สิ่งสำคัญสำหรับการเล่นกล้องประเภท DSLR หรือ Mirrorless นั่นก็คือ เลนส์ที่ใช้เปลี่ยน ซึ่งในบรรดาบริษัทผู้ผลิตเลนส์มากมาย Canon ถือว่ามีตัวเลือกหลากหลายและราคาที่ไม่แพง จึงเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน อย่างไรก็ตาม ในการเลือกซื้อเลนส์กล้องนั้นอาจมีศัพท์เฉพาะยาก ๆ สำหรับมือใหม่ เช่น เลนส์ฟิกส์, เลนส์ซูม หรือเลนส์ไวด์ เป็นต้น
ในบทความนี้ เราจึงจะมาแนะนำวิธีการเลือกเลนส์กล้อง Canon ที่ไม่ว่ามือใหม่หรือมือโปรก็ใช้อ้างอิงได้ พร้อมคำแนะนำจากช่างภาพอาชีพโดยเฉพาะ รวมทั้งยังมี 10 เลนส์ Canon ยอดนิยม ที่จะช่วยให้ภาพสวยคมทุกช็อต ถ่ายได้หลายแนว มาให้คุณได้พิจารณากันด้วย
Top 5 เลนส์ Canon ยอดนิยม
Canon
ซูเปอร์เทเล น้ำหนักเบา เลนส์ DO ชัดทั้งภาพ มีค่ารูรับแสงคงที่
Canon
กำลังขยายสูง 1.4 เท่า ปรับโบเก้ได้ ภาพคมชัด รายละเอียดครบ
คุณแก้วเป็นช่างภาพมืออาชีพที่มีประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพหลากหลายแนว เช่น Fashion, Architecture, Automobile และ Product Still Life มานานกว่า 10 ปี โดยหลังจากกระแสสมาร์ตโฟนถ่ายภาพเริ่มได้รับความนิยม คุณแก้วจึงศึกษาการถ่ายด้วยสมาร์ตโฟนอย่างจริงจัง และก่อตั้ง Mobile Photographer เพื่อถ่ายทอดความรู้ เทคนิค และอัปเดตเทคโนโลยีกล้องสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์เสริมอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันทำงานร่วมกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Samsung, OPPO, VIVO, HUAWEI และ Realme ผ่านการรีวิวสมาร์ตโฟนกว่า 50 รุ่น พร้อมทั้งจัด Workshop และ Present สินค้าร่วมกับแบรนด์ต่าง ๆ นอกจากนี้ คุณแก้วยังเปิด Photography Course และบรรยายในมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง ตั้งแต่ปี 2023 จนถึงปัจจุบัน โดยดำรงตำแหน่งอาจารย์พิเศษประจำคณะดิจิทัลอาร์ต มหาวิทยาลัยศรีปทุม และเป็น Lecturer สอนการตลาดในหลักสูตรถ่ายภาพเบื้องต้นด้วยสมาร์ตโฟนที่อีกมหาวิทยาลัยชั้นนำ โดยใช้พื้นฐานด้านนิเทศศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรังสิต ผสมผสานกับประสบการณ์จริง เพื่อแนะนำการเลือกอุปกรณ์ เทคนิคการถ่ายภาพ และแนวโน้มเทคโนโลยีได้อย่างแม่นยำ
คุณจอยจบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงและกำลังศึกษาต่อในระดับเนติบัณฑิตเพื่อมุ่งสู่งานด้านกฎหมายในอนาคต แต่นอกจากความชื่นชอบในงานด้านกฎหมายแล้ว คุณจอยยังมีความสนใจในด้านการลงทุนและการวางแผนทางการเงินเป็นพิเศษ จึงไปต่อยอดความรู้ด้วยการลงเรียนคอร์สต่าง ๆ เพิ่มเติมและสอบ IC License หรือใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์มาได้ในที่สุด ในส่วนของงานอดิเรกหลักที่ชื่นชอบนั้นจะเป็นการถ่ายภาพ ซึ่งคุณจอยได้ไปลงเรียนคอร์สการถ่ายภาพขั้นสูงของ KMUTT และเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Canon เพื่อเข้าร่วมคอร์สต่าง ๆ อยู่ตลอด รวมทั้งยังชอบแชร์ภาพสวย ๆ โดยฝีมือการถ่ายของตัวเองจากการไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ผ่านทาง Google Map จนมีผู้ชมถึง 1.5 ล้านวิวอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
เลนส์กล้องนั้นมีราคาสูง ดังนั้น เพื่อให้คุณได้เลนส์ที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การถ่ายรูปของคุณมากที่สุด ลองมาดูวิธีการเลือกเพื่อเป็นแนวทางกันดีกว่าครับ เพราะมีรายละเอียดที่คุณควรทราบค่อนข้างมากเลย
ในการเลือกซื้อเลนส์ พื้นฐานที่ควรทราบข้อแรกเลยคือการเลือกเมาท์ให้เหมาะสม เลนส์เมาท์ (Lens Mount) หมายถึง ประเภทของจุดที่ตัวกล้องและเลนส์เชื่อมต่อกัน หากผิดประเภทก็จะไม่สามารถต่อเลนส์เข้ากล้องได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ผู้ใช้ควรทราบประเภทเลนส์เมาท์ของกล้องตัวเองก่อนนะครับ
เลนส์ของ Canon จะแบ่งออกเป็นเลนส์สำหรับกล้อง Mirrorless และสำหรับกล้อง DSLR ผู้ที่ใช้กล้อง Mirrorless ให้เลือกใช้ระหว่างเลนส์เมาท์แบบ EF-M หรือ RF จะเหมาะสมที่สุดครับ
RF คือ เลนส์เมาท์น้องใหม่ที่เพิ่งออกสู่ท้องตลาดครั้งแรกในปี 2018 มีความสามารถเหนือกว่าประเภท EF-M ซึ่งแน่นอนว่าราคาก็สูงตามไปด้วย ถ้าหากคุณให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพเป็นหลักและต้องการใช้ในระยะยาว RF ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าเป็นมือใหม่ EF-M ที่ราคาจับต้องได้มากกว่าก็อาจเพียงพอแล้ว โดยพื้นฐานแล้ว EF-M เป็นเลนส์เมาท์สำหรับกล้อง Mirrorless ก็จริง แต่ถ้ามีอะแดปเตอร์ที่ใช้สำหรับต่อเมาท์โดยเฉพาะแล้วละก็ ก็จะสามารถต่อเข้ากับกล้อง DSLR ได้ด้วยเช่นกันครับ
การใช้งาน Mount EF-M ของกล้อง Canon นั้นมีมานานมาก ๆ แล้ว ซึ่งจะเป็น Mount แบบดั้งเดิมของทาง Canon Mirrorless ในยุคแรก ๆ เลย แต่ในช่วงปี 2018 ได้มีการเปิดตัวกล้องและชุดเลนส์ใหม่ที่ใช้ Mount แบบ RF Mount ซึ่งรองรับเทคโนโลยีของตัวเลนส์ยุคใหม่ ๆ ที่ประสิทธิภาพสูงกว่า ไม่ว่าจะเป็นกันสั่นในตัวเลนส์แบบใหม่ Motor โฟกัสที่รวดเร็วมากขึ้น และรวมไปถึงการรองรับ Linear Motor สำหรับงานวิดีโอที่ช่วยให้ Autofocus นั้น Smooth มากขึ้นด้วยครับ สำหรับใครที่ยังใช้กล้อง DSLR ในกลุ่ม APSC ที่อยากใช้ Mount EF-M อาจจะต้องไปหา Adapter มาต่อก่อนนะครับ
เลนส์เมาท์สำหรับกล้อง DSLR มี 2 ประเภท ได้แก่ EF-S และ EF ประเภทของเมาท์จะแตกต่างไปตามขนาดของเซนเซอร์ที่ใช้ในตัวกล้อง เพราะฉะนั้นผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบให้ดีว่ากล้องที่ใช้เป็นเซอร์แบบฟูลเฟรม (Full-Frame) หรือแบบตัวคูณ (APS-C) ก่อนนะครับ
กรณีกล้องตัวคูณ (APS-C) จะสามารถใช้เลนส์เมาท์ EF-S และ EF ได้ทั้งคู่ ในขณะที่กล้องฟูลเฟรมจะใช้เลนส์เมาท์ EF ได้แบบเดียวครับ
ในแง่ประสิทธิภาพ เมาท์สำหรับกล้องฟูลเฟรมอย่าง EF นั้นเหนือกว่าท่วมท้น แต่ก็จะติดในเรื่องราคาที่สูง และน้ำหนักของเลนส์ที่หนัก ผู้ที่ใช้กล้องตัวคูณอยู่สามารถเลือกได้ระหว่างเมาท์ทั้งคู่ แต่สำหรับผู้เล่นกล้องมือใหม่แล้วก็อยากจะแนะนำให้เริ่มจากชนิด EF-S ที่มีน้ำหนักเบาและราคาไม่แพงดูก่อนครับ
การเลือกใช้เลนส์กล้อง Canon เราควรทำความรู้จักประเภทของ Mount ของกล้องแต่ละประเภทให้ดีก่อน ในกลุ่มของกล้อง DSLR จะมี Sensor อยู่ด้วยกันทั้งหมดสองแบบที่ได้รับความนิยมก็คือ APS-C และ Full Frame ซึ่งจะใช้ Mount ของตัวเลนส์ที่ต่างกัน ตัว APS-C จะสามารถใช้เลนส์ได้ทั้ง EF-S และ EF Mount แต่เมื่อใส่ EF Mount ภาพจะ Crop เข้ามานะครับ แต่ถ้าเราใช้กล้อง Full Frame จาก Canon เราจำเป็นจะต้องใช้เลนส์ที่เป็น Mount แบบ EF เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าเลนส์ในกลุ่ม EF Mount ก็จะราคาสูงกว่า ประสิทธิภาพดีกว่ามาก ๆ ตามราคาครับ
เลนส์กล้องสามารถแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 2 ชนิด คือ เลนส์ฟิกซ์ และ เลนส์ซูมหรือเลนส์มือหมุน หากจะแจงให้ละเอียดยิ่งขึ้น เพื่อการได้ภาพถ่ายที่ตรงตามจินตนาการของเรา "ระยะทางยาวโฟกัส" ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมาทำความเข้าใจกันครับ
ผู้ที่มีระยะของสถานที่หรือวัตถุที่ต้องการถ่ายแน่นอนอยู่แล้ว เลนส์ฟิกซ์ คือเลนส์ที่เหมาะกับคุณ เลนส์ฟิุกซ์มีความหมายตามชื่อของมันเลยก็คือ "เลนส์ที่มีระยะเดียวตายตัว" หรือ ฟิกซ์ (fix) ระยะไว้แล้วนั่นเอง เพราะไม่สามารถซูมได้ เวลาจะเปลี่ยนมุมถ่าย ผู้ถ่ายจึงต้องเดินเข้าเดินออกเอง แต่ข้อดีของเลนส์ฟิกซ์ คือ สามารถสร้างโบเก้หรือการเบลอพื้นหลังได้ง่าย ภาพที่ถ่ายออกมาด้วยเลนส์ชนิดนี้ ฉากหลังจะเบลอสวยราวกับภาพถ่ายของมืออาชีพ ถือเป็นเสน่ห์ของเลนส์ชนิดนี้เลยครับ
ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ต้องการเลนส์ที่ถ่ายวัตถุได้หลายระยะ เลนส์ซูมที่สามารถปรับระยะได้อย่างอิสระ คือเลนส์ที่เหมาะกับคุณ ข้อดีของเลนส์ประเภทนี้ คือ สามารถถ่ายได้ตั้งแต่วัตถุเบื้องหน้า ไปจนถึงซูมหานกหรือเครื่องบินบนฟ้าไกล ๆ ก็ย่อมได้ ในบรรดาเลนส์ซูมก็จะมีตัวเลขเขียนระบุระยะไว้อย่างเช่น "70-300mm" ยิ่งเลขชุดหน้ากับชุดหลังห่างกันเท่าไร ระยะของการซูมก็ยิ่งกว้างขึ้นเท่านั้นครับ
เลนส์ซูมหรือเลนส์ฟิกซ์ดีกว่ากัน? ถือเป็นคำถามที่มือใหม่หลายคนคงปวดหัวกันแน่ ๆ กับการเลือกใช้งานเลนส์ สำหรับเลนส์ซูม คือ เลนส์ที่เราสามารถหมุนปรับ Focal Length ได้ที่กระบอกเลนส์ ซึ่งมีตั้งแต่ช่วงสั้น ๆ อย่าง 16 - 35mm ไปยัน 18 - 200mm ซึ่งข้อได้เปรียบคือ หากเราต้องการจะพกเลนส์แค่ตัวเดียวแต่ได้องศาการรับภาพที่แตกต่างกันมาก ๆ เลนส์ซูมนั้นก็จะได้เปรียบ แต่ต้องแลกมาด้วยการไม่สามารถรักษาค่ารูรับแสงให้คงที่เอาไว้ได้ และถ้าอยากได้แบบค่ารูรับแสงไม่เปลี่ยนในเลนส์ซูมก็จะมีราคาสูงกว่าเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว
ส่วนเลนส์ฟิกซ์นั้น คือ เลนส์ที่ไม่สามารถปรับช่วง Focal Length ได้ แต่จะได้มาซึ่งคุณภาพ Optic ที่สูงกว่า ไฟล์ภาพสวยใสกว่าพวกเลนส์ซูม และสามารถทำค่า f/stop ได้ต่ำมาก ๆ ตั้งแต่ 2.8 - 1.8 - 1.4 ไปจนถึง 1.2 เลยก็มีครับ
ไม่ว่าจะเลนส์ฟิกซ์หรือเลนส์ซูม สิ่งที่ต้องเช็กก่อนคือ ระยะทางยาวโฟกัส (Focal Length) ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นเลนส์ฟิกซ์ก็จะมีเลข "50mm" หรือถ้าเป็นเลนส์ซูมก็จะมีเลข "70-150mm" เขียนกำกับไว้ หากเลือกใช้เลนส์แต่ละประเภทแตกต่างไปตามวัตถุประสงค์ได้อย่างเหมาะสม ขอบเขตการถ่ายภาพของเราก็จะยิ่งขยายออกไปอีกครับ
ระยะมาตรฐาน (ประมาณ 50 mm) คือ ระยะที่ภาพที่ถ่ายออกมาจะใกล้เคียงกับภาพที่เรามองเห็นด้วยตาที่สุด ฉะนั้นจึงเป็นระยะของเลนส์ที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นจับกล้องมากที่สุด เลนส์ไวด์ (น้อยกว่า 30mm ลงไป) จะทำให้เก็บภาพในมุมกว้างได้ จึงเหมาะกับการถ่ายวิวทิวทัศน์กว้างใหญ่ เช่น ทะเลหรือภูเขา เป็นต้น และเลนส์เทเล (มากกว่า 70mm ขึ้นไป) จะเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการถ่ายวัตถุที่อยู่ห่างออกไปในระยะไกล ๆ ครับ
นอกจากนี้ ยังมี "เลนส์มาโคร" ที่มีระยะทางยาวโฟกัส 60mm, 100mm หรือ 180mm ทำให้สามารถถ่ายภาพดอกไม้หรือแมลงขนาดเล็กได้อย่างชัดเจน สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการถ่ายภาพตายตัว เพียงแต่สนุกกับการถ่ายสิ่งรอบ ๆ ตัว หรือถ่ายวัตถุใด ๆ นอกเหนือจากมนุษย์ เลนส์ชนิดนี้เหมาะสมกับคุณอย่างยิ่งครับ
ทางยาวโฟกัสหรือ Focal Length มักจะถูกระบุไว้บนหน้าเลนส์และบริเวณด้านข้างตัวกระบอกเลนส์ ยิ่งตัวเลข Focal Length ต่ำลงเท่าไหร่ องศาการรับภาพก็จะยิ่งกว้างมากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าเลขมากขึ้น องศาการรับภาพก็จะแคบลง แต่ระยะในการดึงวัตถุหรือช่วงของการซูมก็จะไกลมากขึ้น และ Depth of Field ก็จะขึ้นตามไปด้วยครับ
สำหรับการถ่าย Landscape ต่าง ๆ เราอาจจะเลือกใช้เลนส์ที่เป็น Ultra Wide Angle อย่าง 14mm หรือ Wide Angle 18mm แต่ถ้าเป็นภาพบุคคล เพื่อให้ฉากหลังละลายได้สวย เราก็สามารถใช้เลนส์ 50mm หรือ 85mm หรือหากเป็นภาพกีฬาหรือถ่ายสิ่งที่อยู่ในระยะไกล ๆ เลนส์อย่าง 70mm - 200mm หรือฟิกซ์ 300m ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมครับ
เวลาถ่ายรูปบุคคล เคยสงสัยกันไหมคะว่าทำอย่างไรจึงจะถ่ายให้แบบชัดแต่ฉากหลังเบลอได้ คำตอบก็คือ นอกจากระยะทางยาวโฟกัสแล้ว ยังมีเรื่องของ "ค่า F" หรือรูรับแสงที่ต้องมาดูกัน ค่า F คือ ค่าที่แสดงเป็นตัวเลขว่ามีปริมาณแสงเข้าเลนส์มามากน้อยแค่ไหน ยิ่งเลขน้อยเท่าไรก็แปลว่ามีปริมาณแสงเข้าเลนส์มากเท่านั้นครับ
มีข้อควรระวังในวิธีเรียกเล็กน้อย เลยลองสรุปให้ง่าย ๆ ดังนี้
ถ้าแสงเข้าหน้าเลนส์มาก = ค่า F ต่ำ / รูรับแสงกว้าง
ถ้าแสงเข้าหน้าเลนส์น้อย = ค่า F สูง / รูรับแสงแคบ
ระวังสับสนเวลาใช้งานกันด้วยนะครับ
ยิ่งปริมาณแสงเข้ามากเท่าไหร่ ความเป็นไปได้ที่จะได้โบเก้ (เบลอ) ชัดเจนก็จะยิ่งสูงขึ้น กล่าวคือ ถ้าอยากได้แบบเบลอเยอะ ๆ ขอแนะนำให้เลือกเลนส์ที่มีค่า F ต่ำ ๆ เลือกใช้เลนส์ F2.8 หรือน้อยกว่านั้นถ่าย ก็ยิ่งจะทำให้ภาพที่ได้เบลอสวยตามที่ต้องการ เลนส์ของ Canon เป็นที่นิยมในการถ่ายภาพบุคคลอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาเลือกซื้อเลนส์ อย่าลืมดูตรงค่า F กันด้วยนะครับ
คำว่าหลังละลาย คงเป็นสิ่งที่คนหัดถ่ายภาพ Portrait หลาย ๆ คนคงคุ้นชินกันดีนะครับ ซึ่งมีผลมาจาก 2 สิ่งด้วยกัน อย่างแรกก็คือ ช่วง Focal Length ของตัวเลนส์ที่เราใช้และอีกจุดที่ส่งผลมากไม่แพ้กันก็คือ ค่า f/stop นั่นเอง ซึ่งยิ่งค่ารูรับแสงยิ่งต่ำยิ่งน้อย ก็จะทำให้การละลายฉากหลังเกิดขึ้นได้มากขึ้น และทำให้ภาพสว่างใสได้มากขึ้นด้วยในเวลาเดียวกันครับ สำหรับเลนส์ที่เราอยากได้ไปใช้ในการถ่ายภาพ Portrait ผมค่อนข้างแนะนำให้เลือก 50mm f/stop 1.4 หรือ 1.8 หรือถ้าเป็นระยะ 85mm ค่า f/stop 1.8 ก็เพียงพอแล้วครับ
ปกติเลนส์ Canon จะมาพร้อมกับฟังก์ชันพิเศษมากมาย ในครั้งนี้เราจะขอแนะนำฟังก์ชันที่น่าสนใจเป็นพิเศษให้บรรดาคนรักการถ่ายภาพได้พิจารณาควบคู่กับจุดประสงค์หรือความจำเป็นในการเลือกใช้เลนส์กันครับ
เริ่มจากเลนส์สเปก "IS" มาจากคำว่า Image Stabilization หรือเทคโนโลยีกันภาพสั่น จุดเด่นก็คือ เวลาส่องผ่านช่องมองภาพ (Viewfinder) ภาพที่เห็นจะสั่นน้อยลง จึงสามารถจับภาพวัตถุได้นิ่งนั่นเอง แม้จะเป็นเวลาเย็น ห้องมืด ๆ หรือสถานที่ที่ใช้แฟลชไม่ได้ ก็สามารถถ่ายออกมาได้ภาพนิ่งสวยงามได้ ไปลองใช้กันดูนะครับ
นอกจากนี้ ยังมีประเภทของมอเตอร์เลนส์ที่เรียกว่า "USM" มาจากคำว่า Ultrasonic Motor เนื่องจากจุดเด่นของ USM ที่สามารถล็อกโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว จึงสะดวกเวลาใช้ AF หรือโฟกัสอัตโนมัติ มอเตอร์อีกประเภทนึงชื่อว่า "STM" ย่อมาจาก Stepping Motor ถ้าถามว่าต่างกันอย่างไรนั้น ต้องบอกง่าย ๆ ว่า ประเภท STM มีเลนส์ที่ราคาถูกกว่าอยู่หลายรุ่น แต่ถ้าเทียบด้านประสิทธิภาพแล้ว ประเภท USM จะเหนือกว่าครับ
ฟีเจอร์หลัก ๆ ที่ทำให้เลนส์กล้องแต่ละตัวแต่ละระดับมีความต่างกัน นอกเหนือจากวัสดุแล้ว ก็จะมีระบบกันสั่นหรือ Image Stabilization และระบบ Motors สำหรับการโฟกัส ซึ่งแฟน ๆ Canon หลายคนจะพอทราบกันอยู่แล้วว่า ระบบโฟกัสที่เร็วที่สุดของ Canon ตอนนี้คือ USM หรือ Ultra Sonic Motors ที่โฟกัสได้เร็วมาก ๆ
แต่ถ้าเป็นระบบโฟกัสอีกตัวหนึ่งที่ชื่อว่า STM จะเน้นในเรื่องของความ Linear ในการปรับโฟกัสที่เงียบและ Smooth เหมาะสำหรับงานวิดีโออย่างมาก แม้ว่าความเร็วอาจจะ Drop ลงไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากครับ อย่างไรก็เลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราดีกว่าเพราะทั้ง USM และ STM ก็ไม่ได้ราคาถูกครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเภทเลนส์ | เมาท์เลนส์ | ค่ารูรับแสงกว้างที่สุด | ค่ารูรับแสงแคบที่สุด | ทางยาวโฟกัส | น้ำหนัก | ขนาดฟิลเตอร์ | คุณสมบัติเด่น | |||||
1 | Canon เลนส์กล้อง Canon RF 50mm f/1.8 STM | ![]() | ระยะมาตรฐาน ถูกใจสาย Portrait เล็กเบา กระทัดรัด ราคาคุ้ม | ฟิกซ์ | RF | F1.8 | F22 | 50 mm | 160 g | 49 mm | ระบบ STM, เบา สะดวก พกพาง่าย | |
2 | Canon เลนส์กล้อง Canon RF 800mm f/11 IS STM | ![]() | ซูเปอร์เทเล น้ำหนักเบา เลนส์ DO ชัดทั้งภาพ มีค่ารูรับแสงคงที่ | ฟิกซ์ | RF | F11 | F11 | 800 mm | 930 g | 95 mm | เลนส์ DO ช่วยลดความคลาดเคลื่อนทรงกลม, น้ำหนักเบา, ระบบ IS 4 Stop | |
3 | Canon เลนส์กล้อง Canon EF-M 32mm f/1.4 STM | ![]() | ที่สุดของการละลายหลัง โฟกัสใกล้ 23 cm ใช้เฉพาะ EOS M | ฟิกซ์ | EF-M | F1.4 | F16 | 32 mm | 235 g | 43 mm | เลนส์ซีรีส์ EOS M ช่วยละลายหลัง, โฟกัสระยะใกล้สุดที่ 23 cm | |
4 | Canon เลนส์กล้อง Canon RF 100mm f/2.8L Macro IS USM | ![]() | กำลังขยายสูง 1.4 เท่า ปรับโบเก้ได้ ภาพคมชัด รายละเอียดครบ | ฟิกซ์ | RF | F2.8 | F32 | 100 mm | 685 g | 67 mm | ระบบ Nano USM โฟกัสเร็ว แม่นยำ, ระบบ IS 6 Stop | |
5 | Canon เลนส์กล้อง Canon EF-M 11-22mm f/4-5.6 IS STM | ![]() | เลนส์ไวด์ไซซ์เล็ก สำหรับกล้อง Mirrorless เน้นถ่ายภาพทิวทัศน์ | ซูม | EF-M | F4 - 5.6 | F22 - 32 | 22 mm | 220 g | 55 mm | เทคโนโลยี SSC, ระบบ STM โฟกัสนุ่มนวล, ระบบ IS 3 Stop | |
6 | Canon เลนส์กล้อง Canon RF 100-400mm f/5.6-8 IS USM | ![]() | เลนส์ซูมซูเปอร์เทเล ออโต้โฟกัสรวดเร็ว มีกันสั่นรวม 6 สต็อป | ซูม | RF | F5.6 - 8 | F32 - 45 | 100 - 400 mm | 635 g | 67 mm | ระบบ Nano USM โฟกัสเร็ว แม่นยำ, ระบบ IS 6 Stop | |
7 | Canon เลนส์กล้อง Canon RF 35mm f/1.8 MACRO IS STM | ![]() | เลนส์สำหรับ EOS R ถ่ายโคลสอัพสวย ถ่ายแบบละลายหลังก็ละมุน | ฟิกซ์ | RF | F1.8 | F22 | 35 mm | 305 g | 52 mm | ถ่ายโคลสอัพสวย, ระบบ STM โฟกัสนุ่มนวล, ระบบ IS 5 Stop | |
8 | Canon เลนส์กล้อง Canon RF 15-35mm f/2.8L IS USM | ![]() | ระบบ Nano USM ออโต้โฟกัสเร็ว เสียงเงียบ ภาพคมทั่วทั้งภาพ | ซูม | RF | F2.8 | F22 | 15 - 35 mm | 840 g | 82 g | ระบบ Nano USM โฟกัสเร็ว แม่นยำ, ระบบ IS 5 Stop, กันละอองฝุ่นและหยดน้ำ | |
9 | Canon เลนส์กล้อง Canon EF 24-105mm f/4L IS II USM | ![]() | ซูมไกล ภาพคม เก็บมุมกว้างครบ ถ่ายภาพท่องเที่ยวแบบมืออาชีพ | ซูม | EF | F4 | F22 | 24 - 105 mm | 700 g | 77 m | เลนส์โค้งแบนด้านเดียว (Aspheric Lens), กันน้ำกันฝุ่น | |
10 | Canon เลนส์กล้อง Canon EF 70-200 mm F2.8L IS III USM | ![]() | เลนส์ซูมระดับโปร รูรับแสงคงที่ ชัตเตอร์เร็ว ถ่ายในที่มืดก็ยังสวย | ซูม | EF | F2.8 | F32 | 70 - 200 mm | 1,440 g | 77 mm | เทคโนโลยี ASC ลดแสงแฟลร์, ระบบ IS 3.5 Stop,โฟกัสเร็ว |
เลนส์จากทาง Canon ที่อยู่ในซีรีส์ RF เหมาะสำหรับคนที่ต้องการถ่ายภาพให้ได้โบเก้สวย ๆ ด้วยคุณสมบัติละลายหลังมาตรฐาน มาพร้อมกับรูรับแสง F1.8 ซึ่งสร้างโบเก้ได้ลึกและมีมิติดูนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น มีฟีเจอร์ที่ช่วยสนับสนุนการถ่ายภาพในทุก ๆ รูปแบบ ต่อให้เป็นมือใหม่ในการถ่ายรูปก็สามารถนำมาใช้ฝึกในการถ่ายรูปทั่ว ๆ ไปได้อย่างราบรื่นครับ
สำหรับเลนส์รุ่นนี้สามารถภาพใกล้ ๆ ได้สูงสุดที่ระยะ 30 cm จึงนำมาใช้ในการถ่ายรูปบุคคล วัตถุชิ้นเล็ก ฟิกเกอร์ ภาพอาหารไปจนถึงทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้ ภาพที่ออกมาจะมีความสวยงาม รายละเอียดครบรากับใช้กล้องโปรในการถ่ายเลยครับ ตัวเลนส์มีขนาดเล็ก แต่ว่าไม่มีไม่มีซีลยางจึงไม่กันฝุ่น ไม่กันน้ำ การนำมาใช้งานนอกสถานที่จึงต้องดูแลมากเป็นพิเศษครับ
ประเภทเลนส์ | ฟิกซ์ |
---|---|
เมาท์เลนส์ | RF |
ค่ารูรับแสงกว้างที่สุด | F1.8 |
ค่ารูรับแสงแคบที่สุด | F22 |
ทางยาวโฟกัส | 50 mm |
น้ำหนัก | 160 g |
ขนาดฟิลเตอร์ | 49 mm |
คุณสมบัติเด่น | ระบบ STM, เบา สะดวก พกพาง่าย |
การถ่ายภาพรถแข่ง การแข่งขันกีฬา เครื่องบิน นก สัตว์ป่า หรือภาพวิวในระยะไกล ต้องนำเลนส์รุ่นนี้มาใช้งานกัน ตัวเลนส์ออกแบบมาให้เป็นเลนส์ทางยาวโฟกัส 800 mm สามารถหดเลนส์ให้มีขนาด 281.18 mm เพื่อความสะดวกในการพกพา เลนส์รุ่นนี้มาพร้อมกับค่ารูรับแสง f/11 คงที่ ทำให้สามารถถ่ายภาพในที่มืดและลดอาการเบลอจากการถ่ายได้เป็นอย่างดีครับ
จุดเด่นของเลนส์รุ่นนี้คือมีการใช้ชิ้นเลนส์ DO ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความคลาดเคลื่อนทรงกลม แก้ไขความคลาดเคลื่อนสีได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยให้เลนส์มีน้ำหนักเบากว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวสูงสุด 4 สต็อป ทำให้คุณได้ภาพที่คมชัด สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในสไตล์ไหนก็สามารถถ่ายให้ออกมาดูราวกับเป็นมืออาชีพครับ
ประเภทเลนส์ | ฟิกซ์ |
---|---|
เมาท์เลนส์ | RF |
ค่ารูรับแสงกว้างที่สุด | F11 |
ค่ารูรับแสงแคบที่สุด | F11 |
ทางยาวโฟกัส | 800 mm |
น้ำหนัก | 930 g |
ขนาดฟิลเตอร์ | 95 mm |
คุณสมบัติเด่น | เลนส์ DO ช่วยลดความคลาดเคลื่อนทรงกลม, น้ำหนักเบา, ระบบ IS 4 Stop |
คุณสมบัติละลายหลังเพื่อช่วยให้ภาพดูสวยงาม ละมุนตา ต่างเป็นคุณสมบัติที่ช่างภาพหลาย ๆ คนต่างชื่นชอบ เลนส์รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับคุณสมบัตินี้เช่นกัน เป็นเลนส์จากในซีรีส์ EOS M มีความแข็งแรง ทนทาน เพราะผลิตมาจากพลาสติกโพลีคาร์บอเนต ส่วนเม้าท์เป็นโลหะ ด้วยการใช้วัสดุประเภทนี้ ทำให้ตัวเลนส์มีน้ำหนักเพียง 235 กรัม พกพาได้อย่างสะดวก
ในส่วนของการใช้งานก็โดดเด่นไม่แพ้กัน มีอัตราส่วนโฟกัสที่รวดเร็วให้ภาพคมชัด รูรับแสงจะอยู่ที่ f1.4 สามารถถ่ายภาพวัตถุระยะใกล้ได้ใกล้สุด 23 cm ทำให้ภาพดูสวยงามขึ้น นอกจากนี้ยังมีสวิตซ์ปรับระยะโฟกัสมาให้เพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้มากกว่าปกติ แต่เลนส์รุ่นนี้ต้องใช้ทักษะในการถ่ายภาพควบคู่ไปด้วย เพราะไม่มีระบบกันภาพสั่นไหว รวมถึงระยะโฟกัสใกล้มากทำให้มุมภาพค่อนข้างแคบครับ
ประเภทเลนส์ | ฟิกซ์ |
---|---|
เมาท์เลนส์ | EF-M |
ค่ารูรับแสงกว้างที่สุด | F1.4 |
ค่ารูรับแสงแคบที่สุด | F16 |
ทางยาวโฟกัส | 32 mm |
น้ำหนัก | 235 g |
ขนาดฟิลเตอร์ | 43 mm |
คุณสมบัติเด่น | เลนส์ซีรีส์ EOS M ช่วยละลายหลัง, โฟกัสระยะใกล้สุดที่ 23 cm |
เลนส์มาโครรุ่นนี้มีการออกแบบมาเพื่อใช้ในการถ่ายภาพวัตถุในระยะใกล้โดยเฉพาะ เป็นเลนส์เมาท์แบบ RF มาพร้อมกับระบบกันสั่นสูงสุด 8 สต็อป ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพได้คมชัดมากยิ่งขึ้น รองรับการถ่ายทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ต่อให้มีแสงน้อยก็ยังสามารถถ่ายภาพให้ดูสวยงามได้ เป็นเลนส์คุณภาพสูงที่สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากทีเดียวครับ
เลนส์รุ่นนี้เป็นเลนส์มาโครระยะ 100 mm ที่สำคัญคือเป็นเลนส์มาโคร AF เทเลโฟโต้ระยะกลางตัวแรกของโลกที่มีอัตราการขยายสูงสุด 1.4 เท่า ช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพได้ใกล้กว่าเลนส์มาโครทั่วไปโดยใกล้ถึง 26 cm เลยทีเดียว ภาพที่ได้จะมีความคมชัดมากกว่าปกติ สำหรับคนที่มีทักษะในการถ่ายภาพอยู่แล้ว ก็สามารถนำเลนส์รุ่นนี้มาใช้เพื่อพัฒนาฝีมือในการถ่ายรูปให้ก้าวหน้าขึ้นได้ครับ
ประเภทเลนส์ | ฟิกซ์ |
---|---|
เมาท์เลนส์ | RF |
ค่ารูรับแสงกว้างที่สุด | F2.8 |
ค่ารูรับแสงแคบที่สุด | F32 |
ทางยาวโฟกัส | 100 mm |
น้ำหนัก | 685 g |
ขนาดฟิลเตอร์ | 67 mm |
คุณสมบัติเด่น | ระบบ Nano USM โฟกัสเร็ว แม่นยำ, ระบบ IS 6 Stop |
สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายวิว ถ่ายงานสถาปัตยกรรม หรือต้องการเก็บรายละเอียดในมุมกว้าง ๆ เลนส์รุ่นนี้เป็นตัวช่วยที่น่าจะทำให้การถ่ายภาพของคุณราบรื่นมากยิ่งขึ้น สามารถนำมาใช้งานร่วมกับกล้อง Mirrorless ได้ ตัวเลนส์มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก เคลือบเลนส์ด้วยเทคโนโลยี SSC เพื่อช่วยลดการเกิดแสงแฟลร์และโกสต์ เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
กล้องรุ่นนี้นอกจากจะถ่ายภาพมุมกว้างได้อย่างมีประสทธิภาพแล้ว ยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Optical IS ในตัว รวมถึงยังมีไดอะแฟรม 7 กลีบที่เป็นส่วนที่ทำให้ได้ภาพที่มีฉากเบลอแบบฟุ้ง ๆ ดูละมุนตา แต่เนื่องจากเลนส์ไวด์จะมีความบิดเบี้ยว (Distortion) สูง จึงไม่เหมาะกับการนำมาถ่ายภาพบุคคลเพราะจะดูได้ภาพที่ไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควรครับ
ประเภทเลนส์ | ซูม |
---|---|
เมาท์เลนส์ | EF-M |
ค่ารูรับแสงกว้างที่สุด | F4 - 5.6 |
ค่ารูรับแสงแคบที่สุด | F22 - 32 |
ทางยาวโฟกัส | 22 mm |
น้ำหนัก | 220 g |
ขนาดฟิลเตอร์ | 55 mm |
คุณสมบัติเด่น | เทคโนโลยี SSC, ระบบ STM โฟกัสนุ่มนวล, ระบบ IS 3 Stop |
เลนส์เทเลโฟโต้รุ่นนี้มีช่วงทางโฟกัสสูงถึง 400 mm แต่มีขนาดเล็กกว่าเลนส์เทเลทั่ว ๆ ไป จึงสะดวกต่อการพกพา มีออโต้โฟกัสเป็นระบบ Nano USM จึงทำให้คุณสามารถโฟกัสได้อย่างแม่นยำ สามารถต่อเลนส์ขยายด้วยการใช้งานร่วมกับ Extender RF1.4x และ RF2x โดยจะทำให้มีกำลังโฟกัสมากถึง 560 mm และ 800 mm ให้ภาพที่คมชัดมากเลยทีเดียวครับ
เลนส์รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุด 6 สต็อป เหมาะกับการถ่ายภาพนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หรือการบันทึกภาพความทรงจำในสถานที่ที่ไม่มีโอกาสได้ไปบ่อย ๆ ก็ทำได้ครับ เป็นเลนส์ที่ใช้งานได้ทั้งช่างภาพทั่วไปจนถึงระดับมือโปร โดยราคาก็ยังอยู่ในระดับที่สามารถจับต้องได้ง่าย เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
ประเภทเลนส์ | ซูม |
---|---|
เมาท์เลนส์ | RF |
ค่ารูรับแสงกว้างที่สุด | F5.6 - 8 |
ค่ารูรับแสงแคบที่สุด | F32 - 45 |
ทางยาวโฟกัส | 100 - 400 mm |
น้ำหนัก | 635 g |
ขนาดฟิลเตอร์ | 67 mm |
คุณสมบัติเด่น | ระบบ Nano USM โฟกัสเร็ว แม่นยำ, ระบบ IS 6 Stop |
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบท่องเที่ยวตามเมืองและชอบเก็บบรรยากาศในแนวสตรีท เลนส์รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่น่าจะเหมาะกับคุณครับ เพราะเป็นเลนส์มุมกว้างอเนกประสงค์ขนาดเล็ก ออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับกล้อง Mirrorless ของ Canon รุ่น EOS R โดยเฉพาะ เป็นหนึ่งในเลนส์จากทาง Canon ที่ได้รับความนิยมและมียอดขายที่สูงมากในประเทศไทยรุ่นหนึ่งเลยครับ
ความโดดเด่นของเลนส์รุ่นนี้คือมีความสามารถใกล้เคียงเลนส์มาโครทำให้การ Close - Up ออกมามีโบเก้บาง ๆ โดยรอบ ช่วยให้องค์ประกอบในภาพมีความโดดเด่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุด 5 สต็อป ช่วยให้ภาพดูสวยงามมากขึ้น นอกจากนี้คุณยังสามารถกำหนดค่าการรับแสง ISO การชดเชยแสงต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้วงแหวนในการควบคุมครับ
ประเภทเลนส์ | ฟิกซ์ |
---|---|
เมาท์เลนส์ | RF |
ค่ารูรับแสงกว้างที่สุด | F1.8 |
ค่ารูรับแสงแคบที่สุด | F22 |
ทางยาวโฟกัส | 35 mm |
น้ำหนัก | 305 g |
ขนาดฟิลเตอร์ | 52 mm |
คุณสมบัติเด่น | ถ่ายโคลสอัพสวย, ระบบ STM โฟกัสนุ่มนวล, ระบบ IS 5 Stop |
อีกหนึ่งเลนส์จากในซีรีส์ RF ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับสายท่องเที่ยว เพราะเป็นเลนส์ซูมมุมกว้าง ที่มีการพัฒนามาให้กว้างขึ้นกว่าปกติอีก 1 mm จึงได้มุมมองภาพเพิ่มจากรุ่นเดิมมาอีก 4 องศา ทำให้ภาพที่มีรายละเอียดครบถ้วนมากขึ้น นอกจากนี้ยังใช้ชิ้นเลนส์พิเศษแบบ UD 2 ชิ้นและ Asperical 3 ชิ้น ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดของสีได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นครับ
ความน่าสนใจของเลนส์รุ่นนี้คือมาพร้อมกับระบบโฟกัส Nano USM ที่จะทำให้การทำงานของ AF รวดเร็ว ราบรื่น และยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุด 5 สต็อป ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในลักษณะไหน หรือแม้แต่การถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อยก็จะได้ภาพที่สวยงาม คมชัดตั้งแต่กลางภาพไปจนถึงขอบภาพ ไม่เพียงแต่ภาพนิ่ง ภาพวิดีโอก็คมชัดเช่นกันครับ
ประเภทเลนส์ | ซูม |
---|---|
เมาท์เลนส์ | RF |
ค่ารูรับแสงกว้างที่สุด | F2.8 |
ค่ารูรับแสงแคบที่สุด | F22 |
ทางยาวโฟกัส | 15 - 35 mm |
น้ำหนัก | 840 g |
ขนาดฟิลเตอร์ | 82 g |
คุณสมบัติเด่น | ระบบ Nano USM โฟกัสเร็ว แม่นยำ, ระบบ IS 5 Stop, กันละอองฝุ่นและหยดน้ำ |
เลนส์สำหรับมืออาชีพที่โดดเด่นในเรื่องของมอเตอร์โฟกัสแบบ Ultrasonic ซึ่งมีชิ้นเลนส์พิเศษที่ผ่านการเคลือบ ASC เพื่อลดแสงแฟลร์ทำให้ภาพคมชัดมากยิ่งขึ้น มีระยะการซูมที่ครอบคลุมในทุก ๆ ระดับ ไม่ว่าจะเป็นมุมกว้างหรือถ่ายเทเลโฟโต้ระยะกลางก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณเป็นมือโปรไม่ว่าจะเป็นสายธรรมชาติหรือสายถ่ายภาพบุคคลก็นำมาใช้ได้ครับ
เลนส์รุ่นนี้มีการปรับปรุงเรื่องความคลาดทรงเบี้ยวรวมถึงความคลาดสี ซึ่งลดลงจากรุ่นก่อนหน้าอย่างมาก จึงสามารถนำมาถ่ายภาพบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่พัฒนาขึ้นมาเป็น 4 สต็อป หลาย ๆ คนอาจจะสังเกตได้ว่าตัวบอดี้ทำจากพลาสติก แต่ก็เป็นเกรดคุณภาพที่ทนต่อฝุ่นและความชื้น ใช้ได้กับกล้องทุกรุ่น ทั้ง DSLR, APS-C, EOS M และ EF-EOS M ครับ
ประเภทเลนส์ | ซูม |
---|---|
เมาท์เลนส์ | EF |
ค่ารูรับแสงกว้างที่สุด | F4 |
ค่ารูรับแสงแคบที่สุด | F22 |
ทางยาวโฟกัส | 24 - 105 mm |
น้ำหนัก | 700 g |
ขนาดฟิลเตอร์ | 77 m |
คุณสมบัติเด่น | เลนส์โค้งแบนด้านเดียว (Aspheric Lens), กันน้ำกันฝุ่น |
อีกหนึ่งเลนส์สำหรับมืออาชีพที่เหมาะกับการถ่ายภาพระยะไกล ไม่ว่าจะเป็นสายเดินป่า ผจญภัย หรือถ่ายภาพกีฬา ทิวทัศน์ และแนว Portrait ก็สามารถนำเลนส์รุ่นนี้มาใช้งานได้ สามารถซูมได้ไกล มีรูรับแสงกว้าง 2.8 mm คงที่ตลอดการซูม ด้วยคุณสมบัตินี้จะทำให้คุณได้ภาพที่มีความละเอียดสูง สวยงาม คมชัด เก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วนทั้งองค์ประกอบและสีครับ
เลนส์รุ่นนี้มีการเคลือบแบบ ASC ช่วยลดแสงแฟลร์ มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว 3.5 สต็อปและโฟกัสได้รวดเร็ว ทำให้คุณไม่พลาดช็อตสวย ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่ทันเตรียมตัว ใช้ถ่ายภาพได้ไม่ว่าจะเป็นที่มืดแค่ไหนก็ยังได้ภาพที่ดูสวยงามสมจริง เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่คิดจะเดินทางสายอาชีพช่างภาพ โดยเลนส์รุ่นนี้ค่อนข้างมีน้ำหนัก ควรจัดเก็บให้ถูกวิธีครับ
ประเภทเลนส์ | ซูม |
---|---|
เมาท์เลนส์ | EF |
ค่ารูรับแสงกว้างที่สุด | F2.8 |
ค่ารูรับแสงแคบที่สุด | F32 |
ทางยาวโฟกัส | 70 - 200 mm |
น้ำหนัก | 1,440 g |
ขนาดฟิลเตอร์ | 77 mm |
คุณสมบัติเด่น | เทคโนโลยี ASC ลดแสงแฟลร์, ระบบ IS 3.5 Stop,โฟกัสเร็ว |
สำหรับสาวกที่พึ่งเข้าวงการของ Canon ใหม่ ๆ นั้น ก็อาจจะมีข้อสงสัยและคำถามต่าง ๆ เกี่ยวกับเลนส์อยู่บ้าง ในวันนี้ เราจึงมีคำตอบและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันครับ
สำหรับคนที่เป็นคนที่เริ่มหัดถ่ายภาพใหม่ ๆ และเริ่มต้นด้วยการเลือกใช้งานกล้องจากทาง Canon ซึ่งทาง Canon มีเลนส์ให้เลือกใช้อยู่หลากหลายระยะและหลายระดับราคา รวมไปถึงเลนส์กลุ่มที่เหมาะกับมือใหม่ให้ได้หัดใช้ช่วงเลนส์ในระยะต่าง ๆ อย่างกลุ่มเลนส์ Kit หรือ เลนส์ซูมที่เราสามารถหมุนปรับระยะ Focal Length ได้ ซึ่งถ้าเราซื้อกล้องจากศูนย์ Canon มักจะมี Option ให้เราซื้อพร้อมเลนส์ Kit มาให้เลย และมักจะเป็นเลนส์ที่มีน้ำหนักเบาพร้อมระบบกันสั่นติดมาให้ด้วยครับ
ใครที่เริ่มถ่ายภาพใหม่ ๆ แล้วต้องการจะหาเลนส์มาสำหรับฝึกหัดการใช้แต่ละช่วง Focal Length ให้คุ้นชิน หรือต้องการที่จะพกเลนส์ตัวแค่ตัวเดียวสำหรับใช้ในการท่องเที่ยวหรือถ่ายภาพทั่วไป ไม่อยากพกอะไรไว้เยอะแยะมากมาย สำหรับกล้อง DSLR ผมแนะนำ Canon EF-S 18-200mm f/3.5-5.6 IS หรือถ้าเป็น Mirrorless ก็จะเป็น Canon EF-M 18-150 STM ครับ เราจะได้ระยะ Focal Length ที่ครอบคลุมและค่า f/stop ของตัวเลนส์ก็ไม่ได้ไหลไปไกลมาก จะสุด ๆ อยู่ที่ f/stop 6.3 เท่านั้นครับ
คนที่ต้องการเลือกซื้อเลนส์กล้อง Canon มือสองนั้น มีจุดที่ต้องพิจารณาอยู่หลายจุดเหมือนกันครับ จุดแรกเลยที่สำคัญมาก ๆ ก็คือ สภาพ Body ตัวเลนส์ภายนอก มียางบวมไหม ขอบเลนส์แตกหรือเปล่า มีฝ้าหรือราภายในตัวกระจกหรือไม่ ถ้าหากสิ่งเหล่านั้นไม่มีปัญหาอะไร เราจะมาดูกันต่อที่เรื่องของระบบโฟกัสและมอเตอร์ว่าทำได้รวดเร็วและ Smooth ดีไหม มีเสียงอะไรแปลกปลอมหรือเปล่า ถ้าเป็นไปได้ หากเราสามารถหาซื้อที่ยังมีประกันศูนย์หรือประกันจากร้านที่เจ้าของเดิมซื้อมาเหลืออยู่ก็จะเป็นสิ่งที่ดีครับ
เลนส์กล้อง Canon คือเลนส์ที่ตอบโจทย์งานภาพ งานวิดีโอ จนป็นที่นิยมในตลาดอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแต่เลนส์ฟิกซ์และเลนส์เทเลโฟโต้ที่ทางเรารวบรวมมาให้ในครั้งนี้เท่านั้น แต่ยังมีเลนส์คุณภาพดีของ Canon อีกมากมายที่ได้รับความนิยมในวงการถ่ายภาพ อย่างไรก็ตาม ก่อนจะลงทุนซื้อกล้องสักตัว หากคุณวาดภาพในใจก่อนได้ว่าต้องการถ่ายรูปอะไร ที่ไหนอย่างชัดเจน ก็จะทำให้ตัดสินใจเลือกเลนส์คู่ใจได้ง่ายขึ้น ลองคำนึงถึงสไตล์ความชอบของตัวเองให้ดี แล้วให้เลนส์ตัวใหม่ต่อจากนี้ ทำหน้าที่ช่วยดึงความสามารถของกล้องประจำตัวคุณออกมาอย่างเต็มที่กันครับ
อันดับที่ 1: Canon|เลนส์กล้อง Canon RF 50mm f/1.8 STM
อันดับที่ 2: Canon|เลนส์กล้อง Canon RF 800mm f/11 IS STM
อันดับที่ 3: Canon|เลนส์กล้อง Canon EF-M 32mm f/1.4 STM
อันดับที่ 4: Canon|เลนส์กล้อง Canon RF 100mm f/2.8L Macro IS USM
อันดับที่ 5: Canon|เลนส์กล้อง Canon EF-M 11-22mm f/4-5.6 IS STM
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ