mybest
น้ำยากัดสีผม

ให้ทุกการเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ปิด
  1. TOP
  2. ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
  3. ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม
  4. 10 อันดับ น้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 รวมแบบออร์แกนิก ผมไม่เสีย
  • 10 อันดับ น้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 รวมแบบออร์แกนิก ผมไม่เสีย 1
  • 10 อันดับ น้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 รวมแบบออร์แกนิก ผมไม่เสีย 2
  • 10 อันดับ น้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 รวมแบบออร์แกนิก ผมไม่เสีย 3
  • 10 อันดับ น้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 รวมแบบออร์แกนิก ผมไม่เสีย 4
  • 10 อันดับ น้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 รวมแบบออร์แกนิก ผมไม่เสีย 5

10 อันดับ น้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 รวมแบบออร์แกนิก ผมไม่เสีย

น้ำยากัดสีผมหรือน้ำยาฟอกสีผมเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ช่วยเอาเม็ดสีธรรมชาติในเส้นผมของเราออก เพื่อย้อมเม็ดสีสังเคราะห์ในสีสันต่าง ๆ ลงบนเส้นผมตามที่เราต้องการ ยิ่งหากเราต้องการย้อมสีผมอ่อนหรือสีสว่าง ไม่ว่าจะเป็นการย้อมสีแฟชั่นที่เน้นสีอ่อนพาสเทลหรือสีสันสดใส เช่น สีชมพู สีฟ้าอ่อน สีส้ม สีม่วงอ่อน เราควรใช้น้ำยากัดสีผมก่อนย้อมผมในโทนสีสว่างหรือสีสดนั้น ๆ ก่อนย้อมผม โดยอาจปกป้องหนังศีรษะก่อนกัดสีผมเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดการระคายเคือง


น้ำยากัดสีผมที่สามารถใช้งานได้ด้วยตัวเองมีให้เลือกหลายรูปแบบทั้งแบบผงหรือแบบครีม และหลากระดับความเข้มข้น โดยแต่ละชนิดต่างเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น 3%, 6%, 9% ในบทความนี้ เรามีวิธีการเลือกน้ำยากัดสีผม พร้อมคำแนะนำจากเจ้าของร้านทำผมและช่างทำผมที่มากประสบการณ์ และแนะนำผลิตภัณฑ์น้ำยากัดสีผมที่น่าสนใจทั้ง 10 อันดับ เพื่อให้เป็นไอเดียในการเลือกซื้อที่ง่ายมากขึ้น

อัปเดตล่าสุดเมื่อ 20/11/2023
พรรณิภา พูลสวัสดิ์ (จ๋า)
ผู้เชี่ยวชาญ
เจ้าของร้านทำผม CHAMPOO Hair Studio
พรรณิภา พูลสวัสดิ์ (จ๋า)

คุณจ๋าเป็นเจ้าของร้านทำผม CHAMPOO Hair Studio สาขานครสวรรค์และเชียงใหม่ โดยเป็นร้าน Private Salon ที่มีฐานข้อมูลลูกค้ามากกว่า 2,000 คนและมีผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดียมากกว่า 6,000 คน ซึ่งคุณจ๋าเป็นผู้กำกับและดูแลกิจการทั้งหมด ทั้งด้านคุณภาพของงานทำผม ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า และกลยุทธ์ทางการตลาดและโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงคุณภาพของสินค้าในร้านที่ตรวจสอบก่อนนำมาให้บริการกับลูกค้าทุกชิ้น เพื่อให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่ดีของร้านทำผม จุดเริ่มต้นของคุณจ๋า คือ การช่วยงานบริหารร้านกับคุณพ่อและคุณแม่ หลังจากจบหลักสูตรฝึกอบรมวิชาชีพเสริมสวยที่โรงเรียนเสริมสวยเกตุวดี-แกนดินี อะคาเดมี่ และได้มีโอกาสสร้างแบรนด์ รวมไปถึงดูแลให้บริการด้านทรงผมในสาขานครสวรรค์จนประสบความสำเร็จและขยายสาขาสู่จังหวัดเชียงใหม่ ตลอดระยะเวลาของการเป็นช่างทำผมจนกระทั่งปัจจุบัน คุณจ๋าหมั่นอัพเดทและศึกษาผลิตภัณฑ์ เช่น ยาย้อมผม แชมพู แว๊กซ์สีผม แว๊กซ์เซ็ทผม ครีมหมักผม รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในสายอาชีพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษามาตรฐานผลงานให้สอดคล้องกับเทรนด์ของทรงผม และปัจจัยที่ส่งต่อสภาพเส้นผมของลูกค้า

ประวัติของ พรรณิภา พูลสวัสดิ์ (จ๋า)
…อ่านต่อ
กองบรรณาธิการ mybest
บรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ mybest

มายเบสท์ผลิตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ทุกวันตั้งแต่ "เครื่องสำอางและสกินแคร์" "เครื่องใช้ไฟฟ้า" "สินค้าในชีวิตประจำวัน" ไปจนถึง "บริการ" เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีสุดตามสโลแกน "ให้ทุกการเลือกเป็นเรื่องง่าย" ผ่านผู้ใช้งานเว็บไซต์มากกว่า 3 ล้านคนต่อเดือน

ประวัติของ กองบรรณาธิการ mybest
…อ่านต่อ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ

สารบัญ

น้ำยากัดสีผมคืออะไร ?

น้ำยากัดสีผมคืออะไร ?

น้ำยากัดสีผม คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติกัดเอาเม็ดสีในธรรมชาติของเส้นผมออก หรือบางคนเรียกว่าน้ำยาฟอกสีผม มีให้เลือกทั้งแบบผงหรือแบบเนื้อครีม และมีระดับความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ที่เป็นสารสำคัญในการกัดสีผม ตั้งแต่ 3% ไปจนถึง 12%

จุดประสงค์ที่ต้องเอาเม็ดสีธรรมชาติในเส้นผมออก คือ เพื่อให้เม็ดสีสังเคราะห์ในยาย้อมผมที่จะใช้ในขั้นตอนต่อไป สามารถติดทั่วทั้งเส้นผมได้อย่างชัดเจน ยิ่งเราต้องการย้อมสีสว่างมากเท่าไหร่ เช่น สีชมพูอ่อน สีฟ้าอ่อน ก็ต้องกัดให้เม็ดสีในผมของเราหลุดออกมากขึ้นจนผมมีสีเหลืองสว่างหรือสีขาว ความสว่างของสีผมที่เราควรฟอกขึ้นอยู่กับสีที่เราต้องการย้อมเป็นหลัก รวมไปถึงสุขภาพเส้นผมของผู้ที่ต้องการใช้ด้วย

วิธีการเลือกน้ำยากัดสีผม

เราควรเลือกน้ำยากัดสีผมให้เหมาะกับสภาพหนังศีรษะของเรา โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ น้ำยากัดสีผมสำหรับผิวหรือหนังศีรษะทั่วไป และน้ำยากัดสีผมสำหรับผิวหรือหนังศีรษะบอบบางแพ้ง่าย

1

เลือกน้ำยากัดสีผมแบบผงหรือครีม ระดับความเข้มข้น 3% สำหรับผิวหรือหนังศีรษะทั่วไป

สำหรับน้ำยากัดสีผมสำหรับผิวหรือหนังศีรษะทั่วไป ควรเลือกน้ำยากัดสีผมแบบผงหรือแบบครีมตามการใช้งาน และมีระดับความเข้มข้น 3% โดยปรับเวลาหรือลงน้ำยาเพิ่ม

เลือกน้ำยากัดสีผมแบบผงหรือแบบครีมตามการใช้งาน

เลือกน้ำยากัดสีผมแบบผงหรือแบบครีมตามการใช้งาน
น้ำยากัดสีผมมีให้เลือกใช้ทั้งแบบผงและแบบครีม โดยทั้งสองแบบมีประสิทธิภาพในการกัดสีผมที่เหมือนกัน น้ำยากัดสีผมแบบผงเหมาะกับการกัดสีผมทั้งศีรษะเพราะมีราคาถูกกว่าและใช้ง่ายกว่า อีกทั้ง น้ำยากัดสีผมแบบผงจะต้องผสมกับส่วนผสมที่เป็นครีมซึ่งโดยผลลัพธ์มีลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต่างจากน้ำยากัดสีผมแบบครีม

ส่วนน้ำยากัดสีผมแบบครีมเหมาะกับการกัดสีผมบางส่วน เช่น การทำไฮไลท์ การย้อมสีผมแบบอินเนอร์ที่ซ่อนสีผมไว้ด้านใน หรือการย้อมสีผมบางส่วน เนื่องจากมีราคาสูงกว่าอีกทั้งยังมีปริมาณที่น้อยกว่า

เลือกระดับความเข้มข้น 3% และปรับเวลาหรือลงน้ำยาเพิ่ม

เลือกระดับความเข้มข้น 3% และปรับเวลาหรือลงน้ำยาเพิ่ม
ระดับความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ระบุบนน้ำยากัดสีผมเป็นตัวบ่งบอกว่าน้ำยานั้นมีความเข้มข้นมากน้อยแค่ไหน ยิ่งมีเปอร์เซ็นต์สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งหมายความว่าน้ำยาจะมีประสิทธิภาพในการกัดสีผมที่มากขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น เราแนะนำให้เลือกใช้น้ำยากัดสีผมที่มีระดับความเข้มข้น 3% และปรับระยะเวลาในการกัดสีผมตามความหนาของเส้นผม เพื่อการรักษาสุขภาพของเส้นผมที่มากกว่า

น้ำยากัดสีผมจะออกฤทธิ์ที่ดีสุดภายใน 30 นาทีหลังจากชโลมลงบนเส้นผม ดังนั้น หากเราใช้น้ำยากัดสีผมแล้วได้สีผมที่เราต้องการใน 20 - 30 นาทีก็สามารถล้างออกและย้อมสีผมในขั้นตอนถัดไปได้ทันที แต่หากมีผมใหญ่หรือผมหนา เมื่อผ่านไป 30 นาทีแล้วใช้เช็กสีผมว่าได้สีตามที่ต้องการหรือไม่ หากยังไม่ได้สีผมที่ต้องการให้กวาดน้ำยาออกแล้วใส่น้ำยากัดสีผมใหม่ลงไป โดยอาจทำแบบนี้ประมาณ 1 - 2 รอบสำหรับผู้ที่มีเส้นผมใหญ่หรือหนา หรือผู้ต้องการให้สีผมขาวมากที่สุดเพื่อย้อมสีสว่าง
2

เลือกน้ำยากัดสีผมแบบออร์แกนิก ระดับความเข้มข้นตามการใช้งาน สำหรับผิวหรือหนังศีรษะบอบบางแพ้ง่าย

เลือกน้ำยากัดสีผมแบบออร์แกนิก ระดับความเข้มข้นตามการใช้งาน สำหรับผิวหรือหนังศีรษะบอบบางแพ้ง่าย

เราสามารถเลือกใช้น้ำยากัดสีผมแบบออร์แกนิกได้หากมีผิวหรือหนังศีรษะที่บอบบาง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับผู้ที่เป็นกังวลเรื่องสุขภาพของเส้นผมหรือหนังศีรษะ รวมไปถึงผู้ที่มีประวัติการแพ้สารเคมีขณะกัดสีผมหรือทำเคมีเส้นผม นอกจากนี้ น้ำยากัดสีผมแบบออร์แกนิกยังมีกลิ่นที่อ่อนกว่าน้ำยากัดสีผมทั่วไปจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงกลิ่นฉุนระหว่างการกัดสีผม แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก แต่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล

3

ตรวจสอบสีผมหลังใช้น้ำยากัดสีผมให้เหมาะกับการย้อมสีผมในขั้นตอนถัดไป

ตรวจสอบสีผมหลังใช้น้ำยากัดสีผมให้เหมาะกับการย้อมสีผมในขั้นตอนถัดไป

แน่นอนว่าหากเราใช้น้ำยากัดสีผม เม็ดสีธรรมชาติในเส้นผมของเราก็จะถูกขจัดออกไปเพื่อเติมเม็ดสีใหม่มาแทนที่ ดังนี้ สีผมของเราหลังจากการย้อมจึงมีสีอ่อนลง ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของน้ำยา ระยะเวลาในการกัด และสภาพเส้นผมก่อนกัดสีผม เราควรตรวจสอบสีผมหลังจากการกัดสีผมให้เหมาะกับสีที่เราจะย้อมในขั้นตอนถัดไป โดยหากต้องการย้อมสีเข้ม เช่น สีน้ำตาลเข้ม สีน้ำเงินเข้ม ควรกัดผมให้มีสีอ่อนลงกว่าเดิมเล็กน้อย อาจเป็นสีน้ำตาลหรือสีส้มก็เพียงพอ แต่หากต้องการย้อมผมสีอ่อน เช่น สีชมพูอ่อน สีฟ้าอ่อน สีส้มอ่อน หรือสีสดในโทนสีต่าง ๆ ควรกัดผมให้มีสีขาวเพื่อให้สีย้อมเหล่านั้นมีประกายสีและติดเส้นผมได้อย่างชัดเจน

4

หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยากัดสีผมด้วยตัวเองหากเกิดการระคายเคือง

หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยากัดสีผมด้วยตัวเองหากเกิดการระคายเคือง
หากใช้น้ำยากัดสีผมด้วยตัวเองแล้วเกิดการระคายเคือง โดยมีอาการหลังจากการใช้ประมาณ 30 - 40 นาที เช่น ผิวหนังแดง เป็นแผลคล้ายกับแผลถลอก หรือรู้สึกตึงบริเวณหนังศีรษะ หรือกดแล้วรู้สึกเจ็บ ให้สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากน้ำยาทำปฏิกิริยาและเกิดความปกติกับผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความเข้มข้นของน้ำยา ระยะเวลาในการกัดสีผม รวมไปถึงโครงสร้างชั้นผิวที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางรายอาจเกิดอาการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นตาบวม เกิดผื่นคัน เป็นต้น หากเจอความผิดปกตินี้ เราควรล้างออกทันที งดใช้น้ำยากัดสีผมด้วยตัวเอง และพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาต่อไป

สำหรับผู้ที่เคยใช้น้ำยากัดสีผมแล้วเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นและต้องการกัดสีผมอีก เราขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยากัดสีผมด้วยตัวเองและใช้บริการในร้านซาลอนแทน เพราะช่างทำผมสามารถพิจารณาและให้คำปรึกษาในด้านนี้ได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังมีเทคนิคในการลงน้ำยากัดสีผมที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองน้อยที่สุด
วิธีการเลือกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?

10 อันดับ น้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี รวมแบบออร์แกนิก ผมไม่เสีย

น้ำยากัดสีผมแบบไหนหรือยี่ห้อไหนที่น่าสนใจ ทั้งยังมีคุณสมบัติที่เหมาะกับสภาพเส้นผมหรือหนังศีรษะที่แตกต่างกันออกไป 10 อันดับ น้ำยากัดสีผม ตามรายการด้านล่างนี้จะช่วยให้เราเลือกได้ง่ายมากขึ้น
เรียงจากความนิยม
สินค้า
รูปภาพ
ราคาต่ำสุด
คะแนน
1

NIGAO

Bleaching Cream Maxx Light

NIGAO  Bleaching Cream Maxx Light 1枚目

ผมสว่างสุขภาพดี ไม่มีแอมโมเนีย และมีน้ำมันช่วยบำรุงเส้นผม

2

Wella

Blondor Multi Blonde

Wella Blondor Multi Blonde 1枚目

ปริมาณเยอะจุใจในรูปแบบกระป๋อง ไม่ทำให้ผมเสียหลังกัดสี

3

Berina

Hair Bleaching Powder

Berina  Hair Bleaching Powder 1枚目

สีผมสว่างขึ้น พร้อมประกายสดใส แลดูมีน้ำหนัก เป็นธรรมชาติ

4

Dcash

Master Bleaching Powder Lightener

Dcash Master Bleaching Powder Lightener 1枚目

สีผมอ่อนลงอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมคุณสมบัติไม่ทำลายเส้นผม

5

Lolane

Pixxel Bleaching Powder

Lolane Pixxel Bleaching Powder 1枚目

ได้รับการไว้วางใจมายาวนาน ปรับสีได้สว่างสุดถึงระดับ 11

6

CRUSET

Hair Bleaching Cream

CRUSET  Hair Bleaching Cream  1枚目

ให้สีผมสม่ำเสมอ พร้อมบำรุงผมด้วยน้ำมันมะกอกและวิตามินอี

7

Farger

High Lift Bleaching Cream

Farger High Lift Bleaching Cream 1枚目

เจ้าแรกในไทย สามารถปรับความสว่างผมได้สูงถึงระดับ 10

8

L’Oréal

Blond Studio Multi-Techniques Lightening Powder

L’Oréal Blond Studio Multi-Techniques Lightening Powder 1枚目

ปราศจากแอมโมเนีย กัดสีผมได้แบบไม่ทรมาน กลิ่นไม่ฉุนแสบจมูก

9

Star List

Quik Blond

Star List Quik Blond  1枚目

ใช้ง่าย กลิ่นไม่ฉุน พร้อมปรับระดับสีผมให้สว่างอย่างรวดเร็ว

10

Schwarzkopf

IGORA Vario Blond Extra Power

Schwarzkopf  IGORA Vario Blond Extra Power 1枚目

สีสว่างชัด เหมาะสำหรับผมสีเข้ม ช่วยให้การไฮไลท์ช่อผมดูมีมิติ

หากไม่พบผลิตภัณฑ์ที่กำลังมองหา สามารถส่งคำร้องขอเพิ่มในรายการได้
No.1

NIGAO Bleaching Cream Maxx Light

Bleaching Cream Maxx Light รูป 1
ราคาอ้างอิง
175 บาท
ราคาอ้างอิง
175 บาท

ผมสว่างสุขภาพดี ไม่มีแอมโมเนีย และมีน้ำมันช่วยบำรุงเส้นผม

สำหรับยี่ห้อนี้ต้องขอบอกเลยว่า Maxx สมชื่อจริง ๆ ค่ะ เพราะสามารถเพิ่มความสว่างของเส้นผมได้สูงสุดถึง 8 ระดับ ในการกัดเพียงครั้งเดียว แถมยังมีส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติ ซึ่งช่วยบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดียิ่งขึ้นไปอีก ทำให้ผมเงางาม ดูมีชีวิตชีวา ไม่แห้งเสีย และที่สำคัญ ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสาทสัมผัสไวต่อกลิ่น เพราะไม่มีกลิ่นฉุนมากวนใจ รวมถึงไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย ซึ่งเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งอีกด้วย คุณภาพเกินราคาขนาดนี้ต้องลองซื้อมาไว้ใช้กันแล้วล่ะค่ะ

การจัดอันดับสินค้าใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?
No.2

WellaBlondor Multi Blonde

Blondor Multi Blonde รูป 1
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
990 บาท

ปริมาณเยอะจุใจในรูปแบบกระป๋อง ไม่ทำให้ผมเสียหลังกัดสี

Wella แบรนด์ดังด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมที่ได้รับความไว้วางใจจากช่างทำผมทั่วโลก โดยสูตรนี้เป็นผงสำหรับการกัดสี ใช้งานได้ง่าย ปริมาณเยอะจุใจถึง 400 มิลลิลิตร สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ผสมผงกับส่วนประกอบต่าง ๆ ก็พร้อมใช้งานในทันที ทั้งยังช่วยกัดสีผมให้อ่อนลงได้ดั่งใจแม้จะไม่เคยผ่านการกัดสีมาก่อน นอกจากนี้ ตัวผงยังมีสาร Anti-Yellow ที่ทำให้ผมไม่ดูส้มหรือติดเหลือง และยังมีสารที่ช่วยป้องกันผมเสีย ทำให้ผมไม่แตกปลายหลังการกัดสีอีกด้วยค่ะ

No.3

Berina Hair Bleaching Powder

ราคาอ้างอิง
28 บาท

สีผมสว่างขึ้น พร้อมประกายสดใส แลดูมีน้ำหนัก เป็นธรรมชาติ

Berina เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะสามารถกัดสีออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แลดูเป็นธรรมชาติ แถมยังมีราคาที่ถูกอย่างคาดไม่ถึง ไม่ว่าใครก็สามารถหาซื้อได้ โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้ คือ การใช้ร่วมกับน้ำยาดีเวลลอปเปอร์ เพียงแค่ผสมกันก็สามารถใช้ทาลงบนเส้นผมได้ทันที นอกจากนี้ เมื่อใช้กัดสีผมแล้วยังช่วยคงสภาพผมที่มีประกายสดใส แลดูมีน้ำหนักไว้ได้เป็นอย่างดี คุณภาพจัดมาเต็มขนาดนี้ ถ้าไม่มีติดไว้สักซองคงไม่ได้แล้วนะคะ

No.4

DcashMaster Bleaching Powder Lightener

ราคาอ้างอิง
25 บาท

สีผมอ่อนลงอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมคุณสมบัติไม่ทำลายเส้นผม

สำหรับผู้ที่เคยกัดและทำสีผมมาบ้าง คงจะเคยได้เห็นยี่ห้อ Dcash ผ่านตามาไม่มากก็น้อยใช่ไหมคะ ซึ่งน้ำยากัดสีผมรุ่นนี้ได้ถูกคิดค้นสูตรมาเป็นพิเศษ เพื่อให้เส้นผมเกิดความเสียหายจากการถูกเปิดเกล็ดผมน้อยที่สุด หลังจากใช้งานแล้วเส้นผมยังคงนิ่ม ไม่แข็งกระด้าง นอกจากจะช่วยให้สีผมอ่อนลงแล้ว ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ ยังทำให้เส้นผมสามารถดูดซับสีย้อมผมได้ดีมากขึ้นอีกด้วย โดยผลลัพธ์ในการกัดสีผมนั้นก็รวดเร็วภายในเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น ที่สำคัญ ยังมีสีให้เลือกถึง 4 เฉดสี ได้แก่ สีทอง, สีเงิน, สีขาว และสีแดงค่ะ

No.5

LolanePixxel Bleaching Powder

ราคาอ้างอิง
29 บาท

ได้รับการไว้วางใจมายาวนาน ปรับสีได้สว่างสุดถึงระดับ 11

อีกยี่ห้อที่คนไทยรู้จักกันดีและได้รับความนิยมสูงสุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เนื่องจากเป็นผงกัดสีผมที่มีประสิทธิภาพสูง มี 3 สูตรให้เลือก ได้แก่ Normal Lift, Extreme Lift และ Gentle Lift ปรับสีผมได้สว่างมากสุดถึงระดับ 11 โดยไม่ต้องกัดหลายครั้ง ทั้งยังช่วยลดความเสียหายที่เกิดต่อเส้นผมได้ สำหรับผู้ที่กังวลว่าผมอาจออกโทนเหลืองหลังกัด ก็หมดกังวลได้เลยค่ะ เนื่องจาก Lolane ได้พัฒนาคิดค้นมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สีผมสว่างขึ้นแต่ไม่ติดเหลือง ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ผงกัดสีผมที่ขอแนะนำจริง ๆ ค่ะ 

No.6

CRUSET Hair Bleaching Cream

ราคาอ้างอิง
66 บาท

ให้สีผมสม่ำเสมอ พร้อมบำรุงผมด้วยน้ำมันมะกอกและวิตามินอี

สำหรับน้ำยาแบรนด์นี้เป็นน้ำยากัดสีผมที่ช่วยบำรุงเส้นผมไปในตัว เพราะมีส่วนผสมอย่างโอลีฟออยล์และวิตามินอี เข้ามาช่วยบำรุงเส้นผมให้เงางาม สุขภาพดี แม้กัดสีผม ผมก็ไม่เสีย ทั้งยังคงความมีน้ำหนักและเรียบลื่นของผมไว้อย่างเต็มเปี่ยม นอกจากนี้ ด้วยนวัตกรรมพิเศษของ CRUSET จึงช่วยให้สีผมอ่อนลงอย่างเป็นธรรมชาติ ได้มากถึง 3 - 4 ระดับจากความสว่างเดิม ทำให้คุณมั่นใจกับสีผมที่กัดออกมา แม้จะเป็นมือใหม่ที่ไม่เคยกัดสีผมมาก่อนก็สามารถใช้ได้ค่ะ 

No.7

FargerHigh Lift Bleaching Cream

ราคาอ้างอิง
59 บาท

เจ้าแรกในไทย สามารถปรับความสว่างผมได้สูงถึงระดับ 10

น้ำยากัดสีผมชนิดครีมจาก Farger หลอดนี้นิยมใช้กันในหมูช่างทำผมมืออาชีพเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถปรับความสว่างของเส้นผมได้สูงสุดถึงระดับ 10 ในครั้งเดียว เนื้อครีมมีความละเอียด ใช้งานง่าย ไม่ฟุ้งขณะผสม ทั้งยังใช้เวลาไม่นาน เพียงปล่อยทิ้งไว้แค่ 20 นาที ก็ได้ผมที่สว่างสดใสมาเชยชมกันแล้ว นอกจากนี้ ยังมีกลิ่นที่บางเบา ไม่แสบจมูก และหลังกัดสีผมยังคงเงางามสุขภาพดี ไม่หยาบกระด้าง นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังได้เคลมเอาไว้อีกว่า น้ำยากัดสีผมตัวนี้ไม่เหม็นฉุนอย่างแน่นอนค่ะ

No.8

L’OréalBlond Studio Multi-Techniques Lightening Powder

ราคาอ้างอิง
590 บาท

ปราศจากแอมโมเนีย กัดสีผมได้แบบไม่ทรมาน กลิ่นไม่ฉุนแสบจมูก

หลายคนจะทราบดีว่า ผลิตภัณฑ์กัดสีผมหลาย ๆ ตัวจะนิยมใส่แอมโมเนียลงไป เพราะมีประสิทธิภาพในการกัดสีและทำให้สีอ่อนลงได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะทำให้เราลืมภาพเก่า ๆ เกี่ยวกับการกัดสีผมที่ต้องทนแสบตาหรือแสบจมูกไปเลยค่ะ เพราะ L’Oréal Blond Studio ได้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กัดสีผมปลอดแอมโมเนียเข้ามา ทำให้ผมของคุณไม่แห้งแตกปลาย ไม่แสบตาหรือแสบจมูกขณะกัดสีผม อีกทั้งยังได้สีผมที่อ่อนลงถึงระดับ 8 เลยทีเดียว

No.9

Star ListQuik Blond

ราคาอ้างอิง
96 บาท

ใช้ง่าย กลิ่นไม่ฉุน พร้อมปรับระดับสีผมให้สว่างอย่างรวดเร็ว

สำหรับผงกัดสีผมรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ช่วยให้สีผมสวยจนหลายคนติดใจกันไปตาม ๆ กันค่ะ โดยมีจุดเด่นที่สามารถปรับระดับสีผมได้อย่างรวดเร็วตามชื่อ Quik Blond ซึ่งสามารถสว่างขึ้นได้มากถึง 8 ระดับ ทั้งยังมีคุณสมบัติที่ช่วยทำให้การย้อมผมหลังการกัดสามารถซึมเข้าสู่เส้นผมและติดได้ดีมากขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำสีผมแบบธรรมดาและการทำไฮไลท์ที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ อีกทั้งในกล่องผลิตภัณฑ์ยังมีถุงมือพร้อมใช้แถมมาให้ เรียกได้ว่ากล่องเดียวจบ ไม่ต้องลำบากหาอุปกรณ์เพิ่มให้ยุ่งยากเลยค่ะ

No.10

Schwarzkopf IGORA Vario Blond Extra Power

ราคาอ้างอิง
41 บาท

สีสว่างชัด เหมาะสำหรับผมสีเข้ม ช่วยให้การไฮไลท์ช่อผมดูมีมิติ

สำหรับ Schwarzkopf IGORA ตัวนี้ตอบโจทย์คนที่มีผมสีเข้มเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะส่วนผสมในน้ำยามีพลังในการกัดสีสูง ส่วนขั้นตอนการใช้งานก็ง่ายมาก เพียงผสมน้ำยาทั้งสองตัวเข้าด้วยกัน โดยจะให้สีสว่างชัดเจน ดูเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือ หลังการกัดจะช่วยทำให้ผมดูมีมิติมากขึ้น และทำให้การไฮไลท์ช่อผมดูมีมิติไปด้วย นอกจากนี้ ตัวน้ำยาเองก็ไม่ทำลายหรือกัดให้เส้นผมแห้งเสีย ทำให้สามารถทำติดต่อกันได้ และยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ มาช่วยให้การฟอกสีผมสนุกยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ

บทส่งท้าย

จากวิธีการเลือกน้ำยากัดสีผมจะเห็นได้ว่า เราควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวหรือหนังศีรษะของเราเป็นสำคัญ แต่ไม่ว่าเราจะมีสภาพผิวหรือหนังศีรษะแบบไหนก็ตาม เราสามารถปกป้องผิวจากการระคายเคืองหรืออาการแพ้ได้ในระดับหนึ่งโดยการลงออยล์หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องหนังศีรษะก่อนกัดสีผม แต่หากใช้แล้วยังเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองอย่างที่กล่าวไปในเนื้อหาข้างต้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้และพบแพทย์เพื่อรักษา และอาจปรึกษากับช่างทำผมเพิ่มเติมหากต้องการกัดผมในโอกาสต่อไป

TOP 5 น้ำยากัดสีผม แนะนำ

อันดับที่ 1: NIGAO Bleaching Cream Maxx Light

อันดับที่ 2: WellaBlondor Multi Blonde

อันดับที่ 3: Berina Hair Bleaching Powder

อันดับที่ 4: DcashMaster Bleaching Powder Lightener

อันดับที่ 5: LolanePixxel Bleaching Powder

คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับ

mybest อาจได้รับค่าคอมมิชชั่นบางส่วนเมื่อกดซื้อสินค้าในเว็บไซต์
ข้อมูลสินค้าหรือบริการแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาของผู้ผลิตและเว็บไซต์ e-commerce
  1. TOP
  2. ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
  3. ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม
  4. 10 อันดับ น้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 รวมแบบออร์แกนิก ผมไม่เสีย

บทความยอดนิยม

ความงาม, ของใช้ส่วนตัว > ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม >
ยาย้อมผมแบบสระ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว > ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม >
ยาย้อมผมสีเทา
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว > ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม >
ยาย้อมผมสีชมพู
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว > ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม >
สีผมมะฮอกกานี
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว > ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม >
ยาย้อมผมญี่ปุ่น
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว > ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม >
สีผมชานม
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว > ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม >
ยาย้อมผมยี่ห้อ Lolane
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว > ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม >
สเปรย์เปลี่ยนสีผมชั่วคราว
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว > ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม >
ยาย้อมผมสำหรับคนท้อง
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว > ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม >
ยาย้อมผมสีม่วง

ค้นหาตามหมวดหมู่