10 เบสไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รวมแบรนด์ดัง YAMAHA, FENDER, GIBSON

หากพูดถึงเรื่องเบสไฟฟ้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ หลายคนคงจะนึกถึงเบสไฟฟ้าจาก Gibson ซึ่งวันนี้เราได้เลือกรุ่น SG Stadard Bass ซึ่งถือเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของแบรนด์เลยก็ว่าได้ค่ะ โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก ซึ่งมักจะเป็นที่นิยมของผู้เล่นที่ชอบเบสไฟฟ้าไซซ์เล็ก หรือผู้ที่ชอบเบสเสียงแน่น ๆ ด้วยค่ะ ในส่วนของวัสดุ รุ่นนี้ทำจาก Mahogany ซึ่งให้ลายที่เป็นธรรมชาติ พร้อมเคลือบฟินิชมันเงา จึงดูเท่ไม่ซ้ำใครนั่นเอง

เชื่อว่าหลายคนที่แค่เห็นสีสันและดีไซน์ของเบสไฟฟ้ารุ่นนี้ ก็พร้อมที่จะควักเงินในกระเป๋าแล้ว เพราะนี่คือเบสไฟฟ้ารูปทรง Jaguar ที่เป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์จาก Fender ซึ่งรุ่นนี้เป็น PJ Bass ระดับท็อปที่นักดนตรีหลายคนมักจะควงขึ้นเวที เนื่องจากมีความโดดเด่น แถมคุณภาพเสียงก็ดีไม่แพ้ใคร โดยประกอบด้วย Bridge Pickup One Player Series Single-coil 1 ตัว เพิ่มเสียงนุ่มนวลเหมือน Jazz Bass และ Split-coil P Bass อีก 1 คู่ สำหรับเสียงที่มั่นคง เสริมด้วยปุ่ม Volume Control อีก 2 ตัว และ Master Tone อีก 1 ตัว จัดเต็มแบบคุ้มราคาค่ะ 

ขึ้นชื่อว่าเป็นเบสไฟฟ้าที่เหมาะกับมือใหม่ที่กูรูทางด้านดนตรีหลาย ๆ คนแนะนำเลยทีเดียว สำหรับรุ่น TRBX174 จาก YAMAHA โดยรุ่นนี้เป็นเบสแบบ 4 สาย พร้อมดีไซน์อันแสนชาญฉลาดด้วยการใช้วัสดุ Body ทำมาจากมะฮอกกานี พร้อมเคลือบ Gloss Polyurethane ทำให้มีความมันวาว แลดูเท่และมีเสน่ห์สุด ๆ ในส่วนของคอทำมาจากเมเปิล พร้อมกับ Bridge สไตล์วินเทจ ซึ่งเข้ากับดีไซน์ของเบสโดยรวมได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือ มีราคาที่ไม่สูงจนเกินไปด้วย ใครที่กำลังมองหาเบสตัวแรกแนะนำว่า รุ่นนี้คุ้มราคาแน่นอนค่ะ 

สำหรับเบสไฟฟ้า 6 สาย 24 เฟร็ต แบบ Active Bass จาก Ibanez รุ่นนี้ จะเรียกว่าเป็นเบสไฟฟ้าที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ โดยมาพร้อมกับบอดี้ Nyotah และคอเบสเมเปิลผสมวอลนัท ทับด้วยสีดำสุดบึกบึน พร้อม Dual Pickup Humbucking แบบ PowerSpan พลังสูง เสียงเคลียร์ใส จะแนวร็อก, เมทัล หรือแจ๊สก็เอาอยู่ อีกทั้งยังมาพร้อมกับ EQ แบบ Customized อีก 3 ตัว และ 3-way สวิตช์ Power Tap ให้คุณสามารถจูนเสียงได้ตามที่ต้องการมากขึ้น เป็นเบสไฟฟ้าที่สามารถนำขึ้นสเตจได้สบายค่ะ

ชาวร็อกหลายคนโดยเฉพาะมือเบสคงจะต้องรู้จักกันดีกับเบสไฟฟ้า Warwick เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่มีรูปทรงของตัวเบสอันเป็นเอกลักษณ์ ที่เมื่อแบรนด์อื่นนำไปทำตามก็จะต้องเรียกว่าเบสไฟฟ้าทรง Warwick ไปโดยปริยาย ซึ่งรุ่นนี้เป็นเบส 4 สาย 24 เฟร็ต ที่มาพร้อมกับ Humbucking คู่ เสียงใหญ่ทรงพลังสะใจ พร้อม EQ 3 ปุ่ม ปรับเสียงได้ 3 ย่าน ทั้งกลาง, แหลม และต่ำ เพื่อปรับแนวเสียงให้ตรงกับสไตล์ที่คุณชอบยิ่งขึ้น ส่วนบอดี้เป็นไม้ Ash สีธรรมชาติ มีความสวยงาม เห็นลายไม้ชัดเจนน่าสัมผัสค่ะ 

รุ่นนี้มีชื่อเรียกว่า SUB ซึ่งมาจาก Sports Utility Bass รุ่น Stingray Ray4 จากแบรนด์ Sterling By Music Man เป็นรุ่นที่สามารถเล่นได้ทั้งเพลงแนวฟังก์ แนวร็อคแอนด์โรล ไปจนถึงแนวแจ็สเลยทีเดียว มาพร้อมกับปรีแอมป์แบบ Active ขนาด 9V และสะพานสายที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการเป็นเจ้าของเบสรุ่นนี้จึงคุ้มค่ามาก ๆ ในด้านของการใช้งานรุ่นนี้เหมาะกับทั้งมือใหม่และผู้ที่มีความชำนาญในการเล่นพอสมควร นอกจากนี้รุ่นนี้ยังมีถึง 8 สีให้เลือกเลยทีเดียว ชื่นชอบสีไหนก็ลองกดชมกันได้เลยค่ะ 

ถือเป็นรุ่นคลาสสิกเลยก็ว่าได้ สำหรับ American Original '60s Precision Bass จาก Fender ที่เป็นต้นฉบับของดนตรียุคใหม่ โดยดีไซน์ของรุ่นนี้จะค่อนข้างเรียบง่าย และมีหลายสีให้เลือก ซึ่งน่าจะถูกใจใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะในส่วนของพิกอัปที่ใช้ PURE VINTAGE ‘63 PICKUPS ซึ่งถือว่าเป็นออริจินัลของเครื่องดนตรีแบบอเมริกันเลยทีเดียว ส่วนรูปทรงของคอเบสเป็นแบบ ’63 P BASS® ซึ่งมีข้อดีคือ ให้ความสบายในการเล่น และยังเหมาะกับผู้เล่นทุกสไตล์ดนตรีด้วยค่ะ 

ใครที่หลงไหลในเบสไฟฟ้าดีไซน์วินเทจ พร้อมราคาระดับกลางและคุณภาพเสียงสู้แบรนด์ใหญ่ได้ เบสไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียว โดยตัวดีไซน์นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากเบสไฟฟ้า Jazz Bass ยุคปลาย 70s แต่ก็มีความทันสมัยเพราะตัวบอดี้มีให้เลือกถึง 5 สีสัน ผลิตด้วยไม้ Okume ส่วนคอเป็นไม้เมเปิ้ล ที่มีทั้งแบบคอขาวและคอดำ ซึ่งรุ่นนี้เป็นเบสไฟฟ้า 5 สาย 21 เฟร็ต สเปกอัดแน่นด้วย Pickup Single-coil 2 ตัว และ EQ ที่ปรับได้ทั้งเสียงสูง, กลาง และต่ำ พร้อมปุ่ม Volume Control เล่นได้ดีทุกแนวเพลงค่ะ 

Squier เป็นแบรนด์ลูกของ Fender ที่เน้นผลิตกีตาร์ไฟฟ้าและเบสไฟฟ้าคุณภาพสูงในราคาย่อมเยา ซึ่งสำหรับเบสไฟฟ้าถือได้ว่าเป็นตัวแรกของใครหลายคน เนื่องจากมีราคาที่ไม่แพง และคุณภาพเสียงดี สามารถเล่นได้ทุกแนว โดยรุ่นนี้เป็นแบบ 20 เฟร็ต พร้อม Pickup Single-coil และ Split Single-coil ให้ลักษณะเสียงที่กลมกล่อมลงตัวระหว่าง Jazz Bass และ P Bass จึงเป็นเบสไฟฟ้าในระดับเริ่มต้นที่เหมาะกับทุกแนวเพลง สามารถใช้ขึ้นเวทีประกวดวงดนตรีได้สบายค่ะ

สำหรับมือใหม่ที่สนใจเล่นเบสไฟฟ้าและอยากมีเบสไฟฟ้าตัวแรกเป็นของตนเอง แต่มีงบประมาณที่จำกัด เราขอแนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ เพราะนี่คือ Jazz Bass ดีไซน์หล่อเท่จากแบรนด์ไทยอย่าง Century ที่มาพร้อมกับราคาย่อมเยาเพียงสี่พันบาทต้น ๆ เท่านั้น โดยตัวบอดี้เป็นไม้ Basswood มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี คือขาวและดำ ผสมกับส่วนคอไม้เมเปิ้ลเนื้อเนียนเกินราคา โดยรุ่นนี้เป็น Passive Bass แบบ 20 เฟร็ต ที่มาพร้อมกับ Pickup 2 ตัว เสียงแน่นเกินตัวค่ะ