10 Smart TV ราคาถูก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รุ่นประหยัดไม่เกิน 10000 บาท

นี่คือ Smart TV จาก Xiaomi ที่ทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ชิ้นบนแพล็ตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียดระดับ 4K UHD แสดงผลสีสัน 8-bit + FRC 1.07 พันล้านสี รองรับ MEMC 60Hz ที่สำคัญคือรองมี Dolby Vision® และ HDR10 รวมไปถึง HLG ช่วยให้การแสดงผลแสงและเงาของสื่อต่าง ๆ มีความสมจริงยิ่งขึ้น คอ Netflix Original ต้องถูกใจแน่นอน แถมยังมีมุมการมองเห็นทั้งแนวตั้งและแนวนอนกว้าง 178 องศา ไม่ว่าจะดูทีวีจากมุมไหนก็กระจายแสงได้ทั่วถึงและไม่มืดค่ะ

นอกจากระบบภาพแล้ว ระบบเสียงก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน ด้วยลำโพงคู่ระบบสเตอริโอ กำลังขับข้างละ 10W รวมทั้งหมด 20W แถมยังรองรับ Dolby Audio™ และ DTS-HD® เพื่อคอหนังและซีรีส์ที่ดูผ่านแอปฯสตรีมมิ่งที่รองรับต่าง ๆ โดยเฉพาะ นอกจากนี้ ทีวีรุ่นนี้ยังเป็นระบบ Android TV 10 แท้ ใช้งานลื่นไหลด้วย RAM 2GB และโหลดแอปฯได้เยอะขึ้นด้วยพื้นที่ความจุ 16GB อีกทั้งยังรองรับระบบ Dual WiFi ใช้อินเทอร์เน็ตได้เสถียรขึ้นค่ะ 

แม้ดีไซน์ภายนอกจะดูเป็น Smart TV รุ่นเก่าไม่ทันสมัย แต่ภายในประกอบด้วยฟีเจอร์และฟังก์ชันเด่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผลภาพ Hyper Real ให้ความละเอียดภาพระดับ HD Ready (1,366 x 768) ผสานกับเทคโนโลยีสีสัน PurColor และรองรับ HDR เสริมด้วยระบบ Contrast Enhancer เพื่อปรับการแสดงผลแสงและเงาให้สว่างยิ่งขึ้น ประกอบกับหน้าจอขนาด 32" ทำให้ Smart TV รุ่นนี้เหมาะกับคนที่มีพื้นที่ติดตั้งทีวีและงบประมาณที่จำกัด 

ระบบปฏิบัติการของรุ่นนี้นั้นเป็น TIZEN ที่คิดค้นและพัฒนาโดย SAMSUNG มีแอปพลิเคชันพื้นฐานครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Netflix, Web Browser อีกทั้งยังรองรับการสะท้อนหน้าจอจากสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต รวมไปถึงแล็บท็อปอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นที่รีโมตคอนโทรล One Remote และ Smart Hub ที่ช่วยให้ควบคุมการทำงานของทีวีง่ายขึ้นกว่ารีโมตทีวีทั่วไป ส่วนระบบเสียงเป็นลำโพงคู่สเตอริโอ กำลังขับรวม 10W ค่ะ 

นี่คือ Smart TV ราคาไม่เกิน 10,000 บาท รุ่นใหม่ล่าสุดจาก TCL ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลภาพอย่าง AIPQ2.0 ผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Dynamic Color Enhancement ที่ใช้ระบบ AI ในการวิเคราะห์และปรับแต่งสีสันของแหล่งกำเนิดภาพให้มีความสดใสสมจริงยิ่งขึ้น อีกทั้งรุ่นนี้ยังมีความละเอียดถึงระดับ 4K UHD รองรับ HDR10 แสดงผลแสงและเงาได้ดีดูมีมิติยิ่งขึ้น กระจายความสว่างทั่วทั้งหน้าจอได้อย่างสม่ำเสมอค่ะ

ในส่วนต่อมาคือระบบปฏิบัติการของทีวีที่รุ่นนี้เลือกใช้ก็คือ Google TV OS ที่จะแตกต่างจาก Android TV ตรงที่ UI ดูมีความทันสมัยและใช้งานง่ายขึ้น ส่วนฟังก์ชันการทำงานอื่น ๆ ไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant หรือการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ไม่ว่าจะเป็น HDMI 2.1, USB 3.0 รวมไปถึง Bluetooth 5.0 สำหรับเชื่อมต่อลำโพงหรือหูฟังไร้สายค่ะ 

นี่คือ Smart TV ราคาไม่เกิน 10,000 บาท อีกหนึ่งรุ่นยอดฮิตที่มาพร้อมกับความละเอียดระดับ 4K UHD HDR10 เสริมด้วยการรองรับ Dolby Vision™ HDR ผสานกับระบบปรับแต่งสีสัน Presicion Colour ช่วยให้คุณรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น แถมยังมี Game Mode และ Sports Mode เอาใจคอเกมและกีฬาโดยเฉพาะ และนอกจากระบบภาพแล้ว ก็ยังมาพร้อมกับระบบเสียง dts Virtual X ที่สามารถจำลองระบบเสียงรอบทิศทาง 5.1 ได้อีกด้วยค่ะ

ซึ่งรุ่นนี้ก็มีจุดที่ต้องพิจารณาอยู่บ้าง โดยเฉพาะการใช้ระบบปฏิบัติการ VIDAA U5 ซึ่งมีแอปพลิเคชันจำกัดเพียงไม่กี่แอปฯเท่านั้น แต่ก็มีข้อดีที่รุ่นนี้รองรับการใช้งานรีโมตฯผ่านสมาร์ตโฟน อีกทั้งยังสั่งงานด้วยเสียงด้วย VIDAAA VOICE บางคำสั่งได้ และยังสะท้อนหน้าจอจากอุปกรณ์ไร้สายได้แม้ไม่มี Chromecast แต่ถ้าหากคุณต้องการดู Disney Hotstar+, True ID, WeTV, Viu อาจต้องมองหา Smart TV รุ่นอื่นที่เป็น Android TV แทนค่ะ

เรียกได้ว่าเป็น Smart TV ราคาไม่เกิน 10,000 บาท อีกหนึ่งรุ่นสุดคุ้ม เพราะในราคานี้ได้ทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 55" ความละเอียดระดับ 4K UHD แถมยังทำงานบนระบบปฏิบัติการ Google TV เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการดูหนังและซีรีส์บนแอปฯสตรีมมิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Prime Video, HBO Max, WeTV, Youtube, Spotify และอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมเทคโนโลยี Flicker Free ลดการกระพริบของหน้าจอ เพื่อปกป้องดวงตาของคุณ

นอกจากเทคโนโลยีลดจอกระพริบแล้ว ยังมี Low Blue Light ที่ช่วยลดการแสดงผลแสงสีฟ้าจากหน้าจอ ให้คุณไม่รู้สึกแสบตาแม้ดูทีวีในที่แสงน้อย ที่สำคัญคือรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบประมวลผลภาพ Chameleon Extreme 2.0 พร้อม HDR10 และ HLG ผสานกับระบบเสียง Dolby Audio และ dts Studio Sound ให้ความคมชัดทั้งงานภาพและเสียง นอกจากนี้ ยังมี Filmmaker Mode ที่จะปรับรายละเอียดของภาพให้เหมาะกับการดูหนังโดยเฉพาะค่ะ

แม้จะเป็น Smart TV ขนาด 32" แต่ด้วยเทคโนโลยีพิเศษของ TOSHIBA จึงทำให้รุ่นนี้มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะระบบประมวลผลภาพ REGZA Engine และเทคโนโลยีจอภาพ Essential PQ ที่ภายในประกอบด้วยระบบ Colore Re-Master และ Contrast Booster พร้อมเทคโนโลยีลดภาพแตก Digital Noise Reduction ทำให้การแสดงผลภาพ รวมไปถึงแสงและเงามีความสมจริงและคมชัด ถึงแม้ว่าทีวีจะรองรับความคมชัดที่ระดับ HD ก็ตาม 

ต่อมาคือลำโพงของทีวีรุ่นนี้ที่เป็นแบบสเตอริโอ กำลังขับรวม 20W เทคโนโลยี REGZA Power Audio ที่ผสานการปรับแต่งเสียงให้มีมิติยิ่งขึ้นด้วยระบบ Dolby Audio และ dts HD อีกทั้งยังมี Game Mode และ Sports Mode ที่จะปรับเฟรมภาพให้ลื่นไหลและลด Input Lag สำหรับคอกีฬาและเหล่าเกมเมอร์โดยเฉพาะ ส่วนระบบปฏิบัติการเป็น VIDAA Smart TV ที่มี UI สวยงาม ใช้งานง่าย แถมยังเชื่อมต่อแอปฯเพื่อควบคุมทีวีผ่านสมาร์ตโฟนได้อีกด้วยค่ะ

Smart TV ราคาไม่เกิน 10,000 บาท รุ่นนี้ มาพร้อมกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 55" ความละเอียด 4K UHD 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับดีไซน์แบบไร้ขอบ โดยมีเปอร์เซ็นต์การมองเห็นกว่า 95% ช่วยให้คุณได้ดูคอนเทนต์ภาพได้อย่างเต็มอิ่มจุใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังรองรับ HDR10 และ Dolby Vision เพื่อเสริมรายละเอียดแสงและเงาให้ชัดเจนมองเห็นง่าย ส่วนระบบเสียงมีกำลังขับรวม 10W โดยได้รับการปรับแต่งเสียงจาก Dolby Audio แถมยังมีฟังก์ชันปรับ EQ ด้วยตัวคุณเองได้อีกด้วย

ระบบปฏิบัติการของรุ่นนี้เป็น Android TV 9 Pie ที่สามารถอัปเกรดเป็น Android TV 10 ได้ ส่วน RAM ให้มา 2GB แต่น่าเสียดายที่ให้พื้นที่เก็บข้อมูลเพียง 8GB เท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับโหลดแอปฯไว้ในเครื่องเยอะเกินไป ส่วนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ทำได้ทั้งผ่านพอร์ต RJ45 และ Wi-Fi สะท้อนหน้าจอผ่าน Chromecast ได้ อีกทั้งยังรองรับ Bluetooth 5.0 เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไร้สายอื่น ๆ และข้อพิจารณาอีกหนึ่งอย่างก็คือ รุ่นนี้ไม่มีระบบประมวลผลภาพค่ะ 

จุดเด่นของ Smart TV ราคาไม่เกิน 10,000 บาท ขนาด 43" รุ่นนี้ก็คือ มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลภาพ Trochilus Extreme 2.0 ที่ช่วยประมวลผลและปรับแต่งสีสัน รวมไปถึงแสงและเงาให้ภาพมีความสดใสและคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Android TV 11 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด รองรับแอปพลิเคชันสตรีมมิ่งมากมาย รวมถึงมี Chromecast Built-in ในตัว สามารถสะท้อนหน้าจอจากสมาร์ตโฟนหรือแล็บท็อปได้สะดวกค่ะ

นอกจากนี้ ทีวีรุ่นนี้ยังมีเทคโนโลยี Flicker Free ลดภาพฉีกขาดเพื่อถนอมสายตา อีกทั้งยังมาพร้อมกับ Game Mode เพื่อให้เกมเมอร์ชาวคอนโซลเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ส่วนระบบเสียงเป็น Dolby Audio ผสานกับลำโพงกำลังขับ 8W สามารถใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียง Google Assistant ผ่านรีโมตทีวีได้ แต่ข้อพิจารณาของรุ่นนี้ก็คือความละเอียดที่ให้มาระดับ Full HD และ RAM ที่ให้มาเพียง 1GB จึงอาจทำให้การใช้งานทีวีไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไรนักค่ะ

เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพดีจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Panasonic กันดี ซึ่งคราวนี้มาพร้อมกับ Smart TV ราคาไม่เกิน 10,000 บาท ขนาด 32" ความคมชัดระดับ HD ที่มีหมัดเด็ดอย่างระบบประมวลผลภาพ Vivig Digital Pro ที่ไม่เพียงแต่ปรับปรุงสีสันของภาพให้มีความสดใสเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับคอนทราสต์ ความคมชัด รวมถึงผิวพรรณของบุคคลให้ดูเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับคอนเทนต์ต้นฉบับมากที่สุดค่ะ

ระบบเสียงเป็นเทคโนโลยี Dolby Digital Plus ผสานกับลำโพงคู่ระบบสเตอริโอ 2.0 Ch กำลังขับข้างละ 8W รวมทั้งหมด 16W เหมาะกับห้องขนาดไม่เกิน 20 ตร.ม. และสำหรับระบบปฏิบัติการของทีวีเป็น Android TV รองรับการใช้งาน 41 ภาษา พร้อมกับ Chromecast Built-in ในตัว สะท้อนหน้าจอจากสมาร์ตโฟนได้ทันที ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็ให้มาทั้ง HDMI 1.4 และ USB 2.0 รวมไปถึง RJ45 สำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบ้านโดยตรงค่ะ

ACONATIC เป็นแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติไทยแท้ ที่คราวนี้มาพร้อมกับ Smart TV ราคาไม่เกิน 10,000 บาท ระบบ Android TV 11 ลิขสิทธิ์แท้ มี Widevine L1 ทำให้สามารถรับชมแอปฯสตรีมมิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยความคมชัดสูงสุดที่ทีวีรองรับ โดยรุ่นนี้มีขนาดหน้าจอที่ 43" ระดับ Full HD ออกแบบมาให้เป็นแบบไร้ขอบ ดูคอนเทนต์ได้อิ่มตาอิ่มใจไม่ต้องมีขอบทีวีมาดึงดูดความสนใจ อีกทั้งยังสามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant ผ่านรีโมตได้อีกด้วย

ส่วน RAM ให้มาที่ 1GB หากว่ากันตามตรงอาจจะใช้งานได้ไม่ลื่นไหลเท่าไรนัก โดยเฉพาะเวลาเข้าแอปพลิเคชันต่าง ๆ ต้องรอดาวน์โหลดหลายวินาที ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลอยู่ที่ 8GB ในระดับมาตรฐาน แต่ก็ยังดีที่รุ่นนี้มีชิปประมวลผลภาพในตัว ทำให้สีสันและคอนทราสต์ของภาพมีความสว่างสมจริงยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบเสียง Dolby Digital และลำโพงคู่สเตอริโอกำลังขับรวม 16W ในเรื่องของภาพและเสียงจึงยังถือว่าทำได้สมราคาค่ะ