10 อันดับ นาฬิกา Cartier รุ่นไหนดี ปี 2024 รวมรุ่นยอดนิยม Santos, Tank, Pasha

หากพูดถึงนาฬิกา Cartier แน่นอนว่าหลายคนต้องนึกถึงรุ่น Santos De Cartier เพราะไม่ว่าจะเป็นประวัติที่ยาวนานและรูปลักษณ์ที่มีความเฉพาะตัว ประกอบกับดีเทลต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์แบรนด์ เช่น ตัวเลขโรมัน ตัวเรือนสี่เหลี่ยม หรือสกรูที่ติดบริเวณขอบของตัวเรือน และสาย และที่ขาดไม่ได้คือ ขอบเม็ดมะยม (Crown Guards) ที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีในรุ่นออริจินัล แต่เข้ากับสไตล์ของนาฬิกาได้เป็นอย่างดี

สำหรับโมเดลใหม่จะมีสายให้คุณ 2 เส้น คือ สายโลหะและสายหนัง ที่ให้สไตล์ที่ต่างกันและเปลี่ยนได้ง่ายด้วยระบบ QuickSwitch อีกทั้งสายโลหะยังมีที่ล็อกแบบ SmartLink เป็นการซ่อนตัวล็อกให้สายดูสมูธ สวยงามดั่งการใส่เครื่องประดับ ปัจจุบัน มีทั้งหมด 12 โมเดล 2 ไซซ์ และด้วยลุคที่ดูโมเดิร์น สะอาดตา จึงทำให้เหมาะกับการสวมใส่ในทุก ๆ โอกาส ทั้งการแต่งตัวแบบ Casual และทางการเลยทีเดียวค่ะ 

นาฬิกา Cartier Tank นั้น มีประวัติยาวนานมากกว่า 100 ปี และเป็นรุ่นที่เรียกได้ว่าน่าจับตามองเป็นอย่างมาก รวมถึงยังเป็นขวัญใจของเหล่าดาราเซเลบและผู้มีอิทธิพลด้านแฟชั่นมากมาย ซึ่งรุ่น Tank Must เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในตะกูล Tank โดยยังคงรูปทรงที่สวย คลาสสิก และง่ายต่อการจดจำ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก หากจะมีคนให้ความสนใจเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะเหล่าคนหนุ่มสาวทั้งหลาย

สำหรับรูปทรงของตัวเรือนจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หน้าปัดสีขาวตัดกับมาร์กเกอร์ตัวเลขโรมันสีดำ หรือหากต้องการเพิ่มความหรูหรานาฬิการุ่นนี้ก็มี ตัวเรือนสีเงินล้อมเพชรระยิบระยับให้เลือกอีกด้วย นอกจากนี้ วัสดุยังมีความทนทานและไม่หมองแม้กาลเวลาจะผ่านไป ส่วนสายนั้นมีทั้งสายโลหะและสายหนัง เป็นรุ่นที่ดูสุภาพ และเรียบง่าย จึงเข้ากับการแต่งตัวหลายสไตล์ ทั้งเป็นทางการและแบบสบาย ๆ ค่ะ  

หากพูดถึงดีไซน์นาฬิการุ่น Ballon Bleu De Cartier แล้ว เชื่อว่าคุณจะต้องสะดุดตากับเม็ดมะยมทรงกลม ประดับ Sapphire สีน้ำเงินเม็ดใหญ่ ที่ครอบด้วยตัวเรือนที่โค้งเว้าสวยงามอย่างแน่นอน เพราะนี่คือเอกลักษณ์อันแสนโดดเด่นเฉพาะตัวของนาฬิการุ่นนี้ ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในรุ่นที่ขายดีที่สุดของทางแบรนด์ และได้รับคำชื่นชมจากเหล่ากูรูด้านนาฬิกาว่าเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่สวยที่สุดในโลก 

สำหรับขนาดที่เหมาะสมกับข้อมือของผู้หญิง คือ 33 มม. และ 36 มม. ส่วนใครที่ชอบตัวเรือนเล็กก็มีขนาด 28 มม. ให้เลือกเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นหน้าปัดยังมีให้เลือกหลากหลายสี ซึ่งโดยปกติแล้ว นาฬิกา Cartier มักจะใช้หน้าปัดสีขาวเพื่อให้ตัดกับมาร์กเกอร์สีดำเท่านั้น แต่รุ่นนี้มีทั้งสีเงิน สีฟ้า สีชมพู และสี Pink Gold ที่ให้ลุคที่ดูอ่อนหวานมีความ Feminine และด้วยรูปทรงที่เรียบหรูนี้ จึงเข้ากับการแต่งตัวได้ง่ายอีกด้วยค่ะ

สำหรับหนุ่ม ๆ คนไหนที่ชื่นชอบความเรียบหรู Cartier รุ่น Tank Must นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ โดยตัวเรือนมาในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายความคลาสสิกและความร่วมสมัย ขนาดใหญ่กำลังดี หน้าปัดตกแต่งด้วยตัวเลขโรมันและเข็ม Blue Steel อันเป็น Signature ของทางแบรนด์ ด้านข้างประดับด้วยเม็ดมะยมดีไซน์ Unique 

มีให้เลือก 3 ไซซ์ด้วยกัน คือ Small Large และ Extra-Large แต่ไซซ์ Extra-Large มีความพิเศษตรงที่มีช่องแสดงวันที่บริเวณเลขหก มีเข็มวินาที รวมถึงดีไซน์หน้าปัดสีเงิน และลวดลาย Floral Guilloché ที่สร้างเอฟเฟกต์แสงเงาสวยโดดเด่น มาพร้อมสายหนังลูกวัวมีลาย เรียกได้ว่าเป็นนาฬิกาที่มีความ Timeless ไม่มีตกยุค เหมาะกับการแต่งตัวสไตล์เรียบ ๆ ทางการหรือใส่ออกงานค่ะ 

เชื่อว่านาฬิกา Cartier รุ่น Ballon Bleu De Cartier ต้องเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มคนรักนาฬิกาดีไซน์วินเทจอย่างแน่นอน โดยตัวเรือนมาในรูปทรงกลม กรอบสีโรสโกลด์ หน้าปัดสีเงินตกแต่งลวดลาย Guilloché บริเวณเลขสามมีช่องบอกวันที่ มาพร้อมสาย Alligator สีน้ำตาลที่เสริมให้นาฬิกามีกลิ่นอายความวินเทจยิ่งขึ้น เพิ่มความ Unique ด้วยเข็มสีน้ำเงิน (Blue Steel) ที่เกิดจากการโดดความร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้รุ่นนี้โดดเด่นคงหนีไม่พ้นเม็ดมะยมทรงกลมประดับด้วย Sapphire สีน้ำเงินหรูหรา พร้อมที่ครอบ (Crown Guard) ที่มองแล้วต้องรู้ทันทีว่าเป็นรุ่น Ballon Bleu De Cartier และสำหรับใครที่อยากได้ลุคที่ดูทางการขึ้นอีกระดับ ก็มีรุ่นหน้าปัดสีน้ำเงินตัวเรือนสีเงินให้เลือกสรร เหมาะกับหนุ่ม ๆ ที่ต้องการนาฬิกาที่สวย เหมาะกับทั้งการแต่งตัวแบบสบาย ๆ และเป็นทางการค่ะ 

นาฬิกาที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายความคลาสสิกยุค 80 โดยนาฬิกา Cartier รุ่น Panthère De Cartier ตัวเรือนมาในรูปทรงเหลี่ยม ขนาดกะทัดรัดตามแบบฉบับบนาฬิกาผู้หญิงสมัยก่อน ดีไซน์มีความสง่างาม ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นทั้งนาฬิกาและกำไลข้อมือในเวลาเดียวกัน ด้านข้างตกแต่งด้วยเม็ดมะยมทรงแปดเหลี่ยมที่ประดับด้วย Sapphire สวยหรู และเข็มนาฬิกาทรงดาบผลิตจาก Blue Steel อันเป็น Signature ของแบรนด์

และอีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้คือสายนาฬิกาดีไซน์ Brick-Link ที่คล้ายกับการใส่เครื่องประดับ ทำให้นาฬิกาดูมีเอกลักษณ์และหรูหรายิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากสายนาฬิกาแบบดั้งเดิมแล้ว สำหรับสาว ๆ ที่ชอบความเก๋มีสไตล์ รุ่นนี้ก็ยังมีสายนาฬิกาแบบยาว ที่ใส่แบบพัน 2 รอบและ 3 รอบให้เลือกสรรตามควาชอบอีกด้วย ใครที่กำลังมองหานาฬิกา Cartier เรือนแรกอยู่ ลองเก็บรุ่นนี้ไว้พิจารณาดูนะคะ

ในปี 2019 แบรนด์ได้ปรับดีไซน์ของนาฬิการุ่น Santos-Dumont ใหม่ โดยเน้นให้มีความคลาสสิกและเข้ากับการแต่งตัวได้ง่ายยิ่งขึ้น ต่างจากโมเดลก่อน ๆ ที่ค่อนข้างจะมีกลิ่นอายความสปอร์ต ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนให้ตัวเรือนมีขนาดเล็กและบางลง ในส่วนของเม็ดมะยมจะตกแต่งด้วย Sapphire สีน้ำเงินรูปทรงแหลม ที่สำคัญใช้กลไก Quartz ทำให้ราคาของรุ่นนี้ไม่สูงมาก

นอกจากนี้ ตัวสายยังทำจากหนัง Alligator สีน้ำเงินสุดคลาสสิกที่เข้ากันดีกับเข็มนาฬิกาสีน้ำเงิน สำหรับขนาดมีให้เลือก 2 ไซซ์ด้วยกัน คือ Small และ Large ซึ่งทั้งสองไซซ์ขนาดจะค่อนข้างใหญ่ เมื่อเทียบกับนาฬิกาผู้หญิงทรงอื่น ๆ ดังนั้น หากสาว ๆ คนไหนที่ข้อมมือค่อนข้างเล็ก เวลาใส่อาจให้ลุคที่ดู Oversize เล็กน้อย นับว่าเป็นนาฬิกาที่ช่วยคอมพลีทลุคให้ดูเรียบหรูขึ้นได้ง่าย ๆ เลยค่ะ 

ในปี 2020 นี้ Cartier ได้ทำการปรับรูปลักษณ์นาฬิการุ่น Pasha De Cartier ใหม่ จึงได้รับความสนใจจากนักสะสมเป็นอย่างมาก โดยสิ่งที่แบรนด์ได้ปรับเปลี่ยนก็คือ ทำให้รูปลักษณ์ดูทันสมัย เรียบหรูขึ้น จากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นนาฬิกาสำหรับดำน้ำได้กลายมาเป็นนาฬิกาแฟชั่น แต่สิ่งที่ยังคงไว้ก็มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงกลมของตัวเรือน แต่มีขอบที่เล็กลง ตัวเลขอารบิกหรือที่ครอบเม็ดมะยมพร้อมโซ่คล้อง

อีกทั้งรุ่นนี้ยังสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร ซึ่งถือว่าลึกมากสำหรับ Dress Watch นอกจากนี้ รุ่นใหม่ ๆ ยังมีหลายโมเดลให้เลือก แบ่งโดยขนาดของตัวเรือน ไซซ์ใหญ่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 41 มม. ทำมาจากโลหะและทองคำ ทั้งยังมีไซซ์เล็กที่ทำจาก Rose Gold สามารถเปลี่ยนสายเองได้ด้วยระบบ QuickSwitch เหมาะสำหรับใส่ทั้งในโอกาสพิเศษและในชีวิตประจำวันเลยค่ะ

นาฬิการุ่น Ronde Solo De Cartier เป็นอีกรุ่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วย DNA ของ Cartier แน่นอนว่ามาพร้อมเลขโรมัน เข็มสีน้ำเงิน และช่องบอกวันที่ตรงเลขสาม รวมถึงเม็ดมะยม Iconic อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ นาฬิกามาในรูปทรงกลม ให้ความรู้สึกเรียบง่าย แต่ใส่ความประณีตในทุกรายละเอียด วงกลมด้านในหน้าปัดนาฬิกามีตัวเลขอารบิกบอกเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้อ่านเวลาได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

และเนื่องจากขอบนาฬิกาที่บางและแบน เมื่อนำมาประกอบกับตัวเรือนที่บาง จึงทำให้นาฬิกาโดยรวมดูบางกว่าปกติ รวมถึงเวลาใส่ยังรู้สึกแนบไปกับข้อมือได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่หากใครที่ต้องการลุคที่ดูคลาสสิกหรือเข้ากับการแต่งตัวที่ไม่เป็นทางการ สายหนังก็เป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยคอมพลีทลุคในวันหยุดสบาย ๆ ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ 

หลังจาก Cartier เปิดตัวนาฬิการุ่น Tortue เมื่อปี 1912 ก็ขายดีจนกลายเป็นนาฬิกาหายากอีกรุ่นของแบรนด์ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันรุ่นนี้ได้รับปรับปรุงรูปลักษณ์ให้เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันยิ่งขึ้น โดยหน้าปัดตกแต่งด้วยตัวเลขโรมันสีดำและเข็มสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ตัดกับพื้นหลังสีเงินและลวดลาย Guilloché ที่ช่วยเสริมให้นาฬิกาดูหรูหรามีมิติ 

ไม่เพียงเท่านั้น ตัวเรือนใช้วัสดุ Rose Gold ล้อมด้วยเพชรที่ผ่านการเจียระไนอย่างพิถีพิถัน เพิ่มความระยิบระยับโดดเด่นให้กับข้อมือได้อย่างดี มาพร้อมสายหนังจระเข้ที่เข้ากับรูปทรงของนาฬิกาได้อย่างสมบูรณ์แบบ มี 2 ขนาดให้เลือก คือ Small และ Medium ที่สำคัญใช้กลไก Manual ที่ทนทาน และสำรองพลังงานได้ยาวนานขึ้น ใครที่หาของขวัญให้คนพิเศษอยู่ เรือนนี้ตอบโจทย์ได้อย่างดีค่ะ