ในยุคที่ Social Network เป็นกระแสมาแรงทั่วโลกแบบนี้ แต่ละคนพอถ่ายรูปสวย ๆ ได้ปุ๊บก็อยากโพสต์ลง Instagram หรือ Facebook ทันที แต่สำหรับกล้องรุ่นเก่าที่ไม่มีโหมด Wi-Fi นั้น หากจะต้องพกพาโน้ตบุ๊กไปด้วยทุกที่ก็คงจะทำได้ไม่สะดวกสักเท่าไหร่ ดังนั้น ในยุคนี้จึงได้มีการพัฒนาการ์ด SD ที่สามารถปล่อยสัญญาณ Wi-Fi เพื่อส่งรูปภาพไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมาเป็นตัวกลางในการส่งต่อข้อมูลอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม การ์ดประเภทนี้ก็มีอยู่หลากหลายฟังก์ชันที่แตกต่างกันให้เลือกใช้ วันนี้เราจึงได้นำวิธีการเลือกการ์ด Wi-Fi SD มาแนะนำ เพื่อให้คุณสามารถเลือกได้ตามจุดประสงค์การใช้งานหลักของคุณ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เราได้นำการจัดอันดับการ์ด Wi-Fi SD ยอดนิยมจากหลากหลายแบรนด์ดัง ทั้ง TOSHIBA, Eye-Fi, ez Share, Transcend มาฝากในตอนท้ายอีกด้วยค่ะ
Top 5 การ์ด Wi-Fi SD ยอดนิยม
TOSHIBA
แชร์ภาพได้ 7 เครื่องพร้อมกัน App ใช้งานสะดวก เหมาะกับมือใหม่
คุณพิมพ์เป็นนักเขียนที่สนใจเรื่องเทคโนโลยี โดยเฉพาะโน้ตบุ๊ก PC สมาร์ตโฟน อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ และวงการเกม ด้วยนิสัยที่ชอบศึกษาข้อมูลเชิงลึกก่อนเสมอ ทำให้มีประสบการณ์ในการเลือกซื้อและเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้สินค้าที่คุ้มค่าและตรงกับความต้องการ นอกจากนี้ ด้วยพื้นฐานด้านการเงินและการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศกับประสบการณ์การทำงานด้านการประสานงานในบริษัทค้าปลีก ทำให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาด การเลือกซื้อสินค้า และแนวโน้มของผลิตภัณฑ์ในตลาดไอที ปัจจุบันคุณพิมพ์นำความรู้เหล่านี้มาถ่ายทอดผ่านบทความวิธีการเลือกสินค้า เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเลือกซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยีได้อย่างชาญฉลาด โดยนอกจากสายไอทีแล้ว ยังสนใจเรื่องรองเท้า โดยเฉพาะรองเท้าสายลำลองและรองเท้ากีฬา ซึ่งคุณพิมพ์ให้ความสำคัญกับการออกแบบ ความสบาย และวัสดุที่ใช้ ทำให้แนะนำรองเท้าที่เหมาะกับการใช้งานได้อย่างแม่นยำ โดยมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดข้อมูลที่เป็นประโยชน์ผ่านวิธีการเลือกสินค้า เปรียบเทียบฟีเจอร์ จุดเด่น และข้อควรพิจารณา เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและเลือกซื้อสินค้าที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง
สารบัญ
สำหรับคนที่ชอบการถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิทัลแล้ว อุปกรณ์อย่างหนึ่งที่จำเป็นและขาดไม่ได้เลยก็คือ การ์ดความจำ SD ที่ใช้สำหรับบันทึกภาพ ก่อนนำไปจัดเก็บลงในคอมฯ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านทางตัวแปลงอย่าง Card Reader ซึ่งหลายคนอาจไม่สะดวกที่จะพกพาทั้งคอมฯ และ Card Reader ไปด้วยทุกครั้ง จึงต้องรอให้กลับถึงบ้านก่อนถึงจะสามารถถ่ายโอนข้อมูลออกมาจากตัวกล้องได้
แต่สำหรับการ์ด Wi-Fi SD นั้นเป็นหน่วยความจำที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลแบบไร้สาย เพราะนำเทคโนโลยี Wi-Fi มาใส่ไว้ในตัวการ์ด SD ทำให้สามารถปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ออกจากการ์ดได้โดยตรง คุณจึงส่งไฟล์รูปหรือวิดีโอไปยังอุปกรณ์ที่จับคู่สัญญาณ Wi-Fi นั้นได้โดยไม่ต้องถอดการ์ดออกจากตัวกล้องให้ยุ่งยากเหมือนที่เคย ช่วยทำให้กล้องตัวเก๋าของคุณทำงานได้เทียบเท่ากับกล้องรุ่นใหม่ ๆ ที่มีฟังก์ชัน Wi-Fi ติดมาด้วยได้ค่ะ
การ์ด Wi-Fi SD มีจุดเด่นคือ สามารถส่งไฟล์รูปไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ แบบไร้สายได้ แต่อย่างไรก็ตาม การ์ดแต่ละยี่ห้อก็มีความพิเศษแตกต่างกันออกไป ดังนั้น นอกจากการพิจารณาคุณสมบัติในการส่งข้อมูลผ่าน Wi-Fi แล้ว ควรจะตรวจดูฟังก์ชันเสริมที่มีมาด้วย เพื่อให้คุณเลือกไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ
กล้องแต่ละรุ่นมักใช้การ์ดความจำที่ผู้ผลิตทำขึ้นมาตามเทคโนโลยีในขณะนั้น ซึ่งขนาดของการ์ด Wi-Fi SD นี้ก็ไม่ต่างจากการ์ดความจำ SD ที่พบในกล้องทั่วไป จึงสามารถใช้งานร่วมกันได้ แต่ทั้งนี้ กล้องบางรุ่นหรือกล้องรุ่นเก่า ๆ อาจไม่รองรับการทำงานของการ์ด Wi-Fi SD ดังนั้น สิ่งสำคัญอย่างแรกสุดเลยก็คือ ควรตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ผู้ผลิตหรือผู้ขายให้แน่ใจว่า กล้องคู่ใจของคุณนั้นสามารถรองรับการทำงานของการ์ด Wi-Fi SD ได้หรือไม่ก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุดค่ะ
โดยทั่วไปแล้ว เวลาใช้งานการ์ด Wi-Fi SD เพื่อถ่ายโอนข้อมูลจากกล้องไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ กล้องจะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์แม่ เพื่อส่งสัญญาณ Wi-Fi ไปยังอุปกรณ์ลูกอย่างแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน ซึ่งเราจะต้องทำการ Logout ออกจากอินเทอร์เน็ตหรือ Wi-Fi หลักที่ใช้งานอยู่ก่อนหน้านี้ เพื่อให้เชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi ของการ์ด Wi-Fi SD โดยตรง ทำให้เราไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตในขณะโอนถ่ายข้อมูลได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม มีผลิตภัณฑ์บางตัวที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้แม้จะเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi ของการ์ด Wi-Fi SD อยู่ก็ตาม ช่วยให้คุณสามารถถ่ายโอนข้อมูล พร้อมทั้งทำงานอย่างอื่นบนอินเทอร์เน็ตไปด้วยอย่างไม่ขาดตอน และสำหรับคนที่ชอบการอัพรูปลง SNS แบบรวดเร็วทันใจล่ะก็ ไม่ควรพลาดการ์ดที่มีฟังก์ชันนี้อยู่นะคะ
สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลหรือการส่งข้อมูลออกจากตัวกล้องที่ใช้เทคโนโลยีของการ์ด Wi-Fi SD ถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่
แต่ปัจจุบันมีการ์ดบางรุ่นที่คุณสามารถตั้งค่าการส่งได้ทั้งสองรูปแบบเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละครั้งด้วย ดังนั้น ควรตรวจสอบคุณสมบัติเหล่านี้ก่อนเลือกซื้อ เพื่อประโยชน์ในการทำงานของคุณนะคะ
ถ้าคุณมีอุปกรณ์ที่ต้องการแชร์รูปไม่มาก มีเพียงสมาร์ตโฟนแค่เครื่องเดียว ขอแนะนำให้เลือกการ์ดที่แชร์ข้อมูลได้เครื่องเดียวก็เพียงพอค่ะ แต่หากคุณต้องการแชร์ข้อมูลร่วมกับอุปกรณ์หลายเครื่อง ควรจะเลือกการ์ดที่สามารถส่งข้อมูลออกไปได้หลายอุปกรณ์ในครั้งเดียว จะช่วยลดความยุ่งยากในการส่งรูปซ้ำ ๆ ทำให้การส่งไฟล์ง่ายขึ้น เช่น แชร์ไปยังแท็บเล็ต คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ หรือแชร์ให้เพื่อนหลายคนพร้อมกัน เป็นต้น และสำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะแล้วล่ะก็ แนะนำแบบแชร์ข้อมูลได้ 3 - 5 อุปกรณ์ขึ้นไปเลย คุณจะได้ส่งต่อไฟล์ภาพกับเพื่อน ๆ ได้อย่างทันใจค่ะ !
การ์ด Wi-Fi SD บางยี่ห้อสามารถโอนถ่ายข้อมูลไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านทางแอปพลิเคชันเฉพาะของผู้ผลิตได้ ซึ่งข้อดีของการมีฟังก์ชันนี้นั้น ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการกับรูปภาพและวิดีโอที่ต้องการแชร์ไปยังอุปกรณ์นั้น ๆ ได้ง่ายและมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดังนั้น คุณจึงควรตรวจสอบด้วยว่าการ์ด Wi-Fi SD ยี่ห้อนั้น ๆ มีแอปพลิเคชันสำหรับถ่ายโอนข้อมูลหรือเปล่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการทำงาน อีกทั้งยังช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลมากยิ่งขึ้นค่ะ
Power Saving เป็นฟังก์ชันที่ช่วยประหยัดพลังงานจากการที่คุณใช้การ์ด Wi-Fi SD เนื่องจากการ์ดดังกล่าวจะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ของกล้องถ่ายภาพโดยตรง ซึ่งช่วงที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ของกล้องถ่ายภาพมากที่สุดคือ ช่วงที่ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ขณะแชร์รูปภาพหรือวิดีโอให้อุปกรณ์อื่น ๆ โดยหลักการทำงานของ Power Saving จะเริ่มขึ้นเพื่อปิดสัญญาณการเชื่อมต่อ เมื่อไม่ได้รับสัญญาณ Wi-Fi เป็นระยะเวลา (นาที) ตามที่กำหนดของแต่ละแบรนด์นั่นเองค่ะ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Eye-Fi การ์ด Wi-Fi SD รุ่น Mobi | ![]() | การ์ด Wi-Fi SD คุณภาพระดับนักถ่ายภาพมือโปรเลือกใช้ | |
2 | TOSHIBA การ์ด Wi-Fi SD รุ่น FlashAir W-02 | ![]() | โมเดล Class 10 แชร์ไปยังอุปกรณ์ได้อย่างหลากหลาย | |
3 | ez Share การ์ด Wi-Fi SD | ![]() | ถ่ายโอนข้อมูลโดยไม่ลดขนาดไฟล์ พร้อมสวิตช์ประหยัดพลังงาน | |
4 | TOSHIBA การ์ด Wi-Fi SD รุ่น FlashAir W-04 | ![]() | แชร์ภาพได้ 7 เครื่องพร้อมกัน App ใช้งานสะดวก เหมาะกับมือใหม่ | |
5 | TOSHIBA การ์ด Wi-Fi SD รุ่น FlashAir W-03 | ![]() | ออนไลน์อุปกรณ์ได้ตลอดเวลา พร้อมแชร์ Wi-Fi ได้ถึง 7 เครื่อง | |
6 | ez Share การ์ด Wi-Fi SD : อแดปเตอร์สัญญาณ (Wi-Fi Adapter) | ![]() | แชร์ภาพได้ 5 เครื่องพร้อมกัน App ใช้งานสะดวก เหมาะกับมือใหม่ | |
7 | Transcend การ์ด Wi-Fi SD | ![]() | มีแอปพลิเคชันใช้งานที่ครอบคลุม มี 3 โหมดการใช้งาน | |
8 | Eye-Fi การ์ด Wi-Fi SD รุ่น Mobi Pro | ![]() | ตั้งค่าโหมดการส่งรูปภาพได้เอง รองรับการส่งไฟล์ RAW | |
9 | No Brand การ์ด Wi-Fi SD : อแดปเตอร์แปลงสัญญาณ (Wi-Fi Adapter) | ![]() | Wi-Fi Adapter ราคาเบา ใช้งานร่วมกับการ์ด Micro SD |
Eye-Fi Mobi คือการ์ด Wi-Fi SD ที่หลายคนยกให้เป็นตัวช่วยสำคัญ เพราะสามารถใช้งานกับกล้องได้เกือบทุกรุ่น รวมไปถึงสมาร์ทโฟน iPhone, iPad แท็บเล็ต MacBook และสมาร์ททีวี โอนถ่ายข้อมูลภาพและไฟล์วิดีโอหลากหลายขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมความพิเศษที่ระบบจัดเก็บรูปภาพ Eyefi Cloud ให้คุณเข้าถึงไฟล์ต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ Eye-Fi Mobi Mobile Apps ยังสามารถแก้ไขและตกแต่งภาพภายในตัวแอปพลิเคชันได้อีกด้วยค่ะ
สำหรับการ์ด Wi-Fi SD จากแบรนด์ TOSHIBA รุ่นนี้ เป็นโมเดล Class 10 สามารถแชร์ต่อไปยังอุปกรณ์ผ่าน Wi-Fi ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้สะดวกและง่ายมากขึ้น เนื่องจากมีแอปพลิเคชันคอยอำนวยความสะดวก ใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ผ่านทุกเว็บเบราว์เซอร์ค่ะ นอกจากนี้การ์ด Wi-Fi SD รุ่นนี้ยังสามารถสลับการใช้งานไปมาได้ระหว่าง Wi-Fi และอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วยค่ะ
การ์ด ez Share SD Wi-Fi ถือว่าเป็นแบรนด์ฝั่งจีนที่หลายคนยอมรับว่ามีคุณภาพดีเหมาะสมกับราคา โดยมีฟังก์ชันเด่น ๆ คือ สามารถส่งไฟล์ออกไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ได้โดยไม่ลดขนาด Pixel ทำให้คงภาพแบบ Original เสมือนภาพถ่ายจากกล้อง นอกจากนี้ ยังติดตั้งง่าย แชร์ภาพได้รวดเร็วทันใจ แถมมีสวิตช์ประหยัดพลังงานใส่มาให้ด้วย ซึ่งช่วยลดปัญหาแบตเตอรี่หมดไวในกรณีที่เปิดใช้งาน Wi-Fi ต่อเนื่องได้ค่ะ
หากคุณคิดว่า TOSHIBA จะผลิตแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่ ๆ คุณกำลังคิดผิดมากค่ะ เพราะการ์ด Wi-Fi SD เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ทางแบรนด์ได้ผลิตออกมาจำหน่าย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานสำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ โดยสามารถแชร์ผ่าน Wi-Fi และแอปพลิเคชัน ซึ่งจุดเด่นที่ทางแบรนด์นี้ทำได้ดีคือ จำนวนอุปกรณ์ที่สามารถรับรูปภาพหรือวิดีโอได้สูงเป็นจำนวน 7 เครื่องในเวลาเดียวกันเลยค่ะ ใครที่ถ่ายรูปกับครอบครัวแล้วอยากแชร์รูปเหล่านี้พร้อมกัน สินค้ารุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์มากค่ะ
การ์ดจาก Toshiba แบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่นที่มีความน่าเชื่อถือในเรื่องคุณภาพ โดย FlashAir รุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่สามารถแชร์ภาพและวิดีโอไปให้อุปกรณ์ตัวรับพร้อม ๆ กันได้มากถึง 7 เครื่องต่อครั้ง อีกทั้งยังสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างต่อเนื่องแม้จะเชื่อมต่อ Wi-Fi ของตัวการ์ดอยู่ก็ตาม และมีแอปพลิเคชันเฉพาะของ Toshiba เอง ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย สามารถรับไฟล์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพระดับ Class10 !
สำหรับสินค้านี้เป็น Wi-Fi Micro SD Adapter อีกตัวหนึ่ง มาพร้อมแอปฯที่ใช้งานได้ง่าย สามารถส่งได้ทั้งไฟล์ JPEG, RAW, AVI, MP4 และ MOV รองรับ Micro SD ถึง 32 GB ส่งต่อไฟล์ได้ 5 อุปกรณ์ในครั้งเดียว ให้คุณแชร์ภาพกับเพื่อน ๆ อย่างจุใจ นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่ออัพรูปสวย ๆ ลง Facebook, Instagram ได้ทันที ราคาก็เข้าถึงง่าย เหมาะกับคนที่ใช้ Micro SD และต้องการถ่ายโอนข้อมูลแบบ Wi-Fi ร่วมด้วยค่ะ
สำหรับการ์ด Wi-Fi SD ยี่ห้อนี้ มีแอปพลิเคชันให้ผู้ใช้งานได้ดาวน์โหลดมาใช้ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งรูปภาพและวิดีโอ เชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือสมาร์ตโฟน มีโหมดการใช้งานทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมด Shoot And View สามารถเลือกรูปภาพขณะที่กำลังถ่ายภาพได้แบบรูปต่อรูป, โหมด Browser ที่สามารถรับรูปภาพจากการ์ดได้โดยตรง และโหมด Wi-Fi ที่รับไฟล์ผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ทันทีค่ะ
ความพิเศษของการ์ด Wi-Fi SD ของ Eye-Fi คือ สามารถส่งไฟล์ภาพที่มีความละเอียดออกไปยัง Smart Device ต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ ครอบคลุมการใช้งานกับอุปกรณ์แทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน iPhone แท็บเล็ต หรือแม้แต่สมาร์ททีวี โดยรุ่น Mobi Pro ได้เพิ่มฟังก์ชันที่อัปเกรดขึ้นมาให้ส่งภาพได้รวดเร็วกว่าเดิม ทั้งยังสามารถตั้งค่าการส่งภาพได้ทั้งแบบอัตโนมัติและแบบเลือกส่งเอง นอกจากนี้ ยังรองรับการส่งไฟล์ RAW ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ผู้ใช้งาน Adobe Lightroom มากเลยทีเดียวค่ะ
การ์ดชิ้นนี้ทำหน้าที่เป็นตัวแปลงสัญญาณ (Wi-Fi Adapter) ที่สามารถใช้ร่วมกับการ์ด Micro SD สามารถถ่ายโอนข้อมูลภาพและวีดีโอได้ทั้งไฟล์ JPG, Raw, Video, PDF, DOC, XLS, TXT รองรับการส่งข้อมูลทั้งระบบ iOS, Android และ Windows Phone อีกทั้งยังแชร์ข้อมูลผ่าน Wi-Fi พร้อมกันได้สูงสุดถึง 3 เครื่อง สำหรับคนที่กำลังมองหาการ์ดแปลงสัญญาณหรือ Wi-Fi Adapter ราคาเบา ๆ แต่สามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกับรุ่นแพง ๆ ขอแนะนำให้คุณรู้จักกับตัวนี้เลยค่ะ
การใช้งานการ์ด Wi-Fi SD นั้นไม่ได้แตกต่างจากการ์ด SD ปกติมากนัก โดยขั้นตอนแรกให้เสียบการ์ดเข้าที่ช่องเสียบของกล้อง ทำการเปิดสวิตซ์กล้อง (หากต้องใช้แอปพลิเคชันในการถ่ายโอนข้อมูล ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันลงในอุปกรณ์รับก่อน) จากนั้นเปิดสัญญาณการเชื่อมต่อ Wi-Fi คุณก็จะเห็นชื่อสัญญาณ Wi-Fi ของการ์ดปรากฏขึ้นมา ให้เลือกการเชื่อมต่อสัญญาณนั้นแล้วใส่รหัสรักษาความปลอดภัยเพื่อเข้าใช้งาน ทั้งนี้คุณสามารถดูวิธีการเชื่อมต่อสัญญาณและการใส่รหัสได้จากคู่มือการใช้งานค่ะ เมื่อการตั้งค่าเป็นอันเสร็จสิ้นก็พร้อมถ่ายโอนข้อมูลได้เลย ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดที่กล่าวมานี้ไม่ได้ยุ่งยากเลยใช่ไหมล่ะคะ
หากเป็นรูปแบบการถ่ายโอนข้อมูลอัตโนมัติ หลังถ่ายภาพ คุณจะได้รับภาพสวย ๆ จากกล้องในทันที ในขณะที่ถ้าเป็นแบบเลือกรูปก่อนส่งออกไป คุณจะต้องเลือกรูปที่ต้องการจากตัวกล้องหรือจากแอปพลิเคชันก่อนกดส่ง เพียงเท่านี้คุณก็สามารถ Upload รูปลง Social Media เพื่อแชร์ให้เพื่อน ๆ ดูแบบ Real Time ได้แล้วค่ะ
เมื่อได้รูปภาพจากกล้องถ่ายภาพมาอย่างรวดเร็วทันใจแล้ว บางคนก็อาจจะยังไม่อยากอัปเดตลง Social Media ในทันที เพราะอยากปรับแสงสี ความคมชัด ให้สวยงามตรงใจเสียก่อน ดังนั้นเราจึงมีบทความเกี่ยวกับแอปแต่งรูปยอดฮิตที่หลายคนเลือกใช้งานมาฝากกันด้วยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับการ์ด Wi-Fi SD ที่เรานำมาฝากกันในครั้งนี้ สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญในการเลือกการ์ด Wi-Fi SD อีกอย่างหนึ่งที่ควรพิจารณาไว้ด้วยก็คือ ควรเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ผู้ผลิตที่ไว้ใจได้ เพราะการใช้งานการ์ด SD นั้นต่างจากการซื้ออุปกรณ์เสริมชนิดอื่น ๆ เนื่องจากตัวการ์ดจะเชื่อมต่อกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของกล้องโดยตรง ซึ่งถือเป็นจุดที่มีความอ่อนไหวมาก หากสินค้าที่คุณซื้อมาไม่มีคุณภาพ อาจส่งผลให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในกล้องเสียหาย หรือทำให้กล้องของคุณเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิมได้ ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อจึงควรตรวจสอบว่าผู้ผลิตมีความน่าเชื่อถือด้วยหรือไม่ เพื่อให้คุณสามารถนำไปใช้งานได้อย่างวางใจมากยิ่งขึ้นค่ะ
อันดับที่ 1: Eye-Fi|การ์ด Wi-Fi SD รุ่น Mobi
อันดับที่ 2: TOSHIBA|การ์ด Wi-Fi SD รุ่น FlashAir W-02
อันดับที่ 3: ez Share|การ์ด Wi-Fi SD
อันดับที่ 4: TOSHIBA|การ์ด Wi-Fi SD รุ่น FlashAir W-04
อันดับที่ 5: TOSHIBA|การ์ด Wi-Fi SD รุ่น FlashAir W-03
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ