แว๊กสีผมถือเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ใคร ๆ ก็นึกถึงเมื่ออยากย้อมผม โดยแว๊กสีผมให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่ต่างกันกับการย้อมผมแบบโฟมหรือแบบครีมทั่วไป เราควรฟอกสีผมหรือย้อมสีผมอ่อนก่อนแล้วค่อยใช้แว๊กสีผมเพื่อให้สีติดชัดเจนและได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น ในปัจจุบัน แว๊กสีผมมีหลายประเภทให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแว๊กสีผมที่ช่วยให้สีผมติดทนนาน ต้องล้างหลายครั้งกว่าสีจะหลุด หรือแว๊กสีผมแบบชั่วคราวที่ล้างออกได้ในครั้งเดียว
การเลือกแว๊กสีผมให้เหมาะกับเรามากที่สุด อาจต้องดูจากจุดประสงค์ในการใช้ของเราก่อนว่าอยากให้สีติดทนนานหรืออยากใช้แค่ครั้งเดียวโดยล้างออกได้ ในบทความนี้เรามีวิธีการเลือกแว๊กสีผมที่ถูกต้อง พร้อมคำแนะนำจากเจ้าของร้านทำผมที่มากประสบการณ์และเชี่ยวชาญเรื่องเส้นผม อีกทั้งยังมี 10 อันดับ แว๊กสีผม ที่คัดสรรมาเพื่อเป็นตัวเลือกที่ช่วยตอบโจทย์ในการสร้างสีสันบนเส้นผมของเราค่ะ
Top 5 แว๊กสีผม ยอดนิยม
Lerca
แว๊กเปลี่ยนสีผมแบรนด์ไทย ผสมสารบำรุง มีสีให้เลือกถึง 49 สี
Ocdai3
มีสีให้เลือกหลากหลาย เม็ดสีชัด อุดมไปด้วยสารบำรุงผมมากมาย
Dipso Professional
สดใส 23 เฉดสี ไม่มีสารทำผมเสีย เพิ่มสาหร่ายทะเลช่วยบำรุงผม
Farger
สีสันโดดเด่นที่มาพร้อมกลิ่นหอม และยังปราศจากสารแอมโมเนีย
คุณจ๋าเป็นเจ้าของ CHAMPOO Hair Studio สาขานครสวรรค์และเชียงใหม่ ร้าน Private Salon ที่มีฐานลูกค้ามากกว่า 2,000 คน และมีผู้ติดตามโซเชียลมีเดียกว่า 6,000 คน โดยดูแลทั้งคุณภาพงานทำผม ความพึงพอใจของลูกค้า การคัดเลือกผลิตภัณฑ์ และการตลาดของร้านทั้งหมด โดยคุณจ๋าเริ่มต้นจากการช่วยบริหารร้านของครอบครัว ก่อนจะพัฒนาทักษะด้านการทำผมและสร้างแบรนด์ของตัวเอง จนประสบความสำเร็จในการเปิดร้านสาขาแรกและขยายธุรกิจสู่เชียงใหม่ ซึ่งคุณจ๋าใส่ใจในการคัดสรรผลิตภัณฑ์ เช่น ยาย้อมผม แชมพู แว็กซ์สีผม และครีมบำรุงผม รวมถึงอัปเดตเทรนด์ทรงผมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับบุคลิกภาพและสุขภาพเส้นผมมากที่สุด
คุณน้ำเป็นคนที่ชื่นชอบการทำสีผมและสนุกกับการเปลี่ยนลุคอยู่เสมอ ตลอด 2 - 3 ปีที่ผ่านมา คุณน้ำย้อมสีผมด้วยตัวเองเป็นประจำ และเปลี่ยนสีใหม่ทุก ๆ 2-3 เดือน โดยได้ลองใช้ยาย้อมผมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นแบบโฟม ครีม หรือสเปรย์ชั่วคราว ด้วยความชอบส่วนตัวทำให้คุณน้ำติดตามเทรนด์สีผมใหม่ ๆ อยู่เสมอ และสนุกกับการทดลองเฉดสีต่าง ๆ เพื่อดูว่าสีไหนเข้ากับตัวเองและดูแลเส้นผมอย่างไรหลังทำสี จากประสบการณ์ลองผิดลองถูกจึงทำให้ได้เรียนรู้ว่า ยาย้อมผมแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของความติดทน การปกปิดผมขาว และผลกระทบต่อสภาพเส้นผม คุณน้ำจึงต้องการแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการทำสีผม เพื่อช่วยให้คนที่สนใจสามารถเลือกสีที่เหมาะกับตัวเอง และทำสีผมได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่อยากลองเปลี่ยนลุค หรือคนที่ชอบทำสีผมเป็นประจำ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
การแว๊กสีผม หมายถึง การทำสีผมชนิดหนึ่งโดยที่ไม่ต้องกัดสีผม โดยแว๊กสีผมมีส่วนผสมของเม็ดสีเพื่อเคลือบชั้นนอกของเส้นผมเท่านั้น แต่การย้อมสีผมโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการย้อมแบบโฟมหรือย้อมแบบครีม จะมีส่วนผสมที่กัดเม็ดสีธรรมชาติในผมออกก่อน คือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และแอมโมเนีย เพื่อเอาเม็ดสีผมผมของเราออกและให้เม็ดสีสังเคราะห์ฝังตัวเข้าไปในผมได้ดีมากขึ้น
โทนสีที่ได้จากแว๊กสีผมส่วนใหญ่จะมีสีที่สดและชัดเจนกว่า และเป็นสีทึบแสง คือไม่มีประกายสีเหมือนกับย้อมผมทั่วไป สีที่ได้จากแว๊กสีผมจะชัดเจนและสดมากขึ้นหากเป็นผมที่ฟอกหรือผมที่มีสีสว่างอยู่แล้ว การแว๊กสีผมจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการสีผมที่สดและสีสันฉูดฉาด โดดเด่นสะดุดตาค่ะ
ถ้าใครอยากใช้แว๊กสีผมให้ได้สีที่ชัดเจน เราแนะนำให้ฟอกผมก่อนใช้แว๊กสีผม เพราะหากมีสีผมโทรน้ำตาลหรือสีดำ อาจทำให้เห็นสีได้ไม่ชัด หรือสีแว๊กไม่ติดเส้นผม โดยสีผมหลังฟอกควรเป็นสีออกส้มสว่างหรือสีส้มเหลืองเพื่อให้แว๊กสีผมติดชัดเจนและสีไม่เพี้ยน หากวัดจากระดับความสว่างของช่างทำผมคือประมาณระดับ 8 ของมาตรฐานยุโรป หรือระดับ 11 ของมาตรฐานญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ผู้ที่เคยทำสีผมแล้วแต่สีเฟดลงก็สามารถใช้แว๊กสีผมได้เช่นกัน โดยสีผมควรเป็นสีออกส้มสว่างหรือส้มเหลืองเหมือนกับการฟอกผม แต่ควรให้สีผมที่ย้อมก่อนหน้าหลุดหมดก่อน หรือเว้นระยะจากการย้อมผมประมาณ 3 เดือน จะช่วยทำให้เม็ดสีของแว๊กสีผมชัดเจนมากขึ้น
แว๊กสีผมสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือแว๊กสีผมแบบกึ่งถาวรที่ให้สีติดทนนาน และแว๊กสีผมแบบชั่วคราว โดยทั้ง 2 ประเภทมีสิ่งที่เราควรเลือกแตกต่างกันดังนี้
สำหรับใครต้องการย้อมสีผมแบบกึ่งถาวรที่ให้สีชัดเจนและสีไม่เฟดง่าย ควรเลือกแว๊กสีผมแบบเนื้อครีม โทนสีเข้มหรือสีสด
แว๊กสีผมแบบกึ่งถาวร คือ แว๊กสีผมที่ติดอยู่บนผมได้นานระยะหนึ่ง และสีจะค่อย ๆ หลุดออกไปเองตามจำนวนครั้งที่สระผม หากใครต้องการแว๊กสีผมแบบกึ่งถาวรที่ช่วยให้สีผมชัดเจน ควรเลือกเนื้อครีม เพราะเป็นเนื้อที่เกลี่ยทั่วศีรษะได้อย่างทั่วถึง สามารถใช้เปลี่ยนสีผมด้วยตัวเองได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม แว๊กสีผมชนิดนี้มักมีเม็ดสีที่ติดทนนาน ทำให้หลงเหลือเม็ดสีบนเส้นผมแม้จะสระหลายครั้ง บางกรณีอาจไม่สามารถฟอกหรือย้อมสีอื่นเพื่อกลบเม็ดสีได้ ทำให้สีเพี้ยน ดังนั้นหากใครที่ต้องการย้อมติดต่อกันและเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ เราแนะนำให้เลือกแว๊กสีผมแบบกึ่งถาวรชนิดเนื้อครีมที่ระบุว่าเป็น Semi-Permanent เพราะเป็นเทคโนโลยีในเม็ดสีที่ไม่ตกค้างบนเส้นผม และไม่ทำให้สีเพี้ยนในทุกครั้งที่ย้อมสีใหม่ค่ะ
แน่นอนว่าหากต้องการเลือกโทนสีของแว๊กสีผม เราสามารถเลือกสีได้ตามที่ต้องการ แต่แนะนำให้เลือกโทนสีแว๊กสีผมแบบกึ่งถาวรที่เป็นโทนสีเข้มหรือสีสด เพราะจะให้เม็ดสีที่สดและชัดเจนมากกว่า เช่น หากต้องการสีฟ้าควรเลือกเป็นสีโทนน้ำเงิน หรือหากต้องการย้อมสีชมพู ก็อาจเลือกโทนเข้มขึ้นมาเล็กน้อยอย่างสีแดง เป็นต้น นอกจากนี้ การตรวจสอบสีจากเนื้อผลิตภัณฑ์จริง จะช่วยให้เราพิจารณาเลือกสีเข้มและสดได้ดีกว่าสีที่ระบุไว้หน้ากล่องหรือผลิตภัณฑ์
เราควรเลือกแว๊กสีผมชั่วคราวชนิดแบบเนื้อแว๊กที่มีลักษณะคล้ายกับแว๊กแต่งผม โดยเน้นเป็นแว๊กที่ใช้น้ำมันสกัดจากธรรมชาติ เพราะจะช่วยให้เกลี่ยลงบนเส้นผมได้ง่ายและล้างออกง่าย อาจใช้หวีเกลี่ยเพื่อให้จัดแต่งทรงผมไปพร้อม ๆ กับการเกลี่ยสีให้ทั่วกันทั้งศีรษะ ส่วนโทนสีของแว๊กสีผมแบบชั่วคราวโดยส่วนใหญ่จะเป็นสีพื้นฐานเดี่ยว ๆ เช่น สีแดง สีเทา สีเขียว สีน้ำเงิน เราสามารถเลือกได้ตามชอบ แต่หากอยากรู้ว่าสีนี้เหมาะกับสีผิวเราหรือไม่ แนะนำให้ลองใส่เสื้อสีเดียวกันกับสีที่เราอยากย้อมจะช่วยให้เห็นภาพได้มากขึ้น เพราะสีแว๊กประเภทนี้จะไม่มีมิติหรือประกายสี ให้ลักษณะโทนสีที่แบนเหมือนกับสีของเสื้อผ้า
อย่างไรก็ตาม เนื้อแว๊กประเภทนี้อาจทำให้เลอะผิวหนังหรือเสื้อผ้าได้หากสัมผัสไปโดน บางยี่ห้ออาจทำให้ทรงผมยุบตัวลงหรือเยิ้มได้ง่าย อีกทั้งหากจัดแต่งหรือเกลี่ยได้ไม่ดีอาจทำให้ผมแข็งขึ้น ผมจับตัวกันเป็นก้อนง่าย และล้างออกยาก ดังนั้น เราควรเลือกแว๊กสีผมแบบชั่วคราวคุณภาพดี อาจเลือกแบรนด์ดังหรือมีชื่อเสียงเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพได้ระดับหนึ่ง
ทั้งแว๊กสีผมกึ่งถาวรหรือแว๊กสีผมแบบชั่วคราวมีปริมาณในการใช้ตามความยาวของเส้นผม โดยผมสั้นควรใช้ปริมาณ 60 - 80 กรัม และผมยาวควรใช้ปริมาณ 80 - 160 กรัม ทั้งนี้อาจะขึ้นอยู่กับสภาพของเส้นผมด้วย เช่น ผมเส้นเล็ก ผมเส้นใหญ่และหนา ก็สามารถลดหรือเพิ่มปริมาณได้เล็กน้อย แต่ไม่ว่าจะใส่ปริมาณไหนก็ตาม หลักการสำคัญที่ควรต้องคำนึงด้วยคือ ต้องให้เม็ดสีติดเส้นผมอย่างทั่วถึงกัน หากเป็นแว๊กสีผมกึ่งถาวรก็ควรลงให้ชุ่ม และแว๊กสีผมแบบชั่วคราวก็คงเกลี่ยให้ทั่วทั้งศีรษะ
แว๊กสีผมบางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมของสารบำรุงผม ยกตัวอย่างเช่น วิตามิน E โปรตีนบำรุงเส้นผม หรือสารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อให้เส้นผมนุ่มลื่นมากขึ้น หรือเติมความชุ่มชื้นไม่ให้ผมแห้งเสีย เราสามารถเลือกใช้แว๊กสีผมที่มีส่วนผสมของสารบำรุงได้ หากต้องการการบำรุงเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม แบรนด์แว๊กสีผมโดยส่วนใหญ่ไม่ได้ระบุปริมาณของสารบำรุงเส้นผมเหล่านี้อย่างชัดเจน บางแบรนด์อาจมีปริมาณที่น้อยมากสำหรับการบำรุงที่เห็นผลได้อย่างชัดเจน ดังนั้น หากใครที่ต้องการบำรุงผมอย่างล้ำลึกและเห็นผลอย่างแท้จริง ควรบำรุงเส้นผมก่อนใช้แว๊กสีผมด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลหนังศีรษะและเส้นผมโดยเฉพาะ และหลังใช้ก็ควรเลือกแชมพูที่ไม่มีซัลเฟต ครีมนวดและทรีทเมนต์ที่เหมาะสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ
แว๊กสีผมเป็นผลิตภัณฑ์ย้อมสีผมโดยไม่กัดเส้นผมเพื่อให้เม็ดสีธรรมชาติในเส้นผมออกไป ซึ่งสารที่มีคุณสมบัตินี้คือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และแอมโมเนีย ดังนั้น แว๊กสีผมจึงไม่ควรมีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และแอมโมเนีย หากแว๊กสีผมไหนที่ระบุไว้ว่ามีส่วนประกอบของทั้ง 2 ชนิดนี้ ให้สันนิษฐานว่าเป็นผลิตภัณฑ์ย้อมผมทั่วไป ผู้ที่กังวลว่าจะเกิดอาการระคายเคือง และโดยเฉพาะผู้ที่มีอาการแพ้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และแอมโมเนียควรระมัดระวังและอ่านส่วนผสมให้ถี่ถ้วนก่อนเลือกใช้แว๊กสีผม
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Lerca แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Hair Color Treatment | ![]() | แว๊กเปลี่ยนสีผมแบรนด์ไทย ผสมสารบำรุง มีสีให้เลือกถึง 49 สี | |
2 | Ocdai3 แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Hydro Keratin Color Mask | ![]() | มีสีให้เลือกหลากหลาย เม็ดสีชัด อุดมไปด้วยสารบำรุงผมมากมาย | |
3 | Dipso Professional แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Super Shine Hair Color Wax | ![]() | สดใส 23 เฉดสี ไม่มีสารทำผมเสีย เพิ่มสาหร่ายทะเลช่วยบำรุงผม | |
4 | Farger แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Keratin Hair Color Treatment | ![]() | สีสันโดดเด่นที่มาพร้อมกลิ่นหอม และยังปราศจากสารแอมโมเนีย | |
5 | Carebeau แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Galaxy Hair Color Cream | ![]() | สีสดเข้มชัดพร้อมประกายจากผงไข่มุก มีกลิ่นหอมติดผมยาวนาน | |
6 | Freshful แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Freshful Milkshake Hair Color Treatment | ![]() | เฉดสีเอาใจสาวหวาน อุดมไปด้วยทรีตเมนต์บำรุงผมที่สกัดจากนม | |
7 | Lime Crime แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Unicorn Hair Temporary Hair Color | ![]() | สีพาสเทลแบบยูนิคอร์น ผลิตภัณฑ์วีแกน แถมไม่ทดลองกับสัตว์ | |
8 | Mofajang แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Hair Coloring Wax Styling Mud Dye Cream Hair Gel | ![]() | แบบกระปุกใช้ง่าย สีสวยชัด ราคาสบายกระเป๋า ช่วยให้ผมไม่เสีย | |
9 | Sevich แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Hair Coloring Wax | ![]() | สีสดใส ล้างออกง่าย ปริมาณคุ้มราคา ซื้อครั้งเดียวใช้ได้นาน | |
10 | Kalanxuan แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Color Hair Wax | ![]() | แว็กซ์ขนาดพกสะดวก ราคาเบา ๆ วัยรุ่นใช้ได้ ผู้ใหญ่ก็ใช้ดี |
แบรนด์ไทยที่ราคาไม่แพง และเป็นสูตรล็อกสีผมให้ติดทนนาน โดยมาพร้อมกับส่วนประกอบจากเคราตินและ Argan Oil ช่วยดูแลและปกป้องเส้นผมไม่ให้แห้งเสีย นอกจากนี้ ยังไม่ก่อให้เกิดสารเคมีตกค้างบนเส้นผมและหนังศีรษะ มีกลิ่นหอม และใช้แล้วไม่แสบหนังศีรษะอีกด้วย ซึ่งความพิเศษของแบรนด์นี้คือมีสีให้คุณเลือกถึง 49 สี ที่เรียกได้ว่ามีแทบครบที่เฉดสีกันเลยทีเดียว
ไม่เพียงแค่เป็นผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม แต่เมื่อใช้แล้วยังช่วยให้ผมนุ่มลื่นเงางามด้วย สำหรับตัวแพ็กเกจจะเป็นหลอดบีบปริมาณ 120 กรัม ซึ่งหากใครผมยาวหรือมีผมหนาอาจจะต้องใช้มากกว่า 1 หลอด และสีก็สามารถติดทนได้นานถึง 2 เดือน แต่ขึ้นอยู่กับสภาพผมของผู้ใช้ด้วย และเพื่อให้สีออกชัดเจน ไม่เพี้ยน เราก็แนะนำให้ฟอกหรือกัดสีผมก่อนค่ะ
เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีเฉดสีให้เลือกหลายหลายเฉดตั้งแต่โทนเข้มจนถึงโทนพาสเทล และผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็ปราศจากแอมโมเนียและไฮโดรเจนที่ทำให้ผมเสีย นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมทั้งเคราติน น้ำมันมะพร้าว นมข้าว วิตามินบี 3 และ 5 ที่ช่วยบำรุงให้ผมนุ่ม ไม่แห้งเสีย โดยมีเม็ดสีเด่นชัดซึ่งนำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นแว๊กที่ล้างไม่ออก แต่สระผมไปเรื่อย ๆ สีก็จะค่อย ๆ หลุดออกไปภายใน 1 - 2 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผม ในส่วนของตัวบรรจุภัณฑ์นั้นจะเป็นหลอดบีบขนาด 150 ml ซึ่ง 1 หลอดเหมาะกับคนผมสั้นจนถึงผมยาวประบ่า ซึ่งหากใช้ไม่หมดก็สามารถปิดฝาและเก็บไว้ใช้งานครั้งต่อไปได้ โดยผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีอายุการเก็บรักษานานถึง 24 เดือนเลยค่ะ
อีกหนึ่งสินค้าราคาประหยัดที่ตอนนี้หาซื้อได้ง่ายมาก ๆ โดยตัวนี้เป็นทรีตเมนต์แว๊กที่ไม่มีสารแอมโมเนียและเปอร์ออกไซด์ ไม่ทำร้ายเส้นผม นอกจากนี้ ยังมีส่วนประกอบของสาหร่ายทะเลและวีทโปรตีน ที่ช่วยฟื้นฟูผมที่เคยแห้งเสียให้กลับมาดูดีอีกครั้ง มาพร้อม Fruit Acid และ Hair Dyes ที่ช่วยให้สีผมเปล่งประกายเด่นชัด และเพิ่มความเงางาม
ผลิตภัณฑ์นี้มีมาให้เลือกกันถึง 23 สีเลยทีเดียว แถมสีก็ยังสด อัดแน่นด้วยเม็ดสีแบบเต็มเปี่ยม ถึงผมจะสีเข้มและไม่ได้ผ่านการกัดมาก็สามารถย้อมติดได้ แต่อาจจะไม่สว่างเท่าคนที่ฟอกสีผม อีกทั้งยังเป็นแบบล้างออกไม่ได้ ซึ่งสีจะติดทนประมาณ 2 - 4 สัปดาห์ แล้วแต่สภาพผมของผู้ใช้ โดยในหนึ่งหลอดจะมีปริมาณ 150 ml ค่ะ
Farger เป็นแบรนด์ที่หลาย ๆ คนซึ่งได้ลองใช้แล้วต่างรีวิวว่าดี โดยผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่ผสมแอมโมเนีย ซึ่งเป็นสารเคมีที่เป็นอันดรายต่อผม เพราะฉะนั้นผมไม่เสียแน่นอนค่ะ และความพิเศษของทรีตเมนต์แว๊กตัวนี้นั่นคือมีส่วนประกอบจากเคราตินซึ่งนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ช่วยให้ผมนุ่มลื่น เปล่งประกายเงางาม และเม็ดสีนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ทำให้สีที่ได้มีความเด่นชัด
นอกจากนั้นก็ยังมีสารสกัดจากอาร์แกนออยล์ออร์แกนิก 100% ที่มาพร้อมกลิ่นหอม ไม่ฉุนจมูกอีกด้วย และผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็ไม่ได้มาแบบหลอดบีบแต่จะเป็นขวดหัวปั๊มขนาด 235 ml เลยทีเดียว เรียกได้ว่าเยอะจุใจในราคาที่เป็นมิตร คุ้มค่าคุ้มราคาสุด ๆ และยังมีสีให้เลือกทั้งหมด 12 เฉดสีอีกด้วย
แว๊กครีมตัวนี้ก็เป็นแบบล้างไม่ได้ แต่สีจะติดอยู่นานประมาณหนึ่งเดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผมของแต่ละคน ผลิตภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนียและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งเป็นสารที่ทำร้ายเส้นผม ความพิเศษที่ไม่เหมือนแว๊กเปลี่ยนสีผมแบรนด์อื่น ๆ นั่นคือรุ่นนี้มีส่วนประกอบของผงไข่มุก ช่วยให้ผมเป็นประกายเหมือนดวงดาวในกาแล็กซี แถมตัวนี้ยังมีกลิ่นหอมที่หอมติดทนนานอีกด้วย
ในส่วนของบรรจุภัณฑ์นั้นจะเป็นหลอดขนาด 100 กรัม แต่ถึงแม้ว่าจะมีเม็ดสีแน่นทำให้สีสดชัด ก็ต้องไปกัดสีกันก่อน เพราะข้างกล่องระบุไว้ชัดเจนว่าเหมาะกับคนที่ฟอกสีผม และต้องฟอกจนสีสว่างตั้งแต่เบอร์ 8 ขึ้นไป และสำหรับคนที่มีสีผมเข้มมาก ก็อาจจะทำให้สีติดยากมากขึ้นค่ะ
ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ของเกาหลีที่ค่อนข้างฮิตกันอยู่พักหนึ่ง จุดเด่นของแว๊กตัวนี้ก็คือ เม็ดสีชั้นดีที่นำเข้าจากฝรั่งเศส ทำให้สีมีความสดใสและเปล่งประกาย นอกจากนี้ ยังปราศจากสารเคมี แถมประกอบไปด้วยทรีตเมนต์บำรุงผมที่เน้นสกัดจากนม เช่น นมฮอกไกโด นมจากเชจู และโคโคนัทมิลค์ ช่วยทำให้ผมนุ่มลื่น ไม่แห้งเสีย
รุ่นนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 สี คือ Drama Queen Pink, Lil Baby Lavender, Resting Beach Blue และ Teenage Deep Blue สำหรับการใช้งานขอแนะนำให้กัดสีก่อน เพื่อที่สีจะได้ออกมาชัดเจนและสวยงามมากขึ้น นอกจากนี้ แว๊กสูตรนี้เป็นแบบล้างออกไม่ได้ โดยสีจะติดอยู่ประมาณ 2 - 4 สัปดาห์ และตัวแพ็กเกจจะเป็นกล่องบรรจุซองทรีทเมนต์จำนวน 3 ซอง ปริมาณรวม 90 ml ค่ะ
แว๊กเปลี่ยนสีผมตัวนี้เป็นแบรนด์จากประเทศสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งเข้าไทยมาได้ไม่นาน ซึ่งทางแบรนด์วางจำหน่ายเครื่องสำอางหลากหลายชนิดเลยค่ะ แต่ความพิเศษสุด ๆ ของแบรนด์ก็คือ สินค้าทุกชนิดผลิตจากวัตถุดิบที่เป็นวีแกน แถมไม่มีการทดลองกับสัตว์อีกด้วย รับประกันความรักษ์โลก รักสัตว์ และปลอดภัยต่อร่างกายแบบ 100%
โดยตัวที่เราแนะนำนี้เป็นแว๊กเนื้อลิขวิด ที่มีโทนสีแนวพาสเทลเหมือนอยู่ในโลกยูนิคอร์น ซึ่งรุ่นนี้จะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมดสามสี และผลิตภัณฑ์ตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ หรือคนที่ต้องการลองทำสีผมเพื่อใช้ตัดสินใจก่อนย้อมแบบกึ่งถาวร โดยแพ็กเกจของแว๊กตัวนี้จะเป็นแบบหลอดบีบขนาด 85 ml และสีจะหลุดออกเมื่อสระผม 1 - 2 ครั้งค่ะ
แว๊กเปลี่ยนสีผมแบบชั่วคราวตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ หรือใครที่อยากทำแค่ไฮไลท์หรือทำสีแค่ปลายผม โดยมีทั้งหมด 9 สีที่เน้นไปทางสีโทนเข้มและสีสด แว๊กตัวนี้มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ 100% จึงไม่ทำให้ผมเสีย แถมยังช่วยบำรุงผม โดยไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะหรือจับตัวเป็นก้อนบนเส้นผมอีกด้วย
วิธีการใช้ก็เพียงทาแว๊กลงบนผมโดยไม่ต้องหมักทิ้งไว้ และแว๊กตัวนี้จะเป็นแว๊กแบบล้างออกได้ ซึ่งสีจะหลุดออกตอนสระผม 1 - 2 ครั้ง ด้านบรรจุภัณฑ์จะเป็นกระปุกปริมาณ 120 กรัม แต่ทั้งนี้ก็ยังเหมาะกับผมที่กัดสีแล้วมากกว่า เพื่อให้สีออกชัด แต่สำหรับสีธรรมชาติก็ใช้ได้เช่นกัน เพียงแค่สีที่ได้ก็จะไม่สดและชัดเท่าผมกัดสีค่ะ
แบรนด์เครื่องสำอางราคาประหยัดของประเทศฮ่องกง ที่ผลิตเครื่องสำอางหลายชนิด รวมไปถึงแว๊กเปลี่ยนสีผมด้วยเช่นกัน ทางแบรนด์เคลมไว้ด้วยว่าเป็นแว๊กที่ไม่ทำร้ายเส้นผม โดยมีด้วยกันทั้งหมด 9 สี ซึ่งโทนสีก็จะมีความสดและสว่างพอสมควร เหมาะกับการเปลี่ยนลุคเพื่อไปออกงานปาร์ตี้สังสรรค์ ที่ต้องเน้นการแต่งตัวและสีผมจัด ๆ
นอกจากนั้นก็ยังมีกลิ่นหอมที่ติดทนนาน ตัวแว๊กเกาะผมได้ดีโดยไม่จับตัวเป็นก้อนหรือให้ความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ และผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นแว๊กแบบล้างออกได้ ซึ่งทางแบรนด์เคลมไว้ว่า สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำเปล่า โดยกระปุกนึงมีความจุถึง 120 กรัม เรียกได้ว่าซื้อมาทีเดียว ก็สามารถเก็บไว้ใช้ได้อีกหลายครั้งเลยค่ะ
แว๊กตัวนี้มาในรูปแบบกระปุกที่พกพาได้สะดวก โดยแว๊กนี้เป็นแบบล้างออกได้ ซึ่งพอสระผม สีก็จะหลุดออกทันที เหมาะกับคนที่อยากเปลี่ยนสีผมเพื่อถ่ายรูป หรือออกงานช่วงสั้น ๆ ผลิตภัณฑ์มีทั้งหมด 9 สี ได้แก่ ดำ, น้ำตาล, ม่วง, ทอง, เขียว, ขาว, แดง, เทา และน้ำเงิน สีแว๊กจะเริ่มออกเข้มชัดเมื่อผมแห้ง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผมและพื้นผมของแต่ละคนด้วย นอกจากนี้ คนมีอายุก็สามารถใช้ในการปิดผมขาว เพื่อช่วยให้ตัวเองดูเด็กลงก็ได้ค่ะ
ปริมาณที่ได้ในหนึ่งกระปุกคือ 100 กรัม ในส่วนของวิธีการใช้ก็เพียงแค่ชโลมแว๊กลงบนผมบริเวณที่อยากเปลี่ยนสี พร้อมทั้งสามารถจัดแต่งทรงผมไปพร้อมกันได้ในตัว หลังจากนั้นก็ใช้ไดร์เป่าผมให้แห้งเพื่อให้สีติดทนมากขึ้นค่ะ
แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้แว๊กสีผมประเภทไหน เราควรสวมถุงมือเมื่อลงแว๊ก ไม่ควรสัมผัสโดยตรง และระมัดระวังไม่ให้แว๊กเข้าตา หากหลังจากใช้แว๊กแล้วมีอาการแพ้หรืออาการระคายเคืองหรืออาการผิดปกติใด ๆ บนผิวหนังที่สัมผัสเนื้อแว๊กให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการ
แว๊กสีผมในท้องตลาดปัจจุบันมีให้เลือกใช้มากมายหลายยี่ห้อ เราสามารถเลือกแว๊กสีผมที่มีคุณสมบัติตามวิธีการเลือกที่เรานำเสนอไปตามข้างต้น ส่วนเรื่องโทนสีสามารถเลือกได้ตามชอบ ซึ่งโทนสีที่ฮิตตลอดกาลคือสีเทา ส่วนสีที่กำลังมาแรงในตอนนี้คือสีส้ม หากไม่รู้ว่าจะเลือกโทนสีไหน ก็สามารถพิจารณา 2 สีนี้ได้เพื่อเติมสีสันให้กับเส้นผมของเราค่ะ
อันดับที่ 1: Lerca|แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Hair Color Treatment
อันดับที่ 2: Ocdai3|แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Hydro Keratin Color Mask
อันดับที่ 3: Dipso Professional |แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Super Shine Hair Color Wax
อันดับที่ 4: Farger|แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Keratin Hair Color Treatment
อันดับที่ 5: Carebeau|แว๊กเปลี่ยนสีผมชั่วคราว Galaxy Hair Color Cream
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ