ไมค์อัดเสียง เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะ Content Creator ทั้งนักแคสต์เกม, บิวตี้บล็อกเกอร์, นักจัดรายการ, พอดแคสต์ รวมถึงนักร้องและนักดนตรี ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น เพราะเป็นไมค์ที่ใช้งานได้สะดวก สามารถเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนได้ในทันที
ในบทความนี้เรามี วิธีการเลือกไมค์อัดเสียงให้เข้ากับจุดประสงค์ในการใช้งาน ทั้งสำหรับใช้งานคนเดียว สำหรับการอัดเสียงสนทนาหรือการสัมภาษณ์ สำหรับการประชุมหรืออัดเสียงวงดนตรี พร้อมคำแนะนำจากคุณปัตย์ ศรีอรุณ เกมเมอร์และแก็ดเจ็ตไอที และยังมี 10ไมค์อัดเสียง แบรนด์ยอดนิยม เสียงเด่นชัด มีย่านความถี่ในการรับเสียงเหมาะสม ขนาดพกพา เชื่อมต่อง่าย ใช้งานกับโทรศัพท์มือถือได้ มาแนะนำเพิ่มเติมอีกด้วย
Top 5 ไมค์อัดเสียง ยอดนิยม
จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัย ราชมงคล ล้านนา ปัจจุบันทำงานเป็นอาจารย์ประจำ และใช้เวลาว่างในการทำช่อง Youtube "แมวนูน" ในการรีวิว Gadget และ เครื่องเล่นเกมใหม่ ๆ เพื่อเติมเต็มความชอบส่วนตัวที่มีมาตั้งแต่เด็ก ๆ และติดตามข่าวเกมเป็นประจำ ทั้ง PlayStation, Nintendo, XBOX อีกทั้งยังชอบดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือและการ์ตูน
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
อย่างที่เราทราบกันดีว่า ไมค์อัดเสียงนั้นมีวางจำหน่ายมากมายตามท้องตลาด ดังนั้น เราควรศึกษารายละเอียดต่อไปนี้ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้สามารถเลือกไมค์อัดเสียงได้ตรงกับความต้องการในการใช้งาน และความคุ้มค่าในระยะยาวครับ
สำหรับใครที่กำลังมองหาไมค์อัดเสียงสำหรับการใช้งานเพียงคนเดียว เราแนะนำให้เลือกซื้อไมค์อัดเสียงแบบทิศทางเดียว (Cardioid) ที่เน้นการบันทึกเสียงจากด้านหน้าในรัศมีที่ค่อนข้างแคบ ทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าทั้งในเรื่องของการสัมภาษณ์, อัด Podcast, การแสดงสด, การพากย์เสียง, การแคสหรือการไลฟ์เล่นเกม และถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีเสียงรบกวนโดยรอบ แต่ตัวไมโครโฟนจะรับเสียงเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น ทำให้สามารถตัดเสียงรบกวนโดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งย่อยออกได้อีก 4 รูปแบบในการรับเสียง ดังนี้ครับ
ไมค์อัดเสียงแบบรับเสียง 2 ทิศทาง (Bi - Directional) นั้นจะมีองศาการรับเสียงจาก 2 ทิศทาง คือ ด้านหน้าและด้านหลังของไมโครโฟนแบบระยะแคบ ให้ใช้งานได้ดีทั้งในการเก็บเสียงผู้พูดและผู้สัมภาษณ์ จึงเป็นไมค์ที่นิยมใช้ในการอัดเสียงสนทนาระหว่างคน 2 คน อย่างการอัดเสียงที่เน้นการสัมภาษณ์โดยที่คู่สนทนานั่งอยู่ตรงข้ามกับผู้สัมภาษณ์ เนื่องจากไมค์ประเภทนี้สามารถรับเสียงที่อยู่ใกล้ได้ดีกว่าเสียงที่อยู่ไกล จึงมักถูกนำไปใช้ในระบบการจดจำเสียงของคอมพิวเตอร์ (PC Voice Recognition System) และระบบนำทางในรถยนต์ (Car Navigation System) อีกด้วยครับ
หากเน้นการอัดเสียงที่มีแหล่งกำเนิดเสียงหลายแหล่ง แนะนำให้เลือกไมโครโฟนในแบบรอบทิศทาง (Omni-Directional) ซึ่งเป็นประเภทของไมโครโฟนที่ทำการรับเสียงจากทุกทิศทางรอบตัวไมโครโฟน เหมาะสำหรับการอัดเสียงในสถานการณ์ที่ไม่สามารถกำหนดตำแหน่งของจุดกำเนิดเสียงได้ อย่างการอัดเสียงในกิจกรรมที่มีผู้สนทนาหลาย ๆ คน และการใช้อัดเสียงวงดนตรีที่มีเครื่องดนตรีหลายชิ้น
อย่างไรก็ตาม ไมค์อัดเสียงชนิดนี้มักมีความไวสูงในการรับเสียง ทำให้ไม่เหมาะกับการนำไปใช้ในการแสดงดนตรีสดหรือใช้อัดเสียงขณะอยู่กลางแจ้ง เพราะมีโอกาสเกิดปัญหาเสียงรบกวนและไมค์หอนได้ง่าย จึงเหมาะที่จะใช้อัดเสียงในสถานที่ปิดและค่อนข้างเงียบอย่างห้องประชุมหรือสตูดิโอ
ถึงแม้ว่าการเลือกซื้อไมค์อัดเสียงจากร้านค้าออนไลน์จะไม่สามารถทดสอบถึงคุณภาพในการใช้งานได้ แต่ก็สามารถตรวจสอบได้ถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพในการอัดเสียงได้ โดยดูจากค่าความไวในการรับเสียง (Sensitivity) และการตอบสนองความถี่เสียง (Frequency Response) ซึ่งความไวในการรับเสียงนั้นจะแสดงค่าเป็นเดซิเบล หรือ dB โดยไมค์อัดเสียงประเภทคอนเดนเซอร์ส่วนใหญ่จะมีค่าความไวในการรับเสียงเริ่มตั้งแต่ -30 ถึง -40 dB และหากค่าดังกล่าวนี้ ยิ่งเข้าใกล้เลข 0 มากเท่าไร ก็ยิ่งมีความไวในการรับเสียงมากขึ้นนั่นเองครับ
ส่วนย่านความถี่ในการรับเสียงนั้น อันดับแรกให้พิจารณากันก่อนครับว่า เสียงที่เราต้องการบันทึกนั้นเป็นเสียงพูดคุย เสียงร้องเพลง หรือเสียงดนตรี เพราะเสียงเหล่านี้ต่างก็มีความถี่ของเสียงในระดับที่แตกต่างกัน ดังนั้น เพื่อให้บันทึกเสียงออกมาได้อย่างมีคุณภาพและใกล้เคียงกับเสียงจริงมากที่สุด เราจึงควรเลือกไมค์อัดเสียงที่มีย่านความถี่ในการรับเสียงตรงกับเสียงที่เราต้องการจะอัด ตัวอย่างเช่น หากต้องการอัดเสียงนักร้องชาย ไมค์ที่ใช้ก็ควรมีค่าการตอบสนองความถี่เสียงที่ 150Hz - 2kHz แต่หากต้องการอัดเสียงดนตรีหรือเสียงพูด ให้เลือกเป็นไมค์อัดเสียงที่ค่าตอบสนองความถี่อยู่ที่ 200 - 500Hz เป็นต้นครับ
ในปัจจุบันมีประเภทของไมโครโฟนหลากหลายให้เลือกซื้อให้ตรงกับความต้องต่อการใช้งาน ซึ่งแต่ละประเภทก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไป แต่ในภาพรวมให้ลองพิจารณาถึงการใช้งานของไมโครโฟน ดังนี้ ไมโครโฟนสำหรับการแสดงสดหรือการบรรยาย ให้เลือกใช้ Dynamic Microphone การบันทึกเสียงในรูปแบบสตูดิโอให้เลือกใช้ไมโครโฟนแบบ Condenser และหากเน้นเสียงอัดเสียงพูดเป็นหลักให้เลือกใช้ไมโครโฟนแบบ Ribbon หรือ แบบ Tube
ไมค์อัดเสียงแต่ละรุ่นมีวิธีการเชื่อมต่อที่แตกต่างกันไป เพื่อตอบสนองลักษณะการใช้งานของแต่ละคนมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเชื่อมต่อแบบคลาสสิกอย่างพอร์ต XLR ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์บันทึกเสียงอื่น ๆ โดยตรงได้ทันที แต่ถ้าหากต้องการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์คุณจำเป็นต้องมี Audio Interface เสียก่อน หรือในปัจจุบันไมค์อัดเสียงที่มาพร้อมพอร์ต USB ก็กำลังได้รับความนิยม เพราะสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ทันทีไม่ยุ่งยาก รวมไปถึงไมค์อัดเสียงแบบไร้สาย ที่เหมาะกับการบันทึกเสียงนอกสถานที่หรือการสัมภาษณ์ภาคสนามครับ
นอกจากไมค์อัดเสียงส่วนใหญ่จะสามารถเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ด้วย USB ได้สะดวก โดยที่ไม่ต้องผ่านอุปกรณ์ Audio Interface ให้ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อนแล้ว ยังมีไมค์อัดเสียงอีกหลายรุ่น ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนได้โดยตรงทั้ง Android และ iOS ที่หลาย ๆ แบรนด์ ยังได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมาเพื่อใช้งานร่วมกับไมค์อัดเสียงโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการปรับแต่ง และแชร์ไฟล์เสียงออกมาใช้งานได้โดยตรง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายรวดเร็วให้กับผู้ใช้งานนั่นเอง
ขนาดของไมโครโฟนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่น่าพิจารณาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานปัจจุบันที่มีการใช้โทรศัพท์มือถือหรือกล้องขนาดเล็กในการทำ Vlog หรือ Podcast นอกสถานที่ โดยไมค์สำหรับต่อมือถือมี 2 รูปแบบ คือ
นอกจากนี้อาจจะคำนึงถึงประเภทของไมโครโฟนที่สามารถใช้งานนอกสถานที่ได้ โดยการเลือกใช้ไมค์ที่รับเสียงไม่ไกลมาก เช่นไมค์ Lavalier แบบที่หนีบปกเสื้อ เป็นต้น
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเภทไมโครโฟน | น้ำหนักไมโครโฟน | ทิศทางการรับเสียง | ย่านความถี่เสียง | ความไวการรับเสียง | นอยซ์ | วิธีการเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน | |||||
1 | HyperX Solocast USB Condenser Gaming Microphone | ![]() | เป็นไมโครโฟนคอนเดนเซอร์ มีฟังก์ชันช่วยลดเสียงรบกวน | ตั้งโต๊ะ | 261 กรัม | ทิศทางเดียว | 20 - 20,000 Hz | -6 dB | ไม่ระบุ | USB-C to USB-A | |||
2 | DJI Mic 2 Wireless Microphone | ![]() | มีฟังก์ชันบันทึกเสียงสำรอง บันทึกเสียงได้ละเอียด คมชัด | หนีบปกเสื้อ | 28 กรัม | ทิศทางเดียว | 50 - 20,000 Hz | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | Bluetooth, USB-C, 3.5mm TRS | |||
3 | Hoco ไมค์ไร้สาย รุ่น L15-Type C | ![]() | รับเสียงได้รอบทิศทาง รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB Type - C | หนีบปกเสื้อ | 12 กรัม | ทิศทางเดียว | 20 - 20,000 Hz | -40 dB | 64 dB | USB-C | |||
4 | FANTECH ไมค์ตั้งโต๊ะ รุ่น MCX01-A | ![]() | เชื่อมต่อผ่าน USB มีฟังก์ชัน Echo และปุ่มควบคุมเสียง | ตั้งโต๊ะ | 252 กรัม | ทิศทางเดียว | 20 - 20,000 Hz | -38 dB | 64 dB | USB-A to USB-B | |||
5 | SHURE SM7B Vocal Microphone | ![]() | ไมโครโฟนไดนามิก มีฟังก์ชันปรับแต่งเสียง เชื่อมต่อ XLR | ตั้งโต๊ะ | 765.4 กรัม | รอบทิศทาง | 50 - 20,000 Hz | -59 dB | ไม่ระบุ | XLR | |||
6 | NUBWO X700 ALMIGHTY Microphone | ![]() | มีเอฟเฟกต์แสง RGB ให้เสียงคมชัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก | ตั้งโต๊ะ | 340 กรัม | รอบทิศทาง | 48,000 Hz | -32 dB | ไม่ระบุ | USB 2.0 | |||
7 | BOYA ไมค์ไร้สาย รุ่น BY-V2 (for Lightning) | ![]() | เป็นแบบไร้สาย 2 ช่องสัญญาณ เชื่อมต่ออุปกรณ์ iOS ได้โดยตรง | หนีบปกเสื้อ | 9.5 กรัม | 2 ทิศทาง | 20 - 16,000 Hz | -42 dB | 80 dB | Lightning | |||
8 | AKG ชุดไมค์โครโฟน รุ่น LYRA | ![]() | เชื่อมต่อและใช้งานง่าย มีฟังก์ชันควบคุมบนตัวไมโครโฟน | ตั้งโต๊ะ | 500 กรัม | รอบทิศทาง | 20 - 20,000 Hz | ไม่ระบุ | 98 dB | USB-C to USB-A | |||
9 | Ulanzi J12 Wireless Lavalier Microphone | ![]() | ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา รับเสียงรอบทิศทางได้ 360 องศา | หนีบปกเสื้อ | 69 กรัม | 2 ทิศทาง | 20 - 20,000 Hz | -38 dB | 70 dB | USB-C | |||
10 | RODE ไมโครโฟน NT-USB Mini USB Microphone | ![]() | เป็นไมโครโฟนแบบ USB บันทึกเสียงคุณภาพในระดับสตูดิโอ | ตั้งโต๊ะ | 585 กรัม | รอบทิศทาง | 20 - 20,000 Hz | ไม่ระบุ | 82 dB | USB-C |
ประเภทไมโครโฟน | ตั้งโต๊ะ |
---|---|
น้ำหนักไมโครโฟน | 261 กรัม |
ทิศทางการรับเสียง | ทิศทางเดียว |
ย่านความถี่เสียง | 20 - 20,000 Hz |
ความไวการรับเสียง | -6 dB |
นอยซ์ | ไม่ระบุ |
วิธีการเชื่อมต่อ | USB-C to USB-A |
การตัดเสียงรบกวน | |
เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน |
ประเภทไมโครโฟน | หนีบปกเสื้อ |
---|---|
น้ำหนักไมโครโฟน | 28 กรัม |
ทิศทางการรับเสียง | ทิศทางเดียว |
ย่านความถี่เสียง | 50 - 20,000 Hz |
ความไวการรับเสียง | ไม่ระบุ |
นอยซ์ | ไม่ระบุ |
วิธีการเชื่อมต่อ | Bluetooth, USB-C, 3.5mm TRS |
การตัดเสียงรบกวน | |
เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน |
ประเภทไมโครโฟน | หนีบปกเสื้อ |
---|---|
น้ำหนักไมโครโฟน | 12 กรัม |
ทิศทางการรับเสียง | ทิศทางเดียว |
ย่านความถี่เสียง | 20 - 20,000 Hz |
ความไวการรับเสียง | -40 dB |
นอยซ์ | 64 dB |
วิธีการเชื่อมต่อ | USB-C |
การตัดเสียงรบกวน | |
เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน |
ประเภทไมโครโฟน | ตั้งโต๊ะ |
---|---|
น้ำหนักไมโครโฟน | 252 กรัม |
ทิศทางการรับเสียง | ทิศทางเดียว |
ย่านความถี่เสียง | 20 - 20,000 Hz |
ความไวการรับเสียง | -38 dB |
นอยซ์ | 64 dB |
วิธีการเชื่อมต่อ | USB-A to USB-B |
การตัดเสียงรบกวน | |
เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน |
ประเภทไมโครโฟน | ตั้งโต๊ะ |
---|---|
น้ำหนักไมโครโฟน | 765.4 กรัม |
ทิศทางการรับเสียง | รอบทิศทาง |
ย่านความถี่เสียง | 50 - 20,000 Hz |
ความไวการรับเสียง | -59 dB |
นอยซ์ | ไม่ระบุ |
วิธีการเชื่อมต่อ | XLR |
การตัดเสียงรบกวน | |
เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน |
ประเภทไมโครโฟน | ตั้งโต๊ะ |
---|---|
น้ำหนักไมโครโฟน | 340 กรัม |
ทิศทางการรับเสียง | รอบทิศทาง |
ย่านความถี่เสียง | 48,000 Hz |
ความไวการรับเสียง | -32 dB |
นอยซ์ | ไม่ระบุ |
วิธีการเชื่อมต่อ | USB 2.0 |
การตัดเสียงรบกวน | |
เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน |
ประเภทไมโครโฟน | หนีบปกเสื้อ |
---|---|
น้ำหนักไมโครโฟน | 9.5 กรัม |
ทิศทางการรับเสียง | 2 ทิศทาง |
ย่านความถี่เสียง | 20 - 16,000 Hz |
ความไวการรับเสียง | -42 dB |
นอยซ์ | 80 dB |
วิธีการเชื่อมต่อ | Lightning |
การตัดเสียงรบกวน | |
เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน |
ประเภทไมโครโฟน | ตั้งโต๊ะ |
---|---|
น้ำหนักไมโครโฟน | 500 กรัม |
ทิศทางการรับเสียง | รอบทิศทาง |
ย่านความถี่เสียง | 20 - 20,000 Hz |
ความไวการรับเสียง | ไม่ระบุ |
นอยซ์ | 98 dB |
วิธีการเชื่อมต่อ | USB-C to USB-A |
การตัดเสียงรบกวน | |
เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน |
ประเภทไมโครโฟน | หนีบปกเสื้อ |
---|---|
น้ำหนักไมโครโฟน | 69 กรัม |
ทิศทางการรับเสียง | 2 ทิศทาง |
ย่านความถี่เสียง | 20 - 20,000 Hz |
ความไวการรับเสียง | -38 dB |
นอยซ์ | 70 dB |
วิธีการเชื่อมต่อ | USB-C |
การตัดเสียงรบกวน | |
เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน |
ประเภทไมโครโฟน | ตั้งโต๊ะ |
---|---|
น้ำหนักไมโครโฟน | 585 กรัม |
ทิศทางการรับเสียง | รอบทิศทาง |
ย่านความถี่เสียง | 20 - 20,000 Hz |
ความไวการรับเสียง | ไม่ระบุ |
นอยซ์ | 82 dB |
วิธีการเชื่อมต่อ | USB-C |
การตัดเสียงรบกวน | |
เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน |
ไมค์อัดเสียงนั้นอาจจะเป็นหนึ่งในไอเทมที่นักเล่นเกมหรือคนทำคอนเทนต์หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับมือใหม่นั้นอาจยังข้อสงสัยต่าง ๆ อยู่ ในวันนี้ เรามีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันครับ
แท้จริงแล้ว การดูแลรักษาไมโครโฟนมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไปตามประเภท แต่มีหลักการร่วมกันดังนี้
1. เมื่อไม่ใช้งานทำการเก็บไมค์ใส่ถุงหรือกระเป๋าสำหรับไมโครโฟน เพื่อป้องกันฝุ่นหรือเศษละอองต่าง ๆ เข้าไปในไมค์
2. ใช้ที่กันลมเสมอ เพื่อป้องกันน้ำลายซึ่งอาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตและนำมาซึ่งเสียงรบกวน
3. เว้นระยะห่างระหว่างปากเรากับตัวไมค์เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทำลายตัวไมค์
4. เชื่อมต่อสายก่อนทำการเปิดแอมป์เพื่อป้องการการช็อตไฟฟ้า
ไมค์มีความจำเป็นมากสำหรับคนทำคอนเทนต์ในปัจจุบัน หากภาพไม่ชัดยังพอดูได้ แต่ถ้าเราสื่อสารไม่รู้เรื่องแม้เนื้อหาจะน่าสนใจเพียงใด ก็ทำให้ไม่น่าฟังหรือฟังไม่ออกจนดูปิดวิดีโอหนีไปได้ YouTuber ชื่อดังหลายท่านทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ได้แนะนำไว้ว่า ในบรรดาอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับการทำช่อง ให้เลือกลงทุนเรื่องไมค์เป็นอันดับต้น ๆ หลังจากนั้นจึงลงทุนเรื่องกล้องและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ต่อไป
ไมค์ Dynamic จะเหมาะสำหรับการแสดงสดหรือการบรรยายสดในห้องประชุม เนื่องจากมีความทนทาน ราคาประหยัด และสามารถตัดสัญญาณรบกวนในระบบได้ดี โดยสามารถรับเสียงได้ดีทั้งการร้อง เสียงกลอง และเครื่องดนตรีอื่น ๆ ในขณะที่ไมค์แบบ Condenser นั้นเหมาะสำหรับการบันทึกเสียงแบบสตูดิโอทั้งเสียงพูดและเสียงดนตรี ซึ่งโดยทั่วไปจะต้องการไฟเลี้ยง เช่น Phantom หรือต้องต่อ Preamp โดยไมค์ประเภทนี้มีความบอบบาง ต้องการการดูแลรักษามากกว่าแบบ Dynamic และมีความซับซ้อนในการติดตั้งมากกว่าครับ
เรายังมีบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับไมค์อีกหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีวิธีการเลือกซื้อที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความด้านล่างนี้
อันดับที่ 1: HyperX|Solocast USB Condenser Gaming Microphone
อันดับที่ 2: DJI |Mic 2 Wireless Microphone
อันดับที่ 3: Hoco|ไมค์ไร้สาย รุ่น L15-Type C
อันดับที่ 4: FANTECH|ไมค์ตั้งโต๊ะ รุ่น MCX01-A
อันดับที่ 5: SHURE|SM7B Vocal Microphone
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ