8 อันดับ เครื่องบดอาหารสำหรับลูกน้อย เริ่มพัฒนาการการรับประทานอาหารอย่างปลอดภัย

8 อันดับ เครื่องบดอาหารสำหรับลูกน้อย เริ่มพัฒนาการการรับประทานอาหารอย่างปลอดภัย

Creator Image
แม่เมย์
Mom Blogger
เมื่อทารกอายุย่างเข้าสู่วัย 6 เดือน นมแม่หรือนมผงเพียงอย่างเดียวในตอนนี้ไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตแล้ว จึงถึงเวลาของอาหารมื้อแรกเพื่อเสริมสารอาหารต่าง ๆ ให้ครบถ้วนและเพียงพอต่อการเจริญเติบโต แม้ว่าคำแนะนำส่วนใหญ่คือ เริ่มทานอาหารมื้อแรกเมื่อทารกอายุครบ 6 เดือนเต็ม แต่ทั้งนี้การเริ่มอาหารมื้อแรกก็อาจเริ่มได้ตั้งแต่วัย 4-6 เดือน ซึ่งคุณแม่ควรได้รับการประเมินเบื้องต้นจากคุณหมอเพื่อเริ่มได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 

สำหรับคำแนะนำในการเตรียมอาหารมื้อแรกให้กับลูกนั้น ควรเลือกอาหารที่ได้สารอาหารครบถ้วนตั้งแต่มื้อแรก โดยสามารถเริ่มทานได้ทั้งข้าว ผัก เนื้อสัตว์ และไข่ อาจสลับกันไป เนื้อสัมผัสของอาหารในช่วงเริ่มต้นที่เหมาะสมคือ อาหารที่มีลักษณะเหลว ที่ผ่านการบดหรือปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อความเหมาะสมในการฝึกการกลืนในช่วงเริ่มต้น และค่อย ๆ ปรับให้หยาบขึ้นในช่วงเดือนต่อ ๆ มาตามความเหมาะสม วันนี้ มย์จึงมีข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกเครื่องบดอาหารสำหรับลูกในวัยเริ่มทานทั้งแบบบดด้วยมือ แบบปรับการใช้งานเองและแบบอัตโนมัติ เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกซื้อสำหรับอาหารมื้อแรกและทุกมื้อคุณภาพกันค่ะ
  • TONOEN
    ชุดเตรียมอาหารสำหรับเด็ก 7 ชิ้น
    199 บาท


    แม่เมย์

  • No Brand
    ชุดบดอาหารสำหรับเด็ก 9 ชิ้น
    498 บาท


    แม่เมย์

  • No Brand
    เครื่องบดอาหารเด็ก
    900 บาท


    แม่เมย์

  • Life Store
    เครื่องบดอาหารเด็ก
    834 บาท


    แม่เมย์

  • Babycook
    เครื่องนึ่งปั่นอาหารเด็ก
    999 บาท


    แม่เมย์

  • HOMU
    เครื่องทำอาหารเด็ก
    1,190 บาท


    แม่เมย์

  • Baphiya
    เครื่องเตรียมอาหารสำหรับเด็กมัลติฟังก์ชัน
    961 บาท


    แม่เมย์

  • เครื่องปั่นอาหารมือถือสเตนเลส
    599 บาท


    แม่เมย์

favlist ของ แม่เมย์

10 ขนมขบเคี้ยวที่อร่อยและมีประโยชน์สำหรับเด็กเล็ก
10 ขนมขบเคี้ยวที่อร่อยและมีประโยชน์สำหรับเด็กเล็ก
หากจะให้เด็กเล็กเริ่มทานขนม คุณพ่อคุณแม่สามารถพิจารณาได้โดยดูจากความพร้อมของการทานอาหารของลูก เช่น ความสามารถในการกลืน การเคี้ยว การหยิบจับอาหาร ซึ่งความพร้อมก็จะต่างกันไปในเด็กแต่ละคน โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัย 10 เดือนขึ้นไป หรือหลัง 1 ขวบ สำหรับหลักการในการเลือกขนมที่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็กนั้น คือ ในวัยก่อน 1 ขวบ ควรเลือกขนมที่ทำจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ ไม่มีการปรุงรสเพิ่ม และสำหรับวัย 1 ขวบขึ้นไป สามารถเลือกขนมที่มีการปรุงรสอ่อน ๆ ได้ แต่ไม่ควรมีรสเค็มหรือหวานจนเกินไป ควรเลือกขนมที่มีเนื้อสัมผัสที่ละลายง่าย ไม่แข็ง ไม่มีรูปทรงเหลี่ยมคม ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการติดคอหรือเป็นอันตรายต่อช่องปากของเด็กได้ และที่สำคัญควรเลือกขนมที่ไม่มีสารปรุงแต่งกลิ่น รส เลียนแบบธรรมชาติ และไม่ใส่วัตถุกันเสีย
Creator Image
แม่เมย์
Mom Blogger
คุณแม่บล็อกเกอร์แนะนำวัตถุดิบและเครื่องปรุงสำหรับเมนูลูกรัก
คุณแม่บล็อกเกอร์แนะนำวัตถุดิบและเครื่องปรุงสำหรับเมนูลูกรัก
เมื่อลูกเข้าสู่วัยเริ่มอาหารเสริม ในช่วง 6 เดือน - 1 ขวบ คำแนะนำที่สำคัญในการปรุงอาหารในช่วงนี้คือไม่ควรใส่เครื่องปรุงใด ๆ เพิ่มลงไป เพราะในวัยก่อน 1 ขวบเด็ก ๆ ควรได้รับรสอาหารตามธรรมชาติ เนื่องจากไตยังไม่พัฒนาเต็มที่ การปรุงอาหารในวัยก่อน 1 ขวบจึงส่งผลให้ได้รับโซเดียมมากเกินกว่าที่เด็ก ๆ จะมีความสามารถในการขับออก หรือทำให้ติดรสชาติหวาน ส่งผลเสียต่อการทำงานหนักเกินไปของไตและความเสี่ยงของโรคอื่น ๆ เช่นโรคอ้วนตามมา

จวบจนวัย 1 ขวบเป็นต้นไป ไตของเด็กวัยนี้จะพัฒนาได้เต็มที่มากขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มปรุงรสอาหารได้ โดยใส่ใจในการเลือกใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงรส ให้เหมาะสมกับวัย เพราะถึงแม้ไตของเด็กวัยนี้จะพัฒนามากขึ้นแล้ว แต่การใช้วัตถุดิบที่ไม่เหมาะสม ย่อมส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวของเด็กได้ วันนี้จึงมีข้อมูลการเลือกวัตถุดิบและเครื่องปรุงรสที่เหมาะสมมานำเสนอ เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกซื้อมาทำเมนูกันอย่างสบายใจ โดยทริคการเลือกหลัก ๆ ก็คือ เลือกวัตถุดิบจากธรรมชาติ หลีกเลี่ยงเครื่องปรุงรสที่มีปริมาณโซเดียมมากเกินไป เครื่องปรุงที่มีส่วนผสมของกลูเตน สารสังเคราะห์ ผงชูรส หรือวัตถุกันเสีย
Creator Image
แม่เมย์
Mom Blogger
Mom Blogger แนะนำตัวช่วยแก้ปัญหาลูกไม่ยอมกินข้าว
Mom Blogger แนะนำตัวช่วยแก้ปัญหาลูกไม่ยอมกินข้าว
เพราะพัฒนาการที่ดี เริ่มต้นได้จากมื้ออาหารที่ดี เมื่อลูกน้อยย่างเข้าสู่วัย 6 เดือน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นของการทานอาหารเสริม การเริ่มอาหารจึงเป็นอีกบทบาทใหม่ที่สำคัญ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ ตลอดจนได้เรียนรู้รสชาติ เนื้อสัมผัสและกลิ่นของอาหารแต่ละประเภท ได้พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ได้ฝึกการมองเห็นและการกะระยะ ทั้งหมดนี้ถือเป็นปฐมบทสำคัญของชีวิตที่จะพัฒนาศักยภาพทั้งด้านร่างกายและสมองให้แก่เด็ก ๆ ต่อไป

แต่ก็มีไม่น้อยที่เราพบปัญหาเด็กไม่ยอมกินข้าว กินยากหรือเลือกกิน สร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่เพราะกลัวว่าลูกจะได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ การแก้ปัญหานี้มิใช่การบังคับ สร้างความกดดัน หรือใช้วิธีการหลอกล่อที่ผิด อ แต่การแก้ปัญหานี้ที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำคือ การทำให้มื้ออาหารของลูกนั้นสนุก สร้างบรรยากาศที่ดีส่งเสริมต่อการเรียนรู้ของเด็ก ๆ นำเสนออาหารในรูปแบบน่าทานทั้งสีสัน รูปลักษณ์และรสชาติที่อร่อยไม่จำเจ
Creator Image
แม่เมย์
Mom Blogger