ครีมบำรุงผิวหน้านั้นเป็นสกินแคร์สำคัญที่จำเป็นต่อการดูแลและบำรุงผิว เพราะนอกจากจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ในผิวแล้ว ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับชั้นผิวและยังเสริมเกราะป้องกันผิวได้อีกด้วย ทั้งนี้กลุ่มของผู้ที่มีสภาพผิวผสมอาจต้องพบเจอกับความยากลำบากในการเลือกครีมบำรุงผิว เพราะเป็นผิวที่ผสมระหว่างผิวแห้งและผิวมัน ซึ่งหากเลือกไม่เหมาะสมแล้วละก็ จะไม่สามารถดูแลผิวได้อย่างเหมาะสมหรือมีประสิทธิภาพได้
ในปัจจุบัน มีครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวผสมวางขายอยู่ทั่วไปจากหลายแบรนด์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Clinique, Physiogel, Eucerin, Neutrogena และอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างกันไป จึงต้องอาศัยการศึกษาและทำความเข้าใจกับครีมบำรุงผิวหน้าเหล่านี้ก่อนจะเลือกซื้อ วันนี้เราจะมาเป็นตัวช่วยให้คนที่มีสภาพผิวผสมทุกคนเข้าใจถึงวิธีการเลือกซื้อครีมบำรุงผิวหน้าที่เหมาะสม พร้อมคำแนะนำเพิ่มเติมจากแพทย์ผิวหนังให้ทุกคนได้ศึกษากันค่ะ
Top 5 ครีมบำรุงผิวหน้า สำหรับผิวผสม ยอดนิยม
Clinique
ครีมสามัญประจำบ้านที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างเร่งด่วน
Curel
โลชั่นเนื้อน้ำนมบางเบาที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซราไมด์ในผิว
Eucerin
ส่งผ่านน้ำลงสู่ผิวได้อย่างดีกว่าเดิมด้วย AQUAporin Booster
คุณพีชจบการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัยโดยตรง ปริญญาโทและปริญญาเอกด้านตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งยังมีวุฒิบัตรเวชศาสตร์ด้านชะลอวัย American Board of Antiaging (A4M) ซึ่งนอกเหนือจากคุณวุฒิต่าง ๆ แล้ว ส่วนตัวคุณพีชยังชื่นชอบการดูแลตัวเองในด้านสุขภาพผิวและเส้นผมเป็นพิเศษ จึงชอบที่จะศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั้งยี่ห้อต่าง ๆ และเวชสำอาง รวมทั้งมีความสนใจเกี่ยวกับนวัตกรรมการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการทำเลเซอร์ สกินแคร์ หรือกลุ่มสกินบูสเตอร์ที่จะช่วยดูแลและฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดีมากขึ้น ปัจจุบันคุณพีชทำงานที่โรงพยาบาลเอกชน โดยใช้วิชาชีพในการตรวจรักษาโรคผิวหนังทั่วไป คอยให้คำปรึกษาด้านผิวพรรณและการออกแบบรูปหน้าให้กับทั้งชาวไทยและต่างชาติ อีกทั้งยังให้ความรู้และความเข้าใจแก่บุคคลทั่วไปเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายและการดูแลผิว โดยคุณพีชมองว่าผิวของคนเราจะมาพร้อมกับปัญหาเฉพาะแต่ละบุคคล ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จึงควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจใช้งานเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยกับตนเองมากที่สุด
คุณอีฟใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2017 และทำงานเป็นพนักงานประสานงานระหว่างคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติในจังหวัดคานะกะวะ นอกเหนือจากงานหลักแล้ว คุณอีฟยังทำงานเป็นล่ามฟรีแลนซ์และมีความสนใจในเรื่องเครื่องสำอางและสกินแคร์ โดยชอบติดตามเทรนด์ความงามทั้งจากแบรนด์ญี่ปุ่นและอื่น ๆ ทดลองผลิตภัณฑ์ และอ่านรีวิวเกี่ยวกับเครื่องสำอางและสกินแคร์อยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังมีประสบการณ์แต่งหน้าสำหรับงานต่าง ๆ ทั้งในไทยและญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นแต่งหน้าเจ้าสาว แต่งหน้ารับปริญญา หรือแต่งหน้าออกงาน ทำให้คุณอีฟเข้าใจการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวและโอกาสต่าง ๆ ซึ่งนอกจากด้านความงามแล้ว คุณอีฟยังรักการทำอาหาร โดยเฉพาะการคิดค้นสูตรใหม่ ๆ ที่ผสมผสานระหว่างอาหารไทยและญี่ปุ่น รวมถึงสอนทำอาหารไทยให้กับคนญี่ปุ่นเป็นครั้งคราว จึงชอบทดลองวัตถุดิบที่หาได้ในญี่ปุ่น และปรับรสชาติให้เข้ากับวัฒนธรรมการกินของที่นี่ อีกทั้งยังสนุกกับการแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคแต่งหน้า การเลือกสกินแคร์ หรือการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประโยชน์
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
ในหัวข้อนี้ เราขอพาทุกคนมาดูกันดีกว่าค่ะว่า วิธีการเลือกครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับผิวผสมนั้นมีอะไรบ้างที่คุณต้องใส่ใจพิจารณา เพื่อให้ได้ครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวมากที่สุด
อย่างที่ทราบกันดีว่า การมีสภาพผิวผสมจะทำให้ผิวของคุณมีสภาพทั้งมันและแห้ง ทั้งยังมีปัญหาที่ต้องเผชิญต่างกันออกไป ดังนั้นหากคุณเลือกครีมบำรุงผิวหน้าจากส่วนผสมหลักก็จะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขและดูแลปัญหาผิวได้อย่างถูกจุดมากขึ้น
Hyaluronic Acid นั้นเป็นฮีโร่ที่ช่วยกอบกู้ผิวจากอาการแห้งขาดน้ำได้อยู่เสมอ เพราะมีคุณสมบัติในการเชื่อมชั้นผิว คอลลาเจนและอีลาสตินเข้าด้วยกัน ทำให้ผิวมีความแข็งแรงจึงสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ในผิวได้ยาวนานมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยหล่อเลี้ยงผิวให้มีความเต่งตึงและสมานตัวได้อย่างรวดเร็ว Hyaluronic Acid ในรุ่นแรก ๆ นั้นมีโมเลกุลที่ค่อนข้างใหญ่จึงซึมลงสู่ผิวได้ยาก ต่อมามีการพัฒนากรด Hyaluronic ให้มีโมเลกุลเล็กลงสามารถซึมลงบำรุงผิวได้ง่ายกว่าเดิม ที่สำคัญสารตัวนี้จะมีน้ำหนักเบา ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะเอาไว้บนใบหน้าอีกด้วย
การเลือกบำรุงผิวผสมด้วยสารประกอบ Hyaluronic Acid นั้นจะช่วยเติมน้ำให้ผิวได้ดีทำให้บริเวณผิวที่แห้งขาดน้ำดูชุ่มชื้นขึ้น ในขณะที่บริเวณที่มันนั้นก็จะได้รับการเติมน้ำให้ผิวเช่นเดียวกัน โดยที่การเติมน้ำให้ผิวด้วย Hyaluronic Acid นั้นจะไม่ทำให้ผิวดูมันและไม่ได้เพิ่มโอกาสการอุดตันด้วย ดังนั้นคนที่มีผิวผสมแล้ว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Hyluronic Acid จึงเป็นทางเลือกที่ดีมาก โดยเวลาใช้ให้เน้นบริเวณที่แห้งมากกว่าบริเวณที่มันนะคะ
Vitamin B3 หรือที่เราเห็นในส่วนผสมของครีมบำรุงกันในชื่อของ Niacinamide เป็นสารที่มีประสิทธิภาพในการลดความมันส่วนเกินที่ผลิตจากต่อมไขมันได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยลดอาการแดงหรืออักเสบของผิวที่เกิดจากสิวได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่มักจะพบปัญหาผิวมันเยิ้มในบริเวณ T-Zone นอกจากนี้ Niacinamide ยังมีความระคายเคืองต่ำ เมื่อเทียบกับสารอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติในการกำจัดความมันส่วนเกิน แต่ก็มีความแรงจนอาจจะทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวนั้นแห้งระคายเคืองตามมาได้
ในบริเวณที่ผิวมันเกินไป เราอาจเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินบี 3 หรือ Niacinamide ทาเพิ่มเติมเฉพาะบริเวณได้ โดยวิตามินบี 3 นั้นจะช่วยเพิ่มการผลัดเซลล์ผิว ช่วยแก้ปัญหาเรื่องภาวะอุดตันซึ่งจะเกิดขึ้นได้ง่ายในกลุ่มคนที่มีผิวมันจากต่อมไขมันทำงานสูง ดังนั้นหากเรามีผิวผสม และในบริเวณที่มีผิวมันเสี่ยงต่อปัญหาการอุดตันก็ควรมองหาครีมบำรุงหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามินบี 3 ทาเพิ่มเติมได้ค่ะ แต่ต้องระวังไม่ให้ครีมโดนบริเวณที่แห้งเพราะอาจทำให้เกิดการลอกหรือระคายเคืองได้นะคะ
ความมันส่วนเกินของผิวบริเวณ T-Zone ในบางครั้งก็เกิดจากการมีรูขุมขนขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงควรใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ซึ่ง Vitamin C นั้นจัดว่าเป็นหนึ่งในส่วนผสมเหล่านั้นที่จะช่วยกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนและมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวมีความกระชับมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยยับยั้งสารอนุมูลอิสระที่อาจจะทำลายผิวให้มีความอ่อนแอตามกาลเวลาได้อีกด้วย
Vitamin C ถือเป็นวิตามินที่มีประโยชน์กับชั้นผิวของเรามาก โดยทำหน้าที่หลักเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อมีสิ่งกระตุ้นจากภายนอกอย่างแสงแดด มลภาวะ รังสี หรือมีสิ่งกระตุ้นจากภายใน เช่น ฮอร์โมน เซลล์ผิวของเราจะมีการเปลี่ยนแปลง เซลล์ผิวเหี่ยวแห้งลงและอาจเกิดความหมองคล้ำได้ วิตามินซีจะเข้ามาจัดการป้องกันการทำลายเซลล์ผิวจากสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ ดังนั้นการบำรุงผิวด้วยวิตามิน ซี เราก็จะเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงคือเซลล์ผิวแข็งแรงขึ้น ไม่แห้งเหี่ยว ริ้วรอยตื้น และรูขุมขนดูเล็กลงจากเซลล์ผิวที่สมบูรณ์ขึ้นค่ะ
Ceramide เป็นอีกสารสำคัญที่มีความสำคัญต่อผิว เพราะทำหน้าที่สร้างความแข็งแรงให้กับเกราะในชั้นผิว เพื่อป้องกันผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้น โดยปกติแล้วในผิวของเราจะมี Ceramide อยู่ตามธรรมชาติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปปริมาณของ Ceramide จะลดลงด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นและมีอนุมูลอิสระต่าง ๆ มารบกวนผิว ดังนั้นการเสริม Ceramide ด้วยครีมบำรุงจึงเป็นสิ่งที่ควรทำด้วยเช่นกัน
Ceramide นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท แต่ประเภทที่มีประสิทธิภาพในการดูแลผิวมากที่สุด คือ Human Ceramide เพราะมีความใกล้เคียงกับ Ceramide ในชั้นผิวของเรานั่นเอง ซึ่ง Human Ceramide จะได้แก่ Ceramide ที่มีตัวอักษรหรือตัวเลขตามหลังอย่างเช่น Ceramide NP, AP หรือ Ceramide 1, Ceramide 2 และ Ceramide 3 เป็นต้น
Ceramide คือสารให้ความชุ่มชื้นและช่วยเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างเซลล์ผิว ซึ่งจะเลียนแบบสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของเรา โดยปกติแล้ว ระหว่างเซลล์ผิวของเราแต่ละเซลล์มี Ceramide อยู่แล้วทำหน้าที่ให้มีความแข็งแรง เคลือบเซลล์ผิว ป้องกันไม่ให้น้ำในเซลล์และน้ำในชั้นผิวระเหยออกไป การบำรุงผิวที่แห้งด้วยครีมที่มีส่วนผสมของ Ceramide จะทำให้ผิวของเราชุ่มชื้นและน้ำในผิวก็มีปริมาณมากขึ้น ในขณะที่ไม่ทำให้ผิวดูมันจึงใช้ได้กับผิวที่แห้งหรือผิวผสมได้ค่ะ
เนื้อสัมผัสของครีมบำรุงผิวก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน เพราะบริเวณที่แห้งหรือมันของผิวนั้นเหมาะกับความหนักเบาของครีมบำรุงที่ต่างกันด้วย
ครีมบำรุงที่อยู่ในรูปของเนื้อสัมผัสแบบครีมนั้นจะมีความเข้มข้นสูง จึงเหมาะสำหรับใช้บริเวณผิวที่มีความแห้งกร้านมากจนแตกหรือลอกเป็นขุย เพราะครีมบำรุงประเภทนี้จะให้ความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเคลือบผิวบริเวณดังกล่าวไม่ให้น้ำในผิวระเหยออกไปอีกด้วย
สำหรับบริเวณผิวที่มีความมัน ควรจะหลีกเลี่ยงการใช้เนื้อสัมผัสแบบครีม เพราะความเข้มข้นที่มากเกินไปจะทำให้เกิดการอุดตันของผิวได้ง่าย แนะนำให้เลือกใช้ครีมบำรุงที่อยู่ในรูปแบบของเจลหรือโลชั่นที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาและสามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งความมันหรือความเหนียวเอาไว้บนใบหน้า
เนื้อสัมผัสของครีมบำรุงจะเป็นตัวบอกสัดส่วนของน้ำและน้ำมันในผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกใช้ค่ะ โดยเนื้อสัมผัสแบบครีมจะมีสัดส่วนของน้ำมันมากกว่าน้ำ ซึ่งจะเหมาะกับการทาในบริเวณผิวแห้ง ในขณะที่เนื้อเจลหรือโลชั่นจะมีส่วนประกอบของน้ำมากกว่าน้ำมัน ทำให้เหมาะกับการใช้บริเวณผิวมัน ดังนั้นหากเราเป็นคนที่มีผิวผสมที่บริเวณทั้งสองมันแตกต่างกันมาก เราอาจต้องใช้ครีมทั้ง 2 ชนิดในการบำรุงผิวเพื่อประสิทธิภาพที่ดีและไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการอุดตันค่ะ
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองได้ง่าย อย่างเช่น น้ำหอม สีสังเคราะห์ และแอลกอฮอล์ เพราะอาจจะทำให้ผิวนั้นเกิดอาการแพ้และอักเสบตามมาได้ ในขณะเดียวกันก็ควรเลือกครีมบำรุงที่ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันด้วยเช่นกัน เพราะผิวผสมนั้นจะต้องเผชิญกับความมันบริเวณ T-Zone ซึ่งอาจะก็ให้เกิดการอุดตันได้ง่าย โดยคุณสามารถตรวจดูว่าส่วนผสมที่อยู่ในครีมบำรุงนั้นมีค่า Comedogenic Rate ในระดับไหน ถ้ายิ่งมีค่าสูงก็จะมีความเสี่ยงในการอุดตันรูขุมขนสูงไปด้วย ในส่วนของสารกันเสียประเภทพาราเบนนั้นหากคุณเป็นคนที่มีผิวแพ้ง่ายพ่วงมาด้วย ยิ่งควรจะหลีกเลี่ยง เพราะสารชนิดนี้จะรบกวนผิวของคุณให้เกิดการระคายเคืองได้
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Clinique Moisture Surge Intense Skin Fortifying Hydrator | ![]() | ครีมสามัญประจำบ้านที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างเร่งด่วน | |
2 | Curel Intensive Moisture Care Moisture Face Milk | ![]() | โลชั่นเนื้อน้ำนมบางเบาที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซราไมด์ในผิว | |
3 | Cerave Moisturising Cream | ![]() | ครีม Ceramide ในดวงใจของคนที่เจอกับปัญหาผิวอ่อนแอ | |
4 | Eucerin UltraSensitive Aquaporin Overnight Repair | ![]() | ส่งผ่านน้ำลงสู่ผิวได้อย่างดีกว่าเดิมด้วย AQUAporin Booster | |
5 | Physiogel Soothing Care Anti Redness Night Cream | ![]() | เพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวจากรอยแดงได้อย่างดี | |
6 | Cute Press Super Strength Vitamin C Brightening Moist Gel | ![]() | อุดมไปด้วยวิตามินซีและคอลลาเจนเพื่อฟื้นบำรุงผิวโดยเฉพาะ | |
7 | innisfree Jeju Cherry Blossom Jelly Cream | ![]() | คืนชีวิตชีวาให้กับผิวด้วยสารสกัดดอกซากุระจากเกาะเชจู | |
8 | SKINFOOD Yuja Water C Whitening Ampoule In Cream 2X | ![]() | ให้ผิวกระจ่างใสด้วยส่วนผสมจาก Yuja Extract มากด้วยวิตามินซี | |
9 | Neutrogena Hydro Boost Water Gel | ![]() | มีเทคโนโลยีช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้นานขึ้น เป็นเนื้อเจลซึมไว | |
10 | OLAY Regenerist Micro-sculpting Cream | ![]() | ลดเลือนริ้วรอย เติมความชุ่มชื้น พร้อมซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ |
อันดับ 1 ของครีมบำรุงสำหรับผิวผสมนั้นเป็นของเจลตัวนี้จาก Clinique ที่มักจะติดในลิสต์ของครีมให้ความชุ่มชื้นอยู่เสมอเพราะใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้ทั้งเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวและกักเก็บน้ำในผิวได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น จึงสามารถฟื้นบำรุงผิวจากความแห้งกร้านได้อย่างเร่งด่วน ผู้ใช้ต่างก็รักที่ครีมตัวนี้ทำให้ผิวกลับมาดูนุ่มฟูและเปล่งปลั่งในระยะเวลาอันสั้น และถึงจะมีความเข้มข้นสูงแต่เมื่ออยู่ในรูปแบบเจลจึงมีความบางเบาและซึมลงสู่ผิวได้อย่างง่ายดาย
แบรนด์ Curel นั้นนอกจากจะมีชื่อเสียงในเรื่องของสกินแคร์เซราไมด์ในรูปแบบครีมแล้ว ตัวโลชั่นน้ำนมบำรุงผิวก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน โดยมีส่วนผสมของ Curel Ceramide ที่ทางแบรนด์คิดค้นขึ้นมาเหมือนกัน สามารถกระตุ้นให้มีการสร้างเซราไมด์ธรรมชาติเพิ่มขึ้นในผิว โดยที่มีเนื้อสัมผัสที่บางเบาลงกว่าเดิม ผู้ใช้ส่วนใหญ่จึงประทับใจเป็นอย่างมาก เพราะเนื้อโลชั่นสามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งคราบไว้บนใบหน้า
ถ้าพูดถึงครีมบำรุงที่เน้นส่วนผสมของ Ceramide แล้ว จะต้องมีชื่อของครีมตัวนี้จาก Cerave เป็นลำดับต้น ๆ เพราะใช้ Human Ceramide ถึง 3 ชนิด เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นและเสริมปราการผิวให้แข็งแรง ทำให้ผิวที่อ่อนแอและขาดน้ำกลับมามีสุขภาพดี หลายคนติดใจครีมบำรุงตัวนี้ตรงที่มีส่วนผสมเรียบง่าย เหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบางและไม่ต้องการให้ผิวต้องเจอกับสารที่อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคือง
คนผิวผสมที่เจอกับปัญหาผิวแห้งลอกอย่างหนักหน่วง ก็สามารถใช้ครีมบำรุงตัวนี้เป็นตัวช่วยเร่งด่วน เพราะนอกจากจะมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นแล้ว ยังใช้เทคโนโลยีอย่าง AQUAporin Booster ที่ช่วยส่งผ่านน้ำลงสู่ผิวได้อย่างดียิ่งขึ้น ผู้ใช้ที่เจอกับปัญหาหน้าแห้งรุนแรงต่างก็โหวตให้ครีมตัวนี้เป็นฮีโร่ ถึงจะเป็นเนื้อครีมที่มีความเข้มข้นแต่กลับซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วไม่ทิ้งความมันและเหนียวเหนอะหนะเอาไว้บนใบหน้า
Physiogel เป็นแบรนด์คู่ใจสำหรับคนที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่ายมายาวนาน เพราะใช้สูตรส่วนผสมที่เรียบง่ายและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่นเดียวกับครีมบำรุงตัวนี้ที่เน้นการใช้ Ceramide NP ที่มีความใกล้เคียงกับเซราไมด์ในชั้นผิวในการเพิ่มความชุ่มชื้น มี Niacinamide ที่ช่วยลดความมันส่วนเกิน และยังมีส่วนผสมของ Panthenol ที่ช่วยปลอบประโลมผิวจากการอักเสบ เป็นครีมบำรุงที่เหมาะในการใช้ในช่วงที่ผิวอ่อนแอ
ครีมบำรุงรุ่นนี้ถือได้ว่ามีครบทั้ง Vitamin C และคอลลาเจนที่มีความสำคัญในการเพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับให้ผิว เพื่อกระตุ้นให้รูขุมขนนั้นมีขนาดเล็กลง อีกทั้งยังมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นกับผิวถึงหลายตัวด้วยกัน จึงเป็นครีมบำรุงที่เหมาะกับคนที่ต้องการปกป้องผิวจากการเสื่อมสภาพตามอายุ เนื้อสัมผัสนั้นเป็นแบบเจลที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่นั้นชื่นชมในเรื่องความบางเบาและสามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
มลภาวะทางสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผิวของใครหลายคนต้องเจอกับความหมองคล้ำ ซึ่งครีมบำรุงตัวนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ โดยมีสารสกัดดอกซากุระจากเกาะเชจู ที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ป้องกันผิวจากความแห้งได้ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ถูกใจที่เนื้อสัมผัสมีความบางเบา เมื่อใช้แล้วสามารถซึมได้เร็วและช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่นผ่อนคลายจากกลิ่นซากุระอ่อน ๆ อีกด้วย
สำหรับสาวก Vitamin C ควรเก็บครีมบำรุงตัวนี้ไว้เป็นตัวเลือกเลยค่ะ เพราะมี Vitamin C จาก Yuja Extract ในปริมาณที่เข้มข้น ซึ่งนอกจากจะช่วยปรับให้ผิวกลับมาดูกระจ่างใสแล้ว ยังมีหน้าที่สำคัญในการกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนและเติมความยืดหยุ่นเพื่อให้รูขุมขนกระชับเล็กลง ทั้งนี้ครีมตัวนี้มีเนื้อสัมผัสค่อนข้างหนักและใช้เวลาในการซึมลงผิว ดังนั้นใครที่มีผิวผสมที่ออกไปทางผิวมันอาจจะต้องหลีกเลี่ยง
ครีมบำรุงตัวนี้ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวโดยเฉพาะ มีการใช้ Progressive Release System ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บน้ำไว้ในผิวได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีสารสกัดจากมะกอกที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวอีกด้วย หลายคนติดใจในเนื้อสัมผัสที่เป็นเจลซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว แต่หากใครที่แพ้น้ำหอมก็อาจจะต้องหลีกเลี่ยงเพราะครีมมีส่วนผสมดังกล่าวมาด้วย
ใครที่กังวลเรื่องริ้วรอยจะต้องถูกใจครีมบำรุงตัวนี้เพราะเน้นใช้ส่วนผสมที่ช่วยซ่อมแซมผิวจากการเสื่อมสภาพ ลดเลือนริ้วรอยและเติมความยืดหยุ่นให้ผิวมีความกระชับ มีทั้งกรดไฮยาลูรอนิคที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและ Niacinamide ที่ช่วยลดความมันบนผิวพร้อมทั้งการผลัดเซลล์ผิวไปในตัว แต่ใครที่มีผิวแพ้ง่ายอาจจะต้องหลีกเลี่ยงเพราะครีมบำรุงตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอมและสารกันเสียอยู่หลายตัว และยังมีซิลิโคนที่อาจจะทำให้เกิดการอุดตันจึงไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
คนที่มีผิวผสมมักจะประสบปัญหากับการเลือกสกินแคร์เป็นอย่างมาก จึงอาจเกิดความท้อในการเรื่องผลิตภัณฑ์เนื่องจากมีข้อมูลไม่เพียงพอได้ ในวันนี้ เราจึงมีคำแนะนำและคำตอบเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันค่ะ
ผิวผสมคือผิวหน้าที่มีทั้งบริเวณที่มีผิวมันและผิวแห้ง โดยทั่วไปแล้ว บริเวณที่มันคือบริเวณ T-zone นั่นคือหน้าผากและจมูก ส่วนบริเวณที่ผิวแห้งคือบริเวณแก้มค่ะ สาเหตุที่ลักษณะของผิวสองบริเวณนี้ต่างกันนั้นเป็นเพราะบริเวณหน้าผากและจมูกมีปริมาณของต่อมไขมันใต้ผิวเยอะกว่าจึงทำให้ผิวบริเวณนี้มันกว่า ในขณะที่บริเวณแก้มจะมีปริมาณต่อมไขมันน้อยกว่าผิวบริเวณนี้จึงค่อนข้างแห้งกว่าค่ะ สำหรับความแตกต่างนี้จะเป็นมากในช่วงวัยรุ่นเป็นต้นไปเพราะอิทธิพลของฮอร์โมนทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ครีมบำรุงผิวหน้าควรใช้ทั้ง 2 เวลา คือเช้าและเย็นหลังล้างหน้า แต่ในช่วงเวลาเช้าเป็นช่วงที่เราต้องบำรุงผิวด้วยครีมกันแดดและอาจมีการแต่งหน้าทับอีกชั้นหนึ่ง ครีมบำรุงผิวจึงควรเลือกที่เป็นเนื้อบางไม่หนา เพราะอาจก่อให้เกิดความมันมากเกินไป ส่วนในช่วงเย็นเราไม่ต้องกังวลเรื่องความมันหรือแสงแดด เราจึงสามารถบำรุงผิวได้เต็มที่ เนื้อครีมที่เลือกใช้อาจเลือกให้เข้มข้นกว่าเดิมหรืออาจเพิ่มเซรั่มบำรุงผิวขึ้นมาได้ค่ะ
อันที่จริงแล้ว คนที่มีผิวผสมสามารถบำรุงผิวด้วยสกินแคร์เป็นขั้นตอนเหมือนคนผิวแห้งและผิวมันได้เลยค่ะ แต่เนื่องจากลักษณะของผิวทั้งสองบริเวณแตกต่างกัน การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บางอย่างจึงต้องระวังโดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้น โดยอาจเลือกตัวที่สามารถใช้กับผิวมันได้และเพิ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น เช่น น้ำตบหรือเซรั่มในบริเวณที่แห้งกว่า เพื่อให้การบำรุงเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ไม่ก่อให้เกิดภาวะอุดตันค่ะ
อันดับที่ 1: Clinique|Moisture Surge Intense Skin Fortifying Hydrator
อันดับที่ 2: Curel|Intensive Moisture Care Moisture Face Milk
อันดับที่ 3: Cerave|Moisturising Cream
อันดับที่ 4: Eucerin|UltraSensitive Aquaporin Overnight Repair
อันดับที่ 5: Physiogel|Soothing Care Anti Redness Night Cream
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ