หนึ่งในแบรนด์ความสวยความงามชั้นนำระดับโลกที่เชื่อว่า หลายคนจะต้องรู้จักนั่นก็คือ Chanel นั่นเอง Chanel เป็นแบรนด์ที่คร่ำหวอดทั้งในแวดวงแฟชั่น เครื่องประดับ น้ำหอมและเครื่องสำอาง ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มาจากแบรนด์ Chanel หลายชิ้นนั้นได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ซึ่งแป้งสำหรับผิวหน้าก็เป็นไอเทมหนึ่งที่ทำให้ใครหลายคนกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้แบรนด์ Chanel ด้วยเช่นกัน
จนถึงปัจจุบันนี้ Chanel ได้ผลิตแป้งสำหรับผิวหน้าไว้มากมายหลายรุ่น โดยมีจุดเด่นคือ ให้ผิวที่เนียนสวย สุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ โดยจะมีความแตกต่างกันไปทั้งในเรื่องของจุดประสงค์การใช้งาน เนื้อสัมผัสและจำนวนเฉดสี ฉะนั้น ในวันนี้เราจึงรวบรวม 10 อันดับ แป้ง Chanel รุ่นยอดนิยมที่น่าสนใจ รวมไปถึงเทคนิคการทาแป้งยังไงไม่ให้เป็นคราบมาฝากทุกคนอีกด้วยค่ะ
Top 5 แป้ง Chanel ยอดนิยม
Chanel
ผิวนุ่มเนียน ปกปิดได้ดี ให้งานผิวแมตต์ที่ดูเปล่งประกาย
Chanel
แป้งฝุ่นอณูเล็กละเอียด คุมมันระดับกลาง ให้ผิวเนียนสวย
Chanel
ประกายมุกให้ผิวสดใส ผ่องโกลว์ เบาสบาย ไม่ระคายเคืองผิว
Chanel
ทาแล้วกระจ่างใส ลดความมันบนผิว โดยทำให้เหนอะหนะ
คุณปันตาจบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่มี Passion ในด้านความงามและเครื่องสำอางเป็นพิเศษ จึงได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในสายงานนี้จนได้รับรางวัล 1st Runner Up Artistry Makeup Challenge Thailand และ Artistry Passionista Beauty Blogger TOP 20 ปัจจุบันคุณปันตาเป็นเจ้าของสตูดิโอสอนแต่งหน้า L’artiste Beauty & Makeup Studio ที่เปิดสอนมากว่า 5 ปีแล้ว อีกทั้งยังรับงานเป็นวิทยากรอบรมเรื่องการแต่งหน้าให้กับองค์กรเอกชนและหน่วยงานราชการมากมาย นอกจากนี้ ยังมีความรู้ในด้าน Stylist จนได้รับความไว้วางใจให้ทำงานกับผู้บริหารระดับสูงในองค์กรชื่อดังอีกด้วย หากกล่าวถึงด้านความสวยความงามแล้ว คุณปันตาเชื่อว่าทุกคนมีความงามในแบบฉบับของตัวเอง เครื่องสำอางเป็นเพียงแค่สิ่งที่ดึงเสน่ห์ของแต่ละคนออกมาให้โดดเด่นมากขึ้นเท่านั้น และความเชื่อนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจในการสอนแต่งหน้าให้กับนักเรียนของตนเอง เพื่อให้ออกมาสวยในแบบฉบับที่ยังมีความเป็นตัวเองอยู่ แต่เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้นนั่นเอง
คุณอีฟใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2017 และทำงานเป็นพนักงานประสานงานระหว่างคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติในจังหวัดคานะกะวะ นอกเหนือจากงานหลักแล้ว คุณอีฟยังทำงานเป็นล่ามฟรีแลนซ์และมีความสนใจในเรื่องเครื่องสำอางและสกินแคร์ โดยชอบติดตามเทรนด์ความงามทั้งจากแบรนด์ญี่ปุ่นและอื่น ๆ ทดลองผลิตภัณฑ์ และอ่านรีวิวเกี่ยวกับเครื่องสำอางและสกินแคร์อยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังมีประสบการณ์แต่งหน้าสำหรับงานต่าง ๆ ทั้งในไทยและญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นแต่งหน้าเจ้าสาว แต่งหน้ารับปริญญา หรือแต่งหน้าออกงาน ทำให้คุณอีฟเข้าใจการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวและโอกาสต่าง ๆ ซึ่งนอกจากด้านความงามแล้ว คุณอีฟยังรักการทำอาหาร โดยเฉพาะการคิดค้นสูตรใหม่ ๆ ที่ผสมผสานระหว่างอาหารไทยและญี่ปุ่น รวมถึงสอนทำอาหารไทยให้กับคนญี่ปุ่นเป็นครั้งคราว จึงชอบทดลองวัตถุดิบที่หาได้ในญี่ปุ่น และปรับรสชาติให้เข้ากับวัฒนธรรมการกินของที่นี่ อีกทั้งยังสนุกกับการแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคแต่งหน้า การเลือกสกินแคร์ หรือการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประโยชน์
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
แม้แป้ง Chanel จะมีคุณภาพดี แต่ก็มีราคาที่สูงมากด้วยเช่นกัน ดังนั้น วันนี้เราจึงจะมาแชร์ข้อมูลให้ทุกคนได้เข้าใจถึงวิธีการเลือกแป้ง Chanel ให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อให้เข้ากับเมคอัพลุคและยังช่วยเสริมสีผิวของคุณให้ดูสวยโดดเด่นมากยิ่งขึ้นค่ะ
เครื่องสำอางที่จัดอยู่ในหมวดแป้งจาก Chanel นั้นมีให้เลือกอยู่หลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณสมบัติและจุดประสงค์ในการใช้งาน วันนี้เราจึงรวบรวมข้อมูลมาให้คุณได้รู้จักกับแป้ง Chanel ได้ดียิ่งขึ้นกันค่ะ
แป้งผสมรองพื้น Chanel นั้นจะมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม เกลี่ยง่าย พร้อมมอบความชุ่มชื้นให้ผิวโดยจะไม่ทำให้ผิวดูแมตต์จนเเกินไป ซึ่งแป้งผสมรองพื้นของ Chanel จะมีหลัก ๆ อยู่ 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Ultra Le Teint ที่ช่วยควบคุมความมัน และรุ่น Le Blanc ที่เน้นให้ผิวดูกระจ่างใส ส่วนการปกปิดจะเหมือนแป้งผสมรองพื้นทั่ว ๆ ไปคือ ระดับบางเบาถึงปานกลาง ทั้งนี้ เพื่อให้เนื้อแป้งกลมกลืนไปกับผิวได้อย่างแนบเนียน หรือถ้าต้องการให้ผิวดูบางเบาลงอย่างเป็นธรรมชาติ คุณสามารถใช้แปรงปัดแป้งแทนการใช้ฟองน้ำได้ค่ะ
แป้งฝุ่นของ Chanel มีลักษณะเป็นผงแป้งละเอียด เนื้อสัมผัสนุ่ม มีความโปร่งสบายผิว พร้อมมีประกายชิมเมอร์ละเอียดที่ช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูมีมิติและดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น อีกทั้งมีส่วนผสมของ Silica ช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน จึงช่วยให้รองพื้นติดทนยาวนานยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เมคอัพของคุณแนบสนิทไปกับผิวหน้า หลังจากที่คุณลงรองพื้นแบบลิขวิด หรือแบบครีมแล้ว แนะนำให้ใช้คู่กับแปรงแต่งหน้า โดยปัดวนให้ทั่วใบหน้า หรือหากต้องการเน้นการปกปิดแนะนำให้ใช้พัฟกดเบา ๆ เฉพาะจุดค่ะ
แป้ง Chanel ชนิดถัดมาคือ แป้งอัดแข็งที่ไม่ผสมรองพื้น โดยมีเนื้อแป้งที่มีความละเอียด บางเบา และนุ่มลื่นผิว จึงสามารถใช้ลงหลังทารองพื้น หรือจะเติมระหว่างวันก็ได้ ซึ่งยังเหมาะกับคนที่ชอบเติมหน้าบ่อย ๆ และชอบงานผิวที่ดูใส ๆ อีกทั้งความพิเศษของแป้งรุ่นนี้ก็คือ มีการเพิ่มคุณสมบัติให้สามารถปรับสีผิวให้มีความกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถใช้พัฟฟองน้ำแตะไปที่แป้งก็สามารถเติมแป้งได้ทั่วใบหน้า หรือถ้าอยากให้บางเบายิ่งขึ้นก็สามารถใช้แปรงปัดแป้งแทนได้
แป้งไฮไลต์จะมีสีที่สว่าง ซึ่งจะผสมกลิตเตอร์ หรือชิมเมอร์ เมื่อปัดบริเวณโหนกแก้ม สันจมูก และเหนือริมฝีปากก็จะเพิ่มความสว่างเป็นประกายให้กับใบหน้า ส่งผลให้หน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ คนที่มีผด หรือหลุมสิวไม่ควรปัดไฮไลต์ในปริมาณมาก เพราะจะยิ่งเน้นให้ผิวแลดูไม่เรียบเนียน ในขณะที่แป้งบรอนเซอร์จะมีโทนสีน้ำผึ้งอมทอง ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง โกลว์แบบมีสุขภาพดี ยิ่งคนสีผิวเข้มใช้จะยิ่งดูโดดเด่นมากขึ้น แต่ก็ต้องปัดในปริมาณที่พอดี มิฉะนั้น อาจทำให้หน้าดูหมองลงไปได้
ฟินิชลุคที่ได้จากการใช้แป้งนั้นนับว่า มีความสำคัญกับสภาพผิวเป็นอย่างมาก ถ้าเลือกแป้งที่ให้ฟินิชลุคที่เหมาะสม คุณก็จะสามารถอำพรางปัญหาผิวที่เกิดขึ้นเฉพาะตามแต่ละสภาพผิว แต่ถ้าเลือกฟินิชลุคที่ไม่เข้ากันกับสภาพผิว แป้งชิ้นนั้นก็จะกลายเป็นไอเทมที่พังเมคอัพของคุณให้หมดสวยได้เลยทีเดียว
สำหรับคนผิวมันหรือผิวผสมที่มีปัญหาเรื่องความมันส่วนเกินบนใบหน้า ควรจะเลือกฟินิชลุคแบบแมตต์เท่านั้น เนื่องจากฟินิชลุคในลักษณะนี้จะทำให้แป้งนั้นดูแห้งและแนบสนิทไปกับผิว ไม่ทิ้งความฉ่ำวาวให้ผิวยิ่งดูมันเยิ้มขึ้นไปจากเดิม และเน้นตบแป้งบริเวณผิวที่มีความมัน แต่ถ้าใครที่มีสภาพผิวแห้ง หรือขาดน้ำ ก็ควรจะเลือกแป้งที่ให้ ฟินิชลุคแบบโกลว์ หรือเชียร์ เพื่อเพิ่มประกายให้ผิวดูชุ่มฉ่ำ มีชีวิตชีวา และลดความแห้งของผิวค่ะ
ส่วนผสมหลักที่ใช้ในแป้งก็ถือเป็นอีกเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนจะเลือกซื้อแป้ง Chanel มาใช้ โดยเฉพาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องความมันส่วนเกินก็ควรจะต้องตรวจสอบส่วนผสมให้ดี ทั้งนี้ แป้ง Chanel จะมีส่วนผสมของไมโครบีดส์จากซิลิกาและซิงค์ผสมเข้ากับผงแป้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับความมันส่วนเกินและช่วยให้ผิวดูแมตต์ธรรมชาติ อีกทั้งยังมีส่วนผสมของแร่มิเนอรัลที่มีเนื้อละเอียดและช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน จึงเหมาะกับคนที่มีผิวบอบบาง หรือแพ้ง่าย
ในทางกลับกัน หากใครที่มีปัญหาผิวแห้งขาดน้ำก็ควรเลือกแป้งที่มีส่วนผสมบำรุงและให้ความชุ่มชื้น ซึ่งแป้ง Chanel ก็มีการใช้สารสกัดจากธรรมชาติ อย่างเช่น สารสกัดจากดอกการ์ดีเนีย สควาเลน ไนอะซินาไมด์ กรดไฮยาลูรอนิค กุหลาบหิน รวมไปถึงไวท์โรสและดอกฝ้ายที่มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลม พร้อมปกป้องผิวให้ผิวชุ่มชื้น แข็งแรงและดูสุขภาพดี นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของผงไข่มุกที่ช่วยทำให้ผิวดูโกลว์และไม่ดูแมตต์จนเกินไปค่ะ
การเลือกเฉดสีของแป้ง Chanel ให้เข้ากับสีผิวนั้น ไม่ควรทาแป้งลงบริเวณหลังมือเพื่อดูสี แต่ควรเทียบเคียงกับผิวบริเวณลำคอ หรือใบหน้าโดยตรง และควรทาบริเวณช่วงกรามเพื่อให้ได้เฉดสีที่ตรงที่สุด นอกจากนี้ ผิวขาวเหลืองควรใช้โทนสี Light หรือ Meidium Light ส่วนแป้งฝุ่นแนะนำเบอร์ 01, 10 และ 20 สำหรับผิวขาวอมชมพูควรใช้โทนสี Light หรือเฉดสีที่สว่างที่สุดและควรเป็นสีที่ออกโทนชมพู ส่วนแป้งฝุ่นแนะนำเบอร์ 10 และ 12 เพื่อให้ผิวดูสวยเป็นธรรมชาติ รวมไปถึงผิวสองสี หรือผิวสีเข้มแนะนำให้ใช้สี Medium หรือ Medium Deep ส่วนแป้งฝุ่นแนะนำเบอร์ 30 และ 40 ที่จะทำให้ผิวมีสุขภาพดีและดูกลมกลืนไปกับผิวมากกว่าการใช้โทนสีที่สว่างกว่าผิวค่ะ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Chanel แป้ง Chanel Le Teint Ultra Tenue Ultrawear Flawless Compact Foundation SPF 15 | ![]() | ผิวนุ่มเนียน ปกปิดได้ดี ให้งานผิวแมตต์ที่ดูเปล่งประกาย | |
2 | Chanel แป้ง Chanel Poudre Universelle Libre Natural Finish Loose Powder | ![]() | แป้งฝุ่นอณูเล็กละเอียด คุมมันระดับกลาง ให้ผิวเนียนสวย | |
3 | Chanel แป้ง Chanel Le Blanc Brightening Compact Foundation Long-Lasting Radiance-Protection-Thermal Comfort SPF25/PA+++ | ![]() | ประกายมุกให้ผิวสดใส ผ่องโกลว์ เบาสบาย ไม่ระคายเคืองผิว | |
4 | Chanel แป้ง Chanel Poudre Universelle Compacte Natural Finish Pressed Powder | ![]() | ทาแล้วกระจ่างใส ลดความมันบนผิว โดยทำให้เหนอะหนะ | |
5 | Chanel แป้ง Chanel Les Beiges Healthy Glow Sheer Powder SPF15 PA++ | ![]() | เนื้อแป้งแนบไปกับผิว ไม่ตกร่อง พร้อมอำพรางรูขุมขน | |
6 | Chanel แป้ง Chanel Poudre Lumière Illuminating Powder | ![]() | ไม่จับตัวกันเป็นก้อน ผิวดูละมุน และใช้ได้กับทุกโทนสีผิว | |
7 | Chanel แป้ง Chanel Poudre Lumiere Glacee Silver Reflections Shimmering Powder | ![]() | ชิมเมอร์ละเอียด สะท้อนแสงสวย สร้างมิติได้หลายจุด | |
8 | Chanel แป้ง Chanel Les Beiges Healthy Glow Luminous Multi Colour | ![]() | 6 สีในตลับเดียว ไม่คราบ มีชิมเมอร์ให้ผิวสวยดูสุขภาพดี | |
9 | Chanel แป้ง Chanel Duo De Camelias Illuminating Powder | ![]() | ปั๊มลายดูหรูหรา เนื้อเนียนละเอียดและผสานชิมเมอร์ 2 สี | |
10 | Chanel แป้ง Chanel Les Beiges Oversize Healthy Glow Highlighting Powder | ![]() | ผิวดูสว่าง ไม่มันวาวเกินไป ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย |
แป้งผสมรองพื้นที่นอกจากจะเป็นไอเทมตัวท็อปของ Chanel ยังเป็นแป้งอันดับต้น ๆ ในกลุ่ม Foundation Powder อีกด้วย สิ่งที่ถูกใจผู้ใช้คือ ความสามารถในการดูดซับความมันที่มีประสิทธิภาพสูง จึงช่วยให้เมคอัพของคุณนั้นมีความติดทนบนใบหน้า นอกจากนี้ ยังมีเนื้อที่เนียนนุ่ม เนื้อแป้งละเอียด พร้อมปกปิดได้ในระดับบางเบาไปจนถึงปานกลาง และมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น รวมทั้งอนุภาคของแป้งที่จะช่วยเพิ่มความฉ่ำเบา ๆ โดยไม่ทำให้ผิวดูแมตต์มากจนเกินไป พร้อมช่วยอำพรางรูขุมขนและปกปิดรอยด่างดำได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งแป้ง Chanel รุ่นนี้ยังใช้ได้กับทุกสภาพผิวอีกด้วยค่ะ
แป้งฝุ่นของ Chanel รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ใช้ทั่วโลก เนื่องจากความเล็กละเอียดของเม็ดแป้งที่สามารถกลมกลืนเข้ากับผิวได้อย่างดี ช่วยอำพรางรูขุมขนให้ผิวดูนวลเนียนมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยควบคุมความมันได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังมีอนุภาคของแป้งที่ช่วยกระจายแสง จึงไม่ทำให้ฟินิชลุคออกมานั้นดูแห้งจนเกินไป ด้วยอณูของแป้งจะมีลักษณะโปร่งแสงโดยไม่ทำให้สีรองพื้นมีสีที่ผิดเพี้ยน ส่วนสีแป้งมีให้เลือกทั้งหมด 4 สีที่เป็นเฉดสีที่เข้าได้กับทุกโทนสีผิว ซึ่งคุณสามารถใช้แปรงปัดเบา ๆ เพื่อให้ได้ฟินิชงานผิวแบบธรรมชาติ หรือจะใช้พัฟเกลี่ยเพื่อช่วยเพิ่มการปกปิดก็ได้ค่ะ
ผิวแพ้ง่ายมักจะต้องคำนึงถึงส่วนผสมเป็นหลัก เพื่อลดการระคายเคืองผิว อย่างแป้ง Chanel รุ่นนี้อยู่ในไลน์ของ Le Blanc ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมีส่วนผสมของผงไข่มุกและไนอะซินาไมด์ ช่วยให้ผิวดูสดใสและปราศจากการระคายเคือง รวมไปถึงมีค่า SPF25 ช่วยป้องกันแสงแดดในอาคาร มลภาวะภายนอก และยังมีนวัตกรรมคอมเพล็กซ์ช่วยให้ผิวไม่เหนอะหนะ นอกจากนี้ เนื้อแป้งยังมีความบางเบา ปกปิดระดับปานกลางและเบลอรูขุมขนได้ดี ฟินิชลุคที่ได้คือ ผิวจะดูเรียบเนียน สดใสและผ่องโกลว์ อีกทั้งเหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบางและหมองคล้ำค่ะ
แป้งอัดแข็งไม่ผสมรองพื้นที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ที่มีปัญหาเรื่องความมันส่วนเกินบนผิวหน้า เนื่องจากมีส่วนผสมของไมโครบีดส์จาก Silica ที่ช่วยดูดซับความมันบนผิวได้อย่างดีเยี่ยม หลายคนยังชื่นชอบความบางเบาของเนื้อแป้งที่ปัดแล้วก็ยังให้ผิวที่ดูเบาสบาย พร้อมให้ลุคของผิวที่มีความเป็นธรรมชาติ สามารถเติมในระหว่างวันได้บ่อยตามต้องการ โดยไม่ทิ้งคราบ หรือความเหนอะหนะเอาไว้บนผิวหน้า รวมถึงมีเม็ดสีที่ช่วยกระจายแสงให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส โดยในตลับจะมีพัฟมาให้ จึงช่วยให้เนื้อแป้งเกาะติดได้ดี แถมพัฟยังมีความนุ่ม ไม่แข็ง ช่วยให้เกลี่ยง่าย ทำให้ทาแล้วได้ผิวที่สวยในทันที
แป้งอัดแข็งไม่ผสมรองพื้นที่ครองใจผู้ใช้ที่มีผิวแห้งหลาย ๆ คน เนื่องจากมีสารสกัดจากดอกไม้ธรรมชาติ ได้แก่ ไวท์โรสและดอกฝ้าย ช่วยดูแลผิวให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก โดยแป้ง Chanel รุ่นนี้ยังมี 4 เฉดสีให้เลือก โดยจะให้ฟินิชลุคที่มีความผ่องโกลว์ จึงช่วยทำให้ผิวที่ดูแห้งขาดน้ำมีความชุ่มชื้นและมีผิวที่เป็นประกาย นอกจากนี้ เนื้อสัมผัสของแป้งยังมีความเนียนนุ่ม เกลี่ยง่ายและแนบไปกับผิว แถมยังเหมาะมากสำหรับคนผิวแห้งหลาย ๆ คนที่มักประสบปัญหาทาแป้งแล้วผิวตกร่องบริเวณใบหน้า รวมไปถึงเนื้อแป้งยังติดทนและอำพรางรูขุมขนได้ดีอีกด้วย
แป้งไฮไลต์รุ่นนี้จะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มละเอียด เพราะเป็นแป้งแบบเนื้อครีม จึงสามารถเกลี่ยสีให้มีความสม่ำเสมอตามจุดที่ต่าง ๆ บนใบหน้า โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของแป้งจับตัวเป็นก้อน หรือการเกิดคราบและขุยบนใบหน้า นอกจากนี้ แป้ง Chanel รุ่นนี้ยังมีเม็ดสีที่ละเอียด บางเบา ส่วนชิมเมอร์ยังมีประกายที่สวยและให้ความสบายผิวเป็นอย่างมาก ฟินิชลุคที่ได้คือ จะได้ผิวที่มีความโกลว์แบบเป็นธรรมชาติและผิวดูมีมิติ อีกทั้งยังสามารถใช้ได้กับทุกโทนสีผิว ซึ่งจะให้ความกลมกลืนไปกับผิวและไม่ทำให้ผิวดูโดดจนเกินไป โดยควรใช้คู่กับแปรงเพื่อให้ผิวดูละมุนเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นค่ะ
หากต้องการเพิ่มมิติให้กับใบหน้าด้วยแป้งไฮไลต์ ขอแนะนำแป้ง Chanel โดยเป็นแป้งไฮไลต์ที่อัดแน่นไปด้วยประกายของชิมเมอร์ รวมถึงมีส่วนผสมของผงไข่มุก เนื้อสัมผัสนั้นจะมีความบางเบาและมีประกายชิมเมอร์สีขาวที่ละเอียดมาก ซึ่งจะให้การสะท้อนและเล่นแสงได้สวยโดยไม่ทำให้ผิวดูขาวโดด พร้อมช่วยเพิ่มความสว่างเฉพาะจุด เช่น โหนกแก้ม โหนกคิ้วสันจมูก เนินอก เป็นต้น หรือจะปัดทั่วใบหน้าเพื่อให้ผิวดูสดใสขึ้นก็ได้ วิธีการใช้คือ แนะนำให้ใช้แปรงปัดโดยให้ลงน้ำหนักมือเบา ๆ เพื่อให้แป้งไฮไลต์ดูเรียบเนียน มีเม็ดสีที่สม่ำเสมอ รวมไปถึงไม่ทำให้ผิวดูหนาจนเกินไปค่ะ
สำหรับคนที่ชอบผิวที่ดูเด่นเป็นประกาย ขอแนะนำแป้ง Chanel รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นที่มาในรูปแบบไฮไลต์ มีให้เลือก 2 เฉดสีคือ สี Light เหมาะกับผิวขาวและสี Medium เหมาะกับผิวสองสี หรือผิวเข้ม โดยจะมี 6 สีที่ไล่โทนสีตั้งแต่สีอ่อนไปจนถึงสีเข้ม ซึ่งมีประกายชิมเมอร์ละเอียด พร้อมมีสีชมพูช่วยเพิ่มความระเรื่อให้กับพวงแก้มและใบหน้า เนื้อสัมผัสจะมีความบางเบา ปัดง่าย ไม่เป็นคราบและให้ฟินิชผิวที่ดูบ่มแดดเล็กน้อย อีกทั้งมีส่วนผสมของมิเนอรัล แว็กซ์ สารสกัดจากกุหลาบหินและขี้ผึ้ง ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและไม่แมตต์จนเกินไป ทั้งนี้ ไม่ควรปัดทั่วบริเวณใบหน้า เพราะจะทำให้หน้าดูหมองคล้ำกว่าคอได้ค่ะ
แป้ง Chanel รุ่นนี้เป็นแป้งไฮไลต์รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดอกคามิลเลีย ซึ่งมีการปั๊มเป็นรูปลายดอกไม้ที่ให้ความหรูหรา มีเนื้อสัมผัสบางเบา เนียนละเอียด พร้อมมีประกายชิมเมอร์สีแพลตินั่มและสีเบจอมทองช่วยเพิ่มลุคให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งสามารถปัดได้ทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโหนกแก้ม โหนกคิ้ว สันจมูก เนินอก ช่วงต้นแขน ไหล่ เป็นต้น หลังปัดจะมีความเป็นประกายระยิบระยับจากเม็ดสีที่ผสานกัน จึงเหมาะกับการใช้เพื่อเพิ่มลุคให้ดูแตกต่างในวันพิเศษ แต่ด้วยฟินิชที่มีความบางเบามาก เพื่อให้สีดูชัดขึ้นแนะนำให้ปัดซ้ำ 2 - 3 ครั้งค่ะ
แป้งไฮไลต์ขนาด Oversize มีการผสมผสานชิมเมอร์สีพีชอ่อน ๆ ที่มีการปั๊มลวดลายเป็นรูปสี่เหลี่ยม โดยเป็นแป้ง Chanel ที่อยู่ในไลน์ Les Beiges ที่จะช่วยเพิ่มความสว่าง สดใสเป็นธรรมชาติ สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย แถมใช้ได้กับทุกสภาพผิว ผู้ใช้ต่างชื่นชอบแป้งไฮไลต์รุ่นนี้ เพราะทำให้ผิวหน้าดูเปล่งประกายแบบสุขภาพดี และได้ฟินิชลุคที่ไม่ทำให้ดูมันวาวจนเกินไป พร้อมให้ความเป็นธรรมชาติและกลมกลืนเข้ากับผิวได้ดี รวมไปถึงแป้งไฮไลต์ยังมีเนื้อเนียนละเอียดที่ปัดแล้วไม่มีร่วงเป็นผง ทั้งนี้ แป้งจะมีเพียงแค่หนึ่งเฉดสีเท่านั้น สำหรับคนที่ผิวขาวแนะนำให้ปัดเบา ๆ กันนะคะ
สภาพอากาศที่ร้อนชื้น หากมีการใช้แป้งฝุ่น หรือแป้งผสมรองพื้นก็อาจเกิดคราบได้ ดังนั้น เรามีเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยทำให้ผิวของคุณไม่เป็นคราบกันค่ะ วิธีแรกคือ หลังจากทารองพื้นเสร็จควรรอให้รองพื้นเซ็ตตัวก่อนประมาณ 2 - 3 นาที จากนั้นใช้แปรงจุ่มลงในแป้งฝุ่น หรือแป้งผสมรองพื้นแล้วเคาะ 1 - 2 ครั้ง เพื่อเอาแป้งส่วนเกินออก จากนั้นใช้ข้อมือปัดวนให้ทั่วใบหน้าตามแนวเส้นขน โดยเริ่มจากตรงกลางหน้าไปยังกรอบหน้า
แต่สำหรับการทาแป้งระหว่างวันนั้นควรซับมันด้วยกระดาษซับมัน หรือกระดาษทิชชูก่อนแล้วจึงทาแป้งด้วยพัฟโดยค่อย ๆ กดตามจุดต่าง ๆ อย่างเบามือ อีกทั้งคุณสามารถใช้ฟองน้ำ หรือพัฟที่แห้งกดซับความมันแทนกระดาษซับมันได้ เพียงเท่านี้ผิวของคุณก็จะดูเรียบเนียนและไม่มีคราบแล้วล่ะค่ะ
อันดับที่ 1: Chanel|แป้ง Chanel Le Teint Ultra Tenue Ultrawear Flawless Compact Foundation SPF 15
อันดับที่ 2: Chanel|แป้ง Chanel Poudre Universelle Libre Natural Finish Loose Powder
อันดับที่ 3: Chanel|แป้ง Chanel Le Blanc Brightening Compact Foundation Long-Lasting Radiance-Protection-Thermal Comfort SPF25/PA+++
อันดับที่ 4: Chanel|แป้ง Chanel Poudre Universelle Compacte Natural Finish Pressed Powder
อันดับที่ 5: Chanel|แป้ง Chanel Les Beiges Healthy Glow Sheer Powder SPF15 PA++
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ