กล้องฟิล์มเป็นกล้องอีกหนึ่งประเภทที่กำลังได้รับความนิยม โดยจะเห็นได้จากบล็อกเกอร์ Influencer สายมินิมอล รวมไปถึงคนดังระดับโลกอย่างลิซ่า Blackpink ที่มีกล้องฟิล์มเป็นของใช้ติดตัวให้เราเห็นกันตลอด เพราะทั้งตัวกล้องและภาพที่ถ่ายออกมานั้นให้บรรยากาศแบบย้อนยุค มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบที่กล้องดิจิทัลให้ไม่ได้
ในบทความนี้เราจึงได้รวบรวมวิธีการเลือกกล้องฟิล์มแบบง่าย ๆ พร้อมคำแนะนำจากช่างกล้องอาชีพ นอกจากนี้ ยังมี 10 กล้องฟิล์ม สำหรับมือใหม่ ที่ได้รับความนิยม เช่น แบรนด์ดังอย่าง Nikon, Fujifilm, Leica หรือ Canon รวมทั้งกล้องฟิล์มใช้แล้วทิ้ง กล้องโพลารอยด์มาเป็นไอเดียให้อีกด้วย
Top 5 กล้องฟิล์ม มือใหม่ ยอดนิยม
คุณแก้วเป็นช่างภาพมืออาชีพที่มีประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพหลากหลายแนว เช่น Fashion, Architecture, Automobile และ Product Still Life มานานกว่า 10 ปี โดยหลังจากกระแสสมาร์ตโฟนถ่ายภาพเริ่มได้รับความนิยม คุณแก้วจึงศึกษาการถ่ายด้วยสมาร์ตโฟนอย่างจริงจัง และก่อตั้ง Mobile Photographer เพื่อถ่ายทอดความรู้ เทคนิค และอัปเดตเทคโนโลยีกล้องสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์เสริมอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันทำงานร่วมกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Samsung, OPPO, VIVO, HUAWEI และ Realme ผ่านการรีวิวสมาร์ตโฟนกว่า 50 รุ่น พร้อมทั้งจัด Workshop และ Present สินค้าร่วมกับแบรนด์ต่าง ๆ นอกจากนี้ คุณแก้วยังเปิด Photography Course และบรรยายในมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง ตั้งแต่ปี 2023 จนถึงปัจจุบัน โดยดำรงตำแหน่งอาจารย์พิเศษประจำคณะดิจิทัลอาร์ต มหาวิทยาลัยศรีปทุม และเป็น Lecturer สอนการตลาดในหลักสูตรถ่ายภาพเบื้องต้นด้วยสมาร์ตโฟนที่อีกมหาวิทยาลัยชั้นนำ โดยใช้พื้นฐานด้านนิเทศศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรังสิต ผสมผสานกับประสบการณ์จริง เพื่อแนะนำการเลือกอุปกรณ์ เทคนิคการถ่ายภาพ และแนวโน้มเทคโนโลยีได้อย่างแม่นยำ
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
เสน่ห์ของกล้องฟิล์มก็คือ การได้ถ่ายทอดความคลาสสิกของการถ่ายภาพได้อย่างสมจริง ในปัจจุบัน กล้องดิจิทัลช่วยให้เราสามารถถ่ายภาพได้อย่างง่ายดาย แต่ความสนุกจริง ๆ ของการใช้กล้องฟิล์มนั้น นับตั้งแต่เริ่มกดชัตเตอร์ลงไปจนถึงกระบวนการล้างฟิล์มเสร็จสิ้น เราจะไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าภาพที่เราถ่ายออกมานั้นเป็นเช่นไรบ้าง
นอกจากตัวกล้องแล้ว การเลือกใช้ฟิล์มก็มีผลกับบรรยากาศและโทนสีของรูปภาพด้วยเช่นกัน คุณสามารถสนุกไปกับการเลือกใช้ฟิล์มให้เข้ากับฤดูกาลหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่ไปได้ จนถึงตอนนี้ ใครที่ใช้กล้องดิจิทัลอยู่แล้วอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง เราขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนไปใช้กล้องฟิล์มดู รับประกันว่าต้องสนุกไปกับการถ่ายภาพในแบบใหม่ ๆ แน่นอนค่ะ
สำหรับคนที่เพิ่งจะเริ่มต้นถ่ายภาพนั้น หลายคนก็อาจจะเริ่มที่กล้องมือถือหรือกล้อง Digital เพราะว่าสามารถใช้งานได้สะดวก จะถ่ายกี่รูปก็ได้และเห็นภาพ Preview ในทันที แต่ไม่ใช่กับกล้องฟิล์มครับ กล้องฟิล์มในปัจจุบัน เหมาะกับคนที่ใช้กล้องเป็นแล้วในระดับหนึ่ง โดยจะต้องสามารถตั้งค่ากล้องได้ วัดแสงเป็น ซึ่งเราต้องทำเองทุกอย่างและไม่สามารถที่จะเห็นภาพได้ทันที
เพราะฉะนั้น เสน่ห์ของกล้องฟิล์ม คือการใช้เวลาในการกดภาพแต่ละภาพอย่างละเมียดละไม อีกทั้งสีของฟิล์มที่เลือกมาก็จะมีเอกลักษณ์และประสิทธิภาพในการรับแสงต่างกันไป รวมทั้งมี Film Grain หรือ Noise ทรงเสน่ห์ที่หลายคนหลงรักอีกด้วยนั่นเองครับ
หลังจากนี้ เราจะมาอธิบายหลักการในการเลือกกล้องฟิล์มกันนะคะ ใครที่กำลังตามหากล้องฟิล์มตัวโปรดอยู่ ลองเอาไว้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อกล้องที่เหมาะกับคุณดูค่ะ
กล้องฟิล์มที่วางขายในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท เพราะฉะนั้น เราควรเลือกให้เหมาะกับทักษะการถ่ายภาพของตัวเอง โดยดูจากลักษณะเด่นของกล้องแต่ละประเภทค่ะ
ถ้าคุณคือมือใหม่หัดถ่าย เราขอแนะนำให้เริ่มจากกล้องประเภท SLR (Single Lens Reflex) เพราะมีดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานที่ต่างกันออกไปตามรุ่น อีกทั้งยังมีเลนส์และฟิล์มให้เลือกใช้หลากหลายชนิด ทำให้นักเล่นกล้องฟิล์มทั้งหลายต่างนิยมใช้กล้องประเภทนี้ค่ะ
นอกจากจุดเด่นในเรื่องของเลนส์และฟิล์มที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังสามารถปรับแต่งการตั้งค่าของตัวกล้องให้สามารถถ่ายตามแบบที่เราชอบได้ เรียกได้ว่าเป็นกล้องที่สามารถดึงอัตลักษณ์ของคนถ่ายลงบนเนื้อฟิล์มได้อย่างงดงามและคลาสสิก วิธีการใช้งานจะแตกต่างกันไปตามระดับของผู้ใช้งาน หากคุณต้องการฝึกฝนทักษะการถ่ายกล้องฟิล์มไปอีกขั้น แนะนำให้ใช้กล้องประเภทนี้เลยค่ะ
กล้องฟิล์มในระบบ SLR เป็นกล้องที่เรียกได้ว่า ได้รับความนิยมมากตั้งแต่ยุคกล้องฟิล์มรุ่งเรืองเมื่อหลายสิบปีที่แล้วมาจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นต้นแบบของกล้อง Digital ระดับ Professional ในยุคแรก ๆ อีกด้วย กล้องประเภท SLR มักจะใช้ฟิล์ม 35mm ซึ่งมีหลากหลายแบรนด์และโทนสีรวมไปถึง Spec ISO ให้เลือกอีกมากมาย เรียกว่าเปลี่ยนกันเพลินเลยทีเดียว นอกเหนือจากนี้ ด้วย Design ที่สวยงาม Classic และเป็นเอกลักษณ์ใน Dial ในการปรับตั้งค่าต่าง ๆ แม้จะค่อนข้างเยอะ แต่ก็สะดวก ทำให้ใช้ได้ตั้งแต่มือใหม่ไปยันมือโปรเลยครับ
ถ้าคุณอยากลองถ่ายภาพที่ได้มุมแตกต่างไปจากปกติ ลองเลือกเป็นกล้อง TLR (Twin Lens Reflex) หรือกล้องสะท้อนภาพเลนส์คู่ดูสิคะ ซึ่ง "กล้อง TLR" จะมีกระจกเลนส์ไว้รับและมองภาพอย่างละเลนส์ โดยเวลาถ่ายภาพจะต้องมองผ่านช่องมองภาพทางด้านบน อีกทั้งยังได้รูปที่ถ่ายออกมาเป็น "สี่เหลี่ยมจตุรัส" ซึ่งเป็นเสน่ห์ของกล้องรุ่นนี้เลยค่ะ
แต่ทว่าภาพถ่ายที่ได้ออกมานั้น อาจจะมีความคลาดเคลื่อนจากภาพที่เห็นจากช่องมองภาพเล็กน้อยและระยะการถ่ายภาพยังถูกจำกัดไว้ด้วยทางยาวโฟกัสของเลนส์ จึงถ่ายยากกว่ากล้องฟิล์มทั่วไป ดังนั้น หากคุณเป็นมือใหม่ อาจจะต้องลองศึกษาวิธีการใช้งานอย่างละเอียด หรือฝึกฝนบ่อย ๆ เพื่อจะได้ใช้งานอย่างเชี่ยวชาญค่ะ อย่างไรก็ตาม ด้วยดีไซน์ของตัวกล้องที่มีความเท่และโดดเด่น จึงไม่แปลกใจเลยที่หลายคนเริ่มหันมาสนใจกล้องประเภทนี้ค่ะ
กล้องฟิล์มในระบบ TLR หรือ Twin Len Reflect จะมีความย้อนยุคไปมากกว่าประเภท SLR ค่อนข้างไกลเลย ลักษณะเด่นและเอกลักษณ์คือ การที่เราจะต้องมองภาพจากด้านบนลงไปโดยจะมีเลนส์สองตัวสะท้อนภาพ เข้ามาให้เราเห็นภาพ Ratio ซึ่งสัดส่วนภาพที่ได้จะเป็นแบบ 1:1 หรือจัตุรัส เรียกว่าอาจจะแปลกตาในปัจจุบัน กล้อง TLR นั้นเป็นกล้องที่ผมค่อนข้างจะแนะนำให้ใช้ SLR จนชินหรือเคยถ่ายกล้องฟิล์มมาก่อนแล้วจึงมาเล่น เพราะต้องใช้เวลาและความเชี่ยวชาญมากพอสมควร แต่ถ้าถ่ายออกมาได้ก็ให้ภาพเหมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่งเลยครับ
สำหรับคนที่มองหากล้องฟิล์มที่ใช้งานได้ง่ายและไม่ซับซ้อน เราขอแนะนำ "Instant Camera" หรือที่เรียกกันว่า "กล้องโพลารอยด์" นั่นเองค่ะ หมดกังวลเรื่องการปรับตั้งค่ากล้องให้วุ่นวาย เพราะคุณสามารถถ่ายภาพฟิล์มจากกล้องเพียงแค่กดปุ่มชัตเตอร์ แถมไม่ต้องไปล้างรูปให้เสียเวลา เพราะรูปที่เราถ่ายแต่ละครั้งก็จะถูกล้างออกมาทันทีหลังถ่ายเสร็จ เก็บความทรงจำทุกวินาทีของคุณแบบเรียลไทม์ในรูปแบบของฟิล์มได้เลย
แต่ข้อเสียของกล้องประเภทนี้ คือ ไม่สามารถปรับตั้งค่ากล้องอย่างละเอียดได้เหมือนกับกล้องฟิลม์ประเภท SLR หรือ TLR ดังนั้น ถ้าคุณต้องการเพียงเก็บภาพบรรยากาศแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งสามารถล้างรูปออกมาได้ทันที กล้อง Instant Camera ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ !
อีกกลุ่มหนึ่งของกล้องฟิล์มที่ฮิตติดลมเสมอมา ก็คือ Instant Camera หรือกลุ่มกล้องฟิล์มโพลารอยด์ ซึ่งไม่ต้องตั้งค่าอะไรมากมาย แค่ใส่ฟิล์ม เปิดกล้อง จัดคอมโพส กดปุ่มชัตเตอร์ แล้วรอรับภาพที่ปริ้นออกมาได้เลยครับ นับเป็นเสน่ห์ของกล้องโพลารอยด์ที่หาไม่ได้จากกล้องประเภทอื่นเลยครับ เหมาะสำหรับคนที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว และอยากให้ภาพนั้นเป็นของที่ระลึกกับคนที่เราถ่ายภาพได้เลยทันที ซึ่งความทนทานของสีฟิล์มนั้นก็มีหลายเกรดโดยที่บางเกรดอยู่ได้หลายสิบปีเลยครับ
หากคุณต้องการกล้องที่มีอุปกรณ์น้อยชิ้น ขอแนะนำ "กล้อง Rangefinder (Compact Camera)" เลยค่ะ ตัวกล้องประเภทนี้จะมีช่องมองภาพติดมากับตัวเครื่องเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่มีส่วนที่ยื่นออกมา อีกทั้งยังมีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก เหมาะมือกับสาว ๆ ทั้งหลายมากค่ะ
อย่างไรก็ตาม กล้องประเภทนี้เวลาถ่ายรูปออกมา อาจจะมีความคลาดเคลื่อนจากช่องมองภาพที่เราดูในกล้องเล็กน้อยค่ะ แม้ว่าเราแนะนำกล้องประเภทนี้กับผู้ใช้เริ่มต้น แต่กว่าจะชำนาญการใช้กล้องในการปรับโฟกัสหรือการกะระยะถ่าย อาจจะต้องฝึกการใช้งานประมาณหนึ่งและเรียนรู้ของระบบกล้องให้เคยชินเสียก่อนนะคะ
กล้องประเภทนี้เป็นอีกหนึ่งประเภทกล้องฟิล์มที่ค่อนข้างจะแพร่หลายมากทีเดียวเมื่อเทียบกับกล้อง SLR เพราะว่า Design ที่สวย ขนาดที่เล็กกว่า พกพาง่าย และมีฟิล์มให้ใช้หลากหลายเหมือนกัน จึงไม่แปลกที่จะได้รับความนิยมสูง อย่างไรก็ตาม กล้องประเภท Range Finder อาจจะต้องใช้การกะระยะและประสบการณ์ในการถ่ายพอสมควร เพราะว่าภาพที่ได้จะคลาดเคลื่อนจากที่ตาเห็นใน View Finder เล็กน้อย ซึ่งเป็น Character ของกล้องแต่ละตัว ถ้าใช้จนชินก็จะไม่มีปัญหาแล้วครับ สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง จะพกไว้เป็น Props นาน ๆ เอาออกมาถ่ายก็เมื่อไหร่ก็สวยไปอีกแบบครับ
กล้องฟิล์มแต่ละชนิดจะใช้ขนาดของฟิล์ม หรือชนิดของฟิล์มแตกต่างกันไปค่ะ เช่น กล้องฟิล์ม SLR หรือ Rangefinder จะใช้ฟิล์มขนาด 35 มม. ส่วนกล้อง TLR ใช้ขนาด 120 มม. เป็นต้น คุณจึงควรตรวจสอบกล้องที่มีอยู่ว่าใช้กับฟิล์มขนาดไหนด้วยนะคะ
นอกจากนี้ "กล้องโพลารอยด์" หรือ "กล้อง Instant Camera" จำเป็นต้องใช้ฟิล์มเฉพาะสำหรับกล้องประเภทนี้ด้วย ดังนั้น ก่อนที่จะซื้อฟิล์ม แนะนำให้ตรวจสอบประเภทของกล้องและขนาดของฟิล์มว่าควรใช้ฟิล์มประเภทไหนค่ะ
กล้องแต่ละประเภทจะมีขนาดของฟิล์มที่ Compatable แตกต่างกันไป เช่น SLR ก็จะเป็นฟิล์มแบบ 35mm ถ้าเป็นกล้อง Range Finder ก็จะใช้ 35mm เช่นเดียวกัน แต่อาจจะมี Spec เฉพาะในบางแบรนด์ด้วย ส่วนกล้อง TLR ก็จะใช้ฟิล์ม 120mm ครับ นอกเหนือจากเรื่องของขนาดก็ยังมีเรื่องของค่า ISO ของฟิล์มและโทนสีที่จะได้อีกด้วย อย่างกล้องประเภทสุดท้ายที่ต้องใช้ฟิล์มเฉพาะเลยก็คือ กล้องโพลารอยด์ ซึ่งจะดีไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับเกรดของฟิล์มอีกด้วย ลองตรวจสอบให้ดีก่อนจะซื้อนะครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ การเลือกโหมดกล้องให้เหมาะกับรูปที่อยากจะถ่ายออกมาในแต่ละสถานการณ์ ยกตัวอย่างเช่น ภาพละลายหลังเยอะ ๆ หรือภาพที่กำลังเคลื่อนไหว เป็นต้น
หากคุณเป็นมือใหม่ในวงการกล้องฟิล์ม เราขอแนะนำให้เลือกกล้องที่มีโหมด AE ซึ่งก็คือ โหมดที่ตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์และค่ารูรับแสงแบบอัตโนมัติ ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพได้อย่างสวยงาม เพียงกดแค่ปุ่มชัตเตอร์ถ่ายรูป โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งค่าของกล้อง
อย่างไรก็ตาม หากอยากลองถ่ายภาพที่มีความซับซ้อนขึ้นก็สามารถทำได้ผ่านการปรับการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในกล้องค่ะ กล่าวได้ว่า ค่อย ๆ เพิ่มทักษะการถ่ายภาพกันไป เพราะนอกจากโหมด AE แล้วยังมีโหมด Manual ให้ลองใช้ด้วยค่ะ
กล้องฟิล์มในรุ่นใหม่ ๆ ที่มีระบบวัดแสงไฟฟ้า Built-in มาให้ในตัวนั้น มักจะมีโหมดการถ่ายภาพที่หลากหลายเพิ่มขึ้นมามาก เช่น โหมด P นั้นจะเหมาะกับคนที่หัดถ่ายภาพ เพราะว่ากล้องจะทำการปรับ Aperture และ Shutter ให้เอง ทำให้เราได้ภาพที่มีแสงพอดี ไม่สว่างหรือมืดเกินไป ในกรณีที่เราต้องการ Design Shot ด้วยตัวเอง เช่น ต้องการ Background ที่เบลอ เราก็ต้องคุม Aperture เอง แล้วไปใช้ Shutter Speed ในการคุมแสงแทนครับ ใช้ P ให้เก่ง จับทางให้ได้ แล้วขยับไปใช้โหมดอื่นต่อก็ย่อมได้ครับ
หากต้องการถ่ายรูปกีฬาหรือถ่ายภาพเด็กเป็นหลัก แนะนำให้เลือกโหมด TV หรือโหมดที่เน้นปรับความเร็วชัตเตอร์เป็นหลัก เพราะเมื่อเราปรับความเร็วชัตเตอร์แล้ว ตัวกล้องจะทำการปรับหาค่ารูรับแสงให้โดยอัตโนมัติ ทำให้ถ่ายภาพได้สะดวกยิ่งขึ้นค่ะ
ถ้าเราตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ได้อย่างถูกต้อง ไม่เพียงแต่จะสามารถถ่ายรูปของเด็ก ๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวเท่านั้น ยังสามารถถ่ายรูปน้ำไหลในแม่น้ำหรือแสงจากดอกไม้ไฟที่กำลังกระจายตัวอยู่บนฟ้ายามค่ำคืนได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม มือใหม่หลายคนอาจจะรู้สึกว่าการถ่ายภาพเคลื่อนไหวนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะคุ้นเคยและปรับความเร็วชัตเตอร์ได้ตามที่ใจต้องการค่ะ
โหมดการถ่ายภาพแบบ TV นั้นคือ การที่เราจะคุม Shutter Speed เอง เพราะบางครั้งเราต้องถ่ายสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ การจะใช้ Mode P ไปตลอดจะทำให้เกิด Motion Blur กับ Object ที่เราถ่ายได้ เช่น ถ้าเราอยากถ่ายเด็กวิ่งเล่นหรือคนเล่นกีฬาในสนาม เราต้องใช้ Shutter Speed ที่สูงขึ้นโดยอ้างอิงตามความเร็วในการเคลื่อนไหว เช่น 1/500 หลังจากนั้นกล้องจะทำการปรับ Aperture ให้เองเพื่อให้ได้สภาพแสงที่พอเหมาะ ข้อควรรระวังคือ ถ้าหากช่วงเวลาที่ถ่ายนั้นแสงน้อยมาก ๆ การที่เราปรับ Shutter Speed เร็วเกินไปบน Film ที่มี ISO ต่ำอาจจะทำให้ภาพมืดได้ครับ
หากคุณอยากถ่ายภาพที่มีคุณสมบัติพิเศษอย่างการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ หรือที่เรียกว่า DOF (Depth Of Field) ให้เลือกกล้องที่มีโหมด AV หรือโหมดปรับรูรับแสง ซึ่งส่งผลต่อความชัดลึก-ชัดตื้นของภาพถ่าย และเมื่อกำหนดค่ารูรับแสงแล้ว กล้องก็จะทำการตั้งความเร็วชัตเตอร์ให้เราเองอัตโนมัติ เพียงเท่านี้ก็สามารถถ่ายรูปละลายฉากหลังหรือ "หน้าชัด-หลังเบลอ" ได้อย่างง่ายดายค่ะ
นอกจากนี้ สำหรับมือใหม่หัดถ่าย การที่ได้ทดลองปรับค่ารูรับแสงหรือปรับความเร็วชัตเตอร์ ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความสนุกของการเล่นกล้อง ได้เรียนรู้การทำงานของกล้องก็เป็นความสุขไปอีกแบบนะคะ
โหมดนี้เป็นโหมดที่เหมาะกับการเอามาถ่ายภาพบุคคลที่สุด เพราะว่าเราสามารถคุม Aperture ของกล้องได้ ทำให้เราสามารถเลือกมิติ ความชัดตื้นได้แบบเต็ม ๆ เช่น เมื่อเราเปิด Aperture ที่ f/1.4 แล้ว กล้องจะปรับ Shutter Speed ให้แทนเพื่อให้ช่วงเวลาที่รับแสงเข้ามาลงบนแผ่นฟิล์มออกมาพอดี ไม่สว่างหรือมืดเกินไป แถมยังได้ฉากหลังเบลอและ Bokeh สวย ๆ จากการเปิด f-stop กว้างอยู่อีกด้วยครับ ข้อควรระวังอย่างหนึ่งคือ หากใช้ฟิล์มที่มี ISO สูง ควรตั้งชดเชยแสงไว้สักเล็กน้อย ก็จะช่วยให้เราได้ Dynamic Range ในภาพที่ดีขึ้นได้ครับ
สำหรับคนที่คุ้นชินกับการใช้กล้องฟิล์ม และเข้าใจการทำงานของกล้องในระดับหนึ่งแล้ว ลองมาเพิ่มความท้าทายในการถ่ายภาพด้วยโหมด Manual ดูสิคะ ซึ่งในโหมดนี้ คุณสามารถปรับการตั้งค่าระบบในกล้องด้วยตัวเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความเร็วชัตเตอร์หรือรูรับแสง ทำให้เรามีอิสระในการถ่ายภาพยิ่งขึ้น แต่ทว่าการถ่ายรูปในโหมดนี้ จำเป็นต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์สูง เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม เพราะการถ่ายภาพในแต่ละสถานการณ์ มีความจำเป็นต้องปรับการตั้งค่าที่แตกต่างกันออกไป
โหมดนี้เป็นฟังก์ชันที่มีอยู่ในกล้องแทบทุกตัว หากคุณไม่อยากใช้โหมด Auto ที่ถูกตั้งค่าไว้ ก็สามารถปรับมาใช้โหมดนี้ได้ตลอด มีบางกรณีที่กล้องบางรุ่นอาจจะไม่มีโหมด Manual แนะนำให้ตรวจสอบให้ดีก่อนทำการซื้อนะคะ
เมื่อผ่าน Mode ช่วยเหลือในการถ่ายภาพมาจนหมดแล้ว โหมด M มักเป็นปลายทางสำหรับทุกคนที่ต้องการคุมกล้องเองทั้งหมดแบบเบ็ดเสร็จเพื่อ Design Shot ที่ตัวเองต้องการได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น Aperture และ Shutter Speed ที่ต้องคุมเองทั้งหมด แรก ๆ อาจจะรู้สึกว่ายุ่งยากไปเสียบ้าง แต่ถ้าใช้จนชินแล้วจะกลายเป็น Mode โปรดของเราไปเลย เนื่องจากเราได้อิสระในการใช้งานอย่างเต็มที่มากกว่า แต่ก็อาจจะต้องใช้เวลาในการฝึกฝนอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้ได้ภาพแบบที่เราต้องการ แม้ว่าแรก ๆ อาจจะมีพลาดบ้าง ก็ไม่ต้องกังวลไป ฝึกบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ใช้งานได้คล่องเองครับ
ในการใช้กล้องฟิล์มควรให้ความสำคัญกับ 'การโฟกัส' เป็นพิเศษ หากคุณต้องการสนุกไปกับการเล่นกล้องฟิล์ม แนะนำให้ปรับเป็น Manual Focus (MF) ซึ่งกล้องฟิล์มส่วนใหญ่จะใช้ระบบโฟกัสแบบนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะกล้องฟิล์มรุ่นเก่า ๆ นั้นจะเป็นระบบโฟกัสแบบ Manual ทั้งหมด สำหรับมือใหม่นั้น การใช้ MF เพียงอย่างเดียวอาจจะเป็นเรื่องยาก ดังนั้น เราแนะนำให้เลือกกล้องรุ่นที่รองรับทั้ง MF/AF จะดีที่สุดค่ะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณต้องการถ่ายภาพที่วัตถุกำลังเคลื่อนไหว หรือเน้นจับภาพช็อตเด็ดเป็นหลัก แนะนำให้เลือกใช้โหมด Auto Focus (AF) เพราะโฟกัสวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่า โดยกล้องรุ่นใหม่ ๆ ที่วางจำหน่ายในปัจจุบันทุกรุ่นจะรองรับระบบ Auto Focus ทำให้มือใหม่ก็สามารถถ่ายรูปสวย ๆ ได้ไม่แพ้มือโปร แต่ถ้ารักที่จะเล่นกล้องฟิล์มแล้วล่ะก็ การปรับโฟกัสแบบ Manual ก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดค่ะ
ถ้าหากเป็นกล้องฟิล์มยุคบุกเบิกจริง ๆ แล้วนั้น เราจะได้ใช้การโฟกัสแบบ MF กันอย่างแน่นอน แต่ถ้าเกิดเป็นกล้องฟิล์มยุคใหม่ ๆ ที่ใส่ถ่านเพื่อให้ระบบอำนวยความสะดวกแบบไฟฟ้านั้น ก็จะมี Choice มาให้เราได้เลือกว่าจะให้กล้องช่วยโฟกัสแบบไฟฟ้าให้หรือว่าหมุนมือเอาเป็นแบบ MF ซึ่งถ้าหากเราเอากล้องไปถ่ายภาพที่เน้นในเรื่องของการเล่น Depth หรือมิติความชัดของภาพ การใช้ MF จะช่วยให้เราปรับจุดโฟกัสได้ละเอียดมาก ๆ ด้วยการหมุนมือเท่านั้น เช่น หากเราต้องการถ่ายใบหน้าคนและอยากโฟกัสแค่ที่ดวงตา เราก็สามารถใช้ MF เพื่อปรับ Focus ให้ออกมาได้อย่างละเอียดและรวดเร็ว เป็นต้น
รูปที่ได้จากกล้องฟิล์มนั้นมีปัจจัยมาจากการตั้งค่าปริมาณแสง สถานที่ถ่ายภาพและสภาพอากาศ ปัญหานี้จะไม่กระทบกับผู้ที่เคยชินกับการเล่นกล้องอยู่แล้ว แต่สำหรับมือใหม่หัดใช้กล้องฟิล์ม อาจจะสับสนและไม่สามารถวัดแสงได้อย่างถูกต้องค่ะ
ดังนั้น เราจึงแนะนำให้เลือกกล้องฟิลม์ที่มีที่วัดแสงในตัว เพราะเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถกะค่าแสงได้อย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ภาพที่ถ่ายมา Over หรือ Under มากเกินไป สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มเล่นกล้องฟิล์ม ก่อนทำการซื้อกล้องฟิล์มอย่าลืมตรวจเช็กว่า กล้องที่คุณเล็งไว้มีที่วัดแสงหรือไม่นะคะ
ใครที่เล่นกล้องฟิล์มมานานจะต้องพกที่วัดแสงไปด้วยเสมอ ซึ่งลักษณะจะเป็นลูกบอลสีขาว ๆ เพื่อให้เราสามารถจับระดับแสงมาใช้ในการตั้งค่ากล้องได้ แต่กล้องฟิล์มในยุคหลัง ๆ หลายตัวมีการ Built-in ระบบวัดแสงมาให้แล้ว (แต่ยังต้องใส่แยกเพื่อถ่าย) ซึ่งจะทำให้เราไม่ต้องพกตัววัดแสงไปให้ยุ่งยาก แต่ก็ต้องบอกว่าการวัดแสงในกล้องฟิล์มนั้น จะไม่ได้แม่นยำเท่ากลุ่มของกล้อง Digital ในปัจจุบันนะครับ อาจจะยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่บ้างเล็กน้อย ต้องอาศัยประสบการณ์เพิ่มเติมมาช่วยในส่วนนี้ก็จะให้ความแม่นยำได้มากที่สุดครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเภท | โหมดถ่ายภาพ | โฟกัส | ขนาดฟิล์ม | สภาพสินค้า | น้ำหนัก | ที่วัดแสง | |||||
1 | Nikon Film SLR Camera F6 | ![]() | กล้องฟิล์ม Nikon ตระกูล F ในตำนาน มีความเที่ยงตรงสูง | SLR | Programmed AE, Manual | Single Servo AF(S), Continuous Servo AF(C) และ Manual | 35 mm | มือหนึ่ง | 975 กรัม | ||
2 | Leica Sofort | ![]() | สามารถพิมพ์ภาพได้ทันที เหมาะสำหรับการไปออกทริป | Instant | Programmed AE, Manual | Auto Focus, Manual | instax Mini | มือหนึ่ง | 100 กรัม | ||
3 | Fujifilm instax Mini 90 | ![]() | กล้อง Instant ทรงคลาสสิก มาพร้อมกับฟังก์ชันหลากหลาย | Compact | Programmed AE, Manual | Auto Focus, Manual | instax Mini | มือหนึ่ง | 296 กรัม | ||
4 | Polaroid OneStep 2 | ![]() | ดีไซน์คลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์ ต้นแบบโลโก้ IG ในยุคแรก | Instant | Manual | Manual | i-Type, Polaroid Film 600 | มือหนึ่ง | 440 กรัม | ||
5 | Fujifilm Simple ACE 400 | ![]() | กล้องใช้แล้วทิ้ง ไม่ต้องปรับตั้งค่าให้วุ่นวาย ซื้อแล้วใช้ได้เลย | Disposable | Programmed AE | Auto Focus, Manual | 35 mm | มือหนึ่ง | 90.7 กรัม | ||
6 | Kodak Film Camera M35 | ![]() | ผลิตจากวัสดุพลาสติก ABS ดีไซน์สวย เหมาะสำหรับมือใหม่ | Compact | Manual | Manual | 35 mm | มือหนึ่ง | 100 กรัม | ||
7 | Canon A-1 | ![]() | กล้องต้นแบบของ Canon ในยุคปัจจุบัน ฟังก์ชันครบครัน | SLR | Manual, Programmed AE, Aperture priority | Auto Focus, Manual | 35 mm | มือสอง สภาพ 90% | 575 กรัม | ||
8 | Rollei 35 TE | ![]() | ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และยังเคยขึ้นชื่อว่ามีขนาดเล็กที่สุดในโลก | SLR | Manual | Manual | 35 mm | มือสอง สภาพ 90% | 400.2 กรัม | ||
9 | Leica Minilux Zoom | ![]() | กล้อง Compact จากแบรนด์ดังระดับโลก เหมาะกับผู้เริ่มต้นใช้งาน | SLR | Programmed AE, Manual | Auto Focus, Manual | 35 mm | มือสอง | 416.6 กรัม | ||
10 | Contax T3 | ![]() | หนึ่งในรุ่นยอดนิยม กล้อง Compact ที่มีฟังก์ชันครบครัน | Compact | Programmed AE, Manual | Auto Focus, Manual | 35 mm | มือสอง | - |
Nikon F6 เป็นกล้องฟิล์มจากค่าย Nikon ในตระกูล F รุ่นล่าสุดที่มีการพัฒนามานานกว่า 60 ปี หยิบยกจุดเด่นของแต่ละรุ่นที่ผ่านมารวมอยู่ในตัวเดียว มีระบบหาโฟกัสอัตโนมัติ รองรับแฟลชรุ่นใหม่ อีกทั้งมีระบบวัดแสงแบบ 3D Color Matrix ที่ทางค่ายได้พัฒนามาเพื่อให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะเป็นกล้องฟิล์มแต่ได้พัฒนาระบบให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์การถ่ายภาพที่หลากหลาย เหมาะกับการใช้งานในระดับมืออาชีพมาก ๆ ค่ะ
ประเภท | SLR |
---|---|
โหมดถ่ายภาพ | Programmed AE, Manual |
โฟกัส | Single Servo AF(S), Continuous Servo AF(C) และ Manual |
ขนาดฟิล์ม | 35 mm |
สภาพสินค้า | มือหนึ่ง |
น้ำหนัก | 975 กรัม |
ที่วัดแสง |
สำหรับกล้อง Instant รุ่น Sofort จากแบรนด์ Leica นี้ ขึ้นชื่อในเรื่องของเลนส์ที่มีคุณภาพสูง และได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน ดีไซน์กะทัดรัด มีโลโก้แบรนด์สีแดงโดดเด่น แค่ถือก็ดูเท่แล้วค่ะ ตัวกล้องมีระบบโฟกัสภาพที่แบ่งเป็น 3 โซน และยังมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพที่มีให้เลือกหลากหลาย มีจอ LED แสดงการทำงานด้านหลังกล้อง และยังมีดีไซน์ที่ดูคลาสสิกตามแบบฉบับ Leica แม้ว่ารุ่นนี้จะมีราคาสูงกว่ากล้อง Instant ทั่วไป แต่คุณภาพคุ้มราคาอย่างแน่นอนค่ะ
ประเภท | Instant |
---|---|
โหมดถ่ายภาพ | Programmed AE, Manual |
โฟกัส | Auto Focus, Manual |
ขนาดฟิล์ม | instax Mini |
สภาพสินค้า | มือหนึ่ง |
น้ำหนัก | 100 กรัม |
ที่วัดแสง |
กล้อง Instant จากค่าย Fujifilm ที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 300 กรัม มีฟังก์ชันรองรับการถ่ายรูปหลายโหมด เช่น สำหรับถ่ายภาพกลางคืน, ถ่ายภาพซ้อน, ภาพเส้นแสง, ภาพเด็ก, ทิวทัศน์, มาโคร หรือแม้กระทั่งถ่าย Selfie ก็ทำได้นะคะ รุ่นนี้นอกจากจะมีฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกสำหรับมือใหม่แล้ว ยังสามารถพิมพ์รูปออกมาได้ทันทีด้วย แถมดีไซน์ทูโทนของตัวกล้อง ก็ทำให้ดูเท่และคลาสสิก จึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ
ประเภท | Compact |
---|---|
โหมดถ่ายภาพ | Programmed AE, Manual |
โฟกัส | Auto Focus, Manual |
ขนาดฟิล์ม | instax Mini |
สภาพสินค้า | มือหนึ่ง |
น้ำหนัก | 296 กรัม |
ที่วัดแสง |
หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเจ้ากล้องตัวนี้ว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน นี่คือต้นแบบโลโก้ของ Instagram ยุคแรก ๆ ซึ่งมาจากกล้องของค่าย OneStep 2 นั่นเอง ถูกเปิดตัวเพื่อมาทวงตำนานของกล้องตระกูล Instant จาก Polaroid พัฒนาเทคโนโลยีให้เข้ากับปัจจุบัน โดยปรับจากการใช้ถ่านมาใช้แบตเตอรี่แทน แค่ชาร์จผ่าน USB 1 ครั้ง ก็สามารถใช้งานได้ยาว ๆ 60 วัน ทั้งยังมีแฟลชในตัว ที่ช่วยให้คุณถ่ายภาพได้สวยแม้อยู่ในที่แสงน้อยค่ะ
ประเภท | Instant |
---|---|
โหมดถ่ายภาพ | Manual |
โฟกัส | Manual |
ขนาดฟิล์ม | i-Type, Polaroid Film 600 |
สภาพสินค้า | มือหนึ่ง |
น้ำหนัก | 440 กรัม |
ที่วัดแสง |
กล้องใช้แล้วทิ้ง หรือ Disposable Camera คือ กล้องที่มีการใช้งานแบบครั้งเดียว ด้านในบรรจุฟิล์มไว้เรียบร้อยแล้ว ตัวกล้องไม่มีความซับซ้อน จึงทำให้ใช้งานง่าย และภาพที่ได้ก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง แม้ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ก็สามารถใช้ได้อย่างง่ายดาย ข้อเสียของกล้องรุ่นนี้คือ ภาพที่ได้คุณภาพจะต่ำกว่ากล้องทั่วไป และไม่สามารถตั้งค่าอะไรได้ ถ่ายในร่มต้องใช้แฟลชเสมอ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลองถ่ายฟิล์มแบบไม่ต้องลงทุนมาก เพื่อค้นหาว่าตัวเองชอบภาพแนวนี้หรือไม่ค่ะ
ประเภท | Disposable |
---|---|
โหมดถ่ายภาพ | Programmed AE |
โฟกัส | Auto Focus, Manual |
ขนาดฟิล์ม | 35 mm |
สภาพสินค้า | มือหนึ่ง |
น้ำหนัก | 90.7 กรัม |
ที่วัดแสง |
หลังจากที่กระแสการใช้กล้องฟิล์มกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง แบรนด์ Kodak ก็ได้ออกกล้องรุ่น M35 ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ให้กับคนที่อยากเล่นกล้องฟิล์ม รุ่นนี้มีขนาดที่พกพาสะดวก ราคาไม่สูง และมีคุณสมบัติแทบจะไม่แตกต่างจาก Disposable Camera หรือกล้องใช้แล้วทิ้ง แต่มีความพิเศษตรงที่กล้องฟิล์มรุ่นนี้สามารถใช้งานซ้ำได้ และรูปที่ได้ก็ยังคงเสน่ห์ของฟิล์มไว้อย่างดี เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดเล่นกล้องฟิล์มเช่นกันค่ะ
ประเภท | Compact |
---|---|
โหมดถ่ายภาพ | Manual |
โฟกัส | Manual |
ขนาดฟิล์ม | 35 mm |
สภาพสินค้า | มือหนึ่ง |
น้ำหนัก | 100 กรัม |
ที่วัดแสง |
ในยุคที่เริ่มเปิดตัว กล้องรุ่นนี้ได้ถูกนับว่าเป็นกล้องที่ทันสมัยแห่งยุคกันเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นดีไซน์ต้นแบบของกล้อง Canon ที่เป็นกล้องดิจิทัลในปัจจุบันนั่นเอง กล้อง Canon A-1 รุ่นนี้นอกจากรูปลักษณ์ที่ดูคลาสสิกแล้ว ยังครบครันในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานมาก เสมือนว่าเรากำลังจับกล้องดิจิทัลอยู่เลยล่ะค่ะ ทั้งยังมีการทำงาน 4 โหมดที่จะช่วยให้คุณถ่ายภาพได้สวยดั่งใจ แต่ข้อเสียของกล้องรุ่นนี้คือ ต้องใช้แบตเตอรี่ในการทำงานค่ะ
ประเภท | SLR |
---|---|
โหมดถ่ายภาพ | Manual, Programmed AE, Aperture priority |
โฟกัส | Auto Focus, Manual |
ขนาดฟิล์ม | 35 mm |
สภาพสินค้า | มือสอง สภาพ 90% |
น้ำหนัก | 575 กรัม |
ที่วัดแสง |
ใครที่กำลังมองหาหล้องรุ่นเก่าแต่เก๋า เราขอแนะนำกล้อง Rollei 35 TE เลยค่ะ กล้องรุ่นนี้เปิดตัวเมื่อปี 1977 และได้รับฉายาว่า เป็นกล้องที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกในขณะนั้น กลไกของกล้องถูกออกแบบมาอย่างละเอียดซับซ้อน และดีไซน์ก็ไม่เหมือนกับกล้องทั่วไป มีการใช้ระบบวัดแสงแบบ LED และมีไฟ LED ในช่องมองภาพ ทำให้สะดวกในการใช้งาน กล้องรุ่นนี้สามารถปรับได้ตั้งแต่รูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์แบบ Manual ทั้งตัว เหมาะสำหรับผู้ที่เข้าใจพื้นฐานการใช้กล้องอยู่แล้วค่ะ
ประเภท | SLR |
---|---|
โหมดถ่ายภาพ | Manual |
โฟกัส | Manual |
ขนาดฟิล์ม | 35 mm |
สภาพสินค้า | มือสอง สภาพ 90% |
น้ำหนัก | 400.2 กรัม |
ที่วัดแสง |
กล้องฟิล์มจากค่ายที่นักเล่นกล้องต้องรู้จักกันแทบทุกคน Leica เป็นแบรนด์กล้อง High-end จากยุโรป ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน และยังเป็นแบรนด์ที่นักสะสมกล้องอยากจะมีไว้ครอบครองไว้ในคอลเลคชั่น กล้องรุ่นนี้เป็น Premium Compact เหมาะกับผู้ใช้งานเริ่มต้น เพราะใช้วัสดุอย่างดี แข็งแรงทนทาน มีฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายและสะดวก เน้นใช้โหมด P เหมาะกับมือใหม่ ไม่ต้องตั้งค่าให้วุ่นวาย แต่ได้รูปที่มีคุณภาพ ถ้ามีงบสูงก็ขอแนะนำเลยนะคะ !
ประเภท | SLR |
---|---|
โหมดถ่ายภาพ | Programmed AE, Manual |
โฟกัส | Auto Focus, Manual |
ขนาดฟิล์ม | 35 mm |
สภาพสินค้า | มือสอง |
น้ำหนัก | 416.6 กรัม |
ที่วัดแสง |
หนึ่งในกล้องฟิล์ม Premium Compact ที่นักเล่นกล้องหลาย ๆ คนอยากมีไว้ครอบครอง ในตระกูลกล้องของ Contax T3 นั้น กล้องรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ฮิตตลอดกาล เปิดตัวครั้งแรกในช่วงปลายยุคฟิล์มก่อนจะคนเปลี่ยนมาใช้กล้องดิจิทัลกัน ทำให้ฟังก์ชันในเครื่องมีความโดดเด่นกว่ารุ่นก่อน ๆ เช่น Auto Focus หรือโหมด AE ก็ถูกติดตั้งมาไว้ในเครื่องด้วย กล้องรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัด เหมาะกับคนที่กำลังหากล้องฟิล์มที่ใช้ง่ายและสะดวกค่ะ
ประเภท | Compact |
---|---|
โหมดถ่ายภาพ | Programmed AE, Manual |
โฟกัส | Auto Focus, Manual |
ขนาดฟิล์ม | 35 mm |
สภาพสินค้า | มือสอง |
น้ำหนัก | - |
ที่วัดแสง |
การใช้งานกล้องฟิล์มจะมีความแตกต่างกับกล้องดิจิทัลเล็กน้อย หากใครที่ยังลังเลอยู่หรือมีข้อสงสัยอยู่ ในวันนี้ เรามีคำตอบและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันค่ะ
ด้วยความที่เทคโนโลยีในการผลิตกล้องฟิล์มในสมัยก่อนนั้นอาจจะไม่ได้ทันสมัยมาก จึงจะมีช่องว่างในงานประกอบหรือส่วนต่าง ๆ ของกล้องที่ทำให้ฝุ่นเข้าไปได้ง่าย เราจึงควรทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ ในแง่ของความชื้นนั้น สามารถพบได้ทั้งกับตัวกล้องและตัวเลนส์ โดยถ้าหากกล้องชื้นก็มีโอกาสที่ราจะขึ้นได้ ที่สำคัญที่สุดก็คือ บริเวณฝาหลังที่คอยปิดแสงไม่ให้เข้าไปในช่องใส่ฟิล์มนั้นควรจะปิดมิดชิดอย่างแน่นหนาอยู่เสมอ เพราะถ้าหากมีแสงจากภายนอกลอดเข้าไปได้ ฟิล์มม้วนนั้นอาจจะเสียได้ครับ
กล้องฟิล์มแบบใช้แล้วทิ้งนั้น คุณภาพอยู่ในระดับธรรมดาสู้กับกลุ่ม SLR หรือ Range Finder ตัวดี ๆ ตัวสูง ๆ ไม่ได้แน่นอน แต่จะไปเน้นความง่ายในการใช้งานเสียมากกว่า แต่ก่อนเวลาเราไปต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยุโรปหรือฝั่งอเมริกานั้น มักจะมีตู้ขายกล้องใช้แล้วทิ้งให้เราเห็นได้อยู่เป็นปกติ ซึ่งระยะและค่า Aperture ของเลนส์ก็ค่อนข้างจะธรรมดา จึงเหมาะสำหรับใช้เพื่อบันทึกความทรงจำกับใช้งานทั่วไปเท่านั้น ถ้าอยากได้ภาพที่ดี เป็นงานศิลปะ คุณภาพสูง ๆ กล้องใช้แล้วทิ้งจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่ครับ
จริง ๆ แล้ว ฟิล์มของแต่ละแบรนด์นั้น หากมี Spec เดียวกัน เช่น Kodak, Fujifilm หรือ Ninoco ถ้าเป็น 35mm เหมือนกันก็สามารถจะนำไปใส่กับกล้องฟิล์ม SLR ได้ครับ การใช้ฟิล์มกับบอดี้กล้องข้ามค่ายกัน เราอาจจะได้โทนสีใหม่ ๆ ที่มาจากเลนส์และฟิล์มที่มี Character สีที่แตกต่างแบบบังเอิญก็ได้นะครับ ถือว่าเป็นความสนุกของกล้องฟิล์มในอีกแง่หนึ่งเลยก็ว่าได้
มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนคงได้ข้อมูลวิธีการเลือกกล้องฟิล์มไปกันไม่มากก็น้อย พร้อมทั้งยังได้ไอเดียจาก 10 อันดับกล้องฟิล์มที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ไปด้วย หวังว่าจะมีรุ่นที่เข้าตากันไปบ้างนะคะ สำหรับใครที่ยังไม่เจอรุ่นถูกใจก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องรีบร้อน ลองนำวิธีการเลือกที่เราได้แนะนำไปไว้เป็นไอเดียประกอบกับการตัดสินใจในการเลือกกล้องฟิล์มจากยี่ห้ออื่น ๆ ในรูปแบบที่เหมาะกับสไตล์ของตัวเองกันดูนะคะ รับรองว่าหากคุณได้ลองใช้กล้องฟิล์มสักครั้ง จะต้องหลงเสน่ห์กล้องฟิล์มจนลืมกล้องดิจิทัลไปอย่างแน่นอน ส่วนใครที่เล็งกล้องฟิล์มที่เป็นมือสองไว้ล่ะก็ ขอแนะนำให้เลือกร้านค้าที่เชื่อถือได้และอย่าลืมตรวจสอบข้อมูลสภาพสินค้ากับผูัขายให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจด้วยนะคะ
อันดับที่ 1: Nikon|Film SLR Camera F6
อันดับที่ 2: Leica|Sofort
อันดับที่ 3: Fujifilm|instax Mini 90
อันดับที่ 4: Polaroid|OneStep 2
อันดับที่ 5: Fujifilm|Simple ACE 400
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ