Top 5 ลิปทินท์ ยอดนิยม
คุณอีฟจบคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมีความสนใจในเรื่องเครื่องสำอางและการแต่งหน้าเป็นพิเศษตั้งแต่สมัยเรียน จึงเข้าคอร์สอบรม Beauty Makeup จากสถาบัน International Makeup Center (IMC) จนได้รับรางวัล The Best Makeup Artist of the Class จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นในสายงานนี้ นอกเหนือจากการแต่งหน้าแล้ว คุณอีฟยังสนใจด้านการทำเล็บและขนตา จึงสมัครเข้ารับการอบรบ Nail Care & Art Gel Training Program ของสถาบัน Nail It! Tokyo Academy Education และ YUMI Lashes Training Course จาก YUMI LASHES เพิ่มเติม ปัจจุบันคุณอีฟทำงานเป็น Freelance Makeup and Hair Artist, Lashes Technician, Nail Artist พร้อมทั้งศึกษาต่ออยู่ที่ประเทศเยอรมนี โดยยังคอยติดตามเทรนด์การแต่งหน้า รวมถึงเครื่องสำอางใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะส่วนตัวแล้วคุณอีฟมองว่าก่อนการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ความงาม ผู้ใช้งานควรทำการศึกษาข้อมูลทั้งจากเว็บไซด์หลักของแบรนด์ เว็บไซด์แนะนำ รีวิวผลิตภัณฑ์ หรือรีวิวจากผู้ใช้อื่น ๆ เพื่อช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเอง สามารถเนรมิตแต่งหน้าให้ออกมาได้อย่างสวยงามและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากที่สุด
คุณอีฟใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2017 และทำงานเป็นพนักงานประสานงานระหว่างคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติในจังหวัดคานะกะวะ นอกเหนือจากงานหลักแล้ว คุณอีฟยังทำงานเป็นล่ามฟรีแลนซ์และมีความสนใจในเรื่องเครื่องสำอางและสกินแคร์ โดยชอบติดตามเทรนด์ความงามทั้งจากแบรนด์ญี่ปุ่นและอื่น ๆ ทดลองผลิตภัณฑ์ และอ่านรีวิวเกี่ยวกับเครื่องสำอางและสกินแคร์อยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังมีประสบการณ์แต่งหน้าสำหรับงานต่าง ๆ ทั้งในไทยและญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นแต่งหน้าเจ้าสาว แต่งหน้ารับปริญญา หรือแต่งหน้าออกงาน ทำให้คุณอีฟเข้าใจการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวและโอกาสต่าง ๆ ซึ่งนอกจากด้านความงามแล้ว คุณอีฟยังรักการทำอาหาร โดยเฉพาะการคิดค้นสูตรใหม่ ๆ ที่ผสมผสานระหว่างอาหารไทยและญี่ปุ่น รวมถึงสอนทำอาหารไทยให้กับคนญี่ปุ่นเป็นครั้งคราว จึงชอบทดลองวัตถุดิบที่หาได้ในญี่ปุ่น และปรับรสชาติให้เข้ากับวัฒนธรรมการกินของที่นี่ อีกทั้งยังสนุกกับการแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคแต่งหน้า การเลือกสกินแคร์ หรือการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประโยชน์
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
หลายคนอาจจะสงสัยใช่ไหมคะว่า ลิปทินท์กับลิปสติกนั้นแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งความจริงแล้วลิปทินท์ คือ เครื่องสำอางสำหรับริมฝีปากประเภทหนึ่ง ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา สีสันสดใสและติดแน่นทนนานกว่าลิปสติกทั่วไป หลายคนนิยมใช้ทาคู่กับลิปกลอสเพื่อเพิ่มความแวววาวอิ่มน้ำ แลดูสุขภาพดี ทั้งยังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศเกาหลีใต้ เมื่อทาแล้วจะให้ลุคที่ดูสดใส อ่อนเยาว์และเป็นธรรมชาติ แต่อาจจะกลบสีปากเดิมได้ไม่มิดเท่ากับลิปสติก
ซึ่งหากมองในมุมที่ว่าลิปสติกเป็นเครื่องสำอางสำหรับตกแต่งริมฝีปากแล้ว ก็อาจกล่าวได้ว่าลิปทินท์เป็นลิปสติกประเภทหนึ่งเช่นกัน โดยเฉพาะในปัจจุบันที่แบรนด์เครื่องสำอางต่าง ๆ ได้คิดค้นและพัฒนารูปแบบของลิปสติกให้มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของสาว ๆ มากยิ่งขึ้น เพียงแค่เลือกใช้ให้เหมาะกับลุคที่ต้องการ ไม่ว่าจะลิปทินท์หรือลิปสติกชนิดอื่น ๆ คุณก็มั่นใจได้ตลอดวันแล้วค่ะ
สำหรับใครที่ชอบแต่งหน้าเบา ๆ เป็นธรรมชาติแบบ No Makeup Makeup ลิปทินท์น่าจะช่วยตอบโจทย์ในการเพิ่มสีสันบนปากอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนเรามีปากอมชมพูระเรื่อตั้งแต่เกิดค่ะ ลิปทินท์ต่างจากลิปสติกตรงที่ติดทนมากกว่า ให้สีจาง ๆ เป็นธรรมชาติ แต่เพราะเช่นนั้นจึงกลบสีปากได้น้อยกว่าลิปสติก จึงไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีสีปากคล้ำเพราะจะกลบสีปากได้ไม่มิดค่ะ
ส่วนลิปสติกหรือลิปกลอสจะมีส่วนผสมของแว็กซ์และน้ำมัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เนื้อลิปสติกหรือลิปกลอสหลุดออกจากปากง่าย ในขณะที่เบสของลิปทินท์จะประกอบด้วยน้ำหรือเจล หรือบางครั้งก็เป็นเนื้อมูส พิกเมนต์สีจะติดทนบนริมฝีปากแม้เบสน้ำ เจล หรือมูสจะหายไปค่ะ
ใครยังไม่มีไอเดียในการเลือกลิปทินท์ ลองนำวิธีการด้านล่างนี้ไปใช้กันดูค่ะ ซึ่งเราได้รวบรวมมาทั้งประเภทของลิปทินท์และแบรนด์ยอดนิยมที่สาว ๆ ต่างเทใจให้ รับรองว่าการเลือกลิปทินท์จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ
สาว ๆ ที่กำลังลำบากใจกับลิปทินท์ที่มีอยู่มากมายหลายชนิดจนไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนดี ต้องอ่านหัวข้อต่อไปนี้เลยค่ะ เพราะเราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับลิปทินท์ประเภทต่าง ๆ ลองเลือกแบบที่เหมาะกับลุคของคุณดูกันนะคะ
ลิปทินท์ประเภท Water Type หรือลิปทินท์ประเภทน้ำนี้ แม้จะวางจำหน่ายในประเทศไทยค่อนข้างน้อย แต่ก็เป็นที่นิยมในประเทศต้นกำเนิดลิปทินท์อย่างเกาหลีใต้และมีวางจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะให้เนื้อสัมผัสเหมือนกับน้ำ บางเบา สามารถทาได้ทันทีและให้สีที่เข้มชัดเจน หลังทาจะให้สัมผัสคล้ายเนื้อแมท แนบเนียนไปกับริมฝีปาก เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งริมฝีปากให้มีสีเข้ม หรือต้องการแต่งแบบไล่ระดับสี แต่ก็มีข้อควรระวัง คือ ลิปทินท์ประเภทน้ำอาจทำให้ริมฝีปากแห้งง่าย ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการหมั่นรักษาความชุ่มชื้นของริมฝีปาก หรือการทากลอสทับอีกทีหลังจากทาลิปทินท์แล้วนั่นเองค่ะ
วิธีทาลิปทินท์แบบน้ำนั้นง่ายมาก ๆ เลยค่ะ แค่แต้มสีจากขวดด้วยพู่กันที่มาด้วยกัน ทาสีแค่ด้านในปากให้ดูระเรื่อ จากนั้นเม้มปากเข้าออกเพื่อให้สีกระจายและเบลนด์เข้ากันหรือจะทาลงทั้งปากแล้วค่อยทาลิปมันก็สวยค่ะ ถ้าต้องการให้สีชัดเจนขึ้นก็สามารถลงซ้ำได้ตามต้องการ ลิปทินท์แบบน้ำแม้จะทำให้ปากแห้งกว่าชนิดอื่น แต่จะให้ความติดทนมากกว่าค่ะ นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้ลิปทินท์แบบน้ำเป็นบลัชออนได้อีกด้วย เทคนิคคือต้องลงทีละน้อยเนื่องจากลิปทินท์แบบนี้มีพิกเมนต์สีที่ชัดเจนมาก ต้องค่อย ๆ แตะทีละนิดแล้วรีบเกลี่ยให้กลืนกับผิว เท่านี้ก็จะได้สีแก้มที่ติดทนตลอดวันแล้วค่ะ
ลิปทินท์ประเภท Oil Type จะมีส่วนผสมของน้ำมัน ซึ่งทำให้มีเนื้อสัมผัสคล้ายกับกลอส และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากและให้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มเมื่อทา มีจุดเด่นตรงที่ให้สีที่ดูเป็นธรรมชาติและมีความแวววาวมากกว่าลิปทินท์ประเภทน้ำ ด้วยสีสันและเนื้อสัมผัสที่มีความฉ่ำวาวนี้ ทำให้ลิปทินท์ประเภทนี้กลายเป็นไอเทมยอดฮิตของสาว ๆ ญี่ปุ่นที่นิยมการแต่งหน้าในสไตล์ Pheromone Makeup ซึ่งก็มีความหมายตรงตัวว่า ‘การแต่งหน้าเพื่อเพิ่มฟีโรโมน (สารเคมีดึงดูด)’ เป็นอย่างมาก และยังเป็นประเภทเนื้อลิปที่ตอบโจทย์สาว ๆ ที่มีริมฝีปากแห้งได้ง่ายอีกด้วยค่ะ
สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาปากลอก แห้งแตกหรือว่าเป็นขุย ลิปทินท์แบบออยล์จะเหมาะมากกว่าค่ะ ด้วยความที่มีส่วนผสมของน้ำมัน แม้จะไม่ติดทนเท่าลิปทินท์แบบน้ำแต่ก็ติดทนกว่าลิปกลอสทั่วไปแน่นอนค่ะ ลิปทินท์แบบออยล์จะช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น ไม่ทำให้ปากแห้ง ให้สีเป็นธรรมชาติ มีความมันวาว และส่วนมากจะมีสารบำรุงผสมอยู่ด้วย นับเป็นลิปทินท์ที่ให้ความชุ่มชื้นมากที่สุด คุณจึงมั่นใจได้ว่าลิปทินท์ชนิดนี้จะไม่ทำให้ปากแห้งแน่นอนค่ะ
อีกหนึ่งลิปทินท์ยอดนิยม นั่นก็คือ ลิปทินท์ประเภท Balm Type หรือลิปทินท์ผสมบาล์ม จุดเด่นของลิปทินท์ประเภทนี้ คือ ตัวทินท์จะเป็นลิปเนื้อครีมที่มีลักษณะเป็นแท่ง ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ได้หันมาผลิตลิปทินท์ประเภทนี้กันมากขึ้น เหมาะสำหรับสาว ๆ มือใหม่หัดแต่งหน้า เพราะว่าใช้ทาง่ายเหมือนลิปสติกทั่วไป และให้สีที่เป็นธรรมชาติเมื่อทาบาง ๆ แม้แต่น้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาก็สามารถใช้ได้ ไม่โดนฝ่ายปกครองเรียกแน่นอนค่ะ
ลิปทินท์แบบบาล์ม ถ้าพูดง่าย ๆ ก็เหมือนลิปมันที่มีสีแต่ติดทนกว่ามากค่ะ รูปร่างหน้าตาก็จะคล้ายกับลิปมัน การใช้งานไม่ค่อยต่างมากนัก ใช้งานง่าย สะดวก และไม่ต้องใช้เทคนิคการทาเยอะค่ะ ลิปทินท์แบบบาล์มมีเนื้อนุ่ม บางเบา และมีส่วนประกอบของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ทำให้คนที่มีริมฝีปากแห้งดูอิ่มเอิบและดูเนียนขึ้นกว่าการใช้ลิปทินท์แบบน้ำหรือแบบกำมะหยี่ ถึงจะมีความคล้ายเคียงกับลิปมัน แต่ก็ระดับความติดทนก็เหมือนกับลิปทินท์แบบอื่น เพราะแม้ว่าเนื้อบาล์มจะหลุดออกไปแล้วก็จะทิ้งสีให้ติดทนบนริมฝีปากค่ะ
Gloss Type หรือลิปทินท์เนื้อกลอสนี้มีคุณสมบัติที่คล้ายกับลิปสติก เพราะนอกจากให้สีที่แดงระเรื่อสวยงามแล้ว ยังทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มอีกด้วย เพียงแต่หากเป็นลิปสติกกลอสทั่วไปมักจะมีปัญหาสีหลุดลอกในระหว่างวัน ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาสีหลุดลอกนี้จึงมีการเพิ่มส่วนผสมที่เป็นทินท์เข้าไปในลิปสติก ทำให้กลายเป็นลิปทินท์เนื้อกลอสที่ให้สีติดทนทานนานมากขึ้นนั่นเองค่ะ ถึงอย่างนั้น ลิปทินท์ประเภทกลอสก็มีระดับความติดทนของสีที่ค่อนข้างต่ำ จึงอาจจะต้องมีการทาซ้ำระหว่างวันบ้างนะคะ
ถ้าคุณเป็นคนชอบลิปกลอสแต่เบื่อที่จะต้องคอยเติมสีอยู่ตลอด ลิปทินท์แบบกลอสจะช่วยให้คุณเติมปากน้อยลงค่ะ แม้จะมีเนื้อสัมผัสคล้ายลิปกลอส แต่ด้วยความที่พิกเมนต์เป็นแบบลิปทินท์ ความติดทนของสีจึงยังคงอยู่แม้ตัวกลอสจะจางหายไปแล้วก็ตาม
แน่นอนว่าสีอาจจะไม่ชัดเจนเท่าตอนทาใหม่ ๆ แต่ก็ยังคงทิ้งสีระเรื่อไว้ตามแบบฉบับลิปทินท์ อีกทั้งยังช่วยให้ปากดูอวบอิ่ม อย่างไรก็ตาม เรายังต้องระวังเรื่องการเลอะมากกว่าชนิดอื่นนะคะ เทคนิคคือหลังทาลิปให้นำทิชชูนาบลงเบา ๆ ที่ปาก เพื่อนำเนื้อลิปส่วนเกินออกเล็กน้อยค่ะ
ลิปทินท์เนื้อกำมะหยี่หรือ Velvet Type ถือเป็นลิปทินท์ที่ฮอตฮิตที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะให้เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม เกลี่ยง่าย สีไม่จัดจนเกินไป ทั้งยังไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งกร้านและไม่แวววาวจนดูสะดุดตา มอบลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งหลาย ๆ แบรนด์ก็ได้ผลิตเนื้อลิปทินท์ประเภทนี้ออกมาวางจำหน่ายกันจำนวนมากจนครองตลาดส่วนใหญ่เลยทีเดียว ข้อดีของลิปทินท์เนื้อกำมะหยี่ คือ สามารถทาเดี่ยว ๆ ได้ เนื่องจากกลบสีปากเดิมมิด ไม่ต้องทาคอนซีลเลอร์ทันก่อนเหมือนกับลิปทินท์ประเภทอื่น ๆ นั่นเองค่ะ
ลิปทินท์เนื้อกำมะหยี่ก็ให้ความติดทนเหมือนลิปทินท์ตัวอื่น ๆ ค่ะ แต่เนื้อของลิปจะให้ความรู้สึกบางเบา สบายเหมือนไม่ได้ทาอะไรบนปากเลย นอกจากนี้ ยังไม่ทำให้รู้สึกปากแห้งเหมือนลิปทินท์แบบน้ำ แถมเนื้อลิปทินท์ยังไม่ตกร่องบนปากอีกด้วย มีส่วนช่วยทำให้ริมฝีปากดูอิ่มเอิบเนียนเรียบได้เป็นอย่างดี ลิปทินท์เนื้อกำมะหยี่จะให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ แต่ไม่ดูแห้งจนเกินไป อีกทั้งจุดเด่นของลิปทินท์เนื้อกำมะหยี่คือ มีสีที่ชัดเจนจึงกลบสีปากได้ดีกว่าลิปทินท์ชนิดอื่นค่ะ
อย่างที่กล่าวไปแล้วค่ะว่า ลิปทินท์เป็นที่นิยมในเกาหลีใต้อย่างมาก และยังเป็นผู้นำเทรนด์การทาลิปทินท์เลยก็ว่าได้ ดังนั้น ใครที่อยากได้ลุคแบบสาวเกาหลีเต็มพิกัด ลองเลือกใช้ลิปทินท์จาก 3 แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีชื่อดังต่อไปนี้ดูก็ได้ค่ะ
เมื่อพูดถึงลิปทินท์เกาหลี จะขาดแบรนด์ 3CE ไปไม่ได้เลยค่ะ เพราะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านลิปทินท์เป็นอันดับต้น ๆ ทั้งในเกาหลีและในไทยเลยทีเดียว ด้วยความที่ทางแบรนด์ผลิตลิปทินท์ออกมาหลากหลายเฉดสี มีเนื้อสัมผัสและฟินิชลุคให้เลือกมากมาย ทั้งเนื้อกำมะหยี่ เนื้อลิควิดและเนื้อแมตต์ แถมยังเหมาะกับสีผิวของสาวเอเชีย ทาแล้วดูไม่โป๊ะ เม็ดสีคมชัดติดแน่น โดยรุ่นยอดฮิตที่ผู้ใช้จริงต่างถูกใจ ได้แก่ CLOUD LIP TINT, VELVET LIP TINT, TATTOO LIP TINT, FLASH LIP TINT, GLAZE LIP TINT รวมไปถึงรุ่นออกใหม่อย่าง BLUR WATER TINT ที่เรียกได้ว่า ออกมากี่คอลเลกชันก็ถูกใจสาว ๆ ไปหมดเลยค่ะ
แบรนด์เครื่องสำอางที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ด้วยความน่ารักสดใสชวนให้นึกถึงขนมหวาน แถมยังมาในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นแบรนด์ขวัญใจเหล่านักเรียนนักศึกษาเลยล่ะค่ะ แม้ Holika Holika จะมีคอลเลกชันลิปทินท์เพียง 4 คอลเลกชัน ได้แก่ WATER DROP TINT BOMB FREE TINT BOMB, VELVET BLANKET TINT, WATER WHIP TINT และ HEARTCRUSH GLOW TINT AIR แต่ด้วยความที่มีเฉดสีที่ทาง่าย แมตช์ได้ทุกลุค ดูเป็นธรรมชาติ สีไม่จัดจ้านจนเกินไป จึงครองใจผู้ใช้มาอย่างต่อเนื่อง จะผิวสีไหนก็ทาแล้วรอดแน่นอนค่ะ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเภทของลิปทินท์ | ปริมาณบรรจุ | จำนวนสีที่จัดจำหน่าย | ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ปราศจากแอลกอฮอล์ | ปราศจากพาราเบน | |||||
1 | 4U2 Serum Tint Oil | ![]() | บำรุงริมฝีปากด้วยน้ำมันอาร์แกน ฟินิชฉ่ำวาว ไม่เหนอะหนะ | Oil Type | 3 กรัม | 15 เฉดสี | Vitamin E, Argan Oil, Sodium Hyaluronate | |||
2 | Sasi Jolly Sweet Lip Tint | ![]() | โทนสีสดใส เนื้อแบบน้ำกึ่งเจลลี ทาได้ทั้งแก้มและริมฝีปาก | Water Type | 3 กรัม | 10 เฉดสี | Glycerin, Aloe Vera | |||
3 | Dinto Blur-Glowy Lip Tint | ![]() | เนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีให้เลือก 30 เฉดสี | Water Type | 3.5 กรัม | 30 เฉดสี | Squalane, Tocopherol | |||
4 | Bbia Glow Tint | ![]() | ให้เม็ดสีสดชัด จับคู่ผสมสีกันได้ เหมาะสำหรับทุกโทนสีผิว | Water Type | 3.2 กรัม | 18 เฉดสี | Glycerin, Bis-Diglyceryl Polyacyladipate-2 | |||
5 | rom&nd Blur Fudge Tint | ![]() | กลบสีปากและริ้วรอยได้ดี ไม่จับตัวเป็นก้อน ติดทนตลอดวัน | Velvet Type | 5 กรัม | 16 เฉดสี | Tocopherol, Macadamia Ternifolia Seed Oil | |||
6 | 3CE Velvet Lip Tint | ![]() | เนื้อสัมผัสกำมะหยี่ ให้ฟินิชแบบแมตต์ ผู้ที่ตั้งครรภ์ใช้ทาได้ | Velvet Type | 4 กรัม | 14 เฉดสี | Vitamin E, Rose Extract, Calendula Oil, Sunflower Seed Oil | |||
7 | Merrezca Water Glow Lip Color | ![]() | ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก มีสารบำรุงจากไฮยาลูรอน | Water Type | 2 กรัม | 6 เฉดสี | Vitamin E, Hyaluronic Acid | |||
8 | Cathy Doll Glow Gel Tint | ![]() | ปลายหัวแปรงแบบตัดเฉียง ทาปากได้ง่าย เนื้อเจลบางเบา | Water Type | 2.4 กรัม | 8 เฉดสี | Vitamin E, Hyaluronic Acid, Glycerine, Squalane, Helianthus Annuus Seed Oil | |||
9 | Jung Saem Mool Lip-Pression Water Tinted Lip Balm | ![]() | สีโทนอ่อนดูสดใส ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ริมฝีปากดูฉ่ำวาว | Balm Type | 4.5 กรัม | 4 เฉดสี | Rose Water Serum, Panthenol | |||
10 | Etude Over Glowy Tint | ![]() | ลิปเนื้อกลอส หัวแปรงรูปทรงไดมอนด์ เกลี่ยลิปสติกได้ง่าย | Gloss Type | 3 กรัม | 17 เฉดสี | Glycerin, Squalane |
ประเภทของลิปทินท์ | Oil Type |
---|---|
ปริมาณบรรจุ | 3 กรัม |
จำนวนสีที่จัดจำหน่าย | 15 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | Vitamin E, Argan Oil, Sodium Hyaluronate |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภทของลิปทินท์ | Water Type |
---|---|
ปริมาณบรรจุ | 3 กรัม |
จำนวนสีที่จัดจำหน่าย | 10 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | Glycerin, Aloe Vera |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภทของลิปทินท์ | Water Type |
---|---|
ปริมาณบรรจุ | 3.5 กรัม |
จำนวนสีที่จัดจำหน่าย | 30 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | Squalane, Tocopherol |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภทของลิปทินท์ | Water Type |
---|---|
ปริมาณบรรจุ | 3.2 กรัม |
จำนวนสีที่จัดจำหน่าย | 18 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | Glycerin, Bis-Diglyceryl Polyacyladipate-2 |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภทของลิปทินท์ | Velvet Type |
---|---|
ปริมาณบรรจุ | 5 กรัม |
จำนวนสีที่จัดจำหน่าย | 16 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | Tocopherol, Macadamia Ternifolia Seed Oil |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภทของลิปทินท์ | Velvet Type |
---|---|
ปริมาณบรรจุ | 4 กรัม |
จำนวนสีที่จัดจำหน่าย | 14 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | Vitamin E, Rose Extract, Calendula Oil, Sunflower Seed Oil |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภทของลิปทินท์ | Water Type |
---|---|
ปริมาณบรรจุ | 2 กรัม |
จำนวนสีที่จัดจำหน่าย | 6 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | Vitamin E, Hyaluronic Acid |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | |
ปราศจากพาราเบน |
ให้ฟินิชลุคฉ่ำวาว เนื้อเจลบางเบา ช่วยให้การทาได้เรียบเนียนและไม่หนักริมฝีปาก
มีทั้งหมด 8 เฉดสี ทั้งโทนสีชมพู สีแดง และสีส้ม เหมาะกับทุกสไตล์การแต่งหน้า
มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนและวิตามินอี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้ดี
ปลายหัวแปรงแอปพลิเคเตอร์แบบตัดเฉียง ช่วยให้ทาขอบปากและมุมปากได้ง่าย
ประเภทของลิปทินท์ | Water Type |
---|---|
ปริมาณบรรจุ | 2.4 กรัม |
จำนวนสีที่จัดจำหน่าย | 8 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | Vitamin E, Hyaluronic Acid, Glycerine, Squalane, Helianthus Annuus Seed Oil |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภทของลิปทินท์ | Balm Type |
---|---|
ปริมาณบรรจุ | 4.5 กรัม |
จำนวนสีที่จัดจำหน่าย | 4 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | Rose Water Serum, Panthenol |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | |
ปราศจากพาราเบน |
ประเภทของลิปทินท์ | Gloss Type |
---|---|
ปริมาณบรรจุ | 3 กรัม |
จำนวนสีที่จัดจำหน่าย | 17 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | Glycerin, Squalane |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | |
ปราศจากพาราเบน |
นอกจากนี้ เรายังขอแนะนำให้สาว ๆ ทาลิปทินท์แบบไล่ระดับสี เพื่อเพิ่มความละมุนและเพื่อไม่ให้ริมฝีปากดูมันเยิ้มหรือมีสีจัดจ้านจนเกินไป โดยค่อย ๆ ทาลิปทินท์จากบริเวณริมฝีปากด้านใน ทาไล่ระดับออกมายังริมฝีปากด้านนอก เพียงเท่านี้ก็จะได้ริมฝีปากไล่ระดับสวยใสสไตล์สายเกาแล้วค่ะ ซึ่งทิปส์เล็ก ๆ ก่อนทาลืปทินท์ คือ ให้ใช้คอนซีลเลอร์กลบสีของริมฝีปากก่อนแล้วจึงทาลิปทินท์ตามเพื่อให้ได้สีที่ตรงปกมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
เทคนิคการทาลิปทินท์ให้สวยปังและติดทนนั้น เราต้องเตรียมความพร้อมของริมฝีก่อนเลยค่ะ เราควรสครับริมฝีปากอาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้งเพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าโดยก่อนการเตรียมผิวหรือลงเมคอัพส่วนอื่น ๆ ให้ทาลิปมันแล้วทิ้งไว้ก่อน หลังจากแต่งหน้าส่วนอื่นเสร็จแล้ว ให้คุณนำทิชชูมาซับลิปมันที่ทาทิ้งไว้ออกจากริมฝีปากเบา ๆ ให้เหลือความมันให้น้อยที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าเช็ดออกจนปากไม่เหลือความชุ่มชื้นนะคะ จากนั้นก็ทาลิปทินท์ที่คุณต้องการ เท่านี้ลิปทินท์ก็ติดทนนานไปทั้งวันแล้วค่ะ
การเตรียมความพร้อมของริมฝีปากเช่นนี้จะทำให้ปากคุณเนียนนุ่มไม่แห้งหรือเป็นขุย แต่ถ้าไม่ซับลิปมันออกเลย ความมันจากลิปมันก็จะทำให้ลิปทินท์ติดทนน้อยลงได้ค่ะ
อันดับที่ 1: 4U2|Serum Tint Oil
อันดับที่ 2: Sasi|Jolly Sweet Lip Tint
อันดับที่ 3: Dinto|Blur-Glowy Lip Tint
อันดับที่ 4: Bbia |Glow Tint
อันดับที่ 5: rom&nd|Blur Fudge Tint
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ