10 แป้งพัฟเกาหลี ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 หน้าเงา ปกปิดดี

การแต่งหน้าแบบงานผิวธรรมชาติเป็นการแต่งหน้าที่เน้นทำให้ผิวพรรณดูเนียนสวยสุขภาพดี โดยการใช้เครื่องสำอางที่บางเบา แต่สามารถปรับความเนียนหรือปกปิดความบกพร่องของผิวได้ดี และไม่มีสีสันที่ฉูดฉาดมากเกินไป ซึ่งแป้งพัฟเกาหลีเนื้อ Air และสูตร Pore Blurring ถือเป็นตัวช่วยในการสร้างลุคงานผิวธรรมชาติที่ดูดีได้อย่างลงตัว ด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ 

1. แป้งพัฟเกาหลีเนื้อ Air เป็นแป้งที่มีเนื้อละเอียดและบางเบาเป็นพิเศษ เมื่อทาลงบนผิวเนื้อแป้งจะกลมกลืนไปกับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้หน้าดูเรียบเนียนและยังสามารถปรับความสว่างขึ้นได้เล็กน้อย โดยไม่ทำให้ดูเด่นชัดเหมือนการใช้รองพื้น ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นที่เน้นเผยผิวธรรมชาติหรือเพื่อการแต่งหน้าไปโรงเรียน
   
2. แป้งพัฟเกาหลีสูตร Pore Blurring เป็นแป้งพัฟที่สามารถช่วยเบลอรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ โดยใช้เทคโนโลยี Micro-Blur หรือ Soft-Focus ซึ่งประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่สามารถกระจายแสงได้ดีเมื่อสัมผัสกับผิวหน้า จึงช่วยปกปิดความไม่สม่ำเสมอบนผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยมีตัวอย่างแป้งพัฟเกาหลีที่ได้รับความนิยมสำหรับการแต่งหน้าที่เน้นงานผิวธรรมชาติ เช่น

1. ATOMY AIR PACT 
2. Eglips Air Fit Powder Pact 
3. Innisfree Pore Blur Pact 
   
4. Hince Second Skin Airy Powder
   

สำหรับผู้ที่มีปัญหาจุดด่างดำบนใบหน้า โดยเฉพาะรอยสิวที่เข้มและฝังลึก อาจรู้สึกเป็นกังวลทุกครั้งเมื่อต้องแต่งหน้า เพราะเกรงว่าจะไม่สามารถปกปิดรอยเหล่านี้ได้อย่างเพียงพอ ดังนั้น การพิจารณาเลือกแป้งพัฟเกาหลีที่มีส่วนผสมของรองพื้น จึงเป็นตัวช่วยที่น่าสนใจในการปกปิดรอยดำต่าง ๆ เพื่อผิวที่เรียบเนียนสม่ำเสมอ ด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ 

1. มีเม็ดสี (Pigment) ที่เข้มข้น โดยทั่วไปแล้วรองพื้นจะมีส่วนผสมของเม็ดสีที่เข้มข้นเป็นพิเศษ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการปกปิดและทำให้รอยดำรอยแดงต่าง ๆ ดูจางลงหรือถูกกลบไปในช่วงเวลาหนึ่งได้

2. มีเนื้อที่หนาแน่นกว่าแป้งพัฟทั่วไป เนื่องจากการผสมรองพื้นเพิ่มเติม จะทำให้เนื้อแป้งพัฟมีความหนากว่าสูตรทั่วไปขึ้นได้เล็กน้อย แต่จะช่วยทำให้ได้ผลลัพธ์ในการปกปิดที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ แป้งพัฟเกาหลีผสมรองพื้นสามารถให้การปกปิดได้หลายระดับ ขึ้นอยู่กับสูตรและการออกแบบของแต่ละผลิตภัณฑ์ ดังนั้น เพื่อการปกปิดที่มีประสิทธิภาพ ผู้ใช้งานควรพิจารณาจากสูตรหรือระดับการปกปิดให้เหมาะสมกับปัญหาจุดด่างดำบนใบหน้าของตนเอง โดยสามารถพิจารณาได้ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1. ปกปิดบางเบา (Light Coverage) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพียงแค่ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอโดยไม่ปกปิดจุดด่างดำหรือรอยแดงอย่างชัดเจน
2. ปกปิดระดับปานกลาง (Medium Coverage) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปกปิดมากขึ้น เช่น ปกปิดรอยแดง รอยดำจากสิว และริ้วรอยเล็ก ๆ บนผิวหน้า
3. ปกปิดระดับสูง (Full Coverage) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปกปิดสูง เช่น ปัญหาสิว จุดด่างดำ หรือรอยแผลเป็นที่มีสีเข้มและชัดเจนบนใบหน้า

โดยมีตัวอย่างแป้งพัฟเกาหลีผสมรองพื้นที่ได้รับความนิยม เช่น

1. 3CE Stylenanda Skin Fit Powder Foundation 
2. JUNGSAEMMOOL Masterclass Powder Foundation 
3. The​ Face​ Shop Ink Lasting Foundation
   

แป้งพัฟเกาหลีผสมชิมเมอร์ เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับใบหน้า เนื่องจากลักษณะเด่นของชิมเมอร์คือมีประกายแวววาวและมีคุณสมบัติสะท้อนแสงได้ดี ทำให้ผิวบริเวณที่ทาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ซึ่งเทคนิคการใช้แป้งผสมชิมเมอร์ให้ใบหน้าดูมีมิติยิ่งขึ้น สามารถทำได้ดังต่อไปนี้

1. เริ่มด้วยการทาในปริมาณน้อยและแตะแป้งเบา ๆ ลงบนผิว แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณตามความต้องการ เพื่อให้ได้ลุคที่เป็นธรรมชาติและไม่เงาวาวเกินไป
2. เน้นการทาในจุดที่ต้องการให้โดดเด่น เช่น โหนกแก้ม สันจมูก หน้าผาก และกระจับปาก เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติและเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
3. ใช้แปรงแต่งหน้าในการลงแป้ง เพื่อให้ชิมเมอร์กระจายตัวอย่างเบามือและสม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดคราบหรือแป้งจับตัวเป็นก้อน 

ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการทาแป้งพัฟเกาหลีผสมชิมเมอร์ในบริเวณที่มีรูขุมขนกว้างหรือริ้วรอยลึก เนื่องจากคุณสมบัติของชิมเมอร์จะทำให้ผิวบริเวณที่ทาดูโดดเด่นขึ้น หากทาในบริเวณที่มีรูขุมขนกว้าง ก็อาจทำให้มองเห็นจุดบกพร่องของผิวได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเช่นกัน

โดยมีตัวอย่างแป้งพัฟเกาหลีผสมชิมเมอร์ที่ได้รับความนิยม เช่น

1. ETUDE Secret Beam Powder Pact SPF 36 PA+++
2. Dasique Correcting Finish Powder
   

การใช้แป้งพัฟเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการแต่งหน้า จะช่วยทำให้เครื่องสำอางเซ็ตตัวและเกาะบนผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากใช้แป้งพัฟที่ไม่เหมาะสม อาจเกิดการทับซ้อนของสีระหว่างแป้งพัฟกับรองพื้นหรือบลัชออน ทำให้สีที่ออกมาดูหม่นไม่สดใส และเกิดคราบขึ้นได้ ดังนั้น เพื่อให้ได้แป้งพัฟสำหรับการเซ็ตเมคอัพอย่างมีประสิทธิภาพ เราจะขอแนะนำให้เลือกแป้งพัฟเกาหลีเนื้อโปร่งแสง เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นหลายประการที่เหมาะสมในการทาหลังการแต่งหน้า ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1. ไม่เปลี่ยนสีของเมคอัพ เนื่องจากแป้งพัฟเนื้อโปร่งแสง เป็นแป้งที่ไม่มีสีหรือมีสีที่จางมาก ทำให้เมคอัพที่ทาลงไปก่อนหน้านี้ยังคงดูเป็นธรรมชาติและสีสันไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม  

2. เหมาะกับทุกสภาพผิว เนื่องจากไม่มีสีที่ชัดเจน ทำให้แป้งชนิดนี้สามารถกลมกลืนเข้ากับทุกสีผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ทำให้ผิวหน้าลอยหรือหมองเกินไป

3. เพิ่มความเรียบเนียนให้กับผิว โดยช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินจากใบหน้า ทำให้ผิวดูแมตต์และเรียบเนียนขึ้นโดยไม่ทิ้งรอยหรือทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบในภายหลัง

โดยมีตัวอย่างแป้งพัฟเกาหลีเนื้อโปร่งแสงที่ได้รับความนิยม ได้แก่

1. Peripera Oil Capture Setting Pact 
2. Innisfree No Sebum Mineral Pact 
3. Laneige Neo Essential Blurring Finish Powder
   
4. Skinfood White Grape Fresh Up Light Pact