กีตาร์ไฟฟ้าถือเป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรกสำหรับหลาย ๆ คนที่ต้องการฝึกเล่นดนตรี ด้วยเสียงการเล่นที่มีความหลากหลาย สามารถเล่นคนเดียวหรือจะเล่นเป็นวงดนตรีก็ได้เช่นกัน อีกทั้งเมื่อเล่นในวงดนตรียังมีความโดดเด่นด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นเครื่องดนตรีชิ้นเอกของวงที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวผู้เล่นได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การเลือกกีตาร์ไฟฟ้าสักตัวอาจไม่ง่ายเหมือนการเลือกกีตาร์โปร่งนัก เพราะกีตาร์ไฟฟ้ามีอุปกรณ์ที่ต้องคำนึงถึงหลายอย่าง ทั้งยังมีหลายรูปทรงและมีไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
วันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีการเลือกกีตาร์ไฟฟ้าเบื้องต้นที่มาพร้อมคำแนะนำจากเจ้าของโรงเรียนสอนดนตรี และยังมี 10 กีตาร์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยม ตั้งแต่รุ่นสำหรับมือสมัครเล่นจนถึงระดับมืออาชีพ รับรองว่าใครที่กำลังสนใจและอยากจะได้กีตาร์ไฟฟ้าไว้ในครอบครองสักชิ้นจะสามารถเลือกกีตาร์ไฟฟ้าที่ถูกใจได้แน่นอน
Top 5 กีตาร์ไฟฟ้า ยอดนิยม
Fender
กีตาร์ไฟฟ้ารุ่นพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของศิลปินชื่อดัง
Fender
กีตาร์ไฟฟ้าโทนเสียงนุ่มละมุน ตอบโจทย์สไตล์การเล่นได้อย่างอิสระ
VOX
โดดเด่นและให้ความรู้สึกวินเทจแบบวงดนตรีอังกฤษในยุค 60s
คุณวุ้นได้เข้าสู่วงการดนตรีตั้งแต่วัยเด็ก โดยเริ่มต้นจากการเรียนอิเล็กโทนและเปียโนตอนอายุ 8 ขวบ และฝึกฝนมาเรื่อย ๆ จนพัฒนามาเป็นครูสอนที่โรงเรียนดนตรียามาฮ่าในช่วงมหาวิทยาลัย ด้วยใจรักในด้านดนตรีและเสียงเพลง หลังจบปริญญาโทด้านการตลาดจากประเทศออสเตรเลียแล้ว จึงหาประสบการณ์ด้วยการทำงานในบริษัทค่ายเพลงมาประมาณ 3 ปีด้วย ปัจจุบันคุณวุ้นเป็นเจ้าของโรงเรียนดนตรี Yamaha Music School สาขา Regent’s International School ซึ่งถือเป็นความสุขของการทำงานในแต่ละวันที่ได้สนับสนุนด้านดนตรีให้แก่เด็ก ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของบริษัท Perfect Fifth ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของยามาฮ่า (Yamaha Music Authorized Dealer) ไม่ว่าจะเป็นเปียโน กลอง กีต้าร์ เครื่องดุริยางค์และเครื่องเสียงยามาฮ่า จึงมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ เป็นอย่างดี
คุณเก้าเป็นนักเขียนที่มีความสนใจในด้านดนตรีและกีฬา ด้วยพื้นฐานจากการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประสบการณ์การทำงานในบริษัทเอเจนซี่โฆษณา ทำให้มีทักษะด้านการเล่าเรื่องและการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทรนด์ในวงการกีฬาและดนตรี ซึ่งความหลงใหลในดนตรีทำให้คุณเก้าชื่นชอบการฟังเพลงหลากหลายแนว ศึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องเสียง หูฟัง และเครื่องดนตรีอยู่เสมอ อีกทั้งยังสนใจในวัฒนธรรมดนตรีของแต่ละยุค รวมถึงการวิเคราะห์แนวเพลงและศิลปินที่มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมเพลงในปัจจุบัน ในด้านกีฬา คุณเก้าเป็นแฟนฟุตบอลตัวยงที่ติดตามทั้งลีกระดับโลกและในประเทศ โดยสนใจเทคโนโลยีที่ช่วยพัฒนาวงการกีฬา ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ฝึกซ้อม สนีกเกอร์สำหรับนักกีฬา หรือเทคนิคการฝึกซ้อมของนักกีฬาระดับโลก จากความหลงใหลในกีฬาและดนตรี บทความของคุณเก้าจึงไม่เพียงแค่บอกเล่าข้อมูลเท่านั้น แต่ยังช่วยแนะนำวิธีเลือกซื้อสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้อ่านได้สินค้าที่ตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
กีตาร์ไฟฟ้านั้นมีหลายรูปทรงด้วยกัน ซึ่งแม้ว่าคุณจะชื่นชอบหน้าตาของกีตาร์ตัวนั้น ๆ แล้ว แต่ก็ยังมีองค์ประกอบอีกหลายส่วนในตัวกีตาร์ไฟฟ้าที่ต้องคำนึงถึง
กีตาร์ไฟฟ้าที่เราเห็นกันตามร้านขายเครื่องดนตรีหรือเวลาที่ศิลปินสะพายเล่นกันบนเวทีคอนเสิร์ตนั้นจะเห็นได้ว่า แต่ละตัวมีหน้าตาและรูปทรงแตกต่างกันไป โดยหลัก ๆ แล้วสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
กีตาร์ไฟฟ้าลำตัวทึบตัน (Solid Body) ตัวกีตาร์ไฟฟ้าจะเป็นไม้ตันทั้งชิ้น ทำให้เสียงที่ได้ออกมานั้นมีความแน่น เนื้อเสียงเต็ม เพราะไม่มีการเจาะช่องในลำตัวกีตาร์เหมือนกับกีตาร์โปร่ง บริเวณลำตัวจะมีส่วนรับเสียงหรือ Pick Up ทำหน้าที่รับเสียงสัญญาณสั่นสะเทือนขณะดีด เพื่อส่งต่อไปยังเครื่องขยายเสียง (Amplifier) ต่อไป โดยทั่วไปตัวรับสัญญาณจะมี 2 ประเภท คือ ตัวรับสัญญาณแบบแถวเดี่ยวที่เรียกว่า Single Coil และแบบแถวคู่ที่เรียกว่า Humbucker ซึ่งกีตาร์ไฟฟ้าลำตัวทึบนี้ถือเป็นทรงกีตาร์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด ทั้งยังนิยมใช้ในวงดนตรีประเภทเพลงร็อคอีกด้วย
กีตาร์ลำตัวกึ่งโปร่ง (Semi-Hollow Body) คือ กีตาร์ไฟฟ้าที่มีการเจาะช่องบนตัวกีตาร์เพื่อใส่ตัวรับสัญญาณเสียง (Pick Up) เช่นเดียวกับกีตาร์ไฟฟ้าลำตัวทึบตัน (Solid Body) บริเวณส่วนด้านข้างของกีตาร์จะมีการเจาะช่อง (Sound Hole) เอาไว้เพื่อให้เสียงเกิดความกังวาน มีความรู้สึกแบบกีตาร์โปร่งเพิ่มเข้ามามากขึ้น เป็นกีตาร์ที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อลดเสียงรบกวนหรือที่เรียกว่า Feedback ที่เกิดจากกีตาร์ไฟฟ้าลำตัวโปร่งซึ่งเป็นกีตาร์ไฟฟ้ารุ่นแรก แม้รุ่นนี้จะยังมีเสียงรบกวนอยู่บ้างแต่ก็ถือว่าไม่มาก จึงนิยมใช้เล่นในกลุ่มดนตรีประเภทดนตรี Jazz หรือ Blues
กีตาร์ไฟฟ้าลำตัวโปร่ง (Hollow Body) เป็นกีตาร์ที่มีลักษณะคล้ายกับกีตาร์ลำตัวกึ่งโปร่ง (Semi-Hollow body) แต่จะแตกต่างกันตรงที่ทรง Hollow Body มีความหนากว่า มีปริมาณช่องว่างภายในตัวกีตาร์มากกว่า ทำให้เนื้อเสียงมีความเป็นกีตาร์โปร่งมากขึ้น ซึ่งกีตาร์ไฟฟ้าลำตัวโปร่ง (Hollow Body) ถือเป็นกีตาร์ไฟฟ้าในยุคเริ่มแรก โดยการนำเอาอุปกรณ์ไฟฟ้ารับสัญญาณเสียงมาติดกับกีตาร์โปร่ง เนื่องจากต้องการให้เสียงกีตาร์ชัดขึ้นเวลาอยู่ในวงที่มีเครื่องเป่าเยอะ ๆ นั่นเอง โดยจะนิยมใช้ในวงดนตรีประเภทดนตรี Jazz, Blues หรือ Soul
รูปทรงกีตาร์เป็นเหตุผลหลักในการเลือกซื้อเลยก็ว่าได้ ด้วยความสวยงามจนรู้สึกถูกใจหรือต้องการเลือกซื้อทรงเดียวกับศิลปินที่เราชื่นชอบ ซึ่งนอกจากทรงกีตาร์ไฟฟ้าแล้ว ภายในตัวกีตาร์ไฟฟ้ายังมีอุปกรณ์สำคัญมากมาย
สะพานสายหรือ Bridge เป็นส่วนที่อยู่บนตัวกีตาร์ไฟฟ้า ใช้สำหรับพาดสายเพื่อขึงสายลงบนตัวกีตาร์ และถือเป็นส่วนที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่งที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปเวลาเลือกซื้อเพราะดูซับซ้อน แต่ความจริงแล้ว ถ้าเราเลือกซื้อผิดประเภทก็อาจมีผลต่อการเล่นและการดูแลรักษากีตาร์ไฟฟ้าไม่น้อยเลยทีเดียว โดยสะพานสายถูกแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ซึ่งจะทำงานแตกต่างกันออกไปและมีความซับซ้อนในการปรับแต่งที่ต่างกัน ดังนี้
ส่วนรับเสียงของกีตาร์ไฟฟ้าหรือ Pick up คือ ส่วนรับเสียงของกีตาร์ไฟฟ้ารวมถึงระบบไฟฟ้าในตัวกีตาร์โดยจะติดตั้งอยู่บนตัวกีตาร์ไฟฟ้าซึ่งส่งผลกับเสียงที่ออกมาโดยตรง หลัก ๆ แล้วจะมี 2 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ Pick Up แบบเดี่ยว (Single Coil) และ Pick Up แบบคู่ (Humbuckers) ซึ่ง Pick Up แบบเดี่ยว (Single Coil) จะให้เสียงที่บางกว่า ใสกว่า และ Pick Up แบบคู่ (Humbuckers) จะให้เสียงที่หนักกว่า โดยทั้งสองแบบนั้นจะเหมาะสำหรับผู้เริ่มหัดเล่น ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกตามความชอบได้เลย
Single Coil จะให้เสียงที่สดใสมีเสียง Clean ที่ไพเราะ แต่เมื่อใช้ Overdrive หรือ Distortion ร่วมด้วยจะเกิดเสียงรบกวน ดังนั้นจึงมีการคิดค้น Pickup แบบ Humbucking หรือขึ้นมาโดยนำ Single Coil สองตัวมาวางติดกัน และพันทองแดงกลับฝั่ง และวางแม่เหล็กกลับฝั่ง เพื่อทำให้เสียง Hum ที่เกิดขึ้นกับ Single Coil Pickup หายไป เป็นที่มาของชื่อ Humbucking นั่นเอง
ทั้งนี้ ผู้เล่นควรตรวจสอบว่า Pick Up นั้นเป็นแบบที่ต้องใช้ถ่านหรือไม่ โดยแบบที่ต้องใช้ถ่านเรียกว่า Active Pick Up ซึ่งมีตัวปรับเพิ่มย่านเสียงหรือเพิ่มความดัง สำหรับมือใหม่แล้วระบบนี้จะทำให้เล่นยากขึ้น เพราะต้องควบคุมอุปกรณ์ส่วนนี้ให้ดี ผู้ที่กำลังมองหากีตาร์ไฟฟ้าตัวแรกจึงควรหลีกเลี่ยงระบบ Active Pick Up นี้ไปก่อน เพราะการใช้แบบปกติหรือที่เรียกว่า Passive Pick up ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
สำหรับ Active pickup นั้นจะไม่มีเสียงรบกวน เนื่องจากใช้ Preamp เป็นตัวขยายสัญญาณจึงต้องใช้ถ่านด้วย คาแรคเตอร์เสียงจึงแตกต่างจาก Pickup ทั้งสองแบบแรก เสียงจะมีความพุ่ง ใสและแข็งแรงกว่า
ส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น เพราะเป็นที่ติดตั้งลูกบิดซึ่งใช้ในการใส่สายและปรับตั้งสายกีตาร์ไฟฟ้า โดยลูกบิดนั้นมี 2 ชนิดด้วยกัน คือ ลูกบิดแบบปกติ และ ลูกบิดแบบล็อกสาย สำหรับผู้เล่นมือใหม่สามารถใช้ได้ทั้ง 2 แบบ เนื่องจากไม่มีผลอะไรมากต่อการเล่น แต่จะมีผลกับการตั้งสายไม่ให้เสียงเพี้ยน ซึ่งลูกบิดแบบล็อกสายจะช่วยให้เสียงเพี้ยนน้อยกว่าแบบปกติ โดยจะมีหมุดไว้ให้หมุนอยู่ตรงกลางเพื่อใช้ล็อกสาย
แม้จะตัดสินใจได้แล้วว่า จะเลือกกีตาร์ไฟฟ้ารุ่นไหนจากหน้าตาและรูปทรงที่ถูกใจ ก็อย่าลืมไปทดลองเล่นของจริงดูที่ร้านก่อน เพราะเสียงที่ได้ออกมานั้นมีความเฉพาะเจาะจงและแตกต่างกันออกไปในแต่ละรุ่น ซึ่งข้อดีของการไปเลือกซื้อที่ร้าน คือ ผู้เล่นจะได้ทดลองเล่นกีตาร์ไฟฟ้าหลาย ๆ รุ่นก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเครื่องดนตรีทุกประเภท
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Fender กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น Stories Collection Eric Johnson 1954 “Virginia” Stratocaster | ![]() | กีตาร์ไฟฟ้ารุ่นพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของศิลปินชื่อดัง | |
2 | Gibson กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น Explorer | ![]() | เอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร ดีไซน์ล้ำสมัย เล่นได้สบายมือ | |
3 | Fender กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น American Performer Jazzmaster | ![]() | กีตาร์ไฟฟ้าโทนเสียงนุ่มละมุน ตอบโจทย์สไตล์การเล่นได้อย่างอิสระ | |
4 | VOX กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น Bobcat Guitar BC-S66-BK | ![]() | โดดเด่นและให้ความรู้สึกวินเทจแบบวงดนตรีอังกฤษในยุค 60s | |
5 | PRS SE กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น SE Custom 24 | ![]() | กีตาร์ไฟฟ้าที่เล่นได้หลากหลายแนวเพลง พร้อมไปกับคุณทุกเวที | |
6 | Epiphone กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น Les Paul 1959 Standard | ![]() | ออกแบบมาเพื่อคนที่ชื่นชอบความวินเทจ และกลิ่นอายย้อนยุค | |
7 | Fender กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น Standard Stratocaster | ![]() | รูปทรงยอดนิยมที่ศิลปินทั่วโลกใช้กัน เล่นง่าย ได้ทุกแนวเพลง | |
8 | Gretsch กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น Streamliner Hollow Body With Chromatic II | ![]() | กีตาร์ไฟฟ้ารูปทรงคลาสสิก มาพร้อมกับเทคโนโลยีเสียงแบบใหม่ | |
9 | Squier กีต้าร์ไฟฟ้า รุ่น Paranormal Baritone Cabronita Telecaster | ![]() | กีตาร์ไฟฟ้ารุ่นเล็กที่มีน้ำเสียงใส ให้โทนสว่างเป็นเอกลักษณ์ | |
10 | Epiphone กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น SG Special P-90 | ![]() | กีตาร์ไฟฟ้าในตำนาน ดีไซน์คลาสสิก ช่วงความถี่เสียงหลากหลาย |
Fender ได้ออกคอลเลกชันพิเศษที่นำเรื่องราวและประวัติของศิลปินชื่อดังออกมาทำให้เหมือนกีตาร์ตัวต้นแบบมากที่สุด Fender Eric Johnson 1954 Virginia Stratocaster จึงถูกดีไซน์มาให้เหมือนกีตาร์ของ Eric Johnson ศิลปินกีตาร์ชื่อดังนั่นเอง โดยรุ่นนี้เขาเคยนำไปแลกกับใครคนหนึ่ง ซึ่งเขาใช้ออกแสดงคอนเสิร์ตหลายครั้งและอัดอัลบั้มที่ได้รับรางวัล จนคนที่ได้รับไปนั้นเพิ่งมาทราบถึงความพิเศษนี้ในภายหลัง โดยรุ่นนี้จะใช้ไม้พิเศษทำให้น้ำเสียงนุ่ม มีเสียงที่ลื่นไหล ให้กลิ่นอายคลาสสิกคล้ายไวโอลิน อีกทั้งหน้าตาและสียังสะดุดตามาในโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์สมราคา
กีตาร์ไฟฟ้ารุ่น Gibson Explorer เปิดตัวออกมาในปี ค.ศ. 1958 นับได้ว่าสร้างความฮือฮาสมกับชื่อรุ่นที่แปลว่า 'นักผจญภัย' เลยทีเดียว เพราะเป็นทรงที่ทำหน้าตาออกมาได้ล้ำยุค อีกทั้งยังไม่ค่อยมียี่ห้อใดทำเลียนแบบจึงทำให้เป็นกีตาร์หายากอีกรุ่นหนึ่ง ใครเล่นที่รุ่นนี้จะโดดเด่นเป็นอย่างมาก เพราะหาคนเล่นได้น้อย ทั้งยังมีสัมผัสที่ลื่น สบายมือ เพราะลำตัวและคอทำจากไม้มะฮอกกานีพร้อมอุปกรณ์ไฟฟ้าแบบคลาสสิก ผสมผสานกันเพื่อให้ได้โทนเสียงออกมาอย่างกลมกล่อมนั่นเอง
รุ่นนี้เป็นกีตาร์ที่กำเนิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดย Fender ต้องการออกแบบให้ตัวกีตาร์ตอบสนองการเล่นแบบ Jazz ซึ่งใช้การนั่งเล่นเป็นหลัก จึงพัฒนาทรงกีตาร์จากรุ่น Stratocaster ขึ้นมาให้สอดรับกับการนั่งเล่น มาพร้อมกับคอที่ขนาดยาวขึ้นแต่จำนวนเฟร็ตเท่าเดิมทำให้เล่นโซโล่ได้ง่าย เหมาะกับแนวเพลง Jazz ที่ต้องเล่นชัดทุกโน้ต Pick Up ให้เสียงชัดเจน เรียกได้ว่าเป็นกีตาร์เอนกประสงค์อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว ใครชอบทรงกีตาร์ที่ไม่เหมือนใคร รับรองว่าจะต้องถูกใจกีตาร์ไฟฟ้าทรงนี้อย่างแน่นอน
VOX เป็นแบรนด์กีตาร์ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เน้นการออกแบบตัวกีตาร์ไฟฟ้าให้รูปลักษณ์ออกมาเป็นสไตล์วินเทจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น Bobcat กีตาร์ทรง Semi-Hollow Body หรือลำตัวกึ่งโปร่งที่ให้เสียงมีลักษณะก้องกังวานแบบกีตาร์โปร่งมากขึ้น ให้ความรู้สึกย้อนยุคกลับไปในยุคสมัยที่ผลิตกีตาร์ไฟฟ้ายุคแรก ๆ นำมาผนวกกับ Pick Up ตัวรับเสียงแบบใหม่รุ่น Bobcat V90 ทำให้เสียงที่ได้มีกลิ่นไอของความดั้งเดิมผสมกับความละเอียดของการรับเสียงแบบใหม่ ใครที่ชอบกีตาร์รูปลักษณ์วินเทจ รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่มองข้ามไปไม่ได้เลยทีเดียว
กีตาร์ไฟฟ้ารุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเล่นแนวเพลงที่หลากหลาย สามารถเล่นได้กว้างมากเนื่องจากเนื้อเสียงค่อนข้างครอบคลุมตั้งแต่ช่วงเสียงสูง กลาง จนถึงต่ำ ตั้งแต่แนวเพลงหนัก ๆ อย่าง Metal Rock จนถึงแนวเพลงลื่นหูฟังสบายอย่าง Jazz หรือ Blues ทั้งยังเล่นง่ายเนื่องจากอุปกรณ์ที่ให้มาไม่ได้ปรับแต่งยากนัก เหมาะสมสำหรับมือใหม่หรือผู้เล่นระดับกลางที่ต้องการกีตาร์สักตัวที่ใช้งานได้ยาวนานและเล่นหลากหลายแนวเพลง
กีตาร์ไฟฟ้า 1959 Les Paul Standard เป็นการกลับมาอีกครั้งของความคลาสสิก โดยมีลำตัวกีตาร์ที่ทำจากไม้มะฮอกกานี รูปทรงคอที่เหลาด้วยมือให้ความรู้สึกสบายมือระหว่างการเล่น มีสวิตช์ปรับเสียงหน้าตาแบบดั้งเดิม และการเดินวงจรไฟฟ้าเหมือนกันกับในยุค 1950 ออกแบบให้ตัวกีตาร์มีหน้าตาออกมาในสไตล์วินเทจ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบแนวดนตรีร่วมสมัยในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็น Soul, Folk, Blues หรือ Jazz โดยกีตาร์รุ่นนี้มีมาให้เลือกสองสี คือ Aged Dark Burst และ Aged Dark Cherry Burst
กีตาร์ไฟฟ้าที่ Fender พัฒนาขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ 1954 ด้วยโทนเสียงที่มีเอกลักษณ์และรูปร่างที่ดูคลาสสิกตลอดกาล ทำให้ Standard Stratocaster เป็นอีกหนึ่งรุ่นในตำนานที่ศิลปินชื่อดังของโลกหลายวงใช้กัน ด้วยราคาที่จับต้องได้และการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่ของกีตาร์ไฟฟ้ามาผนวกเข้ากับรูปทรงดั้งเดิม ทำให้หลายคนชื่นชอบที่กีตาร์รุ่นนี้สามารถเล่นได้ทั้งแนว Rock, Soul, Pop และ R&B เหมาะสำหรับผู้ฝึกหัดเล่นกีตาร์ไฟฟ้าในระดับเริ่มต้นจนถึงระดับกลาง
กีตาร์ไฟฟ้าสุดคลาสสิกรุ่นนี้เป็นสไตล์ที่แบรนด์ Epiphone คิดค้นขึ้นในปี ค.ศ. 1960 โดยเราจะได้ยินเสียงของกีตาร์รุ่นนี้ถูกบันทึกเสียงอย่างนับไม่ถ้วนในเพลงยุคนั้น ซึ่ง Epiphone ได้นำกลับมาเสนอใหม่ให้แฟน ๆ ได้สัมผัสกีตาร์ในตำนานรุ่นนี้กันอีกครั้ง โดยพัฒนาเทคโนโลยีการรับเสียงให้ดียิ่งขึ้น ใช้ Pick Up แบบ Single-Coin Epiphone P-90-Pro ได้รับแรงบันดาลใจมากรุ่นดั้งเดิมแต่ปรับปรุงให้รับเสียงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วงความถี่เสียงหลากหลายมากขึ้น และมาในราคาจับต้องได้เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นจนถึงระดับปานกลาง
อันดับที่ 1: Fender |กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น Stories Collection Eric Johnson 1954 “Virginia” Stratocaster
อันดับที่ 2: Gibson|กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น Explorer
อันดับที่ 3: Fender|กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น American Performer Jazzmaster
อันดับที่ 4: VOX |กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น Bobcat Guitar BC-S66-BK
อันดับที่ 5: PRS SE|กีตาร์ไฟฟ้า รุ่น SE Custom 24
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ