Top 5 สเปรย์กันน้ำรองเท้า ยอดนิยม
คุณหมูเริ่มสนใจด้านรองเท้าตั้งแต่ปี 2004 ในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย โดยประเภทรองเท้าที่เริ่มให้ความสนใจครั้งแรกก็คือรองเท้าฟุตบอล เพราะส่วนตัวชื่นชอบกีฬาฟุตบอลและเล่นฟุตบอลเป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว จึงได้เริ่มสะสมรองเท้าฟุตบอลมาเรื่อย ๆ พร้อมค้นคว้าข้อมูลเรื่องวัสดุและเทคโนโลยีต่าง ๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนในช่วงปี 2010 ที่คุณหมูเริ่มหันมาสนใจรองเท้า Sneakers ด้วย จึงเริ่มเสาะหาและสะสมรองเท้ามานานกว่า 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบทั่วไป รองเท้าวิ่ง รองเท้าฟิตเนส และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมทั้งได้เข้าสู่วงการ Sportswear และรองเท้ากีฬาอย่างจริงจังด้วยการทำงานที่แบรนด์ NIKE ทำให้คุณหมูมีความเชี่ยวชาญในด้านรองเท้ากีฬาแทบทุกประเภท ปัจจุบันคุณหมูเป็นผู้จัดการร้าน Sportswear แบรนด์ Puma สาขา Siam Center, Centralworld, Emporium รวมทั้งยังเป็น Product Trainer ของบริษัทอีกด้วย
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
สเปรย์กันน้ำรองเท้าถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์กันน้ำสำหรับรองเท้าที่พบเห็นได้มากที่สุดในท้องตลาดเลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีวิธีการใช้งานที่ง่าย เพียงแค่เช็ดพื้นผิวรองเท้าให้สะอาด และฉีดสเปรย์โดยให้มีระยะห่างจากรองเท้าประมาณ 10 - 20 เซนติเมตร หลังจากนั้นจึงปล่อยทิ้งไว้ให้รองเท้าแห้งสนิท เมื่อรองเท้าแห้งแล้วสามารถนำมาใช้งานได้ทันที ซึ่งสเปรย์กันน้ำแทบทุกยี่ห้อจะได้รับการทดสอบมาแล้วว่าสามารถกันน้ำได้จริง อีกทั้งบางยี่ห้ออาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้นานหลายเดือนหรือยาวนานสูงสุดถึง 1 ปี (ในกรณีที่ใช้งานรองเท้าแค่บางโอกาสเท่านั้น) และยังลดการเกิดคราบสกปรกได้บางส่วนได้ เพียงแต่ผู้ใช้งานจะต้องทำความสะอาดรองเท้าให้ดีก่อนและต้องใช้งานอย่างถูกวิธีด้วย
นอกจากนี้ สเปรย์กันน้ำรองเท้าหลายยี่ห้อสามารถใช้งานได้กับรองเท้าหลากหลายพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นผ้าใบ หนังแท้ หนังสังเคราะห์ โพลีเอสเตอร์ ไนลอน และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ก็ต้องตรวจสอบให้อย่างถี่ถ้วน เพราะสเปรย์กันน้ำ รองเท้าแต่ละรุ่นก็ผลิตจากส่วนผสมที่ต่างกัน บางยี่ห้ออาจจะมีส่วนผสมเฉพาะเจาะจงสำหรับวัสดุบางประเภทเภท อาจจะไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอหากนำไปใช้งานกับวัสดุ โดยเฉพาะการนำไปใช้กับรองเท้าที่มีราคาแพง
สเปรย์กันน้ำรองเท้าแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อนั้นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งวัตถุประสงค์การใช้งานได้คร่าว ๆ คือ สเปรย์กันน้ำสำหรับรองเท้าผ้าใบและสเปรย์กันน้ำสำหรับรองเท้าหนัง ซึ่งสามารถพิจารณาเลือกซื้อได้ตามวิธีการเลือกดังต่อไปนี้
การใช้สเปรย์กันน้ำถือเป็นหนึ่งในการดูแลรักษารองเท้าผ้าใบไม่ให้เลอะคราบต่าง ๆ ระหว่างการสวมใส่ พร้อมทั้งยืดอายุการใช้งาน โดยการเลือกใช้สเปรย์กันน้ำรองเท้านอกจากคุณสมบัติกันน้ำแล้ว ยังมีสิ่งที่ควรพิจารณาอีกหลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสเปรย์ที่เหมาะสมกับวัสดุ การกรองแสง UV หรือแม้แต่การป้องกันสีรองเท้าหมอง
สเปรย์กันน้ำสำหรับรองเท้าผ้าใบจะมีคุณสมบัติคล้ายกับสเปรย์กันน้ำของวัสดุผ้าแบบอื่น ๆ เช่น ผ้าม่าน โซฟาผ้า เบาะผ้าในรถยนต์ ผ้าคลุม เป็นต้น โดยจะใช้งานกับวัสดุผ้าได้แทบทั้งหมด ซึ่งจะสามารถปกป้องสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มีส่วนประกอบเป็นน้ำได้ เช่น น้ำฝน ละอองน้ำทั่วไป คราบชา กาแฟ ไวน์ ซอส ยกเว้นของเหลวที่มีความเข้มข้นมาก ๆ หรือของเหลวที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่มีฤทธิ์ชะล้างตัวสเปรย์ออกได้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ารองเท้าผ้าใบจะสามารถใช้สเปรย์กันน้ำผ้าทั่วไปด้วยกันได้ แต่ก็จะมีสิ่งที่ต้องระวังในการเลือกใช้ด้วยเช่นกัน คือ ต้องเลือกสเปรย์ให้เหมาะสมกับวัสดุของรองเท้าด้วย โดยเฉพาะในกรณีที่รองเท้ามีอะไหล่ที่เป็นโลหะติดอยู่ ขอแนะนำให้ถอดโลหะออกก่อนฉีดพ่นสเปรย์กันน้ำ เพราะอาจจะทำให้สารเคลือบอะไหล่ที่มีมาอยู่แล้วเสื่อมสภาพได้
เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุดขอแนะนำให้เลือกสเปรย์กันน้ำที่ระบุว่าเป็นสูตรนาโนหรือมีอนุภาคเล็ก เพราะตัวละอองสเปรย์จะสามารถแทรกซึมลงในเส้นใยผ้าเพื่อไปเคลือบผิว สร้างเกาะป้องกันน้ำและคราบสกปรกต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ช่วยให้น้ำไม่ซึม คราบไม่เกาะติด จึงตอบโจทย์การใช้งานรองเท้าผ้าใบและรองเท้ากีฬาต่าง ๆ ได้ดี
โดยปกติแล้วสเปรย์กันน้ำรองเท้าหลายยี่ห้อจะมีคุณสมบัติช่วยกรองแสง UV ได้ เพื่อช่วยชะลอให้รองเท้าผ้าใบซีดจางช้าลง หรือยืดระยะเวลาการเกิดความหมองที่เกิดจากการตากแดดให้ช้าลงได้ ซึ่งถือเป็นการรักษารองเท้าอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะรองเท้าผ้าใบสีขาวที่จะเกิดความหมองหรือเหลืองได้ง่ายกว่าสีอื่น ๆ รวมไปถึงรองเท้าที่มีสีสด ๆ ที่ต้องระมัดระวังเรื่องแสง UV เป็นพิเศษ เพราะเมื่อโดนแสงแล้วมีโอกาสเปลี่ยนสีได้ชัดเจนที่สุด จึงขอแนะนำให้ผู้ที่ใส่รองเท้าผ้าใบไปทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยหรือเล่นกีฬาเลือกสูตรที่กัน UV ได้โดยเลือกยี่ห้อที่ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นสูตร UV Protection
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้สเปรย์กันน้ำรองเท้าคือการใช้ให้ถูกประเภทวัสดุรองเท้า เพราะหากใช้ผิดประเภทจะส่งผลเสียมากกว่าประโยชน์ เช่น สเปรย์ทิ้งคราบและอาจจะทำให้รองเท้าเกิดความเสียหายได้ เป็นต้น ดังนั้นการใช้สเปรย์กันน้ำรองเท้าต้องเลือกอย่างถี่ถ้วน และทุกครั้งที่ฉีด ไม่ควรฉีดย้ำมากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เกิดคราบ และควรปล่อยทิ้งไว้ให้สเปรย์แห้งสนิทก่อนสวมใส่ เพื่อให้แน่ใจว่าสเปรย์กันน้ำจะไม่หลุดออก และสำหรับรองเท้าผ้าใบที่มีสีสดอาจจะเลือกสเปรย์สูตรรักษาสีได้ด้วย เนื่องจากถ้ารองเท้าผ้าใบสีเพี้ยนไปแล้ว จะไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้อีก
สำหรับรองเท้าหนังและรองเท้าหนังกลับเป็นรองเท้าที่ต้องระมัดระวังในการเลือกใช้สเปรย์กันน้ำเป็นพิเศษ โดยควรเลือกสเปรย์กันน้ำสูตรสำหรับรองเท้าหนังโดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่มีส่วนผสมของซิลิโคนไม่ทำลายพื้นผิว สามารถใช้ได้กับรองเท้าหนังแท้ หนังเทียมและหนังกลับ โดยมักจะเป็นสเปรย์กันน้ำที่ใช้งานได้ครอบคลุมทั้งรองเท้าหนัง กระเป๋าหนัง เฟอร์นิเจอร์หนัง เบาะหนังรถยนต์ สามารถกันได้ทั้งของเหลวและคราบสกปรก ที่สำคัญคือ ไม่ควรใช้สเปรย์กันน้ำอื่น ๆ กับวัสดุประเภทนี้ ไม่เช่นนั้นสีของหนังอาจจะเปลี่ยนหรือเสื่อมสภาพได้ โดยเฉพาะกับรองเท้าหนังกลับที่มีความไวต่อแสงและน้ำมากเป็นพิเศษ จึงทำให้สีเพี้ยนและหนังเสียหายได้ง่าย ส่วนใหญ่แล้วสเปรย์กันน้ำที่เหมาะสมสำหรับรองเท้าหนังส่วนใหญ่จะเป็นสูตรนาโนที่ซึมได้ง่าย ไม่ส่งผลเสียต่อหนังด้านความเงางามหรือเนื้อสัมผัสของรองเท้าหนัง
ปัจจุบันสเปรย์กันน้ำรองเท้าหลาย ๆ ยี่ห้อจะมีพัฒนาเทคโนโลยีสูตรเฉพาะต่าง ๆ เพื่อช่วยปกป้องรองเท้าโดยไม่ทำลายพื้นผิววัสดุรองเท้าด้วยหากต้องฉีดสเปรย์เป็นประจำ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะวัสดุแต่ละชนิดจะมีความอ่อนไหวต่อสารเคมีที่ต่างกันโดยเฉพาะพวกรองเท้าวัสดุหนังต่าง ๆ โดยเทคโนโลยีที่พบได้นั้นได้แก่
・ EKEM Nano เทคโนโลยีที่ช่วยในการดูดซึม ไม่ทำลายวัสดุ ไม่ทำให้สีจางหรือสีหมองลง เหมาะสำหรับใช้งานกับรองหนังแท้ หนังกลับหรือรองเท้ากำมะหยี
・ Wetless เป็นเทคโนโลยีสเปรย์กันน้ำที่โปร่งแสง ไม่ทิ้งคราบ ไม่มีสารตกค้างจึงไม่ทำลายผิววัสดุ
・ Eykosi เป็นเทคโนโลยีสเปรย์กันน้ำที่มีซิลิโคนผสม เพิ่มการเคลือบผิว ป้องกันการยึดเกาะของคราบต่าง ๆ เหมาะสำหรับใช้กับรองเท้าผ้าใบ แต่ไม่สามาถใช้กับรองเท้าหนังได้
การเลือกสเปรย์กันน้ำสูตรที่แห้งไวมีผลต่อการใช้งานเช่นกัน เพราะหากสเปรย์ไม่แห้งสนิทหรือแห้งช้าอาจจะไปดูดสิ่งสกปรกหรือฝุ่นให้มาเกาะติดได้ง่าย ซึ่งสเปรย์บางรุ่นจะมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้แห้งเร็ว ได้ในระยะประมาณ 10 - 20 นาที ก็สามารถใช้งานรองเท้าได้แล้ว แต่ก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแห้งสนิทดีแล้วก่อนใช้งานเพื่อให้มีประสิทธิภาพการปกป้องมากที่สุด นอกจากนี้ ในการฉีดสเปรย์กันน้ำรองเท้าขอแนะนำให้ฉีดซ้ำ 2 รอบ โดยรอบแรกควรฉีดแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีค่อยฉีดซ้ำรอบที่สอง จากนั้นจะต้องทิ้งไว้ให้แห้งสนิทประมาณ 30 - 40 นาที เพื่อให้ตัวน้ำยาเซ็ตตัวก่อน
ในส่วนของระยะเวลาในการปกป้องนั้น โดยเฉลี่ยแล้วสเปรย์กันน้ำรองเท้าจะสามารถปกป้องได้ยาวนาน 15 - 20 วัน หากมีการใช้งานรองเท้าอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าหลาย ๆ ยี่ห้อจะระบุไว้ว่าสามารถกันน้ำได้ในระยะ 1 เดือน หรือบางยี่ห้อระบุว่า 3 - 6 เดือน ซึ่งกรณีนี้จะสามารถกันได้หากมีการใช้รองเท้าแค่บางโอกาส เช่น ใส่รองเท้าคู่นั้นไปออกงานแล้วเก็บ เป็นต้น แต่หากมีการใช้งานเป็นประจำหรือต้องใส่ไปเจอละอองน้ำ ฝุ่นหรือแสงแดดเยอะ ขอแนะนำว่าควรฉีดซ้ำทุก ๆ 15 - 20 วันจึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด
สำหรับระยะเวลาการฉีดสเปรย์ซ้ำ ผู้ใช้งานสามารถสังเกตเองได้จากฝุ่นที่เกาะ หากมีการเกาะตัวมากถือว่าน้ำยาหมดประสิทธิภาพหรืออาจจะทดลองโดยหยดน้ำลงบนรองเท้า หากน้ำเกาะรองเท้า ไม่ไหลผ่านก็แสดงว่าถึงเวลาที่ต้องฉีดสเปรย์กันน้ำรอบใหม่แล้ว นอกจากนี้ หากมีการซักรองเท้าก็ต้องฉีดสเปรย์ซ้ำใหม่ทุกครั้ง เพราะเมื่อเรานำรองเท้าไปแช่น้ำกับผงซักฟอกและขัดทำความสะอาด สารที่เคลือบรองเท้าเพื่อกันน้ำก็จะหลุดออกไปด้วย
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | ||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ปริมาณ | วัสดุรองเท้าที่ใช้ได้ | เทคโนโลยีที่ใช้ | สูตรป้องกันแสงยูวี | |||||
1 | Always Dry Ultra Waterproof Spray | ![]() | ใช้เทคโนโลยีอนุภาคนาโน กันรังสี UV ช่วยยืดอายุรองเท้า | 75 มล. | ผ้า, ผ้าใบ, หนัง, หนังกลับ | Nano | ||
2 | Collonil Carbon Pro Spray | ![]() | เทคโนโลยีคาร์บอนโปร ปกป้องรองเท้านาน 6 - 12 เดือน | 300 มล. | ผ้า, ผ้าใบ, หนังแท้, หนังกลับ | Carbon | ||
3 | SOLITAIRE Nano Plus | ![]() | ป้องกันคราบสกปรกฝังแน่น เหมาะกับหนังและผ้าทุกชนิด | 400 มล. | ผ้าและหนังทุกชนิด | Nano | ||
4 | Crep Protect Spray Can | ![]() | เคลือบรองเท้าด้วยฟิลเตอร์แบบบาง แห้งไว ไม่ทำให้สีซีด | 200 มล. | หนังแท้, หนังนูบัค, หนังกลับ, ผ้า, ผ้าใบ | Nano | ||
5 | TIMBERLAND Balm Proofer™ | ![]() | หัวสเปรย์ฉีดได้ง่าย ไม่ทำให้อับชื้น ป้องกันได้หลายพื้นผิว | 177 มล. | ผ้าฝ้าย, โพลีเอสเตอร์, ผ้าใบ, หนัง, หนังกลับ, หนังนูบัค, ไนลอน | Balm Proofer | ไม่ระบุ | |
6 | ROCKER Ultra Waterproof Nano Spray | ![]() | เคลือบผิวแบบนาโน ไม่ทิ้งคราบขาว ปกป้องนาน 12 เดือน | 230 มล. | ผ้า, ผ้าใบ, หนัง, หนังกลับ, หนังนูบัค, หนังเทียม | Nano | ||
7 | NENRTE สเปรย์กันละอองน้ำ | ![]() | ละอองสเปรย์ละเอียด เคลือบผิวไม่ให้ละอองน้ำไหลผ่านได้ | 250 มล. | ผ้าใบ, หนัง, ผ้า | Nano | ไม่ระบุ | |
8 | Willkins Waterproof Spray Water base | ![]() | กระจายละออง 360 องศา ปราศจากแอลกอฮอล์และกลิ่นฉุน | 160 มล. | ผ้าใบ, หนัง, หนังกลับ, หนังนูบัค | Water - based | ||
9 | SOUJI สเปรย์กันน้ำรองเท้า | ![]() | กันฝุ่นละออง พ่นรองเท้าได้ 3 - 5 คู่ ป้องกันได้ 2 - 12 เดือน | 250 มล. | ผ้าแคนวาส, หนังแท้, หนังเทียม, หนังกลับ, ผ้าถัก, ผ้าตาข่าย, ยาง | ไม่ระบุ | ||
10 | GLENDAI สเปรย์กันน้ำ | ![]() | ใช้ได้ทั้งรองเท้าผ้าใบและรองเท้าหนัง ไม่ทำให้เกิดกลิ่นอับ | 200 มล. | หนัง, ผ้าแคนวาส | ไม่ระบุ |
แนะนำให้เขย่ากระป๋องก่อนฉีดสเปรย์ โดยเว้นระยะห่างจากรองเท้าประมาณ 10 - 20 ซม.
ปริมาณ | 75 มล. |
---|---|
วัสดุรองเท้าที่ใช้ได้ | ผ้า, ผ้าใบ, หนัง, หนังกลับ |
เทคโนโลยีที่ใช้ | Nano |
สูตรป้องกันแสงยูวี |
ปริมาณ | 300 มล. |
---|---|
วัสดุรองเท้าที่ใช้ได้ | ผ้า, ผ้าใบ, หนังแท้, หนังกลับ |
เทคโนโลยีที่ใช้ | Carbon |
สูตรป้องกันแสงยูวี |
ปริมาณ | 400 มล. |
---|---|
วัสดุรองเท้าที่ใช้ได้ | ผ้าและหนังทุกชนิด |
เทคโนโลยีที่ใช้ | Nano |
สูตรป้องกันแสงยูวี |
ปริมาณ | 200 มล. |
---|---|
วัสดุรองเท้าที่ใช้ได้ | หนังแท้, หนังนูบัค, หนังกลับ, ผ้า, ผ้าใบ |
เทคโนโลยีที่ใช้ | Nano |
สูตรป้องกันแสงยูวี |
ปริมาณ | 177 มล. |
---|---|
วัสดุรองเท้าที่ใช้ได้ | ผ้าฝ้าย, โพลีเอสเตอร์, ผ้าใบ, หนัง, หนังกลับ, หนังนูบัค, ไนลอน |
เทคโนโลยีที่ใช้ | Balm Proofer |
สูตรป้องกันแสงยูวี | ไม่ระบุ |
ปริมาณ | 230 มล. |
---|---|
วัสดุรองเท้าที่ใช้ได้ | ผ้า, ผ้าใบ, หนัง, หนังกลับ, หนังนูบัค, หนังเทียม |
เทคโนโลยีที่ใช้ | Nano |
สูตรป้องกันแสงยูวี |
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
วัสดุรองเท้าที่ใช้ได้ | ผ้าใบ, หนัง, ผ้า |
เทคโนโลยีที่ใช้ | Nano |
สูตรป้องกันแสงยูวี | ไม่ระบุ |
ปริมาณ | 160 มล. |
---|---|
วัสดุรองเท้าที่ใช้ได้ | ผ้าใบ, หนัง, หนังกลับ, หนังนูบัค |
เทคโนโลยีที่ใช้ | Water - based |
สูตรป้องกันแสงยูวี |
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
วัสดุรองเท้าที่ใช้ได้ | ผ้าแคนวาส, หนังแท้, หนังเทียม, หนังกลับ, ผ้าถัก, ผ้าตาข่าย, ยาง |
เทคโนโลยีที่ใช้ | ไม่ระบุ |
สูตรป้องกันแสงยูวี |
ปริมาณ | 200 มล. |
---|---|
วัสดุรองเท้าที่ใช้ได้ | หนัง, ผ้าแคนวาส |
เทคโนโลยีที่ใช้ | ไม่ระบุ |
สูตรป้องกันแสงยูวี |
สเปรย์กันน้ำรองเท้าเป็นสเปรย์ที่ใช้สำหรับป้องกันรองเท้าจากเปียกน้ำ เลอะคราบน้ำต่าง ๆ ระหว่างการสวมใส่ เพื่อให้รองเท้าคงสภาพที่สวยงาม โดยเราสามารถใช้สเปรย์กันน้ำได้ทุกฤดู โดยเฉพาะฤดูฝนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ซึ่งการฉีดสเปรย์กันน้ำนั้น ก่อนฉีดทุกครั้ง ขอแนะนำให้เช็ดทำความสะอาดรองเท้าให้สะอาดก่อนและตากให้แห้งสนิท เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และควรฉีดสเปรย์กันน้ำรองเท้าทุก ๆ 15 - 20 วัน เพื่อให้การปกป้องอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สเปรย์กันน้ำรองเท้าจะมีการแบ่งออกเป็นสเปรย์สำหรับรองเท้าผ้าใบ และรองเท้าหนังด้วย จึงควรใช้ให้ถูกกับประเภทวัสดุรองเท้า เพื่อประสิทธิภาพในการปกป้องและไม่ทำร้ายวัสดุของรองเท้าประเภทนั้น ๆ
แม้ว่าผลิตภัณฑ์สเปรย์กันน้ำหลาย ๆ สูตรจะถูกออกแบบมาให้ปลอดภัยจากสารเคมีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่คุณก็ยังควรระมัดระวังในการสูดดมละอองของสเปรย์เข้าไปด้วย เนื่องจากละอองเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของคุณได้ ในการใช้งานจึงควรหลีกเลี่ยงที่จะใช้งานในที่ร่มไม่ว่ากรณีใด ๆ
อันดับที่ 1: Always Dry|Ultra Waterproof Spray
อันดับที่ 2: Collonil|Carbon Pro Spray
อันดับที่ 3: SOLITAIRE|Nano Plus
อันดับที่ 4: Crep |Protect Spray Can
อันดับที่ 5: TIMBERLAND |Balm Proofer™
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ