10 แอร์ 24000 BTU ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 แอร์แนะนำ ราคาดี

แอร์ 24000 BTU นั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระบบด้วยกัน คือ ระบบ Fixed Speed และระบบ Inverter ซึ่งทั้ง 2 ระบบนี้ มีลักษณะการทำงานและจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน จึงเหมาะกับลักษณะการใช้งานที่ต่างกันไปด้วย สามารถตรวจสอบได้จากข้อมูลต่อไปนี้

สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกแอร์ 24000 BTU คือการตรวจสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะจากฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 และค่า SEER เพราะจะช่วยให้คุณสามารถประหยัดค่าไฟได้ดีมากยิ่งขึ้น

แผงคอยล์ (Coil) มีลักษณะเป็นแผงโลหะซี่ถี่ โดยจะแบ่งออกเป็นคอยล์เย็น (Evaporator) ที่จะอยู่ในตัวแอร์ภายในอาคาร และคอยล์ร้อน (Condensor) ที่อยู่กับคอมเพรสเซอร์ด้านนอกอาคาร โดยทั้งสองส่วนนี้จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างระบวนการแลกเปลี่ยนอากาศในการทำความเย็น โดยแผงคอยล์นี้จะผลิตจากวัสดุหลัก ๆ 2 ประเภท คือ

• คอยล์อะลูมิเนียม (Aluminum Coil) : มีน้ำหนักเบา และต้นทุนการผลิตนั้นต่ำกว่าคอยล์ทองแดง ราคาแอร์ 24000 BTU จึงถูกลงตามไปด้วย ส่วนข้อพิจารณาคือ ไม่ค่อยทนทานต่อการผุกร่อนจากสภาพแวดล้อมต่าง รวมไปถึงไม่ทนทานต่ออุณหภูมิความสูง นอกจากนี้ หากมีการผุกร่อนแล้วจะไม่สามารถซ่อมเฉพาะจุดได้ ทำให้เมื่อมีการว่อมแซมจะต้องเปลี่ยนคอยล์ยกแผง

• คอยล์ทองแดง (Copper Coil) : มีความทนทานสูง โดยสามารถทนทานต่อการผุกร่อนของจากสารเคมีต่าง ๆ หรือจากสภาพแวดล้อมและอากาศต่าง ๆ อีกทั้งยังทนทานต่ออุณหภูมิสูงและระบายความร้อนได้ดี หากมีจุดที่ชำรุดหรือคอยล์รั่วก็สามารถซ่อมแซมด้วยการเชื่อมปิดเฉพาะจุดได้ สำหรับข้อพิจารณาคือ มีราคาสูงกว่าคอยล์อะลูมิเนียม และการซ่อมแซมเชื่อมรอยรั่วต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญ และค่าซ่อมแซมสูง

ฟังก์ชันเสริมของแอร์ 24000 BTU เป็นอีกจุดขายที่ทำให้แอร์แต่ละรุ่นมีความน่าสนใจแตกต่างกันไป ซึ่งฟังก์ชันเสริมนี้จะช่วยให้การใช้งานแอร์เป็นไปได้อย่างสะดวกและมีประโยชน์มากยิ่งขึ้น จึงขอแนะนำตัวอย่างฟังก์ชันเสริมที่น่าสนใจ ดังนี้

• ใบพัดสวิง 4 ทิศทาง : ใบพัดหรือบานสวิงจะสามารถหมุนได้ 4 ทิศทาง โดยแบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วน ระหว่างบานสวิงซ้าย-ขวา และบานสวิงขึ้น-ลง และส่วนใหญ่คุณสามารถควบคุมทิศทางบานสวิงได้ ทั้งการตั้งค่าให้หมุนโดยอัตโนมัติหรือล็อกตำแหน่งเฉพาะจุด

• ระบบฟอกอากาศ : จะใช้แผ่นกรองอากาศหรือฟิลเตอร์เป็นตัวหลักในการฟอกอากาศ เพื่อทำให้อากาศภายในห้องสะอาดบริสุทธิ์ ปลอดภัยต่อสุขภาพยิ่งขึ้น โดยจะดูดอากาศโดยรอบห้อง ให้ผ่านแผ่นกรองอากาศภายในแอร์ โดยอากาศที่ถูกนั้นจะผ่านกระบวนการทำความเย็นต่อไป 

• ระบบลดความชื้น : ในอีกชื่อหนึ่งคือ Dry Mode เมื่อใช้งานจะช่วยดูดความชื้นภายในห้องได้ โหมดนี้เหมาะสำหรับห้องที่มีความชื้นสูง ไม่ว่าจะเป็นเพราะฝนตก หรือที่พักอาศัยอยู่ใกล้สภาพแวดล้อมที่มีความชื้น โดยความชื้นนี้เป็นแหล่งอยู่อาศัยที่สารก่อภูมิแพ้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย เมื่อเปิดใช้งานจึงปลอดภัยต่อสุขภาพขึ้น

• เชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน : เป็นการเชื่อมต่อแอร์เข้ากับระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อให้คุณสามารถควบคุมการทำงานของแอร์ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือหรือแท็บเล็ตจากที่ไหนบนโลกก็ได้ โดยสามารถสั่งการเปิด-ปิด ปรับอุณหภูมิ ตั้งเวลา ควบคุมทิศทางลม และอื่น ๆ ได้เหมือนการใช้รีโมตคอนโทรลแอร์ทั่วไป

สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ การตรวจสอบการรับประกันแอร์และคอมเพรสเซอร์แอร์ ซึ่งการรับประกันแอร์นี้ ส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ อะไหล่ คอยล์เย็น และคอมเพรสเซอร์ ซึ่งระยะเวลารับประกันอะไหล่และคอยล์เย็นมักจะอยู่ที่ 1-3 ปี และคอมเพรสเซอร์คือ 5-10 ปี ซึ่งแต่ละแบรนด์หรือแม้แบรนด์เดียวกันแต่คนละรุ่นก็อาจมีระยะเวลารับประกันที่ไม่เท่ากัน 

โดยขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีระยะเวลาการรับประกันที่ยาวนานมากที่สุด เพราะหากแอร์เกิดอาการขัดข้องหรือชำรุดเสียหาย แต่ยังอยู่ในระยะเวลารับประกัน คุณยังสามารถติดต่อแบรนด์ผู้ผลิตเพื่อให้มาตรวจสอบและซ่อมแซมได้ แต่ถ้าหากชำรุดหลังระยะเวลารับประกัน จะต้องออกค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมด้วยตนเองทั้งหมด ซึ่งเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ 

สำหรับการติดตั้งแอร์ 24000 BTU นั้น จะมีทั้งบริการของช่างจากทางแบรนด์โดยตรง หรือที่เรียกว่าช่างศูนย์ และยังมีบริการติดตั้งจากช่างภายนอก ซึ่งแอร์ 24000 BTU นั้น เป็นขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ จึงอาจมีค่าบริการติดตั้งอยู่ระหว่าง 3,500-4,500 บาท ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสถานที่ติดตั้ง ประเภทของแอร์ และอุปกรณ์ติดตั้งเพิ่มเติมหากมีความจำเป็นต้องใช้นอกเหนือจากราคาที่ตกลงกันไว้ 

และสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือ หากเลือกช่างติดตั้งจากภายนอก ควรเลือกช่างที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ และมีความชำนาง อีกทั้งยังควรเลือกช่างที่มีการรับประกันการติดตั้งอย่างน้อย 6 เดือน เพราะหากมีอาการรั่วหรือช่างติดตั้งไม่เรียบร้อย จะทำให้แอร์ไม่เย็นหรือชำรุดเสียหายได้นั่นเอง