พื้นไม้เป็นของตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมตั้งแต่อดีต แต่ความสวยงามที่มาจากธรรมชาติ 100% ย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย ทำให้ในปัจจุบันมีการพัฒนาพื้นไม้รูปแบบใหม่ขึ้นมาเรียกว่า พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ซึ่งเป็นพื้นไม้ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ปริมาณไม้จริงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับพื้นไม้แบบเดิมในขนาดพื้นที่ ๆ เท่ากัน ติดตั้งได้ง่าย นอกจากนี้ ความหลากหลายของชนิดไม้ที่นำมาทำก็ยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงความแข็งแรงทนทานก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพื้นไม้แบบดั้งเดิมเลย
เนื่องจากพื้นไม้เอ็นจิเนียร์เป็นนวัตกรรมใหม่ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ รวมถึงวิธีการเลือกแบบง่าย ๆ จากคำแนะนำของนักออกแบบภายในมืออาชีพเพื่อที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อพื้นไม้เอ็นจิเนียร์มาตกแต่งบ้านได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมทั้งแนะนำ 10 อันดับ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์คุณภาพดี จากร้านค้าออนไลน์มาให้ทุกคนเลือกชมกันด้วย
Top 5 พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ยอดนิยม
THE BIG PLANK
พื้นไม้รักษ์โลก เนื้อไม้หนาพิเศษที่พร้อมคุณสมบัติกันปลวก 100%
BUMRUNGTHAI
ผสานความทันสมัยเข้ากับความงามและหรูหราแบบไทยโบราณ
Leowood
โดดเด่นและแข็งแรงจากไม้มะค่า รับประกันทนปลวก-มอดนาน 5 ปี
คุณนุ่นมีความสนใจด้านการวาดรูปและศิลปะตั้งแต่เด็ก ๆ รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากคุณพ่อคุณแม่มาโดยตลอด จนกระทั่งได้เข้าเรียนคณะศิลปกรรม เอกการออกแบบนิเทศศิลป์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานในด้านนี้มาเรื่อย ๆ หลังจากเรียนจบ โดยเริ่มต้นจากการเป็นครูสอนศิลปะตามโรงเรียน เป็นติวเตอร์ศิลปะและการออกแบบให้กับเด็กเล็กเพื่อฝึกสมาธิและพัฒนาการ รวมไปถึงการสอนศิลปะเพื่อเตรียมสอบเข้า และอีกหนึ่งบทบาทของคุณนุ่นคือเป็นนักออกแบบภายใน โดยมีประสบการณ์การทำงานที่บริษัทออกแบบอยู่หลายแห่ง ปัจจุบันคุณนุ่นเป็นคุณครูสอนศิลปะอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติ 2 แห่ง อีกทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัทออกแบบภายใน Macabury Group Partnership Limited ที่รับออกแบบและจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ สำหรับประดับและตกแต่งบ้านทุกประเภท
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Floor) เป็นพื้นไม้สำเร็จรูปแบบใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อลดการใช้ปริมาณไม้จริง ซึ่งแทนที่จะใช้ไม้ชนิดเดียวทั้งแผ่น พื้นไม้เอ็นจิเนียร์จะประกอบไปด้วยไม้ที่แตกต่างกัน 3 ชั้นหลัก ซึ่งชั้นบนสุดหรือชั้นผิวหน้าไม้จริง จะเป็นไม้จริงที่มีลวดลายสวยงาม เช่น ไม้โอ๊ค ไม้แอช หรือไม้สัก เป็นต้น
ส่วนชั้นที่ 2 จะใช้ไม้ชนิดอื่นที่ปลูกได้ง่ายและโตไวกว่าอย่างไม้ยางพารา (Rubberwood หรือ Parawood) เพื่อใช้เป็นเนื้อไม้หลักในการรับแรง และชั้นที่ 3 หรือชั้นล่างสุดจะเป็นชั้นที่ช่วยเสริมความแข็งแรงและการยึดตัวให้กับพื้นไม้ คุณจะเห็นว่าพื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีการใช้ไม้ราคาสูงแค่ส่วนผิวชั้นบนสุดเท่านั้นเพื่อให้ผิวสัมผัสของไม้แท้และลวดลายไม้ธรรมชาติที่ชัดเจน จึงส่งผลให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีราคาที่ถูกกว่าพื้นไม้แบบดั้งเดิมทั่วไป และช่วยประหยัดทรัพยากรไม้อีกด้วยค่ะ
แน่นอนว่าการเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์จากความสวยงาม หรือแค่ลายไม้ที่เราต้องการอาจจะไม่เพียงพอ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เช่น เรื่องของขนาดหน้าไม้ ชนิดของไม้ หรือแม้แต่คุณสมบัติอื่น ๆ ที่ต้องเหมาะสมกับห้องที่จะติดตั้งอีกด้วย ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ลองมาดูพร้อมกันเลยค่ะ
เนื่องจากผิวชั้นบนสุดของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์จะเป็นชั้นที่เราสามารถเลือกสี ลวดลาย และชนิดของไม้ได้ ซึ่งชนิดของไม้ที่แตกต่างกันก็มาพร้อมคุณสมบัติที่ต่างกันด้วย เช่น ไม้โอ๊คขาว (White Oak) จัดเป็นไม้อุตสาหกรรมที่มีเนื้อแข็งที่สุด สีออกเหลืองอมขาว ขึ้นอยู่กับการเคลือบหรือย้อมสีผิวไม้ที่หลากหลาย ลายไม้จะมีลักษณะถี่ ละเอียด และราคาค่อนข้างคงที่ หรือหากต้องการไม้ที่มีสีออกไปทางน้ำตาลทอง ไม้สักทอง (Teak) ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากสีของไม้ที่แตกต่างกันแล้ว ลายไม้ก็ยังให้สีน้ำตาลแก่ทำให้พื้นดูมีลายที่ชัดเจนขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ ลายไม้ที่โชว์อยู่บนผิวไม้แต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกัน มีทั้งรูปแบบที่มีตาไม้เป็นจุดสีเข้ม ลายเส้นไม้ หรือลายภูเขาให้เลือกตามความต้องการ ดังนั้นการเลือกใช้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์นั้นจึงต้องมองภาพรวมของทั้งสีและลวดลายที่ต้องการอีกด้วย
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ส่วนมากจะขายเป็นกล่องที่บรรจุไปด้วยแผ่นไม้สี่เหลี่ยมพื้นผ้า ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีขนาดของแผ่นไม้และจำนวนต่อกล่องไม่เท่ากัน โดยส่วนใหญ่จะมีขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 95 - 190 มม. และความหนาตั้งแต่ 17 - 22 มม. เราจึงควรพิจารณาทั้งขนาดของห้องที่เราจะปูพื้น เทียบกับปริมาณและขนาดของแผ่นไม้ที่เราเลือกด้วย ตัวอย่างเช่น หากเราเลือกแผ่นไม้เอ็นจิเนียร์แผ่นใหญ่ การนำไปปูพื้นห้องที่มีพื้นที่กว้างขวาง เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องโถง ย่อมตอบโจทย์มากกว่าการใช้ปูพื้นห้องที่มีขนาดพื้นที่เล็ก เพื่อลดปริมาณแผ่นไม้ที่ต้องถูกตัดแต่งก่อนปูและปูเต็มแผ่นได้มากขึ้นค่ะ
นอกจากชนิดของไม้และขนาดแล้ว คุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ ยังช่วยให้เราเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ในปัจจุบันมีการพัฒนาการผลิตให้มีกระบวนการเคลือบผิวชั้นบนสุดของพื้นไม้ให้มีความทนทานมากขึ้น โดยทั่วไปจะมีสองวิธีคือ เคลือบด้วย UV Oil หรือ UV Lacquer และอีกหนึ่งวิธีคือ OSMO หรือ Hard Wax Oil กระบวนการเหล่านี้จะช่วยให้ผิวไม้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ทนทานต่อความชื้นและของเหลว รวมถึงช่วยลดการมองเห็นรอยขีดข่วนที่ชัดเจน นอกจากนี้บางยี่ห้อยังมีการเสริมจำนวนแผ่นไม้ในชั้นที่ 2 ให้มากขึ้นกว่ายี่ห้ออื่น ๆ เพื่อเสริมความแข็งแรงและให้ความรู้สึกหนาแน่นเมื่อใช้งานอีกด้วยค่ะ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | THE BIG PLANK พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ รุ่น EB01 White Oak | ![]() | พื้นไม้รักษ์โลก เนื้อไม้หนาพิเศษที่พร้อมคุณสมบัติกันปลวก 100% | |
2 | A LA CARTE พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ รุ่น E09 | ![]() | พื้นไม้ทนความชื้น น้ำหนักเบา การันตีอายุการใช้งานยาวนาน | |
3 | BUMRUNGTHAI พื้นเอ็นจิเนียร์ Golden Thai Teak รุ่น SKU: 1175307 | ![]() | ผสานความทันสมัยเข้ากับความงามและหรูหราแบบไทยโบราณ | |
4 | Leowood พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ iWood รุ่น Walnut Oak 125 | ![]() | โดดเด่นและแข็งแรงจากไม้มะค่า รับประกันทนปลวก-มอดนาน 5 ปี | |
5 | MAZ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ MAZ รุ่น OAK MOS05-1 | ![]() | พื้นไม้โอ๊คราคาสบายกระเป๋า พร้อมการติดตั้งพิเศษแบบคลิกล็อก | |
6 | THE BIG PLANK พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ รุ่น EBP05 White Oak | ![]() | พื้นไม้รุ่นที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อดึงความงามของไม้โอ๊คโดยเฉพาะ | |
7 | A LA CARTE พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ รุ่น E19-1 SB-Cofee | ![]() | พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เน้นดีไซน์ โดดเด่นและสวยงามดั่งงานศิลปะ | |
8 | BUMRUNGTHAI พื้นเอ็นจิเนียร์ Cloudy Oak รุ่น SKU: 1175423 | ![]() | พื้นไม้โอ๊คราคาย่อมเยา มาพร้อมสีและลวดลายให้เลือกได้ถึง 5 แบบ | |
9 | Naturwood พื้นเอ็นจิเนียร์ Grey Oak รุ่น SKU 10102190 | ![]() | พื้นไม้โอ๊คเกรด A+++ หนาและทนทานต่อสภาพร้อนชื้นโดยเฉพาะ | |
10 | Leowood พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ iWood รุ่น Dark Brown 1 | ![]() | White Oak นำเข้าจากอเมริกา พร้อมขนาดแผ่นไม้ที่หลากหลาย |
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์จากแบรนด์ THE BIG PLANK ที่การันตีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ไม้จากฟาร์มปิดที่ปลูกไม้เพื่อใช้ทำพื้นไม้โดยเฉพาะ มาพร้อมกับขนาดหน้ากว้าง 190 mm และความยาวที่มีให้เลือกมากมายตั้งแต่ 600 mm จนถึง 1900 mm (ราคาที่แสดงอ้างอิงจากขนาด 600 mm) สี Callington Oak ให้ความโปร่งสบายให้ห้องที่ติดตั้ง นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติของผิวไม้ชั้นบนสุดที่กันปลวก ทนต่อสารเคมี กรด ด่าง และความชื้นด้วยค่ะ
แบรนด์ไม้จากอังกฤษที่มีประสบการณ์ในการผลิต และจำหน่ายพื้นรูปแบบต่าง ๆ มากว่า 45 ปี โดย A LA CARTE นำเสนอพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ผิวไม้ชั้นบนสุดทำมาจากไม้บีช (Beech) ซึ่งได้รับความนิยมในตลาดน้อยกว่าไม้ชนิดอื่น เพราะไม่มีลักษณะเด่นในด้านใดเป็นพิเศษ แต่ด้วยคุณสมบัติที่ทั่ว ๆ ไปของไม้ชนิดนี้ ทำให้น้ำหนักโดยรวมถือว่าเบากว่าไม้โอ๊ค (Oak) และสามารถทนรอยขีดข่วนได้ดีกว่าไม้เนื้อบางอื่น ๆ และที่สำคัญคือ มาพร้อมสารเคลือบพิเศษป้องกันความชื้นเข้าสู่เนื้อไม้ชั้นกลางอีกด้วยค่ะ
BUMRUNGTHAI ผสานนวัตกรรมพื้นไม้เอ็นจิเนียร์สมัยใหม่เข้ากับลวดลายและสีน้ำตาลทองแบบไม้สักไทย (Thai Teak) โบราณเข้าด้วยกัน จึงเกิดเป็นพื้นไม้ที่มีคุณสมบัติทันสมัย โดยผิวบนสุดเรียบเนียนจากผิวไม้สักแท้ที่เคลือบสียูวีอะคริลิกแล็กเกอร์ 8 - 11 ชั้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังเสริมความแข็งแรงด้วยชั้นโครงสร้างไม้อัดสลับเสี้ยน ป้องกันการบิดโก่ง ทนต่อรอยขีดข่วน ทนแรงกดทับและแรงกระแทกได้ดี ทั้งยังผ่านกระบวนการอบไม้และทาอัดน้ำยากันปลวกไว้อย่างดีด้วยค่ะ
iWood พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ผิวไม้ชั้นบนสุดผลิตจากไม้มะค่า (Makha) แท้ เกรด AAA จากแอฟริกา โดดเด่นด้วยคุณสมบัติ Anti-Termite ที่ทำการอัดน้ำยากันปลวกใส่ในทุกชั้นไม้ จึงรับประกันได้ว่า ปลวกและมอดจะไม่สามารถทำลายเนื้อไม้ได้ถึง 5 ปี อีกทั้งยังมีการเก็บรายละเอียดด้วยการลบมุมขอบข้างรอบแผ่นไม้ เพื่อเพิ่มความสวยงาม และชั้นเนื้อไม้ติดตั้งด้วยระบบร่องลิ้น (Tongue & Groove) ช่วยเพิ่มการยึดติดและลดการเลื่อนหลุดของชั้นเนื้อไม้นั่นเองค่ะ
สำหรับรุ่นนี้ถือว่าเป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ราคาเป็นมิตรจาก MAZ เหมาะสำหรับการติดตั้งในห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือห้องนอน โดยงานพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ OAK MOS05-1 นั้น พื้นผิวหน้าจะให้สีน้ำตาลที่ทำจากไม้โอ๊ค (Oak) พร้อมลายและตาไม้ธรรมชาติ ติดตั้งแบบพิเศษด้วยระบบคลิกล็อก ทำให้แผ่นไม้แนบชิดติดกันได้สนิทมากกว่าการใช้กาวทั่วไป เนื้อไม้มีคุณสมบัติกันปลวก ช่วยยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งผลิตเป็นแบบก้างปลาได้อีกด้วย
อีกหนึ่งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ผลงานจาก THE BIG PLANK ในซีรีส์ Plus+ ที่ตั้งใจนำเสนอความสวยงามของไม้โอ๊ค (Oak) โดยเฉพาะ ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ในเรื่องของความรักษ์โลกและคุณสมบัติกันปลวก 100% ไว้ดังเดิม โดยรุ่นนี้เป็นสี B-Heritage Gray สีเทาอ่อน ทำให้เนื้อไม้นี้ให้ความรู้สึกเย็น และเป็นมิตรต่อผู้อยู่อาศัย ถึงแม้จะเป็นสีในโทนสว่างแต่ก็ไม่สร้างแสงสะท้อน ทำให้คุณและคนในบ้านมองได้อย่างสบายตา และที่สำคัญคือ ยังมีสีอื่น ๆ ให้เลือกได้อีกถึง 5 สีเลยทีเดียวค่ะ
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความรู้สึกหรูหราในทุกห้องที่ติดตั้ง ลายไม้สีเข้มแบบกาแฟดำ (SB-Coffee) ตัดกับลายไม้โดดเด่น คมชัด และไร้แบบแผน ทำให้พื้นไม้ทุกแผ่นมีความโดดเด่นในตัวเองด้วยเส้นลายไม้ที่ไม่ซ้ำกัน หน้าไม้ถูกเคลือบด้วย UV Oil และใส่ Aluminium Oxide ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและลดการหลุดร่อนของหน้าไม้ เนื่องจากจุดประสงค์หลักที่ขายความสวยงาม หรูหรา ทำให้ได้รับความนิยมจาก Interior Designer อย่างแพร่หลายเลยทีเดียวค่ะ
แบรนด์นี้ไม่ได้มีแค่พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ราคาสูงที่ทำจากไม้สัก (Teak) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีพื้นไม้เอ็นจิเนียร์รุ่นอื่น ๆ อีกถึง 5 สี ที่ทำมาจากไม้โอ๊ค (Oak) ในราคาย่อมเยา ซึ่งผิวไม้ยังคงกระบวนการผลิตที่มีการเคลือบสียูวีอะคริลิกแล็กเกอร์ 8 - 11 ชั้น คุณภาพเช่นเดียวกับที่ใช้เคลือบในพื้นไม้ชนิดอื่น อีกทั้งสี Cloudy Oak ยังเป็นสีโทนอ่อน ที่สามารถดึงตัวตนของไม้โอ๊คออกมาได้อย่างลงตัว ช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้ดูสบายตาและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นค่ะ
Naturwood Grey Oak โดดเด่นด้วยความสามารถในการขัดสีใหม่ได้หลายรอบบนชั้นผิวไม้ที่คัดมาพิเศษ โดยเป็นเนื้อไม้โอ๊คยุโรป (European Oak) เกรด A+++ ลายสวย เหมาะกับการแต่งบ้านทุกสไตล์ มาพร้อมกับความหนาถึง 3 mm ซึ่งถือว่าสูงกว่าพื้นไม้เอ็นจิเนียร์อื่น ๆ ในท้องตลาด และที่สำคัญคือ ผิวไม้ยังถูกเคลือบสีด้วย UV Lacquer 8 ชั้น ช่วยเพิ่มความทนทาน มีอัตราการพองตัวและบิดโก่งต่ำ เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นในเมืองไทยอย่างยิ่งค่ะ
iWood กลับมาอีกครั้งในสี Dark Brown ความเข้มที่ลงตัวจากผิวไม้โอ๊ค (Oak) และยังคงรับประกันเรื่องของการเคลือบชั้นเนื้อไม้มะค่ากันปลวกหรือมอดยาวนานถึง 5 ปีเช่นเดิม นอกจากนี้ ผิวหน้าเนื้อไม้โอ๊คขาว (White Oak) ยังเคลือบสียูวีอะคริลิคแล็กเกอร์ 8 ชั้น และสามารถขัดทำสีได้ในกรณีที่ผิวหน้าไม้เป็นรอยหลังการใช้งานไปแล้วหลายปี เหมาะกับการตกแต่งบ้านทุกสไตล์ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวแผ่นไม้สามารถสั่งผลิตให้มีขนาดใหญ่ที่สุดได้ถึง 14 x 115 x 1180 mm ในแผ่นเดียวค่ะ
พื้นไม้นั้นไม่ว่าจะเป็นชนิดใดย่อมต้องอยู่กับเราไปอีกนาน การเลือกซื้อจึงควรให้เวลากับตัวเองได้ตัดสินใจ เลือกโทนสี ลวดลาย หรือแม้กระทั่งผิวสัมผัสที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจจริง ๆ แม้ว่าปัจจุบันการเลือกซื้อผ่านออนไลน์จะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นแล้ว แต่หากมีโอกาสเราก็อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองไปเลือกดูผิวไม้ตัวอย่างที่ร้านขายของจริงเช่นกัน เพื่อที่จะได้สัมผัสและเปรียบเทียบแผ่นไม้กับแสงสว่างในมุมต่าง ๆ หรือเทียบกับสีกำแพงและเฟอร์นิเจอร์ของเรา เพื่อให้ได้โทนสีและอารมณ์ของห้องที่พึงพอใจที่สุดค่ะ
อันดับที่ 1: THE BIG PLANK|พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ รุ่น EB01 White Oak
อันดับที่ 2: A LA CARTE|พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ รุ่น E09
อันดับที่ 3: BUMRUNGTHAI |พื้นเอ็นจิเนียร์ Golden Thai Teak รุ่น SKU: 1175307
อันดับที่ 4: Leowood|พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ iWood รุ่น Walnut Oak 125
อันดับที่ 5: MAZ|พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ MAZ รุ่น OAK MOS05-1
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ