หูฟังมอนิเตอร์ถือเป็นหูฟังที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่นักดนตรี นักร้อง และสตูดิโอต่าง ๆ รวมไปถึงดีเจ นักแต่งเพลง เพราะเป็นหูฟังที่ไม่ผ่านการจูนหรือปรุงแต่งเสียงใด ๆ ซึ่งแตกต่างจากหูฟังทั่วไปที่ผ่านการจูนเสียงมาแล้ว และมีคาแรกเตอร์ของแต่ละแบรนด์ชัดเจน อีกทั้งยังให้พลังของเสียงเพลงได้ครบทุกย่านอย่างเสมอกันจากแหล่งเสียงนั้นโดยตรง จึงเป็นหูฟังที่เหมาะกับทำงานเกี่ยวกับเสียงและดนตรีมากที่สุด
สิ่งที่เราต้องพิจารณามากที่สุดคือ นอกจากจะเป็นเรื่องจุดประสงค์ในการใช้งานว่าใช้ทำงานเพลงหรือใช้งานทั่วไปแล้ว ยังต้องดูประเภทของหูฟังมอนิเตอร์เพื่อให้เข้ากับจุดประสงค์นั้น ๆ รวมไปถึงค่าความต้านทานหรือค่า Impedence ที่ส่งผลต่อคุณภาพและความดังของเสียง รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เราใช้ต่อด้วยเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น โดยบทความนี้เรามีวิธีการเลือกหูฟังมอนิเตอร์พร้อมคำแนะนำจากซาวด์เอ็นจิเนียร์ และ 10 หูฟังมอนิเตอร์ที่คัดเลือกมาเพื่อการใช้งานหลากหลายรูปแบบ
Top 5 หูฟังมอนิเตอร์ ยอดนิยม
Sennheiser
ที่สุดแห่งหูฟังครอบหูแบบเปิดเพื่อการมอนิเตอร์ เสียงดีความถี่กว้าง
Shure
ตัดเสียงรบกวนได้ดี แยกเสียงเยี่ยม การันตีด้วยอันดับ 1 หลายสำนัก
Beyerdynamic
ของคุณภาพจากเยอรมัน ยอดเยี่ยมในสตูดิโอ เปลี่ยนที่ครอบหูได้
Audio Technica
หนึ่งในหูฟังมอนิเตอร์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของโลก คุ้มเกินตัว
คุณธีร์เป็น Sound Recorder ประจำ The Standard สำนักข่าวออนไลน์ชั้นนำ ทำหน้าที่ดูแลคุณภาพเสียงของคอนเทนต์ในทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่กระบวนการ Pre-Production ไปจนถึง Post-Production ด้วยความเชี่ยวชาญด้านเสียงและอุปกรณ์บันทึกเสียงที่สั่งสมจากประสบการณ์ทำงานจริง โดยจุดเริ่มต้นของธีร์มาจากความหลงใหลในเสียงดนตรีและอุปกรณ์เครื่องเสียงมาตั้งแต่เด็ก จึงเลือกศึกษาต่อด้านบันทึกเสียงภาพยนตร์ที่ คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทำให้มีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคนิคการบันทึกเสียง อุปกรณ์เสียง และการออกแบบเสียงที่มีคุณภาพสูง นอกจากงานประจำแล้ว คุณธีร์ยังหมั่นศึกษาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านเสียงอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถพัฒนาและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเสียงดนตรี อุปกรณ์เครื่องเสียง และการบันทึกเสียงได้อย่างแม่นยำและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
คุณมอสเป็นคนที่สนใจในเครื่องใช้ไฟฟ้า แกดเจ็ต กล้อง โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไอทีมาตั้งแต่เด็ก เพราะเติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยปัจจุบันยังคงติดตามข่าวสารวงการไอทีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ เทคโนโลยีล่าสุด หรือแนวโน้มของตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นอกจากการอัปเดตข้อมูลสินค้าไอทีแล้ว คุณมอสยังชื่นชอบงานช่างและ DIY โดยมักซ่อมแซมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยตัวเองเป็นประจำ ทำให้มีความเข้าใจเรื่องโครงสร้างและฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น ความชอบนี้ช่วยให้คุณมอสสามารถเปรียบเทียบจุดเด่นจุดด้อยของสินค้าเทคโนโลยีแต่ละประเภทได้อย่างชัดเจน ทำให้สนุกกับการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ไอที ทั้งในแง่ของการเลือกซื้อ อัปเกรด และดูแลรักษา เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเองได้อย่างคุ้มค่า
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
หูฟังโดยทั่วไปแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท โดยประเภทแรกคือ Colored หมายถึง หูฟังทั่วไปที่ถูกจูนเสียงมาเรียบร้อยแล้วตามคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันไปของแต่ละแบรนด์ โดยเป็นเสียงที่ฟังแล้วรู้สึกสนุกไปกับเสียงเพลงและให้เสียงที่ผู้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบ ส่วนอีกประเภทคือ Flat หมายถึง หูฟังที่ไม่ได้ถูกจูนเสียงหรือปรุงแต่งเสียง มีคุณสมบัติหลักคือตอบสนองต่อทุกย่านความถี่เสียงได้เท่า ๆ กัน ซึ่งหูฟังมอนิเตอร์จัดอยู่ในประเภทนี้
ดังนั้น หูฟังมอนิเตอร์ คือ หูฟังที่ไม่ถูกจูนเสียงหรือปรุงแต่งเสียง เป็นหูฟังที่ให้เสียงค่อนข้างแม่นยำและเที่ยงตรงจากแหล่งเสียงนั้น ๆ โดยตรง จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับเสียง ไม่ว่าจะเป็นนักร้องที่ต้องอัดเสียงในสตูดิโอ หรือร้องเพลงบนเวทีหรือคอนเสิร์ต ซาวด์เอ็นจิเนียร์ที่ใช้ตรวจสอบเสียงเพลงหรือเสียงในสื่อต่าง ๆ นักแต่งเพลง นักดนตรี ดีเจ ที่ใช้แต่งเพลง แต่งทำนอง มิกซ์เสียง เป็นต้น
หากเป็นหูฟังทั่วไป เราอาจต้องเลือกจากชนิดของไดร์เวอร์หรือย่านความถี่เป็นหลัก รวมไปถึงการเชื่อมต่อหากเป็นไร้สาย เพื่อให้ได้หูฟังที่เหมาะกับเรามากที่สุด แต่หูฟังมอนิเตอร์จะแตกต่างออกไป เนื่องจากเป็นหูฟังที่ไม่ถูกจูนหรือปรุงแต่งเสียง สิ่งที่ทำให้มีผลมากที่สุดต่อผู้ใช้คือความดังของเสียง ซึ่งสังเกตได้จากค่า Impedence หรือค่าความต้านทานของหูฟัง
ค่า Impedence หรือค่าความต้านทานที่มีผลต่อการทำงาน ความดัง และคุณภาพเสียง มีหน่วยวัดคือ Ω (โอห์ม) ยิ่งค่าโอห์มมากเท่าไหร่ ความต้านทานก็ยิ่งมากขึ้นและต้องใช้อุปกรณ์ที่จ่ายกระแสไฟฟ้าสูงมากขึ้น เพื่อให้หูฟังมีเสียงดังและได้ยินรายละเอียดเสียงในบางย่านความถี่ได้ดีขึ้น โดยค่านี้ควรเลือกจากอุปกรณ์ที่เราใช้ร่วมกัน เพราะหากเราใช้งานผิดประเภท เช่น ใช้หูฟังที่มีโอห์มเยอะต่อเข้ากับโทรศัพท์มือถือที่มีแรงขับน้อย อาจทำให้ได้เสียงเบาหรือมีประสิทธิภาพน้อย
ดังนั้น ถ้าเราใช้งานหูฟังมอนิเตอร์กับอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ใช้แบตเตอรี่อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ อาจเลือกค่าต่ำประมาณ 16 - 32 โอห์มก็เพียงพอ ส่วนงานสตูดิโอ มิกซ์เสียง หรือระดับมืออาชีพ จะอยู่ที่ประมาณ 80 - 250 โอห์มขึ้นไป บางกรณีอาจต้องใช้งานร่วมกับแอมป์เพื่อให้ขับเสียงได้มากขึ้น
หูฟังบางรุ่นอาจระบุตัวเลข ± หลังค่าโอห์ม แปลว่าสามารถให้ประสิทธิภาพได้มากขึ้นตามตัวเลขที่ระบุไว้ เช่น 32Ω ± 15% หมายถึง 32 โอห์ม แต่มีประสิทธิภาพได้สูงสุดอีก 15% แต่เนื่องจากตัวเลขนี้ไม่สามารถวัดได้ชัดเจนและไม่มีการระบุที่แน่นอนว่าต้องเปิดความดังในระดับใดที่จะให้ค่าสูงสุดนี้ได้ เราจึงแนะนำให้ยึดจากตัวเลขโอห์มเป็นหลัก
ส่วนการตอบสนองคลื่นความถี่ของฟังมอนิเตอร์หรือ Frequency Response ควรเลือกแบบมาตรฐาน คือ 20 - 20,000 Hz เพราะเป็นค่ามาตรฐานที่หูของคนเราได้ยินชัดเจนที่สุด และให้ครบทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง สูง ที่ให้ได้ครบตั้งแต่เสียงเบสไปจนถึงเสียงร้อง อย่างไรก็ตามค่าตอบสนองคลื่นความถี่นี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน หากเน้นเบสก็อาจเน้นในส่วนย่านความถี่ต่ำประมาณ 5 - 10 Hz หรือถ้าเน้นฟังเสียงร้อง ให้เสียงดนตรีใส ๆ อาจขยายย่านความถี่ได้มากถึง 25,000 - 30,000 Hz ครับ
หูฟังมอนิเตอร์แบ่งออกได้ตามการใช้งาน 2 แบบใหญ่ ๆ คือการใช้งานเพื่อเสียงและดนตรีโดยเฉพาะ และการใช้งานทั่วไป ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม และตรวจสอบย่านความถี่ที่รองรับ ความยาวสาย และขนาดหัวแจ๊กเพิ่มเติม
เราสามารถแบ่งหูฟังมอนิเตอร์สำหรับงานเสียงและดนตรีได้เป็น 4 ประเภท คือ Closed-back, Open-back, Semi Open-back และ In-ear
หากใช้อัดเสียงในสตูดิโอไม่ว่าจะเป็นอัดเสียงร้องในห้องอัด หรือตรวจสอบเสียงในสตูดิโอ เราขอแนะนำให้ใช้หูฟังมอนิเตอร์แบบ Closed-back เพราะที่ครอบหูทั้ง 2 ข้างเป็นแบบปิด ไม่มีช่องว่าง ทำให้ช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอกระหว่างที่เรากำลังใช้งาน และไม่ให้เสียงในหูฟังรั่วไหลไปยังไมค์หรืออุปกรณ์อัดเสียงที่เรากำลังใช้งานอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยโครงสร้างของหูฟังที่เป็นแบบปิด ทำให้รู้สึกว่าเสียงโน้ตหรือดนตรีที่ได้ยินจะทึบกว่าเล็กน้อย และไม่เหมาะกับการใช้เป็นเวลานานเพราะทำให้รู้สึกล้าง่ายครับ
ส่วนรายละเอียดของเสียง ให้เน้นดูค่า Impedence ของหูฟังประมาณ 80 - 250 โอห์ม เพราะเป็นระดับมาตรฐานที่เพียงพอกับการใช้งานในสตูดิโอครับ
ถ้าต้องการใช้หูฟังมอนิเตอร์เพื่อมิกซ์เสียง เราขอแนะนำให้ใช้หูฟังมอนิเตอร์แบบ Open-back เพราะที่ครอบหูทั้ง 2 ข้างมีช่องระบายอากาศ ซึ่งโครงสร้างนี้ทำให้คลื่นเสียงเดินทางไปในอากาศ ช่วยให้เราได้ยินเสียงได้มีมิติและชัดเจนกว่า โน้ตหรือเสียงดนตรีที่ฟังไม่บวมหรือทึบจนอึดอัด แต่ด้วยช่องระบายอากาศนี้ ทำให้เราได้ยินเสียงภายนอกและเสียงในหูฟังรั่วไหลด้วย หูฟังชนิดนี้จึงเหมาะกับการใช้ในที่เงียบมากกว่าครับ
ส่วนรายละเอียดของเสียง ให้เน้นเลือกค่า Impedence ของหูฟังประมาณ 80 - 250 โอห์มเหมือนกับ Closed-back เพราะเป็นระดับที่เพียงพอกับการใช้งานมิกซ์เสียงหรืองานดีเจครับ
หากใครต้องการใช้งานได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นข้างนอกที่มีเสียงดัง รวมไปถึงที่เงียบเพื่อการมิกซ์เสียงชัดเจน ยกเว้นในห้องอัด เราสามารถเลือกใช้หูฟังมอนิเตอร์แบบ Semi Open-back ได้ ซึ่งมีลักษณะการทำงานที่คล้ายคลึงกับ Open-back แต่ให้คุณสมบัติที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง Open-back และ Closed-back นั่นคือทำได้ทั้งการตัดเสียงภายนอกและได้ยินภายนอกในคราวเดียวกัน แต่ด้วยโครงสร้างที่อยู่กึ่งกลางนี้เอง ทำให้หูฟังมอนิเตอร์ประเภทนี้ไม่เป็นที่นิยมในผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับเสียงและดนตรีมากนัก และเหมาะกับการใช้ฟังเพลงและดนตรีทั่วไปในหลายสถานการณ์มากกว่าครับ
ค่า Impedence ของหูฟังให้พิจารณาตามรูปแบบการใช้งาน หากเป็นการใช้งานทั่วไปก็สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 16 - 32 โอห์ม และสำหรับสตูดิโอให้เลือกตามค่ามาตรฐานคือ 80 - 250 โอห์ม
ถ้าเราต้องขึ้นเวทีเพื่อร้องเพลง หรือขึ้นแสดงดนตรี เล่นคอนเสิร์ต เราขอแนะนำให้ใช้หูฟังมอนิเตอร์แบบ In-ear เพราะมีขนาดเล็ก เหมาะกับใช้งานบนเวทีหรือคอนเสิร์ตมากที่สุด และมีจุกที่ปิดรูหู ทำให้เราได้ยินเสียงที่ออกมาจากหูฟังโดยตรงได้อย่างชัดเจน และช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ในระดับหนึ่ง แต่ด้วยโครงสร้างนี้เองทำให้มีข้อเสียคือ รู้สึกว่าเสียงหรือดนตรีทึบเล็กน้อย และจุกหูฟังอาจทำให้รู้สึกอึดอัดและล้าหูง่าย
ส่วนรายละเอียดของเสียง ให้เน้นค่า Impedence ของหูฟังในระหว่าง 16 - 32 โอห์ม เพราะหูฟังมีขนาดเล็กและอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันมักมีแรงขับเสียงที่น้อยซึ่งเหมาะกับหูฟังประเภทนี้ และการตอบสนองคลื่นความถี่เลือกได้จากตำแหน่งที่เล่น เพื่อช่วยให้ได้ยินเสียงนั้น ๆ มากขึ้น เช่น หากเป็นนักร้องให้เน้นย่านมิดที่ประมาณ 250 - 2,000 Hz มือกีตาร์ให้เลือกย่านสูงประมาณ 2,000 - 20,000 Hz ตำแหน่งเบสเน้นย่านความถี่ต่ำประมาณ 5 - 20 Hz ส่วนเสียงกลองให้เลือกค่ามาตรฐานเพราะเสียงกลองออกได้ในทุกย่านเสียงครับ
สำหรับการใช้งานทั่วไป ให้เน้นเลือกจากแบบครอบหูหรือแบบ In-ear โดยเลือกจากอุปกรณ์และสถานที่ที่ใช้งานเป็นหลัก เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายและมีคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด
ถ้าต้องการหูฟังมอนิเตอร์เพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเป็นหลัก เช่น เล่นเกม ดูหนัง เราขอแนะนำให้เลือกหูฟังมอนิเตอร์แบบครอบหู เพราะด้วยขนาดและโครงสร้างของหูฟังที่ใหญ่ซึ่งเหมาะกับการใช้งานเฉพาะในพื้นที่นั้น ๆ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการขับเสียง จึงสามารถให้รายละเอียดเสียงได้ดี หากต้องการได้ยินเสียงชัดเจนมากที่สุดควรเลือกแบบ Closed-back แต่ถ้าเน้นความสบายมากกว่าควรเลือกหูฟังแบบ Open-back
ค่า Impedence ของหูฟังขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากใช้งานทั่วไป 16 - 32 โอห์มก็เพียงพอ หากใช้เล่นเกมอาจเลือกสูงขึ้นประมาณ 32 - 80 โอห์มเพื่อให้ได้ยินเสียงในเกมได้อย่างชัดเจน แต่อย่าลืมดูอุปกรณ์หรือคอมพิวเตอร์ด้วยว่ามีแรงขับหรือเท่าไหร่เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ให้เลือกแบบมีสายเพื่อคุณภาพเสียงที่ดีกว่า และตรวจสอบหัวแจ๊กด้วยว่าต้องใช้อะแดปเตอร์เพื่อต่อกับกับคอมพิวเตอร์หรือไม่
สำหรับการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือฟังเพลง เราแนะนำให้เลือกหูฟังมอนิเตอร์แบบ In-ear เพราะมีขนาดเล็กและกะทัดรัด อีกทั้งมือถือมีแรงขับที่น้อยกว่า หากเน้นใช้งานในบ้านหรืออยู่กับที่ อาจเลือกแบบมีสาย แต่หากต้องพกพา ใช้ระหว่างเดินทางหรืออยู่ข้างนอก ควรเลือกแบบ True Wiresless ที่ใช้บลูทูธเวอร์ชั่น 5.0 ขึ้นไป เพราะให้ความคล่องตัวและได้คุณภาพการเชื่อมต่อที่ดีกว่าเวอร์ชั่น 4.2 มากกว่าถึง 2 เท่า และให้ดู Codec ร่วมด้วย หากมีจำนวน Codec เยอะและมือถือของเรารองรับก็ทำให้ได้เสียงที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น
ส่วนค่า Impedence ของหูฟังขึ้นอยู่กับการใช้งาน ถ้าใช้งานทั่วไปให้เลือก 16 - 32 โอห์ม หากใช้เล่นเกมอาจเลือกประมาณ 32 - 80 โอห์ม เพื่อให้ได้ยินเสียงในเกมได้อย่างชัดเจน แต่ต้องตรวจสอบแรงขับหรือการรองรับของโทรศัพท์มือถือด้วยเพื่อให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หากใครเน้นความเสถียรในการส่งสัญญาณเสียง และคุณภาพเสียงได้ครบถ้วน เราขอแนะนำให้เลือกหูฟังมอนิเตอร์แบบมีสาย เพราะสายเป็นตัวนำเสียงได้ดีที่สุด โดยอาจเป็นวัสดุทองแดงที่ส่งพลังเสียงได้ครบทุกย่าน หรือทองแดงชุบเงิน ที่นอกจากจะให้ย่านเสียงได้ครบถ้วนแล้ว ยังรองรับ Impedence ได้หลากหลาย และวัดความยาวสายว่าเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เราใช้ด้วยถึงหรือไม่ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญหากใช้ในพื้นที่ใหญ่อย่างในสตูดิโอครับ
ส่วนหัวแจ๊คหูฟังสามารถเลือกจากอุปกรณ์ที่เราใช้เชื่อมต่อ หากเป็นคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ทั่วไปจะใช้ขนาด 3.5mm แต่อุปกรณ์เครื่องเสียงในสตูดิโอส่วนใหญ่จะใช้ 6.5mm เพราะให้กระแสไฟฟ้าได้มากกว่า เราสามารถใช้อะแดปเตอร์ได้ในกรณีที่ขนาดต่างกันครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเภทหูฟัง | ประเภทไดรเวอร์ | วัสดุที่ครอบหูฟัง | ขนาดไดรเวอร์ | จำนวนวัตต์ | ย่านความถี่ที่รองรับ | ค่าความไวของไดรเวอร์ | ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | ความยาวสาย | พอร์ตเชื่อมต่อ | การรับประกันสินค้า | สี | |||||
1 | Sennheiser หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น HD 800S | ![]() | ที่สุดแห่งหูฟังครอบหูแบบเปิดเพื่อการมอนิเตอร์ เสียงดีความถี่กว้าง | Open Back | Dynamic | ฟองน้ำ, ผ้าไมโครไฟเบอร์ | - | - | 4 - 51000 Hz | ไม่ระบุ | 300 Ohms | 3 เมตร | Aux 6.3mm, XLR4 | 2 ปี | ดำ | |
2 | Shure หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น SE846 Pro GEN 2 | ![]() | ตัดเสียงรบกวนได้ดี แยกเสียงเยี่ยม การันตีด้วยอันดับ 1 หลายสำนัก | IEM | Balanced Armature | ซิลิโคน | - | - | 18 – 19000 Hz | 119 dB | 36 Ohms | 1.2 เมตร | Aux 3.5 mm, Aux 6.3 mm Adapter, Wireless Line | 2 ปี | ดำ | |
3 | Beyerdynamic หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น DT 990 Pro 250 ohms | ![]() | ของคุณภาพจากเยอรมัน ยอดเยี่ยมในสตูดิโอ เปลี่ยนที่ครอบหูได้ | Open Back | Dynamic | โฟมแบบถอดเปลี่ยนได้ | 45 มม. | - | 5 - 35000 Hz | ไม่ระบุ | 250 Ohms | 3 เมตร | Aux 3.5 mm, Aux 6.3 mm Adapter | 2 ปี | เทา | |
4 | Audio Technica หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น ATH-M50x | ![]() | หนึ่งในหูฟังมอนิเตอร์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของโลก คุ้มเกินตัว | Closed Back | Dynamic | ฟองน้ำ, หนังเทียม | 45 มม. | - | 5 - 28000 Hz | 99 dB | 38 Ohms | 1.2 เมตร(ตรง), 3 เมตร(ขด), 3 เมตร(ตรง) | Aux 3.5 mm, Aux 6.3 mm Adapter | 1 ปี | ดำ | |
5 | SONY หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น MDR-M1ST | ![]() | หูฟังมอนิเตอร์คุณภาพระดับ Hi-Res รองรับความถี่สูงสุด 80kHz | Closed Back | Dynamic | ฟองน้ำ, หนังเทียม | 50 มม. | - | 18 - 22000 Hz | 98 dB | 32 Ohms | 3 เมตร | AUX 6.3mm Adapter, Aux 3.5mm | 1 ปี | ดำ | |
6 | Superlux หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น HD660PRO | ![]() | มีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น ดีไซน์และวัสดุพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงง่าย | Closed Back | Neodymium | ฟองน้ำ, หนังเทียม | 50 มม. | 600 mW | 20 - 20000 Hz | 110 dB | 328 Ohms | 1.2 เมตร(3.5 mm), 2.6 เมตร(3.5 mm - 6.3 mm) | Aux 3.5 mm, Aux 6.3 mm Adapter | 1 ปี | ดำ | |
7 | TFZ หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น King LTD | ![]() | IEM ระดับ Audiophile ไดรเวอร์ไดนามิกแยกเสียงชัด สีสันสวยงาม | IEM | Hybrid | ซิลิโคน | - | - | 7 - 40000 Hz | 112 dB | 25 Ohms | - | Aux 3.5 mm | 6 เดือน | ทอง, ดำ | |
8 | AKG หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น K72 | ![]() | ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ ดีไซน์ใส่สบาย ใช้ได้กับอุปกรณ์หลากหลาย | IEM | Dynamic | ซิลิโคน | - | - | 20 - 20000 Hz | 107 dB | 12 Ohms | 1.6 เมตร | Aux 3.5mm, Aux 6.3 mm Adapter | 1 ปี | ดำ | |
9 | KZ หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น ZEX Pro | ![]() | ไดรเวอร์ 3 ตัว ให้แนวเสียงธรรมชาติ ตอบสนองความถี่ถึง 40kHz | Semi Open Back | Dynamic | Memory Foam, ผ้า | - | - | 5 - 35000 Hz | ไม่ระบุ | 250 Ohms | 3 เมตร | Aux 6.3mm Adapter, Aux 3.5 mm | 2 ปี | เทา | |
10 | FRANKEN หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น MHP-02 | ![]() | รุ่นยอดฮิตราคาประหยัด โครงสร้างแข็งแรง สายหูฟังยาว 3M | Semi Open Back | Dynamic | ฟองน้ำ, หนังเทียม | 30 มม. | 200 mW | 15 - 25000 Hz | 104 dB | 55 Ohms | 3 เมตร | Aux 3.5 mm, Aux 6.3 mm Adapter | 1 ปี | ดำทอง |
Sennheiser เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและคุ้นเคยเป็นอย่างมากในกลุ่มคนที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการดนตรี โดยทางแบรนด์ได้นี้มีการผลิตหูฟังคุณภาพดีออกมาวางจำหน่ายกันด้วย สำหรับหูฟังรุ่นนี้เป็นรุ่นหนึ่งที่เหล่าคนในวงการดนตรีนิยมนำมาใช้งานกัน หูฟังรุ่นนี้เป็นรุ่นที่พัฒนามาจากรุ่น HD 800 มาพร้อมกับสเปกที่สูงมากขึ้น มีย่านความถี่กว้างระหว่าง 4 - 51,000 Hz ช่วยให้คุณได้รับฟังเสียงที่คมชัดอย่างแน่นอนครับ
แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้หูฟังสามารถถ่ายทอดเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือไดรเวอร์ไดนามิกขนาดใหญ่ 56 mm และ Voice Coil 40 mm อีกทั้งยังมีค่าความต้านทาน 300 ohms เสียงที่ออกมาจะมีความแม่นยำ เป็นธรรมชาติ เสียงมีความกังวาล นอกจากคุณภาพในการให้เสียงระดับพรีเมียมแล้ว ดีไซน์ของตัวหูฟังยังคงดูหรูหรา สวยงาม โดยทาง Sennheiser มีการนำวัสดุระดับพรีเมียมมาใช้ในการผลิตและออกแบบมาให้ดูโมเดิร์นมากเป็นพิเศษด้วยครับ
ประเภทหูฟัง | Open Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | ฟองน้ำ, ผ้าไมโครไฟเบอร์ |
ขนาดไดรเวอร์ | - |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 4 - 51000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | ไม่ระบุ |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 300 Ohms |
ความยาวสาย | 3 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Aux 6.3mm, XLR4 |
การรับประกันสินค้า | 2 ปี |
สี | ดำ |
สำหรับหูฟังของ Shure รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นเรือธงเลยทีเดียว โดยมีการการันตีคุณภาพการใช้งานจากผู้ใช้ทั่วโลก มั่นใจได้เลยว่าหูฟังรุ่นนี้จะให้เสียงที่เต็มประสิทธิภาพ เป็นหูฟัง IEM ที่มีการออกแบบส่วนของหูฟังตามหลักสรีรศาสตร์ คุณจึงสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานโดยไม่รู้สึกระคายเคืองหู หากปรับองศาตัวหูฟังให้สอดคล้องกับรูหูจะสามารถใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น เข้ากับรูหูได้พอดีโดยไม่หลุดออกมา อีกทั้งยังถอดสายหูฟังได้เพื่อประยุกต์ใช้งานหูฟังร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้ครับ
แต่สิ่งที่ทำให้หูฟังรุ่นนี้ครองใจผู้ใช้งานมาอย่างยาวนานก็คือประสิทธิภาพในการให้เสียงระดับพรีเมียม ด้วยไดรเวอร์ 4 ตัว ระดับ Hi-definition ผสานกับการออกแบบ Low-pass filter ลักษณะพิเศษ ที่จะให้เสียงต่ำกับเสียงเบสมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เหมาะอย่างยิ่งกับการนำมาใช้ตรวจสอบหรือประเมินเสียงดนตรีที่มีรายละเอียดมาก ช่วยเพิ่มสมาธิในการรับฟังด้วยเทคโนโลยี Sound Isolating™ ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้มากถึง 37dB เลยครับ
ประเภทหูฟัง | IEM |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Balanced Armature |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | ซิลิโคน |
ขนาดไดรเวอร์ | - |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 18 – 19000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 119 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 36 Ohms |
ความยาวสาย | 1.2 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Aux 3.5 mm, Aux 6.3 mm Adapter, Wireless Line |
การรับประกันสินค้า | 2 ปี |
สี | ดำ |
Beyerdynamic เป็นแบรนด์ดังจากทางเยอรมนีที่มีการผลิตสินค้าประเภทหูฟังและเครื่องเสียงคุณภาพสูงออกมาอยู่ตลอด และสำหรับหูฟังรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งหูฟังคุณภาพสูงที่คนทำงานสายวิศวกรรมเสียงหรือทำงานสายดนตรีสามารถนำมาใช้ประกอบอาชีพได้ หูฟังรุ่นนี้เป็นหูฟังแบบ Open Back จะทำให้คุณสัมผัสกับเวทีเสียงที่กว้างมากกว่าเดิม คุณสมบัตินี้ช่วยให้คุณทำการแยกรายละเอียดของเสียงที่ได้ยินได้อย่างสะดวกมากขึ้น
หูฟังรุ่นนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในสตูดิโอ เสริมคุณภาพเสียงด้วยไดรเวอร์ TESLA.11 รองรับความถี่ 5 - 35,000 Hz เมื่อนำมาใช้งานจะรู้สึกได้ว่าเสียงที่ออกมามีความสมดุลมากเป็นพิเศษ ส่วนตัวหูฟังมีการเสริมด้วยนวมที่มีความนุ่ม หุ้มด้วยผ้ากำมะหยี่ ดูสวยงาม หรูหรา ไม่เก็บความร้อน ใช้งานได้นานโดยไม่รู้สึกร้อนหู อีกทั้งยังเป็นหูฟังระดับพรีเมียมที่มีราคาจับต้องได้ง่ายอีกด้วยครับ
ประเภทหูฟัง | Open Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | โฟมแบบถอดเปลี่ยนได้ |
ขนาดไดรเวอร์ | 45 มม. |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 5 - 35000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | ไม่ระบุ |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 250 Ohms |
ความยาวสาย | 3 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Aux 3.5 mm, Aux 6.3 mm Adapter |
การรับประกันสินค้า | 2 ปี |
สี | เทา |
อีกหนึ่งหูฟังมอนิเตอร์แบบ Closed Back ที่มักจะพบเห็นทั่วไปตามสตูดิโอในการทำเพลง เพราะเป็นหูฟังราคาจับต้องง่ายแต่มาพร้อมกับคุณสมบัติในการให้เสียงที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้หูฟังมอนิเตอร์ยี่ห้ออื่น ๆ อีกทั้ง Audio Technica ยังเป็นแบรนด์ที่มีการใช้งานกันทั่วโลก คุณจึงมั่นใจได้เลยว่าเมื่อนำหูฟังรุ่นนี้มาใช้งาน คุณจะได้รับฟังเสียงแบบมีรายละเอียดครบถ้วน ชัดเจนทุกย่านเสียง ไม่ว่าเสียงที่คุณได้ยินจะเป็นเสียงในโทนไหนก็ตาม
หูฟังรุ่นนี้มาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 45 mm รองรับย่านความถี่ 5 - 28,000 Hz เสียงที่ได้ยินจะมีความแม่นยำ โดยทางแบรนด์ได้มีการเพิ่ม Voice Coil วัสดุลวดอะลูมิเนียมเคลือบทองแดง ช่วยให้การถ่ายทอดเสียงเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้หูฟังรุ่นนี้ยังมีการออกแบบมาให้คุณสามารถทำการพับตัวหูฟังได้อย่างสะดวก ช่วยให้คุณจัดเก็บได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งยังมีซองหนังสำหรับจัดเก็บมาให้คุณได้ใช้งานกันอีกด้วยครับ
ประเภทหูฟัง | Closed Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | ฟองน้ำ, หนังเทียม |
ขนาดไดรเวอร์ | 45 มม. |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 5 - 28000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 99 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 38 Ohms |
ความยาวสาย | 1.2 เมตร(ตรง), 3 เมตร(ขด), 3 เมตร(ตรง) |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Aux 3.5 mm, Aux 6.3 mm Adapter |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | ดำ |
SONY เป็นแบรนด์หนึ่งที่มีการผลิตสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมามากมาย และแน่นอนว่าทาง SONY เองก็ได้มีการผลิตและวางจำหน่ายหูฟังมอนิเตอร์ออกมาด้วย โดยหูฟังรุ่นนี้โดดเด่นเป็นพิเศษด้วยดีไซน์ที่ดูเรียบหรูและเท่ไปพร้อม ๆ กัน หากนำมาใช้ทำงานในสตูดิโอจะเพิ่มความโดดเด่นให้กับคุณได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นหูฟังที่มีน้ำหนักเบาเพียง 215 กรัม เท่านั้น แม้ว่าจะเป็นหูฟังแบบครอบหูแต่สามารถใช้งานได้ยาวนานโดยไม่รู้สึกปวดเมื่อยอย่างแน่นอนครับ
นอกจากดีไซน์ที่ดูสวยงามแล้ว หูฟังรุ่นนี้ยังมาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 40 mm Voice Coil แบบอะขดลวดลูมิเนียมเคลือบทองแดงหรือ CCAW ให้เสียงที่ออกมามีคุณภาพ เป็นธรรมชาติและชัดเจนมากยิ่งขึ้น รองรับความถี่เสียงตั้งแต่ 5 - 80,000 Hz ระบบ Hi-Res ใช้งานได้อย่างมั่นใจ เพราะระบบภายในของหูฟังรุ่นนี้ผ่านการทดสอบมาตรฐานโดยองค์กร JEITA ประเทศญี่ปุ่น เหล่าคนที่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับเสียงสามารถนำมาใช้งานได้ครับ
ประเภทหูฟัง | Closed Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | ฟองน้ำ, หนังเทียม |
ขนาดไดรเวอร์ | 50 มม. |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 18 - 22000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 98 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 32 Ohms |
ความยาวสาย | 3 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | AUX 6.3mm Adapter, Aux 3.5mm |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | ดำ |
หูฟังราคาประหยัดที่เหล่านักดนตรีชื่นชอบเป็นอย่างมาก เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพในการใช้งานที่ครอบคลุม หูฟังรุ่นนี้เป็นหูฟังแบบครอบหู Closed Back ที่มีเวทีเสียงกว้างมากรุ่นหนึ่ง ส่วนไดรเวอร์มีขนาด 40 mm ชนิดนีโอไดเมียม รองรับย่านความถี่เสียง 10 - 30,000 kHz นอกจากนี้หูฟังรุ่นนี้ยังมีการออกแบบมาให้มี 2 ลักษณะ คือแบบความต้านทาน 150 ohms และ 32 ohms สามารถเลือกใช้ในแบบที่เหมาะกับลักษณะงานได้ครับ
จุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้คือให้เสียงในระดับ Audiophile เสียงที่ออกมาจะเป็นธรรมชาติมากกว่าปกติ แม้ว่าจะเป็นหูฟังราคาประหยัดแต่ดีไซน์ของตัวหูฟังกลับดูสวยงามและพรีเมียมเป็นอย่างมาก เพราะทางแบรนด์ได้ออกแบบตัวหูฟังมาให้ดูหรูหรา ส่วนของโครงหูฟังเป็นโลหะที่มีความแข็งแรง เสริมด้วยหนังและกำมะหยี่ ให้สัมผัสที่รู้สึกนุ่มเมื่อนำมาใช้งาน สามารถใช้งานได้ยาวนานโดยไม่รู้สึกเจ็บบริเวณใบหูครับ
ประเภทหูฟัง | Closed Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Neodymium |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | ฟองน้ำ, หนังเทียม |
ขนาดไดรเวอร์ | 50 มม. |
จำนวนวัตต์ | 600 mW |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 20 - 20000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 110 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 328 Ohms |
ความยาวสาย | 1.2 เมตร(3.5 mm), 2.6 เมตร(3.5 mm - 6.3 mm) |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Aux 3.5 mm, Aux 6.3 mm Adapter |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | ดำ |
หูฟังรุ่นนี้เป็นหูฟัง IEM หรือ In-Ear Monitor แม้ว่าจะเป็นหูฟังที่มีราคาในระดับที่คุณพบเห็นกันโดยทั่วไป แต่หูฟังรุ่นนี้สามารถนำมาใช้งานได้อย่างหลากหลาย คนทั่วไปสามารถนำมาใช้งานได้ เพราะสามารถถ่ายทอดเสียงต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะใช้ในการฟังเพลง เล่นเกม หรือดูหนังก็ทำได้อย่างอิสระ ตัวหูฟังมีดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย มีให้เลือกใช้งานหลายสี สามารถนำมาใช้งานนอกบ้านได้อย่างไม่ติดปัญหาใด ๆ เลยครับ
เนื่องจากเป็นหูฟังขนาดเล็ก แต่มาพร้อมกับไดนามิกไดรเวอร์ขนาด 12 mm Double Magnetic Circuit ให้เสียงที่ออกมามีความสมดุล รองรับความถี่ 5 - 40,000 Hz ระดับ Hi-Res มีค่าความต้านทาน 16 ohms และยังมาพร้อมกับ Graphene 2 ชั้น เสียงที่ออกมาจะมีคุณภาพเสียงระดับ Audiophile ทุกย่านเสียงจะออกมาได้อย่างชัดเจน เป็นธรรมชาติ สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงแบบเก็บรายละเอียดก็สามารถนำหูฟังรุ่นนี้มาใช้งานกันได้ครับ
ประเภทหูฟัง | IEM |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Hybrid |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | ซิลิโคน |
ขนาดไดรเวอร์ | - |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 7 - 40000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 112 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 25 Ohms |
ความยาวสาย | - |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Aux 3.5 mm |
การรับประกันสินค้า | 6 เดือน |
สี | ทอง, ดำ |
เชื่อว่าหลายคนน่าจะชื่นชอบหูฟังรุ่นนี้เพราะเป็นหูฟังดีไซน์สวย ดูทันสมัย แม้ว่าตัวโครงสร้างจะเป็นเหล็ก แต่มีความยืดหยุ่นสูง เป็นเหล็กที่แข็งแรงแต่ไม่บีบรัดจนเกินไป ต่อให้คุณมีสรีระแบบไหนก็สามารถใช้งานได้ ส่วนของหูฟังมีการหุ้มด้วยหนัง ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย ไม่กดบริเวณใบหูจนเกินไป ตัวหูฟังมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 200 กรัม เท่านั้น ให้คุณนำมาใช้งานได้อย่างรู้สึกสบาย มือใหม่ที่ต้องทำการตรวจสอบเสียงก็สามารถนำมาใช้งานได้
ในส่วนของคุณภาพเสียงก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ หูฟังรุ่นนี้เป็นหูฟังแบบ Closed back มาพร้อมกับ ไดรเวอร์ขนาด 40 mm และรองรับความถี่เสียงตั้งแต่ 16 - 20,000 Hz มีค่า Sensitivity อยู่ที่ 112 และยังมีค่าความต้านทานที่ 32 ohms สามารถระบุลักษณะของเสียงที่ออกมาจากเครื่องดนตรีแต่ละชนิดได้อย่างชัดเจน แม่นยำ โทนเสียงจะไม่ผิดเพี้ยน ช่วยให้เหล่าวิศวกรเสียงสามารถนำเสียงที่ได้ยินทำการปรับแต่งได้อย่างสะดวกครับ
ประเภทหูฟัง | IEM |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | ซิลิโคน |
ขนาดไดรเวอร์ | - |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 20 - 20000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 107 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 12 Ohms |
ความยาวสาย | 1.6 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Aux 3.5mm, Aux 6.3 mm Adapter |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | ดำ |
หนึ่งในแบรนด์หูฟังราคาประหยัดที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีก็คือแบรนด์ KZ โดยทางแบรนด์ได้มีการวางจำหน่ายหูฟังออกมาหลายรุ่น สำหรับหูฟังรุ่นนี้เป็นหูฟังที่ใช้ไดรเวอร์ข้างละ 3 ตัว ประกอบไปด้วย Electret Electrostatic 6.8 mm, Dynamic Dual Magnetic Ciircuit เสริมด้วย Balanced 30095 รองรับย่านความถี่ตั้งแต่ 20 - 40,000 Hz ให้เสียงในระดับ Hi-Res ช่วยให้คุณรับฟังสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนเลยครับ
เสียงที่คุณได้รับจะมีสเตจเสียงที่กว้างมาก สามารถระบุที่มาของเสียงได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังเป็นเสียงที่มีความเป็นธรรมชาติมาก หูฟังรุ่นนี้สามารถถอดสายเพื่อเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้อย่างอิสระ ตัวหูฟังมีดีไซน์ที่ดูทันสมัย สามารถนำมาใช้งานนอกบ้านเพื่อเพิ่มสไตล์ของคุณได้ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้แต่มาในหูฟังที่มีราคาไม่เกิน 1,500 บาท ใครที่ต้องการหาหูฟังมาใช้งานในการฟังเพลงทั่ว ๆ ไป ก็สามารถนำหูฟังรุ่นนี้มาใช้งานได้ครับ
ประเภทหูฟัง | Semi Open Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | Memory Foam, ผ้า |
ขนาดไดรเวอร์ | - |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 5 - 35000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | ไม่ระบุ |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 250 Ohms |
ความยาวสาย | 3 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Aux 6.3mm Adapter, Aux 3.5 mm |
การรับประกันสินค้า | 2 ปี |
สี | เทา |
หูฟังรุ่นนี้เป็นหูฟังแบบครอบหู Closed back เป็นหูฟังรุ่นหนึ่งที่มียอดขายสูงมากทีเดียว เป็นหูฟังมอนิเตอร์ที่คนทั่วไปสามารถนำมาใช้งานได้ สามารถถ่ายทอดเสียงเพลง เสียงจากหนังหรือเสียงจากคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อย่างคมชัด เป็นหูฟังที่ไม่ต้องปรับแต่งอะไรก็สามารถฟังเสียงได้อย่างชัดเจน หูฟังรุ่นนี้มาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 50 mm ตอบสนองความถี่ระหว่าง 18 - 22,000 Hz มีค่าต้านทาน 32 ohms เสียงที่ได้ยินจะเป็นเสียงที่มีคุณภาพมากครับ
ตัวหูฟังมีดีไซน์ในแบบที่คุ้นเคย ดูเท่ สวยงาม น่าใช้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถนำมาใช้งานได้ ตัวโครงของหูฟังผลิตมาจากวัสดุคุณภาพดี เป็นโครงโลหะแต่มีความยืดหยุ่นสูง ส่วนของหูฟังจะมีการหุ้มด้วยฟองน้ำ ให้สัมผัสที่นุ่ม สามารถใช้งานได้อย่างไม่รู้สึกเจ็บหู สำหรับคนที่ชื่นชอบการเล่นเกมก็สามารถนำหูฟังรุ่นนี้มาใช้งานเพื่อประกอบการเล่นเกมได้ เพราะสามารถถ่ายทอดรายละเอียดของเสียงได้ครบถ้วน เพราะรายละเอียดของเสียงในเกมคุณก็ได้รับฟังอย่างชัดเจนครับ
ประเภทหูฟัง | Semi Open Back |
---|---|
ประเภทไดรเวอร์ | Dynamic |
วัสดุที่ครอบหูฟัง | ฟองน้ำ, หนังเทียม |
ขนาดไดรเวอร์ | 30 มม. |
จำนวนวัตต์ | 200 mW |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 15 - 25000 Hz |
ค่าความไวของไดรเวอร์ | 104 dB |
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง | 55 Ohms |
ความยาวสาย | 3 เมตร |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Aux 3.5 mm, Aux 6.3 mm Adapter |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | ดำทอง |
จากวิธีการเลือกในบทความ ทำให้เราเข้าใจได้ว่าคุณสมบัติของหูฟังมอนิเตอร์ที่เราควรเลือกคืออะไร และช่วยให้ผู้ใช้ได้ใช้งานง่ายขึ้นอย่างไรบ้าง สิ่งสำคัญที่สุดคือจุดประสงค์ในการใช้และอุปกรณ์ที่เราใช้ร่วมกันนั้นรองรับหรือไม่ เพราะหากเราใช้งานผิดจุดประสงค์หรือไม่เหมากับหูฟังที่เราเลือกรวมไปถึงใช้อุปกรณ์ที่ไม่รองรับ จะส่งผลด้านคุณภาพ ทั้งการทำงานภายในและความดังของเสียงที่ได้ ดังนั้น เราควรพิจารณาจุดสำคัญเหล่านี้ก่อนซื้อ
อันดับที่ 1: Sennheiser |หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น HD 800S
อันดับที่ 2: Shure|หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น SE846 Pro GEN 2
อันดับที่ 3: Beyerdynamic|หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น DT 990 Pro 250 ohms
อันดับที่ 4: Audio Technica|หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น ATH-M50x
อันดับที่ 5: SONY|หูฟังมอนิเตอร์ รุ่น MDR-M1ST
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ