กล้องส่องทางไกลจัดว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ที่สามารถใช้งานได้ในหลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการส่องดูนก ดูดาว หรือแม้กระทั่งชมคอนเสิร์ต อีกทั้งยังมีหลากหลายประเภท เช่น แบบกำลังขยายสูง, แบบขนาดพกพา, แบบกันน้ำ หรือประเภทที่สามารถอัดวิดีโอและถ่ายรูปได้ จึงอาจทำให้หลายคนสงสัยว่า ควรใช้กล้องส่องทางไกลประเภทไหนสำหรับการใช้งานแต่ละแบบ
ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกกล้องส่องทางไกล เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของตนเอง ทั้งการชมคอนเสิร์ต ชมกีฬา ดูนก หรือกิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ รวมไปถึงรวบรวม 10 กล้องส่องทางไกล ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น กำลังขยายสูง ขอบเขตการมองเห็นกว้าง เป็นต้น
Top 5 กล้องส่องทางไกล ยอดนิยม
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
สารบัญ
ก่อนที่เราจะเข้าไปสู่ 10 อันดับยอดนิยม เรามาเริ่มกันที่วิธีการเลือกกันก่อนเลยครับ อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า กล่องส่องทางไกลนั้นมีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้น เรามาศึกษาข้อมูลเหล่านี้ให้ละเอียดมากขึ้นกันดีกว่าครับ
นอกจากหลักการเลือกด้านบนที่กล่าวมาแล้ว กล้องส่องทางไกลยังมีอีกประเภทหลากหลายและเหมาะกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป เช่น การใช้งานในร่มหรือกลางแจ้ง เรามาดูวิธีการเลือกรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองกันดีกว่าครับ
สำหรับคนที่อยากใช้กล้องส่องทางไกลในงานคอนเสิร์ตหรืองานแสดงสด ควรเลือกกำลังขยายที่ 5 - 8 เท่าจะกำลังพอเหมาะเลยครับ อีกทั้งในสถานที่จัดงานเหล่านี้ส่วนใหญ่จะค่อนข้างมืด เราขอแนะนำให้ใช้แบบ Multi Coat ที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้จะมีแสงน้อย
สำหรับงานเทศกาลดนตรีในเวลากลางวัน หากศิลปินไม่ค่อยย้ายตำแหน่งบนเวทีมากนัก ให้ใช้กล้องส่องทางไกลที่มีขอบเขตการมองเห็นที่แคบหน่อยก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับบนเวทีคอนเสิร์ตหรืองานแสดงละครที่นักแสดงมักเคลื่อนไหวไปมาทั่วเวที แนะนำให้แบบที่มีขอบเขตการมองเห็นที่กว้าง หรือประมาณ 8° ขึ้นไปจะดีกว่า
และแน่นอนว่า หากกล้องส่องทางไกลมีขนาดใหญ่เกินไป ก็อาจจะทำให้ถือหรือใช้งานลำบาก อีกทั้งจะทำให้เมื่อยล้าได้ง่าย ดังนั้น ให้เลือกขนาดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 25 มม.จะเหมาะที่สุดครับ
สำหรับการใช้งานกลางแจ้งหรือปิกนิก ควรเลือกกล้องแบบที่มีขนาดกะทัดรัดพกพาง่ายจะสะดวกที่สุดครับ โดยเฉพาะรุ่นที่มีขนาดพอดีสามารถใส่ในกระเป๋าได้ รุ่นที่มีสายห้อยคอ หรือรุ่นที่สามารถม้วนเก็บได้ยามไม่ใช้งานก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี
ขนาดของกล้องส่องทางไกลที่กำลังดีและไม่หนักจนเกินไปก็คือ ประมาณ 350 กรัม อีกทั้งเพื่อป้องกันสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน หากเลือกรุ่นที่กันน้ำได้ก็จะสะดวกที่สุด เผื่อเวลาต้องใช้งานยามฝนตกครับ
สำหรับการรับชมกีฬา กำลังขยายที่พอเหมาะจะอยู่ที่ 6 - 8 เท่า ยิ่งหากมีฟังก์ชันซูม ก็จะทำให้พื้นหลังไม่เบลอและสามารถจับการเคลื่อนไหวของผู้เล่นได้ดี แม้จะอยู่ในที่นั่งไกล ๆ อย่างในสนามกีฬาหรือโดมก็ตาม
หากกล้องมีขอบเขตการมองเห็นจริงประมาณ 7 ° ก็เรียกได้ว่า สามารถจับได้ทุกการเคลื่อนไหวของนักกีฬา ซึ่งแน่นอนว่าหากยังไม่มั่นใจ ก็สามารถเพิ่มขอบเขตการมองเห็นจริงให้มากกว่านี้ได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ หากความแตกต่างของการมองเห็นรอบนอกมีน้อย ก็จะทำให้เราไม่วิงเวียนหัวเวลาส่องกล้องนาน ๆ ครับ
สำหรับการดูนกที่เป้าหมายมีขนาดเล็กและอยู่ไกล กล้องจำเป็นต้องมีกำลังขยายประมาณ 8 - 12 เท่าครับ แม้สำหรับนกส่วนใหญ่แค่กำลังขยาย 10 เท่าก็เพียงพอแล้ว แต่ว่าสำหรับนกขนาดเล็กบางชนิด ก็อาจจำเป็นต้องใช้กำลังขยายมากถึง 12 เท่า หรือสำหรับมือใหม่ที่พึ่งเริ่มหัดส่องกล้องดูนก และไม่ชินกับการเคลื่อนกล้องตามการขยับของตัวนก เราขอแนะนำให้เลือกกำลังขยาย 8 เท่าจะดีที่สุดครับ
เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนและสว่างมองเห็นได้ง่าย กล้องที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม.ขึ้นไปจะเหมาะสมกว่า นอกจากนี้ คุณควรเลือกรุ่นที่มีขอบเขตการมองเห็นจริงประมาณ 7 ° เพื่อให้ได้ภาพมุมกว้างที่เหมาะสม และอย่าลืมเลือกรุ่นที่สามารถกันน้ำได้เผื่ออากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหันด้วยนะครับ
สำหรับการดูดาวควรใช้กล้องที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางรูม่านตาที่มีขนาด 5 มม. ขึ้นไป เพื่อให้ได้ความสว่างที่มองได้ชัดเจนและมุมมองที่กว้าง สำหรับคนที่อยากดูเป็นระยะเวลานาน ๆ แนะนำให้ใช้งานคู่กับขาตั้งเพื่อความสะดวกยิ่งขึ้นครับ
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรเลือกกล้องที่มีกำลังขยายสูงเกินไป เพราะการดูดาวไม่ว่าจะกำลังขยายสูงแค่ไหน ก็จะเห็นเพียงแค่จุดดาวบนท้องฟ้า ไม่ว่ากำลังขยาย 6 เท่า หรือ 10 เท่า ก็แทบไม่มีความแตกต่างกันแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน กล้องส่องทางไกลที่มีกำลังขยายที่ต่ำ หากมองเป็นระยะเวลานาน ๆ ดวงตาจะถูกปรับให้ชินกับความมืด ทำให้ภาพจะดูสวยงามกว่าเดิมมาก ซึ่งรูปแบบกล้องที่เราขอแนะนำสำหรับดูดาวก็คือ 7 เท่า 50 มม. ครับ
การเลือกกล้องส่องทางไกล สิ่งสำคัญคือ การเลือกให้เหมาะกับสถานการณ์ที่เราต้องการใช้งานครับ แม้อาจจะมีข้อมูลจำเพาะที่ดูจะซับซ้อนอยู่บ้าง แต่อันดับแรกเรามาเริ่มกันที่การเลือกกำลังขยาย, ความสว่าง, ขอบเขตภาพ และรูปลักษณ์ภายนอก ที่คุณต้องการกันดีกว่าครับ
กำลังขยายของกล้องส่องทางไกลจะแสดงภาพที่เราเห็นให้ใหญ่กว่าความเป็นจริง เท่ากับกำลังขยายของกล้องนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าส่องวัตถุในระยะ 50 เมตร ด้วยกล้องส่องทางไกลที่มีกำลังขยาย 5 เท่า ภาพที่เห็นจะเหมือนกับที่เรามองเห็นด้วยตาเปล่าในระยะ 10 เมตร
หากคุณต้องการใช้กล้องส่องทางไกลสำหรับดูคอนเสิร์ตหรือดูนก แน่นอนว่าต้องใช้กล้องที่มีกำลังขยายสูง อย่างไรก็ตาม หากมีกำลังขยายที่สูงเกินไป ภาพที่ได้จะออกมาสั่นและมุมมองจะแคบลง ดังนั้น เราขอแนะนำกล้องส่องทางไกลที่มีกำลังขยายประมาณอยู่ที่ประมาณ 10 เท่าจะกำลังดีครับ
“เส้นผ่านศูนย์กลางของเลนส์ใกล้วัตถุ” หมายถึง เลนส์ที่อยู่ด้านนอกของกล้องส่องทางไกล ซึ่งจะมีตั้งแต่ขนาด 25 - 50 มม. และความละเอียดจะมากขึ้นตามคุณสมบัติการเก็บแสงที่มากขึ้น
ส่วน “เส้นผ่านศูนย์กลางรูม่านตา” คือ วงกลมที่ปรากฏขึ้นเวลาส่องกล้องไปยังสถานที่ที่มีสีขาว และใช้สำหรับรับรู้ความสว่าง ซึ่งถ้าใช้ในที่ที่มีความสว่างมาก เพียงแค่ 2 - 3 มม.ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าคุณต้องการใช้ส่องนกหรือดูดาวตอนกลางคืน ก็ขอแนะนำให้ใช้แบบ 4 - 7 มม. ครับ
อย่างไรก็ตาม ยิ่งมีรูรับแสงมากขึ้นเท่าไหร่ น้ำหนักและขนาดของกล้องส่องทางไกลก็จะมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น เราขอแนะนำให้คุณเลือกระหว่างความสะดวกในการพกพาหรือความคมชัดครับ
ก่อนอื่นเลย เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง “ขอบเขตการมองเห็นจริง” และ “ขอบเขตการมองเห็นชัดเจน” ของเลนส์ของกล้องส่องทางไกลกันก่อนดีกว่าครับ
“ขอบเขตการมองเห็นจริง” หมายถึง ความกว้างของมุมมองที่เราสามารถมองเห็นได้โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายกล้องส่องทางไกล ซึ่งกล้องที่มีขอบเขตการมองเห็นจริงที่กว้าง จะเหมาะกับการเอาไว้ดูนกในป่าที่มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและทิศทางที่ไม่ตรงตัว ซึ่งแม้ส่วนใหญ่กล้องทั่วไปจะมีขอบเขตการมองเห็นจริงอยู่ประมาณที่ 5° - 8° แต่ถ้าอยากจับภาพเป้าหมายที่เคลื่อนไหวอยู่ได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ เราขอแนะนำให้เลือกขอบเขตการมองเห็นจริงที่ 7° ขึ้นไปดีกว่าครับ
ส่วน “ขอบเขตการมองเห็นชัดเจน” หมายถึง ระยะการมองเห็นที่สามารถทำได้อย่างชัดเจน โดยจะมีหลักคำนวณมาจาก “ขอบเขตการมองเห็นจริง × อัตรากำลังขยายภาพ” ซึ่งส่วนตรงนี้ยิ่งมีขนาดใหญ่แค่ไหน มุมมองการมองเห็นก็จะกว้างขึ้นเท่านั้น แม้จะมีกำลังขยายมากแค่ไหนก็ตาม ซึ่งสำหรับคนที่อยากเห็นมุมมองที่กว้างกว่าปกติ เช่น ใช้ดูบนเวทีคอนเสิร์ตหรือการแสดงละคร ขอแนะนำประเภทที่มีมุมมองกว้าง เช่น ขอบเขตการมองเห็นจริง 7° × อัตรากำลังขยายภาพ 8 เท่า = ขอบเขตการมองเห็นชัดเจน 56° ครับ
ถ้าคุณมองกล้องส่องทางไกลแล้วเห็นภาพสลับบน-ล่างอยู่ แสดงว่าปริซึมกำลังแสดงภาพที่ถูกต้องให้คุณเห็นอยู่ครับ โดยกล้องส่องทางไกลประเภท Porro Prism จะใช้วิธีผลิตแบบดั้งเดิมซึ่งสะท้อนแสงผ่านทางเลนส์ ทำให้ได้ภาพที่ออกมาดูสวยงาม
ส่วนกล้องส่องทางไกลประเภท Roof Prism จะใช้ปริซึมชุบที่มีรูปทรงที่เล็กและพกพาได้ง่าย แต่เพราะมีสะท้อนของแสงที่ซับซ้อนกว่า จึงทำให้ความละเอียดของภาพที่จะได้ลดลงไปจากเดิม อีกทั้งยังราคาแพงกว่ากล้องส่องทางไกลประเภท Porro Prism เล็กน้อย
ถ้าจะแบ่งประเภทให้แยกออกกันง่าย ๆ ก็คือ กล้องส่องทางไกลประเภท Porro Prism จะมีขนาดที่ใหญ่และได้ภาพที่ชัดเจนสวยงาม ส่วนประเภท Roof Prism จะมีขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาง่าย และมีราคาแพงกว่ากันเล็กน้อย ซึ่งสำหรับคนที่อยากได้กล้องส่องทางไกลที่เหมาะกับตัวเอง ก็สามารถใช้เกณฑ์ตรงนี้ในการเลือกได้ครับ
ระยะสายตาหมายถึง ระยะห่างจากเลนส์กับดวงตา ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะแสดงให้เห็นเป็นตัวเลขว่า ดวงตาสามารถอยู่ห่างกับเลนส์ใกล้ตาได้มากแค่ไหน โดยทั่วไปค่าของระยะสายตาจะอยู่ที่ประมาณ 10 มม. หรือ 15 มม. ทำให้มีความแตกต่างในการเลือกกล้องส่องทางไกลระหว่างคนที่สวมแว่นและไม่สวมแว่น
คนที่สวมแว่นนั้นจำเป็นต้องมีระยะห่างระหว่างดวงตาและเลนส์ใกล้ตา เราจึงขอแนะนำให้เลือกกล้องที่มีระยะสายตาอยู่ที่ประมาณ 15 ซม. เพื่อไม่ให้เกิดอาการปวดตา ส่วนคนที่ไม่ได้ส่วนแว่นซึ่งส่วนใหญ่จะแนบตาเข้ากับกล้องส่องทางไกล ระยะสายตาจะใกล้หน่อยก็ไม่เป็นปัญหาครับ
ในปัจจุบัน มีการพัฒนากล้องส่องทางไกลดิจิตอลที่สามารถบันทึกสิ่งที่เราเห็นผ่านกล้องได้ ซึ่งจะสามารถเก็บภาพวิวทิวทัศน์ กิจกรรมการละเล่นของเด็ก ๆ หรือภาพสัตว์หายาก และเหมาะสำหรับการนำออกไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งสุด ๆ
อย่างไรก็ตาม กล้องประเภทนี้จะมีน้ำหนักมากเพราะมีแบตเตอรี่ และหากซูมภาพก็จะแตกและไม่ละเอียดเท่ากล้องปกติ ใครที่อยากใช้งานกล้องประเภทนี้ ก็อย่าลืมระมัดระวังตรงจุดนี้ด้วยนะครับ อีกทั้งการบันทึกภาพส่วนใหญ่จะถูกห้ามในงานคอนเสิร์ตหรือการแข่งกีฬา คุณจึงควรตรวจสอบกฎการใช้งานให้ละเอียดก่อนจะบันทึกภาพครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Svbony กล้องส่องทางไกล รุ่น SV206 | ![]() | ราคาย่อมเยาแต่คุณสมบัติการใช้งานครบ เลนส์กว้างมองได้ชัดเจน | |
2 | Nikon กล้องส่องทางไกล รุ่น Aculon A211 | ![]() | จากแบรนด์ชั้นนำที่มีคุณภาพ ซูมได้อย่างเหมาะสมจนได้ภาพคมชัด | |
3 | Olympus กล้องส่องทางไกล รุ่น binocular | ![]() | แบรนด์ชั้นนำเรื่องผลิตภัณฑ์กล้อง ผลิตแบบมีคุณภาพวัสดุแข็งแรง | |
4 | Xiaomi กล้องส่องทางไกล รุ่น HD Binoculars | ![]() | จากแบรนด์โดดเด่นด้านเทคโนโลยี มีการคำนวณค่าแสงที่เหมาะสม | |
5 | Canon กล้องส่องทางไกล รุ่น PowerShot ZOOM | ![]() | ขนาดเล็กน้ำหนักเบา มีคุณสมบัติพิเศษสามารถอัดวิดีโอได้ในเครื่อง | |
6 | Bijia กล้องส่องทางไกล | ![]() | ภาพใสคมชัดจากการใช้ปริซิมระดับสูง น้ำหนักเบา จับโฟกัสภาพไว | |
7 | Svbony กล้องส่องทางไกล รุ่น SV28 | ![]() | ดีไซน์ภายนอกสวย ขนาดพกพาง่ายทรงขาตั้งเหมาะกับการดูวิวไกล | |
8 | KOWA กล้องส่องทางไกล รุ่น BD II | ![]() | มุมมองของกล้องกว้างเห็นภาพได้ชัด เลนส์ชนิดพิเศษที่สว่างยิ่งขึ้น | |
9 | Hali DT กล้องส่องทางไกล รุ่น Hali DT | ![]() | สามารถใช้ส่องเวลากลางคืนได้ มีแถบยางกันลื่น กำลังขยายที่เยอะ | |
10 | Lixada กล้องส่องทางไกล | ![]() | ขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวกพับได้เหมาะใช้ดูคอนเสิร์ตหรือกีฬา |
สำหรับคนที่เพิ่งจะเริ่มสนใจการท่องเที่ยวเชิงป่า ชมทิวทัศน์ในระดับสูง กล้องส่องทางไกลจาก Svbony รุ่น SV206 ถือเป็นตัวเริ่มแรกให้กับคุณได้อย่างน่าสนใจครับ เพราะนอกจากจะมีราคาไม่สูงแล้ว วัสดุภายนอกก็แข็งแรง มีกำลังขยายเหมาะสมที่ 10 เท่า เส้นผ่านศูนย์กลางเลนส์ 23 มม. ขอบเขตการมองอยู่ที่ 7.5° ซึ่งถือว่าจะทำให้ได้ภาพที่คมชัดพอดี ที่สำคัญมาพร้อมกับระบบกันน้ำในระดับ IPX6 มาตรฐานสากลเรื่องกันน้ำ ดังนั้นไม่ว่าจะลุยในพื้นที่มีหมอก ฝนตก หรือลำธารก็พกพาไปใช้ได้อย่างหายห่วง
Nikon เป็นแบรนด์ชื่อดังในเรื่องอุปกรณ์เกี่ยวกับกล้องโดยเฉพาะ ซึ่งในรุ่น Aculon A211 เป็นกล้องส่องทางไกลที่เหมาะสำหรับผู้ที่รักในการท่องเที่ยวและต้องการมองทิวทัศน์จากเนินสูง ดูสัตว์ระยะไกลโดยเฉพาะ กำลังขยายมากถึง 10 เท่า หน้าขนาดเลนส์ 50 มม. วัสดุที่ใช้มีความแข็งแรงและได้มาตรฐานผ่านการทดลองมาแล้ว ทรงแน่นหนา แม้จะมีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ แต่ก็พกพาง่ายโดยใช้กระเป๋าที่ทางแบรนด์แถมมาให้ ใช้งานง่ายเพียงแค่เลื่อนการขยายที่ตัวหมุนบริเวณกลางกล้องเท่านั้นครับ
หากพูดถึงแบรนด์ที่โดดเด่นในเรื่องสินค้าประเภทกล้อง Olympus ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูง ดังนั้นจึงสามารถมั่นใจในคุณภาพการผลิตและวัสดุที่ใช้ได้ครับ โดยในรุ่นนี้ทางแบรนด์ออกแบบให้เป็นกล้องส่องทางไกลทรงมาตรฐาน พกพาสะดวกที่มีคุณสมบัติการซูม 10 เท่า ใช้ปริซึมชนิด Porro มีความคมชัดและมีเส้นผ่านศูนย์กลางรูรับแสง 5 มม. สามารถปรับระดับการซูมง่าย โฟกัสไว แม้ราคาจะอยู่ในระดับกลางค่อนสูงแต่ก็ถือเป็นรุ่นที่เหมาะกับการนำไปใช้ท่องเที่ยว ชมวิวบนที่สูงทีเดียวครับ
หลายคนคงรู้จักแบรนด์ Xiaomi กันมาบ้างแล้วจากผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดที่ถูกวางขายในปัจจุบัน ซึ่งกล้องรุ่นนี้เป็นกล้องที่ถูกคิดขึ้นขึ้นผ่านการคำนวณที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นภาพในระยะไกลได้มีคุณภาพ ทางแบรนด์ใช้เลนส์ซูม 8 เท่า ควบคู่กับเลนส์ 30 มม. ออกแบบรูปทรงให้เหมาะกับสรีรศาสตร์ บอดี้ใช้โลหะเป็นส่วนประกอบหลักจึงมีความแข็งแรงทนทาน ขนาดกะทัดรัดพกง่าย ป้องกันน้ำและใช้วัสดุพ้นผิวที่ช่วยในการกันลื่นสัมผัสผิวแบบหยาบครับ
หากคุณมองหากล้องที่มีน้ำหนักเบา พกพาง่ายที่สำคัญคือสามารถถ่ายวิดีโอได้ PowerShot ZOOM จาก Canon เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวครับ เพราะกล้องรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีดีไซน์เล็กใช้มองแบบเลนส์เดียว แต่สามารถอัดวิดีโอได้อย่างมีคุณภาพ ความละเอียด 2.36 ล้านจุดขยายได้ไกลสูงสุดด้วยเลนส์แบบขยายดิจิตอลซูม 800 มม. ISO 100-3200 ใช้งานควบคู่กับแอปพลิเคชันหรือบลูทูธก็ได้ สะดวกสบาย ทำงานต่อเนื่องสูงสุด 70 นาที ช่วยให้คุณได้ภาพวิวสวย ๆ หรืออัดไฮไลท์สำคัญที่คุณต้องการได้ครับ
กล้องส่องทางไกลจาก Bijia เป็นรุ่นกะทัดรัดที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีงบจำกัดแต่ต้องการกล้องที่สามารถใช้ชมวิวทิวทัศน์ ชมการแข่งขันกีฬา หรือชมคอนเสิร์ตในระยะที่ไม่ไกลได้ โดยรุ่นนี้มีการซูมได้มากถึง 12 เท่า. และด้วยการที่เลนส์ผสานปริซิม BAK4 ทำให้มีความใสกว่าเลนส์ทั่วไป เพิ่มเลนส์สีแดงเพื่อขยายความว่างให้มุมมองของผู้ใช้งาน สามารถโฟกัสตำแหน่งภายใน 3 วินาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วสำหรับกล้องในราคาย่อมเยา ที่สำคัญน้ำหนักเพียง 166 กรัมเท่านั้น พักในกระเป๋าคาดอกที่ใช้ในชีวิตประจำวันก็ได้ครับ
กล้องส่องทางไกล รุ่น SV28 เรียกว่าเป็นกล้องที่มีคุณภาพคุ้มราคา คุณสมบัติครบถ้วนให้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นระยะการมองเห็น คุณสมบัติการกันน้ำ รวมไปถึงขาตั้งกล้องที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย กำลังขยายสูงสุด 25-75 เส้นผ่านศูนย์กลางเลนส์ 80 มม. ให้ผู้ใช้งานได้ประสบการณ์ภาพกว้างที่มีรายละเอียดชัด เคลือบ BC ที่เลนส์เสริมความทนทาน มุมการมองอยู่ที่ 45 องศา ดังนั้นเหมาะกับการตั้งหลักในการชมวิวระยะไกล การเช็คระยะระหว่างการเล่นกีฬาหรือแม้กระทั่งการส่องดูดาวเพื่อเก็บความทรงจำดี ๆ ครับ
กล้องส่องทางไกล รุ่น BD II จาก KOWA เป็นรุ่นที่ได้รับการพัฒนาใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากจากรุ่นเดิม โดยจุดเด่นของกล้องรุ่นนี้คือคุณภาพเรื่องมุมมองของเลนส์ที่กว้าง และใช้เลนส์ชนิดพิเศษของแบรนด์ที่ผสาน Fluorite Crystal ทำให้ภาพสว่างยิ่งขึ้น มีอัตราในการขยายระยะไกลสูงสุด 8 เท่า เหมาะกับการใช้ดูวิว ชมสัตว์ เลนส์ขนาด 32 mm แม้จะมีน้ำหนัก 600 กรัม แต่ก็ไม่ถือว่าพกพายากจนเกินไปเพราะดีไซน์เรียบง่าย ไม่มีส่วนเสริมเยอะ และด้วยคุณสมบัติกันน้ำจึงใช้ในยามช่วงเช้าที่หมอกลงได้ครับ
สำหรับกล้องรุ่นนี้มีจุดเด่นสำคัญในเรื่องการใช้งานเวลากลางคืนเพราะใช้เลนส์ฟิล์มเขียวบรอดแบนด์ที่เพิ่มความคม ใช้ในเวลากลางคืนรวมไปถึงปริซึมแสง K4 ด้วย เลนส์กว้างถึง 50 มม. และกำลังขยายมากถึง 16 เท่า แม้จะมีน้ำหนักที่เยอะถึง 872 กรัม แต่ทางแบรนด์ก็มีกระเป๋ากันน้ำกันหมอกมาให้พร้อมให้พกพา บริเวณที่จับกล้องส่องทางไกลออกแบบให้มียางกันลื่นเพื่อป้องกันไม่ให้หลุดขณะใช้งาน วัสดุไม่เบามีความทนทานคุณภาพดี เรียกว่าคุณภาพคุ้มราคาครับ
Lixada รุ่นนี้เป็นกล้องส่องทางไกลที่มีจุดเด่นในเรื่องของราคาย่อมเยาและขนาดที่กะทัดรัด พับเก็บพกพาได้สะดวก เหมาะกับการนำมาใช้ดูคอนเสิร์ตหรือดูการแข่งขันกีฬาที่มีระยะทางไม่ไกลมากเกินไป ซูมได้ 8 เท่า มีการเสริมยางกันน้ำและกันเลื่อนเพื่อให้สามารถใช้งานในวันที่ฝนตกได้ เส้นผ่านศูนย์กลางของเลนส์ใกล้วัตถุ 24 มม. ทำให้ผู้ใช้งานเห็นภาพที่ชัดยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือมีน้ำหนักเพียง 190 กรัม เท่านั้น แถมยังมีผ้าเช็ดเลนส์ กระเป๋า รวมไปถึงสายคล้องแถมมาให้ครบถ้วนครับ
อันดับที่ 1: Svbony|กล้องส่องทางไกล รุ่น SV206
อันดับที่ 2: Nikon|กล้องส่องทางไกล รุ่น Aculon A211
อันดับที่ 3: Olympus|กล้องส่องทางไกล รุ่น binocular
อันดับที่ 4: Xiaomi|กล้องส่องทางไกล รุ่น HD Binoculars
อันดับที่ 5: Canon|กล้องส่องทางไกล รุ่น PowerShot ZOOM
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ