10 ไม้แบด Yonex รุ่นไหนดี ปี 2025 รวมรุ่น Top น้ำหนักเบา

กีฬาแบดมินตันเป็นกีฬาที่มีรูปแบบและสไตล์การเล่นมากมายแตกต่างกันแต่ละคน รวมไปถึงจุดประสงค์ในการเล่นด้วย เช่น บางคนอาจเล่นเพราะต้องการออกกำลังกายทั่วไปหรือบางคนฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขัน ดังนั้นไม้แบดมินตันในปัจจุบันจึงมีการผลิตออกมาหลากหลายรูปแบบตามการใช้งานโดยแบ่งประเภทได้ดังนี้

ไม้แบด Yonex สำหรับมือใหม่ สำหรับไม้แบดมินตันประเภทนี้แล้วนอกจากดีไซน์ภายนอกซึ่งเป็นความชื่นชอบส่วนบุคคล คุณสมบัติหลัก ๆ ที่ไม่ควรมองข้ามคือ ความทนทาน เพราะในระหว่างที่มือใหม่ตีเพื่อฝึกซ้อมหรือออกกำลังกายทั่วไปอาจเกิดการกระทบกับพื้นหรือไม้ของผู้เล่นคนอื่นได้ รวมไปถึงน้ำหนักโดยรวมของไม้ ซึ่งตามหลักแล้วการเลือกไม้ที่มีน้ำหนักระดับกลาง - เบา เช่น 3U-4U จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเพราะไม่เป็นภาระของผู้ใช้งานมากจนเกินไป เช่น YONEX รุ่น VOLTRIC ACE ซึ่งเป็นกลุ่มไม้แบบ All round ใช้งานได้กับทุกสไตล์ เป็นต้น

ไม้แบด Yonex สำหรับมืออาชีพ หรือผู้ที่เล่นเป็นประจำ หากคุณเป็นผู้เล่นมืออาชีพหรือผู้ที่มีประสบการณ์ในการเล่นแบดมินตันในระดับหนึ่งแล้ว นอกเหนือจากเรื่องน้ำหนัก ความแข็งของก้าน วัสดุที่ใช้ประกอบ และน้ำหนักของหัวไม้ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อให้สอดคล้องกับสไตล์การเล่น เทคโนโลยีที่ถูกผสานเข้ามาก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม เช่น เทคโนโลยี Control Assist Bumper และ Isometric ที่ช่วยยึดเส้นเอ็นให้มั่นคง เพื่อให้คุณควบคุมลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือ เทคโนโลยี Solid Feel Core และ Sonic Flare System ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน และเพิ่มแรงส่งลูกขนไก่ให้ไปได้เร็วขึ้น เป็นต้น 

น้ำหนักและบาลานซ์ของหัวไม้นั้นเป็นปัจจัยแรก ๆ ที่ผู้เล่นใช้พิจารณาก่อนเลือกซื้อ เพราะมีผลต่อการตีลูกอย่างมาก ซึ่งการจะเลือกไม้แบดที่เหมาะกับการเล่นคู่ ควบคุมง่าย ไม่กินแรง แนะนำให้เลือกไม้เบาที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 4U หรือ 83 กรัมลงไป เพราะยิ่งเบาก็จะยิ่งได้เปรียบเรื่องความคล่องตัว แต่ถ้าคุณต้องการไม้แบดที่เน้นตบหนักหน่วง แนะนำให้ใช้เป็นไม้หนักที่มีน้ำหนัก 3U หรือ 85 กรัมขึ้นไป ยิ่งถ้าใช้ให้เหมาะสมกับหัวไม้ตามจุดศูนย์ถ่วงต่าง ๆ จะยิ่งส่งเสริมให้การตีมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยคุณสามารถแบ่งระยะจุดศูนย์ถ่วงของไม้ออกเป็นไม้หัวเบาที่มีระยะศูนย์ถ่วงอยู่ที่ 270 - 280 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นไม้ที่เน้นเกมตั้งรับ บังคับง่าย วางลูกพลิกลูกได้ดี, ไม้หัวหนักปานกลาง มีระยะศูนย์ถ่วงอยู่ที่ 275 - 285 มิลลิเมตร เป็นไม้ที่เหมาะกับเกมทุกรูปแบบ ส่วนไม้หัวหนักจะมีระยะศูนย์ถ่วงมากกว่า 285 มิลลิเมตรขึ้นไป เหมาะกับเกมรุก ใครชอบตบลูกแรง ๆ แนะนำให้ใช้หัวไม้แบบนี้เลยครับ

เฟรมและก้านไม้ส่วนมากมักจะทำจากกราไฟต์ หรือคาร์บอนไฟเบอร์ เพราะเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง น้ำหนักเบา และทนต่อการตีสวิงในเกมแข่งขัน โดยทาง Yonex ก็มีไม้แบดที่ทำจากวัสดุเหล่านี้ เช่น HM Grafite, Super HGM หรือ Torayca M40X อีกทั้งไม้แบดคุณภาพสูงบางรุ่นก็ได้มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้เกิดเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติแข็งแกร่งและยืดหยุ่นได้ดีเป็นพิเศษ รวมทั้งช่วยเพิ่มพลังตบให้กับไม้แบด เช่น Light Feel Carbon Neo, Nanocell Neo, NAMD เมื่อวัสดุดีขึ้นราคาก็สูงตามไปด้วย ก่อนซื้อจึงต้องพิจารณาวัสดุที่นำมาทำเฟรมและก้านให้ดี เพราะจะมีผลต่อประสิทธิภาพของไม้แบดนั่นเองครับ

ก่อนจะเลือกซื้อไม้แบดมินตัน Yonex เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับจุดเด่นและความน่าสนใจของแต่ละซีรีส์ เพื่อช่วยให้คุณตามหาไม้แบดมินตันที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การเล่นของคุณมากที่สุดครับ

หนึ่งในเบื้องหลังความสำเร็จที่ทำให้ไม้แบด Yonex ได้รับความนิยมจากนักแบดมินตันทุกระดับฝีมือก็คือ เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ใส่ลงไปในไม้แบด เพื่อช่วยให้ผู้เล่นสามารถตีได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Isometric ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นรับและตีโต้ตอบลูกที่แม่นยำกว่าเดิม แต่ถ้าต้องการไม้แบดที่ช่วยเสริมพลังตบและความเร็วในการตีลูก ก็อาจจะมองหาไม้แบดที่มีเทคโนโลยี Rotational Generator System และ Power-Assist Bumper รวมไปถึงการเลือกดีไซน์ของเฟรมไม้ที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบ Aero Box Fram หรือมีลักษณะลู่ลมแบบ Aero Frame จะช่วยเพิ่มพลังตบและลดแรงต้านทานอากาศทำให้ตีได้แรงและเร็วขึ้นครับ