Top 5 อายแชโดว์เนื้อครีม ยอดนิยม
คุณอีฟจบคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมีความสนใจในเรื่องเครื่องสำอางและการแต่งหน้าเป็นพิเศษตั้งแต่สมัยเรียน จึงเข้าคอร์สอบรม Beauty Makeup จากสถาบัน International Makeup Center (IMC) จนได้รับรางวัล The Best Makeup Artist of the Class จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นในสายงานนี้ นอกเหนือจากการแต่งหน้าแล้ว คุณอีฟยังสนใจด้านการทำเล็บและขนตา จึงสมัครเข้ารับการอบรบ Nail Care & Art Gel Training Program ของสถาบัน Nail It! Tokyo Academy Education และ YUMI Lashes Training Course จาก YUMI LASHES เพิ่มเติม ปัจจุบันคุณอีฟทำงานเป็น Freelance Makeup and Hair Artist, Lashes Technician, Nail Artist พร้อมทั้งศึกษาต่ออยู่ที่ประเทศเยอรมนี โดยยังคอยติดตามเทรนด์การแต่งหน้า รวมถึงเครื่องสำอางใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะส่วนตัวแล้วคุณอีฟมองว่าก่อนการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ความงาม ผู้ใช้งานควรทำการศึกษาข้อมูลทั้งจากเว็บไซด์หลักของแบรนด์ เว็บไซด์แนะนำ รีวิวผลิตภัณฑ์ หรือรีวิวจากผู้ใช้อื่น ๆ เพื่อช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเอง สามารถเนรมิตแต่งหน้าให้ออกมาได้อย่างสวยงามและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากที่สุด
คุณอีฟใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2017 และทำงานเป็นพนักงานประสานงานระหว่างคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติในจังหวัดคานะกะวะ นอกเหนือจากงานหลักแล้ว คุณอีฟยังทำงานเป็นล่ามฟรีแลนซ์และมีความสนใจในเรื่องเครื่องสำอางและสกินแคร์ โดยชอบติดตามเทรนด์ความงามทั้งจากแบรนด์ญี่ปุ่นและอื่น ๆ ทดลองผลิตภัณฑ์ และอ่านรีวิวเกี่ยวกับเครื่องสำอางและสกินแคร์อยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังมีประสบการณ์แต่งหน้าสำหรับงานต่าง ๆ ทั้งในไทยและญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นแต่งหน้าเจ้าสาว แต่งหน้ารับปริญญา หรือแต่งหน้าออกงาน ทำให้คุณอีฟเข้าใจการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวและโอกาสต่าง ๆ ซึ่งนอกจากด้านความงามแล้ว คุณอีฟยังรักการทำอาหาร โดยเฉพาะการคิดค้นสูตรใหม่ ๆ ที่ผสมผสานระหว่างอาหารไทยและญี่ปุ่น รวมถึงสอนทำอาหารไทยให้กับคนญี่ปุ่นเป็นครั้งคราว จึงชอบทดลองวัตถุดิบที่หาได้ในญี่ปุ่น และปรับรสชาติให้เข้ากับวัฒนธรรมการกินของที่นี่ อีกทั้งยังสนุกกับการแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคแต่งหน้า การเลือกสกินแคร์ หรือการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประโยชน์
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
ในหัวข้อนี้มาทำความรู้จักกับอายแชโดว์แบบครีมกันอีกสักนิดผ่านวิธีการเลือก เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาให้คุณดังนี้
ตามที่ได้เกริ่นไปในตอนต้นว่าฟินิชลุคของเนื้ออายแชโดว์แบบนี้จะทำให้เปลือกตาแวววาวและขับให้ดวงตาดูโดดเด่นน่าค้นหามากขึ้น แต่ความแวววาวของอายแชโดว์ชนิดนี้ไม่ได้มาเป็นแพทเทิร์นเดียวกันเสมอไป บางตัวก็แวววาวเล็กน้อยเพื่อเน้นความเป็นธรรมชาติ บางตัวก็แวววาวมากเพื่อเพิ่มเมคอัพลุคให้ดูหรูหรา แล้วเราควรเลือกอย่างไรให้ตรงกับลุคที่ต้องการ ไปอ่านต่อกันเลย
อายแชโดว์เนื้อครีมส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมให้ลุคผิวมีความเปล่งประกายเป็นส่วนประกอบอยู่ ซึ่งจะมีอยู่ 2 แบบคือ แบบผสมชิมเมอร์หรือประกายมุกที่เนื้อผลิตภัณฑ์จะละเอียดหน่อย เมื่อทาลงบนเปลือกตาแล้วจะล่อแสงตกกระทบได้ดี ทำให้ดวงตาดูเปล่งประกาย น่าค้นหามากกว่าเดิม
กับอีกแบบคือ แบบผสมกลิตเตอร์ที่จะให้เกิดประกายวิบวับมากขึ้น เนื้อผลิตภัณฑ์จะมองเห็นเป็นเกล็ดระยิบระยับชัดเจน มีความละเอียดน้อยกว่าแบบชิมเมอร์ เหมาะกับการแต่งหน้าในโอกาสที่ต้องการสร้างความโดดเด่นให้กับดวงตา อย่างเช่นตอนไปออกงานกลางคืน เป็นต้น
อายแชโดว์แบบครีมที่เนื้อมีประกาย จะมีทั้งแบบเนื้อชิมเมอร์และแบบเนื้อกลิตเตอร์ค่ะ เนื้อชิมเมอร์ก็จะให้ฟินิชเงาวิ้ง เวลาเหลือบสะท้อนกับแสงไฟก็จะดูฉ่ำ ๆ คล้ายสีประกายจากเปลือกหอย มีเนื้อลื่น เกลี่ยง่าย และเบลนด์ให้เข้ากับผิวได้ง่ายมากกว่าเนื้อฟินิชอื่น ในส่วนของเนื้อกลิตเตอร์จะมีกากเพชรที่ใหญ่และชัดเจนกว่า เล่นกับแสงไฟกลางคืนได้เด่นกว่า จึงเหมาะที่จะใช้กับงานกลางคืนเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับเมคอัพของคุณค่ะ
อายแชโดว์เนื้อครีมแบบแมตต์หรือเนื้อธรรมดาจะเหมาะสำหรับลุคธรรมชาติ เหมาะกับสาว ๆ ที่ใช้แต่งหน้าในวันปกติ เช่น แต่งหน้าไปทำงานหรือแต่งหน้าไปเรียน มีเนื้อที่ติดทนนาน หลุดยาก ช่วยให้เราไม่ต้องเสียเวลาเติมหน้าระหว่างวันบ่อย พร้อมได้ลุคที่มีมิติอีกด้วย นอกจากนี้เนื้อแบบไม่มีประกายนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อใช้เป็นเฉดดิ้ง แต่งหน้าให้คมเหมือนลูกครึ่งก็ยังได้
สำหรับอายแชโดว์แบบครีมเนื้อแมตต์ คุณสามารถใช้เดี่ยว ๆ สีเดียว และเบลนด์ให้เข้ากับเปลือกตาก่อนจะลงอายเมคอัพอื่น ๆ เช่น อายไลเนอร์หรือมาสคาร่าเพื่อคอมพลีทอายเมคอัพลุคนั้น หรือคุณจะประยุกต์อายแชโดว์เนื้อครีมแบบแมตต์มาใช้เป็นอายไพรเมอร์ก็ได้ค่ะ การใช้อายแชโดว์แบบครีมก่อนลงอายแชโดว์แบบฝุ่นจะเพิ่มประสิทธิภาพให้สีอายแชโดว์แบบฝุ่นชัดเจนยิ่งขึ้น แถมยังช่วยให้เมคอัพบนเปลือกตาติดทนนานมากยิ่งขึ้นด้วย
มองเผิน ๆ อายแชโดว์เนื้อครีมอาจดูคล้ายกันไปซะหมด แต่ความจริงแล้ว ไอเทมนี้เค้าก็มีเนื้อสัมผัสหลายประเภทอยู่เหมือนกัน ซึ่งแต่ละประเภทนั้นยังมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไปด้วย เราจึงควรศึกษาเอาไว้เพื่อจะได้เลือกให้เหมาะกับตัวเอง
เนื้อครีมเป็นชนิดที่มีส่วนผสมเป็นน้ำมันอยู่มาก ช่วยปกป้องดวงตาจากความแห้งกร้านเหมาะกับสาวผิวแห้งเป็นที่สุด และถือเป็นเนื้อที่ให้ฟินิชลุคฉ่ำวาวที่สุดในบรรดาเนื้อสัมผัสทั้งหมด ทำให้ดวงตาของสาว ๆ ดูสุขภาพดี น่ามอง น่าค้นหา แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เปลือกตามีความมันอยู่แล้ว การใช้อายแชโดว์แบบเนื้อครีมมีโอกาสจะทำให้อายแชโดว์เปื้อนหรือตกร่องได้ง่าย กรณีนี้ก่อนใช้จึงขอแนะนำให้สาว ๆ ทาอายแชโดว์เบสหรือลงแป้งที่เปลือกตาก่อนลงครีมอายแชโดว์ก็จะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้
การใช้อายแชโดว์เนื้อครีมที่ให้ฟินิชลุคฉ่ำวาวอาจจะไม่เหมาะกับคนผิวมันค่ะ เพราะเมื่อน้ำมันขับออกจากผิวระหว่างวันจะทำให้เนื้ออายแชโดว์หลุดและไปกองที่รอยพับเปลือกตาได้ การใช้อายแชโดว์ชนิดนี้ หลังทาลงบนเปลือกตาควรรอให้เช็ตตัวเล็กน้อย จากนั้นแนะนำให้คุณใช้แปรงทาตาเล็ก ๆ แตะแป้งฝุ่นโปร่งแสงและกดทับบนเปลือกตาเบา ๆ เพื่อเซ็ตให้อายแชโดว์เนื้อครีมอยู่กับที่ หรือจะใช้อายแชโดว์เนื้อฝุ่นสีใกล้เคียงกันก็ได้ ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะและติดทนนานตลอดวันค่ะ
ถือเป็นการผสานข้อดีของเนื้อสัมผัสทั้ง 2 แบบเข้าไว้ด้วยกัน โดยเนื้อลักษณะนี้เมื่อทาตอนแรกจะชุ่มชื้นเหมือนแบบครีมแต่เมื่อแห้งแล้วจะกลายเป็นเนื้อฝุ่นทำให้ได้ฟินิชลุคกึ่งแมตต์ เหมาะกับคนที่มีผิวมันเพราะจะช่วยไม่ให้อายแชโดว์เปื้อนเยิ้มหรือตกร่อง แม้ว่าจะให้ความฉ่ำวาวของผิวไม่เท่าแบบครีมแต่ถ้าเลือกชนิดที่มีประกายมุกผสมอยู่ก็จะเพิ่มความเปล่งประกายให้ดวงตาได้มากขึ้น
อายแชโดว์เนื้อครีมที่เปลี่ยนฟินิชเป็นฝุ่นทีหลัง มีข้อดีตรงที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าคุณจะมีผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสมก็สามารถใช้ได้ นอกจากนี้ การที่อายแชโดว์เนื้อครีมเปลี่ยนเป็นเนื้อฝุ่นหลังการทา คุณก็ไม่จำเป็นต้องเซ็ตอายแชโดว์อีกรอบด้วยเแป้งฝุ่นค่ะ ทำให้ช่วยประหยัดเวลาในการแต่งหน้าไปได้อีกหนึ่งขั้น แต่ข้อควรระวังในการใช้อายแชโดว์ที่เปลี่ยนเท็กเจอร์ได้แบบนี้ คือ ถ้าคุณไม่เกลี่ยให้ดีจะเป็นคราบได้ง่ายค่ะ
แบบแท่งเป็นชนิดที่เรียกว่าทาได้ง่าย ใช้ได้ตรงจุดที่ต้องการมากที่สุด แค่ทาตรง ๆ ลงบนเปลือกตาเลยแล้วใช้นิ้วเกลี่ยตามก็จบ หากเป็นตัวที่สีเข้มหน่อยจะนำมาใช้เป็นอายไลเนอร์ก็ได้ หากเลือกสีที่อ่อน ๆ หน่อยก็นำมาใช้ทาใต้ตาเพื่อสร้างมิติเหมือนมีถุงน้ำตา ก็จะได้ลุคที่อ่อนเยาว์แบบง่าย ๆ เช่นกัน บรรจุภัณฑ์ก็มีจำหน่ายกันทั้งในรูปแบบดินสอที่ต้องเหลาและแบบมีไส้หมุนได้เหมือนลิปสติก มีความนุ่มของเนื้อหลายระดับให้เลือก อีกทั้งยังพกพาไปไหนมาไหนได้ง่ายด้วย
อายแชโดว์เนื้อครีมแบบแท่งมีประโยชน์มากมายหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งใช้งานง่าย พกพาไปไหนมาไหนสะดวก นำมาประยุกต์ใช้ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะใช้แทนอายไลเนอร์หรือจะเป็นไฮไลต์ก็ยังได้ แต่การใช้อายแชโดว์เนื้อครีมแบบแท่งที่มีหัวคล้ายดินสอนั้น ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังนะคะ ควรเบามือมาก ๆ เวลาเขียนลงบนเปลือกตา เพราะผิวที่เปลือกตาเป็นส่วนที่บอบบางมาก การทาอายแชโดว์เนื้อครีมที่เป็นแท่งแบบนี้ หากไม่เบามือจะทำให้เกิดการระคายเคือง และมีส่วนทำให้เกิดริ้วรอยบนเปลือกตาหรือรอบดวงตาได้ค่ะ
เริ่มมีให้เห็นในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ กับอายแชโดว์แบบน้ำที่มีเสน่ห์ไม่แพ้แบบอื่น ๆ โดยเนื้อชนิดนี้เป็นเนื้อเหลวที่สุดในบรรดาทั้งหมด ทำให้กะปริมาณในการทาได้ง่ายและแค่ปริมาณนิดเดียวก็เกลี่ยได้ทั่วเปลือกตา ให้ฟินิชลุคดูฉ่ำน้ำแลดูเป็นธรรมชาติไม่หนักตา ถ้าอยากได้ลุคที่โดดเด่นขึ้นมาอีกหน่อยก็สามารถทาเป็นเลเยอร์ทับลงไปได้ ผลิตภัณฑ์มักมาในรูปแบบหลอดหรือขวดแบบมีก้านทาที่ใช้ง่ายพกสะดวกเช่นกัน
อายแชโดว์เนื้อครีมแบบลิควิดจะให้ความเบาสบายเปลือกตามากกว่าแบบอื่นเพราะมีเนื้อบางเบากว่าค่ะ เวลาใช้อายแชโดว์ชนิดนี้ คุณควรกะปริมาณให้พอดี เทคนิคที่อยากแนะนำคือ แทนที่จะป้ายเนื้อลิควิดลงบนเปลือกตาโดยตรง ให้ป้ายที่หลังมือของคุณก่อน จากนั้นค่อยใช้นิ้วหรือแปรงป้ายจากหลังมือแล้วทาลงบนเปลือกตา เพราะถ้าคุณลงปริมาณเนื้ออายแชโดว์ลิควิดเยอะเกินไปจะทำให้เลอะเทอะและเบลนด์สีให้เนียนได้ยากค่ะ
แน่นอนว่าอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการเลือกซื้ออายแชโดว์ก็คือเรื่องของ “เฉดสี” การมีติดไว้หลาย ๆ สีก็จะช่วยให้สะดวกในการใช้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมคำนึงถึงเมคอัพลุคที่ต้องการด้วย ควรเช็ควัตถุประสงค์ของตัวเองก่อนว่า ต้องการนำอายแชโดว์ไปทำอะไร โดยเราขอแนะนำว่าถ้าคุณจะใช้ทาเป็นเบสหรือเฉดดิ้ง ก็ให้เลือกโทนสีที่เข้ากับผิวได้ดีอย่างเช่นสีเบจหรือสีน้ำตาลเข้าไว้ ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณอยากใช้เพื่อเพิ่มสีสันให้กับดวงตา ก็ให้เลือกโทนสีที่จัดจ้านมากขึ้น ส่วนกรณีที่ต้องการแค่การแต่งหน้าไปทำงาน ก็ให้เลือกสีน้ำตาล สีเทาที่ไม่ต้องมีประกายมากก็จะเหมาะสมที่สุด
การเลือกซื้ออายแชโดว์แบบครีมนั้น คุณควรคำนึงถึงการแต่งหน้าของตัวเองก่อนค่ะ ว่าโดยปกติแล้วคุณชอบแต่งหน้าลุคหรือโทนไหนเป็นพิเศษ เราไม่จำเป็นต้องมีอายแชโดว์เนื้อครีมทุกสี ให้เลือกซื้อสีที่คุณคิดว่าจะได้ใช้บ่อย เพราะอายแชโดว์เนื้อครีมมักจะมาเป็นหนึ่งสีหนึ่งกระปุกหรือหนึ่งแท่ง การซื้อให้ครบทุกสีจะเป็นการเปลืองเงินโดยใช่เหตุค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วเรามักจะไม่ได้ใช้ครบทุกสี และอายแชโดว์เนื้อครีมจะมีอายุการใช้งานสั้นกว่าแบบฝุ่น ฉะนั้นใช้เลือกซื้อแต่สีที่คุณคิดว่าได้ใช้แน่นอนก่อนหมดอายุก็พอแล้วค่ะ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเภท | ฟินิชลุค | ปริมาณบรรจุ | จำนวนเฉดสีที่จัดจำหน่าย | ส่วนผสมบำรุงผิว | กันน้ำ กันเหงื่อ | ปราศจากน้ำหอม | ปราศจากพาราเบน | |||||
1 | MEILINDA Glitter pop eye stick | ![]() | เนื้อกลิตเตอร์และแมตต์ แต่งได้หลายลุค เฉดสีอยู่ทนนาน | ดินสอ | เเมตต์、ชิมเมอร์ | 1.5 กรัม | 6 เฉดสี | Tocopheryl Acetate | ||||
2 | Browit Jelly Eyeshadow & Blusher | ![]() | ใช้ได้ 2 in 1 เนื้อครีมเกลี่ยง่าย บำรุงด้วยสารสกัดจากพืช | หลอด | เเมตต์ | 10 กรัม | 3 เฉดสี | Cucumber, Rosemary, Chamomile, Centella Asiatica, Tea Leaf, Licorice Root, Polygonum Cuspidatum, Polygonum Cuspidatum, Chinese Herbs | ||||
3 | Bobbi Brown Long-Wear Cream Shadow Stick | ![]() | เนื้อสัมผัสนุ่ม มีทั้งโทนแมตต์และชิมเมอร์ แต่งได้หลายลุค | ดินสอ | เเมตต์、ชิมเมอร์ | 1.6 กรัม | 5 เฉดสี | Vitamin C, Vitamin E, Lecithin | ||||
4 | Gvana Dandisnow Eyeshadow Stick | ![]() | สองหัวในแท่งเดียว เซตตัวไว โทนสุภาพเข้าได้กับทุกสีผิว | ดินสอ | ชิมเมอร์ | 0.66 กรัม | 2 เฉดสี | Tocopheryl Acetate | ||||
5 | 3CE Eye Switch | ![]() | เนื้อกลิตเตอร์ เพิ่มความแวววาว ใช้เขียนเป็นดอลลี่อายได้ | แท่ง / จุ่ม | กลิตเตอร์ | 4.3 กรัม | 5 เฉดสี | Vitamin E, Shea Butter | ||||
6 | Revlon Colorstay Day To Night Eyeshadow Quad | ![]() | 4 เฉดสี สีติดทนนาน แต่งได้หลากลุคทั้งกลางวัน กลางคืน | ตลับ | เเมตต์、ชิมเมอร์ | 4.8 กรัม | 4 เฉดสี | Lecithin | ||||
7 | Etude Bling Bling Idol Stick | ![]() | หัว 2 in 1 เพิ่มประกายให้ดวงตา ไม่ทำให้มันระหว่างวัน | ดินสอ | ชิมเมอร์ | 1.4 กรัม | 6 เฉดสี | Hydrogenated Vegetable Oil, Lecithin, Caprylyl Glycol, Tocopherol | ||||
8 | EVERPINK Draw Mate | ![]() | อ่อนโยนต่อรอบดวงตา ให้สีเป็นธรรมชาติ เบลนด์สีง่าย | ดินสอ | เเมตต์、กลิตเตอร์ | 0.5 กรัม | 6 เฉดสี | Tocopheryl Acetate, Caprylic | ||||
9 | KIKO MILANO New Long Lasting Eyeshadow Stick | ![]() | เปลือกตาชุ่มชื้นด้วยน้ำมันอาร์แกน ฟินิชลุคได้หลากหลาย | ดินสอ | เเมตต์、เมทัลลิค、ชิมเมอร์ | 1.6 กรัม | 28 เฉดสี | Argan Oil | ||||
10 | Jungsaemmool Artist Shadow Pencil. | ![]() | สีโทนอบอุ่นโทนเย็น มีกลิตเตอร์เพิ่มมิติ สีไม่จับตัวเป็นก้อน | ดินสอ | กลิตเตอร์ | 0.35 กรัม | 3 เฉดสี | Jojoba Seed Oil |
ประเภท | ดินสอ |
---|---|
ฟินิชลุค | เเมตต์、ชิมเมอร์ |
ปริมาณบรรจุ | 1.5 กรัม |
จำนวนเฉดสีที่จัดจำหน่าย | 6 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงผิว | Tocopheryl Acetate |
กันน้ำ กันเหงื่อ | |
ปราศจากน้ำหอม | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภท | หลอด |
---|---|
ฟินิชลุค | เเมตต์ |
ปริมาณบรรจุ | 10 กรัม |
จำนวนเฉดสีที่จัดจำหน่าย | 3 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงผิว | Cucumber, Rosemary, Chamomile, Centella Asiatica, Tea Leaf, Licorice Root, Polygonum Cuspidatum, Polygonum Cuspidatum, Chinese Herbs |
กันน้ำ กันเหงื่อ | |
ปราศจากน้ำหอม | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภท | ดินสอ |
---|---|
ฟินิชลุค | เเมตต์、ชิมเมอร์ |
ปริมาณบรรจุ | 1.6 กรัม |
จำนวนเฉดสีที่จัดจำหน่าย | 5 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงผิว | Vitamin C, Vitamin E, Lecithin |
กันน้ำ กันเหงื่อ | |
ปราศจากน้ำหอม | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภท | ดินสอ |
---|---|
ฟินิชลุค | ชิมเมอร์ |
ปริมาณบรรจุ | 0.66 กรัม |
จำนวนเฉดสีที่จัดจำหน่าย | 2 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงผิว | Tocopheryl Acetate |
กันน้ำ กันเหงื่อ | |
ปราศจากน้ำหอม | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภท | แท่ง / จุ่ม |
---|---|
ฟินิชลุค | กลิตเตอร์ |
ปริมาณบรรจุ | 4.3 กรัม |
จำนวนเฉดสีที่จัดจำหน่าย | 5 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงผิว | Vitamin E, Shea Butter |
กันน้ำ กันเหงื่อ | |
ปราศจากน้ำหอม | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภท | ตลับ |
---|---|
ฟินิชลุค | เเมตต์、ชิมเมอร์ |
ปริมาณบรรจุ | 4.8 กรัม |
จำนวนเฉดสีที่จัดจำหน่าย | 4 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงผิว | Lecithin |
กันน้ำ กันเหงื่อ | |
ปราศจากน้ำหอม | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภท | ดินสอ |
---|---|
ฟินิชลุค | ชิมเมอร์ |
ปริมาณบรรจุ | 1.4 กรัม |
จำนวนเฉดสีที่จัดจำหน่าย | 6 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงผิว | Hydrogenated Vegetable Oil, Lecithin, Caprylyl Glycol, Tocopherol |
กันน้ำ กันเหงื่อ | |
ปราศจากน้ำหอม | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภท | ดินสอ |
---|---|
ฟินิชลุค | เเมตต์、กลิตเตอร์ |
ปริมาณบรรจุ | 0.5 กรัม |
จำนวนเฉดสีที่จัดจำหน่าย | 6 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงผิว | Tocopheryl Acetate, Caprylic |
กันน้ำ กันเหงื่อ | |
ปราศจากน้ำหอม | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภท | ดินสอ |
---|---|
ฟินิชลุค | เเมตต์、เมทัลลิค、ชิมเมอร์ |
ปริมาณบรรจุ | 1.6 กรัม |
จำนวนเฉดสีที่จัดจำหน่าย | 28 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงผิว | Argan Oil |
กันน้ำ กันเหงื่อ | |
ปราศจากน้ำหอม | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภท | ดินสอ |
---|---|
ฟินิชลุค | กลิตเตอร์ |
ปริมาณบรรจุ | 0.35 กรัม |
จำนวนเฉดสีที่จัดจำหน่าย | 3 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงผิว | Jojoba Seed Oil |
กันน้ำ กันเหงื่อ | |
ปราศจากน้ำหอม | |
ปราศจากพาราเบน |
สำหรับอายแชโดว์เนื้อครีมนั้น อาจจะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่สำหรับมือใหม่บางคนก็อาจะเกิดข้อสงสัยต่าง ๆ อยู่บ้าง ในวันนี้ เราจึงมีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกัน
อายแชโดว์เนื้อครีมมีจุดเด่นที่ต่างจากอายแชโดว์เนื้อฝุ่นปกติ คือมีความติดทนมากกว่ามาก ด้วยความที่เป็นเนื้อครีม เมื่อทาลงบนผิวและแห้งแล้วก็จะยึดเกาะผิวได้ดี นอกจากนี้ ยังให้สีที่ชัดเจน สามารถ Build Up ได้ แถมยังสามารถประยุกต์ใช้ครีมอายแชโดว์เป็นอายไพรเมอร์ได้อีกด้วยค่ะ โดยปกติแล้ว อายแชโดว์เนื้อครีมจะมีเนื้อลื่น ครีมมี่ ทาลงบนผิวได้ง่าย แต่การใช้อายแชโดว์เนื้อครีมจะยากกว่าการใช้อายแชโดว์เนื้อฝุ่นเล็กน้อยและต้องอาศัยความชำนาญมากกว่า เนื่องจากคุณต้องแข่งกับเวลาเพราะอายแชโดว์เนื้อครีมเมื่อแห้งแล้วจะติดไปกับผิว ทำให้เบลนด์ดูเป็นธรรมชาติได้ยากค่ะ
อายแชโดว์เนื้อครีมสามารถใช้ได้กับการแต่งหน้าได้เกือบทุกลุคเลยค่ะ เพราะแม้จะเป็นเนื้อครีมแต่ก็มีให้เลือกหลากหลายฟินิช ทั้งแบบแมตต์ แบบชิมเมอร์ และแบบกลิตเตอร์ ไม่ต่างอะไรจากอายแชโดว์เนื้อฝุ่น แต่มีข้อได้เปรียบกว่าตรงที่ติดทนนานกว่า ให้สีที่ชัดเจนมากกว่า และยังเหมาะกับเวลาที่คุณต้องการแต่งตาแบบกลิตเตอร์แน่น ๆ เพราะอายแชโดว์เนื้อฝุ่นที่เป็นกลิตเตอร์จะมีข้อเสียตรงที่กลิตเตอร์จะติดไม่ค่อยทน และมักจะร่วงลงบนส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า ในขณะที่อายแชโดว์แบบครีมเนื้อกลิตเตอร์จะติดทนและไม่มีการหลุดร่วงให้กวนใจค่ะ
เทคนิคการล้างเครื่องสำอางบนเปลือกตาที่ทำร้ายผิวรอบดวงตาน้อยที่สุดที่อยากแนะนำคือ ให้นำสำลีชุบเมคอัพรีมูฟเวอร์ (ยิ่งเป็นสูตรสำหรับล้างเมคอัพรอบดวงตาและปากยิ่งดีค่ะ) ให้ชุ่มพอประมาณ จากนั้นหลับตาแล้วนำสำลีมาแปะไว้บนดวงตาโดยที่ยังไม่ต้องถูหรือเช็ด แปะทิ้งไว้ประมาณหนึ่งถึงสองนาทีเพื่อให้สำลีดูดซับเมคอัพ จากนั้นค่อย ๆ ลูบสำลีที่แปะอยู่ลงไปในทิศทางของขนตาเบา ๆ คุณก็จะเห็นว่าเมคอัพบนเปลือกตาไม่ว่าจะเป็นอายแชโดว์ อายไลเนอร์ หรือมาสคาร่านั้นหายไปอย่างง่ายดายเลยค่ะ
อันดับที่ 1: MEILINDA |Glitter pop eye stick
อันดับที่ 2: Browit |Jelly Eyeshadow & Blusher
อันดับที่ 3: Bobbi Brown|Long-Wear Cream Shadow Stick
อันดับที่ 4: Gvana |Dandisnow Eyeshadow Stick
อันดับที่ 5: 3CE|Eye Switch
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ