10 อันดับ ของเล่นกระต่าย มีอะไรบ้าง ปี 2024 รวมของกัดแทะ ขุดรู วิ่งเล่น

กระต่ายเป็นสัตว์ที่รักสงบ ชอบสังคม ต้องการความบันเทิงตลอดเวลาเพื่อไม่ให้รู้สึกเบื่อ ซึ่งหากกระต่ายเริ่มเกิดความเบื่อ ก็อาจจะทำให้เครียด และส่งผลต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ เช่น การกัดแทะขนตัวเอง หรือ การกัดแทะเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน ดังนั้นเพื่อให้กระต่ายมีความสุข เจ้าของก็ควรเรียนรู้พฤติกรรมของกระต่าย เพื่อที่จะได้ดูแลอย่างถูกต้องและเหมาะสมค่ะ 

1. การนอนของกระต่าย ปกติวงจรชีวิตของกระต่ายจะเป็นสัตว์หากินกลางคืน และนอนหลับในเวลากลางวัน เจ้าของส่วนใหญ่อาจไม่เคยเห็นกระต่ายนอนในตอนกลางวัน แต่จะเห็นกระต่ายนั่งนิ่ง ๆ แทน โดยไม่หลับตา นั่นก็เป็นเพราะสัญชาตญาณตามธรรมชาติที่ต้องการระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะธรรมชาติของกระต่ายและสัตว์ที่เป็นผู้ถูกล่าทั้งหลาย จะต้องมีการระวังผู้ล่าที่อาจจะซุ่มโจมตีจากทุกทิศทาง กระต่ายจึงมักจะมีลักษณะการแสดงออกเช่นนั้น
2. การกัดแทะ เป็นลักษณะนิสัยตามธรรมชาติ ซึ่งในบางครั้งการกัดแทะก็เป็นการลับฟันเพื่อไม่ให้งอกยาวหรือคมจนเกินไป เจ้าของจึงจะต้องระมัดระวังเพราะการกัดแทะ เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ ซึ่งโดยปกติแล้วฟันกระต่ายจะไม่งอกยาวถ้ากระต่ายได้กินหญ้าในปริมาณที่เหมาะสม ถ้าฟันกระต่ายยาวมากเกินจนต้องลับ อาจจะหมายถึงปริมาณหญ้าที่ได้รับน้อยเกินไป หรือชนิดของหญ้าไม่เหมาะสม เจ้าของควรศึกษาชนิดของหญ้าที่ให้และปรับปริมาณให้เหมาะสม
   
3. การส่งเสียงของกระต่าย เมื่อเกิดอาการกลัวหรือตกใจ กระต่ายอาจส่งเสียงหวีดร้องหรือขู่ในลำคอได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วกระต่ายมักจะไม่ค่อยส่งเสียง และสื่อสารกันด้วยกลิ่นเท่านั้น
   
4. พฤติกรรมก้าวร้าวของกระต่าย ลักษณะนิสัยก้าวร้าวส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากการถูกรังแกบ่อย ๆ จนทำให้ฝังใจ หรือถูกตามใจจากเจ้าของมากเกินไป ทำให้แสดงออกด้วยวิธีการกัดแทะมือเจ้าของ เมื่อเวลาหิวหรือไม่พอใจ ซึ่งเจ้าของต้องระวังอันตรายทั้งจากกระต่ายและจากกระต่ายสู่ตัวเอง เช่น แผลติดเชื้อจากการกัด เป็นต้น และกระต่ายแต่ละสายพันธุ์ก็มีนิสัยต่างกัน บางสายพันธุ์จะมีโอกาสดุร้ายมากกว่าสายพันธุ์อื่น เช่น Belgian Hares เป็นต้น
   
5. การสร้างอาณาเขต ลักษณะนี้เป็นนิสัยทั่วไปของสัตว์ทุกประเภท กระต่ายก็เช่นเดียวกัน เพราะกระต่ายตัวผู้จะมีต่อมกลิ่นและจะถูกลิ่นไปทั่วบริเวณของตนเอง พร้อมกับคอยดูแลไม่ให้กระต่ายอื่น ๆ เข้ามาใกล้ โดยส่วนใหญ่แล้วกระต่ายตัวผู้จะมีพฤติกรรมหวงอาณาเขตมากกว่าตัวเมีย ดังนั้นไม่ควรเลี้ยงกระต่ายตัวผู้อยู่รวมกัน เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ มีโอกาสเกิดการต่อสู้จนถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสและตายได้
   
6. การขุด กระต่ายเป็นสัตว์นักขุด ซึ่งการขุดยังมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป เช่น ขุดเพื่อสร้างรังหรือเป็นที่สำหรับเตรียมคลอดลูก และการขุดเพื่อทำให้เล็บกระต่ายสั้นลงค่ะ เจ้าของจึงควรเลี้ยงกระต่ายและเตรียมพื้นที่สำหรับการขุดเอาไว้บ้าง
   
7. การเคาะเท้าหน้าของกระต่าย พฤติกรรมนี้เป็นสิ่งที่กระต่ายจะทำต่อเมื่อมีการจับคู่ผสมพันธุ์เสร็จแล้วเท่านั้น แต่ก็มีบางครั้งที่การเคาะเท้าให้เกิดเสียงดังเป็นการส่งสัญญาณถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อกระต่ายมีพฤติกรรมเหล่านี้เจ้าของจะต้องดูแลความผิดปกติรอบ ๆ บริเวณที่เลี้ยงกระต่ายด้วย
   
8. การวิ่งวนรอบ ๆ เท้า หมายถึงการแสดงสัญชาตญาณทางเพศตามธรรมชาติ หรือเป็นการบ่งบอกให้รู้ว่ากำลังมีความรัก
   
9. การกินมูลของตัวเอง มูลที่กระต่ายกินส่วนใหญ่นั้นจะมีลักษณะติดกันเป็นพวง หรือเรียกว่ามูลพวงองุ่น (มูลส่วนที่เหลวกว่า) ซึ่งการกินเข้าไปจะช่วยให้ภาวะในลำไส้ทำงานเป็นปกติ 
   

การเลี้ยงกระต่ายก็มีวิธีดูแลที่ไม่แตกต่างจากสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ทั่วไป หากแต่การเลี้ยงกระต่ายนั้นจะมีวิธีการรับมือและการปรับตัวที่ค่อนข้างจะต้องเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากกระต่ายเป็นสัตว์ที่มีนิสัยชอบอยู่เงียบ ๆ ทำให้สังเกตได้ยาก ดังนั้นในวันนี้เราจึงได้รวบรวมวิธีการเลี้ยงกระต่ายเบื้องต้น สำหรับมือใหม่ มาเป็นแนวทางเพื่อเตรียมความพร้อมค่ะ

1. หากนำกระต่ายมาเลี้ยงเป็นครั้งแรก ควรให้กระต่ายปรับตัวให้คุ้นชินกับสถานที่และคนเลี้ยงก่อน เพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่ขี้กลัว ตื่นตกใจได้ง่าย และจากธรรมชาติของการเป็นผู้ถูกล่า กระต่ายจะยิ่งมีความระแวงสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นเคยอย่างมาก เวลาที่พากระต่ายเข้ามาในบ้านใหม่ ๆ ไม่ควรส่งเสียงดังมากหรือพยายามเล่นกับกระต่ายมากเกินไป
   
   
2. จัดเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสม หากเลี้ยงในบ้านควรเลือกกรงที่มีขนาดใหญ่ ดูแลง่าย จัดวางในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก และควรหลีกเลี่ยงกรงพลาสติกเพราะเป็นอันตรายต่อกระต่าย ที่สำคัญควรมีถาดรองกรงเพื่อรองรับของเสียจากกระต่ายด้วย และพื้นกรงไม่ควรเป็นช่องกว้าง เพราะอาจจะทำให้เท้ากระต่ายไปติดจนเกิดบาดแผลได้ และต้องระวังการใช้สารเคมีต่าง ๆ ภายในบริเวณ เช่น น้ำหอม ธูป น้ำยาถูพื้นต่าง ๆ เพราะอาจจะเกิดอันตรายต่อกระต่ายได้
   
   
3. อาหารหลักของกระต่ายนั้นคือ หญ้า ซึ่งสามารถเลือกหญ้าขน หญ้าทิโมธี แพงโกล่า และหญ้าอัลฟาฟ่าให้กระต่ายทานได้ หรือจะผสมอาหารเม็ดสำหรับกระต่ายก็ได้เช่นกัน ถ้าหากกระต่ายมีอายุเกิน 7 เดือนแล้ว ควรจำกัดปริมาณอาหารเม็ดให้น้อยลง ไม่อย่างนั้นจะทำให้เกิดโรคอ้วนได้ค่ะ ส่วนพวกผักผลไม้ ไม่จำเป็นต้องให้มาก สามารถให้ทานเล่นวันละเล็กน้อยได้เช่นกัน โดยเรียงลำดับความสำคัญของอาหารคือ หญ้า > อาหารเม็ด > ผัก-ผลไม้ และห้ามให้อาหารคนที่อาจจะเกิดอันตรายได้เด็ดขาด เช่น ช็อกโกแลต คุกกี้ โยเกิร์ต เป็นต้น
   
   
4. น้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรขาดในการเลี้ยงกระต่ายให้มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งเราควรมีน้ำสะอาดในกรงให้กับกระต่ายตลอดเวลา โดยสามารถใช้ที่มีจุกน้ำแบบหลอดท่อแอร์หรือแบบที่มีลูกปืนได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการให้น้ำแบบใส่อ่าง เพราะจะทำให้จมูกเปียกและเป็นหวัดได้ง่าย อีกทั้งอาจเกิดเชื้อราได้หากกระต่ายเล่นน้ำจนเปียก
   
   
5. การอุ้มกระต่ายควรทำการอุ้มอย่างระมัดระวังและเบามือที่สุด เนื่องจากกระต่ายเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจ อาจทำให้ตื่นกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้เจ้าของได้ สำหรับครั้งแรกนั้นควรทำการลูบกระต่ายอย่างเบามือ เพื่อให้เกิดความคุ้นชินแล้วจึงค่อยอุ้มแบบช้อนตัวขึ้นมาเบา ๆ และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการหิ้วหูกระต่าย เพราะบริเวณหูนั้นมีเส้นเลือดเยอะมาก อาจทำให้เส้นเลือดฉีกขาดหรือหูช้ำได้ และในช่วงแรกอาจจะใช้ผ้ารองเพื่อให้กระต่ายไม่ตกใจกับสัมผัสของเจ้าของ รวมถึงช่วยป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเจ้าของ เมื่อกระต่ายตกใจจนข่วนเจ้าของ
   
   
6. การอาบน้ำกระต่าย สามารถอาบได้ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป เพราะกระต่ายที่มีอายุน้อยยังมีภูมิต้านทานที่อ่อนแอ ทำให้ป่วยง่าย และหลังอาบน้ำควรเช็ดตัวให้แห้งหรือเป่าไดร์ ไม่อย่างนั้นแล้วอาจจะเป็นหวัดและเกิดเชื้อราได้ ส่วนแชมพูที่ใช้นั้นก็สามารถใช้ได้ทั้งแชมพูสำหรับสุนัข แมว หรือแชมพูเด็กก็ได้ค่ะ ทั้งนี้ แชมพูทุกชนิดที่ใช้ควรเจือจางด้วยน้ำสะอาดก่อน ไม่ควรราดแชมพูลงบนตัวกระต่ายทันที และถ้าหากเป็นการใช้ครั้งแรก ควรทดสอบแชมพูในปริมาณน้อย ๆ บริเวณที่อาจจะเกิดอาการแพ้ เช่น ใต้ท้อง เสียก่อน ถ้ามีอาการก็ให้หยุดใช้และพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
   
   
7. เรื่องการฝึกขับถ่ายก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน โดยการฝึกกระต่ายให้ใช้กระบะขับถ่ายนั้นอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร ในครั้งแรกเราสามารถฝึกได้โดยการอุ้มกระต่ายมาขับถ่ายในกระบะทุกครั้งที่กำลังจะอึหรือฉี่ ซึ่งเมื่อทำบ่อย ๆ ก็จะทำให้กระต่ายเกิดความคุ้นชินและสามารถขับถ่ายในกระบะได้เองตามธรรมชาติ ถ้าหากช่วงแรกกระต่ายยังไม่ยอมมา อาจจะนำกระดาษซับไปซับฉี่มาวางในกระบะทรายเพื่อให้กระต่ายชินกับกลิ่นก่อนก็ได้เช่นกัน

การเลี้ยงกระต่ายนอกจากจะให้อาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ของเล่นก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้กระต่ายมีโอกาสได้เล่น ได้ใช้สัญชาตญาณอย่างเหมาะสม ไม่ก้าวร้าว และช่วยลดความเครียดได้ ซึ่งความเครียดก็เป็นสาเหตุที่นำไปสู่พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ต่อเจ้าของและกระต่ายด้วย ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลี้ยงกระต่ายจึงควรศึกษาข้อมูลวิธีการเลี้ยงให้ละเอียด รวมไปถึงพฤติกรรมของกระต่ายตามธรรมชาติ เพื่อการดูแลอย่างถูกต้องและเหมาะสมค่ะ