ในยุคปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อน ทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นจนนำมาซึ่งปัญหาต่าง ๆ รถยนต์ไฟฟ้า EV (Electric Vehicle) ก็ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทั้งยังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก เนื่องจากใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน จึงไม่มีการปล่อยแก๊สเรือนกระจกที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของภาวะโลกร้อน เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า มีระบบต่างจากรถยนต์ทั่วไปที่เราคุ้นเคย รวมทั้งมีวิธีการชาร์จหลากหลายรูปแบบ จึงอาจทำให้ผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เป็นครั้งแรกเกิดความสับสน ไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไรดีใช่ไหมคะ
ในครั้งนี้ เพื่อช่วยให้ทุกคนรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้า มากขึ้น ทีมงานมายเบสท์จึงได้รวบรวมข้อมูลมาทั้งข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า, วิธีการเลือก และ 10 อันดับรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีรูปลักษณ์โดดเด่น แบตเตอรี่คงทน และประหยัดน้ำมัน จากแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ เช่น BMW, NISSAN, MG และ TESLA มาให้ทุกคนใช้ประกอบการตัดสินใจ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
Top 5 รถยนต์ไฟฟ้า ยอดนิยม
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือที่เรานิยมเรียกกันว่ารถ EV (Electric Vehicle) นั้น คือรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว และขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์ โดยระบบจะเก็บพลังงานไว้ในแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จได้ และแปลงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ในการขับเคลื่อน ซึ่งต่างจากรถยนต์น้ำมันทั่วไปที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แบบสันดาปและมีการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิง
โดยข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า คือ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เนื่องจากใช้พลังงานไฟฟ้า 100% จึงไม่มีไอเสีย และไม่มีการปล่อยมลพิษออกมา ทั้งยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า เพราะไม่จำเป็นต้องเสียค่าน้ำมัน และมีชิ้นส่วนในการบำรุงรักษาน้อย นอกจากนี้ เนื่องจากไม่ต้องใช้การจุดระเบิดเผาไหม้ในการขับเคลื่อนเหมือนรถยนต์น้ำมัน ทำให้เครื่องยนต์เงียบ ไม่ส่งเสียงรบกวนขณะขับขี่อีกด้วยค่ะ
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้า กันไปแล้ว ต่อไปเรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าสำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ในการขับเคลื่อน และจำเป็นต้องชาร์จไฟนั้น มีจุดใดที่ควรให้ความสำคัญและควรตรวจสอบก่อนเลือกซื้อบ้าง
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ยิ่งมีปริมาณความจุของแบตเตอรี่มากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้รถยนต์สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อ อย่าลืมตรวจสอบปริมาณความจุของแบตเตอรี่กันด้วยนะคะ โดยแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า มีอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ Lead-Acid, NiMH (Nickel-Metal Hydride), Ni-Cd (Nickel-Cadmium) และ Li-Ion (Lithium-Ion) ซึ่ง Li-Ion (Lithium-Ion) เป็นประเภทที่นิยมนำมาใช้มากที่สุด เนื่องจากมีน้ำหนักเบา มีขนาดเล็ก จ่ายพลังงานได้อย่างรวดเร็ว และเป็นแหล่งจ่ายพลังงานที่มีความจุมากถึง 100 - 400 kWh ค่ะ
เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีหัวชาร์จหลายแบบ และมีระยะเวลาในการชาร์จกับความสามารถในการรองรับกระแสไฟแตกต่างกัน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างเหมาะสมและตรงกับความต้องการ อย่าลืมตรวจสอบประเภทของหัวชาร์จกันด้วยนะคะ โดยหัวชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้านั้น สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทด้วยกัน ดังนี้
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า คุณสามารถชาร์จไฟได้ทั้งตู้ชาร์จที่ติดตั้งที่บ้าน (Wall Box) และจุดชาร์จไฟรถไฟฟ้าตามสถานีอัดประจุไฟฟ้าหรือห้างสรรพสินค้าค่ะ ซึ่งรถส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 30 นาที - 15 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ ประเภทของหัวชาร์จ, ความจุของแบตเตอรี่, กำลังไฟฟ้าของจุดจ่ายไฟ, ความสามารถในการรองรับกำลังไฟ และสภาวะอากาศภายนอกค่ะ
โดยหัวชาร์จแบบกระแสตรงจะสามารถชาร์จได้รวดเร็วที่สุด คือภายใน 40 นาที - 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้าที่มีความจุของแบตเตอรี่มากแต่รองรับกำลังไฟได้น้อย ก็จะยิ่งใช้ระยะเวลาในการชาร์จมาก และนอกเหนือจากเรื่องแบตเตอรี่แล้ว สภาวะอากาศก็มีผลต่อระยะเวลาในการชาร์จเช่นกัน นั่นคือ ยิ่งอุณหภูมิภายนอกสูง ก็จะยิ่งทำให้ระยะเวลาในการชาร์จมากขึ้นตามนั่นเอง ดังนั้น หากคุณต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว เราขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีความจุแบตเตอรี่ไม่มากเกินไป พอดีกับการใช้งาน รวมทั้งรองรับการชาร์จไฟกระแสตรงและกำลังไฟสูงได้ค่ะ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | MG NEW MG ZS EV | ![]() | รถยนต์ไฟฟ้า SUV กว้างขวางนั่งสบาย นวัตกรรมอัจฉริยะจัดเต็ม | |
2 | TESLA Model 3 Standard Range Plus | ![]() | ที่สุดแห่งรถยนต์ไฟฟ้าการันตีด้วยยอดขายอันดับ 1 ของโลก | |
3 | NISAAN Nissan Leaf | ![]() | แสนสะดวก เร่งและเบรกได้ในคันเร่งเดียวด้วยเทคโนโลยี e-Pedal | |
4 | MG NEW MG EP | ![]() | คุ้มเกินราคา สัมผัสความประหยัดและฟังก์ชันสุดล้ำในราคาไม่ถึงล้าน | |
5 | BMW I3s | ![]() | ประหยัดยิ่งขึ้นด้วย One-Pedal Feeling สุดพิเศษจาก BMW | |
6 | Audi E-Tron 55 Quattro | ![]() | ร่วมข้ามผ่านขีดจำกัดความแรงด้วย Boost Mode จาก Audi | |
7 | LEXUS UX 300e | ![]() | รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกจาก LEXUS อัตราเร่งดี ภายในเรียบหรู | |
8 | FOMM FOMM One | ![]() | รถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด ขนาดเล็ก กะทัดรัด เคลื่อนที่บนน้ำได้ | |
9 | HYUNDAI IONIQ Electric | ![]() | รถยนต์ไฟฟ้า 4 ประตู คล่องตัว ทันสมัย มีระบบเปลี่ยนเกียร์แบบปุ่ม | |
10 | KIA Soul EV | ![]() | ที่สุดแห่งสมรรถนะการขับขี่และระยะทางวิ่ง สูงสุดถึง 452 กิโลเมตร |
NEW MG ZS EV รุ่นนี้ ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากรูปลักษณ์สวย โดดเด่น ประหยัด ปลอดภัย และมีนวัตกรรมอัจฉริยะมาแบบจัดเต็มค่ะ โดยตัวรถออกแบบมาให้พื้นที่หลังคามีกระจกมากถึง 90% จึงช่วยให้คุณเพลินเพลินกับทิวทัศน์ภายนอกได้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังมาพร้อมกับ Synchronized Protection System ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยมาตรฐานจากยุโรป และมีเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยให้คุณสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น Easy Connect เชื่อมต่อกับรถตลอดเวลาได้ง่าย ๆ, ระบบกรองอากาศ PM 2.5, ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลและหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าอีกคันที่ขอแนะนำเลยค่ะ
หากพูดถึงเจ้าแห่งรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว หลาย ๆ คนคงจะนึกถึง Tesla ขึ้นมาเป็นชื่อแรกใช่ไหมคะ ซึ่งสำหรับรุ่นนี้ ก็ยังคงจัดเต็มกับเทคโนโลยีสุดเฉพาะเช่นเดิม นั่นคือระบบ Autopilot ซึ่งเป็นระบบช่วยขับที่ดีที่สุดในตอนนี้ โดยใช้การทำงานของร่วมกันของกล้องนอกรถ เรดาร์และเซ็นเซอร์ ทำให้สามารถประมวลผลได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ Tesla ยังเป็นรถที่ถูกจัดอันดับว่าปลอดภัยเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากโครงสร้างและตัวถังมีความแข็งแรงสูง จึงเพลิดเพลินกับการขับขี่ได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Tesla ยังไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ สำหรับผู้ที่สนใจจึงต้องซื้อกับผู้นำเข้าอิสระแทนค่ะ
เบื่อกันไหมคะ กับปัญหารถติดที่ต้องคอยสลับเหยียบเบรกและคันเร่งจนปวดขา แต่ NISSAN ก็ได้นำเทคโนโลยี e-Pedal ที่ช่วยให้คุณสามารถเร่งและเบรกได้ในคันเร่งเดียวมาไว้ใน Nissan Leaf รุ่นนี้แล้ว คุณจึงไม่ต้องคอยเหยียบคันเร่งสลับกับเหยียบเบรกบ่อย ๆ เมื่อรถติด ทั้งยังสามารถปิดระบบเมื่อไม่ต้องการใช้ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ด้วยความจุแบตเตอรี่ที่มากถึง 40 kWh จึงขับขี่ทางไกลได้อย่างสบาย อีกทั้งแบตเตอรี่ยังมีความทนทานสูง สามารถใช้งานได้ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตรโดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ หากคุณกำลังต้องการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf เป็นอีกรุ่นที่ขอแนะนำเลยค่ะ
หากพูดถึงแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มาแรงสุด ๆ แล้ว อย่างไรก็คงหนีไม่พ้น MG ค่ะ ซึ่งสำหรับรุ่นนี้ก็เรียกได้ว่าจัดเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความประหยัดมาอย่างเต็มเปี่ยม เช่น ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง, ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง, ระบบเบรกมือไฟฟ้าและ Kers Mode ที่ช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่เมื่อชะลอรถ โดยปรับการตั้งค่าได้มากถึง 3 ระดับ นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่กังวลว่ารถยนต์ไฟฟ้าอาจเสียหายได้ง่ายเมื่อโดนน้ำ ก็หมดกังวลได้เลยค่ะ เพราะแบตเตอรี่ของรถคันนี้ได้ผ่านมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP67 มาแล้วนั่นเองค่ะ
คงจะดีใช่ไหมคะ ถ้ารถยนต์ไฟฟ้าที่โดดเด่นในเรื่องความประหยัด มีเทคโนโลยีสุดพิเศษช่วยประหยัดพลังงานเพิ่มไปอีก ซึ่งในรถยนต์จาก BMW รุ่นนี้มีฟังก์ชัน One-Pedal Feeling ที่มอเตอร์จะช่วยชาร์จไฟกลับขณะเบรกหรือถอนคันเร่งจากช่วงความเร็วคงที่ จึงชาร์จไฟได้ตลอดการขับขี่ ทั้งยังสามารถทำความเร็วจาก 0 - 100 ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยใช้เวลา 6.9 วินาทีเท่านั้น ไม่ต้องห่วงว่าเครื่องจะอืดขณะออกตัวเลยค่ะ นอกจากนี้ รุ่นนี้ได้ปรับเปลี่ยนระบบควบคุมการทรงตัวใหม่ ทำให้ช่วงล่างเสถียรมากขึ้นเมื่อต้องเข้าโค้งหรือขับขี่ด้วยความเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากคุณชอบความประหยัด รุ่นนี้คือคำตอบค่ะ
หากพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่มีพละกำลังในการวิ่งสูงแล้ว ไม่พูดถึง E-Tron 55 Quattro จาก Audi ผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังจากประเทศเยอรมนีคงไม่ได้ค่ะ เนื่องจากมีกำลังสูงสุดในโหมดปกติอยู่ที่ 360 แรงม้า และมีกำลังสูงสุดใน Boost Mode สูงถึง 480 แรงม้า เรียกได้ว่าแรงแบบฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมลุยทุกสภาพพื้นผิว หมดกังวลเรื่องปัญหาอาการโยนตัวของรถไปได้เลย ทั้งยังมีระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์มาตรฐานมาให้อย่างครบครัน เช่น กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง, เซ็นเซอร์หน้า-หลัง, ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง, และจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กอีกด้วยค่ะ
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจาก LEXUS รุ่นนี้ ออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีดีไซน์หรู ล้ำสมัย ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยวัสดุระดับพรีเมียม เช่น หัวเกียร์หุ้มหนังและเกียร์โครเมียมซาติน รู้สึกได้ถึงความมีระดับตั้งแต่แรกเห็น มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสุดแกร่ง ให้พละกำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ จึงดึงพลังออกมาได้อย่างดีเยี่ยม อัตราเร่งไม่มีตก ทั้งยังจัดวางชุดแบตเตอรี่มาอย่างดี โดยคำนึงถึงพื้นที่ห้องโดยสารและจุดศูนย์ถ่วงของรถ และรองรับกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ได้ ทำให้ชาร์จได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย นอกจากนี้ ในส่วนของฟังก์ชันก็จัดเต็มไม่แพ้กัน เช่น Adaptive Cruise Control, ระบบชาร์จไฟไร้สายและระบบการเชื่อมต่อไร้สายค่ะ
สำหรับ FOMM One รุ่นนี้เป็นรถส่วนบุคคลขนาดเล็กที่สุดในบรรดารถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยานพาหนะสำหรับเดินทางใกล้ ๆ และใช้ความเร็วไม่มาก โดยรถคันนี้รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 4 ที่นั่ง ทั้งยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า เนื่องจากมีอัตราสิ้นเปลืองเพียง 30 สตางค์ต่อกิโลเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันพิเศษเพื่อป้องกันความเสียหายเมื่อเกิดน้ำท่วม และออกแบบมาให้สามารถเคลื่อนที่บนน้ำได้ด้วยวงล้อพิเศษ หมดกังวลเรื่องมอเตอร์เสียหายเมื่อเจอกับสภาวะน้ำท่วมขัง รวมทั้งยังมีระบบ High Power Cooler System ช่วยให้สู้กับแดดร้อน ๆ ของประเทศไทยได้สบายอีกด้วยค่ะ
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า สำหรับขับขี่ในเมืองสักคัน เราขอแนะนำ IONIQ Electric คันนี้เลยค่ะ เนื่องจากเป็นรถ Sedan 4 ประตู จึงมีความคล่องตัวสูง และไม่ต้องการพื้นที่ในการจอดมาก ทั้งยังสามารถวิ่งได้สูงสุดถึง 280 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง รองรับการชาร์จ 3 แบบ ได้แก่ เต้าเสียบบ้าน, เครื่องชาร์จ Wall Box และสถานีชาร์จเร็ว สะดวก สามารถชาร์จได้ทุกที่ไม่ว่าอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ ยังมีระบบการใช้งานที่ทันสมัยมากมาย เช่น เบรกมือไฟฟ้า, ระบบเปลี่ยนเกียร์แบบปุ่ม และที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่ทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นอย่างแท้จริงเลยล่ะค่ะ
หากคุณต้องการรถยนต์ไฟฟ้าสักคัน ที่มีสมรรถนะในการขับขี่อย่างดีเยี่ยม รถยนต์จาก KIA คันนี้ต้องตอบโจทย์การใช้งานของคุณแน่นอนค่ะ เนื่องจากมีกำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า หมดกังวลเรื่องอาการอืดขณะออกตัวและแซง นอกจากนี้ ยังสามารถวิ่งได้ถึง 452 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง จึงเหมาะสำหรับทั้งผู้ที่ต้องการขับขี่ในเมืองและต่างจังหวัด เพราะไม่จำเป็นต้องชาร์จบ่อย ๆ ในส่วนของระบบความปลอดภัย ก็เรียกได้ว่าให้มาอย่างครบครัน เช่น ระบบเตือนมุมอับด้านข้างและขณะถอยหลัง, ระบบป้องกันการลื่นไหล, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวและถุงลมรอบคัน ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยแน่นอนค่ะ
นอกจากความจุแบตเตอรี่ ประเภทหัวชาร์จ และความเร็วในการชาร์จแล้ว อีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญก็คือ สถานที่ชาร์จไฟ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ จำเป็นต้องติดตั้ง Wall Box ไว้สำหรับชาร์จไฟที่บ้าน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ อย่าลืมตรวจสอบพื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง รวมทั้งวางแผนเรื่องการเดินสายไฟและติดตั้ง Wall Box ไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและสะดวกกันด้วยนะคะ
อันดับที่ 1: MG|NEW MG ZS EV
อันดับที่ 2: TESLA|Model 3 Standard Range Plus
อันดับที่ 3: NISAAN|Nissan Leaf
อันดับที่ 4: MG|NEW MG EP
อันดับที่ 5: BMW|I3s
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ