Top 5 ปรอทวัดไข้เด็ก ยอดนิยม
GLOWY
ปลายนิ่ม แปลผลรวดเร็ว ผ่านลูกศรและแถบสี ใช้วัดอุณหภูมิน้ำได้
Chicco
หน้าจอเรืองแสง วัดอุณหภูมิได้แม้กลางคืน อ่านค่าได้รวดเร็ว
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล หรือคุณหมอแบงค์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี แพทยศาสตร์บัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี พ.ศ. 2557 และได้รับวุฒิบัตรสาขากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากมหาวิทยาลัยมหิดลเมื่อปี พ.ศ. 2563 โดยมีประสบการณ์ในเขียนบทความและให้ความรู้ผ่านคลิปวีดีโอในเพจด้านสุขภาพ และประสบการณ์การทำงานด้านกุมารเวชศาสตร์ ทั้งการตรวจคนไข้ เป็นวิทยากรด้านกุมารเวชศาสตร์ ที่ให้คำปรึกษาด้านการเลี้ยงดูแลโรคแก่แม่และเด็กในโรงพยาบาลเอกชนอีกหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีผลงานทางวิชาการเกี่ยวกับด้านกุมารเวชศาสตร์อีกมากมาย อาทิ การศึกษาชนิดของนมที่ทารกน้ำหนักตัวน้อยมากได้รับภายหลังจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล (Type of Post-Discharge Infant Feeding in Very-Low Birthweight Infants) ของภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยคุณหมอมีความตั้งใจที่จะให้ความรู้และความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง รวมไปถึงบุคคลที่สนใจเกี่ยวกับการดูแลและเลี้ยงเด็กในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้เด็กไทยมีพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่ดีในทุกด้าน ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม : t.pongwut@gmail.com
คุณกิ๊ฟเรียนจบ MBA จาก Colorado Technical University, USA และมีประสบการณ์การทำงานในสายงาน Marketing หลากหลายธุรกิจ รวมไปถึงงาน Product Manager ของธุรกิจไม้ปาติเคิล MDF บอร์ดที่ผลิตงานเฟอร์นิเจอร์ให้กับบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศ เช่น Index living Mall, Modernform, SB Furniture และ Maica ทำให้คุณกิ๊ฟมีประสบการณ์และความรู้ในด้านเฟอร์นิเจอร์เป็นพิเศษ ปัจจุบันคุณกิ๊ฟเป็นคุณแม่ลูก 1 จึงมีความสนใจในเรื่องราวของแม่และเด็กเป็นพิเศษ และด้วยสายงานที่เคยทำจึงชอบศึกษาเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคและบริโภคทั่วไป รวมทั้งอ่านรีวิวสินค้าของแม่และเด็กในเวลาว่างอยู่ตลอด นอกจากนี้ คุณกิ๊ฟยังผ่านประสบการณ์ในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพประเภทต่าง ๆ ให้กับลูกอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
เนื่องจาก เด็กเป็นวัยที่ยังไม่สามารถควบคุมตนเองได้มากนัก การเลือกปรอทวัดไข้จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงหลาย ๆ องค์ประกอบ เพื่อให้ได้ปรอทที่สามารถวัดอุณหภูมิร่างกายได้อย่างแม่นยำมากที่สุด วิธีการเลือกซื้อปรอทวัดไข้สำหรับเด็กนั้นจึงมีรายละเอียดที่ค่อนข้างมากกว่าทั่วไปค่ะ
เนื่องจาก เด็กจะมีการขยับตัวตลอดเวลาการวัดอุณหภูมิร่างกายจึงค่อนข้างเป็นไปได้ยาก ดังนั้น ปรอทวัดไข้ที่สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้รวดเร็วจะช่วยให้ผู้ปกครองวัดอุณหภูมิได้สะดวก รวดเร็ว และยังช่วยลดอันตรายจากการกระแทกของอุปกรณ์ได้อีกด้วย
ปัญหาที่พบบ่อยครั้งคือเมื่อใช้เทอร์โมมิเตอร์ชนิดที่ต้องใช้เวลานานในการวัดอุณหภูมิ เด็กจะอยู่ไม่นิ่งหรือเริ่มหงุดหงิด ไปจนถึงไม่ให้ความร่วมมือในการวัดอุณหภูมิ ที่สำคัญในบางครั้งยังเป็นการรบกวนเวลาพักผ่อนเด็กป่วยอีกด้วย ตัวอย่าง เช่น เทอร์โมมิเตอร์แท่งแก้วจะใช้เวลาในการวัด 2 - 5 นาที ส่วนเทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิทัลและอินฟราเรดนั้นใช้เวลาวัดแค่ 5 - 10 วินาที จะเห็นได้ว่าเทอร์โมมิเตอร์ที่วัดอุณหภูมิได้รวดเร็วและแม่นยำจะช่วยให้การดูแลเด็กมีไข้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ
เมื่อเปรียบเทียบกลไกการตรวจจับอุณหูมิและการแสดงผล ปรอทวัดไข้จะมี 3 ประเภทด้วยกันค่ะ ได้แก่ “แบบธรรมดา (ปรอทแก้ว)” “ดิจิทัล” และ “Infrared (แบบยิง)” ซึ่งมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน จึงเหมาะกับช่วงวัยของเด็กที่ต่างกันไปด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าแต่ละแบบมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
ปรอทวัดไข้แบบแก้ว เป็นเทอร์โมมิเตอร์ที่ผลิตด้วยแก้วบรรจุปรอทภายใน สามารถใช้วัดอุณหภูมิได้แม่นยำเพราะจะต้องสัมผัสกับผิวโดยตรง อีกทั้งยังหาซื้อได้ง่าย และราคาถูก แต่มีข้อเสียคือต้องใช้เวลาในการตรวจจับอุณหภูมิร่างกายนานและต้องการความนิ่งในขณะวัด ก่อนใช้จะต้องสลัดให้ปรอทลงมาอยู่ที่ปลายกระเปาะทั้งหมดก่อนแล้วจึงเริ่มทำการวัดซึ่งการวัดทางรักแร้นั้นจะต้องหนีบปรอทไว้ในซอกรักแร้นานประมาณ 5 นาที ส่วนของการวัดทางทวารและการวัดทางปากจะใช้เวลาประมาน 2 นาที จึงจะอ่านค่าได้แม่นยำ
จะเห็นได้ว่าการใช้ปรอทวัดไข้แบบแก้วแม้มีความแม่นยำสูงแต่ต้องใช้เวลา อีกทั้งปรอทแก้วยังสามารถแตกได้ ทำให้สารปรอทที่บรรจุภายในไหลออกมา ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้และเด็กอีกด้วย นอกจากนี้ ความแข็งของแก้วนั้นอาจเกิดการทิ่มแทงรูทวาร ช่องปาก หรือรักแร้จนเป็นแผลได้ ปัจจุบันทางการแพทย์จึงไม่แนะนำให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์ชนิดนี้แล้ว
เทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิทัลจะใช้เซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิแบบอิเล็กโทรนิกส์โดยวัดได้หลายวิธี ทั้งการวัดทางรักแร้ รูทวาร และทางปาก เมื่อเทียบความแม่นยำของอุณหภูมิที่วัดได้จากทั้งสามวิธีนั้น จะพบว่าการวัดทางรักแร้มีความแม่นยำน้อยที่สุดและทางทวารมีความแม่นยำมากที่สุด ทั้งนี้ควรแยกเทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้แต่ละตำแหน่งออกจากกันและไม่ใช้ร่วมกัน เนื่องจาก ปลายของเทอร์โมมิเตอร์แต่ละชนิดออกแบบมาให้ใช้ในตำแหน่งที่ต่างกันและเชื้อโรคสามารถปนเปื้อนกันได้
เทอร์โมมิเตอร์รูปแบบนี้ส่วนใหญ่จะมีปลายที่มีความอ่อนนุ่ม โค้งงอได้โดยใช้วัสดุที่แตกหักยาก เช่น ยาง ซิลิโคน หรือพลาสติกเพื่อปลอดภัยสำหรับการวัดอุณหภูมิผ่านส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย สำหรับการวัดทางทวารมีข้อควรระวังคือขณะใส่เทอร์โมมิเตอร์ หากรู้สึกว่าสอดแล้วติดไม่ควรออกแรงดันเข้าไปอีก เพราะอาจทำให้ผนังลำไส้ฉีกขาดได้และควรจับเด็กให้อยู่นิ่งเสมอก่อนวัด ส่วนการวัดทางปากไม่ควรวัดขณะให้อาหารหรือนม และการวัดทางรักแร้ไม่ควรวัดขณะผิวหนังเปียกเพราะจะได้ค่าที่ผิดพลาดได้
เทอร์โมมิเตอร์แบบใช้รังสีอินฟราเรดตรวจจับอุณหภูมินั้น สามารถวัดได้สองช่องทาง คือ การวัดทางรูหู (Digital Ear Thermometers) และการวัดทางหน้าผาก (Temporal Artery Thermometers) โดยการวัดทางรูหูนั้นอาจมีความคลาดเคลื่อนได้บ้าง ซึ่งอาจเกิดจากลักษณะของในรูหูของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน แต่ก็เป็นวิธีที่ค่อนข้างนิยมในปัจจุบันส่วนการวัดจากทางหน้าผากโดยใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบอินฟราเรดนั้นสามารถทำได้รวดเร็วและสะดวกแม้กระทั่งตอนที่เด็กหลับ แต่ควรวัดขณะที่ผิวหนังไม่เปียกชื้นเพื่อให้ตรวจจับอุณหภูมิได้แม่นยำ
ทั้งนี้ ควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดเซนเซอร์และควรตรวจสอบแบตเตอรี่ก่อนใช้ สำหรับเทอร์โมมิเตอร์แบบวัดทางหูก็ควรมีอุปกรณ์ครอบส่วนเซนเซอร์เสริมเพื่อความสะอาดและป้องกันการอ่านค่าคลาดเคลื่อน นอกจากนี้ เทอร์โมมิเตอร์ชนิดนี้ยังสามารถลดการติดต่อเชื้อโรคจากการสัมผัสได้ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเลือกซื้อปรอทวัดไข้ค่ะ
หลังการใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิคนไข้นั้น อาจจะมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคที่อุปกรณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารคัดหลั่งจากคนไข้ จึงควรทำความสะอาดทุกครั้งหลังการใช้งาน วัสดุของเทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้ก็ควรทำจากวัสดุที่ทำความสะอาดได้ สามารถกันน้ำ แอลกอฮอล์ หรือสบู่ ที่สำคัญควรมีความทนทาน ปลอดภัยต่อการแตกหักหรือมีสารปรอทรั่วซึม อีกทั้งสีที่ใช้ตกแต่งไม่ควรมีส่วนผสมของสารเคมีอันตรายต่อร่างกาย เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ต้องนำเข้าร่างกายหรือสัมผัสทางผิวหนังโดยตรง จึงจำเป็นต้องปลอดภัยต่อเด็กและผู้ใช้งานทั่วไปค่ะ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Beurer Thermometer|FT 09/1 | ![]() | เครื่องกันน้ำ 100% มี Fever Alarm วัดอุณหภูมิได้ 3 ทาง | |
2 | GLOWY ปรอทวัดไข้เด็ก Digital Thermometer รุ่น ET-101 | ![]() | ปลายนิ่ม แปลผลรวดเร็ว ผ่านลูกศรและแถบสี ใช้วัดอุณหภูมิน้ำได้ | |
3 | Allwell ปรอทวัดไข้เด็ก Digital Thermometer T14 | ![]() | ปลายโค้งงอได้ กันน้ำ มาตรฐานสากล แสดงผลใน 10 วินาที | |
4 | Chicco ปรอทวัดไข้เด็ก Thermometer New Flex With Led | ![]() | หน้าจอเรืองแสง วัดอุณหภูมิได้แม้กลางคืน อ่านค่าได้รวดเร็ว | |
5 | Omron ปรอทวัดไข้เด็ก เทอร์โมมิเตอร์วัดทางหน้าผากรุ่น MC-720 | ![]() | วัดได้หลายอย่าง รู้ผลเร็ว ปิดเสียงได้ บันทึกย้อนหลังได้ถึง 25 ค่า | |
6 | SOS Plus ปรอทวัดไข้เด็ก Clinical digital Thermometer รุ่น BT-A21CN | ![]() | วัดได้ภายใน 25 วินาที พร้อมเสียงเตือนเมื่อพร้อมและวัดเสร็จ | |
7 | Yuwell ปรอทวัดไข้เด็ก รุ่น YHT101 | ![]() | ใช้เวลาอ่านผลสั้น แสดงผลชัดเจน กันน้ำและฝุ่น มาพร้อมกล่องใส่ | |
8 | CITIZEN ปรอทวัดไข้เด็ก รุ่น CTD-711 | ![]() | ตรวจวัดด้วยอินฟราเรด มีเสียงเตือนเมื่ออุณหภูมิสูง บันทึกข้อมูลได้ | |
9 | SONAR ปรอทวัดไข้เด็ก รุ่น ND-TWJ-02 | ![]() | ใช้งานได้ยาวนาน ทำจากวัสดุปลอดภัย กันน้ำ ทำความสะอาดได้ | |
10 | ฺBluedot ปรอทวัดไข้เด็ก รุ่น B-FT031 | ![]() | เปิด - ปิดด้วยการสะบัด กันน้ำ กันกระแทก ทำความสะอาดง่าย |
ปรอทวัดไข้ที่มีปลายโค้งงอได้ ตัวเครื่องมีระบบแปลผลอุณหภูมิที่วัดได้ด้วยลูกศรชี้ที่แถบสีบนตัวเครื่องและมีเสียงเตือนเมื่อพบว่าอุณหภูมิสูง อีกทั้งยังมีฟังก์ชันแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ต่ำ พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งานเกิน 10 นาทีซึ่งทำให้ปรอทรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องและยาวนานมากกว่า 200 ชั่วโมงต่อ 1 แบตเตอรี่ แสดงผลบนจอ LCD ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนแม้ในที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ ค่าความคลาดเคลื่อนต่ำจึงสามารถแปลผลได้ค่อนข้างแม่นยำ
อ่านค่าได้รวดเร็วโดยใช้เวลาเพียง 5 วินาทีก็ทราบผลได้ทันที นอกจากนี้ สามารถใช้วัดอุณหภูมิของน้ำได้อีกด้วย เมื่อใช้ปรอทวัดอุณหภูมิทางปาก รักแร้ หรือทวารหนักที่หน้าจอก็จะมีตัวอักษรย่อสำหรับบอกว่าในขณะนี้กำลังวัดอุณหภูมิทางใดอยู่ สามารถบันทึกเพื่อเรียกดูย้อนหลังได้ถึง 10 หน่วยความจำทำให้สะดวกในการใช้อ้างอิงและพูดคุยกับแพทย์ได้ด้วยค่ะ
การวัดผลสามารถทำได้อย่างรวดเร็วภายใน 10 วินาที และมีค่าความคลาดเคลื่อนที่ต่ำในระดับมาตรฐานของโรงพยาบาล พร้อมเสียงแจ้งเตือนเมื่อวัดเสร็จ สามารถบันทึกค่าการวัดครั้งล่าสุดได้เพื่อเก็บไว้เปรียบเทียบการวัดอุณหภูมิในแต่ละครั้งได้ ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา จึงใช้ได้ง่าย มาพร้อมกล่องสำหรับเก็บช่วยให้พกพาได้สะดวกค่ะ
ปรอทวัดไข้จากแบรนด์สินค้าสำหรับแม่และเด็กชื่อดัง Chicco สำหรับรุ่นนี้เป็นเทอร์โมมิเตอร์ที่สามารถใช้วัดอุณหภูมิร่างกายได้ในเวลากลางคืน เพราะหน้าจอมีการออกแบบให้เรืองแสงด้วย Blacklight เพื่อใช้อ่านอุณหภูมิในที่ที่มีแสงน้อยได้ รวมถึงการอ่านค่าและประมวลผลที่ใช้เวลาน้อยเพียง 10 วินาทีซึ่งเหมาะกับการใช้งานในเวลาที่เด็กพักผ่อนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีปลายยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถสัมผัสกับผิวอันบอบบางได้อย่างปลอดภัย
เมื่อวัดอุณหภูมิเสร็จแล้วจะมีเสียงเตือนโดยไม่รบกวนการพักผ่อน เพิ่มความสะดวกในการเปรียบเทียบข้อมูลการวัดอุณหภูมิด้วยการบันทึกค่าครั้งล่าสุด เมื่อไม่ได้มีการใช้งานตัวเครื่องจะปิดอัตโนมัติ หมดกังวลเรื่องความคลาดเคลื่อนหรือความปลอดภัยพราะปรอทวัดไข้รุ่นนี้ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ แถมยังมีน้ำหนักเบา ใช้ง่ายอีกด้วยค่ะ
ปรอทวัดไข้แบรนด์ Omron จากประเทศญี่ปุ่นคือตัวช่วยวัดไข้ที่ออกแบบด้ามมาให้จับถนัดมือ จุดเด่นคือใช้รังสีอินฟราเรดซึ่งสามารถวัดได้ทางหน้าผากโดยไม่จำเป็นต้องสัมผัส จึงปลอดภัยและไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของเด็ก นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชัน Silent Mode ซึ่งจะเป็นการปิดเสียงเตือนเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับการใช้งานในเวลานอนหลับ อ่านค่าได้รวดเร็วภายใน 1 วินาที จอแสดงผลมีไฟ Blacklight ที่ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ชัดเจน
ระบบบันทึกค่าที่วัดย้อนหลังได้มากถึง 25 ค่า โดยค่าที่อ่านล่าสุดจะแสดงบนหน้าจอพร้อมกับค่าที่วัดในปัจจุบันเพื่อความสะดวกในการเปรียบเทียบ นอกจากจะใช้วัดอุณหภูมิร่างกายได้แล้ว ยังสามารถวัดอุณหภูมิพื้นผิววัตถุและห้องได้อีกด้วยโดยสามารถเปลี่ยนโหมดในการวัดค่าได้ พร้อมทั้งมีไอคอนแสดงโหมดที่ใช้งานอยู่เพื่อการใช้งานที่ถูกต้องค่ะ
ปรอทวัดไข้แบบง่าย ๆ ที่หลายบ้านคุ้นเคย สามารถใช้วัดอุณหภูมิร่างกายและประมาวลผลได้ภายใน 25 วินาที ด้วยหน้าจอ LCD ที่ทำให้เห็นตัวเลขได้อย่างชัดเจน มีเสียงเตือนเมื่อเปิดเครื่องและใช้วัดอุณหภูมิได้ทันทีภายใน 2 วินาที และยังมีเสียงเตือนเมื่อการวัดค่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากการวัดอุณหภูมิไม่ถูกต้องหรือตรวจจับได้อุณหภูมิที่ต่ำกว่า 32 º C หน้าจอจะแสดงผล Lo ทันที พร้อมบันทึกผลการวัดครั้งล่าสุดสำหรับเปรียบเทียบการวัดแต่ละครั้ง
ปลายเทอร์โมมิเตอร์มีความอ่อนนุ่มจึงใช้ง่าย ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ระคายเคือง หรือเจ็บในขณะวัด วัสดุของตัวเครื่องมีความปลอดภัยต่อเด็กและผู้ป่วยเพราะปราศจากสารเคมีอันตรายหรือสารปรอท มาพร้อมกับกล่องพลาสติกใสสำหรับจัดเก็บเพื่อป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก หลายรีวิวรับรองว่าปรอทรุ่นนี้ใช้ง่ายและแม่นยำในราคาสบายกระเป๋าค่ะ
อีกหนึ่งปรอทวัดไข้ทางหูอินฟราเรดที่ใช้งานง่าย เพียงใช้ถ่านแบตเตอรี่ AAA 2 ก้อนก็สามารถใช้งานได้ทันที แถมยังช่วยประหยัดพลังงานโดยเมื่อไม่ได้มีการใช้งาน 1 นาทีตัวเครื่องจะปิดอัตโนมัติ หน้าจอแสดงผล LCD ทำให้มองเห็นตัวเลขได้ชัดเจน ใช้เวลาเพียง 1 วินาทีในการวัดผล และเมื่อวัดอุณหภูมิได้มากกว่า 37.5 º C จะมีสัญญาณเตือน ระบบสามารถเก็บบันทึกข้อมูลย้อนหลังได้มากถึง 7 ข้อมูลจึงง่ายต่อการเปรียบเทียบในแต่ละครั้ง
ระบบสามารถอ่านค่าได้ 2 หน่วยอุณหภูมิสามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP22 ซึ่งทำให้ตัวเครื่องทนต่อน้ำกระเซ็นหรือการเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ 70% คุณจึงทำความสะอาดตัวเครื่องได้อย่างง่ายดาย มาพร้อมกลองสำหรับจัดเก็บเพื่อป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก และการรับประกันตัวเครื่องจากทางแบรนด์ถึง 2 ปีค่ะ
ปรอทวัดไข้ที่ใช้ระบบอินฟราเรดในการวัดค่า ทำให้สามารถวัดได้ทั้งทางหูและทางหน้าผาก รวมถึงใช้วัดพื้นผิววัตถุและอุณหภูมิห้องได้อีกด้วย อ่านผลได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ 1 วินาทีก็ทราบผลทันที และแสดงผลในลักษณะดิจิทัลด้วยค่าจุดทศนิยม 1 หลักจึงทำให้อ่านได้ง่าย มาพร้อมกับไฟ Blacklight บนหน้าจอเพื่อให้อ่านได้อย่างชัดเจนตอนกลางคืนหรือในที่ที่มีแสงสว่างน้อย เมื่อตรวจพบอุณหภูมิมากกว่า 37.5 º C ก็จะมีสัญญาณเตือน
สามารถเลือกอ่านหน่วยวัดได้ทั้ง º C และ ºF แสดงผลพร้อมกับวันที่และเวลาที่วัด และเก็บบันทึกค่าได้ถึง 9 ค่า ทำให้สะดวกต่อการเปรียบเทียบข้อมูล นอกจากนี้ ยังมีไอคอนแสดงปริมาณแบตเตอรี่และโหมดการวัดอุณหภูมิช่วยให้คุณใชังานได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น ส่วนหัวอินฟราเรดจะมีฝาครอบให้เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก มีระบบปิดอัตโนมัติทำให้ใช้งานได้อย่างยาวนานค่ะ
ปรอทวัดไข้ที่ใช้ได้อย่างง่ายดาย เพราะมีปุ่มเปิด - ปิดที่กดได้หถนัดมือ มาพร้อมกับจอ LCD ทำให้มองเห็นตัวเลขได้อย่างชัดเจน สามารถวัดได้ทั้งทางปาก รักแร้ และทวารหนัก แต่สำหรับรุ่นนี้การวัดทางรักแร้จะทำให้ได้ผลที่แม่นยำที่สุด ค่าความคลาดเคลื่อนเพียงแค่ 0.1 º C เมื่อวางเทอร์โมมิเตอร์ได้อย่างถูกต้องจะสามารถอ่านค่าได้อย่างรวดเร็วภายใน 10 วินาที พร้อมเสียงสัญญาณเตือน ตัวเครื่องจะทำการปิดอัตโนมัติเมื่อพบว่าไม่มีการใช้งาน
แต่หากคุณวัดหรือวางตัวเครื่องไม่ถูกต้องหน้าจอจะแสดงผลให้ทราบเช่นเดียวกัน เพื่อให้คุณทำการวัดใหม่อีกคร้้ง วัสดุของเทอร์โมมิเตอร์ปราศจากสารเคมีอันตรายจึงเหมาะอย่างยิ่งต่อการใช้กับเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย ใช้งานได้ยาวนานถึง 3 ปีต่อการเปลี่ยนแบตเตอรี่ 1 ครั้ง อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาช่วยให้คุณพกพาได้อย่างสะดวกในราคาประหยัดค่ะ
ปรอทวัดไข้ที่มีจุดเด่นในการเปิด - ปิดเครื่องด้วยการสะบัดตัวเครื่อง ซึ่งทำให้การใช้งานเริ่มแรกของคุณง่ายยิ่งขึ้น อ่านค่าอุณหภูมิด้วยหน่วยวัดองศาเซลเซียสซึ่งเป็นหน่วยวัดที่คุ้นเคยทำให้อ่านง่าย ใช้เวลาในการวัดเพียง 1 นาทีก็ทราบผลทันที และเมื่อการวัดค่าเสร็จสิ้นก็จะมีเสียงสัญญาณเตือน พร้อมระบบบันทึกข้อมูลครั้งล่าสุดได้ 1 ข้อมูลสามารถใช้เรียกดูเพื่อเปรียบเทียบได้ จอแสดงผลแบบ LCD และมีหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้อ่านเห็นได้ชัดเจน
ตัวเครื่องทำจากวัสดุกันน้ำ กันกระแทก และทำความสะอาดได้ง่ายด้วยแอลกอฮอล์ เมื่อไม่มีการใช้งาน 15 นาทีระบบจะปิดเครื่องให้อัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังใช้พลังงานที่ค่อนข้างต่ำในการใช้งานจึงทำให้ประหยัดพลังงานและใช้งานได้ถึง 5,000 ครั้งต่อการเปลี่ยนแบตเตอรี่ 1 ครั้ง รวมถึงยังมีปลอกครอบเพื่อการจัดเก็บที่สะอาดและปลอดภัยค่ะ
แม้ว่าปรอทจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย ซึ่งหลายคนจะเข้าใจลักษณะการใช้งานเป็นอย่างดี แต่การศึกษาวิธีการใช้ที่ถูกต้องก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการใช้งานปรอทวัดไข้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้นสามารถอ่านได้จากรายละเอียดด้านล่างนี้เลยค่ะ
เมื่อร่างกายมีไข้ระบบเผาผลาญจะทำงานมากขึ้น เหงื่อจึงถูกขับออกมาจากร่างกายมากขึ้นเช่นเดียวกัน และถ้าหากคุณวัดไข้บนผิวที่เปียกชื้นโดยไม่เช็ดให้แห้งก่อน ค่าที่อ่านได้จะคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงและทำให้ยากต่อการดูแลเด็กเมื่อไม่สบาย ดังนั้น จึงควรเช็ดเหงื่อหรือความชื้นบนผิวหนังให้แห้งก่อนการวัดด้วยเทอร์โมมิเตอร์ทุกครั้งค่ะ
ตามธรรมชาติของร่างกาย อุณหภูมิจะลดลงในตอนเช้าและเพิ่มสูงขึ้นในตอนเย็น เวลาวัดไข้ลูก ๆ จึงควรเช็คทั้ง 2 เวลาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น แต่หากเด็กที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ แนะนำให้ตรวจวัดไข้ 4 เวลา ได้แก่ ตื่นนอน มื้อเที่ยง มื้อเย็น และก่อนเข้านอนค่ะ
- การวัดไข้ทางทวารนั้นจะต้องเลือกปรอทสำหรับวัดไข้ทางทวารหนักโดยจุ่มปลายปรอทลงในวาสลินหรือ K-Y Jelly จากนั้นเตรียมจัดท่าเด็กโดยให้เด็กนอนหงายและจับเท้าทั้งสองยกขึ้นหรือนอนตะแคงแล้วงอขาทั้งสองข้าง ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ดันแก้มก้นของเด็กให้เปิดออกจนมองเห็นรูทวาร สอดปรอทเข้าไปลึกประมาณ 1 นิ้วในเด็กโต หรือประมาณ ½ นิ้วในเด็กทารก จับปรอทไว้จนขึ้นสัญญาณว่าวัดเสร็จ จากนั้นเอาปรอทออกจากทวารหนักและเช็ดทำความสะอาดก้นเด็ก ทำความสะอาดปรอทแล้วแช่ในน้ำยาฆ่าเชื้อ
- สำหรับการวัดไข้ทางปาก ให้ใส่ปลายของเทอร์โมมิเตอร์เข้าไปใต้ลิ้น โดยปลายของเทอร์โมมิเตอร์ชี้ไปทางด้านหลังของช่องปาก ให้เด็กอมปรอทใต้ลิ้น ปิดปากให้สนิท ค้างไว้จนอ่านค่าได้ ในกรณีที่ทานอาหารหรือดื่มน้ำมาก่อนหน้านี้แนะนำให้เว้นระยะก่อน 15 นาที ก่อนวัดเพื่อลดการคลาดเคลื่อน
- การวัดอุณหภูมิทางรักแร้ ให้สอดปลายของเทอร์โมมิเตอร์ในซอกรักแร้ กระเปาะต้องอยู่ตรงกึ่งกลางรักแร้ และให้ผู้ป่วยหนีบรักแร้ให้แน่น โดยระวังไม่ให้ติดชายผ้าเข้ามาด้วย ถ้ารักแร้ของผู้ป่วยเปียกชื้นมีเหงื่อมากต้องเช็ดให้แห้งเสียก่อน
- การวัดอุณหภูมิทางหู ทำได้โดยการใส่ปลายของเทอร์โมมิเตอร์เข้าไปในรูหูอย่างนุ่มนวลในขณะที่มืออีกข้างดึงใบหูไปทางด้านหลังเล็กน้อย ควรเลือกปลายของเทอร์โมมิเตอร์ให้พอดีกับช่องหูและจับคนไข้ให้นิ่งก่อนวัด
- การวัดอุณหภูมิด้วยเทอร์โมมิเตอร์แบบอินฟราเรด ให้วางเครื่องไว้ตรงกลางหน้าผากโดยผิวหนังบริเวณที่วัดต้องแห้ง สะอาด และไม่มีผมหรือเสื้อผ้าบดบัง ทั้งนี้ระยะห่างระหว่างหน้าผากและเทอร์โมมิเตอร์จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของแต่ละบริษัท จากนั้นกดปุ่มเพื่อวัดอุณหภูมิโดยถือเครื่องค้างไว้จนกว่าเครื่องจะอ่านค่า ซึ่งการวัดด้วยเครื่องนี้จะทำได้อย่างรวดเร็วและไม่จำเป็นต้องสัมผัสตัวเด็ก จึงทำได้แม้ขณะนอนหลับและไม่ต้องสอดอุปกรณ์เข้าในร่างกายเด็ก
สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่บางคน อาจมีข้อสงสัยหลาย ๆ อย่าง เช่น เด็กควรมีอุณหภูมิเท่าไหร่ ไปจนถึงวิธีการวัดอุณหภูมิที่แม่นยำที่สุด ในวันนี้ เรามีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันค่ะ
ปรอทวัดไข้หรือเทอร์โมมิเตอร์ คือ อุปกรณ์วัดอุณหภูมิซึ่งควรมีคุณสมบัติอ่านค่าได้แม่นยำและปลอดภัย โดยชนิดที่ใช้กับเด็กควรวัดค่าได้รวดเร็ว เนื่องจากเด็กนั้นไม่สามารถอยู่นิ่งให้วัดอุณหภูมิได้นาน อีกคุณสมบัติที่ควรคำนึงถึง คือ ความปลอดภัย เนื่องจากเทอร์โมมิเตอร์สามารถก่อให้เกิดอันตรายแก่เด็กได้ 2 ประเด็นหลัก คือ อุบัติเหตุจากการทิ่มแทงหรือแตกหักของวัสดุ และการรั่วของสารปรอท
ดังนั้น ปัจจุบันจึงมีการผลิตเทอร์โมมิเตอร์ชนิดดิจิทัลและอินฟราเรดทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งเทอร์โมมิเตอร์เด็กจะแตกต่างจากของผู้ใหญ่ในด้านวัสดุ โดยมักผลิตจากพลาสติกหรือยางและโค้งงอได้ เพื่อลดอันตรายจากการทิ่มแทงของส่วนปลายแหลมที่สัมผัสร่างกาย และมักมีสีสันสดใสเพื่อดึงดูดให้เด็กร่วมมือขณะวัดไข้ ส่วนเทอร์โมมิเตอร์แบบแท่งแก้วที่ภายในบรรจุด้วยปรอทนั้นไม่ได้รับความนิยมให้ใช้กับผู้ป่วยเด็กแล้ว เนื่องจากสามารถแตกได้ง่าย เสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บจากเศษแก้วและเด็กอาจพลั้งกลืนสารปรอทลงไปได้ครับ
เราจะนับว่าเด็กมีไข้เมื่อวัดอุณหภูมิทางรูทวารได้ ตั้งแต่ 38°C ขึ้นไป ถ้าวัดทางปากและรักแร้นั้น อุณหภูมิที่นับว่ามีไข้คือตั้งแต่ 37.8°C และ 37.2°C ขึ้นไป ตามลำดับ ส่วนการใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบอินฟราเรด ถ้าวัดได้ตั้งแต่ 37.3°C ขึ้นไปจะนับว่ามีไข้ ทั้งนี้ทั้งนั้น อุณหภูมิที่วัดจากรูทวารนั้นมักแม่นยำที่สุด แต่ควรระมัดระวังอันตรายการทิ่มแทงรูทวาร โดยแนะนำให้วัดตอนเด็กนอนนิ่ง ไม่ร้องกวน และเลือกวัสดุที่อ่อนนุ่ม ยืดหยุ่น โค้งงอได้ และแตกหักยาก ส่วนค่าอุณหภูมิที่วัดทาง ปาก รักแร้ อินฟราเรดนั้นจะแตกต่างกันตามการศึกษาของแต่ละสถาบัน แต่ค่าอุณหภูมิข้างต้นคือค่าโดยเฉลี่ยที่อ้างอิงกันเป็นส่วนมากครับ
เทอร์โมมิเตอร์ที่ได้มาตรฐานควรจะมีค่าความคลาดเคลื่อนไม่มากกว่า 0.1°C ในเด็กที่อายุน้อยกว่า 3 เดือน แนะนำให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์ดิจิทัลทางทวารจะได้ผลที่แม่นยำมากที่สุด อย่างไรก็ตามในช่วงอายุนี้ การวัดด้วยเทอร์โมมิเตอร์อินฟราเรดทางหน้าผากก็พบว่ามีความแม่นยำสูงเช่นเดียวกัน
สำหรับในเด็กอายุ 3 เดือน - 4 ปีแนะนำให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์ดิจิทัลทางทวาร (ซึ่งแม่นยำที่สุด) หรือทางรักแร้ ส่วนการใช้เทอร์โมมิเตอร์อินฟราเรดวัดทางรูหูนั้น แนะนำให้ใช้ในเด็กอายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ทั้งนี้ความแม่นยำของอุณหภูมิที่วัดได้จะขึ้นกับลักษณะของหูเด็กแต่ละคนด้วย ส่วนในเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไปจะเริ่มใช้การวัดอุณหภูมิทางปากได้เนื่องจากสามารถอยู่นิ่งและเข้าใจคำสั่งมากขึ้น ช่วงอายุนี้จึงแนะนำให้วัดทางปาก รักแร้ หรือทางรูหู ในส่วนของการวัดด้วยเทอร์โมมิเตอร์อินฟราเรดทางหน้าผากนั้น สามารถใช้ได้ทุกช่วงอายุ แต่ต้องระวังปัจจัยอย่างแสงแดดที่ส่องหน้าผากหรืออุณหภูมิที่เย็นเพราะจะส่งผลให้การวัดอุณหภูมิคลาดเคลื่อนได้ครับ
มาถึงตรงนี้คุณพ่อคุณแม่คงเห็นความสำคัญของปรอทวัดไข้กันมากขึ้นและได้เรียนรู้วิธีการเลือกผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดกันแล้ว แต่เรื่องของความปลอดภัยสำหรับเด็กก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จึงต้องไม่ลืมว่าปรอทวัดไข้ควรเก็บให้พ้นจากมือเด็กด้วยนะคะ เพราะปรอทวัดไข้บางรุ่นอาจแตกหักหรือเสียหายได้ง่าย นอกจากนี้ ยังควรศึกษาคุณสมบัติและวิธีการใช้ของปรอทวัดไข้แต่ละรุ่นอย่างละเอียด ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถใช้งานปรอทวัดไข้ได้อย่างคุ้มค่าค่ะ
อันดับที่ 1: Beurer|Thermometer|FT 09/1
อันดับที่ 2: GLOWY|ปรอทวัดไข้เด็ก Digital Thermometer รุ่น ET-101
อันดับที่ 3: Allwell|ปรอทวัดไข้เด็ก Digital Thermometer T14
อันดับที่ 4: Chicco|ปรอทวัดไข้เด็ก Thermometer New Flex With Led
อันดับที่ 5: Omron|ปรอทวัดไข้เด็ก เทอร์โมมิเตอร์วัดทางหน้าผากรุ่น MC-720
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ