ในแต่ละช่วงวัย เด็กก็จะมีพัฒนาการเรื่องการกินที่แตกต่างกัน เช่น ช่วงแรกเกิดถึง 6 เดือนนั้นเด็กทารกจะกินได้แต่เพียงนมแม่ เมื่อเข้า 6 - 7 เดือน ก็จะเริ่มกินข้าวบดละเอียดได้ และเมื่อครบ 1 ปีจะเริ่มเคี้ยวข้าวหุงนิ่ม ๆ ได้แล้ว ดังนั้น หนึ่งในอุปกรณ์ที่จะมาช่วยรังสรรค์เมนูอาหารต่าง ๆ ให้เด็กรับประทานง่ายขึ้นก็คือ "อุปกรณ์บดอาหารเด็ก" นั่นเองค่ะ
อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์บดอาหารเด็กที่วางขายในปัจจุบันนั้นก็มีมากมายหลายแบบจนอาจทำให้หลายคนสับสนว่าควรจะเริ่มต้นซื้ออะไรก่อนกัน ดังนั้น ในบทความนี้เราจะขอแนะนำวิธีการซื้ออุปกรณ์บดอาหารเด็ก พร้อมกับคำแนะนำจากกุมารแพทย์ อีกทั้งยังมี 10 อุปกรณ์บดอาหารเด็ก มาให้ทุกคนได้เลือกเพื่อความเหมาะสมสูงสุดในการใช้งานของตนเองค่ะ
Top 5 อุปกรณ์บดอาหารเด็ก ยอดนิยม
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล หรือคุณหมอแบงค์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี แพทยศาสตร์บัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี พ.ศ. 2557 และได้รับวุฒิบัตรสาขากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากมหาวิทยาลัยมหิดลเมื่อปี พ.ศ. 2563 โดยมีประสบการณ์ในเขียนบทความและให้ความรู้ผ่านคลิปวีดีโอในเพจด้านสุขภาพ และประสบการณ์การทำงานด้านกุมารเวชศาสตร์ ทั้งการตรวจคนไข้ เป็นวิทยากรด้านกุมารเวชศาสตร์ ที่ให้คำปรึกษาด้านการเลี้ยงดูแลโรคแก่แม่และเด็กในโรงพยาบาลเอกชนอีกหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีผลงานทางวิชาการเกี่ยวกับด้านกุมารเวชศาสตร์อีกมากมาย อาทิ การศึกษาชนิดของนมที่ทารกน้ำหนักตัวน้อยมากได้รับภายหลังจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล (Type of Post-Discharge Infant Feeding in Very-Low Birthweight Infants) ของภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยคุณหมอมีความตั้งใจที่จะให้ความรู้และความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง รวมไปถึงบุคคลที่สนใจเกี่ยวกับการดูแลและเลี้ยงเด็กในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้เด็กไทยมีพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่ดีในทุกด้าน ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม : t.pongwut@gmail.com
คุณมาร์เริ่มต้นเส้นทางนักเขียนจากความสนใจในการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะของใช้สำหรับแม่และเด็ก ยิ่งหลังจากที่มีลูก ความใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะเชื่อว่าคุณภาพและความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง คุณมาร์ศึกษาอย่างละเอียดเกี่ยวกับของใช้เด็ก ตั้งแต่ขวดนม ผ้าอ้อม อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ไปจนถึงครีมบำรุงผิวสำหรับทารก รวมถึงแนวทางการเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิวของเด็กเล็ก และอยากแบ่งปันข้อมูลที่มีประโยชน์นี้ให้กับคุณแม่ท่านอื่น ๆ อีกทั้งคุณมาร์ยังให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง เพราะเชื่อว่าคุณแม่ที่สุขภาพดีและดูแลตัวเองดีจะดูแลลูกได้อย่างเต็มที่ จึงสนใจเรื่องเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และหลังคลอดด้วย โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ไม่มีสารอันตราย เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวพรรณให้สดใส ซึ่งบทความของคุณมาร์ไม่ได้มีเพียงวิธีการเลือกสินค้า แต่ยังสอดแทรกคำแนะนำที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วย เพื่อช่วยให้คุณแม่ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและลูกน้อยได้อย่างมั่นใจ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
ในปัจจุบันมีอุปกรณ์บดอาหารเด็กวางจำหน่ายมากมายหลายแบบ ซึ่งอุปกรณ์แต่ละชนิดก็มีวิธีการใช้งานและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น ก่อนอื่นเรามาดูหลักการเลือกอุปกรณ์บดอาหารเด็กกันเลยค่ะ
สิ่งสำคัญในการเลือกซื้ออุปกรณ์บดอาหารเด็ก คือ การตรวจเช็กดูว่าในชุดอุปกรณ์นั้นมีเครื่องมือสำหรับใช้ทำอะไรและใช้งานอย่างไรบ้าง ดังนั้น เราจะมาแนะนำวิธีการใช้อุปกรณ์แต่ละแบบให้คุณทราบอย่างละเอียด เพื่อให้คุณพิจารณาดูว่าจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์แบบไหนในการบดอาหารให้ลูกน้อยค่ะ
อุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดอย่างแรกเลย คือ ถ้วยบดและไม้บดอาหาร หากไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ แน่นอนว่า คุณจะไม่สามารถบดอาหารเด็กให้ละเอียดได้ ซึ่งไม้บดอาหารจะช่วยบดข้าวสวย มันฝรั่ง ผัก เต้าหู้ หรือปลาต่าง ๆ ที่เป็นโภชนาการสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกได้อย่างง่ายดาย จะบดให้ข้นหรือเหลวสักเพียงใดก็สามารถกำหนดได้ตามต้องการ นับว่าเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่เหล่าบรรดาคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องมีเลยค่ะ
ถึงแม้ว่าเด็กทารกในวัย 5 - 6 เดือนจะเริ่มเข้าสู่ช่วงที่สามารถกินอาหารบดได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว พวกเค้าจะไม่ชอบอาหารที่มีลักษณะแข็งเป็นก้อน แม้จะเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก็ตาม ดังนั้น คุณแม่จึงควรใช้ตะแกรงบดอาหารในการบดข้าวหรือผักเพื่อกำจัดกากใยอาหารหรือส่วนที่แข็ง ๆ ออกไป ทำให้เนื้ออาหารเนียนละเอียดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หากคุณต้องการทำปลาบด ผักบด หรือตับบด เราแนะนำให้นำวัตถุดิบดังกล่าวไปต้มจนเปื่อยก่อนแล้วค่อยนำมาบด เพื่อให้บดได้ละเอียดและทำให้ลูกกินได้ง่ายยิ่งขึ้นค่ะ
ฝาขูดแบบนี้เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเตรียมอาหารสำหรับเด็กมากเลยค่ะ เนื่องจากปกติแล้วเด็กทารกจะทานอาหารเพียงนิดเดียว คุณแม่จึงสามารถขูดวัตถุดิบได้ตามปริมาณที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ หรือเต้าหู้ อย่างไรก็ตาม ชิ้นอาหารที่ได้จะมีขนาดเล็กและเนื้อละเอียดหรือใหญ่และเนื้อหยาบนั้นก็ขึ้นอยู่กับความกว้างของรูขูด ดังนั้น คุณควรเลือกฝาขูดให้เหมาะสมกับวัยเด็กและอาหารที่จะนำไปขูดด้วยนะคะ
ในกรณีที่คุณแม่ต้องการฝึกให้ลูกกินอาหารอย่างอื่นนอกเหนือจากนมแม่และนมวัว เช่น น้ำผลไม้ น้ำแกงจืด หรือซุป เพื่อเพิ่มสารอาหารและให้ลูกรับรู้รสชาติที่หลากหลาย ที่คั้นน้ำผลไม้นั้นตอบโจทย์เป็นอย่างมากค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการดื่มน้ำผลไม้คั้นสด ๆ อาจทำให้เด็กท้องเสียเอาได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเต็มน้ำสะอาดมากกว่า 2 เท่าเพื่อเจือจางความเข้มข้นของน้ำผลไม้นะคะ
นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าลูกน้อยจะผ่านช่วงวัยที่ทานอาหารบดไปแล้ว คุณก็ยังนำอุปกรณ์ชิ้นนี้มาใช้คั้นน้ำผลไม้สำหรับดื่มเองได้ด้วย บอกเลยว่าใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา ควรมีติดบ้านไว้สักชุดค่ะ
เด็กจะต้องเริ่มทานอาหารอื่นนอกจากนมเมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป แต่เด็กช่วงอายุ 6 - 12 เดือนนั้นมักจะยังไม่สามารถเคี้ยวและกลืนอาหารหรือเม็ดข้าวที่แข็งเท่าเด็กโตได้ จึงอาจเพิ่มภาระแก่ผู้ปกครองมากขึ้นในการบดอาหาร ซึ่งอุปกรณ์บดอาหารก็กลายเป็นตัวช่วยทุ่นแรงและประหยัดเวลาอย่างมากโดยมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้กัน
อย่างถ้วยบดและไม้บดถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กันมากที่สุด สามารถใช้บดได้ทั้งข้าว, ไข่, เนื้อสัตว์, ผัก และผลไม้ ส่วนตะแกรงบดอาหารจะใช้บดและกรองกากอาหารแข็งได้ สำหรับฝาขูดมีไว้เพื่อใช้สำหรับขูดผักผลไม้ แต่ควรเลือกขนาดรูให้เหมาะกับระดับความละเอียดอาหารที่ต้องการ และที่คั้นน้ำผลไม้ นอกจากจะใช้กรองกากผักและผลไม้แล้ว ยังสามารถใช้แยกกากใยมาผสมอาหารเพื่อกระตุ้นการขับถ่ายได้อีกด้วย ดังนั้นควรเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมแก่รูปแบบการประกอบอาหารครับ
ถึงแม้ว่าคุณจะมีชุดอุปกรณ์บดอาหารเด็กแบบครบเซ็ตเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย แต่อยากให้ลองคำนึงถึงตอนจัดเก็บด้วยว่าสร้างความลำบากหรือไม่ เพราะหากจัดเก็บไม่ดีหรือวางไว้ไม่เป็นที่ ก็จะทำให้ต้องเสียเวลาค้นหาอีก ใครที่มีลูกน้อยคงรู้ดีใช่ไหมคะว่า การเสียเวลากับสิ่งอื่นนาน ๆ จนเผลอคลาดสายตาจากเด็กอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น เราขอเสนอให้คุณเลือกซื้อชุดอุปกรณ์บดอาหารเด็กที่สามารถจัดเก็บโดยการวางซ้อนกันได้ เมื่อถึงเวลาต้องเตรียมอาหารให้ลูกก็จะหยิบอุปกรณ์ออกมาใช้ได้แบบครบครันทันที ทำให้การทำอาหารของคุณราบรื่นและสะดวกรวดเร็วมากขึ้นค่ะ บ้านไหนที่มีพื้นที่เก็บของน้อย อย่าลืมเลือกอุปกรณ์ที่จับเก็บได้เป็นเซ็ตนะคะ
ปัจจุบัน อุปกรณ์บดอาหารหลายยี่ห้อถูกออกแบบให้ถอดชิ้นส่วนและพับเก็บได้ บางยี่ห้อเป็นกล่องเซ็ตที่สามารถเก็บรวมกันได้ ช่วยให้ง่ายต่อการพกพา ชิ้นส่วนไม่สูญหาย ประหยัดเนื้อที่และเวลาในการจัดเก็บ บางยี่ห้ออาจใช้วัสดุยางซึ่งสามารถพับเก็บได้โดยไม่เสียรูปทรง การเลือกอุปกรณ์ที่ถอดชิ้นส่วนได้นั้น ควรคำนึงถึงการประกอบอย่างมิดชิดเพื่อป้องกันการหกและรั่วซึมของอาหาร รวมถึงขนาดชิ้นส่วนไม่ควรมีขนาดที่เล็กเกินไป เพราะเด็กอาจนำเข้าปากได้ครับ
จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถทำอาหารเด็กได้อย่างราบรื่น สะดวกสบายและใช้เวลาไม่มาก ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อคุณควรตรวจสอบให้ดีว่าสามารถนำอุปกรณ์บดอาหารเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น ไมโครเวฟ หรือเครื่องล้างจานได้หรือไม่
หากคุณใช้ไมโครเวฟในการทำอาหารและใช้เครื่องล้างจานในการทำความสะอาด ก็จะช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยค่ะ อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์บางยี่ห้อนั้นไม่สามารถนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ได้ ก่อนเลือกซื้อจึงควรเช็กข้อมูลให้ละเอียดนะคะ
หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของวัสดุประกอบอาหาร คือ การทนความร้อน เนื่องจากอาหารสำหรับเด็กนั้นควรผ่านความร้อนเสมอและยังไม่ควรทานอาหารสุกดิบ หากวัสดุไม่ทนความร้อนก็อาจมีสารเคมี เช่น สีสังเคราะห์ พลาสติก สารประกอบโลหะ เจือปนมาสู่อาหารได้
หากจะเลือกวัสดุพลาสติก แนะนำให้เลือกพลาสติก 3 ประเภทหลัก ๆ คือ Polypropylene (PP), PES (Polyethersulfone) และ PPSU (Polyphenylsulfone) เพราะสามารถทนความร้อนได้ไม่ต่ำกว่า 110 องศาเซลเซียส และมีอายุใช้งานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ที่สำคัญควรมองหาคำว่า “BPA-FREE” เนื่องจาก Bisphenol A หรือ BPA นี้เป็นสารรบกวนการพัฒนาระบบประสาท ทำให้มีพัฒนาการและการเรียนรู้ที่ช้าและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ในเด็กครับ
แม้เซ็ตอุปกรณ์บดอาหารสำหรับเด็กจะเพิ่มความสะดวกสบายในการเตรียมอาหาร แต่ช่วงวัยของเด็กทารกนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก ๆ เลยค่ะ คงมีคุณแม่หลายคนที่คิดว่า "ถ้าลูก ๆ โตแล้ว คงไม่ได้ใช้อุปกรณ์พวกนี้อีกแน่เลย" อยู่ใช่ไหมคะ ถ้าเช่นนั้น ลองเลือกอุปกรณ์ที่นำกลับมาใช้ได้อีกแม้ลูกน้อยของคุณจะโตขึ้นแล้วจะดีกว่าไหม ?
สิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนมองข้าม คือ ดีไซน์ หากคุณเลือกอุปกรณ์ที่มีดีไซน์เรียบง่าย แม้จะใช้งานไปนาน ๆ ก็ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อหรือรู้สึกว่าเป็นของสำหรับเด็กเท่านั้น นอกจากนี้ อุปกรณ์ทำอาหารเด็กมักจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด ต่อให้นำมาวางบนโต๊ะอาหารก็ไม่ดูเกะกะ เช่น ถ้วยบดและไม้บดที่สามารถนำมาใช้บดวัตถุดิบชนิดอื่นอย่างข้าวคั่ว เมล็ดถั่ว หรือธัญพืชต่าง ๆ ให้ละเอียดได้ กล่าวได้ว่า นอกจากจะนำมาทำอาหารให้ลูก ๆ แล้ว ยังสามารถใช้สร้างสรรค์เมนูต่าง ๆ ให้ครอบครัวได้อีกด้วยค่ะ
สามารถใช้ได้ครับ เนื่องจากไม่มีอายุกำหนดว่าห้ามใช้เมื่อใด แต่สิ่งที่ผู้ปกครองควรทราบ คือ เมื่อเด็กอายุประมาณ 12 เดือน เป็นต้นไป ควรฝึกให้ทานอาหารแข็งเช่นเดียวกับผู้ใหญ่อย่างข้าวสวย หมูชิ้น ไข่เจียว ผัก ผลไม้โดยไม่ต้องบดแล้ว เพราะเด็กจะมีฟันอย่างน้อย 4 ซี่แล้ว อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพการเคี้ยว การกลืน และการทำงานของน้ำย่อยที่มากขึ้น แต่หากพบว่าลูกยังไม่สามารถเคี้ยวของแข็งได้ดี หรือพบว่าอาหารที่ทานนั้นแข็งและแห้งมากเกินไป แนะนำผสมน้ำแกงช่วยให้อาหารนิ่มได้ หรือทานเป็นข้าวต้มในบางมื้อ แต่ไม่ควรบดหยาบหรือละเอียดครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Babyboo ชุดบดอาหารแบบ Multi Function | ![]() | ตอบโจทย์การใช้งานทุกขั้นตอน เข้าไมโครเวฟได้ ไม่เปลืองพื้นที่ | |
2 | Richell ชุดทำอาหารเด็กเล็กแบบขวด | ![]() | ประหยัดเวลา พกง่าย ใช้งานได้หลายขั้นตอน เข้าไมโครเวฟได้ | |
3 | BERZ ชุดบดอาหารเด็กรูปตัวการ์ตูน | ![]() | ดีไซน์น่ารัก ช่วยดึงดูดความสนใจของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี | |
4 | No Brand ชุดบดอาหารเด็ก | ![]() | เรียบง่าย พกติดตัวไปบดได้ทุกที่ มีเพียงชิ้นเดียวก็เอาอยู่ ! | |
5 | Kidsco เครื่องบดอาหารเด็กแบบมือหมุน | ![]() | ง่ายและสนุก ! ขนาดเล็กกะทัดรัด บดอาหารได้จำนวนมาก | |
6 | NANNY ที่บดอาหารแบบพร้อมทาน | ![]() | กะทัดรัด พกพาง่าย ใช้งานได้ทุกที่ บดเสร็จพร้อมทานได้เลย ! | |
7 | No Brand อุปกรณ์บดอาหารเด็ก | ![]() | มาพร้อมแผ่นขูด 2 แบบ บดอาหารได้หลากหลาย ใช้งานได้จนโต | |
8 | No Brand เซ็ตบดอาหารเด็กพร้อมที่ดูดน้ำผลไม้ | ![]() | สีสันสดใส ขนาดกะทัดรัด จัดเก็บง่าย ใช้งานสะดวก | |
9 | No Brand ชุดเตรียมอาหารสำหรับเด็ก | ![]() | ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐาน วัสดุทนความร้อน ปราศจากสารพิษ | |
10 | Richell ชุดทำอาหารพร้อมเสิร์ฟ | ![]() | ภาชนะมีตัวดูดกันลื่นตกจากโต๊ะ มาพร้อมจานอาหารและช้อนส้อม |
นี่เป็นอีกหนึ่งสินค้าคุณภาพดีที่คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านแนะนำค่ะ เพราะเป็นชุดอุปกรณ์แบบครบเซ็ต สามารถบด คั้น ขูด ได้ทุกขั้นตอนเลย ที่สำคัญ คุณสามารถนำเข้าไมโครเวฟหรือเครื่องนึ่งอุ่นอาหารก่อนให้ลูก ๆ กินได้ เพราะอุปกรณ์ชุดนี้มีคุณสมบัติทนความร้อนสูง พลาสติกมีเนื้อเหนียวและทนทาน จะนำเข้าเครื่องล้างจานทำความสะอาดก็ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ด้วยดีไซน์ที่สามารถวางซ้อนกันได้ ทำให้จัดเก็บง่าย ไม่เปลืองเนื้อที่ในบ้าน แถมพกพาออกไปทำอาหารให้เด็ก ๆ กินนอกบ้านได้ด้วยค่ะ
อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่เราขอแนะนำสำหรับครอบครัวไหนที่ชอบความรวดเร็วและกำลังมองหาอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย ชุดนี้เป็นเครื่องบดที่สามารถทำอาหารได้ถึง 6 แบบ คุณสามารถบดอาหารทั่วไป บดเพื่อทำน้ำซุปใส่ในขวดพร้อมตักให้เด็ก ๆ กินได้เลย หรือจะหั่นเป็นลูกเต๋าแบบหยาบ ๆ ไปจนถึงแบบละเอียดก็ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ คุณยังสามารถนำภาชนะเข้าไมโครเวฟอุ่นได้ทันทีที่ต้องการ ใครที่ชอบแช่อาหารผสมแล้วในตู้เย็นเพื่อเก็บไว้ทานมื้ออื่น ๆ ก็สบายใจได้เลยค่ะ ช่วยประหยัดเวลาให้คุณพ่อคุณแม่สุด ๆ
อุปกรณ์บดอาหารชุดนี้โดดเด่นมาแต่ไกลด้วยรูปทรงตัวการ์ตูนสีสันสดใส น่าจะถูกใจเด็ก ๆ ไม่น้อย บ้านไหนที่ลูก ๆ ไม่ค่อยชอบกินข้าวหรือมักจะงอแงเมื่อถึงเวลาอาหาร ลองใช้อุปกรณ์ชุดนี้ไปหลอกล่อดูได้ค่ะ ซึ่งในชุดนี้ประกอบไปด้วยที่คั้นน้ำผลไม้ ตะแกรงบดอาหารแบบละเอียด ที่แยกไข่ ฯลฯ บอกเลยว่านอกจากจะน่ารักแล้วก็ยังใช้งานได้อย่างหลากหลาย เท่านี้ไม่หมดนะคะ ภาชนะต่าง ๆ สามารถบรรจุอาหารร้อนและเย็นได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -20°C จนถึง 110°C เลยทีเดียว ครบเครื่องสุด ๆ ไปเลยค่ะ !
หากคุณต้องการพกถ้วยบดเล็ก ๆ สักชิ้นที่บดได้ทุกอย่างไว้ติดกระเป๋า เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องหอบเป็นชุดใหญ่ ๆ ให้เกะกะ ขอแนะนำอุปกรณ์ชิ้นนี้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ ข้าวสวย หรือเนื้อสัตว์ต้มสุก เพียงแค่ใช้ไม้บดแบบมือจับกดลงไปในถ้วยบดให้ได้ความละเอียดที่คุณต้องการ เท่านี้ก็พร้อมป้อนลูกน้อยได้แล้ว ลูกร้องหิวเมื่อไรก็หยิบออกมาบดอาหารให้ลูกกินได้เลย แถมยังล้างทำความสะอาดง่าย ๆ และมีราคาย่อมเยา คุณแม่บ้านห้ามพลาดเด็ดขาดนะคะ
เครื่องบดที่หน้าตาไม่เหมือนใครนี้มีปุ่มกันลื่นรอบตัวเครื่อง จับได้ถนัดมือ ใช้งานได้อย่างมั่นคง โดยชิ้นส่วนอาหารจะถูกบดผ่านรูซึ่งมีใบมีดเป็นสเตนเลส Medical Grade ที่ทนต่อการเสียดสี สามารถบดอาหารได้อย่างละเอียด นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นเครื่องบดแบบมือหมุนจึงไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ นำเข้าเครื่องล้างจานได้โดยไม่ต้องกังวล สะดวกสบาย แถมยังใช้งานได้ยาวนานยันลูกโตแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ต้องมีติดบ้านไว้สักเครื่องแล้วค่ะ
หลายครอบครัวที่มีเด็กเล็กคงเคยเจอสถานการณ์ที่ต้องป้อนอาหารให้ลูกน้อยนอกบ้าน เช่น บนรถในระหว่างออกไปข้างนอก หรือในร้านอาหารที่ไม่มีอาหารสำหรับเด็กวัยทารกโดยเฉพาะ เราขอแนะนำให้พกที่บดอาหารขนาดพกพาชุดนี้เลยค่ะ ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด สามารถนำอาหารใส่ในภาชนะชิ้นล่างแล้วปิดฝาชิ้นบนเพื่อบดอาหารได้ในคราวเดียว จากนั้นก็เปิดฝาใช้ช้อนตักอาหารป้อนน้องได้เลย หรือหากยังไม่ละเอียดก็สามารถกดบดซ้ำ ๆ ได้จนกว่าจะพอใจ ทั้งง่ายและสะดวกมาก ๆ เหมาะสำหรับใช้ในเวลาฉุกเฉินสุด ๆ ค่ะ
ชุดบดอาหารสีพาสเทลแสนน่ารักชิ้นนี้ประกอบไปด้วยอุปกรณ์บดอาหารหลากหลายรูปทรง คุณสามารถบดได้ตั้งแต่ก้อนอาหารชิ้นใหญ่ที่มีความหยาบไปจนถึงชิ้นเล็กเนื้อละเอียด พอลูกเริ่มเคี้ยวได้แล้ว คุณก็แค่เปลี่ยนรูปทรงของที่บดเพื่อให้ได้อาหารที่เหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของเด็ก นอกจากนี้ อุปกรณ์ชุดนี้ยังผลิตจากพลาสติก PP ที่ทนความร้อนจากอาหารและปลอดสาร BPA ที่เป็นอันตรายต่อเด็ก ทั้งยังล้างทำความสะอาดง่าย ประหยัดเวลาได้เยอะเลยค่ะ
ดูเผิน ๆ แล้วอาจจะเหมือนของเล่นเด็ก แต่อุปกรณ์ชิ้นนี้ใช้งานได้จริงค่ะ แถมให้มาครบชุดถึง 12 ชิ้น โดยในเซ็ตนี้มีอุปกรณ์พื้นฐานอย่างที่บด ตะแกรง ที่ขูด ที่คั้นน้ำผลไม้ พร้อมกรรไกรรูปทรงน่ารักไว้ใช้ตัดชิ้นส่วนอาหารให้เป็นแท่งเล็ก ๆ สำหรับเด็กที่เริ่มเคี้ยวได้แล้ว แล้วถ้าหากเด็กคนไหนเริ่มคุ้นเคยกับของเหลวอื่น ๆ นอกจากนมแม่ นอกจากนี้ ยังมีจุกสำหรับใส่ผลไม้เพื่อให้น้อง ๆ ได้ลองดูดหรือลิ้มรสชาติน้ำผลไม้ พร้อมที่จับแบบถนัดมือให้ด้วย เด็ก ๆ จะได้รับวิตามินและสารอาหารมากขึ้นค่ะ
อุปกรณ์ชุดนี้ผลิตจากพลาสติก ABS ที่มีคุณสมบัติทนต่อความร้อนและปลอดสารที่เป็นอันตรายต่อเด็ก นอกจากนี้ยังมีความทนทาน ทนต่อการตกกระแทกพื้น เผื่อว่าวันไหนน้อง ๆ เผลอปัดอุปกรณ์ตกจากโต๊ะ คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องซื้อใหม่นะคะ อุปกรณ์ในชุดนี้ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการทำอาหารมากขึ้น เพราะมีทั้งที่บด ที่ขูด ตะแกรง และที่คั้นน้ำผลไม้ แถมยังมีฝาปิดมาเพื่อให้คุณแม่สามารถบดอาหารแล้วเก็บใส่ตู้เย็นไว้กินหลาย ๆ มื้อ ดีไซน์ภาชนะก็เรียบเงียบ เก็บไว้ใช้ได้อีกนานแน่นอนค่ะ
อุปกรณ์บดอาหารชุดนี้มีความพิเศษตรงที่มีตัวดูดกันลื่น ช่วยป้องกันไม่ให้อุปกรณ์และภาชนะต่าง ๆ ลื่นตกจากโต๊ะ เผื่อน้อง ๆ หนู ๆ เผลอไปปัดก็ไม่หกเลอะเทอะหรือตกพื้นแน่นอน ถือว่าเป็นตัวช่วยในการทำความสะอาดได้มากเลยทีเดียว นอกจากอุปกรณ์ในการบดอาหารที่สามารถตัด ตำ ขูด หรือคั้นได้แล้ว ยังมีจานอาหาร 3 หลุมมาให้เด็ก ๆ ใช้งานกันด้วย น้อง ๆ จะได้กินอาหารอย่างหลากหลาย พร้อมกับฝึกกินอาหารในจานข้าวไปด้วยค่ะ
สำหรับผู้ปกครองมือใหม่หลายคนนั้น อาจจะเคยเห็นหน้าตาของอุปกรณ์บดอาหารมาบ้าง แต่ยังมีข้อสงสัยต่าง ๆ อยู่เกี่ยวกับอุปกรณ์ชิ้นนี้ ในวันนี้ เรามีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันค่ะ
อาหารที่ควรนำมาบดให้ทานนั้นควรมีสารอาหารครบทุกหมู่ เช่น ข้าว ขนมปัง ไข่ขาว ไข่แดง เนื้อสัตว์ ผักปรุงสุก ผลไม้ โดยมีรายละเอียดดังนี้ ข้าวไม่ควรใช้ข้าวเหนียวเป็นหลักเพราะเด็กเล็กยังมีฟันและแรงเคี้ยวน้อย อีกทั้งอาจเกิดการติดช่องคอได้ เนื้อสัตว์ต้องปรุงสุกปราศจากเศษกระดูกและก้าง ไม่ควรทานปลาดิบ เพราะภูมิคุ้มกันในทารกยังน้อยจึงง่ายต่อการติดพยาธิและแบคทีเรีย
สำหรับผักนั้นควรผ่านการลวกหรือต้ม ไม่ควรทานผักสดเพราะอาจมีเชื้อโรคเจือปนหรือสารเคมีตกค้างได้ ที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องปรุงรสด้วยผงชูรสเนื่องจากเด็กอายุ 12 เดือนแรกมักยังไม่เลือกรสชาติ อีกทั้งเด็กอาจจะได้รับเกลือแร่ส่วนเกินส่งผลให้ไตทำงานหนักโดยไม่จำเป็นได้
เด็กควรทานอาหารอื่นนอกจากนม (Complementary Food) โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป เนื่องจากสารอาหารจากนมจะไม่เพียงพอต่อการเติบโตในช่วงอายุนี้แล้ว ทารกจะมีประสิทธิภาพของน้ำย่อยและการขับของเสียจากไตมากขึ้นเพื่อรองรับอาหาร
อีกเหตุผลที่สำคัญคือ ทารกก่อน 6 เดือน จะยังมี "Extrusion Reflex" คือปฏิกิริยาใช้ลิ้นดุนอาหารออกจากปาก ซึ่งพฤติกรรมนี้จะหายไปช่วงอายุประมาณ 5 - 6 เดือน จึงไม่ควรให้อาหารแก่ทารกก่อนอายุ 6 เดือนด้วยตนเอง เพราะอาจเกิดลำไส้ติดเชื้อ หรือทางเดินอาหารอุดตันได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ทารกที่มีปัญหาน้ำหนักน้อยมากหรือขาดสารอาหาร แพทย์จะพิจารณาเริ่มอาหารตั้งแต่อายุ 5 เดือนเป็นราย ๆ ครับ
การทำอาหารให้ลูกน้อยจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป หากคุณมีอุปกรณ์บดอาหารเด็กเหล่านี้เป็นตัวช่วย นอกจากจะประหยัดเวลาแล้ว ยังใช้งานง่าย พกพาสะดวก ตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลามากเลยค่ะ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีตัวช่วยที่ดีแล้ว ก็อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องสารอาหาร โภชนาการ และพัฒนาการของเด็กแต่ละวัย เพื่อที่น้อง ๆ หนู ๆ จะได้เติบโตสมวัยและมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์นะคะ
อันดับที่ 1: Babyboo |ชุดบดอาหารแบบ Multi Function
อันดับที่ 2: Richell |ชุดทำอาหารเด็กเล็กแบบขวด
อันดับที่ 3: BERZ |ชุดบดอาหารเด็กรูปตัวการ์ตูน
อันดับที่ 4: No Brand |ชุดบดอาหารเด็ก
อันดับที่ 5: Kidsco |เครื่องบดอาหารเด็กแบบมือหมุน
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ