10 แชมพูญี่ปุ่น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ผมนุ่มลื่น ไม่ขาดหลุดร่วง

เพื่อให้ได้แชมพูญี่ปุ่นที่เข้ากับเส้นผมและหนังศีรษะ อันดับแรกคุณควรทำความเข้าใจลักษณะของเส้นผมแต่ละประเภทให้ถูกต้องเสียก่อน โดยลักษณะเส้นผมสามารถจำแนกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

● ผมมีรังแค รังแคเกิดจากสมดุลของผิวหนังเปลี่ยนแปลงไป โรคผิวหนังหรือเชื้อรา ไปจนถึงฮอร์โมนและความเครียด ควรเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมในการต้านเชื้อรา เช่น Ketoconazole และสารอื่น ๆ เช่น ซิงค์ไพริไทออน, ซีลีเนียม, กรดซาลิไซลิก, น้ำมันดิน 

แชมพูญี่ปุ่นหลายยี่ห้อมักมีจุดเด่นอยู่ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ พืชพรรณ หรือน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดต่าง ๆ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีส่วนประกอบหลักที่แตกต่างกันไป โดยจุดเด่นของแชมพูญี่ปุ่นที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติคือ ความอ่อนโยน ล้างออกง่ายและไม่ทิ้งสารตกค้าง จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ พร้อมมอบกลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้น

หากคุณต้องการเลือกใช้แชมพูญี่ปุ่นโดยเฉพาะก็ต้องพิจารณาจากส่วนผสมหรือสารสกัดหลักเพื่อให้ได้แชมพูที่ตรงกับสภาพเส้นผมของคุณมากที่สุด เช่น ผมมันควรเลือกใช้แชมพูญี่ปุ่นที่ช่วยปรับความสมดุลของการผลิตไขมันใต้หนังศีรษะ ผมแห้งควรเลือกแชมพูญี่ปุ่นที่มีสารสกัดจากน้ำมันธรรมชาติเพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้เส้นผม เป็นต้น

ซิลิโคนเป็นสารที่นิยมนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์แชมพูและครีมนวดผมเพื่อเป็นตัวป้องกันความร้อน เนื่องจากคุณสมบัติของซิลิโคนจะทำหน้าที่เคลือบเส้นผมให้คงความชุ่มชื้นไว้แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นตัวป้องกันไม่ให้สารบำรุงชนิดอื่น ๆ เข้าไปในเส้นผม ซึ่งในระยะยาวซิลิโคนจะจับตัวเป็นชั้นหนาทำให้ผมแห้งและไม่เงางาม รวมถึงเส้นผมของคุณอาจจะอ่อนแอลงจนปริแตกได้ง่าย

ดังนั้นคุณจึงต้องตรวจสอบส่วนประกอบของแชมพูญี่ปุ่นให้ดี โดยสามารถสังเกตได้จากชื่อส่วนประกอบที่ลงท้ายด้วยคำว่า '-cone' หากมีในปริมาณที่มากก็จะทำให้ล้างแชมพูออกได้ยาก และกลายเป็นซิลิโคนตกค้างอยู่บนเส้นผม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมอ่อนแอ ขาดหลุดร่วงง่ายและเส้นผมที่กำลังจะเกิดใหม่ขึ้นได้ช้ากว่าเดิมนั่นเอง