10 ผ้าปูที่นอนรัดมุม ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 รัดแน่น ไม่หลุดง่าย

ในการซื้อผ้าปูที่นอน คุณจะต้องคำนึงถึงขนาดความยาวของฟูกที่นอนร่วมด้วย เพราะฟูกที่ใช้กับเตียงนั้นมีหลากหลายขนาด โดยแบ่งตามลักษณะของเตียง เช่น เตียงเดี่ยว เตียงคู่ หรือกึ่งเตียงคู่ คุณจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงขนาดความยาวให้ดีค่ะ โดยขนาดความยาวมาตรฐานของฟูกที่นอนที่วางจำหน่ายในไทยจะอยู่ที่ประมาณ 190 เซนติเมตร แต่สำหรับฟูกที่นอนขนาดใหญ่บางแบรนด์จะมีความยาวถึง 200 เซนติเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่แตกต่างกันมากถึง 10 เซนติเมตรเลยทีเดียวค่ะ

ดังนั้น หากคุณซื้อผ้าปูที่นอนรัดมุมที่มีขนาดความยาวมาตรฐานและนำไปสวมใส่กับฟูกที่นอนที่มีความยาวกว่ามาตรฐาน ก็อาจทำให้สวมใส่ไม่พอดีหรือหากสวมเข้าไปแล้วก็จะทำให้มุมที่นอนด้านใดด้านหนึ่งยกขึ้น ในทางกลับกัน หากคุณใช้ผ้าปูที่นอนที่มีความยาวกว่าขนาดมาตรฐานมาสวมกับฟูกที่นอนขนาดความยาวมาตรฐานปกติ ก็จะทำให้ผ้าปูที่นอนมีบางส่วนที่เกินออกมา เพราะความยาวของฟูกไม่เอื้ออำนวยนั่นเอง

ฟูกที่นอนบางรุ่นจะมีความหนาหรือบางกว่าปกติ เช่น ฟูกแบบโฟมที่มักจะมีความหนาค่อนข้างมาก เพื่อรองรับน้ำหนักและช่วยไม่ให้ยุบตัวง่าย หรือฟูกญี่ปุ่นแบบบางที่ช่วยให้ม้วนเก็บง่าย เป็นต้น ผ้าปูที่นอนที่คุณเลือกจึงควรมีขนาดที่พอดีหรือใกล้เคียงกับความหนาของฟูกที่ใช้อยู่ค่ะ

หากคุณกำลังใช้ฟูกที่นอนแบบหนากว่าปกติอยู่ ผ้าปูที่นอนแบบรัดมุมขนาดทั่วไปอาจสวมใส่ได้ไม่พอดี เราจึงขอแนะนำให้เลือกผ้าปูที่นอนแบบยางยืดรัดรอบ เพราะเหมาะกับฟูกที่นอนแบบหนา ซึ่งโดยทั่วไปจะสามารถรองรับขนาดความหนาได้สูงสุด 8 - 9 เซนติเมตร นอกจากฟูกแบบหนากว่าปกติแล้ว หากคุณใช้ฟูกที่มีการวางผ้ารองกันน้ำหรือความชื้นอยู่ ก็ควรเผื่อขนาดของผ้าปูที่นอนเอาไว้ เนื่องจากแผ่นรองเหล่านี้จะทำให้ความหนาของที่นอนเพิ่มขึ้นนั่นเองค่ะ

หลายคนอาจเคยประสบปัญหาผ้าปูที่นอนที่ซื้อมาไม่สามารถสวมให้พอดีกับฟูกได้ นั่นเป็นเพราะขนาดที่ผลิตภัณฑ์ระบุไว้แตกต่างจากตัวผลิตภัณฑ์จริงที่คุณได้รับนั่นเอง ดังนั้น คุณจึงควรระมัดระวังในการเลือกขนาดของผ้าปูให้ดี โดยหากสังเกตที่แพ็กเกจจะเห็นได้ว่า มุมของผ้ามักจะถูกซ่อนอยู่ที่ด้านล่างของห่อบรรจุภัณฑ์ จึงยากที่จะวัดขนาดได้ แถมขนาดของผ้าปูที่นอนแบบรัดมุมที่ระบุไว้บนหีบห่อก็อาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับผู้ผลิตอีกด้วย

และบางครั้งก็อาจเป็นไปได้ว่า ผ้าปูที่นอนนั้นมีการเย็บมุมผ้าเข้าด้านหลัง แต่ผู้ผลิตระบุว่าไม่มีการเย็บมุมผ้า นอกจากนี้ การเย็บมุมของบางผู้ผลิตอาจหมายถึงห่อบรรจุภัณฑ์ ไม่ใช่ผ้าปูที่นอน หากไม่ได้อ่านรายละเอียดอย่างถี่ถ้วนก็อาจเข้าใจผิดได้ค่ะ คุณจึงไม่ควรจะมองหาเพียงแค่ข้อมูลเกี่ยวกับความหนาเท่านั้น แต่ข้อมูลเกี่ยวกับความยาวของผ้าก็สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะฟูกที่นอนที่มีคุณสมบัติพิเศษซึ่งมีความหนามาก ๆ ก็อาจไม่สามารถใช้กับผ้าปูที่นอนที่มีการเย็บมุมผ้าแบบสั้น ๆ ได้ ดังนั้น อย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดเหล่านี้ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อผ้าปูที่นอนแบบรัดมุมนะคะ

วัสดุที่นิยมในการผลิตผ้าปูที่นอนมากที่สุด คือ ผ้าฝ้ายหรือคอตตอน 100% ซึ่งถ้าหากเป็นไปได้ เราก็ขอแนะนำให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากผ้าฝ้ายธรรมชาติจะดีที่สุดค่ะ และยิ่งหากมีจำนวนเส้นด้ายที่ใช้ในการถักทอมากเท่าไร คุณภาพของเนื้อผ้าก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น โดยผ้าฝ้ายถือเป็นผ้าที่มีคุณภาพสูง เพราะได้มาจากเส้นใยธรรมชาติ จึงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ซึ่งปลอดภัยต่อผิวของเด็กทารกด้วยเช่นกันค่ะ 

นอกจากนี้ ลักษณะของผ้าฝ้ายจะมีความทนทานเมื่อมีการถักทออย่างหนาแน่น ระบายอากาศได้ดี ไม่ค่อยซับน้ำหรือเหงื่อมากนัก จึงเหมาะอย่างยิ่งกับสภาพอากาศในประเทศไทย แต่ก็ยังมีข้อเสีย คือ ยับง่าย บางบ้านจึงต้องมีการรีดผ้าปูที่นอนอยู่เสมอ ซึ่งจะยิ่งทำให้ตัวผ้าเสื่อมคุณภาพและยืดตัวเร็ว ดังนั้น หากคุณต้องการใช้ผ้าปูที่นอนที่ทำจากผ้าฝ้าย ก็อาจไม่จำเป็นต้องรีดบ่อยครั้ง เพื่อให้คุณใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นค่ะ

ข้อดีของผ้าถัก คือ ตัวผ้ามีการถักร้อยกันในลักษณะเป็นบ่วงเพื่อให้เกิดความแน่นหนา จึงทำให้ผ้าถักมีความนุ่มและซึมซับน้ำได้ดี และยังช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกอบอุ่นในยามที่พักผ่อนอีกด้วย แต่สำหรับในประเทศไทย ผ้าปูที่นอนชนิดนี้อาจไม่ค่อยเป็นที่นิยมและมีวางจำหน่ายไม่มากนัก แต่หากใครสนใจก็ยังสามารถหาซื้อได้อยู่นะคะ อย่างผ้าปูที่นอนออร์แกนิคคอตตอนเจอร์ซี่ของแบรนด์ญี่ปุ่นชื่อดัง MUJI ซึ่งมีคุณภาพและคุณสมบัติที่แตกต่างจากผ้าฝ้ายคอตตอน 100% ตรงที่เนื้อผ้าจะมีความหนาและนิ่มอย่างชัดเจน แต่ระบายอากาศได้ดีพอสมควร หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษในฤดูหนาว เช่น ทางภาคเหนือของประเทศไทย ผ้าปูที่นอนดังกล่าวก็อาจจะใช้งานได้ดีค่ะ

ที่นอนที่เต็มไปด้วยเหงื่อและเศษสิ่งสกปรกจากเส้นผมมักจะเป็นสิ่งที่ไรฝุ่นโปรดปราน เราจึงขอแนะนำผ้าปูที่นอน "ป้องกันไรฝุ่น" โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กและผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ โดยคุณสมบัติของการป้องกันไรฝุ่นจะมีผลเพียงแค่ช่วยป้องกันสิ่งหมักหมมหรือสิ่งที่ก่อให้เกิดตัวไรฝุ่นด้วยน้ำยาที่เคลือบอยู่ในเส้นใยผ้า ซึ่งแตกต่างจากการใช้ยาฆ่าแมลง ดังนั้น สิ่งที่คุณจะคาดหวังได้จากผ้าชนิดนี้ คือ ผลในการป้องกันไม่ใช่การกำจัด แต่สำหรับบ้านไหนที่มีสัตว์เลี้ยงก็สามารถวางใจได้ค่ะ เพราะผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่นก็มีผลในการป้องกันเห็บหมัดด้วยเช่นกัน 

ผ้าปูที่นอนแบบกันน้ำมีประโยชน์อย่างมากสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำซึมลงไปถึงด้านในของฟูกนอนได้ ดังนั้น คุณจึงวางใจได้แม้ในเวลาฉุกเฉิน เพราะฟูกที่นอนนั้นยากต่อการทำความสะอาด ซึ่งผ้าปูที่นอนกันน้ำจะช่วยป้องกันน้ำและกลิ่นของปัสสาวะไม่ให้ซึมลงไปในฟูก และยิ่งหากเป็นผ้าปูที่นอนแบบรัดมุม ก็จะยิ่งทำให้เลื่อนหลุดได้ยาก จึงเป็นตัวช่วยในการป้องกันน้ำรั่วซึมชั้นเยี่ยมเลยล่ะค่ะ

ตามข้อมูลของสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ผ้ากันแบคทีเรีย คือ ผ้าที่มีการเคลือบสารประเภทนาโน เพื่อทำปฏิกริยาออกซิเดชันกับเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราและยับยั้งการเจริญเติบโตในเส้นใยผ้า ซึ่งสามารถก่อให้เกิดกลิ่นอับชื้นได้ โดยเฉพาะบนที่นอนที่มีโอกาสเกิดกลิ่นและแบคทีเรียได้ง่าย เพราะอาจมีเหงื่อ ความเปียกชื้น หรือแม้แต่เศษเส้นผมและคราบไคลต่าง ๆ ก็สามารถก่อให้เกิดแบคทีเรียได้ทั้งสิ้น ดังนั้น การเลือกผ้าปูที่นอนแบบป้องกันเชื้อแบคทีเรีย จึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้ที่นอนของคุณสะอาดและลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ค่ะ

ผ้าปูที่ให้ความเย็นเหมาะกับการใช้ในคืนที่อากาศร้อนอบอ้าว ซึ่งหากคุณรู้สึกเย็นสบายในขณะที่นอนลงบนที่นอน ก็จะทำให้สามารถหลับได้สนิท ไม่รู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ผ้าปูที่ทำจากผ้าที่ให้ความรู้สึกเย็นอย่างผ้าซาตินแทนก็ได้เช่นกัน เพราะเป็นผ้าที่สามารถให้ความเย็นและความนุ่มลื่น เบาสบายได้เป็นอย่างดี ในทางกลับกัน สำหรับหน้าหนาว ขอแนะนำให้คุณใช้ผ้าปูที่นอนที่ทำจากผ้าถักทออย่างผ้าถักไมโครไฟเบอร์จะดีที่สุด เพื่อให้คุณรู้สึกอบอุ่นและหลับสบาย อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยจะไม่ค่อยนิยมใช้ผ้าปูประเภทนี้กันมากเท่าไร เพราะสภาพอากาศในไทยไม่เอื้ออำนวยที่จะใช้ผ้าที่มีความหนานั่นเองค่ะ