10 ผนังเบากั้นห้อง แบบไหนดี ปี 2025 เก็บเสียง

การเลือกวัสดุสำหรับผนังเบากั้นห้องไม่ควรพิจารณาเพียงเรื่องราคาเท่านั้น แต่ควรเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของแต่ละห้องด้วย วัสดุที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดปัญหาการบำรุงรักษา และทำให้ห้องมีความสวยงามและปลอดภัยมากขึ้น การเลือกที่ถูกต้องยังช่วยให้บ้านน่าอยู่และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ดีกว่าเดิม

โครงสร้างคือหัวใจสำคัญของการทำผนังเบากั้นห้อง เพราะเป็นส่วนที่รองรับวัสดุและช่วยให้ผนังมีความแข็งแรง หากเลือกโครงไม่เหมาะสม ผนังอาจเกิดการบิดงอ เสียรูปทรง หรือพังง่ายในเวลาไม่นาน การเลือกวัสดุโครงคร่าวที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาควบคู่กับการเลือกแผ่นผนัง

• โครงคร่าวไม้ : เหมาะสำหรับงานกั้นห้องชั่วคราวหรือพื้นที่ที่ต้องการความประหยัด สามารถทำเองได้ง่ายและไม่ซับซ้อน แต่มีข้อเสียคือไม่ทนชื้นและปลวก อาจทำให้เสื่อมสภาพเร็ว จึงควรใช้ในพื้นที่แห้งและใช้งานระยะสั้นเท่านั้น




• โครงคร่าวเหล็กชุบสังกะสี : มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และติดตั้งได้ตรงไม่บิดงอง่าย จึงเหมาะกับงานที่ต้องการผนังเบาใช้งานระยะยาว ทั้งยังป้องกันสนิมได้ระดับหนึ่ง ทำให้เป็นที่นิยมในงานบ้านพักอาศัยและอาคารพาณิชย์




• โครงอลูมิเนียม : ไม่เป็นสนิม ดูเรียบหรูและทันสมัย มีน้ำหนักเบาและทนทาน จึงเหมาะกับทั้งบ้านและออฟฟิศที่ต้องการความแข็งแรงและสวยงาม แต่ราคาสูงกว่าโครงคร่าวประเภทอื่น และต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญในการติดตั้ง

ก่อนเลือกผนังเบากั้นห้อง สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือความหนาของแผ่นวัสดุ เพราะความหนามีผลต่อทั้งความแข็งแรง อายุการใช้งาน และคุณสมบัติในการกันเสียงหรือกันไฟ ยิ่งเลือกให้เหมาะกับการใช้งานจริง ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความคุ้มค่าในระยะยาว

• ผนังเบาบาง 6–8 มม. : เหมาะกับการกั้นห้องชั่วคราว เช่น ห้องเช่าหรือโฮมออฟฟิศที่ต้องการประหยัดพื้นที่และต้นทุน ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก แต่ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องรับแรงกระแทกหรือใช้งานหนัก




• ผนังเบาหนาปานกลาง 8–12 มม. : ใช้งานได้ทั้งกั้นห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องทั่วไป มีความแข็งแรงมากขึ้น รับแรงกระแทกได้ดีกว่าขนาดบาง และช่วยลดเสียงรบกวนได้ในระดับหนึ่ง จึงเป็นตัวเลือกที่นิยมใช้มากที่สุด




• ผนังเบาหนาพิเศษ 12–16 มม. : เหมาะกับห้องที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษ เช่น กันเสียง กันไฟ หรือกั้นพื้นที่ในอาคารสำนักงานที่ใช้งานหนัก ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนและมีอายุการใช้งานยาวนาน แม้จะติดตั้งยากกว่าและราคาสูงกว่า แต่คุ้มค่ากับงานที่ต้องการความแข็งแรงสูงสุด

การเลือกสีและดีไซน์ของผนังเบาไม่เพียงแต่ช่วยแบ่งพื้นที่ใช้งาน แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดบรรยากาศภายในบ้าน หากเลือกให้เข้ากับสไตล์โดยรวม จะช่วยให้ห้องดูมีเอกลักษณ์ สวยงาม และกลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งอื่น ๆ ทำให้บ้านดูน่าอยู่และสะท้อนรสนิยมของเจ้าของได้อย่างลงตัว

• สไตล์มินิมอล : ใช้ผนังโทนสีขาวหรืออ่อน ผิวเรียบ ช่วยสร้างความรู้สึกโปร่ง โล่ง และสะอาดตา เหมาะกับบ้านหรือคอนโดที่เน้นความเรียบง่าย แต่ยังคงความอบอุ่นและทันสมัยในเวลาเดียวกัน




• สไตล์โมเดิร์น : เลือกโทนสีเทาเข้ม ดำ หรือเมทัลลิค ผสมผสานกับโครงที่ดูทันสมัย ช่วยเพิ่มความหรูหราและภาพลักษณ์ที่เรียบหรู เหมาะกับบ้านสมัยใหม่หรือออฟฟิศที่ต้องการบรรยากาศจริงจังและเป็นทางการ




• สไตล์ลอฟท์/อินดัสเทรียล : ใช้ผนังโทนสีเทาปูนเปลือย ไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือซีเมนต์บอร์ด เพื่อให้ความรู้สึกดิบ เท่ และมีเอกลักษณ์ เหมาะกับคาเฟ่ สตูดิโอ หรือบ้านที่ต้องการโชว์สไตล์อุตสาหกรรมแบบเปิดเผยวัสดุจริง




• สไตล์วินเทจ/คลาสสิก : เลือกผนังไม้สังเคราะห์หรือโทนสีน้ำตาลอ่อน–เข้ม ลายไม้ธรรมชาติ สร้างความรู้สึกอบอุ่นและย้อนยุค เหมาะกับบ้านเดี่ยว รีสอร์ต หรือห้องที่ต้องการบรรยากาศสบาย ๆ และเป็นกันเอง