อีกหนึ่งองค์ประกอบที่มีผลต่อสมรรถนะในการขับขี่แทบทุกด้านก็คือ "ยางรถยนต์" ชิ้นส่วนที่หลายคนมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ยางรถยนต์แต่ละเส้นถูกออกแบบมาให้มีคุณสมบัติบางอย่างที่รองรับสไตล์การขับขี่ที่เฉพาะเจาะจง คนรักความเร็วก็ต้องใช้ยางแบบหนึ่ง รถบรรทุกของหนักก็ต้องเปลี่ยนไปใช้อีกแบบหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยางรถยนต์ที่วางจำหน่ายในปัจจุบันนั้นก็มีหลายประเภท หากผู้ขับขี่ไม่มีข้อมูลเบื้องต้นในการเลือกซื้อก็นับว่าเป็นเรื่องยากพอสมควรในการตัดสินใจ
ในบทความนี้เราจึงนำข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับวิธีการเลือกยางรถยนต์มาฝากกัน พร้อมคำแนะนำจากผู้จัดจำหน่ายยางรถยนต์และรีวิวยางรถยนต์โดยจะเน้นไปที่ยางรถยนต์ขอบ 18 ที่สามารถใช้งานได้กับรถยนต์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถCrossover รถครอบครัวขนาดใหญ่หรือรถปิคอัพ นอกจากนี้ เรายังมี 10 อันดับ ยางรถยนต์ ขอบ 18 นิ้ว ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ขับขี่ส่วนใหญ่มาแนะนำกันอีกด้วย รับรองว่าการเลือกยางรถยนต์ของคุณจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
Top 5 ยางรถยนต์ขอบ 18 ยอดนิยม
YOKOHAMA
ร่องลึกหลัก 4 ร่องช่วยรีดน้ำ ยึดเกาะถนนได้ดี เหมาะกับถนนขรุขระ
Bridgestone
มีความนุ่มนวลปลอดภัยในการขับขี่ เสียงเงียบ ประหยัดน้ำมัน
GOODYEAR
โครงสร้างชั้นผ้าใบ 2 ชั้นทนต่อแรงกระแทก เหมาะกับถนนขรุขระ
NEXEN
โดดเด่นในเรื่องประหยัดน้ำมัน มีความทนทาน ยึดเกาะถนนได้ดี
คุณคิมเริ่มต้นอาชีพในตำแหน่งพนักงานฝ่ายขายบริษัทมิชลิน 5 ปี โดยได้รับการฝึกอบรมเชิงลึกเกี่ยวกับยางรถยนต์ ตั้งแต่กระบวนการผลิต ส่วนประกอบ ไปจนถึงหลักการทำงาน ทำให้เข้าใจบทบาทสำคัญของยางในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของรถยนต์อย่างลึกซึ้ง ด้วยความตั้งใจส่งต่อความรู้ที่เป็นกลางเกี่ยวกับยางรถยนต์ ในปี 2017 คุณคิมก่อตั้งเพจ Tiresbid เพื่อให้ความรู้และรีวิวยางอย่างละเอียด ก่อนพัฒนาเป็นเว็บไซต์ www.tiresbid.com ที่เป็นแหล่งข้อมูลครบวงจร ช่วยให้คนรักรถค้นหาและเปรียบเทียบยางได้ง่าย โดยในปัจจุบัน Tiresbid เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจำหน่ายยางจาก 18 แบรนด์ พร้อมบริการครบวงจร เช่น มีจุดบริการกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ และบริการจัดส่งพร้อมติดตั้งถึงบ้าน นอกจากนี้ ยังให้ความรู้ด้านเทคนิคเกี่ยวกับรถยนต์ พร้อมจัดหาสินค้า เช่น อุปกรณ์ช่วงล่างและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เพื่อให้รถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งคุณคิมตั้งใจให้ Tiresbid เป็นพื้นที่ที่ส่งมอบข้อมูล บริการ และผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนรักรถทุกคน
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
ผู้ใช้งานสามารถเลือกยางเส้นใหม่ให้มีขนาดเท่ากันหรือใกล้เคียงกับเส้นเดิมได้ด้วยการดูชุดตัวเลขที่ระบุอยู่บริเวณแก้มยาง ซึ่งจะปรากฏอยู่บนยางรถยนต์ทุกเส้น แต่การเลือกยางควรพิจารณาความกว้างและความสูงกับแก้มยางร่วมด้วย ไม่ควรดูแค่เส้นผ่านศูนย์กลางและขอบยางเท่านั้น เพื่อให้ใกล้เคียงกับยางเส้นเดิม มีความเหมาะสมกับตัวรถ และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งโดยส่วนมากแล้วตัวเลขที่ระบุไว้บริเวณแก้มยางจะมีรูปแบบเดียวกัน เพื่อแจ้งข้อมูลให้กับผู้ใช้งาน อย่างเช่น ชุดตัวเลข 265/60 R18 95V จะมีความหมายดังนี้
เลข 265 : เลขระบุขนาดความกว้างของหน้ายาง ขนาด 265 มิลลิเมตร
เลข 60 : เลขซีรีส์ยาง หรืออัตราความสูงของแก้มยาง 60% โดยคำนวณได้จากการนำซีรีส์ยางไปคูณกับความกว้างของหน้ายาง ยางเส้นนี้จึงมีอัตราความสูงที่ 265 x 60% = 156 มิลลิเมตร
ตัว R : หมายถึงยางเรเดียล (Radial) เป็นชั้นผ้าใบโครงเส้นลวดพันรอบยางทำมุม 90 องศากับเส้นรอบวง
เลข 18 : ขนาดยางหรือเส้นผ่านศูนย์กลางของกระทะล้อ มีขนาด 18 นิ้ว
เลข 95V : 95 หมายถึงดัชนีน้ำหนัก (Load Index) และ V คือสัญลักษณ์แทนอัตราความเร็วสูงสุด (Speed Rating) ที่รถสามารถวิ่งได้โดยไม่เป็นอันตรายยางรถยนต์ขนาด 18 นิ้วจัดเป็นยางที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับยางขอบ 16 นิ้วที่ใช้กันในรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป จึงทำให้ตัวยางไซซ์นี้ไม่ได้เหมาะกับรถยนต์ทุกรุ่นจำพวกรถเก๋งขนาดเล็ก ซึ่งนอกจากจะไม่สมดุลดูเทอะทะแล้ว ยังอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพราะยางเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและมีการสัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง ดังนั้นจึงประเภทรถยนต์ที่เหมาะสมกับยางขอบ 18 นิ้วจึงมีดังนี้
Crossover : มีขนาดเล็กและสมบุสมบันน้อยกว่ารถ SUV แต่มากกว่ารถ Sedan ทำให้ยางขนาด 18 นิ้วเข้ากันได้ดีกับรถยนต์ประเภทนี้ ช่วยให้รองรับน้ำหนักของตัวรถได้มากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย ทำให้ขับขี่ได้นุ่มนวลคงความสมดุลของตัวรถได้ดียิ่งขึ้น
PPV : ดัดแปลงมาจากรถกระบะโดยการขยายห้องโดยสารให้ใหญ่ขึ้น ทำให้ตัวรถโดยรวมดูใหญ่ และสามารถขนของได้ในเบื้องต้น จึงเหมาะกับยางขนาด 18 นิ้วที่รองรับน้ำหนักได้มาก ทั้งยังช่วยเรื่องการทรงตัวที่เหมาะสมและการขับเคลื่อนที่ดี
Hatchback และ SUV : รถขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นตัวรถหรือห้องโดยสารที่สามารถใช้บรรทุกของหนัก ๆ ได้ เหมาะกับยางขนาด 18 นิ้วที่รองรับน้ำหนักได้ดี ช่วยให้ตัวรถสมดุลไม่โคลงเคลง ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและนุ่มนวล
Pick-up : รถที่มีห้องโดยสารขนาดเล็ก แต่พื้นที่บรรทุกของขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่ารถกระบะ เหมาะกับยางรถยนต์ขอบ 18 ที่มีขนาดใหญ่เพราะต้องรองรับน้ำหนักเป็นจำนวนมาก อีกทั้งส่วนมากจะวิ่งระยะทางไกลผ่านถนนหลายรูปแบบ จึงจำเป็นต้องเลือกยางที่ใช้ได้อย่างยาวนานและเหมาะแก่การรับมือกับน้ำหนักและสภาพถนนทุกรูปแบบ
นอกจากขนาดยางรถยนต์ที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับตัวรถยนต์แล้ว ยังมีเรื่องของความสูง ความกว้าง การสวมใส่ของยาง รวมถึงความเหมาะสมของขนาดยางกับล้อรถอีกด้วย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรึกษาหรือสอบถามผู้เชี่ยวชาญได้ เพื่อให้ได้ยางรถยนต์ที่เหมาะสมและปลอดภัยในการขับขี่
เนื่องจากยางรถยนต์เป็นส่วนประกอบที่มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่ของตัวรถและยังมีผลต่อความปลอดภัยในทุก ๆ การเดินทาง ฉะนั้นเราจึงต้องให้ความสำคัญในการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานมากที่สุด
รถยนต์แต่ละประเภทถูกออกแบบมาให้มีสมรรถนะที่แตกต่าง เพื่อรองรับการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน บางคันเน้นบรรทุกของหนัก บางคันเน้นทำความเร็วสำหรับเดินทางไกล ดังนั้นสิ่งแรกที่เราต้องนึกถึงจึงเป็นเรื่องความเหมาะสมของยางและรถยนต์ที่ใช้งาน
จุดเด่นของยางแบบคอมฟอร์ท (Comfort Tire) คือความนุ่มเงียบนั่งสบาย เหมาะกับคนที่ชื่นชอบความเงียบในห้องโดยสารและความนุ่มนวลขณะขับขี่ ซึ่งในช่วงแรกที่มีการวางจำหน่ายยางรุ่นนี้จะเป็นที่นิยมในรถสมรรถนะสูงเพราะความนุ่มนวลอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ทางผู้ผลิตได้มีการพัฒนาตัวยางรถยนต์เรื่อยมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของการยึดเกาะถนนให้มากขึ้น จึงทำให้ยางประเภทนี้รองรับรถยนต์ได้หลากหลายรุ่นและมีตัวเลือกให้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น
ปัจจัยหลักที่ทำให้ยางรถยนต์ช่วยเรื่องความเงียบในห้องโดยสารขณะขับขี่ ขึ้นอยู่กับลายดอกยางที่เรียกว่า ลาย Rib มีจุดเด่นในเรื่องความละเอียดของร่องยางที่มีความละเอียดสูง เนื่องจากลมที่ไหลผ่านร่องดอกยางก่อให้เกิดเสียงได้ ซึ่งถ้าหากลายดอกยางมีความละเอียดสูงมาก ลมที่ไหลผ่านร่องดอกยางก็จะน้อยลง ทำให้เสียงน้อยลงตามไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของความแข็งของเนื้อยางที่มีผลต่อการเกิดเสียงโดยตรง ซึ่งยิ่งแข็งมากก็ยิ่งมีเสียงดัง แต่ยางใหม่จะมีความนุ่มนวลไม่แข็งมาก จึงทำให้มีเสียงค่อนข้างเบาขณะใช้งาน แต่เมื่อมีการใช้งานเป็นเวลานาน ตัวยางจะมีความแข็งขึ้น จึงก่อให้เกิดเสียงที่ดังมากกว่าเดิม ดังนั้นจึงต้องเลือกยางที่มีส่วนผสมของซิลิกาและคาร์บอนแบล็คในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อยืดอายุการใช้งานของยางให้ยาวนานมากขึ้น และคงไว้ซึ่งคุณสมบัติที่เกาะถนนได้ดี
การเผาผลาญพลังงานของน้ำมันเชื้อเพลงนั้นมีส่วนมาจากยางรถยนต์มากถึง 20% โดยจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการลดแรงต้านทานการหมุนขณะขับขี่ ซึ่งการจะประหยัดน้ำมันได้นั้น ตัวยางรถยนต์ต้องสามารถลดแรงต้านทานการหมุนได้ โดยจะต้องมีส่วนผสมของซิลิกาคอมปาวน์ที่ช่วยเรื่องความรวดเร็วในการคืนตัวของยาง ทำให้มีแรงต้านทานการหมุนต่ำ มีการใช้พลังงานน้อยลง จึงทำให้ประหยัดน้ำมันได้
สำหรับกลุ่มคนที่ขับขี่ในเมืองเป็นหลักหรือมักจะใช้งานรถด้วยความเร็วต่ำ มีความต้องการที่จะประหยัดน้ำมัน แนะนำให้เลือกยางแบบประหยัดพลังงาน (ECO Tire) เพราะมีความสามารถในการกระจายตัวของการรับแรงได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ช่วยประหยัดน้ำมัน และให้ความนุ่มนวลขณะที่กำลังขับขี่ รวมถึงความสมดุลในการควบคุมรถอีกด้วย
เนื่องจากยางรถยนต์แบบสปอร์ต (Sport Tire) เป็นยางที่ถูกออกแบบมาให้หน้ายางมีพื้นที่สัมผัสระหว่างล้อและพื้นถนนมากขึ้นด้วยดอกยางขนาดใหญ่และความลึกของร่องดอกยาง ที่ส่งผลต่อความสามารถในการยึดเกาะถนนโดยตรง ซึ่งถ้าหน้ายางมีพื้นที่ในการสัมผัสกับถนนมากขึ้น ความสามารถในการยึดเกาะถนนก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ยางประเภทนี้เหมาะกับคนที่ขับรถทำความเร็ว โดยสามารถเลือกซื้อได้ด้วยการดูด้วยตาเปล่าได้เลยว่าหน้ายางแต่ละรุ่นมีความกว้างและความลึกของร่องดอกยางเท่าไหร่
ในเรื่องของความปลอดภัยที่นอกจากพื้นที่สัมผัสของหน้ายางแล้ว ยังมีเรื่องความลึกของร่องดอกยางที่มีผลโดยตรงเมื่อเจอกับสภาพถนนเปียก เพราะร่องดอกยางมีหน้าที่หลักในการระบายน้ำออกจากยาง เพื่อป้องกันไม่ให้รถเหินน้ำขณะขับขี่บนพื้นถนนเปียก โดยที่ร่องดอกยางขนาดใหญ่จะช่วยให้ระบายน้ำได้ดีมากยิ่งขึ้น จึงควรพิจารณาพื้นที่สัมผัสของหน้ายางและร่องดอกยางก่อนการเลือกซื้อเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
เนื่องจากความแตกต่างของถนนแต่ละเส้นที่มีสภาพแตกต่างกัน โดยเฉพาะถนนตามต่างจังหวัดที่มีทั้งถนนหลวงและถนนอื่น ๆ ที่มีความขรุขระสมบุสมบัน จึงควรเลือกยางให้เหมาะสมกับสภาพถนนที่ใช้เป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่
เนื่องจากขนาดรถครอบครัว PPV และรถออฟโรดเป็นรถขนาดกลางขึ้นไปจนถึงขนาดใหญ่ จึงควรใส่ใจกับลายดอกยางที่ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก โดยเลือกให้เหมาะสมกับสภาพถนนที่เราใช้งานเป็นประจำ ซึ่งดอกยางแต่ละประเภทจะมีรูปแบบการใช้งานดังนี้
ดอกยาง AT (All Terrain) วิ่งนอกถนน 30% วิ่งถนนทางหลวง 70%
ดอกยาง RT (Rug Terrain) วิ่งนอกถนน 50% วิ่งถนนทางหลวง 50%
ดอกยาง MT (Mud Terrain) วิ่งนอกถนน 70% วิ่งถนนทางหลวง 30%
โดยที่ยางทั้ง 3 รูปแบบจะมีขนาดของลายดอกยางไม่เท่ากัน ซึ่งจะจำแนกได้ด้วยการตรวจสอบลายดอกยาง ที่ถ้าหากมีลายดอกยางขนาดใหญ่ หรืออาจจะมีลักษณะแบบร่องแบบบล็อค หมายความว่ายางเส้นนั้นมีแรงตะกรุยพื้นผิวสูง ทำให้เหมาะกับถนนนอกเมืองที่มีสภาพค่อนข้างขรุขระสมบุกสมบัน รวมถึงยังเหมาะกับรถออฟโรดอย่างมาก แต่ลายดอกยางลักษณะนี้จะไม่เหมาะกับการทำความเร็วบนถนนหลวง เพราะความสามารถในการยึดเกาะถนนต่ำ ทั้งยังมีพื้นที่สัมผัสระหว่างพื้นถนนและหน้ายางค่อนข้างน้อย ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบเส้นทางที่ใช้งานเป็นประจำก่อนว่ามีสภาพเป็นอย่างไรก่อนที่จะเลือกซื้อยางรถยนต์
สำหรับถนนขรุขระที่มีความสมบุกสมบันจำเป็นต้องใช้รถจำพวกออฟโรดหรือยางที่เหมาะสมกับสภาพถนนอันไม่สม่ำเสมอนี้ จำนวนชั้นยางผ้าใบจึงถือว่าสำคัญอย่างมาก และยิ่งมีจำนวนชั้นผ้าใบมากเท่าไหร่ ความสามารถในการรองรับแรงกระแทกของยางเส้นนั้นยิ่งมีมากขึ้น เพราะจำนวนชั้นยางผ้าใบจะเป็นทำให้เรารู้ได้ว่าหน้ายางสามารถรองรับกระแทกได้มากน้อยอย่างไร ซึ่งผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบข้อมูลของจำนวนชั้นยางผ้าใบได้จากชุดตัวเลขที่ระบุอยู่บนแก้มยาง ทั้งยังต้องตรวจสอบสูตรของเนื้อยางอีกด้วย ว่ามีความคงทนต่อการสึกหรอและฉีกขาดมากน้อยเท่าใด
S = 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
T = 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
U = 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
H = 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
VR = > 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
V = 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
W = 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Y = 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ZR = > 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ด้วยเทคโนโลยีทำให้ยางรถยนต์มีการพัฒนามากขึ้นจนออกผลิตภัณฑ์อย่างยางประหยัดน้ำมันหลายรุ่น ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ช่วยลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง แต่การจะใช้ยางประเภทนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพต้องหมั่นตรวจสอบในส่วนของลมยางด้วย เพราะถ้าหากมีการเติมลมยางไม่เหมาะสมกับน้ำหนักรถรวมถึงน้ำหนักที่บรรทุกหรือมีลมยางน้อยเกินไป จะเป็นการเพิ่มแรงต้านทานการหมุนของยาง ทำให้มีการใช้พลังงานเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ กลายเป็นว่าผิดวัตถุประสงค์ในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน ทั้งยังทำให้ตัวยางเสื่อมไวกว่าเดิมอีกด้วย ดังนั้น กลุ่มรถบรรทุกสินค้าในเชิงพาณิชย์ที่ต้องบรรทุกน้ำหนักเป็นจำนวนมากและวิ่งในระยะทางไกล ควรจะตรวจเช็คลมยางอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยและให้ตัวยางสามารถใช้งานได้นานที่สุด
นอกจากเรื่องค่าดัชนีการรับน้ำหนักและค่าดัชนีความเร็วของยางแล้ว ยังมีค่า Treadwear ที่บ่งบอกค่าการสึกของยางแต่ละเส้นที่ต้องพิจารณาเช่นกัน โดยข้อมูลเหล่านี้จะระบุอยู่บริเวณแก้มยาง ซึ่งถ้ามีค่าสูงแปลว่ายางเส้นนั้น ๆ มีอัตราการสึกหรอต่ำ อายุการใช้งานยาวนาน แต่จะมีข้อเสียตรงที่ความสามารถในการยึดเกาะถนนต่ำลงไปด้วย โดยค่า Treadwear นี้จะมีตั้งแต่ 60 - 800 และสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไป สามารถเลือกใช้ที่อยู่ในช่วง 200 - 300 ที่ถือว่ากำลังพอดีไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป แต่รถยนต์ที่ใช้บรรทุกน้ำหนักค่อนข้างมาก และมีการใช้งานในเชิงพาณิชย์เป็นประจำ ต้องการยางที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน มีความทนทานต่อการสึกหรอ ควรเลือกยางที่มีค่า Treadwear ระดับ 400 ขึ้นไป โดยพิจารณาร่วมกับความสามารถในการยึดเกาะถนนของยางเส้นนั้น ๆ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
กลุ่มยาง | หน้ากว้าง | ซีรีส์ยาง | ขอบล้อ | แก้มยาง | ความกว้างของล้อ - มาตรฐาน | ขีดจำกัดการรับน้ำหนัก | ขีดจำกัดความเร็วของยาง | ความกว้างของล้อ - ใช้แทนกันได้ | รับประกันสินค้า | |||||
1 | YOKOHAMA ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น Geolandar A/T G015 (4 เส้น) | ![]() | ร่องลึกหลัก 4 ร่องช่วยรีดน้ำ ยึดเกาะถนนได้ดี เหมาะกับถนนขรุขระ | ประหยัดน้ำมัน, ออฟโรด | 265 มิลลิเมตร | 60 | 18 นิ้ว | 15.90 เซนติเมตร | 8 นิ้ว | 110 (1,060 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) | T (190 กิโลเมตร/ชั่วโมง) | 7.5, 8.5, 9.0, 9.5 นิ้ว | 2 ปี | |
2 | Bridgestone ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น Turanza T005A (1 เส้น) | ![]() | มีความนุ่มนวลปลอดภัยในการขับขี่ เสียงเงียบ ประหยัดน้ำมัน | นุ่มเงียบ, ประหยัดน้ำมัน | 245 มิลลิเมตร | 50 | 18 นิ้ว | 12.30 เซนติเมตร | 7.5 นิ้ว | 100 (800 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) | W (270 กิโลเมตร/ชั่วโมง) | 7.0, 8.0, 8.5 นิ้ว | 2 ปี | |
3 | GOODYEAR ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น Assurance MaxGuard (4 เส้น) | ![]() | โครงสร้างชั้นผ้าใบ 2 ชั้นทนต่อแรงกระแทก เหมาะกับถนนขรุขระ | ออฟโรด | 265 มิลลิเมตร | 60 | 18 นิ้ว | 15.90 เซนติเมตร | 8 นิ้ว | 0 (0 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) | 0 | 7.5, 8.5, 9.0, 9.5 นิ้ว | 1 ปี | |
4 | NEXEN ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น ROADIAN HTX RH5 (4 เส้น) | ![]() | โดดเด่นในเรื่องประหยัดน้ำมัน มีความทนทาน ยึดเกาะถนนได้ดี | ประหยัดน้ำมัน, ออฟโรด | 265 มิลลิเมตร | 60 | 18 นิ้ว | 15.90 เซนติเมตร | 8 นิ้ว | 110 (1,060 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) | H (210 กิโลเมตร/ชั่วโมง) | 7.5, 8.5, 9.0, 9.5 นิ้ว | 2 ปี | |
5 | Michelin ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น Primacy SUV (1 เส้น) | ![]() | โครงสร้างแข็งแรง ลดเสียงรบกวน เข้าโค้งแม่นยำแม้ถนนเปียก | นุ่มเงียบ | 265 มิลลิเมตร | 60 | 18 นิ้ว | 15.90 เซนติเมตร | 8 นิ้ว | 110 (1,060 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) | H (210 กิโลเมตร/ชั่วโมง) | 7.5, 8.5, 9.0, 9.5 นิ้ว | 2 ปี | |
6 | DUNLOP ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น Dunlop Grandtrek AT5 (1 เส้น) | ![]() | ยางสำหรับรถกระบะและรถ SUV หน้ายางพิเศษช่วยไล่เศษหิน | ออฟโรด | 265 มิลลิเมตร | 60 | 18 นิ้ว | 15.90 เซนติเมตร | 8 นิ้ว | 0 (0 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) | 0 | 7.5, 8.5, 9.0, 9.5 นิ้ว | 2 ปี | |
7 | NEXEN ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น N'FERA SU4 (4 เส้น) | ![]() | ยางแบบสปอร์ตที่ทำความเร็วได้ดี ช่วยลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ | สปอร์ต เน้นความเร็ว, นุ่มเงียบ, ประหยัดน้ำมัน | 235 มิลลิเมตร | 40 | 18 นิ้ว | 9.40 เซนติเมตร | 8 นิ้ว | 0 (0 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) | 0 | 7.5, 8.5, 9.0 นิ้ว | 2 ปี | |
8 | Michelin ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น PRIMACY 4 (4 เส้น) | ![]() | โดดเด่นด้วยความนุ่มเงียบขับขี่สบาย มีความสามารถในการรีดน้ำสูง | นุ่มเงียบ | 235 มิลลิเมตร | 50 | 18 นิ้ว | 11.75 เซนติเมตร | 7.5 นิ้ว | 97 (730 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) | W (270 กิโลเมตร/ชั่วโมง) | 6.5, 7.0, 8.0, 8.5 นิ้ว | 2 ปี | |
9 | DCENTI ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น Godzilla (4 เส้น) | ![]() | ดีไซน์สปอร์ตยึดเกาะถนนได้ดี ร่องดอกยางลึก เหมาะกับถนนเปียก | สปอร์ต เน้นความเร็ว | 265 มิลลิเมตร | 60 | 18 นิ้ว | 15.90 เซนติเมตร | 8 นิ้ว | 102 (850 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) | W (270 กิโลเมตร/ชั่วโมง) | 7.5, 8.5, 9.0, 9.5 นิ้ว | 18 เดือน | |
10 | MAXXIS ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น I-PRO (1 เส้น) | ![]() | ยางสไตล์สปอร์ตทำความเร็วได้บนพื้นถนนเปียก นุ่มเงียบ ขับสบาย | สปอร์ต เน้นความเร็ว | 235 มิลลิเมตร | 50 | 18 นิ้ว | 11.75 เซนติเมตร | 7.5 นิ้ว | 101 (825 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) | W (270 กิโลเมตร/ชั่วโมง) | 6.5, 7.0, 8.0, 8.5 นิ้ว | 2 ปี |
คุณสมบัติโดยรวมของยางรถยนต์รุ่นนี้ ถือว่าเหมาะสมกับผู้ใช้รถที่เดินทางบ่อยและต้องเผชิญกับสภาพถนนที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะถนนที่มีความขรุขระอยู่บ้าง ด้วยการออกแบบหน้ายางแบบมีร่องลึกหลัก 4 ร่อง และร่องบากแบบ Optimized Lug Groove ที่ทั้งกว้างและลึก ทำให้ตัวยางมีประสิทธิภาพการรีดน้ำอยู่ในระดับดีเยี่ยม รวมถึงมีความสามารถในการยึดเกาะถนนสูงด้วยการเพิ่มพื้นที่สัมผัสบริเวณกลางหน้ายาง เหมาะแก่การใช้งานบนถนนแห้งและเปียก อีกทั้งหน้าสัมผัสบริเวณไหล่ยางยังช่วยเพิ่มสมรรถภาพการตะลุยบนถนนแบบสมบุกสมบัน
กลุ่มยาง | ประหยัดน้ำมัน, ออฟโรด |
---|---|
หน้ากว้าง | 265 มิลลิเมตร |
ซีรีส์ยาง | 60 |
ขอบล้อ | 18 นิ้ว |
แก้มยาง | 15.90 เซนติเมตร |
ความกว้างของล้อ - มาตรฐาน | 8 นิ้ว |
ขีดจำกัดการรับน้ำหนัก | 110 (1,060 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) |
ขีดจำกัดความเร็วของยาง | T (190 กิโลเมตร/ชั่วโมง) |
ความกว้างของล้อ - ใช้แทนกันได้ | 7.5, 8.5, 9.0, 9.5 นิ้ว |
รับประกันสินค้า | 2 ปี |
ความโดนเด่นของยางรถยนต์รุ่นนี้ คือจะมอบประสบการณ์ความนุ่มนวลให้กับผู้ขับขี่ ด้วยการดีไซน์หน้ายางแบบพิเศษที่ช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้ โดยการปรับองศาของหน้ายางที่สัมผัสกับพื้นถนนช่วยลดแรงกระแทก อีกทั้งยังมาพร้อมกับยางสูตรใหม่ที่มีส่วนผสมของ Silica ร่วมกับ Chamfering ที่ช่วยป้องกันการเปลี่ยนรูปของยาง ทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ได้ รวมถึงยังเป็นยางที่ไม่กินเชื้อเพลิงมากนัก เหมาะสำหรับขับในเมืองทั่วไปหรือบนถนนทางหลวงที่ค่อนข้างดี
กลุ่มยาง | นุ่มเงียบ, ประหยัดน้ำมัน |
---|---|
หน้ากว้าง | 245 มิลลิเมตร |
ซีรีส์ยาง | 50 |
ขอบล้อ | 18 นิ้ว |
แก้มยาง | 12.30 เซนติเมตร |
ความกว้างของล้อ - มาตรฐาน | 7.5 นิ้ว |
ขีดจำกัดการรับน้ำหนัก | 100 (800 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) |
ขีดจำกัดความเร็วของยาง | W (270 กิโลเมตร/ชั่วโมง) |
ความกว้างของล้อ - ใช้แทนกันได้ | 7.0, 8.0, 8.5 นิ้ว |
รับประกันสินค้า | 2 ปี |
ถ้ามองหายางรถยนต์สำหรับรถ SUV ที่มักจะใช้งานบนเส้นทางที่มีความสมบุกสมบัน ยางรุ่นนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างมาก เพราะมีโครงสร้างชั้นผ้าใบ 2 ชั้นที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกระแทกสูง ทำให้โดดเด่นในเรื่องความถึกทนใช้งานได้นาน อีกทั้งยังใช้เนื้อยางสูตรพิเศษที่ช่วยในเรื่องการเบรก ทนต่อการเบรกสั้นแบบกระชับ และยึดเกาะบนถนนเปียกได้ดีมาก จึงทำให้สามารถขับขี่ได้ทุกสภาพถนน โดยเฉพาะถนนนอกเมืองที่ค่อนข้างขรุขระที่ไม่ว่าจะเป็นถนนแบบเปียกหรือถนนแห้ง
กลุ่มยาง | ออฟโรด |
---|---|
หน้ากว้าง | 265 มิลลิเมตร |
ซีรีส์ยาง | 60 |
ขอบล้อ | 18 นิ้ว |
แก้มยาง | 15.90 เซนติเมตร |
ความกว้างของล้อ - มาตรฐาน | 8 นิ้ว |
ขีดจำกัดการรับน้ำหนัก | 0 (0 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) |
ขีดจำกัดความเร็วของยาง | 0 |
ความกว้างของล้อ - ใช้แทนกันได้ | 7.5, 8.5, 9.0, 9.5 นิ้ว |
รับประกันสินค้า | 1 ปี |
สำหรับคนที่กำลังมองหายางประหยัดน้ำมัน ยางรถยนต์รุ่นนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี เพราะนอกจากเรื่องของการประหยัดพลังงานที่เป็นจุดเด่นแล้ว ยังมีเรื่องของความทนทานใช้งานได้นาน รวมถึงความสามารถในการลุยโคลนที่ทำได้ค่อนข้างดีด้วยการออกแบบหน้ายางแบบพิเศษ และมีไหล่ยางขนาดใหญ่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน ทั้งยังมีลายซิกแซกบริเวณหน้ายางค่อนข้างมาก ทำให้เบรกได้ดีขึ้น ที่สำคัญคือมีเทคโนโลยีพิเศษที่ช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้
กลุ่มยาง | ประหยัดน้ำมัน, ออฟโรด |
---|---|
หน้ากว้าง | 265 มิลลิเมตร |
ซีรีส์ยาง | 60 |
ขอบล้อ | 18 นิ้ว |
แก้มยาง | 15.90 เซนติเมตร |
ความกว้างของล้อ - มาตรฐาน | 8 นิ้ว |
ขีดจำกัดการรับน้ำหนัก | 110 (1,060 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) |
ขีดจำกัดความเร็วของยาง | H (210 กิโลเมตร/ชั่วโมง) |
ความกว้างของล้อ - ใช้แทนกันได้ | 7.5, 8.5, 9.0, 9.5 นิ้ว |
รับประกันสินค้า | 2 ปี |
ด้วยเทคโนโลยี Cushion Guard และ Even Peak ที่ช่วยในเรื่องความนุ่มสบายและช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร จึงทำให้ยางรุ่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการเน้นความสบายและความเงียบในขณะที่ขับขี่ ตัวยางยังมีความทนทานแข็งแรงด้วยเทคโนโลยีพิเศษที่เพิ่มความแข็งแรงของโครงยาง ดอกยางดีไซน์ใหม่เพิ่มพื้นที่สัมผัสระหว่างหน้ายางกับพื้นถนน จึงช่วยให้มีแรงยึดเกาะมากขึ้น เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำแม้อยู่บนพื้นถนนเปียก และบล็อกดอกยางแบบร่องลึก 4 ร่องยังช่วยให้รีดน้ำออกจากหน้ายางได้เร็วยิ่งขึ้น
กลุ่มยาง | นุ่มเงียบ |
---|---|
หน้ากว้าง | 265 มิลลิเมตร |
ซีรีส์ยาง | 60 |
ขอบล้อ | 18 นิ้ว |
แก้มยาง | 15.90 เซนติเมตร |
ความกว้างของล้อ - มาตรฐาน | 8 นิ้ว |
ขีดจำกัดการรับน้ำหนัก | 110 (1,060 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) |
ขีดจำกัดความเร็วของยาง | H (210 กิโลเมตร/ชั่วโมง) |
ความกว้างของล้อ - ใช้แทนกันได้ | 7.5, 8.5, 9.0, 9.5 นิ้ว |
รับประกันสินค้า | 2 ปี |
ยางรถยนต์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรถประเภทกระบะและ SUV โดยเฉพาะ ซึ่งตัวยางจะโดดเด่นในเรื่องความทนทานใช้งานได้อย่างยาวนาน ดีไซน์หน้ายางด้วยเทคโนโลยี Stone Ejector ที่ช่วยไล่เศษหินต่าง ๆ ออกจากร่องดอกยางได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังปกป้องความเสียหายของหน้ายางที่อาจจะเกิดจากเศษหิน ในส่วนของลายดอกยางจะเป็นแบบไม่สมมาตร จึงมีความสามารถในการยึดเกาะถนนได้ดีมาก โดยเฉพาะถนนแห้งที่จะยึดเกาะได้ดีเป็นพิเศษ สามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วได้ ทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี
กลุ่มยาง | ออฟโรด |
---|---|
หน้ากว้าง | 265 มิลลิเมตร |
ซีรีส์ยาง | 60 |
ขอบล้อ | 18 นิ้ว |
แก้มยาง | 15.90 เซนติเมตร |
ความกว้างของล้อ - มาตรฐาน | 8 นิ้ว |
ขีดจำกัดการรับน้ำหนัก | 0 (0 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) |
ขีดจำกัดความเร็วของยาง | 0 |
ความกว้างของล้อ - ใช้แทนกันได้ | 7.5, 8.5, 9.0, 9.5 นิ้ว |
รับประกันสินค้า | 2 ปี |
ความน่าสนใจของยางรถยนต์รุ่นนี้ คือแทบจะตอบสนองได้ทุกความต้องการของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะคนที่รักในความเร็วสไตล์สปอร์ต โดยดีไซน์ของลายดอกยางจะเป็นแบบไม่สมมาตรที่มีเนื้อยางแข็งเล็กน้อย มีร่องดอกยางลึก 4 ร่องด้านข้าง และ 1 ร่องลึกตรงกลางที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรีดน้ำได้อย่างดีเยี่ยม โดดเด่นในเรื่องการเข้าโค้งโดยไม่จำเป็นต้องลดความเร็วด้วยดีไซน์หน้ายางแบบพิเศษที่เพิ่มพื้นที่ในการยึดเกาะถนน ที่สำคัญคือตัวยางมาพร้อมคุณสมบัติช่วยลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ และซึมซับแรงกระแทกได้
กลุ่มยาง | สปอร์ต เน้นความเร็ว, นุ่มเงียบ, ประหยัดน้ำมัน |
---|---|
หน้ากว้าง | 235 มิลลิเมตร |
ซีรีส์ยาง | 40 |
ขอบล้อ | 18 นิ้ว |
แก้มยาง | 9.40 เซนติเมตร |
ความกว้างของล้อ - มาตรฐาน | 8 นิ้ว |
ขีดจำกัดการรับน้ำหนัก | 0 (0 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) |
ขีดจำกัดความเร็วของยาง | 0 |
ความกว้างของล้อ - ใช้แทนกันได้ | 7.5, 8.5, 9.0 นิ้ว |
รับประกันสินค้า | 2 ปี |
คุณสมบัติโดยรวมของยางรถยนต์รุ่นนี้นับว่าน่าสนใจอย่างมาก เพราะถูกออกแบบมาให้โดดเด่นเรื่องความนุ่มเงียบขับขี่สบาย เอาอยู่ทั้งบนถนนแห้งและถนนเปียก โดยมีการเลือกใช้เนื้อยางสูตรพิเศษที่มีความยืดหยุ่น ช่วยให้กระจายแรงได้ทั่วหน้ายาง มีการเสริมเนื้อยางพ่วงด้วยเทคโนโลยีดูซับแรงกระแทก ช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ รวมถึงร่องดอกยางแบบพิเศษที่รีดน้ำได้ดีกว่าเดิมถึง 22% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ที่สำคัญคือสามารถเบรกระยะสั้นได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
กลุ่มยาง | นุ่มเงียบ |
---|---|
หน้ากว้าง | 235 มิลลิเมตร |
ซีรีส์ยาง | 50 |
ขอบล้อ | 18 นิ้ว |
แก้มยาง | 11.75 เซนติเมตร |
ความกว้างของล้อ - มาตรฐาน | 7.5 นิ้ว |
ขีดจำกัดการรับน้ำหนัก | 97 (730 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) |
ขีดจำกัดความเร็วของยาง | W (270 กิโลเมตร/ชั่วโมง) |
ความกว้างของล้อ - ใช้แทนกันได้ | 6.5, 7.0, 8.0, 8.5 นิ้ว |
รับประกันสินค้า | 2 ปี |
ผู้ขับขี่ที่หลงใหลในโลกแห่งความเร็ว และกำลังมองหายางรถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการได้ ยางรุ่นนี้นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี เพราะนอกจากจะมีราคาไม่สูงมากนัก ยังโดนเด่นในเรื่องการขับขี่ได้ทุกสภาพพื้นถนน มีความสามารถในการยึดเกาะถนนได้ด้วยพื้นที่สัมผัสระหว่างหน้ายางและพื้นถนนที่มีค่อนข้างมาก จึงทำให้เข้าโค้งทำความเร็วได้ดี ร่องดอกยางถูกดีไซน์ให้เป็นร่องลึกเส้นใหญ่ พร้อมทั้งลายปาดขวางที่ช่วยระบายน้ำออกจากหน้ายางได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัยแม้ขับบนพื้นถนนเปียก
กลุ่มยาง | สปอร์ต เน้นความเร็ว |
---|---|
หน้ากว้าง | 265 มิลลิเมตร |
ซีรีส์ยาง | 60 |
ขอบล้อ | 18 นิ้ว |
แก้มยาง | 15.90 เซนติเมตร |
ความกว้างของล้อ - มาตรฐาน | 8 นิ้ว |
ขีดจำกัดการรับน้ำหนัก | 102 (850 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) |
ขีดจำกัดความเร็วของยาง | W (270 กิโลเมตร/ชั่วโมง) |
ความกว้างของล้อ - ใช้แทนกันได้ | 7.5, 8.5, 9.0, 9.5 นิ้ว |
รับประกันสินค้า | 18 เดือน |
ยางรถยนต์จากค่าย MAXXIS ที่ถูกออกแบบให้มีบล็อกบริเวณไหล่ยางขนาดใหญ่ มาพร้อมกับคุณสมบัติ Bead Filler ที่ช่วยในการถ่ายแรงขับเคลื่อนระหว่างล้อและพื้นถนน จึงทำให้มีความสามารถในการเข้าโค้งสูงมาก และด้วยร่องดอกยางใหญ่ลึก 4 แถว สลับกับร่องเล็กที่กระจายออกไปทางขอบยาง ทำให้รีดน้ำได้อย่างดีเยี่ยม รองรับการขับขี่เต็มประสิทธิภาพด้วยความเร็วสูง นอกจากนี้ หน้ายางแบบพิเศษยังช่วยลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ และเพิ่มความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น นับว่าเป็นยางรถยนต์สไตล์สปอร์ตที่มาพร้อมกับความนุ่มเงียบขับขี่สบาย
กลุ่มยาง | สปอร์ต เน้นความเร็ว |
---|---|
หน้ากว้าง | 235 มิลลิเมตร |
ซีรีส์ยาง | 50 |
ขอบล้อ | 18 นิ้ว |
แก้มยาง | 11.75 เซนติเมตร |
ความกว้างของล้อ - มาตรฐาน | 7.5 นิ้ว |
ขีดจำกัดการรับน้ำหนัก | 101 (825 กิโลกรัม/ยาง 1 เส้น) |
ขีดจำกัดความเร็วของยาง | W (270 กิโลเมตร/ชั่วโมง) |
ความกว้างของล้อ - ใช้แทนกันได้ | 6.5, 7.0, 8.0, 8.5 นิ้ว |
รับประกันสินค้า | 2 ปี |
แม้ว่าการเลือกซื้อยางรถยนต์จะมีรายละเอียดค่อนข้างมาก แต่หลังจากที่ทุกคนได้อ่านข้อมูลวิธีการเลือก พร้อมทั้ง 10 อันดับยางรถยนต์ยอดนิยมกันในบทความนี้กัน เราเชื่อว่าการเลือกซื้อยางรถยนต์ของคุณก็คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ทั้งนี้เราต้องไม่ลืมว่า การบำรุงรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้องและดูแลตามระยะเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ที่จะทำให้ยางคงประสิทธิภาพสูงสุดเอาไว้ได้ นอกจากช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานแล้ว ก็ยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยางบ่อย ๆ อีกด้วย
อันดับที่ 1: YOKOHAMA|ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น Geolandar A/T G015 (4 เส้น)
อันดับที่ 2: Bridgestone|ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น Turanza T005A (1 เส้น)
อันดับที่ 3: GOODYEAR |ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น Assurance MaxGuard (4 เส้น)
อันดับที่ 4: NEXEN|ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น ROADIAN HTX RH5 (4 เส้น)
อันดับที่ 5: Michelin|ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่น Primacy SUV (1 เส้น)
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ