หากพูดถึงแบรนด์สกินแคร์และเครื่องสำอางที่เลือกใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและมีความอ่อนโยนต่อผิวแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะต้องนึกถึงThe Body Shop แบรนด์ดังจากประเทศอังกฤษเป็นอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เพราะเป็นแบรนด์ที่เน้น Concept หลักในเรื่องการใช้ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ อีกทั้งยังใช้วิธีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกับผลิตภัณฑ์ดูแลบำรุงผิวทุกประเภท จึงทำให้ The Body Shop ถูกเลือกเป็นไอเทมที่สาว ๆ จากทั่วทุกมุมโลกต่างก็หลงรักนั่นเองค่ะ
ปัจจุบัน The Body Shop มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้มากมายหลายประเภทและหลายสูตร ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติเด่นและจุดประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น ในวันนี้เราจึงจะมาเป็นผู้ช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อสกินแคร์จากแบรนด์ The Body Shop มาใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสภาพผิวและช่วยดูแลปัญหาความงามที่คุณเผชิญอยู่ได้ดีกว่าเดิม ด้วยการนำเสนอทั้งวิธีการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ พร้อม 10 อันดับ ผลิตภัณฑ์น่าใช้จาก The Body Shop มาฝากกัน รับรองได้เลยว่าตอบโจทย์ได้ทั้งปัญหาผิวมัน ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หรือแม้แต่ปัญหาริ้วรอยเลยค่ะ
Top 5 The Body Shop ยอดนิยม
The Body Shop
ฟื้นบำรุงผิวให้อ่อนเยาว์ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ
The Body Shop
เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวด้วยวิตามินซีธรรมชาติจากผลคามูคามู
The Body Shop
ผสานพลังจากน้ำมันบริสุทธิ์ที่ช่วยผิวเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
The Body Shop
ยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว พร้อมขจัดความมันส่วนเกิน
คุณอีฟใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2017 และทำงานเป็นพนักงานประสานงานระหว่างคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติในจังหวัดคานะกะวะ นอกเหนือจากงานหลักแล้ว คุณอีฟยังทำงานเป็นล่ามฟรีแลนซ์และมีความสนใจในเรื่องเครื่องสำอางและสกินแคร์ โดยชอบติดตามเทรนด์ความงามทั้งจากแบรนด์ญี่ปุ่นและอื่น ๆ ทดลองผลิตภัณฑ์ และอ่านรีวิวเกี่ยวกับเครื่องสำอางและสกินแคร์อยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังมีประสบการณ์แต่งหน้าสำหรับงานต่าง ๆ ทั้งในไทยและญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นแต่งหน้าเจ้าสาว แต่งหน้ารับปริญญา หรือแต่งหน้าออกงาน ทำให้คุณอีฟเข้าใจการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวและโอกาสต่าง ๆ ซึ่งนอกจากด้านความงามแล้ว คุณอีฟยังรักการทำอาหาร โดยเฉพาะการคิดค้นสูตรใหม่ ๆ ที่ผสมผสานระหว่างอาหารไทยและญี่ปุ่น รวมถึงสอนทำอาหารไทยให้กับคนญี่ปุ่นเป็นครั้งคราว จึงชอบทดลองวัตถุดิบที่หาได้ในญี่ปุ่น และปรับรสชาติให้เข้ากับวัฒนธรรมการกินของที่นี่ อีกทั้งยังสนุกกับการแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคแต่งหน้า การเลือกสกินแคร์ หรือการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประโยชน์
สารบัญ
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
Anita Roddick เป็นสาวอังกฤษคนแรกที่ได้ทำการก่อตั้งแบรนด์ The Body Shop ขึ้นในปี ค.ศ. 1976 โดยมีคอนเซ็ปต์ คือ การนำส่วนผสมจากธรรมชาติมาผสมผสานกับกรรมวิธีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการผลิตเครื่องสำอางและสกินแคร์ออกมา ไม่ทำการทดลองกับสัตว์และพยายามลดขยะที่จะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ให้ได้มากที่สุด แต่ตัวผลิตภัณฑ์ก็ต้องมีคุณภาพที่สามารถช่วยดูแลและบำรุงผิวพรรณได้อย่างแท้จริง ซึ่งเธอก็ทำได้สำเร็จ เพราะแบรนด์ The Body Shop นั้นเรียกได้ว่ามีแฟนคลับที่จงรักภักดีกันอยู่ทั่วโลก
ความโดดเด่นอีกหนึ่งจุดของ The Body Shop คือ กลิ่นหอมของผลิตภัณฑ์ที่ให้ความใกล้เคียงกับของจริงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นไอเทมที่ใช้สำหรับผิวหน้า เส้นผม ร่างกายหรือริมฝีปาก อีกทั้งยังมีการพัฒนาและวิจัยสินค้าอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้กลายเป็นแบรนด์สกินแคร์ในดวงใจของใครหลายคนได้อย่างไม่ยากเย็นเลยค่ะ
The Body Shop นั้นมีผลิตภัณฑ์หลายประเภทและหลายกลุ่มสินค้า ซึ่งมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการเข้าใจเคล็ดลับและวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์ย่อมจะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จาก The Body Shop มาใช้ได้อย่างตรงตามความต้องการมากขึ้นนั่นเอง
อย่างแรกที่เราต้องมาพิจารณากันก็คือกลุ่มของผลิตภัณฑ์นั่นเอง เพราะ The Body Shop นั้นพยายามผลิตสกินแคร์ออกมาให้ดูแลความงามโดยรวมของร่างกายตั้งแต่ผิวหน้า ผิวกายและเส้นผม ถ้าคุณรู้จักกับไอเทมในแต่ละกลุ่มก็จะข่วยให้คุณมองหาสิ่งที่คุณต้องการใช้ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องมากขึ้น
ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้านั้น The Body Shop ก็มีให้เลือกครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนแรกสุด นั่นก็คือ การทำความสะอาดผิว ไม่ว่าจะเป็น Cleansing ทำความสะอาดเครื่องสำอางในรูปแบบของน้ำและครีม มี Cleanser ซึ่งเป็นสบู่ทำความสะอาดผิวทั้งในรูปแบบโฟมหรือเจล นอกจากนี้ ยังมี Scrub และ Mask ซึ่งจะเป็นตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพเพื่อเปิดรับเซลล์ผิวใหม่อีกด้วย
อีกทั้งยังมีในขั้นตอนของการบำรุงผิวที่มีทั้ง Toner และ Lotion ซึ่งเป็นตัวปลอบประโลมผิวทันทีหลังการล้างหน้า ตามด้วย Serum เพื่อดูแลผิวอย่างเข้มข้นในเรื่องปัญหาผิวที่คุณกังวล Moisturizer ที่ช่วยบำรุงให้ความชุ่มชื้นกับผิวอย่างเพียงพอ และ Eye Care ตัวบำรุงรอบดวงตาเป็นพิเศษ
ในส่วนสุดท้ายสำหรับผิวหน้าคือ ผลิตภัณฑ์กันแดด ที่จะช่วยป้องกันผิวจากรังสียูวีจากแสงแดดซึ่งเป็นศัตรูทำลายผิวให้เสื่อมสภาพจนก่อให้เกิดเป็นปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาได้
The Body Shop ได้ออกแบบสินค้ามาหลายชนิดที่ช่วยดูแลทั้งผิวกายโดยมีความคล้ายคลึงกับผิวหน้าตรงที่มีทั้งสบู่ทำความสะอาดที่มีทั้งแบบเหลวและแบบก้อน ที่มีกลิ่นหอมจากดอกไม้ ผลไม้และสารสกัดนานาชนิดจากธรรมชาติที่ทั้งทำความสะอาดและให้กลิ่นหอมชวนผ่อนคลาย
และมีกลุ่มโลชั่นและครีมบำรุงผิวที่มีความเข้มข้นสูงจากน้ำมันธรรมชาติ ซึ่งโลชั่นแม้ว่าจะไม่มีความเข้มข้นเท่าแบบครีม แต่มีความบางเบาและเหนียวน้อยกว่า จึงเหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันและคนที่มองหาไอเทมบำรุงผิวไว้ใช้ในระหว่างวัน แต่สำหรับคนที่ผิวแห้งกร้านมาก ๆ ควรเลือกใช้เป็น Body Butter ที่เป็นครีมบำรุงผิวเข้มข้นสามารถเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวได้เต็มเปี่ยม
หนังศีรษะและเส้นผมก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ต้องการการดูแลอย่างอ่อนโยน ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ของ The Body Shop ก็ถูกออกแบบมาเพื่อคำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก โดยเลือกใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากสารที่อาจจะก่อให้เกิดการอุดตันและระคายเคืองอย่างเช่น ซิลิโคนและสีสังเคราะห์ นอกจากจะมีไอเทมที่เป็นแชมพูและครีมนวดแล้ว ยังมี Hair Mask, Hair Scrub และ Hair Serum เพื่อคนที่ต้องการดูแลเส้นผมเป็นพิเศษอีกด้วย
จุดประสงค์หลัก ๆ ที่หลายคนเลือกใช้สกินแคร์ก็เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาจุดบกพร่องต่าง ๆ ตามผิวกาย ผิวหน้าหรือเส้นผม The Body Shop จึงคำนึงถึงในส่วนนี้โดยใช้ส่วนผสมหลักจากธรรมชาตินานาชนิดที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยมในการดูแลปัญหาผิวต่าง ๆ ถ้าคุณเข้าใจปัญหาผิวที่เผชิญอยู่แล้วล่ะก็ จะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ได้ตอบโจทย์มากขึ้นค่ะ
นับว่าเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับใครหลายคนเลยทีเดียว สำหรับเรื่องความแห้งกร้านที่เกิดขึ้นได้ทั้งกับผิวหน้า ผิวกายและเส้นผม ซึ่งความแห้งกร้านขาดน้ำที่เกิดขึ้นกับผิวหน้านั้นจะส่งผลให้ผิวหน้ามีอาการแห้งลอกและแตกเป็นขุยได้ อีกทั้งยังกระตุ้นให้ผิวดูเหี่ยวก่อนวัยอีกด้วย ในส่วนของผิวกายนั้นความแห้งจะทำให้ผิวบริเวณข้อศอกหรือหัวเข่าเกิดอาการแข็งด้านและเปลี่ยนเป็นสีคล้ำได้ ซึ่งส่วนผสมหลักที่ The Body Shop ใช้ในการดูแลปัญหาเหล่านี้ก็คือ Hemp Seed Oil, Coconut Oil, Shea Butter, Vitamin E และ Chamomile
สำหรับสุขภาพเส้นผมแล้ว ถ้าเกิดความแห้ง ผมก็จะมีความชี้ฟูและจัดทรงได้ยาก ไม่เงางาม บางคนอาจจะแห้งจนถึงขั้นทำให้เกิดเส้นผมแตกปลายได้ ดังนั้น การเลือกใช้แชมพูและผลิตภัณฑ์บำรุงผมของ The Body Shop ที่มีส่วนผสมของกล้วยหอมและ Shea Butter จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเคลือบลงบนเส้นผมได้ค่ะ
ปัญหาชวนปวดหัวอีกหนึ่งอย่างที่หลายคนต้องเผชิญก็คือ ปัญหาความมันส่วนเกินที่เกิดขึ้นได้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ถ้าเป็นความมันส่วนเกินบนผิวหน้า ก็จะก่อให้เกิดปัญหาหน้ามันเยิ้ม เครื่องสำอางไม่ติดทนและก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย ซึ่ง The Body Shop เลือกใช้ส่วนผสมอย่าง Tea Tree Oil ที่ช่วยยับยั้งความมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี Himalayan Charcoal ที่ช่วยดูดซับความมันส่วนเกิน
ส่วนความมันส่วนเกินบนผิวกาย จะไม่ค่อยก่อปัญหาใด ๆ บนผิว แต่อาจจะทำให้เกิดความเหนียวเหนอะหนะในระหว่างวันถ้าใช้ครีมบำรุงที่มีเนื้อสัมผัสหนาจนเกินไป The Body Shop ก็ มี Body Yogurt ที่เป็นเจลบำรุงผิวน้ำหนักเบา ซึมลงสู่ผิวได้รวดเร็วและมีความหอมสดชื่นจากผักและผลไม้ต่าง ๆ อย่าง แตงกวา สตรอว์เบอร์รี และมะม่วง
ความมันบนเส้นผมมักจะทำให้ผมนั้นจับตัวเป็นก้อนเหนียว ลีบ แลดูไม่มีชีวิตชีวา หนังศีรษะเกิดอาการอุดตันและเป็นรังแคได้ The Body Shop ได้เลือกใช้ Fuji Green Tea จากประเทศญี่ปุ่นมาเป็นส่วนผสมที่จะช่วยขจัดความมันและควบคุมสมดุลบนเส้นผมให้ดียิ่งขึ้น
คนที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่ายจะต้องปวดหัวกับปัญหานี้อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากการเกิดการอักเสบและระคายเคือง นอกจากจะสร้างความรำคาญใจแล้ว ยังทำให้เกิดเป็นผื่นหรืออาการข้างเคียงต่าง ๆ ที่จะทำให้หมดความสวยงามอีกด้วย
ปัญหาการอักเสบและการระคายเคืองที่เกิดขึ้นกับผิวหน้าและผิวกาย มักจะเป็นในเรื่องของสิวและผดผื่น ซึ่งสามารถบรรเทาลงได้ด้วยส่วนผสมอย่าง Tea Tree Oil และหากใครที่ต้องการการปลอบประโลมผิวมากเป็นพิเศษก็อาจจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Aloe Vera และ Chamomile ก็ได้ด้วยเช่นกัน ในส่วนของผิวกาย หากใครผิวแห้งลอกอยู่บ่อยครั้งควรจะเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ Almond Milk และ น้ำผึ้ง
สำหรับปัญหาความอักเสบที่เกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะ เราขอแนะนำให้คุณพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษา แต่หากใครที่ต้องการมองหาแชมพูที่มีความอ่อนโยน อาจจะเลือกแชมพูของ The Body Shop ที่มีส่วนผสมของ Shea Butter ที่นอกจากจะอ่อนโยนแล้วยังเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นอย่างดี
ความโรยราเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้น ผิวหน้าก็จะเกิดการเสื่อมสภาพไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของความยืดหยุ่นบนผิวหน้าที่จะลดน้อยลงทำให้เกิดเป็นริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ และความหมองคล้ำที่จะพบได้มากขึ้น อาจจะพบเป็นจุดด่างดำหรือเป็นฝ้า กระ บนใบหน้าก็ได้ The Body Shop ใช้สเต็มเซลล์จากพืชมากระตุ้นการเกิดของเซลล์ผิวใหม่ซึ่งพบได้ในกลุ่มสกินแคร์ Drops Of Youth และยังมีน้ำมันธรรมชาติอย่าง Black Cumin Seed Oil, Camellia Seed Oil และ Rosehip Seed Oil ที่ช่วยในเรื่องริ้วรอย พบได้ในกลุ่ม Oils Of Life มีการใช้วิตามินซีที่ได้จากผล Camu Camu ซึ่งช่วยในเรื่องของการเพิ่มความกระจ่างใสและเรียบเนียนให้ผิว
ในส่วนผิวกายนั้น มักจะพบกับความแห้งกร้านที่เพิ่มขึ้นเพราะเกราะป้องกันผิวนั้นอ่อนแอลง การใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ Olive Oil, Argan Oil และสารสกัดจากดอกกุหลาบจะช่วยเพิ่มความเปล่งปลั่งให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาวน์ได้
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | The Body Shop Drops of Youth™ Youth Concentrate | ![]() | ฟื้นบำรุงผิวให้อ่อนเยาว์ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ | |
2 | The Body Shop Vitamin C Glow Boosting Moisturiser | ![]() | เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวด้วยวิตามินซีธรรมชาติจากผลคามูคามู | |
3 | The Body Shop Oils Of Life Intensely Revitalising Facial Oil | ![]() | ผสานพลังจากน้ำมันบริสุทธิ์ที่ช่วยผิวเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ขึ้น | |
4 | The Body Shop Tea Tree Anti-Imperfection Daily Solution | ![]() | ยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว พร้อมขจัดความมันส่วนเกิน | |
5 | The Body Shop Shea Nourishing Butter | ![]() | หมดปัญหาผิวแห้งด้าน เพิ่มความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง | |
6 | The Body Shop Japanese Matcha Tea Pollution Clearing Mask | ![]() | ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ปกป้องผิวจากมลภาวะ PM2.5 | |
7 | The Body Shop British Rose Shower Gel | ![]() | อาบน้ำแบบ Soap Free ถนอมผิว สดชื่นจากกลิ่นกุหลาบอังกฤษ | |
8 | The Body Shop Ginger Anti-Dandruff Shampoo | ![]() | เพิ่มสมดุลบนหนังศีรษะและขจัดรังแคด้วยสารสกัดจากขิง | |
9 | The Body Shop Aloe Calming Foaming Wash | ![]() | ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ปราศจากสารระคายเคือง | |
10 | The Body Shop Grapeseed Glossing Serum | ![]() | คุณค่าจากเมล็ดองุ่น บำรุงผมให้ดูเงางามเปล่งประกาย |
เซรั่มบำรุงผิวหน้าที่เรียกได้ว่าเป็นไอเทมในดวงใจของทั้งแฟน ๆ The Body Shop และคนทั่วไป โดยเหตุผลสำคัญที่ครองใจทุกคนคือสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นสเต็มเซลล์จากพืชธรรมชาติและน้ำมันสกัดจากพืชที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปรับสมดุลผิวในด้านต่าง ๆ เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว มีเนื้อสัมผัสเป็นเจลเหลวใสที่ซึมลงผิวได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้แล้วเห็นผลในหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นผิวที่ดูเรียบเนียนมากขึ้น นุ่มชุ่มชื้นมากขึ้น และอีกทั้งยังมีความกระจ่างใสเพิ่มขึ้นอีกด้วย
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่หลายคนเทใจให้เพราะมีส่วนผสมอย่างวิตามินซีจากธรรมชาติ โดยสกัดจากผลคามูคามู ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญในการลดความหมองคล้ำและเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว นอกจากนี้ยังเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่จะทำให้ผิวเกิดการเสื่อมสภาพ ผู้ใช้ชอบเนื้อสัมผัสที่เป็นเจลอย่างมาก เพราะมีความบางเบาและซึมลงผิวได้เร็ว สาวผิวมันก็ใช้ได้ และเหมาะกับคนที่มองหาครีมบำรุงไว้ใช้ก่อนแต่งหน้าอีกด้วย
เซรั่มน้ำมันบำรุงผิวเข้มข้นจาก The Body Shop รุ่นนี้ เรียกได้ว่าชนะใจผู้ใช้ที่มีปัญหาผิวแห้งและผู้ที่มีผิวเสื่อสภาพตามวัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องริ้วรอย ร่องลึกและความหมองคล้ำ เพราะมีส่วนผสมที่เป็นฮีโร่กอบกู้ผิวถึง 3 ชนิด ช่วยให้ความชุ่มชื้น บำรุงผิวให้มีความเนียนกระชับ ถึงจะมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ แต่หลายคนก็ยืนยันว่าเนื้อเซรั่มมีความบางเบาและซึมลงสู่ผิวได้ง่าย ใช้แล้วผิวนุ่มลื่นและเรียบเนียนมากขึ้น
เซรั่มบำรุงผิวหน้าสำหรับคนที่มีปัญหาสิวอักเสบบนใบหน้า เพราะมีส่วนผสมสำคัญอย่าง Tea Tree Oil ที่ช่วยยับยั้งและกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหลักในการก่อให้เกิดสิว นอกจากนี้ยังช่วยขจัดความมันส่วนเกิน ควบคุมสมดุลบนผิวหน้าให้มีสุขภาพดี ผู้ใช้เห็นผลในเรื่องของสิวที่ยุบและจางเร็วขึ้น เนื้อเซรั่มบางเบาและสามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งความมันเอาไว้บนผิว มีกลิ่นหอมที่ทำให้ผ่อนคลาย
เรียกได้ว่าเป็นครีมทาผิวสามัญประจำโต๊ะสำหรับคนผิวแห้ง หรือคนที่มีปัญหาผิวบริเวณข้อศอกและหัวเข่ามีความด้านและคล้ำ เพราะครีมทาผิวรุ่นนี้อยู่ในรูปแบบของ Body Butter ที่มีความเข้มข้นของสารบำรุงให้ความชุ่มชื้นหลายตัวโดยตัวหลัก ๆ ที่รู้จักกันดีคือ Shea Butter และ Cocoa Butter เคลือบให้ความชุ่มชื้นและล็อคน้ำในผิวได้ยาวนาน ใช้แล้วทำให้ผิวนั้นมีความนุ่มลื่นมากขึ้น ทำให้ผิวที่เคยมีรอยด้านดูจางลง
มาส์กพอกหน้าชาเขียวจากประเทศญี่ปุ่นที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยมในการ Detox ผิวหน้า ทั้งช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและฟื้นบำรุงผิวที่ถูกทำลายจากมลภาวะฝุ่น PM2.5 จากการรีวิวของผู้ใช้พบว่าเนื้อมาส์กนั้นเป็นลักษณะโคลนนุ่มลื่น ที่มีเนื้อแน่นแต่ไม่เหนียว สามารถเกลี่ยลงบนผิวได้ง่าย มีกลิ่นหอมชาเขียว เมื่อทิ้งมาส์กเอาไว้บนใบหน้าจะรู้สึกเย็นสบายและบรรเทาอาการระคายเคืองของผิว และล้างออกได้ง่ายอีกด้วย
เจลอาบน้ำที่เป็นที่ประทับใจของหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะมีกลิ่นกุหลาบอังกฤษแบบเข้มข้น ที่ให้ความหอมสดชื่นชวนให้รู้สึกผ่อนคลายแล้ว สารสกัดจากดอกกุหลาบนี้ยังมีคุณสมบัติในการช่วยปลอบประโลมให้ความชุ่มชื้นให้ผิวอีกด้วย เป็นสูตร Soap Free ที่ไม่มีส่วนผสมของ SLS ที่มักจะทำให้ผิวมีความแห้งกร้านหลังจากอาบน้ำ เมื่อใช้เจลอาบน้ำรุ่นนี้แล้ว หลายคนต่างก็บอกกันเลยว่าผิวยังคงมีความนุ่มเนียน
แชมพูที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากขิงที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยมในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศีรษะ ทำให้หนังศีรษะเกิดความสมดุลมากขึ้น ไม่มันหรือแห้งจนเกินไป ผู้ใช้แชมพูรุ่นนี้พบว่าสามารถล้างขจัดสิ่งสกปรกบนเส้นผมได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกสดชื่นและสะอาด อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการเกิดรังแคที่ทำให้ผมดูไม่ชวนมอง ช่วยให้ปัญหาอาการคันระคายเคืองบนหนังศีรษะลดน้อยลงอีกด้วย
คนที่ประสบปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่าย ต้องการความละเอียดอ่อนในการทำความสะอาดผิวหน้าจะต้องชื่นชอบโฟมล้างหน้ารุ่นนี้ เพราะจากความเห็นของผู้ใช้นั้นติดใจเนื้อฟองนุ่ม ๆ ของโฟมล้างหน้าที่ทำความสะอาดได้อย่างหมดจดแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้ผิวนั้นเกิดความแห้งตึงหลังการล้าง มีส่วนผสมของ Aloe Vera ที่ช่วยปลอบประโลมผิว อีกทั้งไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
เป็นไอเทมที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อคนที่มีปัญหาผมแห้งแตกปลายโดยเฉพาะ เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันงาและสารสกัดจากเมล็ดองุ่นที่มีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและเพิ่มความเงางามให้ผมดูเปล่งประกายดูมีสุขภาพดี ผู้ใช้ยังถูกใจเรื่องของเนื้อสัมผัสที่เป็นเจลเหลวใส ไม่ทำให้ผมเหนียวหรือพันกัน ที่สำคัญยังมีกลิ่นหอมมาก ๆ หลายคนพบว่าเมื่อใช้แล้วผมมีความนุ่มลื่นจัดทรงได้ง่ายมากขึ้นด้วย
อันดับที่ 1: The Body Shop|Drops of Youth™ Youth Concentrate
อันดับที่ 2: The Body Shop|Vitamin C Glow Boosting Moisturiser
อันดับที่ 3: The Body Shop|Oils Of Life Intensely Revitalising Facial Oil
อันดับที่ 4: The Body Shop|Tea Tree Anti-Imperfection Daily Solution
อันดับที่ 5: The Body Shop|Shea Nourishing Butter
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ