10 รอกโซ่ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รวมแบบไฟฟ้า มือโยก และมือสาว

ปัจจุบันรอกโซ่มีการแบ่งออกมาตามลักษณะแรงต้นที่ใช้ประกอบการทำงานของรอกโซ่ ซึ่งรอกโซ่แต่ละประเภทก็สามารถนำมาใช้งานได้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนที่คุณจะนำรอกโซ่มาใช้งานคุณควรตรวจสอบให้ดีว่ารอกโซ่เหล่านั้นเป็นประเภทไหน

การเลือกรอกโซ่ควร รองรับน้ำหนักได้มากกว่าของที่ต้องการยกจริงอย่างน้อย 25% เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการรับน้ำหนักเกินพิกัด โดยสามารถเลือกขนาดรอกโซ่ให้เหมาะสมกับงานแต่ละประเภท ดังนี้

• รอกโซ่ 0.5 - 1 ตัน เหมาะสำหรับงานยกสิ่งของทั่วไป หรืองานเบา เช่น ยกเครื่องยนต์ในอู่ซ่อมรถ ใช้งานในคลังสินค้าขนาดเล็ก หรือใช้ยกของในร้านวัสดุก่อสร้างขนาดเล็ก

• รอกโซ่ 2 - 3 ตัน  เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลาง ไซต์ก่อสร้างที่ต้องยกเหล็ก วัสดุก่อสร้าง หรือเครื่องจักรขนาดกลาง ใช้ได้ทั้งรอกโซ่มือสาวและรอกโซ่มือโยก

• รอกโซ่ 5 ตัน ขึ้นไป เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ งานอุตสาหกรรมการผลิต หรือโรงงานที่ต้องเคลื่อนย้ายเครื่องจักรหนัก เช่น เครื่องจักรโรงงาน น้ำหนักมากกว่า 5 ตันขึ้นไป

การเลือกรอกโซ่ที่มีความยาวเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถใช้งานได้สะดวกและปลอดภัย โดยควรเลือกให้สอดคล้องกับพื้นที่ทำงานและความสูงของจุดยก ดังนี้

• รอกโซ่ 3 เมตร  เป็นความยาวระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด หรือมีเพดานต่ำ เช่น โรงงานขนาดเล็ก อู่ซ่อมรถ หรือใช้ยกของภายในครัวเรือน ใช้งานง่ายและสะดวกในพื้นที่แคบ

• รอกโซ่ 6 เมตร เป็นขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เช่น คลังสินค้า ไซต์งานก่อสร้าง หรือโรงงานทั่วไป รองรับงานที่ต้องยกสิ่งของจากระดับพื้นขึ้นชั้นลอยหรือชั้นสองของอาคาร

• รอกโซ่ 9 เมตร ขึ้นไป เหมาะสำหรับงานที่ต้องยกของจากที่ต่ำขึ้นที่สูงมาก เช่น โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โกดังสินค้า หรือไซต์งานที่ต้องเคลื่อนย้ายเครื่องจักรขนาดใหญ่ขึ้นที่สูง

ระบบการทำงานของรอกโซ่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ รอกโซ่แบบรอบเร็ว (High-Speed Hoist) และรอกโซ่แบบรอบช้า (Low-Speed Hoist) ซึ่งแต่ละประเภทมาพร้อมกับความเร็วในการยกที่ต่างกัน โดยมีจุดเด่นและข้อพิจารณาที่แตกต่างกัน ดังนี้

• รอกโซ่แบบรอบเร็ว (High-Speed Hoist) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความรวดเร็ว แต่ไม่ต้องการความละเอียดหรือต้องระมัดระวังมาก เช่น การย้ายสิ่งของหนักทั่วไปในชีวิตประจำวัน การขนย้ายสิ่งของในระยะทางสั้น ๆ

• รอกโซ่แบบรอบช้า (Low-Speed Hoist) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดและความแม่นยำสูง เช่น การติดตั้งเครื่องจักร งานประกอบชิ้นส่วนตัวอาคาร หรือยกวัตถุที่เสี่ยงต่อการแตกหักได้ง่าย

ถึงแม้ว่าโซ่จะผลิตจากโลหะเหมือนกัน แต่ในแต่ละรุ่นใช้ชนิดหรือเกรดของโลหะในการผลิตโซ่ที่ไม่เท่ากัน ซึ่งโลหะชนิดต่าง ๆ จะมาพร้อมกับระดับคุณภาพที่ไม่เท่ากัน โดยแต่ละระดับถูกกำหนดมาตรฐานโดย The American Society for Testing and Materials (ASTM)

• G60 : ผลิตจากสเตนเลส มีข้อดีคือทนทานต่อสนิม เหมาะสำหรับยกสิ่งของที่พบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน หรืองานที่ต้องสัมผัสกับน้ำหรือความชื้น เช่น งานระบบประปา ไม่เหมาะสำหรับงานหนัก 

• G80 : ผลิตจากอัลลอยโดยกระบวนการทางความร้อน เป็นระดับมาตรฐานที่สามารถยกสิ่งของแบบข้ามศีรษะได้ (Overhead Lifting) จึงเป็นระดับคุณภาพที่แนะนำ เพราะสามารถนำไปใช้ได้กับลักษณะหน้างานที่หลากหลาย

• G100 : ผลิตจากอัลลอยและผสมกับโลหะชนิดอื่น ๆ จึงทำให้มีความทนทานกว่า โดยสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า G80 25% เหมาะกับการใช้ยกสิ่งของที่มีน้ำหนักเป็นพิเศษ เช่น งานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ การยกเครื่องจักร การยกเครื่องยนต์ของรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่

เนื่องจากรอกโซ่เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ยกสิ่งของหรือวัตถุที่มีน้ำหนักมาก จึงมีความเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดอุบัติเหตุได้สูงหากเป็นรอกโซ่ที่ไม่มีมาตรฐาน จึงขอแนะนำให้ตรวจสอบระบบนิรภัยของรอกโซ่ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

• ระบบเบรกคู่ : ผสมผสานระบบเบรกแบบกลไกดั้งเดิมและระบบเบรกไฟฟ้าให้ทำงานร่วมกัน ช่วยให้สามารถหยุดโซ่ได้อย่างแม่นยำและป้องกันโซ่รูดกลับ จึงสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุหรือทำให้สิ่งของเสียหายได้

• ตะขอเซฟตี้ล็อก : มีลักษณะการทำงานคือ คุณจะสามารถง้างลิ้นตะขอเข้าไปด้านในได้เพียงทางเดียว เพื่อเกี่ยวสิ่งของหรือวัตถุ เมื่อสิ่งของอยู่ภายในตะขอ จะไม่สามารถดันลิ้นออกมาด้านนอกได้ เพื่อป้องกันสิ่งของที่เกี่ยวหลุดออกจากตะขอในขณะใช้งาน