"น้ำหอม" อีกหนึ่งไอเทมเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะช่วยระงับกลิ่นกายแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ที่อยู่นอกเหนือการรับรู้ด้วยตาเปล่า เพิ่มเอกลักษณ์และความเป็นตัวคุณได้ โดยหนึ่งในแบรนด์น้ำหอมที่มีราคาสบายกระเป๋าและมีคุณภาพดีจนกลายเป็นกระแสฟีเวอร์ คงหนีไม่พ้นน้ำหอมจากแบรนด์ MINISO ที่มีน้ำหอมหลายรุ่น Sold out ทั้งออฟไลน์และออนไลน์เลยค่ะ
น้ำหอมจากแบรนด์ MINISO มีให้เลือกหลากกลิ่นและหลายดีไซน์ของบรรจุภัณฑ์ วันนี้เราจะขอแนะนำ 10 อันดับ น้ำหอม MINISO ที่ใช้ดีจนต้องบอกต่อในราคาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ โดยมีทั้งรุ่นสำหรับผู้ชายและผู้หญิง พร้อมเคล็ดลับดี ๆ สำหรับวิธีการเลือกน้ำหอมให้เข้ากับตนเองมาฝากทุกคนกันด้วย
Top 5 น้ำหอม Miniso ยอดนิยม
MINISO
หอมสะอาด เย็นสดชื่น ด้วยความหอมจากชาเขียว เหมาะกับฤดูร้อน
คุณเบสท์เป็นนักเขียนด้านความงามและไลฟ์สไตล์ที่มีความสนใจเกี่ยวกับของใช้ส่วนตัวและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายเป็นพิเศษ มีประสบการณ์ในการเขียนบทความรีวิวและแปลคอนเทนต์ภาษาอังกฤษ-ไทย ให้กับเว็บไซต์ต่างประเทศ ทำให้คุ้นเคยกับการสืบค้นข้อมูลและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผู้บริโภค ด้วยความสนใจด้านสุขภาพและการดูแลตัวเอง คุณเบสท์จึงให้ความสำคัญกับการเลือกใช้สกินแคร์ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ของใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมสุขอนามัย ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟันไฟฟ้า เครื่องโกนขน โลชั่นบำรุงผิว หรือผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดร่างกายต่าง ๆ โดยมักจะศึกษาส่วนผสมและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้มีคุณภาพและปลอดภัย จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้คุณเบสท์มีความสามารถในการถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้อ่านง่าย เข้าใจได้เร็ว เพื่อช่วยให้ผู้อ่านตัดสินใจเลือกสินค้าที่เหมาะกับตนเองมากที่สุด อีกทั้งยังชอบติดตามเทรนด์ความงาม เทคโนโลยีด้านสุขภาพ และแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทำให้บทความมีข้อมูลที่ทันสมัยและน่าเชื่อถืออีกด้วย
สารบัญ
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
MINISO ร้านค้าปลีกที่ดึงดูดทุกสายตาด้วยการตกแต่งร้านสไตล์มินิมอล เน้นการใช้โทนสีอ่อนเสริมความสว่างด้วยหลอดไฟทั่วทั้งร้าน โดยจุดเด่นของทางแบรนด์ คือ ดีไซน์ของสินค้าที่เรียบง่าย มาพร้อมราคาสบายกระเป๋า โดยจุดเริ่มต้นของแบรนด์ MINISO ถือกำเนิดมาจากประเทศจีน มีผู้ก่อตั้งหลัก คือ คุณเย่กั๋วฟู่ (Ye Guofu) และคุณมิยาเกะ จุนยะ (Miyake Junya) ที่ร่วมกันพัฒนาจนกลายมาเป็นแบรนด์สินค้ามินิมอลอันโด่งดังและมีสาขาทั้งหมดมากกว่า 4,200 สาขาทั่วโลกกว่า 80 ประเทศ ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี
โดย MINISO ได้วางจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่เครื่องใช้ภายในบ้าน, เครื่องสำอาง, สินค้าแฟชั่น, เครื่องเขียน ไปจนถึงสินค้าประเภท IT ต่าง ๆ ซึ่งนอกเหนือจากสินค้า Original แล้ว ทางแบรนด์ยังมีสินค้าที่เป็นการร่วมงานกับแบรนด์อื่น ๆ เช่น WE BARE BEARS Collection และ MARVEL Collection เรียกได้ว่า ต่อให้ใครเข้ามาเดินเล่นแบบไม่ได้ตั้งใจ ก็ต้องได้ของติดไม้ติดมือกลับไปอย่างน้อยหนึ่งชิ้นแน่นอนค่ะ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่า ควรจะเลือกซื้อน้ำหอมอย่างไร และมีอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนจะไปเลือกซื้อน้ำหอมที่ร้าน วันนี้เราได้รวบรวมวิธีการเลือกน้ำหอมมาให้ทุกคนได้ศึกษากันแล้วค่ะ
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำหอมเหมือนกัน แต่น้ำหอมแต่ละสูตรล้วนผลิตขึ้นมาจากสารสกัดนานาชนิดจนเกิดเป็นกลิ่นที่หลากหลาย และมีเอกลักษณ์ความหอมแตกต่างกันออกไป ดังนั้น แทนที่จะเลือกซื้อน้ำหอมจากกลิ่นที่คนอื่นแนะนำ คุณควรเลือกซื้อน้ำหอมจากแนวกลิ่นที่ตนเองชื่นชอบมากกว่านะคะ
กลิ่นแนว Oceanic เป็นกลิ่นที่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความหอมแบบหวาน ๆ ค่ะ เพราะความหอมส่วนใหญ่จากแนวนี้จะให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่น เย็นสบาย เช่น กลิ่นหอมจากดอกหญ้า, กลิ่นไอทะเล เหมาะกับฤดูร้อน คงไว้ซึ่งความสุภาพแต่ว่าไม่ทางการมากจนเกินไป สามารถฉีดได้ทั้งวันหยุดอยู่บ้านหรือสำหรับวันที่ออกไปใช้ชีวิตประจำวัน อย่าง รุ่น Miniso Green Tea Classic ที่เปิดมาด้วยกลิ่นชาเขียวเย็นสบาย เป็นความหอมอ่อน ๆ ผสานด้วย Citrus เล็กน้อย ไม่ฉุนจมูก อีกทั้งยังเป็นแนวความหอมแบบ Unisex สามารถใช้ได้ทุกเพศเลยค่ะ
เมื่อพูดถึงน้ำหอม กลิ่นสไตล์ Floral นี่ถือเป็นกลิ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งกลิ่นที่หลายแบรนด์นิยมนำมาใช้กันมักจะเป็นกลิ่นหอมจากดอกไม้นานาชนิด เช่น ดอกกุหลาบ, ดอกไลแลค, ดอกลิลลี่, ดอกมะลิ โดยจะเน้นไปที่การเสริมบุคลิกให้ดูเป็นสาวหวาน นุ่มนวล และอ่อนโยน ยกตัวอย่างเช่น Miniso British Pear Lady ที่มาพร้อมกับความหอมแบบอ่อน ๆ ไม่เวียนหัว และใช้ได้เป็นประจำทุกวันค่ะ
น้ำหอมกลิ่นแนว Fruity จะเป็นน้ำหอมที่โดดเด่นด้วยความหอมจากผลไม้ เช่น Lychee, Kiwi หรือ Apple เป็นต้น โดยจะเป็นความหอมแบบหวานซ่อนเปรี้ยว มอบความรู้สึกร่าเริงสดใส สไตล์สาวซุกซน ซึ่งทางแบรนด์ Miniso ก็มีน้ำหอมรุ่น Eternal Faith Body Mist ที่มีทั้งความหอมจากลิ้นจี่, กีวี่ และไซเปรสเปิดมาเป็น Top Note ก่อนเป็นอันดับแรก เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการเสริมบุคลิกในวันไปเรียนหรือวันหยุดไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ให้ดูน่ารักขี้เล่นมากยิ่งขึ้นค่ะ
น้ำหอมกลิ่น Oriental เป็นกลิ่นที่เสริมบุคลิกในวันนั้นของคุณให้ดู Luxury ดูดีมีระดับ โดยจะเป็นกลิ่นที่สกัดมาจากเครื่องเทศเป็นหลัก อย่าง Vanilla, Cinnamon หรือ Bay Leaf หลายคนอาจจะกังวลว่ากลิ่นประมาณนี้จะเข้มข้นหรือฉุนจมูกจนเกินไปไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เพราะน้ำมันหอมระเหยที่สกัดออกมาอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ และอยู่ในช่วงของกลิ่นแบบ Middle Note, Base Note และมักจะผสานเข้ากับกลิ่นหอมของดอกไม้เพื่อให้กลิ่นมีความนุ่มนวลมากขึ้น อย่าง Miniso รุ่น Twilight Eau de Parfum เป็นต้น
น้ำหอมแต่ละรุ่นก็จะมีกลิ่นที่ต่างกันออกไป ซึ่งเหมาะสมกับลุค สไตล์ และตัวตนของผู้ใช้ที่ไม่เหมือนกัน เพื่อให้หนุ่ม ๆ สามารถเลือกใช้น้ำหอมที่เผยเสน่ห์ของสุภาพบุรุษออกมาอย่างมั่นใจและสามารถเลือกความหอมสไตล์ของตนเอง เรามาดูกลิ่นของน้ำหอมที่เหมาะสำหรับผู้ชายกันก่อนดีกว่าค่ะ
Woody เป็นกลิ่นแนวพบเจอได้บ่อยในน้ำหอมสำหรับผู้ชาย โดยจะเป็นกลิ่นที่สกัดมาจากตระกูลไม้ เช่น ไม้จันทน์, ไม้สน, ไม้โอ๊ค และอื่น ๆ ดังนั้นจึงเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างเข้มข้นทำให้หลายครั้งบางแบรนด์จะผสมความหอมหวานแบบ Floral และ Fruity ผสมลงมาด้วยเพื่อไม่ให้กลิ่นฉุนจมูกจนเกินไป เช่น Midnight Gentleman น้ำหอมสไตล์สปอร์ตที่กลิ่น Base Note มาจาก Woody และ Suede Leather มอบเสน่ห์ที่ดูสุขุม แต่คงไว้ซึ่งความอ่อนโยนและดูเป็นทางการ เป็นกลิ่นที่เหมาะกับคุณผู้ชายเพราะไม่หอมหวานจนเกินไปนั่นเองค่ะ
กลิ่นสบาย ๆ สไตล์ Citrus ค่อนข้างเป็นกลิ่นที่เหมาะกับใครที่อยากได้ลุคแบบสดชื่น Summer Vibe ด้วยกลิ่นหอมจากผลไม้ที่มีความเปรี้ยวและกลิ่นเปรี้ยวซ่าที่ชัดเจน อย่าง Lemon, Grapefruit, Orange, Bergamot แต่เนื่องจากเป็นน้ำหอมสำหรับผู้ชาย ดังนั้นเพื่อไม่ให้กลิ่นหวานจนเกินไปส่วนใหญ่แล้วจะผสานความหอมจากดอกไม้หรือกลิ่น Musk เข้ามาเพิ่มเพื่อให้เหมาะกับผู้ชายมากขึ้น ทว่ายังคงไว้ซึ่งกลิ่นที่ดูมีชีวิตชีวาและไม่เป็นทางการมากนัก เช่น Miniso Urban Traveler Men Perfume สามารถใช้งานได้หลายโอกาสทั้งในชีวิตประจำวันทั่วไปหรือวันที่ต้องออกไปพบปะผู้คนข้างนอก
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | MINISO น้ำหอม MINISO รุ่น British Pear | ![]() | หอมหวานจากดอกฟรีเซีย ซ่อนความเปรี้ยวไว้เบา ๆ ด้วยลูกแพร์ | |
2 | MINISO น้ำหอม MINISO รุ่น Heartful | ![]() | หวานละมุนไม่เลี่ยนจนเกินไป มอบลุคร่าเริงสดใส ฉีดได้ทุกวัน | |
3 | MINISO น้ำหอม MINISO รุ่น Green Tea Classic | ![]() | หอมสะอาด เย็นสดชื่น ด้วยความหอมจากชาเขียว เหมาะกับฤดูร้อน | |
4 | MINISO น้ำหอม MINISO รุ่น Midnight Gentleman | ![]() | หอมแบบนุ่มลึก หนักแน่น เหมาะกับการแต่งกายในระดับ Formal | |
5 | MINISO น้ำหอม MINISO รุ่น Romantic Pink Sakura Lady | ![]() | เพิ่มความน่าหลงใหล กลิ่นหอมหวานสไตล์ของผู้ใหญ่ เซ็กซี่นิด ๆ | |
6 | MINISO น้ำหอม MINISO รุ่น Urban Traveler Men Perfume | ![]() | น้ำหอมกลิ่นแป้ง ไม่สปอร์ตมาก มีความหวานหอมแบบนุ่มลึก สุขุม | |
7 | MINISO น้ำหอม MINISO รุ่น Nebula Perfume Pink | ![]() | มอบความหอมสดชื่นด้วยแอปริคอต ตามด้วยไม้จันทน์ และวานิลลา | |
8 | MINISO น้ำหอม MINISO รุ่น Black Code Eau de Parfume | ![]() | มอบความหอมสดชื่นด้วยพืชตระกูลมิ้นต์ เย็นสบาย ไม่ฉุนจมูก | |
9 | MINISO น้ำหอม MINISO รุ่น Eternal Faith Body Mist | ![]() | สเปรย์น้ำหอมสไตล์ Fruity ช่วยรีเฟรชผิวหอมระหว่างวันได้ | |
10 | MINISO น้ำหอม MINISO รุ่น Twilight Eau de Parfum | ![]() | หอมหวานอ่อน ๆ เพิ่มความนุ่มนวล แต่คงไว้ซึ่งความเท่ ดูดี |
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งน้ำหอมราคาหลักร้อยที่หลายคนลงความเห็นว่าเป็น Dupe ของ J’adore จาก Dior เมื่อเทียบจากความหอมของกลิ่นแล้ว ถือว่าค่อนข้างคล้ายคลึงมากทีเดียวค่ะ เพราะเปิดด้วยความหอมจาก Pear, Ivy และ Peach เหมือนกัน ซึ่งทั้งสามกลิ่นนี้ล้วนให้ความหอมแบบหวานซ่อนเปรี้ยว สไตล์สาวซุกซน ร่าเริงสดใส จากนั้นด้วยความหอมจากดอกไม้นานาชนิด เช่น Rose, Jasmine และ Lilly ปิดด้วยกลิ่น Musk และ Sandalwood ให้ดูน่าค้นหา ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป สามารถฉีดได้ทั้งวัยเรียนและวัยทำงานเลยค่ะ
น้ำหอมรุ่น Green Tea Classic น่าจะถูกใจสำหรับใครที่เป็นสาวก Green Tea lover เป็นน้ำหอมที่มอบความหอมแนวสดชื่น เย็นสบาย ให้ความรู้สึกที่ดูสะอาดสไตล์ Oceanic เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกลิ่นสไตล์หวานเลี่ยนหรือน้ำหอมที่มาพร้อมกับความหอมของดอกไม้เป็นหลัก สำหรับ Top Note จะเป็นกลิ่นชาเขียวธรรมชาติ หอมละมุน สบายจมูก ผสามเข้ากับ Citrus เพิ่มความเปรี้ยวสดชื่น หลายคนบอกว่าเป็นกลิ่นที่เหมาะกับฤดูร้อนและไม่ทำให้เวียนหัว ที่สำคัญยังเป็นกลิ่นแบบ Unisex สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัยค่ะ
น้ำหอมสำหรับผู้ชายรุ่น Midnight Gentleman ค่อนข้างโดดเด่นด้วยกลิ่นออกแนวสปอร์ตผสมกับความ Gentleman ซึ่งเปิดมาด้วยกลิ่นเย็นสบาย อย่าง Cucumber, Citrus และ Muskmelon ตามด้วย Middle Note จาก Basil, Sage และ Geranium Wilfordi เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของกลิ่น เสริมบุคลิกภาพให้ดูดีมีระดับ ก่อนจบด้วยความหอมสไตล์ Musk อย่าง Woody และ Suede Leather ดังนั้น ความหอมโดยรวมจะค่อนข้างมีความหนักและเข้ม ถ้าต้องการน้ำหอมสักตัวในวันที่ต้องการความเป็นทางการ ตัวนี้ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ
สำหรับน้ำหอมรุ่น Romantic Pink Sakura Lady โดดเด่นด้วยความหอมสไตล์ Floral กลิ่นหวาน ๆ เพราะ Top Note เป็นกลิ่นที่สกัดมาจากดอกซากุระญี่ปุ่น ให้ความหอมนุ่ม ๆ ที่ผสานความ Fresh เอาไว้ ทำให้ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป จากนั้นเมื่อกลายเป็น Base Note แล้วจะเป็นความหอมจากดอกไม้แบบจาง ๆ ที่มีความนุ่มละมุนไม่โชยแตะจมูกเท่าตอนแรก ดังนั้นน้ำหอมตัวนี้จึงเหมาะกับสาว ๆ วัยเรียนหรือวัยนักศึกษาหรือใช้ฉีดในวันธรรมดาทั่วไป มากกว่านำไปฉีดในวันที่ต้องการความเป็นทางการค่ะ
ใครที่ชอบน้ำหอมผู้ชายสไตล์แป้ง ๆ ไม่สปอร์ตมากและให้ความสุขุมและเหมาะกับลุคในวันที่ต้องการความเป็นทางการ รุ่น Urban Traveler Men Perfume ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียวค่ะ โดยกลิ่นหอมหลักเมื่อฉีดลงผิวจะเป็นความหอมหวานจาก Vanilla ผสานความเปรี้ยวหวานเล็กน้อยด้วย Lemon และ Apple ช่วยเพิ่มความสดชื่น เหมาะจะเป็นน้ำหอมสำหรับเริ่มต้นวัน ปิดท้ายด้วย Base Note จาก Cedar Sandalwood และ Musk เสริมบุคลิกให้ดูสุภาพนุ่มลึก โดยรวมแล้วทำให้เหมาะกับการใช้เนื่องในโอกาสพิเศษที่การแต่งกายเป็นลุค Formal ได้ดีทีเดียวค่ะ
ใครที่ชื่นชอบน้ำหอมที่มีกลิ่นแบบหอมนุ่มลึกซ่อนความ Fruity ไว้เบา ๆ น้ำหอมรุ่น Nebula Perfume Pink ตัวนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ค่ะ สำหรับ Top Note จะเป็นกลิ่นจากผลไม้ อย่าง แอปริคอตและเมล็ดกาแฟ ซึ่งจะให้ความเปรี้ยวให้รู้สึกพอสดชื่นเมื่อฉีดลงผิว จากนั้นจะตามด้วย Middle Note ด้วยกลิ่นหอมจากดอกไม้ 3 ชนิด ได้แก่ ดอกมะลิ, ดอกซ่อนกลิ่น และดอกไอริส ที่มีความนุ่มลึก และปิดท้ายความหอมที่จะอยู่กับผิวคุณไปตลอดทั้งวันด้วยกลิ่นจากโกโก้, ไม้จันทร์ และ Vanilla เรียกได้ว่าค่อนข้างเหมาะกับวันพิเศษหรือวันที่ต้องไปออกเดทอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ
มาต่อกันที่น้ำหอมสำหรับผู้ชายกันบ้างนะคะกับรุ่น Black Code Eau de Parfume ที่มาพร้อมกับความหอมสดชื่นจาก Top Note ด้วยมะกรูดและไวโอเล็ต ซึ่งจะให้กลิ่นหอมซ่อนเปรี้ยวเล็กน้อยให้พอรู้สึกสดชื่น ผสานกับความหอมนุ่มลึกด้วยกระดังงา ปิดท้ายด้วยกลิ่นจากหญ้าแฝก, พืชตระกูลมิ้นต์ และจันทร์ขาว ให้กลิ่นอายความหอมแบบเย็น ๆ จากรีวิวผู้ใช้งานจริงหลายคนบอกว่าเป็นกลิ่นที่แม้ให้ความรู้สึกแบบผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่ถึงกับสปอร์ตทีเดียว ยังสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้แบบสบาย ๆ ทว่ารุ่นนี้กลิ่นแอลกอฮอล์จะค่อนข้างชัดในระดับหนึ่งเลยค่ะ
Eternal Faith Body Mist สเปรย์น้ำหอมที่เหมาะสำหรับฉีดผิวกาย ด้วยหัวสเปรย์แบบกระจายทำให้สามารถฉีดได้ทั้งบริเวณข้อพับ, ผิวกาย และเส้นผม ในส่วนของกลิ่น Top Note จะเริ่มที่ความสดชื่นสไตล์ Fruity อย่าง Lychee และ Kiwi จากนั้นตามด้วยกลิ่นหอมที่นุ่มละมุนลงมา เช่น ความหอมจากดอกมะลิและความหอมจาก White Chocolate แต่เนื่องจากเป็นแค่ Body Mist ทำให้สามารถช่วยระงับกลิ่นไม่พึงประสงค์ระหว่างวันได้ และกลิ่นจะไม่ได้ติดทนเท่าน้ำหอมแบบ EDP รุ่นอื่น ๆ ของ MIniso นะคะ
ยังคงอยู่กันที่น้ำหอมสำหรับผู้ชายนะคะ รุ่น Twilight Eau de Parfum อาจจะถูกใจใครที่ชื่นชอบกลิ่นแนวหอมหวานอ่อน ๆ แต่ให้ความสมาร์ท ซึ่งความหอมแรกเริ่มที่เปิดมาด้วย Tobacco, ความหอมที่สกัดมาจาก Elemi มีต้นกำเนิดที่ประเทศฟิลิปปินส์ และ Clay Sage Pays เพิ่มความหอมแบบเข้ม ๆ ในส่วน Middle Note ผสานความหอมจากกุหลาบเพิ่มความนุ่มละมุน จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นกลิ่น Wood และ Vanilla ที่จะติดผิวคุณไปจนถึงนาทีสุดท้าย คุณผู้ชายคนไหนที่อยากได้ลุคเบา ๆ หอมอ่อน ๆ แต่ยังได้กลิ่นอายแบบ Manly สามารถใช้ได้ทุกวัน แนะนำเลยค่ะ
เคล็ดลับพื้นฐานที่หลายคนน่าจะทราบกันดีคงจะเป็นการฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจรต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ข้อมือ, คอ, หลังใบหู หรือตามข้อพับต่าง ๆ นั่นเอง โดยมีเคล็ดลับเพิ่มความหอมให้ติดทนนานยิ่งขึ้น คือ การใช้วาสลีนทาที่บริเวณจุดชีพจรหรือใช้เป็นโลชั่นทาผิวก่อนจะฉีดน้ำหอมลงไป เพราะน้ำหอมจะยึดเกาะได้ดีกับผิวที่มีความชุ่มชื้น
อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้โลชั่น เราขอแนะนำให้ใช้เป็นโลชั่นทาผิวที่ไม่มีกลิ่นแรงมากนะคะ เพราะกลิ่นของโลชั่นทาผิวอาจไปตีกับกลิ่นน้ำหอมจนทำให้กลิ่นของน้ำหอมเพี้ยนได้ และอีกหนึ่งเคล็ดลับก็คือ การฉีดน้ำหอมบนแปรงก่อนค่อยหวีผม ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมติดอยู่กับคุณไปได้นานหลายชั่วโมงเลยล่ะค่ะ
อย่างไรก็ตาม เพื่อเติมเต็มความมั่นใจให้กับทุกวันของคุณ เราขอแนะนำให้ฉีดน้ำหอมบริเวณเส้นชีพจร ไม่ว่าจะเป็นข้อมือ คอ หลังใบหู หรือข้อพับ โดยฉีดน้ำหอมใส่อากาศข้างหน้าตัวเอง ห่างประมาณ 5 - 6 นิ้ว เพื่อให้หอมเป็นธรรมชาติและป้องกันความฉุนจนเกินไปค่ะ
อันดับที่ 1: MINISO|น้ำหอม MINISO รุ่น British Pear
อันดับที่ 2: MINISO|น้ำหอม MINISO รุ่น Heartful
อันดับที่ 3: MINISO|น้ำหอม MINISO รุ่น Green Tea Classic
อันดับที่ 4: MINISO|น้ำหอม MINISO รุ่น Midnight Gentleman
อันดับที่ 5: MINISO|น้ำหอม MINISO รุ่น Romantic Pink Sakura Lady
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ