนทาน ประสิทธิภาพ และรูปลักษณ์ภายนอกของตู้เย็น ตู้เย็น SHARP ทำจากวัสดุคุณภาพสูง มีอายุการใช้งานยาวนานและทำความสะอาดง่าย ส่วนในแง่ของการดีไซน์ SHARP ได้นำเสนอสไตล์และการออกแบบที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะกับรสนิยมและความชอบที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล บางรุ่นมีการออกแบบทันสมัยพร้อมพื้นผิวสเตนเลส บางรุ่นมีรูปลักษณ์แบบดั้งเดิม โทนสีขาวหรือสีดำ ซึ่งการเลือกขึ้นก็อยู่กับสไตล์ความเหมาะสมที่เข้ากับการตกแต่งห้องครัวของคุณด้วยเช่นกัน  

อัตราค่าไฟฟ้าเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายภายในบ้าน โดยเฉพาะตู้เย็นที่ต้องมีการเสียบปลั๊กอยู่ตลอดเวลา การเลือกตู้เย็นรุ่นที่ประหยัดพลังงาน จึงช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟมากขึ้น ตู้เย็นหลายรุ่นของ SHARP ออกแบบมาตรงตามมาตรฐาน Energy Star ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้ใช้พลังงานน้อยลงแต่ยังคงรักษาอุณหภูมิและประสิทธิภาพที่เหมาะสม ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลง โดยพิจารณาได้จากฉลากของผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปการจัดอันดับจะแสดงเป็นคะแนนที่เป็นตัวเลข โดยผู้บริโภคสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่ติดอยู่ที่ตัวผลิตภัณฑ์

นอกจากระดับประสิทธิภาพพลังงานแล้ว สิ่งสำคัญ คือ ตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่อาจใช้พลังงานมากกว่าเพื่อรักษาอุณหภูมิที่ต้องการ ดังนั้น จึงควรเลือกขนาดความจุของตู้เย็นให้สอดคล้องกับการใช้งาน นอกจากนี้ ควรพิจารณาคุณสมบัติและฟังก์ชันเฉพาะของตู้เย็นด้วย เนื่องจากคุณสมบัติบางอย่าง เช่น เครื่องทำน้ำแข็งและตู้กดน้ำอาจใช้พลังงานเพิ่ม 

เมื่อเลือกตู้เย็น SHARP สิ่งสำคัญ คือ ต้องพิจารณาฟังก์ชันและคุณสมบัติพิเศษที่สำคัญต่อไลฟ์สไตล์ในการใช้งาน SHARP มีฟังก์ชันและคุณสมบัติพิเศษมากมายในตู้เย็น ขึ้นอยู่กับรุ่นและประเภทของตู้เย็น เรามาดูฟังก์ชันพิเศษแต่ละตัวกันเลยค่ะ