10 พัดลมอุตสาหกรรม ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ลมแรง เสียงเบา

แม้พัดลมอุตสาหกรรมมีจะใบพัดขนาดใหญ่ ให้แรงลมสูงกว่าพัดลมทั่วไป แต่ตำแหน่งการติดตั้งพัดลมและสภาพแวดล้อมก็มีผลต่อความแรงในการกระจายลมเช่นกัน ซึ่งพัดลมอุตสาหกรรมก็มีให้เลือกทั้งแบบตั้งพื้นและแบบติดผนัง โดยแต่ละแบบมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันดังนี้

พัดลมอุตสาหกรรมที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาดมีให้เลือกซื้อหลากหลายรุ่น โดยมีตั้งแต่ขนาด 18 - 30 นิ้วขึ้นไป ซึ่งขนาดพัดลมมีผลต่อประสิทธิภาพการระบายความร้อนและการหมุนเวียนอากาศ หากขนาดพัดลมเล็กเกินไป จะทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนได้เพียงพอ แต่หากขนาดพัดลมใหญ่เกินไป จะเกิดการสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น 

หากเป็นการใช้งานในพื้นที่โปร่งและกว้างขวาง ควรเลือกพัดลมอุตสาหกรรมที่มีหน้ากว้างและมีใบพัดขนาดใหญ่ 20 นิ้วขึ้นไป เพื่อให้สามารถการกระจายแรงลมได้อย่างทั่วถึงกว่า แต่ถ้าเป็นการใช้งานภายในครัวเรือนหรือภายในอาคารปิด พัดลมอุตสาหกรรมขนาดเริ่มต้นที่ 18 - 20 นิ้ว ก็ถือว่าเพียงพอ 

ทั้งนี้ อาจขึ้นอยู่กับพื้นที่ภายในอาคารด้วย หากเป็นโกดังหรือโรงงานขนาดใหญ่อาจเลือกรุ่นที่มีหน้ากว้างขึ้นอีกได้ เพื่อให้การระบายอากาศและความร้อนทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ใบพัดถือเป็นส่วนที่สำคัญสำหรับพัดลมอุตสาหกรรม เพราะทั้งรูปร่างและวัสดุที่ใช้ล้วนมีผลต่อแรงลมที่สร้างได้และรูปแบบการใช้งาน สำหรับวัสดุที่นิยมนำมาทำใบพัดของพัดลมอุตสาหกรรม มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่

1. ใบพัดพลาสติก : พลาสติกถือเป็นวัสดุสังเคราะห์ที่มีน้ำหนักเบา เมื่อทำงานจะเกิดการสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อย ส่งผลให้เสียงใบพัดเบาและสามารถใช้งานควบคู่กับมอเตอร์แรงบิดต่ำได้ แต่โดยส่วนมากจะเป็นแบบที่รัศมีของใบพัดหน้าแคบ อีกทั้งยังควรหลีกเลี่ยงแสงแดด จึงเป็นรูปแบบที่เหมาะสำหรับการใช้งานภายในครัวเรือนหรือพื้นที่ปิดอื่น ๆ 
2. ใบพัดโลหะ : ใบพัดโลหะสามารถขึ้นรูปได้จากหลายวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นอะลูมิเนียม เหล็ก ทองเหลืองหรือวัสดุอัลลอย วัสดุเหล่านี้ส่งผลให้ใบพัดโลหะมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถทนความร้อนหรือไอระเหยของน้ำมันได้มากกว่าพลาสติก แต่ต้องใช้งานควบคู่กับมอเตอร์ที่มีแรงบิดสูง ถือเป็นรูปแบบที่เหมาะสำหรับการใช้งานหนักหรือการใช้งานตามโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

ในส่วนของรูปร่างใบพัดของพัดลมอุตสาหกรรมเองก็มีอยู่ 2 รูปแบบเช่นกัน คือ ใบพัดแบบรูปจันทร์เสี้ยวและใบพัดหน้ากว้างแบบหลายใบพัด โดยใบพัดรูปจันทร์เสี้ยวเป็นแบบที่สู้ลม สามารถกระจายลมในแนวตรงได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่เปิด ส่วนใบพัดหน้ากว้างแบบหลายใบพัดเป็นแบบที่เหมาะกับการใช้งานภายในอาคาร เพราะลมจากภายนอกอาจรบกวนการทำงานได้

พัดลมอุตสาหกรรมมีฟังก์ชันหลัก ๆ ที่โดดเด่นและช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้นได้ การตรวจสอบว่าพัดลมรุ่นที่เลือกมีฟังก์ชันเหล่านั้นครบถ้วนหรือไม่ จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้เหมาะสมกับความต้องการมากยิ่งขึ้น

1. ฟังก์ชันปรับระดับความแรง : โดยทั่วไปแล้วพัดลมอุตสาหกรรมสามารถปรับระดับความแรงได้ 3 ระดับด้วยกัน แม้ว่าตามปกติแล้วเพียงแค่ระดับ 1 ก็เย็นทั่วถึงแล้วก็ตาม แต่ในการใช้งานแบบกลางแจ้งหรือพื้นที่เปิดโล่ง การเปิดเบอร์ที่แรงขึ้นก็จะช่วยระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
2. ฟังก์ชันปรับมุมก้ม/เงย : พัดลมที่สามารถปรับมุมก้มเงยหรือหันซ้ายขวาได้ จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมทิศทางของกระแสลมได้ง่าย ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น จึงถือเป็นฟังก์ชันที่โดดเด่นของพัดลมส่วนใหญ่
3. ฟังก์ชันปรับระดับความสูง : แม้จะดูเป็นฟังก์ชันที่มีหรือไม่มีก็ได้ แต่การระดับความสูงของพัดลมอาจมีความสำคัญได้ในบางกรณี เช่น ในตอนที่ไม่อยากให้กระแสลมกระทบใบหน้าหรือดวงตามากเกินไป การปรับให้ระดับต่ำลงมาก็ช่วยตอบโจทย์ได้มากเลยทีเดียว ช่วยให้ประยุกต์ใช้ตามความต้องการได้มากยิ่งขึ้น
4. มีล้อเข็นสำหรับการเคลื่อนย้าย : เนื่องจากพัดลมอุตสาหกรรมมีน้ำหนักราว ๆ 10 kg บางครั้งการเคลื่อนย้ายด้วยตัวคนเดียวอาจทำได้ยากลำบาก แต่หากเลือกรุ่นที่มีล้อเข็นก็จะช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพละกำลังน้อยหรือผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ล้อเข็นยังมักมาพร้อมกับฐานทรงสี่เหลี่ยม ช่วยให้วางพัดลมได้อย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้นด้วย

เนื่องจากใบพัดของพัดลมใช้พลังงานจากมอเตอร์ในการหมุน ซึ่งหากมอเตอร์เกิดขัดข้อง อาทิ มอเตอร์เกิดสภาวะโอเวอร์โหลด หรือสภาวะที่มอเตอร์หมุนช้าลงในขณะที่กระแสไฟเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้น เกิดเป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อป้องกันปัญหานี้ ขอแนะนำให้เลือกพัดลมอุตสาหกรรมที่มาพร้อมกับเทอร์โมฟิวส์ (Thermal Fuse) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าที่ตัดการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า หากเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นมีอุณหภูมิภายนอกสูงเกินกว่าอุณหภูมิที่รับได้ของเทอร์โมฟิวส์ วัสดุที่ไวต่ออุณหภูมิที่อยู่ภายในจะเกิดการหลอมละลายและตัดวงจรการทำงานของพัดลมโดยอัตโนมัติ 

ทั้งนี้ การมีเทอร์โมฟิวส์ไว้อาจช่วยให้ผู้ใช้สามารถอุ่นใจได้มากขึ้น แต่การติดตั้งพัดลมไว้ในจุดที่เหมาะสม รวมถึงคอยตรวจสอบสภาพของพัดลมเพื่อให้มั่นใจว่าใช้งานได้ดีอยู่เสมอก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถือเป็นการช่วยให้หลีกเลี่ยงภัยอันตรายจากการใช้งานพัดลมได้มากยิ่งขึ้น