mybest
ซับบ๊อกให้ทุกการเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
mybest
ซับบ๊อกให้ทุกการเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
  • 10 ซับบ๊อก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รวมตู้ Sub Box สำเร็จรูป ปรับเสียงเบส 1
  • 10 ซับบ๊อก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รวมตู้ Sub Box สำเร็จรูป ปรับเสียงเบส 2
  • 10 ซับบ๊อก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รวมตู้ Sub Box สำเร็จรูป ปรับเสียงเบส 3
  • 10 ซับบ๊อก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รวมตู้ Sub Box สำเร็จรูป ปรับเสียงเบส 4
  • 10 ซับบ๊อก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รวมตู้ Sub Box สำเร็จรูป ปรับเสียงเบส 5

10 ซับบ๊อก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รวมตู้ Sub Box สำเร็จรูป ปรับเสียงเบส

ซับบ๊อก (Sub Box) คืออุปกรณ์ลำโพงที่ออกแบบมาเพื่อขับเสียงเบสหรือย่านความถี่ต่ำโดยเฉพาะ มักมาในรูปแบบของลำโพงที่ติดตั้งอยู่ในตู้หรือกล่องลำโพง มีขนาดใหญ่กว่า Bass Box และต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้งมากกว่า เสียงที่ได้จากซับบ๊อกจะมีความลึก หนักแน่น และผสมผสานกับย่านเสียงอื่นได้อย่างสมดุล ช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังได้มากยิ่งขึ้น


บทความนี้ เรามีวิธีการเลือกซับบ๊อกมาแนะนำให้กับผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องเสียงรถยนต์ทั้งในระดับเริ่มต้นและการฟังเพลงแบบยกระดับของเสียงได้มาศึกษากัน ประกอบกับคำแนะนำจากคุณธภัทร ตั้งวงษ์ไชย (ธีร์) ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเสียง อีกทั้งยังได้รวบรวม 10 ซับบ๊อก จากหลากหลายแบรนด์ดัง ที่มีขนาดตั้งแต่ 6.5 นิ้ว จนถึงมากกว่า 12 นิ้ว มาแนะนำเพิ่มเติมกันอีกด้วย

อัปเดตล่าสุดเมื่อ 30/01/2025

Top 5 ซับบ๊อก ยอดนิยม

1

JBL

Sub Box รุ่น BassPro SL2
Sub Box รุ่น BassPro SL2

ปรับเสียงเบสให้เป็นธรรมชาติ ให้เสียงที่ออกมาน่าฟังมากยิ่งขึ้น

2

KENWOOD

Sub Box รุ่น KSC-PSW8
Sub Box รุ่น KSC-PSW8

ดีไซน์เรียบหรู นอกจากจะให้เสียงที่ดี ยังเพิ่มเอกลักษณ์บนรถได้

3

PIONEER

Sub Box รุ่น TS-WX130DA
Sub Box รุ่น TS-WX130DA

ออกแบบโครงสร้างมาโดยเฉพาะ เพื่อการควบคุมความถี่ที่ดีขึ้น

4

SONY

Sub Box รุ่น XS-AW8
Sub Box รุ่น XS-AW8

ให้เสียงเพลงที่ออกมาน่าฟังมากขึ้น ด้วยวงจรขยาย Class AB

5

PLATINUM-X

Sub Box รุ่น PX-B105
Sub Box รุ่น PX-B105

ติดตั้งง่าย สามารถปรับแต่งเสียงที่ออกมาด้วยตัวเองได้ตลอดเวลา

ธภัทร ตั้งวงษ์ไชย (ธีร์)
ผู้เชี่ยวชาญ
Sound Engineer
ธภัทร ตั้งวงษ์ไชย (ธีร์)

คุณธีร์เป็น Sound Recorder ประจำ The Standard สำนักข่าวออนไลน์ชั้นนำ ทำหน้าที่ดูแลคุณภาพเสียงของคอนเทนต์ในทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่กระบวนการ Pre-Production ไปจนถึง Post-Production ด้วยความเชี่ยวชาญด้านเสียงและอุปกรณ์บันทึกเสียงที่สั่งสมจากประสบการณ์ทำงานจริง โดยจุดเริ่มต้นของธีร์มาจากความหลงใหลในเสียงดนตรีและอุปกรณ์เครื่องเสียงมาตั้งแต่เด็ก จึงเลือกศึกษาต่อด้านบันทึกเสียงภาพยนตร์ที่ คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทำให้มีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคนิคการบันทึกเสียง อุปกรณ์เสียง และการออกแบบเสียงที่มีคุณภาพสูง นอกจากงานประจำแล้ว คุณธีร์ยังหมั่นศึกษาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านเสียงอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถพัฒนาและถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเสียงดนตรี อุปกรณ์เครื่องเสียง และการบันทึกเสียงได้อย่างแม่นยำและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

ประวัติของ ธภัทร ตั้งวงษ์ไชย (ธีร์)
…อ่านต่อ
คมกริช อดุลย์พิจิตร (เคย์)
บรรณาธิการ
นักเขียนประจำ mybest
คมกริช อดุลย์พิจิตร (เคย์)

คุณคมกริช (เคย์) จบการศึกษาจาก วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มีประสบการณ์ยาวนานด้านการออกแบบมาหลายปี แต่ด้วยความสนใจเรื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ จึงได้ศึกษาและติดตามข่าวสารในวงการเทคโนโลยีอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นด้าน Gadgets, Application หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกี่ยวกับสายเทคโนโลยีทั้งหมด นอกจากนี้คุณเคย์ยังมีความเชี่ยวชาญในการรีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งทีวี, อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย และเครื่องใช้ภายในบ้าน นอกจากความถนัดด้านเทคโนโลยี คุณเคย์ยังสนใจวงการเกม และมีบทบาทสำคัญในการจัดการแข่งขันระดับประเทศ อาทิ Thailand Game Expo, Predator League และ Thailand Mobile Expo ปัจจุบันคุณเคย์ได้เปลี่ยนเส้นทางสู่การเป็น สตรีมเมอร์ และสร้างเพจของตัวเองชื่อ Blackkat Gamer โดยเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับ เกมมือถือ, Nintendo Switch และเกม PC ด้วยประสบการณ์ในหลายด้าน ทำให้คุณเคย์มีความเข้าใจลึกซึ้งทั้งในเรื่อง เทคโนโลยีและเกม สามารถถ่ายทอดเนื้อหาที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านที่สนใจสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและวงการเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประวัติของ คมกริช อดุลย์พิจิตร (เคย์)
…อ่านต่อ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ

สารบัญ

Why You Can Trust Us

มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้

นโยบายกองบรรณาธิการ

ซับบ๊อก คืออะไร ต่างจากเบสบ๊อกอย่างไร

ซับบ๊อก คืออะไร ต่างจากเบสบ๊อกอย่างไร

ซับบ๊อกและเบสบ๊อกเป็นอุปกรณ์จำพวกเครื่องเสียงที่หลายคนคิดว่าเป็นชนิดเดียวกัน เพราะอุปกรณ์ทั้งสองชนิดในบางรุ่นนั้นมีลักษณะภายนอกที่คล้ายกัน อีกทั้งอุปกรณ์ทั้งสองยังทำงานร่วมกับเพาเวอร์แอมป์และซับวูฟเฟอร์เหมือนกันด้วย แต่อย่างไรก็ตามซับบ๊อกและเบสบ๊อกจะมีรายละเอียดในการใช้งานที่ต่างกันดังนี้


  • ซับบ๊อก ลักษณะโดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่กว่าเบสบ๊อกเล็กน้อย ในส่วนของการจัดการกับเสียงจะมีคุณสมบัติในการปรับแต่งให้ทุกย่านเสียงทำงานร่วมกันได้อย่างกลมกลืน เสียงที่ออกมามีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างมาก ในส่วนของกำลังในการนำเสนอเสียงก็จะมีมากกว่าเบสบ็อกในระดับหนึ่ง

  • เบสบ๊อก เป็นอุปกรณ์ที่มีจุดเด่นในเรื่องการนำเสนอเสียงเบสหรือย่านเสียงต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถขับเสียงในย่าน 20Hz - 50Hz ได้ออกมาชัดเจน ช่วยเพิ่มจังหวะและความเร้าใจของเสียงเบสได้เป็นอย่างมาก เบสบ็อกทั่วไปที่ไม่มีการปรับแต่งจะมีขนาดเล็ก นำมาติดตั้งในจุดที่เข้าถึงยากอย่างใต้เบาะได้

วิธีการเลือกซับบ๊อก

จุดประสงค์ในการนำซับบ๊อกมาใช้งานก็เพื่อที่จะนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องเสียงบนรถยนต์ เพียงแต่ซับบ๊อกที่วางจำหน่ายในปัจจุบันจะมีการพัฒนามาให้มีขนาดที่ต่างกันและยังมีชนิดของอุปกรณ์ที่ต่างกัน นอกจากนี้คุณควรพิจารณาปัจจัยเกี่ยวกับเสียงและปัจจัยเสริมดังต่อไปนี้ควบคู่ไปด้วย

1

เลือกซับบ๊อกจากขนาดของลำโพงซับวูฟเฟอร์

ซับบ๊อกที่วางจำหน่ายในปัจจุบันจะมีลำโพงซับวูฟเฟอร์ติดมาด้วย ซึ่งขนาดของลำโพงบนซับบ๊อกแต่ละรุ่นจะมีขนาดต่างกันออกไป โดยขนาดของลำโพงนี้จะเกี่ยวข้องกับแนวเพลงหรือความละเอียดของเสียงที่ต่างกันออกไป คุณจึงควรตรวจสอบขนาดของลำโพงซับวูฟเฟอร์ก่อนที่จะนำซับบ๊อกมาติดตั้งด้วย

ซับบ๊อกขนาด 6.5 นิ้ว สำหรับรถขนาดเล็ก ให้เสียงเบสที่กระชับและชัดเจน เหมาะกับเพลงแจ๊สหรือคลาสสิก

ซับบ๊อกขนาด 6.5 นิ้ว สำหรับรถขนาดเล็ก ให้เสียงเบสที่กระชับและชัดเจน เหมาะกับเพลงแจ๊สหรือคลาสสิก
อ้างอิง:shopee.co.th

ซับบ๊อกขนาด 6.5 นิ้ว เป็นซับบ๊อกที่มีขนาดลำโพงเล็กที่สุด จึงมักจะนำมาติดตั้งในรถขนาดเล็กหรือรถที่มีพื้นที่ไม่มาก จุดเด่นของลำโพงขนาดนี้คือสามารถทำให้เสียงเบสมีความกระชับ พุ่งเข้าหาตัวผู้ฟังได้ดี เหมาะกับคนที่ชอบขับรถคนเดียวหรือชอบฟังเพลงแจ๊สและคลาสสิก ข้อดีของซับบ๊อกขนาดนี้คือสามารถติดตั้งได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องทำการเชื่อมต่อหรือตั้งค่ามาก ถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่ผู้พัฒนาเครื่องเสียงหลาย ๆ แบรนด์ก็มีการออกแบบให้ซับบ๊อกรองรับแรงขับได้มาก ให้กำลังเสียงที่ดียิ่งขึ้น

ซับบ๊อกขนาด 8 - 10 นิ้ว สำหรับรถขนาดมาตรฐาน ให้เสียงเบสที่สมดุลและครอบคลุมทุกแนวเพลง

ซับบ๊อกขนาด 8 - 10 นิ้ว สำหรับรถขนาดมาตรฐาน ให้เสียงเบสที่สมดุลและครอบคลุมทุกแนวเพลง
อ้างอิง:shopee.co.th

ซับบ๊อกขนาด 8 - 10 นิ้ว เป็นลำโพงขนาดมาตรฐานที่เหมาะสำหรับรถยนต์ทั่วไป โดยให้เสียงเบสที่สมดุลและครอบคลุมทุกแนวเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงป๊อป ร็อก ฮิปฮอป หรือเพลงที่ต้องการเสียงเบสลึกแบบพอดี ไม่รุนแรงเกินไป ขนาดที่กระทัดรัดของซับบ๊อกช่วยให้ติดตั้งง่ายในพื้นที่จำกัด เช่น ใต้เบาะหรือท้ายรถ เสียงที่ได้จะเน้นความคมชัดและความลื่นไหลในย่านความถี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มเสียงเบสในระบบเครื่องเสียงรถยนต์โดยไม่กระทบพื้นที่ใช้งานหรือความสะดวกในการเดินทาง

ซับบ๊อกขนาด 12 นิ้ว ขึ้นไป สำหรับรถขนาดใหญ่ ให้เสียงเบสที่หนักแน่นและลึก เหมาะสำหรับเพลงที่ต้องการพลังเบส เช่น EDM, Hip - Hop

ซับบ๊อกขนาด 12 นิ้ว ขึ้นไป สำหรับรถขนาดใหญ่ ให้เสียงเบสที่หนักแน่นและลึก เหมาะสำหรับเพลงที่ต้องการพลังเบส เช่น EDM, Hip - Hop
อ้างอิง:shopee.co.th

ซับบ๊อกขนาด 12 นิ้วขึ้นไป เป็นซับบ๊อกขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับติดตั้งในรถขนาดใหญ่ เช่น รถ SUV หรือรถตู้ โดยให้เสียงเบสที่หนักแน่นและลึก เพิ่มพลังในย่านความถี่ต่ำได้อย่างเต็มที่ เหมาะสำหรับเพลงที่ต้องการพลังเบสสูง เช่น EDM, ฮิปฮอป หรือเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ ขนาดใหญ่ของซับบ๊อกช่วยกระจายเสียงเบสได้เต็มห้องโดยสาร สร้างแรงสั่นสะเทือนระหว่างฟังเพลงได้เป็นอย่างดี ให้ประสบการณ์การฟังเพลงที่เข้มข้นและเร้าใจ การติดตั้งอาจต้องการพื้นที่ท้ายรถหรือพื้นที่เฉพาะเพื่อรองรับตัวอุปกรณ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเสียงเบสที่ทรงพลังและการฟังเพลงที่ดื่มด่ำในทุกจังหวะ

2

เลือกจากชนิดของซับบ๊อก ให้เข้ากับลักษณะการใช้งาน

เลือกจากชนิดของซับบ๊อก ให้เข้ากับลักษณะการใช้งาน
สำหรับซับบ๊อกที่พบเห็นกันในปัจจุบันจะมีอยู่สองชนิด ได้แก่ ซับบ๊อกแบบ Active และซับบ๊อกแบบ Passive โดยทั้งสองชนิดนี้จะมีการออกแบบมาให้มีลักษณะการทำงานหรือการให้เสียงที่ต่างกัน โดยความแตกต่างนั้นจะมีดังต่อไปนี้

  • ซับบ๊อกแบบ Active เป็นอุปกรณ์ที่มีแอมพลิฟายเออร์ในตัว จุดเด่นคือเพียงติดตั้งตัวซับบ๊อกก็สามารถนำเสนอเสียงได้ในทันที เสียงที่ออกมาจะมาจากอุปกรณ์โดยตรง ติดตั้งง่ายเพราะไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับเครื่องเสียงชนิดอื่น เพียงแต่คุณภาพของเสียงจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของซับบ๊อกในแต่ละรุ่น ไม่สามารถขยายขีดจำกัดของเสียงได้อย่างอิสระ

  • ซับบ๊อกแบบ Passive เป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีแอมป์ในตัว หากนำมาใช้งานจะต้องใช้ร่วมกับแอมพลิฟายเออร์แยก ในส่วนของการติดตั้งจะมีความซับซ้อนและใช้พื้นที่มากกว่า แต่จุดเด่นของการติดตั้งซับบ๊อกในรูปแบบนี้คือกำลังเสียงจะมีมากขึ้น เสียงที่ออกมาจะกระจายออกมารอบทิศ ทำให้สัมผัสเสียงได้อย่างเต็มอรรถรส
3

พิจารณาในเรื่องของคุณภาพการให้เสียง

สิ่งสำคัญในการนำซับบ๊อกมาใช้งานก็คือการตรวจสอบในเรื่องของเสียง เพราะเป็นปัจจัยหลักที่หลายคนนำอุปกรณ์นี้มาติดตั้งบนรถ โดยสิ่งที่ต้องตรวจสอบจะประกอบไปด้วยการพิจารณาแรงขับ ย่านความถี่ และค่าความต้านทาน ปัจจัยทั้งหมดนี้จะเกี่ยวข้องกับการนำเสนอเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตรวจสอบกำลังขับสูงสุดและกำลังขับต่อเนื่องให้เหมาะกับสไตล์การฟังเพลง

ตรวจสอบกำลังขับสูงสุดและกำลังขับต่อเนื่องให้เหมาะกับสไตล์การฟังเพลง
อ้างอิง:shopee.co.th
ในส่วนของกำลังขับจะประกอบไปด้วยกำลังขับต่อเนื่อง (RMS) ที่จะเป็นตัวกำหนดว่าซับบ๊อกแต่ละรุ่นรองรับกระแสไฟฟ้าได้มากน้อยแค่ไหนและกำลังขับสูงสุด (Peak Power) ซึ่งจะเป็นกำลังที่มากกว่ากำลังขับต่อเนื่องและจะไม่แสดงผลออกมาบ่อยระหว่างใช้งาน

  • ซับบ๊อกขนาดเล็ก (6.5 นิ้ว) มักจะรองรับแรงขับได้ไม่มาก ดังนั้น RMS ควรอยู่ในระดับ 50 - 200 วัตต์ และ Peak Power ควรอยู่ในระดับ 150 - 400 วัตต์ ซึ่งเป็นระดับที่เพียงพอต่อการทำงานของเครื่องเสียงขนาดเล็กและนำเสนอเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ซับบ๊อกขนาดกลาง (10 นิ้ว) เป็นขนาดที่มีค่า RMS ประมาณ 150 - 400 วัตต์ ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานในขณะที่ค่า Peak Power ควรอยู่ในระดับ 400 - 800 วัตต์ โดยจะเป็นแรงขับที่สนับสนุนการให้เสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติและไม่ใช้พลังงานมากเกินไป

  • ซับบ๊อกขนาดใหญ่ (12 นิ้วขึ้นไป) ควรมีแรงขับ RMS ในระดับ 300 - 600 วัตต์ และมีค่า Peak Power ที่ 600 - 1,200 วัตต์ ถึงจะเพียงพอให้ซับบ๊อกทำงานได้อย่างเต็มกำลัง หากแรงขับไม่เพียงพอ เสียงที่ออกมาอาจจะแปร่งและตัวซับบ๊อกเองก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

เลือกซับบ๊อกที่มีย่านความถี่ในช่วง 20Hz - 200Hz

เลือกซับบ๊อกที่มีย่านความถี่ในช่วง 20Hz - 200Hz
ซับบ๊อกนั้นจะมีย่านความถี่อยู่ในช่วง 20 Hz - 200 Hz ซึ่งเป็นย่านเสียงที่คนทั่วไปสามารถรับฟังได้และครบคลุมย่านเสียงทั้งหมด โดยจากย่านเสียงนี้ ซับบ๊อกจะมีการแบ่งการนำเสนอเสียงออกมาเพื่อให้แต่ละย่านถ่ายทอดเสียงออกมาได้อย่างเต็มที่

  • ย่านความถี่ 20 - 60 Hz มักจะเรียกว่าย่านซับเบส จะเป็นย่านเสียงต่ำที่ให้เสียงเบสลึกมากและยังเป็นย่านที่ซับเสียงต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากซับบ๊อกถ่ายทอดย่านเสียงนี้ได้ดีก็จะทำให้เสียงเบสมีความแน่น โดยย่านเสียงนี้จะเหมาะกับแนวเพลงแนว EDM หรือ Hip - Hop เป็นอย่างมาก

  • ย่านความถี่ 60 - 120 Hz จะเป็นย่านเสียงที่สนับสนุนย่านเสียงต่ำให้มีความหนาขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นย่านที่จะให้เสียงเบสที่กระชับและสมดุลมากที่สุด ฟังเพลงได้อย่างเพลิดเพลิน เหมาะสำหรับเพลงแนวร็อคหรือป็อปเป็นอย่างมาก

  • ย่านความถี่ 120 - 200 Hz เป็นย่านที่นำเสนอเสียงเบสได้อย่างชัดเจน เสียงที่ออกมาจะมีความกว้าง หากนั่งฟังในรถจะสัมผัสย่านเสียงนี้ได้อย่างกังวาล สัมผัสได้ถึงแรงสั่นในระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับเพลงแจ๊สหรือเพลงคลาสสิกมากที่สุด

เลือกซับบ๊อกจากค่าความต้านทาน (Impedence)

เลือกซับบ๊อกจากค่าความต้านทาน (Impedence)
ค่าความต้านทาน (Impedence) เป็นค่าที่ระบุถึงการใช้กระแสของตัวซับบ๊อก หากค่าความต้านทานต่ำ ตัวซับบ๊อกจะมีการดึงกระแสมากและยังใช้พลังงานมากขึ้นไปด้วย หากฝืนใช้งานอาจจะทำให้ตัวซับบ๊อกและชุดเครื่องเสียงเกิดความเสียหายได้

  • ค่าความต้านทาน 2 โอมห์ จะเป็นค่าที่ต่ำกว่าเครื่องเสียงที่นำมาใช้งานทั่วไป แต่หากเป็นเครื่องเสียงรถยนต์จะใช้ค่าความต้านทานในระดับนี้ได้ ความต้านทานในระดับนี้จะให้เสียงเบสที่หนักแน่นและทรงพลัง เพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงได้มาก

  • ค่าความต้านทาน 4 โอมห์ เป็นค่ามาตรฐาน เหมาะสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไป นำเสนอเสียงได้ในระดับที่เป็นธรรมชาติ ตัวอุปกรณ์จะไม่ใช้พลังงานมากจนเกินไป มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชอบฟังเพลงประเภทไหนก็นำมาใช้งานได้

  • ค่าความต้านทาน 8 โอมห์ เหมาะสำหรับเสียงเบสที่คมชัดหรือต้องการฟังเพลงแบบเก็บรายละเอียด จุดเด่นของซับบ๊อกที่มีค่าความต้านทานในระดับนี้คือจะมีการใช้กระแสไม่มาก มีส่วนช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงานได้มากกว่าปกติ
4

ตรวจสอบวัสดุที่ใช้ผลิตตู้และไดอะแฟรม ส่งผลต่อคุณภาพเสียง

ตรวจสอบวัสดุที่ใช้ผลิตตู้และไดอะแฟรม ส่งผลต่อคุณภาพเสียง
หนึ่งในปัจจัยที่ผู้ใช้ควรให้ความสำคัญก็คือ เรื่องของวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตตัวตู้ของซับบ๊อกและไดอะแฟรมหรือกรวยลำโพง วัสดุทั้งสองส่วนนั้นมีส่วนช่วยในเรื่องของการนำเสนอเสียงออกมา ดังนี้ 

วัสดุตู้ (Enclosure Material)

  • ไม้ MDF วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน และช่วยลดการสั่นสะเทือนเมื่อใช้งานเครื่องเสียง ให้เสียงเบสที่นุ่มลึกและมีคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังเพิ่มความคลาสสิกให้กับดีไซน์ภายในรถ
  • พลาสติก น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ราคาย่อมเยา และทนต่อความชื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวัสดุที่ไม่เสียหายง่ายจากอุณหภูมิที่เย็นจัด แม้เสียงเบสจะไม่เด่นเท่าไม้ MDF แต่ก็ให้เสียงพื้นฐานที่ชัดเจน
  •  ไม้อัด เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใช้ทำตู้ลำโพง มีความแข็งแรงในระดับหนึ่งและมีน้ำหนักเบากว่า MDF แต่คุณภาพเสียงอาจไม่ดีเท่า MDF เนื่องจากไม้อัดมีการเรียงตัวของชั้นไม้ ทำให้ความหนาแน่นไม่สม่ำเสมอ
  • อะลูมิเนียม มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และทนทานต่อสภาพแวดล้อม แต่มีราคาสูงและขึ้นรูปยาก ทำให้ไม่นิยมใช้ทำตู้ซับบ็อกซ์ทั่วไป มักใช้ในงานเฉพาะทางที่ต้องการความแข็งแรงและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ

วัสดุไดอะแฟรม (Cone Material)

  • กระดาษ มีน้ำหนักเบา ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติและแสดงแรงสั่นสะเทือนได้ชัดเจน แม้ความทนทานไม่สูง แต่มักเคลือบสารเพิ่มความแข็งแรง 
  • โพลีโพรพิลีน วัสดุทนทานระดับกลาง ให้เสียงเบสที่หนักแน่นและสมดุล พร้อมทั้งสามารถขับเสียงย่านอื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับเพลงทุกแนว
  • คาร์บอนไฟเบอร์ เป็นวัสดุที่แข็งแรงมาก รองรับแรงขับสูง ให้เสียงเบสที่ละเอียดและคมชัดในย่านโทนต่ำ แม้ราคาจะสูง แต่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงสูงสุด
  • เคฟลาร์ (Kevlar) เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทานสูง มักใช้ในลำโพงระดับไฮเอนด์ ให้เสียงที่แม่นยำและมีรายละเอียดที่ดี
  • วัสดุคอมโพสิต มีการนำวัสดุหลายชนิดมาผสมกันเพื่อเพิ่มคุณสมบัติ เช่น การนำกระดาษมาผสมกับเส้นใยต่างๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความทนทาน
5

เลือกซับบ๊อกจากคุณสมบัติเพิ่มเติม เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน

เลือกซับบ๊อกจากคุณสมบัติเพิ่มเติม เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
นอกจากคุณสมบัติในการให้เสียงเพลงบนรถมีความกลมกล่อมมากขึ้นแล้ว การนำซับบ๊อกมาใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด คุณควรพิจารณาคุณสมบัติเสริมดังต่อไปนี้ เพราะจะมีส่วนช่วยให้ซับบ๊อกเพิ่มขีดจำกัดในการทำงานได้และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของความปลอดภัยอีกด้วย

  • มีช่องอินพุตสำหรับต่อเข้ากับเครื่องเสียงเดิมของรถยนต์ ปกติแล้วซับบ๊อกแบบ Passive จะมีช่องอินพุตเพื่อใช้ในการเชื่อมต่อเครื่องเสียงเดิมของรถยนต์เข้ากับตัวซับบ๊อกเองและยังมีส่วนช่วยในการเชื่อมต่อกับเครื่องเสียงอื่น ๆ ได้ ยิ่งมีพอร์ตเอาท์พุตมากก็จะยิ่งเชื่อมต่อกับเครื่องเสียงอื่น ๆ ได้มากยิ่งขึ้น

  • ระบบป้องกันไฟเกิน มีการออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสียหายจากความร้อนสะสม เนื่องจากซับบ๊อกนั้นระหว่างทำงานจะมีการนำกำลังไฟฟ้ามาใช้ หากเปิดใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจจะเกิดความร้อนสะสมได้ หากมีระบบนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ซับบ๊อกรับกระแสไฟมากเกินความจำเป็นนั่นเอง

  • ระบบปรับแต่งเสียง เป็นระบบที่จะช่วยให้เสียงที่ออกมามีมิติและมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ระบบแรกคือระบบ Crossover Filter ที่ตัดเสียงที่ไม่ต้องการออกเพื่อเพิ่มความคมชัดของเสียงเบส และอีกระบบคือ Phase Control ที่จะปรับเฟสให้เสียงเบสสมดุลกับลำโพงอื่น ๆ บนรถยนต์
วิธีการเลือกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?

10 ซับบ๊อก ยี่ห้อไหนดี รวมตู้ Sub Box สำเร็จรูป ปรับเสียงเบส

หากคุณกำลังมองหา Sub Box มาใช้งานแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกตัวไหนมาใช้งานดี ในวันนี้เราได้รวบรวม Sub Box มาแนะนำกันถึง 10 รุ่น ลองมาดูกันครับว่าจะมี Sub Box รุ่นไหนบ้างที่เหมาะกับรถและสไตล์การฟังเพลงของคุณ
เรียงจากความนิยม
สินค้า
รูปภาพ
ราคาต่ำสุด
คะแนน
1

JBL

Sub Box รุ่น BassPro SL2

JBL Sub Box รุ่น BassPro SL2 1

ปรับเสียงเบสให้เป็นธรรมชาติ ให้เสียงที่ออกมาน่าฟังมากยิ่งขึ้น

2

KENWOOD

Sub Box รุ่น KSC-PSW8

KENWOOD Sub Box รุ่น KSC-PSW8 1

ดีไซน์เรียบหรู นอกจากจะให้เสียงที่ดี ยังเพิ่มเอกลักษณ์บนรถได้

3

PIONEER

Sub Box รุ่น TS-WX130DA

PIONEER Sub Box รุ่น TS-WX130DA 1

ออกแบบโครงสร้างมาโดยเฉพาะ เพื่อการควบคุมความถี่ที่ดีขึ้น

4

SONY

Sub Box รุ่น XS-AW8

SONY Sub Box รุ่น XS-AW8 1

ให้เสียงเพลงที่ออกมาน่าฟังมากขึ้น ด้วยวงจรขยาย Class AB

5

PLATINUM-X

Sub Box รุ่น PX-B105

PLATINUM-X Sub Box รุ่น PX-B105 1

ติดตั้งง่าย สามารถปรับแต่งเสียงที่ออกมาด้วยตัวเองได้ตลอดเวลา

6

JVC

Sub Box รุ่น CW-DRA8

JVC Sub Box รุ่น CW-DRA8 1

รองรับเสียงเบสได้เป็นอย่างดีได้เป็นอย่างดี เพิ่มอรรถรสได้ยิ่งขึ้น

7

NAKAMICHI

Sub Box รุ่น NBF25.0A

NAKAMICHI Sub Box รุ่น NBF25.0A 1

ดีไซน์จากประเทศญี่ปุ่น ให้เสียงคุณภาพดี ขับเสียงเบสได้แน่น

8

TOG SOUND

Sub Box รุ่น MP-1280

TOG SOUND Sub Box รุ่น MP-1280 1

ปรับเสียงเบสได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเสียงเบสกลางหรือเบสล้วน

9

PRISM

Sub Box รุ่น SEW-86Pro

PRISM Sub Box รุ่น SEW-86Pro  1

เสียงเบสแน่น เหมาะสำหรับการติดตั้งใต้เบาะรถ ลดการใช้พื้นที่

10

PERFORMANCE

Sub Box รุ่น EXCEL - 1010

PERFORMANCE Sub Box รุ่น EXCEL - 1010 1

เปลี่ยนการฟังเพลงแบบเดิมให้สนุกขึ้น ด้วย Sub Box คุณภาพดี

หากไม่พบผลิตภัณฑ์ที่กำลังมองหา สามารถส่งคำร้องขอเพิ่มในรายการได้
No.1

JBL
Sub Box รุ่น BassPro SL2

Sub Box รุ่น BassPro SL2 1
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
7,590 บาท
ราคาค่อนข้างสูง
ราคาอ้างอิง
7,590 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

ปรับเสียงเบสให้เป็นธรรมชาติ ให้เสียงที่ออกมาน่าฟังมากยิ่งขึ้น

JBL อาจจะเป็นชื่อที่ทุกคนคุ้นเคย เพราะเป็นแบรนด์ลำโพงชื่อดังที่มีการผลิตลำโพงและเครื่องเสียงออกมามากมายหลายรุ่น Sub Box รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งสินค้าของทาง JBL ที่เหมาะกับการนำมาใช้งานบนรถยนต์เป็นอย่างยิ่ง โดยมีคุณสมบัติในการปรับเสียงเบสให้เป็นธรรมชาติ ผสมผสานความนุ่มนวลและจังหวะที่เร้าใจไว้ได้อย่างลงตัว ติดตั้งและปรับตั้งค่าได้ง่าย อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่ดูหรูหรา ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับรถคันโปรดของคุณได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ

การจัดอันดับสินค้าใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?
No.2

KENWOOD
Sub Box รุ่น KSC-PSW8

Sub Box รุ่น KSC-PSW8 1
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
6,900 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

ดีไซน์เรียบหรู นอกจากจะให้เสียงที่ดี ยังเพิ่มเอกลักษณ์บนรถได้

จุดเด่นของชุดเครื่องเสียงจาก KENWOOD คือ ดีไซน์ที่ดูหรูหรา ซึ่งดีไซน์ในลักษณะนี้ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ KENWOOD เท่านั้น อย่าง Sub Box รุ่นนี้ที่มีดีไซน์เรียบ ๆ แต่แฝงด้วยความหรูหรา เมื่อนำมาติดตั้งบนรถจะช่วยเพิ่มบรรยากาศในรถให้ดูน่านั่งมากขึ้น และนอกจากรูปลักษณ์ที่ดูสวยงามแล้ว คุณสมบัติในการปรับเสียงก็ทำออกมาได้ดี มีบูสเบสที่สามารถควบคุมความถี่ได้ รองรับกำลังขับเริ่มต้นที่ 150 วัตต์และรับกำลังขับได้มากที่สุดถึง 250 วัตต์ครับ

No.3

PIONEER
Sub Box รุ่น TS-WX130DA

ราคาอ้างอิง
6,599 บาท
ราคาปานกลาง

ออกแบบโครงสร้างมาโดยเฉพาะ เพื่อการควบคุมความถี่ที่ดีขึ้น

Sub Box ของทาง PIONEER รุ่นนี้เป็นเครื่องขยายเสียง Class D ที่มีความโดดเด่นอยู่ที่โครงสร้างอะลูมิเนียมที่ออกแบบมาให้เป็นทรงกรวย รองรับระบบ Digital Bass Control ซึ่งระบบนี้จะช่วยในเรื่องของการควบคุมความถี่ให้ตอบสนองได้ดีมากขึ้น ทำให้เสียงที่ออกมาดูมีมิติ น่าฟัง นอกจากนี้ เสียงที่ออกมาจะมีความทุ้ม กังวาน สำหรับผู้ที่ชอบฟังเพลงแบบเก็บรายละเอียดของเสียงน่าจะชอบ Sub Box รุ่นนี้กันอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือ ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก สามารถติดตั้งได้ง่ายครับ

No.4

SONY
Sub Box รุ่น XS-AW8

Sub Box รุ่น XS-AW8 1
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
6,990 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

ให้เสียงเพลงที่ออกมาน่าฟังมากขึ้น ด้วยวงจรขยาย Class AB

ปกติเครื่องเสียงของทาง SONY จะเน้นการแสดงผลของเสียงให้มีความกลมกล่อม ฟังแล้วรู้สึกสบายหู จุดเด่นนี้เองส่งต่อมาถึง Sub Box รุ่นนี้ด้วย เพราะเป็น Sub Box Class AB ที่จะช่วยให้เสียงที่ออกมามีความไพเราะมากขึ้น ไม่แสดงโทนเสียงไหนให้เด่นจนเกินไป ทั้งยังมีดอกซับเสียงแบบคู่ที่จะช่วยให้เสียงที่ออกมากังวานมากกว่าแบบเดี่ยว ดอกซับวูฟเฟอร์เป็นแม่เหล็กเฟอร์ไรต์ ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้จะช่วยให้เสียงที่ออกมามีความลงตัว ติดตั้งง่าย สามารถนำมาใช้งานบนรถยนต์ได้ทุกรุ่นครับ

No.5

PLATINUM-X
Sub Box รุ่น PX-B105

ราคาอ้างอิง
1,619 บาท
ราคาต่ำ

ติดตั้งง่าย สามารถปรับแต่งเสียงที่ออกมาด้วยตัวเองได้ตลอดเวลา

หลาย ๆ คนเมื่อนำ Sub Box มาใช้งานจะต้องทำการปรับตั้งค่าตั้งแต่ครั้งแรกที่ติดตั้ง หากต้องการปรับตั้งค่าใหม่อาจจะเกิดความยุ่งยากมากขึ้น แต่สำหรับ Sub Box รุ่นนี้มีการออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพราะหลังจากการติดตั้งแล้ว คุณยังสามารถตั้งค่าใหม่ได้ตลอดเวลา มาพร้อมบูสเบสในตัว ติดตั้งง่าย และหลังจากติดตั้งจะไม่ลดพื้นที่การใช้สอยภายในรถ เสียงที่ออกมาเป็นเสียงที่ทุ้ม ทรงพลัง ช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงระหว่างขับรถได้เป็นอย่างดีครับ

No.6

JVC
Sub Box รุ่น CW-DRA8

ราคาอ้างอิง
5,290 บาท
ราคาปานกลาง

รองรับเสียงเบสได้เป็นอย่างดีได้เป็นอย่างดี เพิ่มอรรถรสได้ยิ่งขึ้น

สำหรับคนที่ชื่นชอบการฟังเพลงที่มีเสียงเบสหนัก ๆ Sub Box รุ่นนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากทีเดียว เพราะสามารถช่วยปรับเสียงเบสให้มีความหนักแน่น เพิ่มความเร้าใจในการฟังเพลงได้มากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังช่วยเพิ่มระดับความดังได้สูงถึง 81 dB และนอกจากความโดดเด่นในเรื่องของการปรับเสียงเบสแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้เพลงมีเสียงที่กลมกล่อม มาพร้อมรีโมตคอนโทรลสำหรับใช้ควบคุมเสียง ติดตั้งง่าย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์รุ่นไหนก็สามารถนำมาติดตั้งร่วมกันได้ครับ

No.7

NAKAMICHI
Sub Box รุ่น NBF25.0A

Sub Box รุ่น NBF25.0A 1
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
4,990 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

ดีไซน์จากประเทศญี่ปุ่น ให้เสียงคุณภาพดี ขับเสียงเบสได้แน่น

Sub Box รุ่นนี้มีการผลิตและออกแบบมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยเป็น Sub Box ที่ได้มาตรฐาน ช่วยให้เสียงที่ออกมามีความไพเราะมากยิ่งขึ้น เพราะเสียงจะไม่ทุ้มหรือหนักจนเกินไป แต่จะมีความนุ่ม ฟังแล้วรู้สึกสบาย มาพร้อมกับรีโมตที่ช่วยควบคุมเสียง ส่วนตัวเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถติดตั้งได้ง่าย ผลิตมาจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน แม้ว่าคุณจะไม่ใช่ช่างยนต์มืออาชีพ ก็สามารถนำ Sub Box รุ่นนี้มาติดตั้งด้วยตัวเองได้ครับ

No.8

TOG SOUND
Sub Box รุ่น MP-1280

Sub Box รุ่น MP-1280 1
อ้างอิง:lazada.co.th
ราคาอ้างอิง
1,919 บาท
ราคาต่ำ
ราคาอ้างอิง
1,919 บาท
ราคาต่ำ

ปรับเสียงเบสได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเสียงเบสกลางหรือเบสล้วน

เสียงเบสคือปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้การฟังเพลงมีมิติและเกิดความเร้าใจ ซึ่งการใช้ Sub Box จะช่วยให้การฟังเพลงบนรถเป็นเรื่องที่เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น จุดเด่นของ Sub Box รุ่นนี้คือการปรับแต่งเสียงเบสได้อย่างอิสระ เนื่องจาก Sub Box บางรุ่นจะแสดงเสียงเบสเด่นชัดจนมากเกินไป แต่สำหรับรุ่นนี้คุณสามารถปรับแต่งได้ว่าจะใช้เสียงเบสกลางหรือเสียงเบสล้วน ทั้งยังมาพร้อมกับแอมป์ในตัว สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องเสียงรถยนต์ได้ทุกรุ่น ติดตั้งง่ายและไม่กินพื้นที่บนรถครับ

No.9

PRISM
Sub Box รุ่น SEW-86Pro

ราคาอ้างอิง
6,500 บาท
ราคาปานกลาง

เสียงเบสแน่น เหมาะสำหรับการติดตั้งใต้เบาะรถ ลดการใช้พื้นที่

ปกติแล้ว Sub Box หลาย ๆ รุ่นมีการออกแบบมาให้เหมาะกับการติดตั้งใต้เบาะรถ Sub Box รุ่นนี้ก็เช่นกัน โดยมีการออกแบบมาให้สามารถติดตั้งใต้เบาะรถได้พอดี ไม่กินพื้นที่บนรถ นำมาติดตั้งบนรถได้ทุกรุ่น ติดตั้งง่าย สามารถช่วยขับเสียงออกมาให้มีความหนักแน่นมากขึ้น โดยเฉพาะเสียงเบส พร้อมรองรับการปรับแต่งเสียงได้หลายรูปแบบ และมีรีโมตเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นับเป็น Sub Box ที่เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาการเพิ่มคุณภาพของเสียงเพลงบนรถรุ่นหนึ่งเลยครับ

No.10

PERFORMANCE
Sub Box รุ่น EXCEL - 1010

Sub Box รุ่น EXCEL - 1010 1
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
6,999 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

เปลี่ยนการฟังเพลงแบบเดิมให้สนุกขึ้น ด้วย Sub Box คุณภาพดี

Sub Box อีกหนึ่งรุ่นที่ช่วยให้การฟังเพลงบนรถเป็นเรื่องที่เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น โดยมีคุณสมบัติในการช่วยเน้นโทนเสียงต่าง ๆ โดยเฉพาะเสียงเบสให้มีความไพเราะ ซึ่งมีวิธีการติดตั้งที่ไม่ซับซ้อน เมื่อติดตั้งแล้วจะไม่กินพื้นที่บนรถ ให้เสียงเพลงที่ออกมามีความกังวานตลอดการเดินทาง ตัว Sub Box ผลิตมาจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรง อีกทั้งยังมีขนาดที่เหมาะสมกับการติดตั้งใต้เบาะรถยนต์ เป็น Sub Box อีกหนึ่งรุ่นที่น่าจะถูกใจคนที่ชอบฟังเพลงระหว่างขับรถครับ

ซับบ๊อกติดตั้งยากไหม

ซับบ๊อกติดตั้งไม่ยาก แต่ต้องการพื้นที่เฉพาะภายในรถ เช่น ท้ายรถ ใต้เบาะ หรือพื้นที่ว่างที่เหมาะสม การติดตั้งอาจต้องใช้อุปกรณ์เสริม เช่น สายไฟและแอมป์ที่รองรับซับบ๊อก หากเป็นแบบ Active Sub Box จะติดตั้งง่ายกว่าเนื่องจากมีแอมป์ในตัว แต่แบบ Passive Sub Box อาจต้องปรับแต่งและเชื่อมต่อกับแอมป์แยกเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด

ซับบ๊อกมีอายุการใช้งานนานแค่ไหน

ซับบ๊อกมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพวัสดุ การติดตั้ง และการดูแลรักษา หากใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงความชื้นและความร้อนสูง จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ วัสดุตู้และไดอะแฟรม เช่น ไม้ MDF หรือคาร์บอนไฟเบอร์ มีผลต่อความทนทานของซับบ๊อกด้วย การดูแลรักษาอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ซับบ๊อกให้เสียงเบสที่ดีและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

TOP 5 ซับบ๊อก แนะนำ

อันดับที่ 1: JBLSub Box รุ่น BassPro SL2

อันดับที่ 2: KENWOODSub Box รุ่น KSC-PSW8

อันดับที่ 3: PIONEERSub Box รุ่น TS-WX130DA

อันดับที่ 4: SONYSub Box รุ่น XS-AW8

อันดับที่ 5: PLATINUM-XSub Box รุ่น PX-B105

คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับ
คำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

ยอดนิยม
อันดับยอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับ ซับบ๊อก

ฟิล์มเซรามิค

10 ผลิตภัณฑ์

ค้นหาตามหมวดหมู่

mybest

ให้เราเป็นตัวช่วยในทุกการเลือกเพื่อให้ทุกคนได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
พร้อมคำแนะนำในการเลือกสินค้าจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ

Copyright mybest All Rights Reserved.