10 เลื่อยยนต์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ใช้งานตัดไม้ แปรรูปไม้

เลื่อยยนต์หรือเลื่อยโซ่ยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการตัดกิ่งไม้ควรมีขนาดความยาวบาร์หรือแผ่นบังคับโซ่ต่ำกว่า 12 นิ้ว และอัตรากำลังเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1 แรงม้า เพราะจะมีน้ำหนักเบาและแรงสั่นสะเทือนไม่สูงมากนัก สามารถใช้งานบนที่สูงได้ดี โดยในปัจจุบันจะมีทั้งรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์น้ำมันและขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์จากไฟฟ้า ซึ่งในการตัดกิ่งไม้บนที่สูงนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้เลื่อยไฟฟ้าแบบมีสาย เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายทั้งจากกระแสไฟฟ้าที่มีแรงดันสูงและภาระจากสายไฟที่ทำให้ขาดความคล่องตัว

สำหรับการตัดโค่นต้นไม้ควรเป็นเลื่อยที่มีขนาดความยาวแผ่นบังคับเลื่อยหรือบาร์เลื่อย 12 นิ้ว และกำลังเครื่องยนต์เลื่อย 1 แรงม้าขึ้นไป แต่หากเป็นเครื่องยนต์ไฟฟ้าก็จะเทียบได้จากกำลังไฟ 750 วัตต์ขึ้นไป สาเหตุที่ต้องใช้เลื่อยที่ออกแบบมาให้มีสมรรถนะสูงกว่าการตัดทอนกิ่งเป็นเพราะการตัดโค่นต้นไม้จำเป็นจะต้องใช้กำลังดึงโซ่มากกว่า อาจมีการบีบตัวจากน้ำหนักของต้นไม้ และโคนต้นไม้มีขนาดใหญ่เกินกว่าหน้าตัดของเลื่อยกิ่งไม้ธรรมดา

เลื่อยยนต์ที่มีอัตราความเร็วรอบสูงย่อมมีความสามารถในการตัดไม้ได้รวดเร็วกว่าเครื่องรอบต่ำอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ความเร็วรอบที่เหมาะสมในการตัดกิ่งไม้จะอยู่ที่ประมาณ 3,000 รอบต่อนาทีขึ้นไป ส่วนการตัดโค่นต้นไม้นั้นจะใช้ความเร็วรอบที่ 5,000 รอบต่อนาทีขึ้นไป ซึ่งในแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อความเร็วรอบที่ถูกผลิตขึ้นมาจะมีความแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของขนาดบาร์เลื่อย กำลังเครื่องยนต์ และอัตราความเร็วที่บาร์เลื่อยกับโซ่เลื่อยรองรับได้

เลื่อยยนต์ที่เป็นเลื่อยยนต์ไร้สายจะมี 2 ประเภท ได้แก่ เลื่อยยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์น้ำมันกับเลื่อยยนต์ไฟฟ้าไร้สาย ซึ่งทั้ง 2 ประเภทจะมีลักษณะการใช้งานที่รองรับพื้นที่ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับไฟฟ้ากระแสสลับในเขตชุมชนได้ จึงสะดวกต่อการใช้งานในพื้นที่ทางการเกษตร รวมไปถึงการแผ้วถางพื้นที่รกร้างต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาลักษณะการใช้งานด้วยว่าเป็นลักษณะงานแบบใด หากเป็นการตัดโค่นหรือตัดกิ่งไม้เนื้อแข็งขนาดใหญ่ควรเลือกใช้เลื่อยยนต์ไร้สายที่เป็นเครื่องยนต์น้ำมัน ซึ่งจะมีประสิทธิภาพการทำงานสูงกว่าเลื่อยยนต์ไฟฟ้าแบบมีสายทั่วไป แต่ถ้าเป็นการตัดแต่งกิ่งขนาดเล็กหรือการตัดโค่นแผ้วถางต้นไม้ที่มีขนาดหน้าตัดไม่เกิน 7 นิ้ว ก็สามารถเลือกใช้เลื่อยยนต์ไฟฟ้าไร้สายแทนได้ แม้ว่าส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภาพในการตัดต่ำกว่าเลื่อยยนต์ไฟฟ้าแบบมีสายก็ตาม

ในงานตัดไม้ที่ต้องการแนวการตัดเรียบเนียน ตัดงานเฟอร์นิเจอร์และงานไม้โครงสร้างบ้านควรเลือกเลื่อยยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อการแปรรูปไม้โดยเฉพาะ ซึ่งจะมีด้ามจับหน้าที่เป็นคลัชท์ สามารถควบคุมแนวการตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยส่วนใหญ่จะเป็นเลื่อยเครื่องยนต์น้ำมันเสียงที่ค่อนข้างดังมาก แต่ถ้าต้องการเลื่อยเสียงเบาที่สามารถใช้ในเขตชุมชนได้ ก็ต้องเลือกใช้เลื่อยยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาสำหรับการแปรรูปไม้โดยเฉพาะ ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าเลื่อยยนต์ทั่วไปพอสมควร

ทั้งนี้ ในการใช้งานจริงจะไม่นิยมใช้เลื่อยยนต์ที่เป็นเลื่อยโซ่ยนต์ในการเลื่อยไม้เฟอร์นิเจอร์หรือเลื่อยชิ้นส่วนโครงสร้างภายในบ้าน เนื่องจากเลื่อยยนต์ออกแบบมาเพื่อใช้ในการตัดโค่นและแปรรูปไม้ จึงมีแนวคมเลื่อยที่ค่อนข้างหยาบ กินเนื้อไม้กว้างกว่าเลื่อยชนิดอื่น

สำหรับการตัดแต่งเฟอร์นิเจอร์หรือการตัดแต่งโครงสร้างไม้ในตัวบ้านไม่ควรใช้เลื่อยยนต์ในการเลื่อยเก็บชิ้นงาน แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ควรใช้ในการเลื่อยตัดส่วนที่ไม่ได้ต้องการรายละเอียดมากนัก เช่น หัวเสา คาน หรือเสารั้ว 

นอกจากนี้ หากต้องการนำมาใช้ในการตัดชิ้นงานเฟอร์นิเจอร์ จำเป็นต้องมีการใช้กบไสปรับรอยเลื่อยให้เรียบเนียน ซึ่งเลื่อยที่ใช้ในงานลักษณะนี้ควรเป็นเลื่อยที่มีขนาดบาร์เลื่อยไม่เกิน 12 นิ้ว และมีกำลังเครื่องไม่เกิน 1 แรงม้า หรือไม่เกิน 750 วัตต์ เพราะง่ายต่อการควบคุม อีกทั้งการเลือกใช้โซ่และบาร์ยังต้องเลือกใช้รุ่นพิเศษที่เป็นโซ่เส้นเล็กที่ออกแบบมาเพื่อใช้การตัดงานละเอียดโดยเฉพาะ

ด้ามจับเลื่อยยนต์สำหรับการใช้ในงานตัดแต่งเฟอร์นิเจอร์หรือการตกแต่งภายในบ้านควรพิจารณาจากลักษณะงานเป็นหลัก หากเป็นงานที่ใช้บนที่สูงหรือต้องการความคล่องตัว เช่น การตัดแต่งระบายชายคา หรือการตัดแต่งท่อนไม้ในการทำเฟอร์นิเจอร์สไตล์คลาสสิกควรเลือกใช้ด้ามจับแบบมือเดียวของเลื่อยยนต์ไฟฟ้าไร้สาย แต่ถ้าเป็นการตัดหัวเสาขนาดใหญ่ การเลือกใช้ด้ามจับเลื่อยยนต์แบบที่มีคลัชท์และด้ามจับอยู่ด้านหลังจะสะดวกและปลอดภัยมากกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชำนาญของช่างผู้ปฏิบัติงานด้วยเช่นกัน