หูฟังมอนิเตอร์ถือเป็นหูฟังที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่นักดนตรี นักร้อง และสตูดิโอต่าง ๆ รวมไปถึงดีเจ นักแต่งเพลง เพราะเป็นหูฟังที่ไม่ผ่านการจูนหรือปรุงแต่งเสียงใด ๆ ซึ่งแตกต่างจากหูฟังทั่วไปที่ผ่านการจูนเสียงมาแล้ว และมีคาแรกเตอร์ของแต่ละแบรนด์ชัดเจน อีกทั้งยังให้พลังของเสียงเพลงได้ครบทุกย่านเสมอกันจากแหล่งเสียงนั้นโดยตรง
บทความนี้เรามีวิธีการเลือกหูฟังมอนิเตอร์แบบง่าย ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการทำเพลง แต่งเพลง หรืออัดเสียง พร้อมคำแนะนำของคุณธภัทร ตั้งวงษ์ไชย Sound Engineer ผู้เชี่ยวชาญ และยังมี 10 หูฟังมอนิเตอร์ จากยี่ห้อยอดนิยม ทั้งหูฟังครอบหู และหูฟัง In-ear ที่ให้เสียงคมชัด มาแนะนำเพิ่มเติมด้วย
Top 5 หูฟังมอนิเตอร์ ยอดนิยม
คุณธีร์เป็น Sound Recorder ประจำ The Standard สำนักข่าวออนไลน์ชั้นนำ ทำหน้าที่ดูแลคุณภาพเสียงของคอนเทนต์ในทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่กระบวนการ Pre-Production ไปจนถึง Post-Production ด้วยความเชี่ยวชาญด้านเสียงและอุปกรณ์บันทึกเสียงที่สั่งสมจากประสบการณ์ทำงานจริง โดยจุดเริ่มต้นของธีร์มาจากความหลงใหลในเสียงดนตรีและอุปกรณ์เครื่องเสียงมาตั้งแต่เด็ก จึงเลือกศึกษาต่อด้านบันทึกเสียงภาพยนตร์ที่ คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทำให้มีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคนิคการบันทึกเสียง อุปกรณ์เสียง และการออกแบบเสียงที่มีคุณภาพสูง นอกจากงานประจำแล้ว คุณธีร์ยังหมั่นศึกษาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านเสียงอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถพัฒนาและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเสียงดนตรี อุปกรณ์เครื่องเสียง และการบันทึกเสียงได้อย่างแม่นยำและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
คุณมอสเป็นคนที่สนใจในเครื่องใช้ไฟฟ้า แกดเจ็ต กล้อง โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไอทีมาตั้งแต่เด็ก เพราะเติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยปัจจุบันยังคงติดตามข่าวสารวงการไอทีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ เทคโนโลยีล่าสุด หรือแนวโน้มของตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นอกจากการอัปเดตข้อมูลสินค้าไอทีแล้ว คุณมอสยังชื่นชอบงานช่างและ DIY โดยมักซ่อมแซมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยตัวเองเป็นประจำ ทำให้มีความเข้าใจเรื่องโครงสร้างและฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น ความชอบนี้ช่วยให้คุณมอสสามารถเปรียบเทียบจุดเด่นจุดด้อยของสินค้าเทคโนโลยีแต่ละประเภทได้อย่างชัดเจน ทำให้สนุกกับการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ไอที ทั้งในแง่ของการเลือกซื้อ อัปเกรด และดูแลรักษา เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเองได้อย่างคุ้มค่า
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
หูฟังโดยทั่วไปแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท โดยประเภทแรกคือ Colored หมายถึง หูฟังทั่วไปที่ถูกจูนเสียงมาเรียบร้อยแล้วตามคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันไปของแต่ละแบรนด์ โดยเป็นเสียงที่ฟังแล้วรู้สึกสนุกไปกับเสียงเพลงและให้เสียงที่ผู้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบ ส่วนอีกประเภทคือ Flat หมายถึง หูฟังที่ไม่ได้ถูกจูนเสียงหรือปรุงแต่งเสียง มีคุณสมบัติหลักคือตอบสนองต่อทุกย่านความถี่เสียงได้เท่า ๆ กัน ซึ่งหูฟังมอนิเตอร์จัดอยู่ในประเภทนี้
ดังนั้น หูฟังมอนิเตอร์ คือ หูฟังที่ไม่ถูกจูนเสียงหรือปรุงแต่งเสียง เป็นหูฟังที่ให้เสียงค่อนข้างแม่นยำและเที่ยงตรงจากแหล่งเสียงนั้น ๆ โดยตรง จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับเสียง ไม่ว่าจะเป็นนักร้องที่ต้องอัดเสียงในสตูดิโอ หรือร้องเพลงบนเวทีหรือคอนเสิร์ต ซาวด์เอ็นจิเนียร์ที่ใช้ตรวจสอบเสียงเพลงหรือเสียงในสื่อต่าง ๆ นักแต่งเพลง นักดนตรี ดีเจ ที่ใช้แต่งเพลง แต่งทำนอง มิกซ์เสียง เป็นต้น
หากเป็นหูฟังทั่วไป เราอาจต้องเลือกจากชนิดของไดร์เวอร์หรือย่านความถี่เป็นหลัก รวมไปถึงการเชื่อมต่อหากเป็นไร้สาย เพื่อให้ได้หูฟังที่เหมาะกับเรามากที่สุด แต่หูฟังมอนิเตอร์จะแตกต่างออกไป เนื่องจากเป็นหูฟังที่ไม่ถูกจูนหรือปรุงแต่งเสียง สิ่งที่ทำให้มีผลมากที่สุดต่อผู้ใช้คือความดังของเสียง ซึ่งสังเกตได้จากค่า Impedence หรือค่าความต้านทานของหูฟัง
ค่า Impedence หรือค่าความต้านทานที่มีผลต่อการทำงาน ความดัง และคุณภาพเสียง มีหน่วยวัดคือ Ω (โอห์ม) ยิ่งค่าโอห์มมากเท่าไหร่ ความต้านทานก็ยิ่งมากขึ้นและต้องใช้อุปกรณ์ที่จ่ายกระแสไฟฟ้าสูงมากขึ้น เพื่อให้หูฟังมีเสียงดังและได้ยินรายละเอียดเสียงในบางย่านความถี่ได้ดีขึ้น โดยค่านี้ควรเลือกจากอุปกรณ์ที่เราใช้ร่วมกัน เพราะหากเราใช้งานผิดประเภท เช่น ใช้หูฟังที่มีโอห์มเยอะต่อเข้ากับโทรศัพท์มือถือที่มีแรงขับน้อย อาจทำให้ได้เสียงเบาหรือมีประสิทธิภาพน้อย
ดังนั้น ถ้าเราใช้งานหูฟังมอนิเตอร์กับอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ใช้แบตเตอรี่อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ อาจเลือกค่าต่ำประมาณ 16 - 32 โอห์มก็เพียงพอ ส่วนงานสตูดิโอ มิกซ์เสียง หรือระดับมืออาชีพ จะอยู่ที่ประมาณ 80 - 250 โอห์มขึ้นไป บางกรณีอาจต้องใช้งานร่วมกับแอมป์เพื่อให้ขับเสียงได้มากขึ้น
หูฟังบางรุ่นอาจระบุตัวเลข ± หลังค่าโอห์ม แปลว่าสามารถให้ประสิทธิภาพได้มากขึ้นตามตัวเลขที่ระบุไว้ เช่น 32Ω ± 15% หมายถึง 32 โอห์ม แต่มีประสิทธิภาพได้สูงสุดอีก 15% แต่เนื่องจากตัวเลขนี้ไม่สามารถวัดได้ชัดเจนและไม่มีการระบุที่แน่นอนว่าต้องเปิดความดังในระดับใดที่จะให้ค่าสูงสุดนี้ได้ เราจึงแนะนำให้ยึดจากตัวเลขโอห์มเป็นหลัก
ส่วนการตอบสนองคลื่นความถี่ของฟังมอนิเตอร์หรือ Frequency Response ควรเลือกแบบมาตรฐาน คือ 20 - 20,000 Hz เพราะเป็นค่ามาตรฐานที่หูของคนเราได้ยินชัดเจนที่สุด และให้ครบทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง สูง ที่ให้ได้ครบตั้งแต่เสียงเบสไปจนถึงเสียงร้อง อย่างไรก็ตามค่าตอบสนองคลื่นความถี่นี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน หากเน้นเบสก็อาจเน้นในส่วนย่านความถี่ต่ำประมาณ 5 - 10 Hz หรือถ้าเน้นฟังเสียงร้อง ให้เสียงดนตรีใส ๆ อาจขยายย่านความถี่ได้มากถึง 25,000 - 30,000 Hz ครับ
หูฟังมอนิเตอร์แบ่งออกได้ตามการใช้งาน 2 แบบใหญ่ ๆ คือการใช้งานเพื่อเสียงและดนตรีโดยเฉพาะ และการใช้งานทั่วไป ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม และตรวจสอบย่านความถี่ที่รองรับ ความยาวสาย และขนาดหัวแจ๊กเพิ่มเติม
เราสามารถแบ่งหูฟังมอนิเตอร์สำหรับงานเสียงและดนตรีได้เป็น 4 ประเภท คือ Closed-back, Open-back, Semi Open-back และ In-ear
หากใช้อัดเสียงในสตูดิโอไม่ว่าจะเป็นอัดเสียงร้องในห้องอัด หรือตรวจสอบเสียงในสตูดิโอ เราขอแนะนำให้ใช้หูฟังมอนิเตอร์แบบ Closed-back เพราะที่ครอบหูทั้ง 2 ข้างเป็นแบบปิด ไม่มีช่องว่าง ทำให้ช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอกระหว่างที่เรากำลังใช้งาน และไม่ให้เสียงในหูฟังรั่วไหลไปยังไมค์หรืออุปกรณ์อัดเสียงที่เรากำลังใช้งานอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยโครงสร้างของหูฟังที่เป็นแบบปิด ทำให้รู้สึกว่าเสียงโน้ตหรือดนตรีที่ได้ยินจะทึบกว่าเล็กน้อย และไม่เหมาะกับการใช้เป็นเวลานานเพราะทำให้รู้สึกล้าง่ายครับ
ส่วนรายละเอียดของเสียง ให้เน้นดูค่า Impedence ของหูฟังประมาณ 80 - 250 โอห์ม เพราะเป็นระดับมาตรฐานที่เพียงพอกับการใช้งานในสตูดิโอครับ
ถ้าต้องการใช้หูฟังมอนิเตอร์เพื่อมิกซ์เสียง เราขอแนะนำให้ใช้หูฟังมอนิเตอร์แบบ Open-back เพราะที่ครอบหูทั้ง 2 ข้างมีช่องระบายอากาศ ซึ่งโครงสร้างนี้ทำให้คลื่นเสียงเดินทางไปในอากาศ ช่วยให้เราได้ยินเสียงได้มีมิติและชัดเจนกว่า โน้ตหรือเสียงดนตรีที่ฟังไม่บวมหรือทึบจนอึดอัด แต่ด้วยช่องระบายอากาศนี้ ทำให้เราได้ยินเสียงภายนอกและเสียงในหูฟังรั่วไหลด้วย หูฟังชนิดนี้จึงเหมาะกับการใช้ในที่เงียบมากกว่าครับ
ส่วนรายละเอียดของเสียง ให้เน้นเลือกค่า Impedence ของหูฟังประมาณ 80 - 250 โอห์มเหมือนกับ Closed-back เพราะเป็นระดับที่เพียงพอกับการใช้งานมิกซ์เสียงหรืองานดีเจครับ
หากใครต้องการใช้งานได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นข้างนอกที่มีเสียงดัง รวมไปถึงที่เงียบเพื่อการมิกซ์เสียงชัดเจน ยกเว้นในห้องอัด เราสามารถเลือกใช้หูฟังมอนิเตอร์แบบ Semi Open-back ได้ ซึ่งมีลักษณะการทำงานที่คล้ายคลึงกับ Open-back แต่ให้คุณสมบัติที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง Open-back และ Closed-back นั่นคือทำได้ทั้งการตัดเสียงภายนอกและได้ยินภายนอกในคราวเดียวกัน แต่ด้วยโครงสร้างที่อยู่กึ่งกลางนี้เอง ทำให้หูฟังมอนิเตอร์ประเภทนี้ไม่เป็นที่นิยมในผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับเสียงและดนตรีมากนัก และเหมาะกับการใช้ฟังเพลงและดนตรีทั่วไปในหลายสถานการณ์มากกว่าครับ
ค่า Impedence ของหูฟังให้พิจารณาตามรูปแบบการใช้งาน หากเป็นการใช้งานทั่วไปก็สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 16 - 32 โอห์ม และสำหรับสตูดิโอให้เลือกตามค่ามาตรฐานคือ 80 - 250 โอห์ม
ถ้าเราต้องขึ้นเวทีเพื่อร้องเพลง หรือขึ้นแสดงดนตรี เล่นคอนเสิร์ต เราขอแนะนำให้ใช้หูฟังมอนิเตอร์แบบ In-ear เพราะมีขนาดเล็ก เหมาะกับใช้งานบนเวทีหรือคอนเสิร์ตมากที่สุด และมีจุกที่ปิดรูหู ทำให้เราได้ยินเสียงที่ออกมาจากหูฟังโดยตรงได้อย่างชัดเจน และช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ในระดับหนึ่ง แต่ด้วยโครงสร้างนี้เองทำให้มีข้อเสียคือ รู้สึกว่าเสียงหรือดนตรีทึบเล็กน้อย และจุกหูฟังอาจทำให้รู้สึกอึดอัดและล้าหูง่าย
ส่วนรายละเอียดของเสียง ให้เน้นค่า Impedence ของหูฟังในระหว่าง 16 - 32 โอห์ม เพราะหูฟังมีขนาดเล็กและอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันมักมีแรงขับเสียงที่น้อยซึ่งเหมาะกับหูฟังประเภทนี้ และการตอบสนองคลื่นความถี่เลือกได้จากตำแหน่งที่เล่น เพื่อช่วยให้ได้ยินเสียงนั้น ๆ มากขึ้น เช่น หากเป็นนักร้องให้เน้นย่านมิดที่ประมาณ 250 - 2,000 Hz มือกีตาร์ให้เลือกย่านสูงประมาณ 2,000 - 20,000 Hz ตำแหน่งเบสเน้นย่านความถี่ต่ำประมาณ 5 - 20 Hz ส่วนเสียงกลองให้เลือกค่ามาตรฐานเพราะเสียงกลองออกได้ในทุกย่านเสียงครับ
สำหรับการใช้งานทั่วไป ให้เน้นเลือกจากแบบครอบหูหรือแบบ In-ear โดยเลือกจากอุปกรณ์และสถานที่ที่ใช้งานเป็นหลัก เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายและมีคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด
ถ้าต้องการหูฟังมอนิเตอร์เพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเป็นหลัก เช่น เล่นเกม ดูหนัง เราขอแนะนำให้เลือกหูฟังมอนิเตอร์แบบครอบหู เพราะด้วยขนาดและโครงสร้างของหูฟังที่ใหญ่ซึ่งเหมาะกับการใช้งานเฉพาะในพื้นที่นั้น ๆ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการขับเสียง จึงสามารถให้รายละเอียดเสียงได้ดี หากต้องการได้ยินเสียงชัดเจนมากที่สุดควรเลือกแบบ Closed-back แต่ถ้าเน้นความสบายมากกว่าควรเลือกหูฟังแบบ Open-back
ค่า Impedence ของหูฟังขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากใช้งานทั่วไป 16 - 32 โอห์มก็เพียงพอ หากใช้เล่นเกมอาจเลือกสูงขึ้นประมาณ 32 - 80 โอห์มเพื่อให้ได้ยินเสียงในเกมได้อย่างชัดเจน แต่อย่าลืมดูอุปกรณ์หรือคอมพิวเตอร์ด้วยว่ามีแรงขับหรือเท่าไหร่เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ให้เลือกแบบมีสายเพื่อคุณภาพเสียงที่ดีกว่า และตรวจสอบหัวแจ๊กด้วยว่าต้องใช้อะแดปเตอร์เพื่อต่อกับกับคอมพิวเตอร์หรือไม่
สำหรับการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือฟังเพลง เราแนะนำให้เลือกหูฟังมอนิเตอร์แบบ In-ear เพราะมีขนาดเล็กและกะทัดรัด อีกทั้งมือถือมีแรงขับที่น้อยกว่า หากเน้นใช้งานในบ้านหรืออยู่กับที่ อาจเลือกแบบมีสาย แต่หากต้องพกพา ใช้ระหว่างเดินทางหรืออยู่ข้างนอก ควรเลือกแบบ True Wiresless ที่ใช้บลูทูธเวอร์ชั่น 5.0 ขึ้นไป เพราะให้ความคล่องตัวและได้คุณภาพการเชื่อมต่อที่ดีกว่าเวอร์ชั่น 4.2 มากกว่าถึง 2 เท่า และให้ดู Codec ร่วมด้วย หากมีจำนวน Codec เยอะและมือถือของเรารองรับก็ทำให้ได้เสียงที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น
ส่วนค่า Impedence ของหูฟังขึ้นอยู่กับการใช้งาน ถ้าใช้งานทั่วไปให้เลือก 16 - 32 โอห์ม หากใช้เล่นเกมอาจเลือกประมาณ 32 - 80 โอห์ม เพื่อให้ได้ยินเสียงในเกมได้อย่างชัดเจน แต่ต้องตรวจสอบแรงขับหรือการรองรับของโทรศัพท์มือถือด้วยเพื่อให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หากใครเน้นความเสถียรในการส่งสัญญาณเสียง และคุณภาพเสียงได้ครบถ้วน เราขอแนะนำให้เลือกหูฟังมอนิเตอร์แบบมีสาย เพราะสายเป็นตัวนำเสียงได้ดีที่สุด โดยอาจเป็นวัสดุทองแดงที่ส่งพลังเสียงได้ครบทุกย่าน หรือทองแดงชุบเงิน ที่นอกจากจะให้ย่านเสียงได้ครบถ้วนแล้ว ยังรองรับ Impedence ได้หลากหลาย และวัดความยาวสายว่าเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เราใช้ด้วยถึงหรือไม่ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญหากใช้ในพื้นที่ใหญ่อย่างในสตูดิโอครับ
ส่วนหัวแจ๊คหูฟังสามารถเลือกจากอุปกรณ์ที่เราใช้เชื่อมต่อ หากเป็นคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ทั่วไปจะใช้ขนาด 3.5mm แต่อุปกรณ์เครื่องเสียงในสตูดิโอส่วนใหญ่จะใช้ 6.5mm เพราะให้กระแสไฟฟ้าได้มากกว่า เราสามารถใช้อะแดปเตอร์ได้ในกรณีที่ขนาดต่างกันครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | จุดเด่น | รายละเอียด | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเภทหูฟัง | ประเภทไดรเวอร์ | วัสดุที่ครอบหูฟัง | ขนาดไดรเวอร์ | จำนวนวัตต์ | ย่านความถี่ที่รองรับ | ค่าความไวของไดรเวอร์ | ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | ความยาวสาย | พอร์ตเชื่อมต่อ | การรับประกันสินค้า | สี | |||||
1 | HyperX Cloud III | ![]() | ใส่กระชับสบาย เสียงพูดชัดเจน ให้ไดนามิกเสียงที่คมชัด | Closed Back | Dynamic | เมมโมรีโฟม, หนัง | 53 มม. | ไม่ระบุ | 10 - 21,000 Hz | 100 dB | 64 Ohms | 1.2 เมตร | USB-A, USB-C, 3.5mm Audio | 2 ปี | ดำ-แดง | |
2 | Beyerdynamic หูฟังสตูดิโอ DT 990 Pro | ![]() | เสียงกว้างเป็นธรรมชาติ ชัดทุกย่านความถี่ ใช้กำลังขับสูง | Open Back | Dynamic | โฟมแบบถอดเปลี่ยนได้ | 45 มม. | ไม่ระบุ | 5 - 35,000 Hz | ไม่ระบุ | 250 Ohms | 3 เมตร | Aux 3.5 mm, Aux 6.3 mm Adapter | 2 ปี | เทา | |
3 | Sennheiser Audiophile รุ่น HD 600 | ![]() | เสียงมีความเป็นกลาง มิติเสียงกว้าง ตอบสนองต่อเสียงไว | Open Back | Dynamic | ฟองน้ำ | 42 มม. | ไม่ระบุ | 12 - 40,500 Hz | 97 dB | 300 Ohms | 3 เมตร | 3.5mm Audio, 6.3mm Adapter | 2 ปี | ดำ | |
4 | Sony Studio Monitor Headphones|MDR-M1 | ![]() | ถ่ายทอดเสียงครบ แยกเสียงรบกวนดี โครงสร้างทนทาน | Closed Back | Dynamic | หนัง | 40 มม. | 1.5 วัตต์ | 5 - 80,000 Hz | 102 dB | 50 Ohms | 1.2, 2.5 เมตร | 3.5mm Audio, 6.3mm Adapter | 1 ปี | ดำ | |
5 | Razer Moray Monitor In-Ear | ![]() | ใช้ไดรเวอร์ 2 แบบ ได้มาตรฐานสากล กันเสียงรบกวนได้ดี | In-ear Monitor | Dynamic, Balanced Armature | พลาสติก | ไม่ระบุ | 20 - 24,000 Hz | 106 dB | 32 Ohms | 1.6 เมตร | 3.5mm Audio | 2 ปี | ดำ | ||
6 | AKG Studio Headphone|K72 | ![]() | กันเสียงเข้าได้ดี เสียงสมดุลแม่นยำ สวมได้พอดีอัตโนมัติ | Closed Back | Dynamic | หนัง | 40 มม. | ไม่ระบุ | 16 - 20,000 Hz | ไม่ระบุ | 32 Ohms | 2.5 เมตร | Aux 3.5mm, Aux 6.3 mm Adapter | 1 ปี | ดำ | |
7 | Maono หูฟังมอนิเตอร์|MH700 | ![]() | เสียงครบถ้วนสมดุล พับเก็บและหมุนได้ ใช้ได้ครอบคลุม | Closed Back | Dynamic | หนัง, พลาสติก, โลหะ | 50 มม. | 0.1 วัตต์ | 20 - 20,000 Hz | 100 dB | 32 Ohms | 1.2, 3 เมตร | 3.5mm Audio, 6.35mm | 1 ปี | ดำ, น้ำตาล | |
8 | Audio Technica หูฟังมอนิเตอร์|ATH-M70x | ![]() | รายละเอียดเสียงครบ สายถอดเปลี่ยนได้ ใส่นานไม่เมื่อย | Closed Back | Dynamic | พลาสติก, โลหะ | 45 มม. | 2 วัตต์ | 5 - 40,000 Hz | 97 dB | 35 Ohms | 1.2, 3 เมตร | 3.5mm Audio, 6.35mm | 1 ปี | ดำ | |
9 | MACKIE หูฟังมอนิเตอร์|MC-100 | ![]() | ใช้ได้กับหลายอุปกรณ์ รองรับงานสตูดิโอ เสียงชัดสมดุล | Closed Back | Dynamic | พลาสติก | 40 มม. | ไม่ระบุ | 15 - 20,000 Hz | 95 dB | 32 Ohms | 3 เมตร | 3.5mm Audio, 6.3mm Adapter | 1 ปี | ดำ | |
10 | OSTRY หูฟังอินเอียร์ระดับ HD|KC06 | ![]() | น้ำหนักเบาทนทาน ขับเสียงออกง่าย เสียงชัดครบทุกย่าน | In-ear Monitor | Dynamic | พลาสติก | 10 มม. | 0.01 วัตต์ | 20 - 25,000 Hz | 110 dB | 16 Ohms | 1.35 เมตร | 3.5mm Audio | 1 ปี | ดำ |
ประเภทหูฟัง | Closed Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | เมมโมรีโฟม, หนัง |
ขนาดไดรเวอร์ | 53 มม. |
จำนวนวัตต์ | ไม่ระบุ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 10 - 21,000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 100 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 64 Ohms |
ความยาวสาย | 1.2 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB-A, USB-C, 3.5mm Audio |
การรับประกันสินค้า | 2 ปี |
สี | ดำ-แดง |
ประเภทหูฟัง | Open Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | โฟมแบบถอดเปลี่ยนได้ |
ขนาดไดรเวอร์ | 45 มม. |
จำนวนวัตต์ | ไม่ระบุ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 5 - 35,000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | ไม่ระบุ |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 250 Ohms |
ความยาวสาย | 3 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Aux 3.5 mm, Aux 6.3 mm Adapter |
การรับประกันสินค้า | 2 ปี |
สี | เทา |
ประเภทหูฟัง | Open Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | ฟองน้ำ |
ขนาดไดรเวอร์ | 42 มม. |
จำนวนวัตต์ | ไม่ระบุ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 12 - 40,500 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 97 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 300 Ohms |
ความยาวสาย | 3 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | 3.5mm Audio, 6.3mm Adapter |
การรับประกันสินค้า | 2 ปี |
สี | ดำ |
ประเภทหูฟัง | Closed Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | หนัง |
ขนาดไดรเวอร์ | 40 มม. |
จำนวนวัตต์ | 1.5 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 5 - 80,000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 102 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 50 Ohms |
ความยาวสาย | 1.2, 2.5 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | 3.5mm Audio, 6.3mm Adapter |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | ดำ |
ประเภทหูฟัง | In-ear Monitor |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic, Balanced Armature |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | พลาสติก |
ขนาดไดรเวอร์ | ไม่ระบุ |
จำนวนวัตต์ | |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 20 - 24,000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 106 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 32 Ohms |
ความยาวสาย | 1.6 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | 3.5mm Audio |
การรับประกันสินค้า | 2 ปี |
สี | ดำ |
ประเภทหูฟัง | Closed Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | หนัง |
ขนาดไดรเวอร์ | 40 มม. |
จำนวนวัตต์ | ไม่ระบุ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 16 - 20,000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | ไม่ระบุ |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 32 Ohms |
ความยาวสาย | 2.5 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Aux 3.5mm, Aux 6.3 mm Adapter |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | ดำ |
ประเภทหูฟัง | Closed Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | หนัง, พลาสติก, โลหะ |
ขนาดไดรเวอร์ | 50 มม. |
จำนวนวัตต์ | 0.1 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 20 - 20,000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 100 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 32 Ohms |
ความยาวสาย | 1.2, 3 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | 3.5mm Audio, 6.35mm |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | ดำ, น้ำตาล |
ประเภทหูฟัง | Closed Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | พลาสติก, โลหะ |
ขนาดไดรเวอร์ | 45 มม. |
จำนวนวัตต์ | 2 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 5 - 40,000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 97 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 35 Ohms |
ความยาวสาย | 1.2, 3 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | 3.5mm Audio, 6.35mm |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | ดำ |
ประเภทหูฟัง | Closed Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | พลาสติก |
ขนาดไดรเวอร์ | 40 มม. |
จำนวนวัตต์ | ไม่ระบุ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 15 - 20,000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 95 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 32 Ohms |
ความยาวสาย | 3 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | 3.5mm Audio, 6.3mm Adapter |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | ดำ |
ประเภทหูฟัง | In-ear Monitor |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | พลาสติก |
ขนาดไดรเวอร์ | 10 มม. |
จำนวนวัตต์ | 0.01 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 20 - 25,000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 110 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 16 Ohms |
ความยาวสาย | 1.35 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | 3.5mm Audio |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | ดำ |
อันดับที่ 1: HyperX |Cloud III
อันดับที่ 2: Beyerdynamic|หูฟังสตูดิโอ DT 990 Pro
อันดับที่ 3: Sennheiser|Audiophile รุ่น HD 600
อันดับที่ 4: Sony|Studio Monitor Headphones|MDR-M1
อันดับที่ 5: Razer |Moray Monitor In-Ear
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ